ประธานวิปฝ่ายค้านโวยมัดมือชก ได้อภิปรายแก้ รธน.แค่ 11 ชั่วโมง ทั้งที่ยังไม่ได้ข้อสรุปในที่ประชุม พร้อมดักคอประธานวุฒิสภา ผลประโยชน์ทับซ้อน ร่วมลงชื่อแก้ รธน.แล้วยังนั่งเป็นประธานการประชุม ชี้ไม่เหมาะ แนะควรถอนชื่อ หรือสละสิทธิ์ไม่ทำหน้าที่ประธานการประชุม
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) ให้สัมภาษณ์ก่อนประชุมรัฐสภา วาระพิจารณาพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) ว่า เรื่องเวลาการอภิปรายของฝ่ายค้านกับฝ่ายรัฐบาลยังมีปัญหากันอยู่ ซึ่งการที่รัฐบาลออกมาระบุว่าได้เวลา 15 ชั่วโมง และฝ่ายค้านได้เวลา 11 ชั่วโมงนั้นเป็นการแถลงข้างเดียว เพราะการเจรจายังไม่ได้ข้อยุติ ซึ่งการปฏิบัติที่ผ่านมาฝ่ายค้านไม่เคยได้เวลาน้อยกว่ารัฐบาล เพราะอย่างน้อยต้องได้เวลาเท่ากัน และหากจะมีการอ้างมติของวิป 3 ฝ่ายหรือลงมติแล้ววิปรัฐบาลและวิปวุฒิสภาจะร่วมมือกันบังคับฝ่ายค้านให้ดำเนินการตามก็เป็นไปไม่ได้ เพราะเคยมีปัญหาจากกรณีที่การประชุมวิป 3 ฝ่ายว่าจะให้มีการพิจารณาให้ที่ประชุมสภาฯ อนุญาตให้มีการแปรญัตติในสมัยสามัญนิติบัญญัติได้หรือไม่
อย่างไรก็ตาม หากจะได้ข้อตกลงเรื่องกรอบเวลาการอภิปรายก็ต้องเจรจาอีกครั้งหนึ่งไม่ใช่การบังคับฝ่ายเดียว แต่หากดำเนินการลักษณะนี้อยู่ก็ต้องทำให้ฝ่ายค้านอภิปรายครบทุกคนที่แจ้งความจำนงจะอภิปรายไว้ 40 คน
ส่วนที่นายนิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ได้ลงชื่อเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วย จะสะท้อนความเป็นกลางในการทำหน้าที่ประธานการประชุมรัฐสภาและสมควรทำหน้าที่หรือไม่ นายจุรินทร์กล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเครื่องหมายคำถามอยู่ว่าหากปฏิบัติหน้าที่ประธานการประชุมด้วยจะเป็นเรื่องขัดกันในเรื่องผลประโยชน์และเหมาะสมหรือไม่ ซึ่งนายนิคมสามารถทำได้ 2แนวทาง คือ 1. หากยืนยันเป็นผู้ร่วมเสนอร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญก็อาจจะขอแสดงความจำนงไม่ทำหน้าที่ประธานการประชุม และ 2. หากประสงค์จะทำหน้าที่ประธานการประชุมก็ควรถอนชื่อการเสนอร่างแก้ไขฯ เพื่อหลีกเลี่ยงผลประโยชน์ทับซ้อน ความไม่เป็นกลางและข้อครหาในการปฏิบัติหน้าที่