ความเป็นจริงการเมืองไทยยังไม่เคยมีการปฏิวัติ (Revolution) สักครั้งเดียว และไม่เคยมีการสร้างระบอบประชาธิปไตยเลยในประเทศไทยตลอดระยะเวลากว่า 80 ปี มีแต่การปกครองแบบเผด็จการ 2 รูปแบบ ระหว่างรัฐประหารกับเผด็จการรัฐธรรมนูญ หรือเผด็จการรัฐสภา
ประเทศไทยมีแต่รัฐประหาร (Coup) กับการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่มากถึง 18 ฉบับ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วก็พาหลงผิด เข้าใจผิดว่า นี่แหละ คือระบอบประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่มีเพียงรูปแบบการปกครอง (ระบบรัฐสภา) และวิธีการปกครอง (กฎหมายรัฐธรรมนูญ) เท่านั้น
ประเทศไทยยังไม่เคยมีการสร้างระบอบประชาธิปไตย (Democratic Regime) หรือสถาปนาหลักการปกครองแบบประชาธิปไตย (Principle of Democratic) ประเทศไทยจึงยังไม่เคยมีการปฏิวัติประชาธิปไตย ประชาธิปไตยจะเกิดขึ้นได้ด้วยการปฏิวัติเท่านั้น เรียกว่า การปฏิวัติประชาธิปไตย หมายถึงการใช้อำนาจอย่างยิ่งใหญ่ที่สุด อย่างเป็นธรรมที่สุด และอย่างถูกต้องที่สุดเพื่อเปลี่ยนระบอบเผด็จการรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ไปสู่การสถาปนาระบอบประชาธิปไตย หรือสถาปนาหลักการปกครองประชาธิปไตยเป็นอันดับแรก นั่นเอง ไม่ใช่หลงผิด หลงทางไปสร้างหรือยกร่างรัฐธรรมนูญหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตรา ซึ่งผิดซ้ำซากมาแล้ว
ส่วนการยกร่างหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นต้องมีแน่นอน แต่มาภายหลังจากที่ได้สถาปนาหลักการปกครองโดยธรรม โดยองค์พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุขแห่งรัฐเรียบร้อยแล้ว แต่ก็เข้าใจผิดอย่างร้ายแรงกันถ้วนหน้าว่า “รัฐธรรมนูญ คือระบอบประชาธิปไตย”
ขอให้มีปัญญารู้ อย่างถูกต้องเถิดว่า รัฐธรรมนูญไม่ใช่ระบอบ รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายนำไปสร้างระบอบไม่ได้ แต่ยกร่างรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาระบอบนั้นๆ ไว้ รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายมีหน้าที่รักษาระบอบคุ้มครองหลักการปกครองหรือสะท้อนระบอบนั้นๆ
เมื่อระบอบประชาธิปไตย หรือหลักการปกครองแบบประชาธิปไตย ยังไม่ได้ถูกสถาปนา ก็เท่ากับกฎหมายรัฐธรรมนูญทั้ง 18 ฉบับล้วนแต่รักษาระบอบเผด็จการไว้ทั้งสิ้น จึงเรียกว่า ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ
ดังนั้น การแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ จึงเป็นการกระชับระบอบเผด็จการให้ยิ่งขึ้น (นักการเมืองปล้นชาติ ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น)
ประเทศไทย ตลอดระยะเวลา 80 ปี ไม่เคยมีการสร้างระบอบ หรือสถาปนาหลักการปกครองโดยธรรม มีแต่สร้างรัฐธรรมนูญ สร้างรัฐธรรมนูญ มันจึงเป็นแนวทางที่ผิดอย่างร้ายแรงมาแล้วมากถึง 18 ครั้ง ทำร้าย ทำลายประเทศของตนเองอย่างร้ายแรงที่สุด ผู้คิด ผู้กระทำ ก็กลายเป็นอาชญากรทางปัญญาอย่างไม่รู้ตัว หรือรู้อยู่ก็ตาม แต่ผลกรรมกลับตกอยู่กับประเทศและประชาชนยาวนานเหลือเกิน กระทั่งประเทศมาเลเซีย ได้ก้าวหน้ากว่าไทยเราแล้ว ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ แต่ก็เป็นไปแล้ว ประเทศเวียดนาม ก็กำลังจะก้าวหน้าเหนือไทยไปอีกประเทศ มาเลเซียปฏิวัติประชาธิปไตยประชาชาติจากอังกฤษ เวียดนามปฏิวัติประชาธิปไตยประชาชาติจากฝรั่งเศสในระยะผ่านไปสู่การสถาปนาระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ ในที่สุด
ขอยืนยันด้วยชีวิตว่า รัฐธรรมนูญไม่ใช่ระบอบ รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมาย จะรักษาระบอบอะไร จะคุ้มครองระบอบอะไร แล้วก็จะสะท้อนระบอบอะไร ก็มีทางเดียวคือสะท้อนระบอบเผด็จการนั่นเอง โดยมีรูปการปกครอง (Form of Government) คือ ระบบรัฐสภา (Parliamentary System) จึงเรียกว่า ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญระบบรัฐสภา
เมื่อไม่มีจุดหมายร่วม ปวงชนไม่มีหนทาง ปวงชนก็ไม่มีความก้าวหน้า อุปมา ชาติและปวงชนภายเรือในอ่างน้ำ จมปลักอยู่ใต้ลมปากนรกของนักการเมือง ประชาชนจึงตกเป็นทาสทางการเมืองยาวนานกว่า 80 ปี มีแต่หนี้สินสาธารณะเพิ่มขึ้นๆ ซึ่งก็หมายถึงประชาชนจนลงๆ แต่นักการเมืองรวยขึ้นๆ เพียงหยิบมือเดียว
สัมพันธภาพของระบอบเผด็จการโดยรัฐธรรมนูญ มันเป็นการเมืองของนักนักการเมือง โดยนักการเมือง เพื่อนักการเมืองเท่านั้น
พวกเขาจึงกู้ 2 ล้านล้านก็เพื่อปล้นชาติ ประชาชนแบกรับภาระ คนไทยมีหนี้สินตั้งแต่ยังไม่เกิด เกิดมาก็ต้องรับภาระหนี้สินสาธารณะ ถัวเฉลี่ยคนละหนึ่งแสนกว่าบาท การเมืองเผด็จการเยี่ยงนี้ จึงเป็นการเมืองที่ตรงกันข้ามกับธรรมะอย่างสิ้นเชิง เป็นระบอบการเมืองเผด็จการที่โกหกมายาวนานที่สุด ทำร้ายชาติยาวนานที่สุด ประชาชนตกเป็นทาสทางการเมืองยาวนานที่สุด เป็นแอกที่อยู่บนบ่าประชาชนยาวนานที่สุดและหนักที่สุด ฯลฯ
ย้อนกลับมาดูสัมพันธภาพของสัจธรรมในลักษณะต่างๆ เพื่อเปรียบเทียบ
ระบบสุริยจักรวาล หากไม่มีดวงสุริยัน มันจะดำรงอยู่ได้อย่างไร
หากไม่มีพระพุทธเจ้า ศาสนาพุทธจะเกิดขึ้นได้อย่างไร
คนไม่มีจิต จะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร
เซลล์ ปราศจากนิวเครียส จะดำรงอยู่ได้อย่างไรฉันใด ก็ฉันนั้น
หากรัฐธรรมนูญไม่มีหลักการปกครอง มันจะดำรงอยู่ได้อย่างไรมันจึงเต็มไปด้วยความเห็นผิด คิดผิด ทำผิดๆ ๆ ซ้ำซากครั้งแล้วครั้งเล่าต่อชาติของตน เป็นความโง่เขลาเบาปัญญาของคณะผู้ปกครอง (พรรคเพื่อไทย) ฯลฯ โดยแท้
เมื่อพวกเขาเริ่มต้นก็ผิดนับแต่แรกเริ่มแล้ว รัฐธรรมนูญไทยรวม 18 ฉบับ ไม่เคยมีหลักการปกครองเลยแม้แต่ฉบับเดียว อธิบายยังไงๆ ก็เป็นความเห็นผิด ทำผิด ทำลายชาติและประชาชนอย่างร้ายแรง หาความถูกต้องไม่ได้เลย
รัฐบาล พรรคฝ่ายค้าน วุฒิสภา สภาผู้แทนราษฎร และผู้สนับสนุน กำลังทำคิดแก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วก็อ้างต่างๆ นานา เพื่อหลอกประชาชนว่า “เพื่อความสมานฉันท์” “เพื่อให้เป็นประชาธิปไตย” มันเป็นไปไม่ได้ ความแตกแยกภายในชาติ เกิดจากระบอบการเมืองมิจฉาทิฐิ ซึ่งไม่มีหลักการปกครอง ปกครองกันอย่างอยุติธรรมต่อประชาชน อันเกิดจากน้ำมือของคณะผู้ปกครองเอง (พรรคเพื่อไทย)
องค์ประกอบของรัฐธรรมนูญมันผิดมาตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว เมื่อรัฐบาลนี้ ไปแก้ประเด็นเฉพาะที่เป็นประโยชน์แก่เจ้านายของเขา แก่เหล่านักการเมืองพรรคเพื่อไทย มันจึงเป็นความเห็นผิดอย่างร้ายแรงที่สุด เรียกได้ว่า “อำนาจอยู่ในมือโจร โจรจึงทำอย่างนั้นได้ และโจรจะทำอะไรก็ได้ เช่น ปกครองกดขี่ ขูดรีด สูบเลือดประชาชนอย่างรุนแรงที่สุด” ดุจดัง “แดร็กคูล่าดูดเลือด” หากอำนาจอยู่ในมือบัณฑิต ก็คงไม่ทำเช่นนั้น
โดยธรรมชาติจิตบริสุทธิ์ มาก่อนจิตปรุงแต่ง และมาก่อนกาย (จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว)
พระพุทธเจ้า ย่อมมาก่อนหรือเป็นเหตุของพระอรหันตสาวก และพระพุทธศาสนา
พระธรรม ย่อมมาก่อนหรือเป็นเหตุของพระวินัย
ดวงอาทิตย์ ย่อมมาก่อนหรือเป็นเหตุของดาวเคราะห์
จุดหมาย ย่อมมาก่อนหรือเป็นเหตุก่อให้เกิดวิธีการเข้าสู่จุดหมาย
การเมือง (นโยบาย) ต้องมาก่อนหรือเป็นเหตุของการปกครอง ฉันใด
หลักการปกครอง ต้องมาก่อนหรือเป็นเหตุของรัฐธรรมนูญ นี่คือปัญญาอันยิ่งใหญ่ของชาติ ฉันนั้น
แนวทางบรมโง่ของชาติ ทำลายชาติของตนเองเพื่อประโยชน์แห่งตน คือ แก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามที่เป็นข่าว
พลังแห่งความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ย่อมก่อให้เกิดปัญญายิ่งใหญ่ สร้างสรรค์ชาติให้พ้นจากขุมนรกแห่งความเห็นผิด คิดผิด ทำผิดมายาวนานกว่า 80 ปี ใครจะร่วมแนวทางนี้บ้าง
ผู้เขียน ขอเชิญชวนผู้มีปัญญา แกนนำประชาชนทุกสาขาอาชีพและนักการเมืองน้ำดีทั้งหลายทุกระดับที่เห็นแก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มาร่วมกันนำเสนอนโยบาย (Policy) ที่ถูกต้อง และดำเนินการทางการเมืองอย่างถูกต้อง เพื่อประโยชน์ของชาติและปวงชนไทยทุกคน
เรามาร่วมกันเสนอนโยบาย ร่วมกันผลักดัน ร่วมกันสร้าง และร่วมกันชื่นชม การสถาปนาหลักการปกครองโดยธรรม โดยพระเจ้าแผ่นดิน
รัฐบาลอย่ามัวหลงทางอยู่เลย แนวทางธรรมาธิปไตยอธิบายยังไงๆ ก็ถูกต้อง สร้างสรรค์ชาติตลอดไป ยิ่งพัฒนาก็ยิ่งทำให้ชาติของเรามั่นคงๆ ยิ่งขึ้น เป็นชัยชนะของชาติ เป็นชัยชนะของปวงชนทั้งแผ่นดิน ธรรมาธิปไตย การเมืองใหม่ของชาติ แค่คิดก็ชนะแล้ว
ร่วมกันลงมือ ร่วมกันต่อสู้ ผลักดันในแนวทางที่ถูกต้องเถิด ดังสัมพันธภาพดังนี้
แนวคิดที่ถูกต้องนี้ ย่อมเป็นการรุกกลับต่อการเมืองเลว แนวทางการเมืองธรรมาธิปไตย จะกลบฝังการเมืองชั่วๆ ของนักการเมืองชั่วๆ ทุนสามานย์ อันเป็นผลของระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญระบอบรัฐสภานั่นเอง “มันซื้อคน ซื้อพรรค ซื้อรัฐสภา แล้วก็ร่วมกันออกกฎหมายกดขี่ขูดรีดประชาชนอย่างแสนสาหัส หนักหน่วงที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย
“ขอให้ปัญญาชนทั้งหลายร่วมมือกันสืบสาวไปหาเหตุแห่งความพินาศของชาติ คือระบอบเผด็จการกฎหมายรัฐธรรมนูญ”
ประเทศไทยมีแต่รัฐประหาร (Coup) กับการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่มากถึง 18 ฉบับ และการแก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วก็พาหลงผิด เข้าใจผิดว่า นี่แหละ คือระบอบประชาธิปไตย ทั้งๆ ที่มีเพียงรูปแบบการปกครอง (ระบบรัฐสภา) และวิธีการปกครอง (กฎหมายรัฐธรรมนูญ) เท่านั้น
ประเทศไทยยังไม่เคยมีการสร้างระบอบประชาธิปไตย (Democratic Regime) หรือสถาปนาหลักการปกครองแบบประชาธิปไตย (Principle of Democratic) ประเทศไทยจึงยังไม่เคยมีการปฏิวัติประชาธิปไตย ประชาธิปไตยจะเกิดขึ้นได้ด้วยการปฏิวัติเท่านั้น เรียกว่า การปฏิวัติประชาธิปไตย หมายถึงการใช้อำนาจอย่างยิ่งใหญ่ที่สุด อย่างเป็นธรรมที่สุด และอย่างถูกต้องที่สุดเพื่อเปลี่ยนระบอบเผด็จการรูปแบบใดรูปแบบหนึ่ง ไปสู่การสถาปนาระบอบประชาธิปไตย หรือสถาปนาหลักการปกครองประชาธิปไตยเป็นอันดับแรก นั่นเอง ไม่ใช่หลงผิด หลงทางไปสร้างหรือยกร่างรัฐธรรมนูญหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญบางมาตรา ซึ่งผิดซ้ำซากมาแล้ว
ส่วนการยกร่างหรือแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้นต้องมีแน่นอน แต่มาภายหลังจากที่ได้สถาปนาหลักการปกครองโดยธรรม โดยองค์พระมหากษัตริย์ผู้ทรงเป็นประมุขแห่งรัฐเรียบร้อยแล้ว แต่ก็เข้าใจผิดอย่างร้ายแรงกันถ้วนหน้าว่า “รัฐธรรมนูญ คือระบอบประชาธิปไตย”
ขอให้มีปัญญารู้ อย่างถูกต้องเถิดว่า รัฐธรรมนูญไม่ใช่ระบอบ รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมายนำไปสร้างระบอบไม่ได้ แต่ยกร่างรัฐธรรมนูญเพื่อรักษาระบอบนั้นๆ ไว้ รัฐธรรมนูญหรือกฎหมายมีหน้าที่รักษาระบอบคุ้มครองหลักการปกครองหรือสะท้อนระบอบนั้นๆ
เมื่อระบอบประชาธิปไตย หรือหลักการปกครองแบบประชาธิปไตย ยังไม่ได้ถูกสถาปนา ก็เท่ากับกฎหมายรัฐธรรมนูญทั้ง 18 ฉบับล้วนแต่รักษาระบอบเผด็จการไว้ทั้งสิ้น จึงเรียกว่า ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญ
ดังนั้น การแก้ไขกฎหมายรัฐธรรมนูญ จึงเป็นการกระชับระบอบเผด็จการให้ยิ่งขึ้น (นักการเมืองปล้นชาติ ได้ง่ายมากยิ่งขึ้น)
ประเทศไทย ตลอดระยะเวลา 80 ปี ไม่เคยมีการสร้างระบอบ หรือสถาปนาหลักการปกครองโดยธรรม มีแต่สร้างรัฐธรรมนูญ สร้างรัฐธรรมนูญ มันจึงเป็นแนวทางที่ผิดอย่างร้ายแรงมาแล้วมากถึง 18 ครั้ง ทำร้าย ทำลายประเทศของตนเองอย่างร้ายแรงที่สุด ผู้คิด ผู้กระทำ ก็กลายเป็นอาชญากรทางปัญญาอย่างไม่รู้ตัว หรือรู้อยู่ก็ตาม แต่ผลกรรมกลับตกอยู่กับประเทศและประชาชนยาวนานเหลือเกิน กระทั่งประเทศมาเลเซีย ได้ก้าวหน้ากว่าไทยเราแล้ว ซึ่งไม่น่าเป็นไปได้ แต่ก็เป็นไปแล้ว ประเทศเวียดนาม ก็กำลังจะก้าวหน้าเหนือไทยไปอีกประเทศ มาเลเซียปฏิวัติประชาธิปไตยประชาชาติจากอังกฤษ เวียดนามปฏิวัติประชาธิปไตยประชาชาติจากฝรั่งเศสในระยะผ่านไปสู่การสถาปนาระบอบสังคมนิยมคอมมิวนิสต์ ในที่สุด
ขอยืนยันด้วยชีวิตว่า รัฐธรรมนูญไม่ใช่ระบอบ รัฐธรรมนูญเป็นกฎหมาย จะรักษาระบอบอะไร จะคุ้มครองระบอบอะไร แล้วก็จะสะท้อนระบอบอะไร ก็มีทางเดียวคือสะท้อนระบอบเผด็จการนั่นเอง โดยมีรูปการปกครอง (Form of Government) คือ ระบบรัฐสภา (Parliamentary System) จึงเรียกว่า ระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญระบบรัฐสภา
เมื่อไม่มีจุดหมายร่วม ปวงชนไม่มีหนทาง ปวงชนก็ไม่มีความก้าวหน้า อุปมา ชาติและปวงชนภายเรือในอ่างน้ำ จมปลักอยู่ใต้ลมปากนรกของนักการเมือง ประชาชนจึงตกเป็นทาสทางการเมืองยาวนานกว่า 80 ปี มีแต่หนี้สินสาธารณะเพิ่มขึ้นๆ ซึ่งก็หมายถึงประชาชนจนลงๆ แต่นักการเมืองรวยขึ้นๆ เพียงหยิบมือเดียว
สัมพันธภาพของระบอบเผด็จการโดยรัฐธรรมนูญ มันเป็นการเมืองของนักนักการเมือง โดยนักการเมือง เพื่อนักการเมืองเท่านั้น
พวกเขาจึงกู้ 2 ล้านล้านก็เพื่อปล้นชาติ ประชาชนแบกรับภาระ คนไทยมีหนี้สินตั้งแต่ยังไม่เกิด เกิดมาก็ต้องรับภาระหนี้สินสาธารณะ ถัวเฉลี่ยคนละหนึ่งแสนกว่าบาท การเมืองเผด็จการเยี่ยงนี้ จึงเป็นการเมืองที่ตรงกันข้ามกับธรรมะอย่างสิ้นเชิง เป็นระบอบการเมืองเผด็จการที่โกหกมายาวนานที่สุด ทำร้ายชาติยาวนานที่สุด ประชาชนตกเป็นทาสทางการเมืองยาวนานที่สุด เป็นแอกที่อยู่บนบ่าประชาชนยาวนานที่สุดและหนักที่สุด ฯลฯ
ย้อนกลับมาดูสัมพันธภาพของสัจธรรมในลักษณะต่างๆ เพื่อเปรียบเทียบ
ระบบสุริยจักรวาล หากไม่มีดวงสุริยัน มันจะดำรงอยู่ได้อย่างไร
หากไม่มีพระพุทธเจ้า ศาสนาพุทธจะเกิดขึ้นได้อย่างไร
คนไม่มีจิต จะมีชีวิตอยู่ได้อย่างไร
เซลล์ ปราศจากนิวเครียส จะดำรงอยู่ได้อย่างไรฉันใด ก็ฉันนั้น
หากรัฐธรรมนูญไม่มีหลักการปกครอง มันจะดำรงอยู่ได้อย่างไรมันจึงเต็มไปด้วยความเห็นผิด คิดผิด ทำผิดๆ ๆ ซ้ำซากครั้งแล้วครั้งเล่าต่อชาติของตน เป็นความโง่เขลาเบาปัญญาของคณะผู้ปกครอง (พรรคเพื่อไทย) ฯลฯ โดยแท้
เมื่อพวกเขาเริ่มต้นก็ผิดนับแต่แรกเริ่มแล้ว รัฐธรรมนูญไทยรวม 18 ฉบับ ไม่เคยมีหลักการปกครองเลยแม้แต่ฉบับเดียว อธิบายยังไงๆ ก็เป็นความเห็นผิด ทำผิด ทำลายชาติและประชาชนอย่างร้ายแรง หาความถูกต้องไม่ได้เลย
รัฐบาล พรรคฝ่ายค้าน วุฒิสภา สภาผู้แทนราษฎร และผู้สนับสนุน กำลังทำคิดแก้ไขรัฐธรรมนูญ แล้วก็อ้างต่างๆ นานา เพื่อหลอกประชาชนว่า “เพื่อความสมานฉันท์” “เพื่อให้เป็นประชาธิปไตย” มันเป็นไปไม่ได้ ความแตกแยกภายในชาติ เกิดจากระบอบการเมืองมิจฉาทิฐิ ซึ่งไม่มีหลักการปกครอง ปกครองกันอย่างอยุติธรรมต่อประชาชน อันเกิดจากน้ำมือของคณะผู้ปกครองเอง (พรรคเพื่อไทย)
องค์ประกอบของรัฐธรรมนูญมันผิดมาตั้งแต่เริ่มต้นแล้ว เมื่อรัฐบาลนี้ ไปแก้ประเด็นเฉพาะที่เป็นประโยชน์แก่เจ้านายของเขา แก่เหล่านักการเมืองพรรคเพื่อไทย มันจึงเป็นความเห็นผิดอย่างร้ายแรงที่สุด เรียกได้ว่า “อำนาจอยู่ในมือโจร โจรจึงทำอย่างนั้นได้ และโจรจะทำอะไรก็ได้ เช่น ปกครองกดขี่ ขูดรีด สูบเลือดประชาชนอย่างรุนแรงที่สุด” ดุจดัง “แดร็กคูล่าดูดเลือด” หากอำนาจอยู่ในมือบัณฑิต ก็คงไม่ทำเช่นนั้น
โดยธรรมชาติจิตบริสุทธิ์ มาก่อนจิตปรุงแต่ง และมาก่อนกาย (จิตเป็นนาย กายเป็นบ่าว)
พระพุทธเจ้า ย่อมมาก่อนหรือเป็นเหตุของพระอรหันตสาวก และพระพุทธศาสนา
พระธรรม ย่อมมาก่อนหรือเป็นเหตุของพระวินัย
ดวงอาทิตย์ ย่อมมาก่อนหรือเป็นเหตุของดาวเคราะห์
จุดหมาย ย่อมมาก่อนหรือเป็นเหตุก่อให้เกิดวิธีการเข้าสู่จุดหมาย
การเมือง (นโยบาย) ต้องมาก่อนหรือเป็นเหตุของการปกครอง ฉันใด
หลักการปกครอง ต้องมาก่อนหรือเป็นเหตุของรัฐธรรมนูญ นี่คือปัญญาอันยิ่งใหญ่ของชาติ ฉันนั้น
แนวทางบรมโง่ของชาติ ทำลายชาติของตนเองเพื่อประโยชน์แห่งตน คือ แก้ไขรัฐธรรมนูญ ตามที่เป็นข่าว
พลังแห่งความรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ย่อมก่อให้เกิดปัญญายิ่งใหญ่ สร้างสรรค์ชาติให้พ้นจากขุมนรกแห่งความเห็นผิด คิดผิด ทำผิดมายาวนานกว่า 80 ปี ใครจะร่วมแนวทางนี้บ้าง
ผู้เขียน ขอเชิญชวนผู้มีปัญญา แกนนำประชาชนทุกสาขาอาชีพและนักการเมืองน้ำดีทั้งหลายทุกระดับที่เห็นแก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ มาร่วมกันนำเสนอนโยบาย (Policy) ที่ถูกต้อง และดำเนินการทางการเมืองอย่างถูกต้อง เพื่อประโยชน์ของชาติและปวงชนไทยทุกคน
เรามาร่วมกันเสนอนโยบาย ร่วมกันผลักดัน ร่วมกันสร้าง และร่วมกันชื่นชม การสถาปนาหลักการปกครองโดยธรรม โดยพระเจ้าแผ่นดิน
รัฐบาลอย่ามัวหลงทางอยู่เลย แนวทางธรรมาธิปไตยอธิบายยังไงๆ ก็ถูกต้อง สร้างสรรค์ชาติตลอดไป ยิ่งพัฒนาก็ยิ่งทำให้ชาติของเรามั่นคงๆ ยิ่งขึ้น เป็นชัยชนะของชาติ เป็นชัยชนะของปวงชนทั้งแผ่นดิน ธรรมาธิปไตย การเมืองใหม่ของชาติ แค่คิดก็ชนะแล้ว
ร่วมกันลงมือ ร่วมกันต่อสู้ ผลักดันในแนวทางที่ถูกต้องเถิด ดังสัมพันธภาพดังนี้
แนวคิดที่ถูกต้องนี้ ย่อมเป็นการรุกกลับต่อการเมืองเลว แนวทางการเมืองธรรมาธิปไตย จะกลบฝังการเมืองชั่วๆ ของนักการเมืองชั่วๆ ทุนสามานย์ อันเป็นผลของระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญระบอบรัฐสภานั่นเอง “มันซื้อคน ซื้อพรรค ซื้อรัฐสภา แล้วก็ร่วมกันออกกฎหมายกดขี่ขูดรีดประชาชนอย่างแสนสาหัส หนักหน่วงที่สุดในประวัติศาสตร์ชาติไทย
“ขอให้ปัญญาชนทั้งหลายร่วมมือกันสืบสาวไปหาเหตุแห่งความพินาศของชาติ คือระบอบเผด็จการกฎหมายรัฐธรรมนูญ”
