ASTVผู้จัดการรายวัน-"ปึ้ง"โวมีหลักฐานเด็ดพิสูจน์พื้นที่รอบพระวิหารเป็นของไทย มั่นใจ 80-90% ชนะแน่ แต่หากพลิกล็อค จะให้ตนและรัฐบาลรับผิดชอบไม่ได้ พร้อมออกตัวจะใช้เป็นเหตุไล่รัฐบาลก็ไม่ได้ "บิ๊กโอ๋"ยันเขมรซ้อมรบเป็นเรื่องปกติ อย่าไปหาเรื่อง ส่วน "บิ๊กตู่" กร้าว อยากซ้อมๆ ไป แต่ถ้ารบ ไทยไม่หวั่น
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงสถานการณ์บริเวณปราสาทเขาพระวิหารที่มีการเคลื่อนไหวของทางฝั่งทหารกัมพูชา ที่วิทยาลัยเทคนิคดอนเมือง วานนี้ (3 เม.ย.) ว่า บริเวณเขาพระวิหารที่มีการปฏิบัติการของทั้ง 2 ฝ่าย จะต้องมีการพูดคุยกันทั้งคู่ ถ้ามีการถอนทหาร ก็ต้องถอนทั้ง 2 ฝ่าย ทหารต้องเข้าใจกัน ส่วนคดีก็ว่ากันไป การปรับกำลังก็ว่ากันไป ส่วนกรณีที่ทางทหารกัมพูชามีการซ้อมรบนั้น เขาก็ฝึกในพื้นที่ของเขา อย่างไปหาเรื่อง เขาฝึกของเขา เราก็ฝึกของเรา อย่าไปมองในแง่ไม่ดี ก็ฝึกไปไม่ว่ากัน
เมื่อถามว่า หากศาลโลกตัดสินเป็นแง่ลบจะทำอย่างไร พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปเดา ถ้าเดาก็พูดกันไปเรื่อย ขอให้เป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน อีกนานกว่าจะตัดสินคดี
เมื่อถามว่าทางร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี จะชวนลงพื้นที่เขาพระวิหาร พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ทางร.ต.อ.เฉลิม ชวนตนเมื่อวาน หากตนว่างก็จะลงไปกับท่าน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กัมพูชาฝึกซ้อมรบก่อนที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) จะเปิดให้ไทยและกัมพูชาชี้แจงด้วยวาจากรณีเขาพระวิหารว่า เป็นการซ้อมรบที่เขาทำอยู่แล้ว ทางไทยก็มีการซ้อมเช่นกัน แต่ละประเทศมีการฝึกเป็นประจำ เป็นเรื่องของแต่ละประเทศ ตนอยากถามว่า ทำไมต้องไปให้เครดิตเขาด้วย ขอให้เชื่อตน ขอให้มั่นใจในทหารของประเทศไทย แต่สื่อไปให้เครดิตคนอื่นแล้วมาจับผิดเราเอง ตนบอกแล้วว่า ถ้ารบ ไม่ต้องกลัวใครอยู่แล้ว แต่ถามว่าขณะนี้ถึงเวลาหรือยัง บ้าสงครามกันหรือยังไง ถามว่า รบแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่ใช่ว่าเราไม่รบ เพราะเรากลัว ขณะนี้ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ก็จบ และไปสู้กันในศาล
“การรบกันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีทั้งสากล ยูเอ็น เข้ามาเกี่ยวข้อง รวมถึงปัจจัยเศรษฐกิจและสังคม และขณะนี้เรากำลังเข้าสู้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งภูมิภาคนี้ต้องไปต่อสู้กันในด้านเศรษฐกิจและด้านอื่นๆ วันนี้ทำอย่างไรจะได้เปรียบทางการค้า คนเข้ามาลงทุนและท่องเที่ยว เพราะเป็นรายได้หลักของประเทศ ไม่ใช่สงคราม โดยสงครามมีไว้เพื่อป้องกันประเทศไม่ให้เราเสียเปรียบรวมถึงพิทักษ์ทรัพยากร ผมไม่กังวลที่มีบางคนมองว่า การแสดงความคิดเห็นของผมต่อสถานการณ์นั้นมีท่าทีอ่อนไป เพราะสิ่งที่พูด คือ ความคิดเห็นของตัวเองไม่เกี่ยวกับใครและเป็นการทำหน้าที่ตามแผนการป้องกันประเทศ ดังนั้น หากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมา คนสั่งการคนแรกในการใช้กำลัง คือ ผบ.ทบ. โดยมีการมอบหมายอำนาจหน้าที่ให้แม่ทัพภาคที่ 2ในบางกรณีที่ล้ำเส้นเขตแดน ชัดเจน อย่างไรก็ตาม เราต้องมีการพูดคุยทำความเข้าใจก่อนใช้กำลัง ทุกวันนี้เป็นการรบเพื่อเจรจาทั้งนั้น แล้วมาจบด้วยการพูดคุยและต้องไม่ให้เราเสียเปรียบหรือทำเกินกว่าเหตุจนขยายความรุนแรงมากขึ้นจนพูดจากันไม่รู้เรื่อง”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ที่โรงแรมฮิลตัน หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงการต่อสู้คดีปราสาทพระวิหารว่า เรื่องนี้เรายืนยันที่จะต่อสู้เต็มที่ ทีมกฎหมายมีความพร้อมเต็มที่ที่จะชี้แจงต่อศาลโลก ซึ่งแนวทางการตัดสินที่อาจจะออกมานั้น คงมีประมาณ 3 แนวทาง คือ 1.ศาลอาจวินิจฉัยว่าไม่มีอำนาจในการตีความคำพิพากษา 2.ตัดสินยืนตามคำตัดสินเดิม และ 3.ตัดสินออกมาในทางที่เราเสียประโยชน์ ซึ่งต้องมาดูต่อว่าเสียมากหรือเสียน้อยอย่างไร แต่ตนก็หวังว่าศาลจะให้ความยุติธรรม ทั้งนี้ ศาลเองก็คงต้องมีหลายปัจจัยมาประกอบการพิจารณา ทั้งข้อมูลหลักฐานและความสงบเรียบร้อย ส่วนเรื่องการเมืองจะเข้ามาแทรกแซงศาลโลกนั้นไม่มีแน่นอน การเมืองไม่สามารถแทรกแซงศาลโลกได้ แต่ถ้าศาลไทยนั้นไม่แน่
นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า การต่อสู้ครั้งนี้เรามีความมั่นใจ เพราะมีหลักฐานเด็ดที่จะพิสูจน์ได้ว่าบริเวณโดยรอบปราสาทเป็นของเรา แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นหลักฐานอะไร ตนมั่นใจ 80-90% ว่าการตัดสินของศาลโลกจะออกมาเหมือนเดิมตามคำพิพากษาปี 2505 เฉพาะตัวปราสาทเป็นของกัมพูชา ไม่ตัดสินเกินไปถึงพื้นที่รอบตัวปราสาท อย่างไรก็ตาม หากผลออกมาในทางที่เราเสียประโยชน์ก็ไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาล หรือตนในฐานะรมว.ต่างประเทศจะอยู่ไม่ได้ เพราะเรื่องเกิดมาตั้งแต่ปี 2505 ตั้งแต่ตนยังอายุ 9 ขวบ เป็นเรื่องที่ต่อเนื่องกันมาในรัฐบาลหลายสมัย จะมาบอกแพ้ในยุคตน มากล่าวหาตนไม่ได้ มันไม่แฟร์ มันยุติธรรมหรือไม่ ตนทำหน้าที่อย่างเต็มที่ อยากให้คนไทยทุกคนมาช่วยกัน ต่อสู้ไปด้วยกัน ช่วยกันรักษาอธิปไตยของเรา
"เรื่องคดีประสาทพระวิหารนั้นไม่ควรนำมาใช้ปลุกระดมเพื่อขับไล่รัฐบาล เพราะที่ผ่านมา ทั้งฝ่ายความมั่นคง กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันตลอด และจะมีการชี้แจงต่อสังคมให้ประชาชนเข้าใจในประเด็นต่างๆ ด้วย ดังนั้นไม่ควรมีใครออกมาไล่กัน"
ทั้งนี้ ตนไม่กังวลใจ เพราะเชื่อว่าคนไทยจะมีใจเป็นธรรม เบื้องต้นเราพยายามจะชี้แจงเรื่องนี้ โดยกระทรวงต่างประเทศร่วมมือกับอ.ส.ม.ท. ทำสารคีบอกเล่าความเป็นมาเกี่ยวกับปราสาทพระวิหารตั้งแต่ปี 2505 จนถึงกระบวนการขึ้นสู่ศาล เพื่อชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ และหวังว่าเมื่อคนได้ดูแล้วจะเข้าใจมากขึ้น เพราะขณะนี้มีขบวนการที่พยายามจะบิดเบือนอยู่มาก โดยสารคดีมีทั้งหมด 3 ตอนๆ ละ 20 นาที หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงจะออกอากาศหลังเวลา 20.00 ทางช่อง 11 ในวันที่ 5-7 เม.ย.2556
ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 37 ที่ประเทศกัมพูชา เป็นเจ้าภาพในเดือน มิ.ย.นี้
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้หารือถึงท่าทีของประเทศไทยเกี่ยวกับกรณีปราสาทพระวิหาร หากประเทศกัมพูชาเสนอแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหารเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการมรดกโลก ไทยจะคัคค้านถึงที่สุด จนถึงขั้นวอล์กเอาท์ออกจากที่ประชุม อย่างไรก็ตาม ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 36 ที่ประเทศรัสเซีย กัมพูชารับปากแล้วว่าจะไม่นำเสนอประเด็นดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม โดยการประชุมที่จะมีขึ้นในเดือน มิ.ย. ประเทศไทยจะทำหน้าที่เป็นรองประธานร่วมกับอีก 3 ประเทศ คือ สวิตเซอร์แลนด์ แอลจีเรีย และโคลัมเบีย
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เปิดเผยถึงสถานการณ์บริเวณปราสาทเขาพระวิหารที่มีการเคลื่อนไหวของทางฝั่งทหารกัมพูชา ที่วิทยาลัยเทคนิคดอนเมือง วานนี้ (3 เม.ย.) ว่า บริเวณเขาพระวิหารที่มีการปฏิบัติการของทั้ง 2 ฝ่าย จะต้องมีการพูดคุยกันทั้งคู่ ถ้ามีการถอนทหาร ก็ต้องถอนทั้ง 2 ฝ่าย ทหารต้องเข้าใจกัน ส่วนคดีก็ว่ากันไป การปรับกำลังก็ว่ากันไป ส่วนกรณีที่ทางทหารกัมพูชามีการซ้อมรบนั้น เขาก็ฝึกในพื้นที่ของเขา อย่างไปหาเรื่อง เขาฝึกของเขา เราก็ฝึกของเรา อย่าไปมองในแง่ไม่ดี ก็ฝึกไปไม่ว่ากัน
เมื่อถามว่า หากศาลโลกตัดสินเป็นแง่ลบจะทำอย่างไร พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปเดา ถ้าเดาก็พูดกันไปเรื่อย ขอให้เป็นกำลังใจซึ่งกันและกัน อีกนานกว่าจะตัดสินคดี
เมื่อถามว่าทางร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี จะชวนลงพื้นที่เขาพระวิหาร พล.อ.อ.สุกำพล กล่าวว่า ทางร.ต.อ.เฉลิม ชวนตนเมื่อวาน หากตนว่างก็จะลงไปกับท่าน
พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่กัมพูชาฝึกซ้อมรบก่อนที่ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) จะเปิดให้ไทยและกัมพูชาชี้แจงด้วยวาจากรณีเขาพระวิหารว่า เป็นการซ้อมรบที่เขาทำอยู่แล้ว ทางไทยก็มีการซ้อมเช่นกัน แต่ละประเทศมีการฝึกเป็นประจำ เป็นเรื่องของแต่ละประเทศ ตนอยากถามว่า ทำไมต้องไปให้เครดิตเขาด้วย ขอให้เชื่อตน ขอให้มั่นใจในทหารของประเทศไทย แต่สื่อไปให้เครดิตคนอื่นแล้วมาจับผิดเราเอง ตนบอกแล้วว่า ถ้ารบ ไม่ต้องกลัวใครอยู่แล้ว แต่ถามว่าขณะนี้ถึงเวลาหรือยัง บ้าสงครามกันหรือยังไง ถามว่า รบแล้วจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ไม่ใช่ว่าเราไม่รบ เพราะเรากลัว ขณะนี้ต่างฝ่ายต่างทำหน้าที่ก็จบ และไปสู้กันในศาล
“การรบกันไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะมีทั้งสากล ยูเอ็น เข้ามาเกี่ยวข้อง รวมถึงปัจจัยเศรษฐกิจและสังคม และขณะนี้เรากำลังเข้าสู้ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ซึ่งภูมิภาคนี้ต้องไปต่อสู้กันในด้านเศรษฐกิจและด้านอื่นๆ วันนี้ทำอย่างไรจะได้เปรียบทางการค้า คนเข้ามาลงทุนและท่องเที่ยว เพราะเป็นรายได้หลักของประเทศ ไม่ใช่สงคราม โดยสงครามมีไว้เพื่อป้องกันประเทศไม่ให้เราเสียเปรียบรวมถึงพิทักษ์ทรัพยากร ผมไม่กังวลที่มีบางคนมองว่า การแสดงความคิดเห็นของผมต่อสถานการณ์นั้นมีท่าทีอ่อนไป เพราะสิ่งที่พูด คือ ความคิดเห็นของตัวเองไม่เกี่ยวกับใครและเป็นการทำหน้าที่ตามแผนการป้องกันประเทศ ดังนั้น หากเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้นมา คนสั่งการคนแรกในการใช้กำลัง คือ ผบ.ทบ. โดยมีการมอบหมายอำนาจหน้าที่ให้แม่ทัพภาคที่ 2ในบางกรณีที่ล้ำเส้นเขตแดน ชัดเจน อย่างไรก็ตาม เราต้องมีการพูดคุยทำความเข้าใจก่อนใช้กำลัง ทุกวันนี้เป็นการรบเพื่อเจรจาทั้งนั้น แล้วมาจบด้วยการพูดคุยและต้องไม่ให้เราเสียเปรียบหรือทำเกินกว่าเหตุจนขยายความรุนแรงมากขึ้นจนพูดจากันไม่รู้เรื่อง”พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว
ที่โรงแรมฮิลตัน หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงการต่อสู้คดีปราสาทพระวิหารว่า เรื่องนี้เรายืนยันที่จะต่อสู้เต็มที่ ทีมกฎหมายมีความพร้อมเต็มที่ที่จะชี้แจงต่อศาลโลก ซึ่งแนวทางการตัดสินที่อาจจะออกมานั้น คงมีประมาณ 3 แนวทาง คือ 1.ศาลอาจวินิจฉัยว่าไม่มีอำนาจในการตีความคำพิพากษา 2.ตัดสินยืนตามคำตัดสินเดิม และ 3.ตัดสินออกมาในทางที่เราเสียประโยชน์ ซึ่งต้องมาดูต่อว่าเสียมากหรือเสียน้อยอย่างไร แต่ตนก็หวังว่าศาลจะให้ความยุติธรรม ทั้งนี้ ศาลเองก็คงต้องมีหลายปัจจัยมาประกอบการพิจารณา ทั้งข้อมูลหลักฐานและความสงบเรียบร้อย ส่วนเรื่องการเมืองจะเข้ามาแทรกแซงศาลโลกนั้นไม่มีแน่นอน การเมืองไม่สามารถแทรกแซงศาลโลกได้ แต่ถ้าศาลไทยนั้นไม่แน่
นายสุรพงษ์ กล่าวอีกว่า การต่อสู้ครั้งนี้เรามีความมั่นใจ เพราะมีหลักฐานเด็ดที่จะพิสูจน์ได้ว่าบริเวณโดยรอบปราสาทเป็นของเรา แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเป็นหลักฐานอะไร ตนมั่นใจ 80-90% ว่าการตัดสินของศาลโลกจะออกมาเหมือนเดิมตามคำพิพากษาปี 2505 เฉพาะตัวปราสาทเป็นของกัมพูชา ไม่ตัดสินเกินไปถึงพื้นที่รอบตัวปราสาท อย่างไรก็ตาม หากผลออกมาในทางที่เราเสียประโยชน์ก็ไม่ใช่เรื่องที่รัฐบาล หรือตนในฐานะรมว.ต่างประเทศจะอยู่ไม่ได้ เพราะเรื่องเกิดมาตั้งแต่ปี 2505 ตั้งแต่ตนยังอายุ 9 ขวบ เป็นเรื่องที่ต่อเนื่องกันมาในรัฐบาลหลายสมัย จะมาบอกแพ้ในยุคตน มากล่าวหาตนไม่ได้ มันไม่แฟร์ มันยุติธรรมหรือไม่ ตนทำหน้าที่อย่างเต็มที่ อยากให้คนไทยทุกคนมาช่วยกัน ต่อสู้ไปด้วยกัน ช่วยกันรักษาอธิปไตยของเรา
"เรื่องคดีประสาทพระวิหารนั้นไม่ควรนำมาใช้ปลุกระดมเพื่อขับไล่รัฐบาล เพราะที่ผ่านมา ทั้งฝ่ายความมั่นคง กระทรวงกลาโหม และกระทรวงการต่างประเทศ ได้มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนข้อมูลกันตลอด และจะมีการชี้แจงต่อสังคมให้ประชาชนเข้าใจในประเด็นต่างๆ ด้วย ดังนั้นไม่ควรมีใครออกมาไล่กัน"
ทั้งนี้ ตนไม่กังวลใจ เพราะเชื่อว่าคนไทยจะมีใจเป็นธรรม เบื้องต้นเราพยายามจะชี้แจงเรื่องนี้ โดยกระทรวงต่างประเทศร่วมมือกับอ.ส.ม.ท. ทำสารคีบอกเล่าความเป็นมาเกี่ยวกับปราสาทพระวิหารตั้งแต่ปี 2505 จนถึงกระบวนการขึ้นสู่ศาล เพื่อชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ และหวังว่าเมื่อคนได้ดูแล้วจะเข้าใจมากขึ้น เพราะขณะนี้มีขบวนการที่พยายามจะบิดเบือนอยู่มาก โดยสารคดีมีทั้งหมด 3 ตอนๆ ละ 20 นาที หากไม่มีการเปลี่ยนแปลงจะออกอากาศหลังเวลา 20.00 ทางช่อง 11 ในวันที่ 5-7 เม.ย.2556
ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายปรีชา เร่งสมบูรณ์สุข รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป็นประธานการประชุมคณะกรรมการแห่งชาติว่าด้วยอนุสัญญาคุ้มครองมรดกโลก โดยมีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมเพื่อเตรียมความพร้อมในการเข้าร่วมประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 37 ที่ประเทศกัมพูชา เป็นเจ้าภาพในเดือน มิ.ย.นี้
ทั้งนี้ ที่ประชุมได้หารือถึงท่าทีของประเทศไทยเกี่ยวกับกรณีปราสาทพระวิหาร หากประเทศกัมพูชาเสนอแผนบริหารจัดการปราสาทพระวิหารเข้าสู่การพิจารณาของคณะกรรมการมรดกโลก ไทยจะคัคค้านถึงที่สุด จนถึงขั้นวอล์กเอาท์ออกจากที่ประชุม อย่างไรก็ตาม ในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลกครั้งที่ 36 ที่ประเทศรัสเซีย กัมพูชารับปากแล้วว่าจะไม่นำเสนอประเด็นดังกล่าวเข้าสู่ที่ประชุม โดยการประชุมที่จะมีขึ้นในเดือน มิ.ย. ประเทศไทยจะทำหน้าที่เป็นรองประธานร่วมกับอีก 3 ประเทศ คือ สวิตเซอร์แลนด์ แอลจีเรีย และโคลัมเบีย