“สุริยะใส” ซัดรัฐสภาแก้รัฐธรรมนูญรวบรัดตัดตอน ชี้ไม่ง่ายเหตุที่มาจากลงประชามติ แนะจัดโหวตโดยประชาชนอีกรอบ เผย ส.ส. ส.ว.เปลือยกายกลางสภาชัดชำเราเพื่อตัวเอง เล็งยื่นศาล รธน.เช็ก ขัด ม.122 หรือไม่ แถมถอดเทปชง ป.ป.ช.สอยรายตัว
วันนี้ (7 เม.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า ตนเห็นว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญด้วยวิธีรวบรัดตัดตอน ใช้เสียงข้างมากแก้ตามอำเภอใจ ไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะรัฐธรรมนูญฉบับนี้มีที่มาที่ไปไม่เหมือนรัฐธรรมนูญทั้ง 17 ฉบับก่อนหน้านี้ เพราะมาจากการลงประชามติของประชาชน 14.7 ล้านคน ฉะนั้นหากจะแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ต้องกลับไปถามหรือจัดให้มีการลงประชามติของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งประเทศว่าเห็นด้วยหรือไม่
นายสุริยะใส กล่าวว่า ซึ่งคำวินิจฉัยเดิมของศาลรัฐธรรมนูญวางบรรทัดฐานไว้ชัดว่า อำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญฉบับนี้มาจากประชาชน ด้วยการลงประชามติ การที่พรรคเพื่อไทยแอบอ้างว่าศาลรัฐธรรมนูญให้แก้ไขรายมาตราได้นั้น เป็นการอธิบายคำวินิจฉัยแบบตัดตอน เอาเฉพาะส่วนที่เป็นประโยชน์กับตัวเอง เพราะคำวินิจฉัยที่เป็นหัวใจของศาลรัฐธรรมนูญในครั้งนั้น คืออำนาจสถาปนาจรัฐธรรมนูญมาจากประชาชน ฉะนั้นจะแก้ไขรัฐธรรมนูญก็ต้องให้ประชาชนเป็นคนตัดสินใจว่าควรแก้ไขหรือไม่
นายสุริยะใส กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ในช่วงที่รัฐสภามีการอภิปรายญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ คำอภิปรายของ ส.ส.และ ส.ว.หลายคน ได้เปลือยกายล่อนจ้อนกลางสภา ว่าต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญเพื่อเป็นประโยชน์ตัวเอง แม้บรรดา ส.ส.และ ส.ว.ที่ร่วมลงชื่อสนับสนุนร่างแก้ไขทั้ง 3 ร่าง จะสลับชื่อกันสนับสนุนญัตติแก้ไขที่ไม่เกี่ยวข้องกับตัวเองเพื่อเลี่ยงประเด็นผลประโยชน์ทับซ้อนในรัฐธรรมนูญ มาตรา 122 ซึ่งห้าม ส.ส.และ ส.ว.ทำหน้าที่โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์ แต่พอถึงเวลาอภิปรายจริงกลับเห็นชัดเจนว่าเป็นการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อประโยชน์ตัวเองมากกว่าประโยชน์ของส่วนรวม
“เพราะ ส.ส.หลายคนอภิปรายสนับสนุนการแก้ไข มาตรา 237 กรณียุบพรรค และ ส.ว.หลายคนอภิปรายโจมตี ส.ว.สรรหา ซึ่งกลุ่มกรีนเตรียมร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยเพิ่มเติมในประเด็นนี้ว่าการแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ขัดมาตรา 122 หรือไม่ ขณะเดียวกันทางกลุ่มกรีนกำลังดำเนินการถอดเทปคำปราศรัยของทุกคน และถ้าใครเข้าข่ายกระทำผิดมาตรา 122 จะดำเนินการกล่าวโทษคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช.ไต่สวนเอาผิดอีกช่องทางหนึ่งด้วย” นายสุริยะใส กล่าว