xs
xsm
sm
md
lg

แก่นแท้สำคัญยิ่งแห่งวันมาฆบูชา 2,600 ปี ที่ชาวพุทธควรรู้

เผยแพร่:   โดย: ดร.ป. เพชรอริยะ

​ก่อนอื่นขอปรารภว่า การเลือกตั้งผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร เป็นการเลือกตั้งแบบเผด็จการระบบประธานาธิบดีระดับท้องถิ่น เป็นการเลือกตั้งที่ทำลายพี่น้องชาวกทม.ให้แตกแยกกัน จะทำอย่างไร ให้มีการเลือกตั้งแบบสามัคคีธรรมของชาวกทม. ก็ต้องยกเลิกระบอบเผด็จการรัฐธรรมนูญระบบรัฐสภาระดับชาติเสียก่อนแล้วปรับปรุงการเลือกตั้งใหม่ ให้เป็นแบบสามัคคีธรรม​

วันมาฆบูชาเป็นวันสำคัญของชาวพุทธ เป็นวันแห่งความรักอันบริสุทธิ์ และเป็นวันกตัญญูแห่งชาติ นับแต่ครั้งพุทธกาลเป็นวันที่ชาวพุทธทั้งหลายถือเป็นวันสำคัญยิ่งอีกวันหนึ่ง โดยชาวพุทธทำการบูชาอย่างมีสติ มีปัญญาเป็นการบูชาเพื่อระลึกถึงอุดมการณ์หลักการและวิธีการในการเผยแผ่หลักธรรมคำสอนของพระอรหันต์ ด้วยความรัก ความเมตตา ทุ่มเท อุทิศตนอย่างไม่มีประมาณไม่มีขอบเขต ไม่เลือกชาติ ชั้นวรรณะ เพื่อให้เวไนยสัตว์ทั้งหลายได้ดวงตาเห็นธรรม รู้แจ้งเห็นจริง อิสระหลุดพ้นจากความทุกข์ทั้งปวง จึงเป็นวันแห่งความรัก เมตตา กรุณา ที่สะอาด สว่าง สงบ สันติอย่างแท้จริง

​สำหรับประเทศไทยสมัยพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ได้ทรงจัดให้เป็นวันสำคัญทางพระศาสนาอย่างเป็นทางการสำหรับชาวพุทธ นับแต่นั้นเป็นต้นมา วันมาฆบูชาในปีนี้ตรงกับวันจันทร์ที่ 25 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556 เป็นวันที่ชาวพุทธเข้าวัดศึกษาและปฏิบัติบูชาในวันเพ็ญเดือนมาฆะ หรือวันที่พระจันทร์เสวยฤกษ์มาฆะ หรือวันเพ็ญหรือที่เรียกว่า วันจาตุรงคสันนิบาตอันเป็นพุทธประเพณี มีเหตุการณ์สำคัญที่เกิดอย่างมหัศจรรย์ 4 ประการ คือ

​1. เป็นวันขึ้น 15 ค่ำ หรือวันเพ็ญเดือน 3

​2. ภิกษุสาวกจำนวน 1,250 องค์มาประชุมพร้อมกันที่เวฬุวนรามมหาวิหาร โดยมิได้นัดหมาย

​3. ภิกษุที่มาประชุมกันล้วนเป็น เอหิ ภิกขุ อุปสัมปทา คือได้รับอุปสมบทโดยตรงจากพระพุทธเจ้า

​4. ภิกษุสาวกทั้งหมดเป็นพระอรหันต์ ผู้ได้อภิญญา 6

​ในการประชุมครั้งนี้ พระพุทธองค์ได้ทรงแสดงพระโอวาทปาติโมกข์เป็นครั้งแรก อันเป็นหลักคำสอนที่ถือได้ว่าพระองค์ทรงประกาศให้พระอรหันตสาวกทั้งหลายได้น้อมนำไปปฏิบัติในการเผยแผ่ ซึ่งถือได้ว่าเป็นทั้งอุดมการณ์, หลักการ, และเป็นวิธีการในการเผยแผ่ พระไตรปิฎก เล่มที่ 10 ข้อที่ 54 ความว่า

​ขันตี ปะระมัง ตะโป ตีติกขา ขันติ คือความอดกลั้น เป็นธรรมเครื่องเผากิเลสอย่างยิ่ง

​นิพพานัง ปะระมัง วะทันติพุทธา ผู้รู้ทั้งหลาย กล่าวพระนิพพานว่าเป็นธรรมอันยิ่ง (บรมธรรม, ธรรมาธิปไตย)

​นะ หิปัพพะชิโต ปะรูปะฆาตี ผู้กำจัดสัตว์อื่นอยู่ ไม่ชื่อว่าเป็นบรรพชิตเลย

​สะมะโณโหติ ปะรัง วิเหฐะยันโต ผู้ทำสัตว์อื่นให้ลำบากอยู่ ไม่ชื่อว่าเป็นสมณะเลย

​สัพพะปาปัสสะ อะกะระณัง การไม่ทำบาปทั้งปวง

​กุศะลัสสูปะสัมปะทา การทำกุศลให้ถึงพร้อม

​สะจิตตะปะริโยทะปะนัง การชำระจิตของตนให้ผ่องแผ้ว

​เอตัง พุทธานะสาสะนัง นี้เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

​อะนูปะวาโท อะนูปะฆาโต การไม่พูดร้าย การไม่ทำร้าย

​ปาติโมกเข จะ สังวะโร การสำรวมในพระปาติโมกข์

​มัตตัญญุตา จะ ภัตตัสมิง ความเป็นผู้รู้ประมาณในการบริโภค

​ปันตัญจะ สะยะนาสะนัง การนอน การนั่ง การอยู่ในเสนาสนะที่อันสงัด

​อธิจิตเต จะ อาโยโค ความมั่นประกอบในการทำจิตให้ยิ่ง

​เอตัง พุทธานะสาสะนังธรรม 6 อย่างนี้ เป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้าทั้งหลาย

​จะเห็นได้ว่าคำสอนดังกล่าวนี้ พระพุทธเจ้าตรัสสอนพระอรหันต์ ขณะเดียวกันพระอรหันต์ทั้งหลายก็นำเอาคำสอนเหล่านี้ไปสอนพุทธบริษัท 4 อันเป็นภารกิจที่สืบทอดต่อกันมาด้วยปัญญาที่รู้แจ้ง ด้วยความบริสุทธิ์ ปัญญา เมตตา กรุณา ขันติ ที่ยังให้มนุษย์ทั้งหลายได้รู้แจ้งโลก

​สภาวะสำคัญยิ่งใหญ่ที่ยังไม่เปิดเผยสำหรับวันมาฆบูชาอันสำคัญยิ่งนี้ เราจะเห็นได้ว่า พระพุทธองค์ทรงอุทิศตน เสียสละ แผ่ความเมตตาต่อมวลมนุษยชาติ นำพวกเราให้ได้เห็นสภาวะสำคัญยิ่งใหญ่ระหว่างพระพุทธเจ้ากับพุทธสาวกที่พระองค์ทรงบวชให้ด้วยพระองค์เอง อันเป็นไปโดยธรรมอันยิ่ง เป็นอันหนึ่งอันเดียวกับกฎธรรมชาติใน 2 มิติ 2 ลักษณะ ได้แก่

​1. สัมพันธภาพระหว่างด้านเอกภาพ (General) กับด้านความแตกต่างหลายหลาย (Individual) หรือจะเรียกว่า เป็นความสัมพันธ์เอกภาพในลักษณะ (Unity of diversity) ก็ได้

​พระพุทธเจ้า เป็นลักษณะเอกภาพ ส่วนพระอรหันตสาวกทั้งหลายมีลักษณะแตกต่างหลายหลาย

​2. ด้านเอกภาพ มีลักษณะแผ่กระจาย ครอบคลุมส่วนที่สัมพันธ์เกี่ยวกันทั้งหมด ขณะเดียวกันด้านแตกต่างหลายหลาย ต่างก็ต้องขึ้นตรงต่อด้านเอกภาพ จึงก่อเกิดให้ดุลยภาพดำรงอยู่อย่างมั่นคงยาวนานกว่า 2,600 ปีนับแต่วันที่พระพุทธเจ้าตรัสรู้

​พระพุทธเจ้าทรงแผ่พระมหาเมตตากรุณาคุณ พระปัญญาคุณ พระวิสุทธิคุณ เพื่อมนุษยชาติทั้งหลาย ในเบื้องหน้าในวันวันมาฆะนี้ พระอรหันตสาวก มาประชุมพร้อมกันโดยมิได้นัดหมายโดยมีเป้าหมายที่พระพุทธเจ้า จากลักษณะแผ่กระจายกับรวมศูนย์ก่อให้เกิดดุลยภาพมั่นคงยังยืนมายาวนาน พวกเราทั้งหลายควรทำให้เกิดปัญญาและเจริญรอยตามด้วยภารกิจแห่งชีวิต

​กฎธรรมชาติ สภาวะอสังขตธรรม (ธรรมอันไม่มีเหตุปัจจัยปรุงแต่ง) หรือพระนิพพานสภาวะธรรมาธิปไตย แผ่โอบอุ้ม สรรพสัตว์และมนุษย์ทั้งปวงอันเป็นสภาวะสังขตธรรม (ธรรมอันมีเหตุปัจจัยปรุงแต่ง) สรรพสัตว์และมนุษย์ทั้งปวงวิวัฒนาการก้าวหน้าอย่างค่อยเป็นไปและก้าวกระโดดจนกว่าจะเข้าถึงพระนิพพาน นี่คือกฎธรรมชาติ ความถูกต้องแห่งธรรมมันดำรงอยู่อย่างนี้

​ดวงอาทิตย์ ย่อมเป็นศูนย์กลางระบบสุริยจักรวาล ด้วยพลังอำนาจแผ่ครอบคลุมดาวเคราะห์ทั้งหมด ขณะเดียวกันดาวเคราะห์ขึ้นต่อดวงอาทิตย์ จึงก่อเกิดดำรงอยู่ได้อย่างดุลยภาพชั่วนาตาปี

​หากเป็นไปโดยธรรมถูกต้องแล้ว ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ย่อมเป็นเอกภาพ แผ่โอบอุ้มคุ้มครองปวงชนไทย ขณะเดียวกันปวงชนไทยมุ่งตรงต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เป็นจุดมุ่งหมาย เป็นศูนย์กลางของปวงชนในชาติ

​นอกจากนี้ ยังมีลักษณะพ่อแม่กับบุตรหลาน ครูกับนักเรียน มหาวิทยาลัยกับเหล่าสมาชิกของมหาวิทยาลัย วัด บริษัท หลักการปกครอง (ระบอบ) กับ รัฐธรรมนูญ (หมวดและมาตราต่างๆ) “หลักการปกครอง หรือระบอบต้องมาก่อนการยกร่างรัฐธรรมนูญ” ฝ่ายนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร ฝ่ายตุลาการ กระทรวง ทบวง กรม จังหวัด อำเภอ ตำบล หมู่บ้าน หากจัดความสัมพันธ์ให้ถูกต้องเป็นหนึ่งเดียวกันแล้ว ก็จะทำให้ประเทศเรามีความเจริญรุ่งเรืองก้าวหน้า มั่นคง อย่างยิ่งใหญ่กว่าประเทศใดๆ ในโลก

​ผู้เป็นใหญ่ในแผ่นดิน ผู้มีปัญญาฉลาดรู้เท่าทันในสังคมปัจจุบัน อุปมาเป็นความสัมพันธ์ระหว่างน้ำเน่ากับปลา ปลาย่อมได้รับพิษร้ายจากน้ำเน่า หรือความสัมพันธ์ระหว่างผู้ได้เปรียบกับผู้เสียเปรียบ นับแต่โทรทัศน์รายการที่ไม่มีสาระต่างๆ สื่อลามกบ่อนการพนันแหล่งบันเทิงหวยใต้ดินและบนดินสุรายาเสพติดต่างๆ อบายมุขต่างๆ เหล่านี้ ผู้ประกอบการทำแล้วล้วนร่ำรวย ค่านิยมที่เปลี่ยนไปเห็นแก่เงินเป็นใหญ่ โดยไม่คำนึงว่าเงินนั้นจะได้มาอย่างไรถือบุคคลร่ำรวยเป็น ใหญ่โดยไม่คำนึงถึงคุณธรรมปัญหาคอร์รัปชันท่วมเมืองสร้างความเห็นแก่ตัวให้เห็นกันทั้งประเทศ โดยคิดว่าไม่มีใครรู้เท่าทันเหล่านี้ล้วนเป็นผลของการเมืองการปกครองแบบเผด็จการทั้งสิ้น เป็นเหตุแห่งภัยร้ายของชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และปวงชนไทย​

​เมื่อพูดถึงนักการเมือง นักปกครองนักการเมืองที่แท้จริงในอุดมคติต้องดำรงตนแบบอย่างพระโพธิสัตว์ยืนอยู่เคียงข้างพระศาสนา ส่งเสริมโครงการเผยแผ่หลักธรรมคำสอน ต่อต้านสิ่งที่พระธรรมคำสอนได้บัญญัติไว้ว่าเป็นข้อห้าม แต่ทุกวันนี้หาไม่ได้แล้ว มีแต่นักการเมืองหลงทาง เห็นแก่ตัว เห็นแก่พรรค โกงกินชาติ ตัวเป็นไทยแต่ใจเป็นฝรั่ง ออกกฎระเบียบ เอื้อประโยชน์ต่อชาวต่างชาติ แต่เป็นพิษเป็นภัยต่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชนพวกเราทั้งหลาย ควรนำสภาวะวันมาฆบูชา มาแก้ไขเหตุวิกฤตชาติและเหตุวิกฤตอื่นๆ ได้ทั้งหมด
กำลังโหลดความคิดเห็น