xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

รักทะลวงไส้เขาทราย แกแล็คซี่

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - พลันที่ปรากฏข่าว “สุระ แสนคำ” หรือ “เขาทราย แกแล็คซี่” ยกขบวนขันหมากไปสู่ขอน้องหนึ่ง- น.ส.วรรณา ขำบุญศรี สาวเมืองคอนถึงบ้านเลขที่ 294 หมู่ 8 ต.ขุนทะเล อ.ลานสกา จ.นครศรีธรรมราช มาเป็นศรีภรรยา แฟนมวยทั่วฟ้าเมืองไทยต่างยินดีปรีดากันถ้วนหน้าที่อดีตนักมวยแชมป์โลก รุ่นจูเนียร์แบนตั้มเวท 115 ปอนด์ สมาคมมวยโลกในวัย 53 ปีจะมีความสุขกับเจ้าสาววัย 36 ปี

ทั้งนี้ โดยมี “แชแม้-นิวัฒน์ เหล่าสุวรรณวัฒน์” โปรโมเตอร์ค่ายแกเล็คซี่ เดินทางมาร่วมงานในฐานะผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าว พร้อมกับฝาแฝด-เขาค้อ แกเล็คซี่ และเพื่อนสนิทในวงการมวยอีกจำนวนหนึ่ง

นี่เป็นเซอร์ไพร์สที่ไม่เคยมีใครคาดคิดมาก่อนแม้จะเป็นที่รับรู้กันภายในโดยเฉพาะในหมู่เพื่อนสนิทว่า “พี่ระ” มักควงน้องหนึ่งไปออกงานต่างๆ ให้เห็นอยู่เสมอ

แต่แค่เพียงไม่กี่อึดใจ ข่าวที่น่ายินดีก็กลายเป็นเรื่องโอละพ่อและกลายเป็นปัญหาใหญ่ที่สร้างความหนักอกให้กับเจ้าของฉายา “ซ้ายทะลวงไส้” กลายเป็น “รักทะลวงไส้” ที่เขาทรายกลืนไม่เข้าคายไม่ออกอยู่หลายวัน เพราะปรากฏความจริงว่า เขาทรายยังไม่ได้หย่ากับ “ฟ้า-สุรีรัตน์ แสนคำ”ภรรยาคนปัจจุบัน ซึ่งจดทะเบียนสมรสถูกต้องตามกฎหมาย แถมยังมีบุตรร่วมกัน 1 คนคือ ด.ช.วัชระพล แสนคำ วัย 14 ปี

รักทะลวงไส้ที่กลายเป็นรักสามเศร้าของเขาทรายเกิดขึ้นได้อย่างไร

ขบวนขันหมากที่ยกขบวนไปสู่ขอน้องหนึ่งเป็นขบวนขันหมากที่เกิดขึ้นโดยกะทันหันหรือไม่ เพราะไม่ว่าจะพิจารณาจากการแต่งกายของเจ้าบ่าวก็ดูจะผิดไปจากธรรมเนียมที่เคยเห็น กล่าวคือแม้เขาทรายจะแต่งกายด้วยเสื้อผ้าที่ตัดเย็บด้วย “ผ้ายกเมืองนคร” สีฟ้าเข้ม กางเกงขายาวสีดำ แต่ที่แปลกตาคือเขาทรายสวมรองเท้าแตะ

หรือขบวนขันหมากที่ไม่ปรากฏพานขันหมากเอกและโท ต้นกล้วยอ้อย รวมถึงข้าวของเครื่องใช้ประกอบการสู่ขอที่จัดเป็นคู่ๆ เช่น ขนมเปี๊ยะและอื่นๆทว่า กลับปรากฏเพียงแค่พานธูปเทียนแพ และพานพุ่มประหนึ่งเป็นพานขอขมา ลาโทษอย่างไรอย่างนั้น

แถมยังมีประเด็นกระเส็นกระสายเข้ามาอีกต่างหากว่า เขาทรายถูกน้องหนึ่งหลอกให้ไปแต่งงาน หรือแม้กระทั่งแชแม้ก็โดนหลอกให้เป็นเถ้าแก่สู่ขอแบบไม่ได้ตั้งตัวอีกต่างหาก

น้องหนึ่งเป็นใคร เขาทรายไปเจอได้อย่างไร

ทำไมรักของเขาทรายกับน้องฟ้าภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายผ่านไป 20 ปีจึงจืดจางลงจนทำท่าว่าจะไม่สามารถรักษาเข็มขัดแชมป์ให้กับน้องหนึ่งไปเสียอย่างนั้น....

หากยังจำกันได้ ภรรยาคนแรกของเขาทรายเป็นชาวญี่ปุ่น มีชื่อเสียงเรียงนามที่เชื่อว่าแฟนมวยชาวไทยยังไม่ลืมว่า “ยูมิโกะ โอะตะ”

เขาทรายพบรักกับโอตะที่เมืองโกเบ ประเทศญี่ปุ่น เมื่อวันที่ 31 ตุลาคม พ.ศ. 2532 เมื่อเขาทรายเดินทางไปชกมวยป้องกันแชมเปี้ยนโลกครั้งที่สองกับเคนจิ มัตสุมูร่า โดยก่อนหน้านั้นในปีเดียวกัน เขาทรายเดินทางไปชกป้องกันตำแหน่งกับเคนจิ มัตสุมูร่า เมื่อวันที่ 8 เมษายน พ.ศ. 2532 ยุมิโกะ โอะตะ ได้ไปชมการชกด้วย และประทับใจในตัวเขาทรายมากเป็นพิเศษ

ยูมิโกะ โอะตะ ติดตามเขาทรายกลับมาประเทศไทย และสมรสกับเขาทรายหลังจากเขาทรายเลิกชกมวยแล้ว โดยได้เข้าพิธีสมรสพระราชทาน จากสมเด็จพระบรมโอรสาธิราชฯ สยามมกุฎราชกุมาร เมื่อวันที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2535 โดยพลเอกเปรม ติณสูลานนท์ องคมนตรีและอดีตนายกรัฐมนตรี เป็นประธานในพิธีมงคลสมรส ซึ่งงานนี้มีการถ่ายทอดสดทางช่อง 7 ด้วย

ช่วงที่ยูมิโกะ โอะตะ แต่งงานกับเขาทราย ขณะนั้นทั้งคู่เป็นที่ชื่นชอบของชาวไทยเป็นอย่างมาก แต่หลังจากแต่งงานกันได้ระยะหนึ่ง ด้วยความไม่เข้าใจกัน ทั้งคู่จึงหย่าขาดจากกัน ยูมิโกะ โอะตะ จึงได้เดินทางกลับประเทศญี่ปุ่น

ส่วนภรรยาคนที่สองที่แต่งงานและจดทะเบียนสมรสอย่างถูกต้องตามกฎหมายเช่นกันก็คือ สุรีรัตน์ แสนคำ โดยอดีตแชมป์โลกขวัญใจชาวไทยเคยเปิดเผยในรายการที่นี่หมอชิต ทางช่อง 7 เมื่อปี 2554 ว่า ครั้งแรกที่จีบภรรยานั้นเป็นเรื่องผิดฝาผิดตัว เพราตั้งใจจะจีบพี่สาว ทว่า กลับเป็นภรรยามารับโทรศัพท์แทน ซึ่งทันทีที่ได้ยินเสียงก็ตกหลงรักเสียงอีกฝ่ายทันทีจนต้องนัดมาทานข้าวก่อนจะใช้ชีวิตคู่มาจนถึงทุกวันนี้

สำหรับภรรยาคนที่ 3 ซึ่งเขาทรายยกขบวนขันหมากไปสู่ขอคือน้องหนึ่งนั้น เป็นบุตรของนายวิทยา ขำบุญศรี อายุ 60 ปี ข้าราชการครูบำนาญ นางอารดา ขำบุญศรี อายุ 58 ปี เจ้าของกิจการสวนผลไม้และรับซื้อยางพารา ซึ่งจัดว่าเป็นครอบครัวที่ฐานะอยู่ในขั้นดี

น้องหนึ่งของพี่ระเป็นคนเรียนดีมาตั้งแต่มัธยมศึกษา สามารถสอบชิงทุนและได้ไปเรียนต่อต่างประเทศในประเทศอังกฤษจนจบปริญญาโท เคยแต่งงานกับชาวต่างประเทศ แต่ต้องแยกทางกันไป ก่อนมาทำงานในบริษัทประเมินมาตรฐานโรงแรมและที่พักในต่างประเทศ

โดยเส้นทางรักของแชมป์โลกขวัญใจชาวไทยกับน้องหนึ่งนั้นเกิดขึ้นเมื่อกว่า 3 ปีก่อนที่ประเทศสิงคโปร์ขณะเขาทรายเดินทางไปโชว์ตัว และหนึ่งไปทำงาน หลังจากนั้นทั้งคู่ได้พูดคุยและคบกันเรื่อยมา ซึ่งที่ผ่านมาเขาทราย ได้ไปมาหาสู่ที่บ้านของ น.ส.วรรณภา อยู่เป็นประจำ กระทั่งเป็นที่รับรู้ในหมู่ของเพื่อนฝูงที่สนิทชิดเชื้อ เนื่องจากเขาทราบมักควงภรรยาคนล่าสุดไปออกงานต่างๆ ให้เห็นอยู่เสมอๆ

และในที่สุด เขาทรายได้ตัดสินใจยกขบวนขันหมากไปสู่ขอเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมาและจัดพิธีแต่งงานแบบเรียบง่าย โดยทางครอบครัวได้แจกการ์ดแต่งงานให้กับเพื่อนบ้านและญาติที่ใกล้ชิด ส่วนสินสอดทองหมั้นนั้นไม่เป็นที่เปิดเผยโดยญาติใกล้ชิดฝ่ายเจ้าสาวบอกว่าทางครอบครัวเจ้าสาวไม่ได้เรียกร้อง

และนั่นคือต้นตอแห่งปัญหารักทะลวงไส้เขาทรายที่เขาทรายกลืนไม่เข้าคายไม่ออก เพราะทั้งคู่รู้อยู่เต็มอกว่า เขาทรายยังไม่ได้เลิกรากับนางสุรีรัตน์

ที่สำคัญกว่านั้นอยู่ตรงที่นางสุรีรัตน์ซึ่งป็นภรรยาที่ถูกต้องตามกฎหมายประกาศชัดเจนว่า ไม่เอา 1 ผัว 2 เมียพร้อมสาธยายความลับออกมาอีกต่างหากว่า หญิงสาวคนนี้เคยแอบคบกับสามีของตนเองมาแล้ว แต่ก็ได้เลิกรากันไปก่อนหน้านี้

“ตอนแรกเขาบอกว่า จะไปงานโชว์ตัวที่จังหวัดสุราษฎร์ธานี แต่พอหลังจากนั้น มีข่าวเขาแต่งงาน เราก็รู้สึกช็อกมากจนทำอะไรไม่ถูก ทั้งๆ ที่เรายังไม่ได้หย่าขาดกัน และก็ไม่ได้มีปัญหาทะเลาะอะไรกันเลย ลูกชายพอรู้เรื่องนี้ก็นั่งร้องไห้ เราโทรศัพท์ไปเขาก็ไม่รับสาย เราก็ไม่รู้จะทำยังไง ก็ต้องรอให้เขามาเคลียร์ แต่ผู้หญิงคนนี้เคยมีข่าวคบกับเขา แต่เขาบอกว่าไม่จริงจังอะไร และก็เลิกกันไปแล้ว”นางสุรีรัตน์เล่าปัญหารักสามเศร้าระหว่างตนเองกับสามี

ความจริง ต้องบอกว่าการยกขบวนขันหมากไปสู่ขอน้องหนึ่งสาวเมืองคอนเมื่อวันที่22 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมา มีข้อสังเกตถึงความผิดปกติเกิดขึ้นมากมาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของฤกษ์พานาที กล่าวคือเดิมทีฤกษ์แต่งงานของเขาทรายกับเจ้าสาวถูกกำหนดเอาไว้ในเวลา 09.30 น. แต่ปรากฏว่าขบวนรถของเจ้าบ่าวพร้อมด้วยเพื่อนในวงการบันเทิงและวงการมวยหลายคนมาไม่ทัน ทางครอบครัวของเจ้าสาวจึงกำหนดให้เป็นฤกษ์สะดวกคือมาถึงเวลาใดให้จัดการพิธีในเวลานั้น ซึ่งในที่สุดก็สามารถยกขบวนขันหมากมุ่งหน้ามายังบ้านของเจ้าสาวได้ในเวลา 11.45 น.

แถมการจัดงานมงคลสมรสในครั้งนี้ไม่อนุญาตให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพทำข่าว โดยเขาทรายอ้างว่าต้องการแต่งงานกับแฟนสาวอย่างเงียบ ๆ ไม่อยากให้โด่งดังฮือฮาเหมือนครั้งที่ผ่านมา

นอกจากนั้น ยังมีข่าวอีกต่างหากว่า ในวันพิธี บรรดาเพื่อนฝูงและแขกของทางฝั่งเขาทรายบางคน รวมถึง “แชแม้”ก็รู้สึกงงๆ กับข่าวการแต่งงานใหม่ของเขาทรายในครั้งนี้ เพราะก่อนหน้านี้รู้แต่เพียงว่า ให้เดินทางมาเตะฟุตบอลการกุศลเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างทีมท้องถิ่นลานสกาและทีมรวมดารา

“หลังจากเสร็จสิ้นงานแต่งงานที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ผมไม่ได้โกรธที่เขาหลอกให้มาเป็นเถ้าแก่สู่ขอผู้หญิงแบบไม่ได้ตั้งตัวมาก่อน ส่วนที่หลายคนตั้งข้อสังเกตว่า เขาทรายเองก็โดนหลอกให้แต่งเหมือนกัน ผมก็ไม่ทราบได้ แต่ตอนนี้อยากให้เขารีบจัดการปัญหาเหล่านี้ซะ ส่วนผมในฐานะผู้ใหญ่คงไม่เข้าไปก้าวก่ายหรือเข้าข้างใคร”แชแม้ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่งหลังข่าวเขาทรายแต่งงานกับนางสาววรรณา

นอกจากนี้ โปรโมเตอร์คู่ใจของเขาทรายยังเปิดเผยด้วยว่า ทั้งสามฝ่ายกำลังสะสางปัญหาร่วมกัน แต่ก็ยังไม่สามารถยืนยันได้ว่า เขาจะเลือกคนใด โดยในช่วงที่ผ่านมา ทั้งนางสุรีรัตน์ แสนคำ หรือ "ฟ้า" ภรรยาคนที่ 2 ของเขาทราย ซึ่งจดทะเบียนถูกต้องตามกฎหมาย ซึ่งมีลูกบุญธรรม 1 คน และ นางสาววรรณภา ขำบุญศรี หรือ "หนึ่ง" สาวปริญญาโท ที่สร้างความฮือฮา เข้าพิธีแต่งงานกับ เขาทราย เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ได้โทรมาปรึกษากับตนเองตลอด ซึ่งในฐานะผู้ใหญ่ก็ไม่ได้เข้าข้างใครเป็นพิเศษ

ขณะเดียวกัน "แชแม้" เปิดเผยว่า ทางฝั่งของ "หนึ่ง" พร้อมที่จะยอมเป็นฝ่ายถอย แต่ก็อยากให้ เขาทราย มาขอขมากับพ่อแม่ตนเอง และไม่ได้เรียกร้องค่าเสียหายอะไร เพราะตนเองไม่ทราบจริงๆ ว่า เขาทราย ยังไม่ได้หย่าขาดจากภรรยาที่ชื่อ "ฟ้า" แต่หาก เขาทราย เลือกอีกฝ่าย ตนเองก็อยากให้นักชกอดีตแชมป์โลกควรให้การดูแลเลี้ยงดู "ฟ้า" และลูกบุญธรรม ให้เหมาะสมตามหลักศีลธรรมด้วย ในฐานะที่ทั้งสองคนอยู่กินกันมากว่า 20 ปี

ส่วนทางฝ่ายครอบครัวของน้องหนึ่งนั้น จากการตรวจสอบข้อมูลล่าสุด ทางครอบครัวไม่ขอพูดใดๆ โดยขอให้ทางฝ่ายเขาทราย เป็นคนแก้ปัญหาเอง

และหลังจากปิดปากเงียบมาหลายวัน ในที่สุดก็มีความชัดเจนออกมาจากฝั่งของเขาทรายเป็นที่เรียบร้อยแล้วเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมาระหว่างที่เขาทรายเดินทางไปออกรายการโปรโมตละครมินิซีรีส์ “บันทึกกรรม” ตอน “ชาย เมืองสิงห์” ที่อาคารมาลีนนท์ร่วมกับสมรักษ์ คำสิงห์ สามารถ พยัคฆ์อรุณและน้องตุ้ม-ปริญญา เกียรติบุษบา

ไอ้หมัดทะลวงไส้แสดงเจตจำนงชัดเจนว่า “ปัญหาทุกอย่างกับน้องฟ้า-สุรีรัตน์ ภรรยาคนที่ 2 นั้น ได้เคลียร์กันลงตัวแล้ว โดยจะหย่าขาดจากกันอย่างแน่นอน แต่ขอเวลาอีกสักพักในเรื่องข้อตกลงและรายละเอียดบางอย่าง โดยตอนนี้ได้อยู่กินกับน้องหนึ่งวรรณาที่บ้านใหม่”

แต่มิได้เปิดเผยว่า บ้านใหม่หลังนั้นอยู่แห่งหนตำบลไหน

ส่วนเรื่องบ้านที่หมู่บ้านอารียา ซอยนวลจันทร์ 56 ที่อยู่กับน้องฟ้านั้น พี่ระยอมรับว่าติดประกาศขายจริง ทั้งนี้ หากทุกอย่างมีข้อสรุปที่ลงตัวชัดเจนจะเปิดแถลงข่าวอย่างเป็นทางการแน่นอน

ทั้งนี้ ในการเดินทางไปที่อาคารมาลีนนท์ ปรากฏว่า น้องหนึ่งได้เดินทางไปด้วย โดยตามมาทีหลัง และเมื่อมาถึงก็ไม่ได้ให้สัมภาษณ์แต่อย่างไรและรีบเดินขึ้นลิฟต์เพื่อไปหาสามีทันที แถมในช่วงเดินทางกลับยังมีการสับขาหลอกอีกต่างหาก เพราะเขาทรายพร้อมคนขับรถได้เดินทางออกไปก่อน จากนั้นก็ไปจอดรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู รุ่น 525สีบรอนซ์ ทะเบียน สจ 80ไปจอดเปิดไปฉุกเฉินอยู่ที่ริมถนนพระราม 4 เลยประตูทางออกช่อง 3ไปประมาณ 100 เมตร จากนั้นอีกราว 10 นาทีต่อมา น้องหนึ่งได้เดินทางมาขึ้นรถคันดังกล่าวและเดินทางออกไปพร้อมกัน

สรุปว่า น้องหนึ่งที่ทำท่าว่าจะขอเป็นฝ่ายถอยกลับสามารถยิงหมัดน็อกเข้าปลายคางของไอ้หมัดทะลวงไส้ได้สำเร็จจนเป็นฝ่ายคว้าเข็มขัดแชมป์ไปครองแทนน้องฟ้า-ภรรยาคนปัจจุบัน แต่ก็ใช่ว่าเรื่องจะจบลงง่ายๆ เพราะถ้าพี่ระไม่สามารถเคลียร์กับน้องฟ้าได้อย่างเข้าใจ งานนี้อาจถึงขั้นมีการฟ้องร้องและดำเนินคดีทางกฎหมายได้ ซึ่งในที่สุดก็เกิดเรื่องขึ้นมาที่คาดการณ์จริงๆ เมื่อ "แชแม้" เปิดเผยว่านางสุรีรัตน์ ได้เรียกร้องเงินจำนวน 2 ล้านบาทเพื่อเป็นค่าเซ็นใบหย่าและเป็นค่าเลี้ยงดูบุตร พร้อมโต้กระแสข่าว"เจ้าระ" ถังแตกอีกว่า “ฐานะของ เขาทราย ตอนนี้ถือว่ามีความสุขดี พอมีพอกิน ถึงแม้จะไม่ได้มีเงินเยอะเหมือนตอนได้แชมป์ เพราะผ่านมา 20 กว่าปีแล้วก็ต้องร่อยหรอไปเป็นธรรมดา แต่คงจะไปเทียบว่ารวยหรือจนไม่ได้ เพราะต่างคนไม่เหมือนกัน”

....ถึงตรงนี้คงต้องบอกว่า จาก “ยูมิโกะ โอะตะ” น้องฟ้า-สุรีรัตน์ แสนคำมาถึงน้องหนึ่ง-วรรณา ขำบุญศรี ตำนานรักทุกบทของไอ้หมัดทะลวงไส้ เขาทราย แกเล็คซี่เร้าใจและมีสีสันเหนือคำบรรยายจริงๆ

บ่องตรงๆ สวด.....ยอด


บรรยากาศในวันแต่งงานของเขาทรายกับ “หนึ่ง”-วรรณา ขำบุญศรี


เขาทรายกับ“ฟ้า-สุรีรัตน์ แสนคำ” ภรรยาคนปัจจุบัน และลูกบุญธรรม ด.ช.วัชระพล แสนคำ
เมื่อครั้งรักหวานชื่นกับ “ยูมิโกะ โอะตะ”
กำลังโหลดความคิดเห็น