ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน ชี้ประชุมสภาฯ นัดสุดท้ายหากลัดคิวเข็นร่างนิรโทษฯ แดง 42 ส.ส.เพื่อไทย สะท้อนชัดเห็นแก่พวกพ้อง เข้าข่ายขัด รธน.ชัด เชื่อให้หนุนรายบุคคลกันถูกยุบพรรค ผ่านวาระ 1 เมื่อไหร่จ่อฟ้องศาล รธน. พร้อมแจ้ง ป.ป.ช.ฟัน จงใจทุจริตต่อหน้าที่
วันนี้ (17 เม.ย.) นายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน (Green Politics) กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร นัดสุดท้ายก่อนปิดสมัยประชุมสภาฯ วันที่ 18 เม.ย. ว่า หากมีการลัดคิวร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ของ 42 ส.ส.พรรคเพื่อไทย เข้าสภาและมีการลงมติรับหลักการในวาระที่ 1 ก็ย่อมสะท้อนสำนึกทางการเมืองของ ส.ส. ในสภาที่เห็นประโยขน์แก่พวกพ้อง ในขณะที่คนทั้งประเทศกำลังใจจดใจจ่อกับการต่อสู้คดีเขาพระวิหารในศาลโลก เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ แต่ ส.ส.ผู้ทรงเกียรติกลับลักไก่ผลักดันกฎหมายที่เป็นประโยชน์กับพวกเดียวกันเอง ทั้งที่ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมยังมีข้อโต้แย้งหลายประเด็น ที่ควรรับฟังความเห็นจากหลายฝ่าย เพื่อหาข้อยุติร่วมกัน โดยเฉพาะการจัดเวทีสานเสวนาของนายเจริญ จรรย์โกมล รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ก็ยังไม่ได้ข้อยุติ ซึ่งต้องถามนายเจริญกลับไปว่าสมรู้ร่วมคิดกับ 42 ส.ส.เพื่อไทยหรือไม่
“เรื่องนี้เป็นเรื่องละเอียดอ่อน เพราะร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เข้าข่ายขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 122 ที่กำหนดให้ ส.ส.ทำหน้าที่เพื่อประโยชน์ส่วนรวมของปวงชนชาวไทย โดยปราศจากการขัดกันแห่งผลประโยชน์ แต่ร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้เสนอโดย ส.ส.หลายคนที่เป็นแกนนำและแนวร่วมในการเคลื่อนไหวกับ นปช. จึงชัดเจนว่าการเสนอร่าง พ.ร.บ.นี้ เป็นการกระทำที่จงใจขัดรัฐธรรมนูญ เพราะเหตุนี้เองที่พรรคเพื่อไทยจึงไม่กล้ามีมติในนามพรรคสนับสนุนการลัดคิวหรือเลื่อนวาระครั้งนี้ เพราะเกรงถูกยุบพรรค จึงให้สนับสนุนเป็นรายบุคคล ถ้ามีความผิดก็จะเป็นความผิดรายบุคคลพรรคจะไม่ต้องถูกยุบ” นายสุริยะใสกล่าว
ผู้ประสานงานกลุ่มกรีนกล่าวอีกว่า หากมีการลงมติและผ่านวาระ 1 กลุ่มกรีนจะยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญว่าเป็นการกระทำที่ขัดรัฐธรรมนูญ และจะร้องกล่าวโทษต่อคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อเอาผิด ส.ส.ที่เข้าชื่อเสนอร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และ ส.ส.ที่ลงมติรับร่าง พ.ร.บ.นี้ว่าจงใจทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่
