xs
xsm
sm
md
lg

ใครจะเข้าร่วมฝ่ายค้านระบอบเผด็จการ 81 ปี ที่แท้จริง

เผยแพร่:   โดย: ดร.ป. เพชรอริยะ

เริ่มมีคนเห็นมากขึ้นแล้วว่า “มันเป็นระบอบเผด็จการโดยกฎหมายรัฐธรรมนูญ” ใช่นี่คือเหตุจัญไรที่แท้จริงชองชาติและประชาชนคนไทยทุกคน

ผลของมัน ทำให้เกิดการรวมศูนย์อำนาจ เพราะอำนาจอธิปไตยเป็นของนักการเมืองเพียงหยิบมือเดียว

ส่วนการเลือกตั้ง เป็นเพียงพิธีการ หรือพิธีกรรมที่ดำเนินการเพื่อให้พรรคและนักการเมืองที่มีทุนมากเข้าสู่อำนาจทางการเมือง ดูว่าชอบธรรม โดยพวกผู้ปกครองร่วมกันหลอกลวงประชาชน ตบตาประชาชน เพื่อให้ดูว่า นี่คือระบอบประชาธิปไตย นี่คือความชอบธรรม โดยเอาวิธีการ หรือรูปแบบมาบังหน้า

ชายไทยใส่เสื้อสูท หลายคนมองแล้วต่างก็เชื่อว่าดูดี ฉันใด นักการเมืองที่มาจากการเลือกตั้งก็ดูดี ฉันนั้น

นี่คือตัวอย่างของการหลอกคนด้วยรูปแบบที่ดี แต่...เนื้อหาละ มันใช่จริงหรือไม่ ในเมื่อผลมันออกมาว่า ชายไทยใส่สูทเข้าสภาจำนวนหนึ่ง ได้ออกนโยบายต่างๆ ออกมาเพื่อที่กินค่าหัวคิว มีการวางแผนฉกงบประมาณจำนวนหนึ่งมาเป็นของตนและพวกพ้อง มันคือการปล้นชาติโดยที่กฎหมายเอาผิดไม่ได้ เราจึงเห็นการกู้เงินจำนวนมหาศาล ท่านทั้งหลายจึงเห็นโครงการกู้เงินสองล้านล้าน เพื่อมาบริหารประเทศในทางที่ผิดๆ ในสิ่งที่ประชาชนไม่ต้องการ หรือเกินความจำเป็นของมนุษย์ พวกเขาทำไปเพื่ออะไร ก็เพื่อที่ดึงเม็ดเงินภาษีของพี่น้องประชาชนมาเป็นของตนและพวกพ้องในกลุ่มนักการเมืองและข้าราชการส่วนหัวเพียงหยิบมือเดียว

นี่คือตัวอย่างของความล้มเหลวอันเกิดจากเหตุ คือระบอบเผด็จการ ระบอบเผด็จการ หมายถึงระบอบฯ ที่ไม่มีในสิ่งเหล่านี้

1. ไม่มีหลักการปกครองโดยธรรม

2. เป็นผลให้ไม่มีจุดหมายร่วมของประชาชน (แตกต่างหลายหลาย ไปสู่เป้าหมายที่แตกต่างหลาย) ทำให้พลังของประชาชน พลังของชาติอ่อนแอ

3. เป็นผลให้อำนาจอธิปไตยเป็นของปวงชนตกอยู่ในหมู่ผู้ปกครองเพียงหยิบมือเดียว 4. เป็นผลให้ประชาชนตกเป็นทาสทางการเมืองของพรรคการเมืองเพียงหยิบมือเดียว คือประชาชนไม่ได้ประโยชน์จากการเมือง แต่ประชาชนต้องประทับรับรองนักการเมืองชั่วๆ ด้วยการไปลงเลือกตั้ง

5. เป็นผลทำให้ประชาชนแตกแยก ขัดแย้ง ตามลมปากนักการเมืองชั่ว

6. เป็นผลทำให้มีการคอร์รัปชันอย่างมหาศาล สมดังคำกล่าวที่ว่า “ที่ไหนมีงบประมาณที่นั่นมีการคอร์รัปชัน”

7. เป็นผลให้ไม่มีหลักนิติธรรมที่แท้จริง มีแต่นิติรัฐที่เอาไว้บังคับกดขี่ประชาชน

8. เป็นผลทำให้เห็นภาพรวมของประชาชนภายใต้ระบอบเผด็จการดุจดัง “กองฟืน” คืออยู่กันอย่างระเกะระกะ ตัวใครตัวมัน ไปกันคนละทิศ คนละทาง

9. ท่านจะได้เห็นภาพความอุบาทว์จัญไรของนักการเมืองกลุ่มหนึ่งกำลังจะออกกฎหมายนิรโทษกรรม เพื่อให้พวกมันที่ทำผิดกฎหมายทางอาญาพ้นผิด โดยปกติ เป็นการตัดสินของศาลเท่านั้น ที่จะชี้ถูกชี้ผิด ว่าใครทำผิด ทำถูก ก็ว่าไปตามหลักฐาน “เผามันเลย ผมรับผิดชอบเอง” นี่คือเสียงของเหล่าสัตว์นรกตัวหนึ่ง ที่มันประกาศให้คนเผาบ้านเผาเมืองตัวเอง เพราะกูไม่ใช่คนกรุงเทพฯ

10. คุณจะยอมหรือไม่ ที่จะให้พวกเขาทำความผิดทางอาญาด้วยการยกมือ ใช้เสียงข้างมาก คุณคิดดูก็แล้วกัน นี่คือแนวคิด การกระทำของนักการเมืองภายใต้ระบอบเผด็จการ ฯลฯ เราจะเห็นสัมพันธภาพของระบอบเผด็จการระบบรัฐสภาไทย

สมเด็จพระปกเกล้าฯ ต้องการสถาปนาหลักการปกครองแบบประชาธิปไตย แต่คณะราษฎร์ นักเรียนทุน เด็กหนุ่มไฟแรง ไปได้แต่รูปแบบและวิธีการจากยุโรป พวกได้เสนอกฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นเพียงรูปแบบและวิธีการของการปกครองเท่านั้น

แนวคิดของคณะราษฎร และของพรรคการเมืองไทยทุกพรรค เช่น พรรคเพื่อไทย พรรคประชาธิปัตย์ พรรคชาติไทยพัฒนา ฯลฯ เป็นต้น

คือพวกเขายึดเอากฎหมายรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นวิธีการปกครอง นำมาเป็นระบอบ (อ่อนสุดๆ) หมายความว่า ยังไม่มีระบอบหรือยังไม่มีหลักการปกครอง หรือยังไม่มีจุดหมายร่วมของปวงชนในชาติ หรืออุปมาได้ว่า ยังไม่มีวัดพระแก้ว (ไม่มีหลักการปกครองระบอบประชาธิปไตย) แต่เขาทำทางที่จะไป แล้วบอกว่า นี่แหละคือทางไปวัดพระแก้ว แล้วก็บังคับให้พระเจ้าแผ่นดินลงนาม ซึ่งในความเป็นจริงวัดพระแก้วไม่รู้อยู่ตรงไหน มันจึงกลายเป็นว่า จะกี่รัฐบาลมันก็หลอกประชาชน และมันนำพาประเทศชาติไปสู่ความหายนะ เพราะจุดหมายที่แท้จริงมันกลายเป็นของผู้ปกครอง คณะพรรคการเมืองเพียงหยิบมือเดียว

แนวคิด แนวทางของ สมเด็จพระปกเกล้าฯ รัชกาลที่ 7 ต้องการสถาปนา “หลัก Democracy” ซึ่งก็คือ หลักการปกครองประชาธิปไตย หรือระบอบประชาธิปไตยนั่นเอง จากนั้น จึงร่างกฎหมายรัฐธรรมนูญให้สอดคล้องกับหลักการปกครองประชาธิปไตย

เราเห็นแนวความคิดของพระองค์นั้นไม่ยากสับสน ก็คิดง่ายๆ ตามที่ประชาชน รู้ๆ กันอยู่แล้ว คือ “จุดหมาย ต้องมาก่อนวิธีการไปเสมอ” เมื่อรัชกาลที่ 1 สร้างวัดพระแก้วเสร็จลง ประชาชนก็มาเที่ยวชม ด้วยวิธีการไปวัดพระแก้วอันแตกต่างหลากหลายไปสู่จุดหมายเดียวกันคือวัดพระแก้ว เช่น เดิน วิ่ง ขี่เกวียน ขี้ม้า เรือ ฯลฯ

นั่นก็หมายความว่า วัดพระแก้วเกิดก่อนวิธีการไปวัดพระแก้ว มหาวิทยาลัย เกิดก่อนวิธีการไปมหาวิทยาลัย หรือจุดหมายย่อมเกิดก่อนวิธีการไป ฉันใด ระบอบหรือหลักการปกครองฯ ย่อมเกิดก่อนวิธีการปกครอง (กฎหมายรัฐธรรมนูญ) ฉันนั้น ของง่ายๆ แต่ คณะราษฎรทำเสียหายหมด อยากใหญ่ อยากดัง อยากได้อำนาจ ใจเร็วด่วนได้ โดยที่ขาดประสบการณ์ในเรื่องการสร้างระบอบประชาธิปไตยอย่างแรงและเป็นตราบาปให้ตกอยู่กับชาติและประชาชนมายาวนานร่วม 81 ปี เข้าไปแล้ว ที่ร้ายสุดๆ มันยังมีทายาทสืบต่อความเห็นผิด และความหลอกลวงนี้ โดยพรรคการเมืองไทยปัจจุบันทั้งหมด พวกเขาจึงกลายเป็นนักการเมืองสัตว์นรกกอบโกย โกงภาษีประชาชนไปเป็นของตนและพวกพ้อง นายกฯ ปู ยิ่งลักษณ์ พูดว่า “เราต้องการอยากเห็นการเลือกตั้งอย่างสร้างสรรค์เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตย” นายอภิสิทธิ์ พูดที่ขอนแก่นเมื่อเร็วๆ นี้ว่า “เราจะต้องร่วมมือกันรักษาระบอบประชาธิปไตยไว้ใช่ไหมครับพี่น้อง” ในความเป็นจริงทั้งสองคนนี้ต่างก็หลอกลวงประชาชนว่า “เป็นระบอบประชาธิปไตยแล้ว” แล้วพวกเขาก็เชื่อตั้งตาย เปลี่ยนความคิดเขาไม่ได้ น่าเสียดาย นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ จริงๆ ที่คุณยังเห็นผิด และอัตตาตัวตนสูงเหลือเกิน วันนั้น หรือทุกเวที หากนายอภิสิทธิ์ พูดว่า “เราต้องร่วมมือกันรักษาความเป็นธรรมเอาไว้ พวกเราจะต้องร่วมมือกันเชิดชูธรรม เชิดชูความถูกต้องใช่ไหมครับพี่น้อง” หากพูดอย่างนี้ได้ ก็น่าชื่นชมหน่อย ในสภาพที่แท้จริง มันไม่เป็นระบอบประชาธิปไตย แล้วคุณไปพูดตอกย้ำว่าเป็นระบอบประชาธิปไตย มันจึงกลายเป็นการหลอกลวงประชาชนชัดๆ เป็นอาชญากรทางปัญญาตัวจริง

นี่แหละเหตุที่เราจะต้องร่วมมือกันออกมาเป็นฝ่ายค้านระบอบเผด็จการ เป็นฝ่ายค้านรัฐบาลที่บริหารผิดพลาดอย่างร้ายแรง

การเริ่มต้นของระบอบการเมืองที่ถูกต้อง ต้องเริ่มจากการเสนอ การสถาปนาหลักการปกครองโดยธรรม คือเชิดชูรากฐานแก่นแท้ของชาติ ได้แก่ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์และธรรม อันเป็นสัมพันธภาพระหว่างปวงชนเพื่อความมั่นคงของชาติร่วมกันตามลักษณะพิเศษของประเทศไทยมาแต่โบราณกาลคือ (1) หลักธรรมาธิปไตย (2) หลักพระมหากษัตริย์เป็นประมุขแห่งรัฐ (3) หลักอำนาจอธิปไตยของปวงชน (อย่างมีรูปธรรม) (4) หลักเสรีภาพบริบูรณ์ (5) หลักความเสมอภาคทางโอกาส (6) หลักภราดรภาพ (7) หลักดุลยภาพ (8) หลักเอกภาพ (9) หลักนิติธรรม ในสัมพันธภาพที่หนึ่งหลักการปกครองทั้ง 9 นี้ จะเป็นศูนย์กลางหรือเอกภาพของปวงชนในชาติ ดุจดังการสร้างวัดพระแก้ว จากนั้น

ในสัมพันธภาพที่สองหลักการปกครองย่อมเป็นศูนย์กลางหรือเป็นเอกภาพของรัฐธรรมนูญ จากนั้นจึงแก้ไขรัฐธรรมนูญให้เป็นหนึ่งเดียวกับหลักการปกครอง นี่คือความถูกต้องยิ่งใหญ่ของชาติได้เริ่มนับหนึ่งขึ้น ปวงชนในชาติเสมอกันโดยหลักการปกครองโดยธรรม ต่อจากนั้นจึงค่อยไปคิดทำนโยบาย (Policy) ความไม่เป็นธรรมต่างๆ เช่น การปฏิรูปที่ดิน เป็นต้น หากใครคิดปฏิรูปที่ดินในสถานการณ์การเมืองเป็นเผด็จการ ก็ทำได้เพียงจ่ายงบประมาณ และหลอกประชาชนไปวันๆ เพราะคิดแล้วทำไม่ได้ เพราะไปทำที่ปัญหาปลายเหตุ เราฟันธงเลยว่า รัฐบาลปู ยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทย ไม่สามารถแก้ปัญหาเหตุวิกฤตชาติได้ เพราะมัวแต่แก้ปัญหาปลายเหตุหลอกประชาชนไปวันๆ

ทางเดียวที่จะแก้ไขเหตุวิกฤตชาติคือการสถาปนาหลักการปกครองโดยธรรม อันเป็นพระราชกรณียกิจอันศักดิ์สิทธิ์ยิ่งใหญ่สูงสุดของพระเจ้าแผ่นดิน ขอให้ทุกฝ่ายร่วมกันเจริญรอยตามแนวทางพระปฐมบรมราชโองการ “เราจะครองแผ่นดินโดยธรรมเพื่อประโยชน์สุขแห่งมหาชนชาวสยาม” สถาปนาหลักการปกครองโดยธรรมาธิปไตย 9 สู่การเมืองใหม่ที่ก้าวหน้ายิ่งใหญ่ที่สุดแห่งแรกของโลกดังสัมพันธภาพ ดังนี้

มาเถิด มาร่วมมือกันเป็นฝ่ายค้านระบอบเผด็จการที่แท้จริง ท่านแกนนำฯ ทั้งหลาย ใครก็ได้ที่มีปัญญาเห็นว่านี่คือระบอบเผด็จการไทย 81 ปี
กำลังโหลดความคิดเห็น