00 ถ้าจะบอกว่าเวลานี้คนอย่าง นิคม ไวยรัชพานิช ประธานวุฒิสภา ได้หมดสภาพความน่าเชื่อถือจากสมาชิกสภา รวมทั้งจากประชาชนทั่วไปเรียบร้อยแล้ว พ้นไปจากความเป็นกลาง ไม่เหมาะสมที่จะเป็นประธานสภาของคนที่มีวุฒิภาวะไปเรียบร้อยแล้ว หลังจากได้ "เปลือยตัวตน" ออกมาจนล่อนจ้อน จากการร่วมลงชื่อแก้ไข รธน. ร่วมกับ ส.ส.พรรคเพื่อไทย และสว.บางกลุ่ม เป็นการเปิดตัวอย่างชัดแจ้งไม่อ้อมค้อมแล้วว่า ตัวเองเป็นคนในสังกัดของทักษิณ ชินวัตร
00 แม้ว่าพฤติกรรมที่เกิดขึ้นจะทำลายธรรมเนียมปฏิบัติ และมารยาทของคนที่ดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ในเรื่องของความเป็นกลางลงอย่างน่าอับอายที่สุด เพราะการร่วมลงชื่อแก้ไข รธน. แบบต่างตอบแทนกับ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ที่เสนอแก้ไขให้ส.ว. มาจากการเลือกตั้งทั้งหมดแบบติดต่อกันโดยไม่ต้องเว้นวรรคเอื้อประโยชน์ให้กับตัวเอง อีกทั้งยังได้เปิดตัว แสดงตนแสดงผลงานให้เข้าตานายใหญ่อย่าง ทักษิณ ชินวัตร ชนิดที่เรียกว่ายิ่ง "หน้าด้าน" สร้างความปั่นป่วนให้กับอีกฝ่ายได้มากเท่าใด มันก็เหมมือนกับเป็นผลงานชิ้นโบแดง ประกันอนาคตอันรุ่งโรจน์ รอตบรางวัลได้เลย
00 ที่สำคัญพฤติกรรมที่เกิดขึ้น เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับยุคสภาทาสในอดีต ภายใต้การกำกับของ สุชน ชาลีเครือ ถึงจะเลวร้ายเกิดความหมาย "สภาทาส" มาก่อน แต่ก็ยังไม่อัปยศในแบบไม่มีเม้มเท่ากับตัวบุคคล เพราะตัว สุชน ถึงแม้ว่าจะเป็นทาสแม้วโดยตัวของมันเอง แต่เขาก็ยังไม่ทำตัวน่ารังเกียจโจ่งแจ้ง ด้านๆ อย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้ เพราะการแสดงออกของ นิคม ไม่ต่างจากการเปิดทาง และสมคบกันยกวุฒิสภาให้ไปอยู่ในมือของรัฐบาล ภายใต้การกำกับของ ทักษิณ เต็มรูปแบบ อันตรายยิ่งยวด
00 ถ้าฟังจากคำแถลงของ ป.ป.ช. ที่บอกว่า จะนัดประชุมพิจารณาชี้ขาดเรื่องเงินกู้ 30 ล้าน ของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ปล่อยกู้ให้กับผัวนอกสมรส ในวันที่ 4 เม.ย. ก็ต้องบอกว่าเข้าขั้น "น่าสนใจอย่่างยิ่ง" รวมทั้ง น่าลุ้นระทึกเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งคนที่คุมงาน ก็น่าสนใจ นั่นคือ กล้านรงค์ จันทิก ป.ป.ช.ที่คนอย่างแม้ว เข็ดขี้อ่อนขี้แก่ มาแล้ว จากคดีซุกหุ้นในอดีต เพราะถ้างานนี้เกิดป๊อกขึ้นมาละก็ มันก็ยุ่งเหมือนกัน ที่ว่ายุ่งก็เพราะว่า หากป.ป.ช.ชี้ว่า "มีมูล" ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ต้องหยุดปฏบัติหน้าที่ ในตำแหน่งนายกฯทันที อย่างไรก็ดี ถ้าถามกันตรงๆ นาทีนี้ยังไม่อยากให้เกิดเรื่องเลวร้ายแบบนั้น อยากให้เธอทำหน้าที่ต่อไปเรื่อยๆ ไม่อยากให้เกิดเงื่อนไข "อำมาตย์แกล้ง" แบบไม่สิ้นสุด อยากให้ "บางคน" ได้"โชว์โง่" ไปเรื่อยๆ อย่างนี้แหละ เชื่อว่าอีกไม่นาน จะได้ "ตาสว่าง" กันเสียที
00 แม้ว่าพฤติกรรมที่เกิดขึ้นจะทำลายธรรมเนียมปฏิบัติ และมารยาทของคนที่ดำรงตำแหน่งประธานวุฒิสภา ในเรื่องของความเป็นกลางลงอย่างน่าอับอายที่สุด เพราะการร่วมลงชื่อแก้ไข รธน. แบบต่างตอบแทนกับ ส.ส.ฝ่ายรัฐบาล ที่เสนอแก้ไขให้ส.ว. มาจากการเลือกตั้งทั้งหมดแบบติดต่อกันโดยไม่ต้องเว้นวรรคเอื้อประโยชน์ให้กับตัวเอง อีกทั้งยังได้เปิดตัว แสดงตนแสดงผลงานให้เข้าตานายใหญ่อย่าง ทักษิณ ชินวัตร ชนิดที่เรียกว่ายิ่ง "หน้าด้าน" สร้างความปั่นป่วนให้กับอีกฝ่ายได้มากเท่าใด มันก็เหมมือนกับเป็นผลงานชิ้นโบแดง ประกันอนาคตอันรุ่งโรจน์ รอตบรางวัลได้เลย
00 ที่สำคัญพฤติกรรมที่เกิดขึ้น เมื่อนำไปเปรียบเทียบกับยุคสภาทาสในอดีต ภายใต้การกำกับของ สุชน ชาลีเครือ ถึงจะเลวร้ายเกิดความหมาย "สภาทาส" มาก่อน แต่ก็ยังไม่อัปยศในแบบไม่มีเม้มเท่ากับตัวบุคคล เพราะตัว สุชน ถึงแม้ว่าจะเป็นทาสแม้วโดยตัวของมันเอง แต่เขาก็ยังไม่ทำตัวน่ารังเกียจโจ่งแจ้ง ด้านๆ อย่างที่เป็นอยู่ในตอนนี้ เพราะการแสดงออกของ นิคม ไม่ต่างจากการเปิดทาง และสมคบกันยกวุฒิสภาให้ไปอยู่ในมือของรัฐบาล ภายใต้การกำกับของ ทักษิณ เต็มรูปแบบ อันตรายยิ่งยวด
00 ถ้าฟังจากคำแถลงของ ป.ป.ช. ที่บอกว่า จะนัดประชุมพิจารณาชี้ขาดเรื่องเงินกู้ 30 ล้าน ของ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่ปล่อยกู้ให้กับผัวนอกสมรส ในวันที่ 4 เม.ย. ก็ต้องบอกว่าเข้าขั้น "น่าสนใจอย่่างยิ่ง" รวมทั้ง น่าลุ้นระทึกเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งคนที่คุมงาน ก็น่าสนใจ นั่นคือ กล้านรงค์ จันทิก ป.ป.ช.ที่คนอย่างแม้ว เข็ดขี้อ่อนขี้แก่ มาแล้ว จากคดีซุกหุ้นในอดีต เพราะถ้างานนี้เกิดป๊อกขึ้นมาละก็ มันก็ยุ่งเหมือนกัน ที่ว่ายุ่งก็เพราะว่า หากป.ป.ช.ชี้ว่า "มีมูล" ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ก็ต้องหยุดปฏบัติหน้าที่ ในตำแหน่งนายกฯทันที อย่างไรก็ดี ถ้าถามกันตรงๆ นาทีนี้ยังไม่อยากให้เกิดเรื่องเลวร้ายแบบนั้น อยากให้เธอทำหน้าที่ต่อไปเรื่อยๆ ไม่อยากให้เกิดเงื่อนไข "อำมาตย์แกล้ง" แบบไม่สิ้นสุด อยากให้ "บางคน" ได้"โชว์โง่" ไปเรื่อยๆ อย่างนี้แหละ เชื่อว่าอีกไม่นาน จะได้ "ตาสว่าง" กันเสียที