xs
xsm
sm
md
lg

รุกคืบยึดสภาสูง “นิคม” ดึงลงต่ำทำตัวเสมือนทาสตระกูลชิน!?

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นิคมไวยรัชพานิช
ผ่าประเด็นร้อน

หลายคนที่เห็นภาพบรรยากาศในสภาที่กำลังมีการสุมหัวกันชำเรารัฐธรรมนูญตามใจชอบ คงจะสะอิดสะเอียนกับพฤติกรรมของพวกนักการเมืองกระจอกเหล่านั้น ยิ่งได้ยินเหตุผลที่แต่ละคนพ่นน้ำลายออกมาแล้ว หากอยู่ใกล้อยากยกเท้าถีบให้หงายท้องจริงๆ เพราะมันยิ่งสุดแสนทุเรศสิ้นดี แต่ก็อย่างว่า ในเมื่อยังมีคนไทยอีกไม่น้อยยังมืดบอด ยังยกมือกระทืบเท้าเชียร์ว่าทำดี เป็นนักประชาธิปไตยมาจากการเลือกตั้ง มันก็ยิ่งทุเรศไปกันใหญ่

แน่นอนว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูแบบรายมาตรา สังคมรับรู้กันไปแล้ว คงไม่ต้องสาธยายกันมาก เพราะเป้าหมายเพื่อประโยชน์ของนักการเมืองล้วนๆ เป็นการ “ต่างตอบแทน” แบ่งแยกหน้าที่กันทำอย่างลงตัว ทั้ง ส.ส.และ ส.ว. เช่น ส.ส.เสนอแก้ไขให้ ส.ส.มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด อ้างง่ายๆสวยหรูตบตาว่านี่คือประชาธิปไตยมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ทำให้หลับตาได้ทันทีว่าต่อไปเราจะเห็นทั้ง ส.ส.และ ส.ว.จะกลายเป็นสภาผัวสภาเมีย รวมทั้งจะมี ส.ว.ที่มีสังกัดพรรคการเมืองอย่างไม่เป็นทางการ กลายเป็น “สภาทาส” เหมือนกับยุคหนึ่งที่วุฒิสภามีประธานชื่อ “สุชน ชาลีเครือ” และในที่สุดความจริงมันก็ฟ้องเมื่อ สุชน และคนในครอบครัวหลายคนอยู่ในสังกัดพรรคเพื่อไทย

อย่างไรก็ดีนั่นไม่ใช่เรื่องแปลก สังคมรับรู้กันอยู่แล้ว เพียงแต่ว่าหลายคนอาจรู้สึกรังเกียจที่คนที่เป็นประธานวุฒิสภามีพฤติกรรมอย่างที่เห็น เพราะแทนที่จะทำหน้าที่เป็นกลาง เป็นพึ่งพาของชาวบ้านและสมาชิกวุฒิสภา แต่กลับทำตัวเป็นทาสการเมือง จนได้ฉายา “สภาทาส” ในที่สุด

พฤติกรรมดังกล่าวกำลังหวนกลับมาอีกครั้งและมีแนวโน้มจะหนักกว่าเดิม น่าสะอิดสะเอียนกว่าเดิม โดยเฉพาะเมื่อได้เห็นท่าทีของ ประธานวุฒิสภาคนปัจจุบันที่ชื่อ นิคม ไวยรัชพานิช ที่ทำตัวน่าเกลียด ไม่สมกับตำแหน่งประธานวุฒิสภา ที่ต้องรักษาความเป็นกลาง ทำให้สมาชิกเกิดความเคารพยำเกรง แต่นี่กลายเป็นว่าเขากำลังทำให้วุฒิสภาอยู่ในสังกัดของฝ่ายรัฐบาล ไม่ต่างจากการเป็นสาขาพรรคเพื่อไทยในวุฒิสภา ขณะเดียวกัน ตัวเขาก็แสดงบทบาทไม่ต่างจาก “ขี้ข้า” ฝ่ายการเมืองในรัฐบาล ที่สำคัญน่าสงสัยว่านี่คือการแสดงบทบาทเพื่อให้ “เข้าตา” คนอย่าง ทักษิณ ชินวัตร ที่เป็นเจ้าของรัฐบาล และพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ ทำราวกับว่ายิ่งรับใช้ให้เห็นภาพมากเท่าใด ไม่ต้องสนใจว่าพฤติกรรมดังกล่าวที่ว่านั้นจะดูแล้วทุเรศแค่ไหน แต่ถ้าคนอย่าง ทักษิณ ชอบ ก็ถือว่าโอเค ไม่ต้องสนใจว่า คนอย่าง ทักษิณ มีสถานะไม่ต่างจากโจรเป็นอาชญากรที่หลบหนีคดี แต่ในเมื่อมีอิทธิพลสามารถชี้นิ้วสั่งการได้ทุกเรื่อง เขาก็ย่อมมองไปไกลถึงอนาคตข้างหน้าได้ดี

ถ้าพิจารณาจากกำพืดของ “นิคม” ก่อนหน้านี้ในฐานะ ส.ว.ฉะเชิงเทรา ก็ต้องอิงแอบกับการเมืองอยู่แล้ว เพียงแต่ว่ายังไม่ประกาศตัวให้ชัดเจนเท่านั้นเอง

แต่ล่าสุดเมื่อมีการเสนอแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ที่เขารับรู้อยู่แล้วว่าเอื้อประโยชน์ต่อ รัฐบาลหุ่นเชิด และตัวทักษิณ รวมทั้งผลประโยชน์ทับซ้อนหากการแก้ไขรัฐธรรมนูญได้สำเร็จ เป็นการเปิดเผยตัวตนของ “นิคม ไวยรัชพานิช” ได้เห็นอย่างล่อนจ้อน แม้ว่าในฐานะสมาชิกวุฒิสภาคนหนึ่งมีสิทธิในการร่วมลงชื่อร่วมแก้ไขได้ แต่ขณะเดียวกัน ในฐานะที่เป็นประธานวุฒิสภา ต้องทำหน้าที่เป็นธานในที่ประชุมรัฐสภาระหว่างการอภิปรายแก้ไข เป็นการสวมหมวกพร้อมกันสองใบ ถือว่าน่ารังเกียจน่าขยะแขยงเป็นอย่างยิ่ง เป็นการแสดงให้เห็นธาตุแท้ของนักการเมืองบางจำพวกที่ทำทุกทางเพื่อผลประโยชน์ทางการเมืองเฉพาะตัวตลอดเวลา มีการอ้างประชาธิปไตยจอมปลอมบังหน้าตลอดเวลา

พฤติกรรมของ นิคม ไวยรัชพานิช ในวันนี้ไม่ต่างจากการสมคบกันเปิดทางให้ฝ่าย ทักษิณ ชินวัตรและเครือข่ายรุกคืบเข้ามายึดสภาสูงอีกรอบ เหมือนกับในยุคก่อนที่มี สุชน ชาลีเครือ ทำให้เป็น “สภาทาส” สำเร็จมาแล้ว แต่คราวนี้ถือว่าน่าเกลียด ทุเรศกว่าเดิมหลายเท่า เพราะมีกาาเปิดเผยออกมาให้เห็นกันอย่างชัดแจ้ง ไม่ต้องอ้อมค้อม เสมือนว่ายิ่งทำหน้าที่แบบ “ด้านได้ใจ” มากเท่าใด ถูกใจจนเข้าตา ทักษิณ มากเท่าใด ก็ยิ่งมีอนาคต มีตำแหน่งเป็นบำเหน็จรออยู่แล้ว ขณะเดียวกัน ตราบใดที่วุฒิสภายังมีเขาเป็นประธานอยู่ต่อไปก็ย่อมเป็นหลักประกันได้ดีว่าแผนรุกคืบยึดสภาสูงก็ไม่ยาก และต้องไม่ลืมว่าบทบาทของวุฒิสภานั้นตามเจตนารมณ์รัฐธรรมนูญสำคัญ โดยเฉพาะการคัดเลือกและรับบุคคลที่เข้ามารับตำแหน่งในองค์กรอิสระทั้งปวง

ดังนั้นเมื่อได้เห็นพฤติกรรมของคนที่เป็นประธานวุฒิสภา อย่าง “นิคม ไวยรัชพานิช” ในช่วงการอภิปรายแก้ไขรัฐธรรมนูญ ยิ่งทุเรศมากเท่าใดก็ยิ่งหมดศรัทธาต่อนักการเมือง เพราะนี่คือพวกกากๆ ในรัฐสภากากๆ เท่านั้น!!
สุชน ชาลีเครือ
กำลังโหลดความคิดเห็น