ในการประชุมใหญ่สามัญประจำปีพรรคเพื่อไทยในวันอังคารที่ 26 มีนาคมนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะชี้แจงความจำเป็นของการออกร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลังกู้เงิน เพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศวงเงิน 2 ล้านล้านบาท เพื่อให้ ส.ส.และสมาชิกพรรค นำไปชี้แจงให้ประชาชนรับทราบ ขณะเดียวกันจะทำความเข้าใจพร้อมกำชับการเข้าร่วมประชุมสภาฯ นัดพิเศษพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน ระหว่างวันที่ 28 - 29 มีนาคมนี้
ขณะที่การประชุมวิปฝ่ายค้านในวันอังคารนี้ จะมีการสรุปจำนวน ส.ส.ฝ่ายค้านที่จะอภิปรายร่าง พ.ร.บ. ซึ่งเบื้องต้น มี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นแสดงความจำนงขออภิปรายกว่า 50 คน ขณะที่จะมีการแบ่งแยกประเด็นเนื้อหาในการอภิปราย และเตรียมพร้อมรายละเอียดข้อมูลเงินกู้โครงการมิยาซาวา และโครงการไทยเข้มแข็งที่อาจจะถูกอภิปรายพาดพิงจากพรรคเพื่อไทย
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคอยู่ระหว่างการพิจารณาว่า จะเสนอร่างกฎหมายประกบ เพื่อการตรวจสอบการกู้เงินหรือไม่ โดยยังอยู่ในขั้นตอนการหารือกับทีมกฎหมาย หลังพบว่าร่างกฎหมายดังกล่าวมีลักษณะซ่อนเร้นรายละเอียดการกู้เงินที่ไม่ชัดเจนทั้งที่เป็นการกู้เงินจำนวนมาก และมีระยะเวลาการชำระหนี้นานถึง 50 ปี และเชื่อว่าจะทำให้เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท จะเป็นเงินลงทุนก้อนสุดท้ายของไทย เนื่องจากจะทำให้หนี้สาธารณะสูงเกินร้อยละ 50 จน ไม่สามารถกู้เงินได้อีก
ด้านนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า การที่รัฐบาลเร่งรีบนำร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เข้าที่ประชุมสภาฯ ในสัปดาห์นี้ ทั้งที่ยังไม่ใช่เรื่องจำเป็นเร่งด่วน ส่อเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ โดยนำเรื่องพัฒนาประเทศมาเป็นข้ออ้างทั้งที่เงินกู้เป็นภาระผูกพันกับคนไทยทั้งประเทศ โดยเชื่อว่าการเร่งรัดออกฎหมายครั้งนี้มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่เบื้องหลัง เพื่อต้องการให้ ร่างพ.ร.บ.กู้เงินผ่านสภาฯ โดยเร็ว และเป็นไปได้ที่จะประกาศยุบสภาเลือกตั้งใหม่ โดยใช้นโยบายขอกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง เพื่อดูแลโครงสร้างพื้นฐานพัฒนาประเทศ
ขณะที่การประชุมวิปฝ่ายค้านในวันอังคารนี้ จะมีการสรุปจำนวน ส.ส.ฝ่ายค้านที่จะอภิปรายร่าง พ.ร.บ. ซึ่งเบื้องต้น มี ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นแสดงความจำนงขออภิปรายกว่า 50 คน ขณะที่จะมีการแบ่งแยกประเด็นเนื้อหาในการอภิปราย และเตรียมพร้อมรายละเอียดข้อมูลเงินกู้โครงการมิยาซาวา และโครงการไทยเข้มแข็งที่อาจจะถูกอภิปรายพาดพิงจากพรรคเพื่อไทย
นายอรรถวิชช์ สุวรรณภักดี ทีมเศรษฐกิจพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคอยู่ระหว่างการพิจารณาว่า จะเสนอร่างกฎหมายประกบ เพื่อการตรวจสอบการกู้เงินหรือไม่ โดยยังอยู่ในขั้นตอนการหารือกับทีมกฎหมาย หลังพบว่าร่างกฎหมายดังกล่าวมีลักษณะซ่อนเร้นรายละเอียดการกู้เงินที่ไม่ชัดเจนทั้งที่เป็นการกู้เงินจำนวนมาก และมีระยะเวลาการชำระหนี้นานถึง 50 ปี และเชื่อว่าจะทำให้เงินกู้ 2 ล้านล้านบาท จะเป็นเงินลงทุนก้อนสุดท้ายของไทย เนื่องจากจะทำให้หนี้สาธารณะสูงเกินร้อยละ 50 จน ไม่สามารถกู้เงินได้อีก
ด้านนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน กล่าวว่า การที่รัฐบาลเร่งรีบนำร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 2 ล้านล้านบาท เข้าที่ประชุมสภาฯ ในสัปดาห์นี้ ทั้งที่ยังไม่ใช่เรื่องจำเป็นเร่งด่วน ส่อเจตนาที่ไม่บริสุทธิ์ โดยนำเรื่องพัฒนาประเทศมาเป็นข้ออ้างทั้งที่เงินกู้เป็นภาระผูกพันกับคนไทยทั้งประเทศ โดยเชื่อว่าการเร่งรัดออกฎหมายครั้งนี้มี พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี อยู่เบื้องหลัง เพื่อต้องการให้ ร่างพ.ร.บ.กู้เงินผ่านสภาฯ โดยเร็ว และเป็นไปได้ที่จะประกาศยุบสภาเลือกตั้งใหม่ โดยใช้นโยบายขอกลับมาเป็นรัฐบาลอีกครั้ง เพื่อดูแลโครงสร้างพื้นฐานพัฒนาประเทศ
