ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 6
ทางด้านแหวนประคองอรชาไปพัก อสิตเข็นรถตามอย่างเป็นห่วง อนุชและกร้าวเข้ามาอีกทางหนึ่ง เห็นอรชาหมดสติก็ตกใจ
“พี่อรเป็นอะไรคะ”
“อรเป็นลม”
“มาครับ ผมเอง”
กร้าวช่วยประคองอรชาเข้าบ้านไป อนุชเข็นรถอสิตตามเข้าบ้านไป
กร้าวประคองอรชานอนบนโซฟา อสิตและอนุชกังวล ห่วงอรชา แหวนเข้ามาพร้อมผ้าชุบน้ำ อนุชเช็ดหน้าให้พี่สาว แหวนนั่งข้างๆเอายาดมให้ดม
“เกิดอะไรขึ้นคะพี่สิต” อนุชหันมาถามอสิต
“ไม่รู้สิ คุยกันอยู่ดีๆ แท้ๆ พี่เล่าให้อรฟังว่าคุณกร้าวกับนุชจะแต่งงานกันแล้วจู่ๆ อรก็เป็นลมล้มพับไป”
อนุชกับกร้าวมองหน้ากัน ต่างนึกรู้ว่าทำไมอรชาถึงเป็นลม กร้าวไม่สบายใจ อนุชนึกโกรธกร้าวเธอยื่นผ้าเช็ดหน้าให้แหวน
“ฝากดูพี่อรสักครู่นะ” เธอหันไปบอกกับกร้าว “เชิญทางนี้ค่ะ”
อนุชเดินนำออกไป กร้าวตาม อสิตและแหวนดูแลอรชาแทน
อนุชมาหยุดยืนอยู่มุมหนึ่ง กร้าวตามเข้ามา
“ฉันว่าคุณควรจะกลับไปได้แล้ว ก่อนที่พี่อรจะฟื้น”
“แต่ผมอยากคุยกับคุณอร”
“คุยเพื่ออะไรคะ มันไม่ทำให้อะไรดีขึ้น คุณหลอกให้พี่อรรักคุณ แล้วคุณก็ทำร้ายจิตใจพี่อรอย่างเลือดเย็น”
กร้าวรู้สึกผิด
“ถึงคุณจะรู้สึกผิดตอนนี้ มันก็สายไปแล้ว คุณกลับไปซะแล้วไม่ต้องมาให้พี่อรเห็นหน้าอีก”
อนุชโกรธ กร้าวเสียใจ ออกไป อนุชสงสารและห่วงอรชา
อนุชมาดูแลพี่สาวสักครู่ อรชาก็เพ้อออกมา
“คุณกร้าว คุณกร้าว”
อนุชจับมือพี่สาวไว้ อรชารู้สึกตัวตื่นขึ้น อนุชดีใจ
“พี่อรฟื้นแล้ว”
“นุช”
อรชางงนิดหนึ่ง แต่พอลำดับเหตุการณ์ได้ ก็อยากรู้เรื่องกร้าว
“พี่สิตบอกว่าคุณกร้าวมาขอนุชแต่งงาน ไม่จริงใช่มั้ย พี่สิตเข้าใจผิดใช่มั้ย”
อนุชพูดไม่ออก อรชาเขย่าตัวน้องสาวร้อนใจอยากรู้คำตอบ
“ตอบพี่มาสินุช ตอบพี่มาว่ามันไม่จริง”
อนุชเสียใจ
“พี่อร นุชขอโทษ”
อรชาเสียใจที่เป็นความจริง ร้องไห้ออกมา
“ทำไมนุชทำแบบนี้ ทำไมถึงหักหลังพี่ ทำไมต้องแย่งคนที่พี่รัก”
“นุชไม่เคยคิดอย่างนั้นนะคะพี่อร”
“ถ้าอย่างนั้นก็ยกเลิกการแต่งงานซะสิ คืนคุณกร้าวให้พี่”
อนุชลำบากใจเพราะกร้าวไม่ยอมแต่งงานกับอรชาและลลิตา
“นุชทำไม่ได้”
อรชาจับมืออนุช อ้อนวอนขอร้อง
“ทำไมล่ะนุช พี่รักคุณกร้าว พี่รักเขา ชีวิตพี่ ไม่มีคุณกร้าวไม่ได้ ผู้ชายคนนี้พี่ขอเถอะนะ นุชมีทั้งชายธง ทั้งคุณปรารภ แต่พี่ไม่มีใครเลย พี่มีคุณกร้าวคนเดียวเท่านั้น ยกเลิกการแต่งงานซะ คืนคุณกร้าวให้พี่”
อนุชลำบากใจ อรชามองตาน้องสาว รู้คำตอบว่าน้องไม่ยกเลิกการแต่งงาน
“ไม่ว่าพี่จะพูดยังไง นุชก็ไม่ยอมคืนคุณกร้าวให้พี่ใช่มั้ย”
อนุชพูดไม่ออก รู้สึกผิดต่อพี่สาว อรชาทั้งโกรธ ทั้งเสียใจ ลุกจากโซฟา หนีไม่อยากเห็นหน้าน้องสาว แต่แล้วเธอก็หน้ามืด อนุชประคอง
“ระวังค่ะพี่อร”
อรชาสะบัด
“อย่ามายุ่งกับพี่”
อรชาเดินหนีออกไป อนุชตาม
“พี่อรจะไปไหนคะ”
อรชาเดินหนีมาถึงหน้าห้อง อนุชตามมา เธอผลักน้องสาวให้ออกไปห่างๆ
“อย่ามายุ่งกับพี่ พี่ไม่อยากเห็นหน้านุชอีก”
อรชารีบเข้าห้อง ล็อคกลอน อนุชเคาะประตู
“พี่อรคะ”
อรชาล็อกกลอนประตู แล้วทรุดลงนั่งร้องไห้อยู่ที่หน้าประตู เจ็บปวดเมื่อคนที่แย่งคนรักกลับเป็นน้องสาวที่รักมาก...อนุชเคาะประตูจนเจ็บมือเสียใจ
“พี่อร...นุชขอโทษ...”
อนุชหันมาเจอลลิตา
“พี่ลิต้า”
ลลิตาจ้องหน้าแบบจงเกลียดจงชัง
“เธอเก่งกว่าที่ฉันคิดนะ จับคุณกร้าวซะอยู่หมัด เอาอะไรเข้าแลกล่ะ เขาถึงจำใจแต่งงานด้วย”
อนุชไม่พอใจที่ลลิตาดูถูก
“นุชจะเอาอะไรแลกก็ช่าง ยังไงก็ดีกว่าคนที่ทุ่มทั้งตัวแล้วแต่ยังจับไม่อยู่นะคะ”
อนุชเดินหนี ลลิตาโกรธ คว้าแขนอนุช
“ปากดีนักนะ”
ลลิตาตบหน้าอนุชทันที
“งานแต่งของแกกับคุณกร้าวต้องล้ม ฉันนี่แหละจะทำให้คุณกร้าวเปลี่ยนใจ”
ลลิตาจะตบอีก อนุชจับแขนไว้ได้ ผลักลลิตาล้มลง
“ถ้าคิดว่าทำได้ก็ทำเลยค่ะ”
อนุชสะบัดหนีไป เธอพูดไปเพราะไม่ได้อยากแต่ง เพราะคิดว่าไม่ได้แต่งด้วยความรัก แต่เพื่อแลกเปลี่ยนกับเงินของกร้าวเท่านั้น ลลิตาเจ็บใจ คิดว่าถูกท้าทาย
“นังนุช นังบ้า อ๊าย!”
ลลิตาแค้นระคนริษยา คิดหาทางขัดขวางการแต่งงาน
ค่ำนั้น ชายธงนั่งอยู่กับลลิตาในร้านอาหารแห่งหนึ่ง เขาตกใจมากกับสิ่งที่เธอบอกใจ
“นุชไปบ้านเสี่ยยศคนเดียว จริงเหรอครับ”
“จริงสิ เกือบเอาตัวไม่รอด ดีที่สิตไปช่วยทัน ไม่งั้นล่ะก็” ลลิตาทำท่าขยะแขยง “ไม่อยากจะคิดต่อว่าจะเจอกับอะไรบ้าง”
ชายธงห่วง
“แล้วนุชเป็นไงบ้างครับ ปลอดภัยรึเปล่า”
“ปลอดภัย แต่ก็ยังขวัญเสียไม่หายตอนนี้เป็นช่วงที่นุชต้องการคนปลอบใจมากที่สุด คุณน่าจะไปหานุช รีบไปทำคะแนนซะ”
ชายธงสงสัย
“แล้วคุณมาบอกผมทำไม”
“ฉันบอกเพราะหวังดี ไม่งั้นคุณกร้าวทำคะแนนนำ อย่าหาว่าฉันไม่เตือน”
ชายธงเป็นห่วงอนุช ลลิตาแอบยิ้มร้ายอย่างมีแผน
วันใหม่ ชายธงรับอนุชออกไปข้างนอก ลลิตาแอบมองอยู่ รีบนั่งแท๊กซี่ตามไป ธารินตามมาเช่นกัน เห็นชายธงไปกับอนุชก็ไม่สบายใจ ห่วงชายธง กลัวจะโดนอนุชหลอก
ชายธงคุยกับอนุชอยู่ในสวนสาธารณะแห่งหนึ่ง เขาไม่สบายใจ
“นุชทำแบบนั้นทำไม รู้มั้ยว่าอันตรายแค่ไหน ถ้าพี่สิตไปช่วยไม่ทัน จะทำยังไง”
“นุชไม่มีทางเลือก”
“นุชน่าจะบอกผม ผมขอให้คุณพ่อช่วยก็ได้”
“เงินไม่ใช่น้อยๆ นุชไม่กล้ารบกวนคุณพ่อของชายธงหรอก นุชไม่อยากให้ท่านคิดว่านุชคบกับชายธงเพื่อเงิน”
ชายธงดึงอนุชมากอด อนุชไม่ทันตั้งตัว
“รู้มั้ยตอนที่รู้เรื่อง ผมตกใจแค่ไหน ผมนอนไม่หลับทั้งคืนเลย คิดแต่ว่าถ้าเกิดอะไรขึ้นกับนุช ผมคงรู้สึกผิดไปตลอดชีวิต”
อีกมุมหนึ่ง ลลิตานัดกร้าวมาแอบดู กร้าวเห็นชายธงกอดอนุชก็ไม่พอใจ จะออกไปหาชาย ลลิตาดึงไว้ กลัวความแตกว่าอนุชกับชายธงไม่ได้มาพลอดรักกัน
“อย่าค่ะคุณกร้าว ที่ลิต้านัดคุณมาที่นี่ก็เพราะอยากให้คุณตาสว่าง ไม่อยากให้คุณกลายเป็นคนโง่ในสายตายายนุช เปลี่ยนใจตอนนี้ยังทันนะคะคุณกร้าว อย่าแต่งงานกับยายนุชเลย เขาไม่ได้รักคุณ เขาไม่ได้มีแค่คุณคนเดียว ยายนุชกำลังสวมเขาให้คุณนะคะ”
ลลิตากอดกร้าว
“ลิต้ารักคุณคนเดียว แต่งงานกับลิต้าเถอะนะคะ”
“คุณตัดใจจากผมเถอะลิต้า เรื่องของเรามันเป็นไปไม่ได้”
“ทำไมถึงเป็นไปไม่ได้ เรารักกันไม่ใช่เหรอคะ คุณรักลิต้า ลิต้าก็รักคุณ”
กร้าวนิ่ง
“ถ้าไม่รักลิต้า แล้วมายุ่งกับลิต้าทำไม มาหลอกให้ลิต้ารักคุณแล้วคุณก็ทิ้งลิต้าไป ลิต้ามีหัวใจนะคะ
ลิต้าเจ็บเป็น”
“ผมขอโทษ ผมรู้ว่าผมทำผิด ผมไม่ใช่คนดี คุณสิตเป็นคนดี เขารักคุณและดูแลคุณได้ดีกว่าผม ลืมผมเถอะนะครับ”
“ไม่ ลิต้าลืมคุณไม่ได้”
ลลิตาวิ่งร้องไห้หนีไป กร้าวไม่สบายใจ รู้สึกผิดต่อลลิตา
ระหว่างที่ชายธงกอดอนุช อีกด้าน ธารินยืนมองอย่างโกรธๆ อนุชผละจากชายธง รู้ว่าไม่เหมาะสม
“เรื่องผ่านไปแล้ว อย่าพูดถึงอีกเลย ตอนนี้นุชมีเรื่องสำคัญจะบอกชายธง”
อนุชกำลังจะบอกเรื่องแต่งงาน แต่ธารินเข้ามาก่อน
“นังอนุช! นังหน้าด้าน!”
ธารินผลักอนุชให้ออกห่างจากชายธงและตบหน้าอนุชทันที
“ริน” ชายธงตกใจ
ธารินกระชากแขนอนุช
“หยุดนะริน ปล่อยนุชเดี๋ยวนี้”
ธารินไม่ฟังชายธง ต่อว่าอนุช
“หลอกผู้ชายคนเดียว มันไม่พอยาไส้รึไง ถึงต้องมาหลอกพี่ชายธงอีกคน”
“คุณเข้าใจผิดแล้ว ฉันไม่เคยคิดจะหลอกชายธง”
“ไม่ต้องตีหน้าซื่อ อย่าคิดว่าฉันไม่รู้ทันแก”
“หยุดเดี๋ยวนี้ริน ไปกับพี่”
ชายธงแยกธารินจากอนุช ธารินดิ้นรนขัดขืน จะไปตบตีอนุชให้ได้
“ปล่อยรินนะพี่ชายธง รินจะสั่งสอนมัน…นังผู้หญิงหน้าด้าน เห็นแก่เงิน”
ชายธงดึงธารินออกไป อนุชเจ็บไปทั้งตัวและเสียใจที่โดนธารินดูถูก
ชายธงดึงธารินมาคุยกันอีกมุม ธารินยังดิ้นรนโวยวาย
“ปล่อยรินนะ มาห้ามรินทำไม”
ชายธงขึ้นเสียง
“หยุดบ้าได้แล้วริน”
ธารินชะงัก
“รินทำเกินไปแล้วนะ ทำร้ายนุชทำไม เขาทำอะไรให้”
“แค่นี้ยังน้อยไปด้วยซ้ำ สำหรับผู้หญิงหน้าเงินคนนั้น”
ชายธงไม่พอใจ
“หยุดล่วงเกินนุชเดี๋ยวนี้”
“พี่ชายธงปกป้องมันทำไม รู้มั้ยว่าผู้หญิงคนนั้นกำลังหลอกพี่”
ชายธงสงสัย
“หมายความว่าไง”
“ผู้หญิงคนนั้นกำลังจะแต่งงานกับผู้ชายที่ชื่อกร้าว ศุภกาญจน์”
ชายธงตกใจ
“ไม่จริง”
“จริงค่ะ เขาสองคนไปซื้อแหวนแต่งงานที่ร้านริน”
ชายธงช็อค พูดไม่ออก ไม่อยากเชื่อ
“ถ้าพี่ชายธงไม่เชื่อก็ไปถามดู รินก็อยากรู้เหมือนกัน ว่านังนั่นจะแก้ตัวกับพี่ว่ายังไง”
ชายธงอึ้ง
อนุชนั่งเล่นที่ริมน้ำในสวนสาธารณะ กร้าวเดินหาจนเจอ
“คิดถึงใครอยู่ล่ะ ชายธงหรือว่านายปรารภ”
อนุชหันมอง ไม่พอใจ
“คุณกร้าว”
กร้าวประชดเพราะหึง
“คิดออกยังว่าจะเลือกใคร หรือจะเก็บไว้ทั้งหมด”
“ฉันไม่มีอารมณ์ทะเลาะกับคุณหรอกนะ”
อนุชไม่พอใจ จะเดินหนี กร้าวจับแขนไว้
“ไปกับฉัน”
อนุชงง ไม่รู้ว่ากร้าวจะพาไปไหน
กร้าวพาอนุชเข้าไปในห้องประชุมของบริษัท นักข่าวกลุ่มหนึ่งที่กร้าวเชิญมา รอทำข่าวอยู่ โดยมีเลขา ของกร้าวคอยต้อนรับ เมื่อเห็นว่าทั้งคู่มาถึง นักข่าวก็ฮือฮา ระดมถ่ายภาพ
“นี่มันอะไรกัน คุณคิดจะทำอะไร” อนุชแปลกใจ
“คุณกร้าว คุณนุช เชิญทางนี้ค่ะ”
เรขาผายมือเชิญ กร้าวพาอนุชมานั่งที่โซฟาที่จัดไว้สำหรับการแถลงข่าว
“ขอบคุณพี่ๆ ทุกคนที่สละเวลามานะครับ ผมมีข่าวดีจะแจ้งให้ทราบครับ ผมจะแต่งงานกับคุณนุช”
อนุชตกใจที่กร้าวแถลงข่าวเรื่องแต่งงาน ทำให้เป็นเรื่องใหญ่โต นักข่าวต่างฮือฮา
“ได้ฤกษ์แต่งงานรึยังคะ”
“ผมไม่ค่อยถือฤกษ์ยาม เอาตามฤกษ์สะดวก เราสองคนจะแต่งงานอาทิตย์หน้านี้ครับ”
อนุชตกใจ มองหน้ากร้าว พูดเบาๆ
“อาทิตย์หน้าเลยเหรอ”
นักข่าวถ่ายภาพรัว พร้อมสัมภาษณ์
“ทำไมกะทันหันนักคะ”นักข่าวสงสัย
กร้าวโอบไหล่อนุช โชว์หวาน
“ในเมื่อเราเจอคนที่ใช่ ก็ไม่รู้จะรออีกทำไม”
นักข่าวฮือฮากรี๊ดกร๊าดในความหวานของกร้าวที่ยิ้มสบายใจ อนุชไม่พอใจ ใช้ศอกกระทุ้งสีข้างกร้าวเจ็บ แต่ฝืนยิ้มไว้
“เร็วไปมั้ยคะ เห็นว่ารู้จักกันยังไม่ถึงปี” นักข่าวซัก
“แหม ไม่เร็วไปหรอกครับ ว่าที่เจ้าสาวสวยขนาดนี้ เป็นใครก็ต้องใจร้อนอยากรีบแต่งงานทั้งนั้น”
“คำถามสุดท้าย...แต่งงานแล้วจะมีลูกเลยมั้ย แล้วตั้งใจว่าจะมีกี่คนครับ”
“ก็เรื่อยๆ ครับ ปล่อยไปตามธรรมชาติ ผมอยากมีหลายๆคน แต่ก็ต้องแล้วแต่คุณนุชด้วยครับ”
นักข่าวเรียกร้อง
“ว่าที่เจ้าบ่าวหอมแก้มว่าที่เจ้าสาวหน่อยสิคะ”
อนุชไม่ยอมให้หอม จะลุกหนี
“สัมภาษณ์เสร็จแล้ว ฉันขอตัวนะคะ มีธุระ”
อนุชจะลุกหนี กร้าวดึงให้นั่ง
“เดี๋ยวสิครับ จะรีบไปไหนล่ะ”
กร้าวหอมแก้ม อนุชตกใจ นักข่าวรีบถ่ายรูปรัว
ปรารภดูข่าวการประกาศแต่งงานของกร้าวและอนุชในโทรทัศน์ อย่างนึกเป็นห่วงอรชา ขณะเดียวกันเชิดที่กำลังซื้อของ เห็นข่าวจากโทรทัศน์ในร้าน เห็นหน้ากร้าวก็จำได้ เขาแปลกใจมากที่กร้าวจะแต่งงานกับอนุช ไม่ใช่ลลิตา
ชายธงเห็นข่าวในโทรทัศน์ ก็ส่ายหน้า ไม่อยากเชื่อ
“เรื่องจริงเหรอเนี่ย...”
เขาตัดสินใจไปรอพบอนุชที่หน้าบ้าน ชายธงมายืนขวางหน้ารถ กร้าวรีบจอดรถ อนุชอยู่ในรถ เห็นชายธงก็ตกใจ
“ชายธง”
อนุชลงจากรถ ชายธงร้อนใจ
“ผมมีเรื่องจะถามนุช ผมเห็นข่าวที่นุชจะแต่งงานกับนายกร้าว ไม่จริงใช่มั้ย”
อนุชลำบากใจ แต่ตัดสินใจตอบ
“จริง”
ชายธงตกใจ เมื่อได้ฟังคำยืนยันจากปากอนุช
“นุชจะบอกชายธงแล้ว แต่ไม่มีโอกาส”
ชายธงโวย
“ผมรู้ว่านุชไม่ได้รักมัน มันบังคับนุชใช่มั้ย มันบังคับอะไร เรื่องเงินใช่มั้ย ผมจะช่วยนุชเอง ผมจะคืนเงินให้หมด นุชไม่จำเป็นต้องแต่งงานกับมัน”
กร้าวรีบลงจากรถ มาแยกชายธงจากอนุช
“ปล่อยนุชเดี๋ยวนี้”
ชายธงผลักกร้าว
“แกนั่นแหละ อย่ามายุ่งกับนุช”
“แต่นุชเป็นว่าที่เจ้าสาวของผม คนที่มีคู่หมั้นคู่หมายแล้วอย่างคุณต่างหากที่ไม่มีสิทธิ์มายุ่งกับนุช”
ชายธงโกรธ กระชากเสื้อ
“ฉันรู้ว่าแกบังคับนุช เรื่องเงินใช่มั้ย ฉันจะคืนเงินให้แกเอง”
อนุชห้าม แยกทั้งสอง จำต้องพูด
“พอแล้วชายธง คุณกร้าวไม่ได้บังคับ นุชเต็มใจแต่งงานกับเขาเอง”
ชายธงอึ้ง ใจสลาย
“ไม่จริง ผมไม่เชื่อ”
กร้าวโอบอนุช แสดงความเป็นเจ้าของ
“ได้ยินชัดแล้วใช่มั้ย กลับไปได้แล้ว แล้วต่อไปอย่ามายุ่งกับว่าที่เจ้าสาวผมอีก”
ชายธงเสียใจ เดินหนีไปขึ้นรถและขับออกไป อนุชเสียใจ สงสาร พอชายธงไปแล้ว เธอก็ผลักกร้าวออกเย็นชา
“พอได้แล้ว”
“อะไรของคุณ เมื่อกี้คุณบอกเองว่าเต็มใจแต่งงานกับผม”
“ฉันพูดไปเพราะอยากให้ชายธงตัดใจเท่านั้น ไม่มีความหมายอะไรซะหน่อย”
อนุชสะบัดเข้าบ้านไป กร้าวอ่อนใจที่อนุชเย็นชา
ค่ำนั้น...ข่าวในโทรทัศน์ เป็นภาพข่าวที่กร้าวหอมแก้มอนุช ลลิตาเห็นข่าวก็โกรธ กรี๊ดลั่น พร้อมกับขว้างหมอนอิงใส่โทรทัศน์
“อ๊ายย”
ลลิตาโกรธเกลียดอนุช อสิตรีบร้อนเข้ามา
“ลิต้า เกิดอะไรขึ้น”
ลลิตาไม่ตอบ กำลังคิดแค้นอนุช อสิตมาจับเนื้อตัว
“เมื่อกี้คุณร้องทำไม ใครทำอะไรคุณรึเปล่า บอกผมสิ”
ลลิตารำคาญอสิต สะบัดแขน
“ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน”
ลลิตาเดินหนีไป อสิตงวยงงไม่เข้าใจ
อนุชแวะมาดูแลอสิตตามปกติ เห็นพี่ชายนั่งเหม่อเศร้า ก็แปลกใจ
“พี่สิตยังไม่นอนเหรอคะ เป็นอะไรไปคะ ไม่สบายรึเปล่า”
อนุชแตะเนื้อตัวอสิต ดูว่าตัวร้อนรึเปล่า
“พี่สบายดี”
“มีเรื่องอะไร เล่าให้นุชฟังได้มั้ยคะ”
“พี่รู้สึกว่าลิต้าดูแปลกไป ดูเจ้าอารมณ์แล้วก็เย็นชากับพี่ ไม่รู้ว่าเขาโกรธอะไรพี่รึเปล่า ถามก็ไม่พูด นุชรู้มั้ยว่าลิต้ามีปัญหาอะไร”
อนุชนึกรู้ว่าลลิตาหึงที่อนุชกับกร้าวจะแต่งงานกัน แต่บอกอสิตไม่ได้
“ที่ผ่านมามีแต่เรื่องวุ่นๆ พี่ลิต้าอาจจะเหนื่อย นุชว่าอีกสักพัก พี่ลิต้าคงจะดีขึ้น พี่สิตอย่าคิดมากเลยนะคะ”
อสิตพยักหน้า รับฟังจบที่อนุชไม่สบายใจ อนุชคิดว่าเมื่อเธอแต่งงานกับกร้าวแล้ว ลลิตาคงตัดใจจากกร้าวได้และกลับมาดีกับอสิตเหมือนเดิม
อนุชเดินมาหน้าห้องอรชาอย่างรู้สึกเป็นห่วง เธอลองจับลูกบิดประตู เห็นว่ายังคงล็อคห้อง เธอเป็นห่วง จะเคาะประตู แต่ก็ยั้งมือไว้ เพราะรู้ว่าอรชาคงยังโกรธอยู่
วันใหม่...ภาพข่าวกร้าวและอนุชปรากฏในโทรทัศน์ พร้อมดูข่าวอย่างดีใจ
“คุณกร้าวกับคุณนุช”
ขำกรี๊ดกร๊าด
“ตัดชุดทันมั้ยเนี่ย แต่งตัวยังไงดี”
“เขาจะเชิญไปเหรอ แกไม่เกี่ยวเลย”
ขำหันมาอ้อนชาติ
“คุณชาติขา ให้ขำไปด้วยนะคะ”
ชาติไม่ค่อยสบายใจ กร้าวเดินเข้ามา
“คุณกร้าว มาพอดี ป้าดีใจที่สุดเลยค่ะ ที่คุณกร้าวกับคุณนุชลงเอยกัน”
ชาติหน้าตาเคร่งขรึม มองกร้าวอย่างมีเรื่องจะคุย
กร้าวยื่นการ์ดแต่งงานให้ชาติกังวล
“คิดดีแล้วเหรอ”
“คุณลุงอย่าห้ามผมเลย ไม่มีประโยชน์หรอกครับ ผมรอวันนี้มานานแล้ว วันที่จะล้างแค้นพวกวิชเวทย์ ผมทุ่มเททั้งชีวิตเพื่อสิ่งนี้ เป้าหมายของผมใกล้เป็นจริง ผมหยุดตอนนี้ไม่ได้”
กร้าวมุ่งมั่น ดื้อดึง ชาติไม่สบายใจ
“คิดบ้างมั้ยว่าหลังจากแก้แค้นสำเร็จแล้ว ชีวิตของหนูนุชจะเป็นยังไงต่อไป”
กร้าวอึ้ง เจ็บปวดใจ รู้สึกผิดอยู่เหมือนกัน คำถามของชาติแทงใจดำ แต่ทิฐิ และความแค้นมากกว่า
“ตอนที่นายประสิทธิ์ทำร้ายแม่ของผม ลุงว่ามันคิดบ้างมั้ย ว่าชีวิตของแม่ชื่นจะเป็นยังไงต่อไป”
กร้าวแววตาเจ็บปวด ชาติรู้ว่าห้ามไม่ได้
“จำไว้อย่างหนึ่งนะกร้าว คนเราไม่ใช่พระพรหมที่จะลิขิตชีวิตใครให้เป็นไปอย่างที่เราคิดได้ ทุกสิ่งที่กร้าวก่อขึ้นในวันนี้ มันจะย้อนกลับมาสร้างปัญหาให้กร้าวในวันข้างหน้า”
“ต่อให้ผมต้องตาย ผมก็ไม่กลัวครับ”
กร้าวมองชาติด้วยแววตาดื้อดึง ชาติไม่สบายใจ สงสารอนุชและห่วงกร้าวด้วย
ลลิตานั่งคิดหาทางเล่นงานอนุชอยู่ในสวน เชิดแอบปีนรั้วเข้ามาหา ผิวปากเรียก ลลิตามองไป เห็นหน้าเชิดก็ตกใจ
“ไอ้เชิด แกยังไม่ตายอีกเหรอ”
“ฉันเห็นข่าวแล้ว ไหงกลายเป็นแบบนี้ไปได้ ไหนบอกว่าไอ้นายกร้าวนั่นมันหลงเธอนักหนาไง...ปล่อยให้บ่อเงินบ่อทองหลุดมือไปได้ยังไง โง่จริงๆ”
“หุบปากไปเลย คนยิ่งกลุ้มๆ อยู่ ไปไกลๆ เลยไป”
ลลิตาจะเดินหนี เชิดบีบแขนอย่างแรง
“โอ๊ย ฉันเจ็บ”
“คิดว่าฉันอยากจะกลับมาแถวนี้เหรอ แกให้เงินฉันนิดเดียว ไม่กี่วันก็หมดแล้ว ถ้าอยากให้ฉันไปนัก ก็เอาเงินมาเยอะๆ สิ แล้วฉันจะไม่มาให้แกเห็นหน้าอีกเลย”
“ฉันไม่มี”
เชิดบีบปาก
“ปล่อยนะ ไม่งั้นฉันจะร้องให้คนช่วย ฉันจะฟ้องสิตว่าแกเป็นคนทำ”
“เอาสิ ฉันไม่ยอมติดคุกคนเดียวหรอก ฉันจะลากแกไปด้วย”
ลลิตากลัว
“อย่านะ ฉันกลัวแล้ว”
เชิดขู่
“อย่ามาลองดีกับฉัน เอาเงินมาเดี๋ยวนี้”
ลลิตาคิดแผนได้
“ฉันจะให้เงินแก แต่แกต้องช่วยฉันจัดการนังอนุช”
ลลิตาตาวาวอย่างมีแผน
ค่ำนั้น อนุชเคาะประตูห้อง อรชาล็อกห้อง แหวนยกถาดอาหารมาให้
“พี่อรคะ เปิดประตูให้นุชเข้าไปหน่อยสิคะ ทานอะไรสักหน่อยนะคะ พี่อรไม่ได้ทานอะไรมาตั้งแต่เมื่อวานแล้วนะ...อย่าทำแบบนี้เลยนะคะพี่อร พี่อรจะโกรธจะเกลียดนุชก็ได้ แต่อย่าทำร้ายตัวเองเลย นุชขอร้องล่ะค่ะ”
อรชานั่งบนเตียง ดูคลิปข่าวอนุชกับกร้าวในไอโฟน ร้องไห้ น้ำตานองหน้า เห็นเขาสวีทกันก็ยิ่งเจ็บ เสียงอนุชดังมาจากนอกห้อง
“พี่อรคะ เปิดประตูเถอะค่ะ”
อรชาปิดหู ไม่อยากได้ยินเสียงน้องสาว เธอร้องไห้ หัวใจแตกสลาย อนุชเคาะจนเจ็บมือ อรชาก็ไม่ยอมเปิดก็อ่อนใจ
“เอาไงดีคะคุณนุช” แหวนถามอย่างเป็นห่วง
“พี่อรคงไม่ยอมใจอ่อนง่ายๆ”
อนุชบอกเศร้าๆ แหวนเดินแยกไป
อนุชมองรูปคู่ตนกับอรชาในไอโฟน เป็นภาพพี่น้องรักกันและสนิทกันมากๆก็ใจหาย ทันใดนั้นมีหินก้อนเล็กๆ ขว้างมาโดนกระจกหน้าต่าง อนุชแปลกใจ เปิดออกไปดูที่ระเบียง เห็นเชิดนั่งรถเข็นออกจากบ้านไป ใส่เสื้อนอนแบบที่อสิตชอบใส่เป็นประจำ บรรยากาศมืดๆ เห็นไม่ชัด ก็คิดว่าเป็นอสิต
“ดึกป่านนี้แล้ว พี่สิตออกไปไหน”
อนุชไม่สบายใจ ห่วงอสิต รีบออกไป...อนุชเดินตามเชิด
“พี่สิตคะ พี่สิตจะไปไหนคะ”
เชิดไม่ตอบ รีบเข็นรถเข็นหนีไป อนุชรีบเดินตาม
“พี่สิตคะ รอนุชด้วย”
อนุชมามองหา เห็นแต่รถเข็นจอดอยู่ก็ตกใจ
“พี่สิต”
อนุชมองหาอสิต เชิดย่องมาด้านหลัง ปิดปากและจับตัวไว้ อนุชตกใจ ดิ้นรนขัดขืน แต่ร้องไม่ได้ ได้แต่ส่งเสียงอู้อี้ เชิดจะลากตัวไป แต่อนุชกระทืบเท้าเชิดอย่างแรงและศอกใส่ เชิดไม่ทันระวัง อนุชสะบัดหลุดวิ่งหนี
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย”
ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 6 (ต่อ)
ลลิตาสตาร์ทรถรออยู่ วางแผนจะจับตัวอนุชขึ้นรถไป เห็นอนุชวิ่งหนีก็ตกใจ
“แย่แล้ว”
อนุชวิ่งหนี เชิดวิ่งตามมา ลลิตากังวล
“อย่าคิดจะหนีไปได้เลยนังนุช”
ลลิตาเร่งเครื่อง ตั้งใจจะขับรถชนอนุช รถวิ่งมาอย่างเร็ว อนุชคิดว่าเป็นรถคนอื่นผ่านมา เลยโบกไม้โบกมือขอให้ช่วย
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยฉันด้วย”
ลลิตาเร่งเครื่องพุ่งเข้าชน อนุชตกใจ วิ่งหนีแล้วเสียหลักล้มลง รถที่ลลิตาขับจะพุ่งเข้าชน อนุชกรี๊ดลั่น
“อ๊ายย!”
ทันใดนั้นรถกร้าวเข้ามาขวาง บีบแตรลั่น ลลิตาเบรกกะทันหัน เกือบชนกับรถกร้าว เชิดเห็นมีคนมาตกใจ
“อยู่ไม่ได้แล้วเว้ย”
เชิดรีบหนีเอาตัวรอด ลลิตาเห็นมีคนมาก็ตกใจเหมือนกัน เลยรีบถอยหลังหนีไป กร้าวลงจากรถ มาประคองอนุช
“นุช เป็นไรรึเปล่า”
อนุชหวาดกลัว
อสิตเป็นห่วงอนุช กร้าวและลลิตาอยู่ด้วย กร้าวถามอย่างห่วงใย
“คุณบาดเจ็บตรงไหนรึเปล่า”
“ไม่เป็นไรค่ะ”
อสิตถามอย่างสงสัย
“ดึกแล้ว ออกไปข้างนอกทำไม”
“นุชเห็นผู้ชายคนหนึ่งนั่งรถเข็นออกไปจากบ้านเรา นุชนึกว่าเป็นพี่สิตก็เลยตามไป”
อสิตตกใจ
“ในบ้านเราเลยเหรอ ฝีมือพวกไหนกัน”
ลลิตากลัวโดนจับได้ รีบเบี่ยงเบนความสนใจ
“ฝีมือเสี่ยยศรึเปล่าคะสิต”
“ไม่น่าเป็นไปได้ หนี้ก็ใช้หมดแล้ว เสี่ยยศไม่น่ามายุ่งวุ่นวายกับเราอีก”
ลลิตาพยายามโน้วน้าว
“เอ่อ ยายนุชไปให้ท่าถึงที่ แล้วจากไปเฉยๆ แบบนี้ เสี่ยยศอาจจะเจ็บใจก็ได้ ต้องเป็นฝีมือเสื่ยยศแน่ๆ เลย”
กร้าวตัดบท
“ไม่ว่าจะเป็นฝีมือใครก็ตาม ต่อไปนี้พวกคุณทุกคนคงต้องระวังให้มาก”
อสิตถอนใจ
“โชคดีที่คุณกร้าวมาช่วยไว้ ว่าแต่คุณกร้าวมาทำอะไรแถวนี้เหรอครับ”
กร้าวอึกอัก
ก่อนหน้านี้ กร้าวขับรถมาจอดที่มุมหนึ่งริมรั้วบ้านวิชเวทย์ เขาลงจากรถ ยืนมองหน้าต่างห้องอนุช รู้สึกไม่สบายใจ นึกถึงคำพูดของชาติ
“คิดบ้างมั้ยว่าหลังจากแก้แค้นสำเร็จแล้ว ชีวิตของหนูนุชจะเป็นยังไงต่อไป”
กร้าวรู้สึกผิดและสงสารอนุช
“ทำไมคุณต้องเป็นอนุช วิชเวทย์ด้วย...ทำไม...”
กร้าวไม่สบายใจที่จะต้องแก้แค้นกับอนุช
กร้าวอึกอักก่อนจะแก้ตัว
“ผมมาทำธุระแถวนี้ บังเอิญผ่านมาเห็นเข้าน่ะครับ”
กร้าวโล่งอกที่อสิตและอนุชไม่สงสัย ลลิตาเจ็บใจที่เล่นงานอนุชไม่ได้
ลลิตาย่องเข้ามาในสวนเหลียวซ้ายแลขวา ระวังตัว กลัวใครมาเห็นเข้า เชิดซุ่มรออยู่ ผิวปากส่งสัญญาณให้ แล้วออกมาจากพุ่มไม้ที่หลบอยู่ เอาเสื้อนอนของอสิตมาคืนให้
“เป็นไงบ้าง มีใครสงสัยรึเปล่า”
ลลิตาโกรธ ทุบตีเชิด
“นี่ๆๆ แกมันไม่ได้เรื่องเลย แค่ผู้หญิงคนเดียวยังจัดการไม่ได้”
เชิดจับมือลลิตาไว้
“เป็นเพราะไอ้นายกร้าวนั่นมาขัดจังหวะต่างหาก ไม่งั้นนังอนุชไม่รอดแน่”
“เจ็บใจจริงๆ ที่มันรอดไปได้”
เชิดแบมือขอเงินลลิตาไม่พอใจ
“อะไร ทำงานไม่สำเร็จ ยังมีหน้ามาขอเงินอีก”
ลลิตาหงุดหงิด จะเดินหนี เชิดโกรธ จิกผมลลิตา
“โอ๊ย”
“แกกล้าเบี้ยวฉันเหรอ เอาเงินมา”
ลลิตากลัว
“ก็ได้ๆ ปล่อยก่อนสิ”
เชิดปล่อย ลลิตาจำต้องให้เงินไป เชิดพอใจที่ได้เงิน รีบปีนรั้วหนีไป ลลิตาหงุดหงิด เจ็บใจ
“นังนุช ครั้งนี้แกโชคดี แต่อย่าคิดว่าฉันจะยอมเสียคุณกร้าวให้แกง่ายๆ ในเมื่อฉันไม่มีความสุข แกก็อย่าหวังจะมีความสุขเลย”
ลลิตาแค้น คิดหาทางเล่นงานอนุชอีก
ในขบวนขันหมาก ซึ่งมีคณิตเป็นต้นเสียงโห่ กร้าวในชุดสูทพระราชทานชาย เข็นรถชาติ นำหน้าขบวน ทั้งกร้าวและชาติยิ้มแย้ม คนอื่นๆในขบวนร้องรำสนุกสนาน ดนตรีครึกครื้น
อนุชอยู่ในห้องนอน มองกระจกอย่างเศร้าๆ ไม่มีความสุข เธอแต่งชุดไทย แต่งหน้าทำผมพร้อมแล้ว ช่างแต่งหน้าซึ่งแอบมองขบวนขันหมากที่หน้าต่าง วิ่งเข้ามาหาอนุช ตื่นเต้นกว่าเจ้าสาว
“มาแล้วค่ะ มาแล้ว”
อนุชไม่ยินดียินร้าย ช่างแต่งหน้าแปลกใจ
“ยิ้มหน่อยสิคะ วันนี้วันแต่งงานนะ”
“วันแต่งงาน...ควรเป็นวันที่เจ้าสาวมีความสุขที่สุดใช่มั้ยคะ”
อนุชเศร้า เพราะรู้ว่าไม่ได้แต่งงานด้วยความรักเหมือนคู่อื่น ขณะเดียวกัน อรชาอยู่ในห้องนอนของตนยืนมองหน้าต่าง เห็นกร้าวอยู่ท่ามกลางขบวนขันหมากที่คึกคักยิ้มแย้ม มีความสุข อรชาร้องไห้ เสียใจ ที่เจ้าสาวไม่ใช่ตน
กร้าวยื่นซองเงินให้ผู้หญิงสองคนที่กั้นประตูแรก ผู้หญิงทั้งสองก็ยอมให้ขบวนขันหมากผ่านไปโดยดี พร้อมและขำกั้นประตูต่อมา ทั้งสองยิ้มแย้มแจ่มใส ดีใจที่กร้าวกับอนุชแต่งงานกัน กร้าวยื่นซองเงินให้ทั้งคู่
“ไม่พอค่ะ” ขำรีบบอก
พร้อมหยิกขำ
“นี่แหนะ ไม่พอ”
ขำร้องลั่น
“โอ๊ย”
พร้อมหันไปบอกกร้าว
“เชิญค่ะคุณกร้าว ป้าอยากเห็นคุณนุชเร็วๆค่ะ”
พร้อมและขำให้กร้าวและขบวนขันหมากผ่านไป
ลลิตากับเพื่อน กั้นประตูสุดท้ายอยู่ที่ทางขึ้นบันได ลลิตาหน้าตาบึ้งตึง อสิตคุยกับแขกอยู่มุมหนึ่ง ยิ้มแย้มแจ่มใส มีความสุข กร้าว ชาติ คณิตและขบวนขันหมากเข้ามา กร้าวเจอหน้าลลิตาก็ไม่สบายใจ ยื่นซองให้ ลลิตาจ้องหน้าไม่ยอมรับซอง กร้าวอึดอัดใจ คณิตเห็นท่าไม่ดี ดึงซองจากมือกร้าวมายัดใส่มือลลิตาพูดกลบเกลื่อน
“คนกันเองไม่ต้องเกรงใจหรอกครับ”
กร้าวยื่นซองให้เพื่อนลลิตา เพื่อนรับซองแล้วหลีกทางให้กร้าวผ่านไป กร้าวจะขึ้นบันได แต่ลลิตาขยับมาขวางทาง จ้องหน้ากร้าว
“ให้เพื่อนผมผ่านไปเถอะครับ” คณิตเข้ามาบอก
ลลิตาเสียงแข็ง
“ไม่!”
อสิตและแขกในงานต่างแปลกใจ มองลลิตาเป็นตาเดียว กร้าว คณิตและชาติหน้าเครียด พร้อมและขำต่างตกใจ ลลิตาจ้องหน้ากร้าว ไม่ยอมให้ผ่านไป
“ลิต้าไม่ยอมให้คุณกร้าวไป”
“ขอโทษนะครับ”
คณิตช่วยจับตัวไว้ ลลิตาดิ้นรน คณิตพยักหน้าให้กร้าวรีบผ่านไป เขาจึงรีบขึ้นบันไดไป
“ปล่อยฉันนะ ฉันไม่ให้คุณกร้าวไป ปล่อย”
คณิตพูดแก้ให้
“คุณลิต้าหวงน้องสาวน่าดูนะครับ แต่ให้ผ่านเถอะครับ เดี๋ยวจะไม่ทันฤกษ์”
ลลิตามองตามกร้าว ทั้งเจ็บปวดและเจ็บใจที่ต้องเสียเขาให้อนุช อสิตแปลกใจที่ลลิตาท่าทางแปลกๆ แต่ยังไม่รู้ ชาติ คณิต พร้อมและขำต่างโล่งอก
กร้าวเคาะประตูห้องอนุช ประตูเปิดออก อนุชในชุดหมั้น สวยหวาน กร้าวมองตะลึงไปชั่วขณะหนึ่ง ก่อนจะมอบช่อดอกไม้ที่เตรียมมาให้
“วันนี้คุณสวยมาก”
อนุชอาย รับช่อดอกไม้จากกร้าว
“ขอบคุณค่ะ”
กร้าวยื่นมือให้จับ อนุชจับมือ
กร้าวจูงมืออนุชลงบันไดมาด้วยกัน สวยหล่องามสง่าเหมาะสมกันมาก แขกทุกคนที่มาร่วมงาน ต่างปรบมือต้อนรับคู่หมั้น ลลิตาโกรธ ขยับไปขัดขวาง แต่คณิตซึ่งยืนประกบอยู่ รีบคว้าแขนไว้ ลลิตามองหน้า คณิตส่ายหน้ายิ้มๆ ทำนองว่าไม่ยอมให้ลลิตาขัดขวางงานหมั้นได้เด็ดขาด ลลิตาทนดูกร้าวและอนุชมีความสุขไม่ได้ สะบัดจากคณิตแล้วออกไป
ชาติและอสิตนั่งที่โซฟา กร้าวและอนุชนั่งพับเพียบที่พื้นหน้าโซฟานั้น ชาติส่งแหวนให้ กร้าวรับแหวนจากชาติ จับมืออนุชอย่างทะนุถนอมและบรรจงสวมแหวนที่นิ้วนางข้างซ้ายของเธอ อนุชไหว้ อสิตส่งแหวนให้ อนุชรับแหวนและสวมแหวนให้กร้าว เธอไหว้เขาอีกครั้ง ชาติและอสิตยิ้ม มีความสุข จากนั้นช่างภาพถ่ายภาพหมู่ กร้าวหอมแก้มอนุชให้ช่างภาพถ่ายภาพ พร้อม ขำ แหวน รวมทั้งแขกที่มาร่วมงานต่างยิ้มแย้มยินดีกับกร้าวและอนุช ลลิตายืนอยู่มุมหนึ่ง มองกร้าวและอนุชด้วยความริษยาและโกรธแค้น
เมื่องานช่วงเช้าผ่านไปด้วยดี แขกทยอยกลับไปหมดแล้ว อสิตตามหาลลิตา แหวนกำลังทำความสะอาดหลังงานเลิก
“เห็นคุณลิต้ามั้ย”
“ไม่เห็นค่ะ”
อสิตแปลกใจที่ลลิตาหายไป เขาดูนาฬิกา
“ถ้าคุณลิต้ามาให้ตามไปที่โรงแรมเลยนะ” อสิตสั่งแหวน
“ค่ะ”
อสิตออกไป
ในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรม...กร้าวกับอนุชนั่งที่ตั่งสำหรับรดน้ำสังข์ อนุชเปลี่ยนชุดเป็นชุดไทยประยุกต์ ห่มสไบ ส่วนกร้าวใส่สูธ ชาติเจิมหน้าผากและคล้องมาลาให้ทั้งสอง กร้าวและอนุชสบตากัน ต่างรู้สึกดีต่อกัน
ปรารภเข้ามาในบ้านวิชเวทย์ พบแหวนยกถาดอาหารลงบันไดมา เขามองอาหารในถาดแล้วไม่สบายใจ
“คุณอรไม่ยอมทานข้าวเลยเหรอ”
ปรารภห่วงอรชา ตัดสินใจขึ้นไปชั้นบน เคาะประตูห้องอรชา
“คุณอร นี่ผมปรารภนะครับ เปิดประตูให้ผมหน่อยเถอะครับ”
อรชาไม่ตอบ
“คุณอรได้ยินผมมั้ย คุณอร”
ปรารภกังวล กลัวอรชาเป็นอะไรไปตัดสินใจพังประตูเข้าไป อรชาตกใจ
“คุณรภ”
ปรารภเห็นหน้าอรชาดูเซียว เศร้าหมอง ไม่สดใสเหมือนเมื่อก่อนก็ไม่สบายใจ ดึงมือเธอจะพาออกจากห้อง
“จะพาฉันไปไหน”
“ไปไหนก็ได้ที่ไม่ใช่เอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ในห้องแบบนี้”
อรชาสะบัดแขน
“ฉันไม่ไป”
ปรารภเตือนสติ
“อย่าทำร้ายตัวเองเพื่อคนที่เขาไม่รักคุณเลย”
อรชาโกรธมาก
“คุณกร้าวรักฉัน”
“เขาไม่รัก เขาถึงแต่งงานกับนุช”
“นุชแย่งคุณกร้าวไปจากฉัน เขารักฉัน”
“ฟังผมนะ”
“ไม่ฟัง ออกไป ออกไป๊”
อรชาอาละวาด ขว้างของไล่ ปรารภจำต้องออกไป
อรชานั่งที่เตียงร้องไห้ เสียใจที่ปรารภมาพูดแทงใจดำ
ชาติรดน้ำสังข์เป็นคนแรก กล่าวอวยพรเตือนสติกร้าว
“จะทำอะไร ขอให้คิดให้ดี ใช้สติ อย่าใช้แต่ทิฐิ”
กร้าวนึกรู้ความหมายของลุง เขายกมือไหว้ ชาติรดน้ำสังข์ให้อนุช
“ลุงขอให้นุชรักษาความดีไว้ ความดีจะเป็นเกราะคุ้มภัยให้เรานะ”
อนุชไหว้ชาติ
“ขอบคุณค่ะป๋า”
มุมหนึ่งในห้องจัดเลี้ยงของโรงแรม...พร้อมและขำยิ้มปลื้ม ดีใจที่กร้าวและอนุชแต่งงานกัน กรวิกเดินเข้ามาในงานเงียบๆ เห็นกร้าวกับอนุชสบตากันหวานๆ กรวิกเศร้า เจ็บปวด ทางด้านอสิตรดน้ำสังข์ให้กร้าว
“นุชเป็นดวงใจของผมและทุกคนในบ้านวิชเวทย์ ขอให้คุณดูแลดวงใจดวงนี้ให้ดีที่สุดนะครับ”
กร้าวไหว้อสิต อนุชซึ้งใจ น้ำตารื้น
“พี่สิตคะ...”
อสิตรดน้ำสังข์ให้อนุช
“ขี้แยเป็นเด็กๆ ไปได้นะเรา พี่ขอให้นุชมีความสุขมากๆ ขอให้รักกันนานๆ”
อนุชไหว้อสิต
“ขอบคุณค่ะ พี่สิต”
แขกคนอื่นมารดน้ำสังข์ต่อจากอสิต
ปรารภนั่งที่มุมหนึ่งในสวน มองไปที่ห้องอรชาอย่างห่วงใย อรชายืนเหม่อเศร้าที่หน้าต่าง มองไปเห็นปรารภก็ไม่พอใจปิดม่าน โกรธที่เขาพูดทำร้ายจิตใจ เธออรชามานั่งที่เตียง มองถาดอาหารบนโต๊ะข้างเตียงแล้วรู้สึกหิว เธอลังเล จะกินดีหรือไม่ แล้วกุมท้อง ปวดท้อง เนื่องจากไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน อรชาทนไม่ไหว มองดูอาหารในถาดอย่างสนใจ
ในห้องจัดเลี้ยง แขกคนหนึ่งในงานรดน้ำสังข์ให้กร้าวและอนุชเป็นคนสุดท้าย อสิตพูดขึ้น
“อวยพรเจ้าบ่าวเจ้าสาวกันครบทุกคนแล้วนะครับ”
ทันใดนั้นเสียงลลิตาดังขึ้น
“ยังเหลือฉันอีกคน”
ชาติ อสิต คณิตแปลกใจ หันไปมอง ลลิตาเดินเฉิดฉายเข้ามาในห้องจัดเลี้ยง ใส่ชุดไทยคล้ายกับอนุชมาก เหมือนเป็นเจ้าสาวอีกคน แขกเหรื่อต่างฮือฮาที่ลลิตาแต่งตัวเหมือนเป็นเจ้าสาว กร้าวและอนุชแปลกใจ
“ลิต้า คุณหายไปไหนมา แล้วทำไมแต่งตัวอย่างนี้” อสิตอึ้งๆ
ลลิตาไม่สนใจ เดินผ่านอสิตไป ชาติและคณิตหน้าเครียด กลัวลลิตาป่วนพิธี กร้าวและอนุชไม่สบายใจ ไม่รู้ว่าลลิตาจะมาไม้ไหน
“ขอให้ฉันอวยพรคนสำคัญของฉันด้วยคน” ลลิตารับสังข์มาพูดประชด
ลลิตาเดินเข้าไปหา กร้าวและอนุชต่างระแวง ลลิตามาหยุดที่ตั่งรดน้ำสังข์ แล้วสาดน้ำสังข์ใส่อนุช แต่กร้าวเข้ามาขวาง ปกป้อง เลยโดนสาดใส่เอง แขกในงานต่างกรี๊ดกร๊าด ฮือฮาตกใจกัน อสิตตกใจมาก ไม่เคยสงสัยความสัมพันธ์ระหว่างกร้าวกับลลิตามาก่อน
“ลิต้า!”
กรวิกมองอย่างตกใจ ไม่เคยรู้เรื่องมาก่อน ลลิตาโกรธที่กร้าวปกป้องอนุช
“คุณปกป้องมันทำไม”
ลลิตาจะเข้าไปทำร้ายอนุช
“แกหลีกไปเลยนะ ตรงนี้เป็นที่ของฉัน ไม่ใช่แก”
กร้าวขวางลลิตาไว้ ไม่ให้ทำร้ายอนุช
“หยุดนะลิต้า”
“เจ้าสาวของคุณกร้าวต้องเป็นฉัน ไม่ใช่แก คุณกร้าวเขารักฉัน”
คณิตพา รปภ. เข้ามา
“จับตัวไปเลยครับ พาออกไปเลย”
รปภ. รีบเข้ามาจับตัว ลลิตาดิ้นรนขัดขืน โวยวาย ตลอดทางที่รปภ. ลากตัวออกจากห้องจัดเลี้ยง
“ปล่อยฉัน นังนี่มันหน้าด้าน มันแย่งคุณกร้าวไปจากฉัน คุณกร้าวเป็นของฉัน”
รปภ. จับตัวลลิตาออกจากงานไป อสิตรีบตามไป ชาติ พร้อมและขำต่างกังวล แขกในงานต่างฮือฮา
“เจ็บตรงไหนรึเปล่า” กร้าวห่วงอนุช
อนุชโกรธ ผลักกร้าว แล้วลุกหนีไป
“นุช”
กร้าวรีบตามไป
รปภ. จับตัวลลิตาออกมาจากงาน เธอดิ้นรนขัดขืน อาละวาดโวยวายมาตลอดทาง
“ปล่อยฉัน ปล่อย”
ลลิตากระทืบเท้า รปภ. แล้วสะบัดหลุด จะวิ่งกลับเข้าไปในงาน อสิตตามมาลลิตาชะงักตกใจ
“สิต”
อสิตมองลลิตา ผิดหวังและเสียใจมาก
“คุณพูดอะไรออกไป คุณกับคุณกร้าว...”
ลลิตาเฉย ไม่แคร์
“ฉันพูดความจริง คุณกร้าวรักฉัน เราสองคนรักกัน นังนุชแย่งคุณกร้าวไปจากฉัน”
อสิตเสียใจ กระชากแขกลลิตา
“หมายความว่าคุณสวมเขาให้ผมเหรอ คุณทำได้ยังไง”
ลลิตาสะบัดแขน อสิตไม่ปล่อย ยื้อยุดกันจนอสิตเสียหลักล้มลงจากรถเข็น
“โอ๊ย”
ลลิตามองอสิตอย่างดูถูก อสิตเอื้อมมือให้ช่วย ลลิตาขยับหนี ไม่แตะ
“ก่อนจะว่าฉัน ดูตัวเองก่อน คุณกร้าวเหนือกว่าคุณทุกอย่าง ส่วนคุณ...แค่เดินยังทำไม่ได้ จะให้ฉันทนอยู่กับคุณได้ไง”
ลลิตาสะบัดหนีไป
“กลับมาเดี๋ยวนี้นะลิต้า! ลิต้า!”
อสิตทุบพื้น ทั้งเสียใจและเจ็บใจตัวเอง...อนุชเดินเข้ามาเห็นอสิต
“พี่สิต”
อนุชจะเข้าไปหาอสิต พนักงานโรงแรมช่วยประคองอสิตขึ้นนั่งรถเข็น
“นุช” กร้าวตามมา
กร้าวอยากจะอธิบายแต่อนุชโกรธ เห็นหน้าเขาก็รีบหนีไปเลย กร้าวตามไป
อนุชเดินหนีมามุมหนึ่งในโรงแรม โกรธเพราะคิดว่ากร้าวกับลลิตาวางแผนกันเพื่อทำร้ายอสิต กร้าวตามมาจับมือไว้
“สะใจคุณแล้วใช่มั้ย คุณทำลายครอบครัวฉัน พวกเราไปทำอะไรให้คุณ ทำไมคุณต้องทำกับพวกเราแบบนี้”
“ผมไม่รู้มาก่อนว่าลิต้าจะทำแบบนี้”
“ฉันไม่เชื่อ”
อนุชจะเดินหนี กร้าวดึงไว้
“จะไปไหน แล้วงานแต่งงานของเราล่ะ”
“งานแต่งงานจอมปลอม มันไม่มีความหมายอะไรสำหรับฉันหรอก ให้พังไปน่ะดีแล้ว”
กร้าวเสียใจ มองจ้องตา อนุชจ้องกลับด้วยความโกรธแล้วเดินหนีไป กร้าวเจ็บปวด เสียใจ
ชาตินิ่ง แต่คณิตกังวลเมื่อกร้าวและอนุชไม่กลับมาเสียที
“เจ้าบ่าวเจ้าสาวหายไปเลย ทำไงดีครับลุง”
“อะไรจะเกิดก็ให้มันเกิด เจ้ากร้าวมันเรียนผูก ก็ให้มันเรียนแก้เอง”
ชาตินิ่ง รู้อยู่แล้วว่าสักวันต้องเกิดปัญหา คณิตกระวนกระวาย
อนุชยืนเศร้าอยู่มุมหนึ่งในโรงแรม กรวิกเข้ามาหา
“นก” อนุชจับมือกรวิกดีใจ “นุชดีใจที่นกมา นกหายโกรธนุชแล้วใช่มั้ย”
กรวิกท่าทีเย็นชาไม่สนิทกันเหมือนเมื่อก่อน
“ถ้าไม่มา ฉันคงเสียดายแย่ พี่สะใภ้กับน้องสามีแย่งผู้ชายคนเดียวกัน น้ำเน่าขนาดนี้ หาดูที่ไหนได้”
อนุชตกใจ
“นก”
กรวิกสะบัดมือ
“กอดไว้ให้แน่นๆนะ ผู้ชายที่เธอเที่ยวไปแย่งใครต่อใครมา ระวังจะโดนแย่งคืน”
กรวิกปล่อยมือจากอนุช แล้วเดินหนีไป กรวิกนึกได้ หันกลับมา
“ขอให้มีความสุข”
กรวิกออกไป อนุชร้องไห้ เสียใจ ที่เพื่อนรักโกรธตน
กร้าวเข้ามาในงาน คณิตห่วงอนุช รีบถาม...
“คุณนุชเป็นไงบ้าง”
“จะห่วงทำไม งานแต่งงานครั้งนี้ไม่มีความหมายอะไรสำหรับเขาอยู่แล้ว”
กร้าวเดินหนีไป คณิต ชาติ พร้อมและขำต่างไม่สบายใจ
เย็นนั้น... แหวนยกกระเป๋าข้าวของของลลิตาขึ้นรถแท๊กซี่ ลลิตาให้เงินตอบแทน แหวนรับเงินแล้วออกไป ลลิตามองบ้านวิชเวทย์ รู้สึกใจหาย เธอจำต้องตัดใจเพื่อเริ่มต้นชีวิตใหม่ขึ้นรถแท๊กซี่ไป อสิตอยู่ที่มุมหนึ่งในบ้านซึ่งสามารถมองออกไปเห็นหน้าบ้าน เห็นภาพลลิตาจากไป เขามองอย่างเจ็บปวด เสียใจ
อสิตเข้ามาในห้องนอน มองไปรอบๆ ห้องไม่ว่ามองไปมุมไหนก็เห็นภาพลลิตา อสิตเสียใจหยิบกรอบรูปบนโต๊ะเล็กข้างเตียงขึ้นมาดู เป็นรูปคู่ของเขากับลลิตาในวันแต่งงาน เขามองดูแล้วน้ำตาคลอ
ลลิตานั่งในรถแท็กซี่นึกถึงอดีต...ในร้านขายขนม ลลิตาแต่งชุดเสื้อกล้ามรัดรูปเซ็กซี่กำลังไสน้ำแข็งเรียกลูกค้า
“ขนมหวานๆ เย็นๆ จ้า”
ลูกค้าชายทั้งหนุ่มทั้งแก่แน่นร้านต่างมองเธอเป็นตาเดียว ลลิตายกถ้วยขนมไปเสิร์ฟลูกค้าชายคนหนึ่งลูกค้ารับถ้วยขนมพร้อมฉวยโอกาสจับมือ ลลิตายิ้ม โปรยเสน่ห์ไม่ได้คิดอะไรด้วย แค่ต้องการขายขนมให้ได้เยอะๆ ที่หน้าร้าน หญิงคนหนึ่งพาลูกน้องชาย 2 คนเข้ามา ลูกน้องของผู้หญิงคนนั้นพังแผงขายขนม ลลิตากรี๊ดลั่น
“พวกแกทำอะไร หยุดนะ”
แต่พวกลูกน้องไม่ฟัง ลลิตาโกรธ ไปตบตีทำร้ายผู้หญิง ลูกน้องมาจับตัวลลิตาไว้ ผู้หญิงคนนั้นตบหน้าลลิตาหลายฉาด ลลิตาสู้ไม่ได้ โดนรุม ลูกน้องผลักล้มลง หญิงคนนั้นลากสามีกลับบ้านไป พวกชาวบ้านเอาแต่มุงดู ไม่มีใครช่วย ลลิตาร้องไห้ ทั้งเจ็บใจและเสียใจ
ลลิตาเก็บข้าวของที่ยังพอใช้ได้ ทั้งน้ำตา เก็บของไปบ่นไปด้วยอย่างเจ็บใจ
“อย่าให้รวยบ้างละกัน”
อสิตมาช่วยเก็บ
“นี่ครับ”
ลลิตาเงยหน้ามอง อสิตยิ้มให้อย่างใจดี
“ผมช่วยนะครับ”
ลลิตาปิ๊งทันที เพราะอสิตหน้าตาดี แต่งตัวภูมิฐานและยังดูเป็นคนดีอีกด้วย ลลิตายิ้มพอใจ คิดจะจับอสิต เพราะอยากสบาย
อสิตอยู่ในห้องทำงาน คิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น...
“ก่อนจะว่าฉัน ดูตัวเองก่อน คุณกร้าวเหนือกว่าคุณทุกอย่างส่วนคุณ...แค่เดินยังทำไม่ได้ จะให้ฉันทนอยู่กับคุณได้ไง”
อสิตน้ำตาไหล ทั้งเสียใจที่คนรักจากไปและเจ็บใจที่ถูกลลิตาหักหลัง เขาปิดหน้าร้องไห้ด้วยความเจ็บปวดและคับแค้นใจ
ชาติอวยพรอนุชในห้องแล้วบ่นๆ
“เจ้ากร้าวหายหัวไปไหนนะ เสียฤกษ์ส่งตัวหมด”
“ช่างเขาเถอะค่ะ”
ชาติมองอย่างเป็นห่วง
“เข้มแข็งไว้นะ ป๋าขอให้บุญรักษา ขอให้ความดีคุ้มครองนุชนะลูก”
อนุชกราบตัก ชาติลูบผมด้วยความรักเหมือนลูกเหมือนหลาน
กร้าวอยู่ในห้องทำงานที่บ้าน เขาดื่มเหล้าหมดแก้วแล้ววางบนโต๊ะใกล้กับกรอบรูปพ่อและแม่ ก่อนจะคว้าขวดเหล้ามาเท แต่เหล้าหมด เขาหงุดหงิด กระแทกขวดวางไว้บนโต๊ะ หยิบกรอบรูปมามองดูอย่างปวดร้าว
“แม่ครับ...ไอ้ประสิทธ์ทำร้ายแม่ยังไง วันนี้ผมจะทำกับลูกสาวของมันเหมือนกัน”
กร้าวตาวาวด้วยความแค้น
อนุชยังใส่ชุดไทย นั่งบนเตียง กังวลใจ กร้าวเมาเข้ามาจะเปิดประตู แต่เปิดไม่ได้ ประตูล็อก เขาหงุดหงิด ทุบประตู อนุชสะดุ้ง
“เปิดประตู” กร้าวเสียงดัง
อนุชนั่งนิ่ง ไม่เปิด รู้สึกกังวลที่กร้าวดูน่ากลัว
“ผมบอกให้เปิดประตู” กร้าวยิ่งหงุดหงิด
กร้าวทุบประตูเสียงดัง ไม่ยอมหยุด อนุชปิดหู ไม่อยากได้ยินเสียง
“ไม่เปิดใช่มั้ย”
กร้าวเข้ามาในห้องทำงานเปิดลิ้นชัก ควานหากุญแจห้องจนเจอ ขณะที่อนุชอยู่ในห้องนอนเห็นเสียงเงียบไปก็แปลกใจ ลุกไปที่ประตูห้อง แนบหูกับประตูฟังเสียง แต่ข้างนอกเงียบกริบ...กร้าวเดินมาหยุดที่หน้าประตูไขกุญแจ อนุชได้ยินเสียงไขกุญแจก็ตกใจ
ทันใดนั้นกร้าวจะเปิดประตูเข้ามา อนุชรีบดันประตู แต่สู้แรงไม่ได้ เขาดันประตูเข้ามาจนได้จนเธอเซไป...กร้าวปิดประตู ตรงเข้ามาหาอย่างน่ากลัว
“คุณจะทำอะไร”
“เข้าหอไง แต่งงานแล้วก็ต้องเข้าหอสิ”
อนุชถอยกรูด
“อย่าเข้ามานะ”
อนุชถอยมาที่เตียงนอน คว้าหมอนได้ก็ขว้างใส่แต่กร้าวปัดทิ้งตรงเข้ามาจะคว้าตัว อนุชหลบวิ่งหนี เขาจึงคว้าได้แต่ลม เธอรีบวิ่งหนีออกจากห้องเขาตามมาคว้าตัวไว้ อนุชดิ้นรน
“ปล่อยฉัน”
กร้าวอุ้มอนุชตัวลอยเข้ามาในห้อง
“ปล่อยฉัน คุณไม่มีสิทธิ์ทำกับฉันแบบนี้นะ”
กร้าวโยนลงบนเตียงนอน
“ทำไมผมจะไม่มีสิทธิ์”
กร้าวนึกถึงคำพูดของประสิทธิ์ในอดีตที่พูดกับแม่ของเขา
‘แกเป็นลูกหนี้ฉัน ฉันเป็นเจ้าชีวิตแก’
กร้าวหันมาจ้องอนุช
“ผมจะทำอะไรกับคุณก็ได้”
อนุชจะลุกหนีจากเตียง เขาโถมร่างทับตัวเธอไว้ ปลุกปล้ำซุกไซร้
“อย่านะ”
อนุชได้จังหวะกัดไหล่เขา
“โอ๊ย”
เธอเอาเท้ายันเขาเสียหลักไป แล้วรีบหนี...อนุชหนีมาอีกมุมในห้องนอนแต่กร้าวตามมาทัน จับตัวไว้แล้วดันไปติดกำแพง เธอตื่นกลัว พนมมือไหว้ร้องไห้
“อย่าทำฉันเลย ฉันกลัวแล้ว”
กร้าวมองอนุชแล้วนึกถึงแม่ในอดีตที่พนมมือขอร้องประสิทธิ์...กร้าวเจ็บปวดใจ จับไหล่อนุชไว้ทั้งสองข้าง กระชากตัวเข้ามาใกล้ พูดเสียงดัง
“มีผู้หญิงคนหนึ่งเขาพูดเหมือนคุณ เขาร้องขอความเมตตาจากมัน แต่มันไม่ฟัง”
“คุณพูดอะไร ฉันไม่เข้าใจ”
กร้าวลืมตัว เขย่าตัวอนุชอย่างแรง
“ผู้หญิงตัวเล็กๆ ไม่มีทางสู้ มันยังทำได้ มันฆ่าแม่ชื่นทั้งเป็น”
อนุชกลัวและไม่เข้าใจ
“คราวนี้รู้รึยังว่าแม่ชื่นรู้สึกยังไง รู้รึยัง”
กร้าวกอดจูบซุกไซร้ อนุชหวาดกลัวสุดขีด
“อย่าาาา!”
อนุชเป็นลม หมดสติ ทรุดจะล้ม กร้าวประคองไว้
“นุช! นุช!”
กร้าวตกใจที่อนุชหมดสติไป
ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 6 (ต่อ)
ค่ำนั้น ชายธงฟุบหลับกับโต๊ะทรงสูงในผับหรูแห่งหนึ่งโทรศัพท์มือถือวางอยู่บนโต๊ะ มีสายเข้ามา หน้าจอขึ้นชื่อ “คุณพ่อ” ชายธงเมาหลับไม่รู้เรื่อง จึงไม่รับสาย
เธียรซึ่งกำลังโทรหาชายธง กังวลที่ลูกชายไม่ยอมรับสาย ธารินเข้ามา
“ได้เรื่องแล้วค่ะ”
“เจอชายธงแล้วเหรอ”
“เพื่อนรินบอกว่าพี่ชายธงอยู่ที่ร้านเขาค่ะ รินจะไปพาพี่ชายธงกลับมาค่ะ”
“ขอบใจนะหนูริน”
ธารินยิ้มให้เธียรแล้วรีบออกไป
ชายธงรู้สึกตัวตื่นขึ้น คว้าแก้วเปล่ามาดื่ม เหล้าหมดก็ขัดใจ มองหาพนักงานแต่ไม่มีใครสนใจ ชายธงลุกขึ้น จะไปเรียกพนักงาน แต่ทรงตัวไม่อยู่ เซไปกอดผู้หญิงคนหนึ่งที่มากับแฟน
“ว้าย”
ชายคนนั้นไม่พอใจ
“เฮ้ย”
ชายคนนั้นผลักชายธงออกห่างจากผู้หญิง ชายธงโกรธ ผลักกลับ ชายคนนั้นโมโห ชกชายธงล้มลงเพื่อนๆที่มาด้วยกันช่วยกันรุมชายธง...ธารินเข้ามามองหาชายธง เห็นเขาโดนรุมซ้อมก็ตกใจ
“พี่ชายธง”
ธารินรีบเข้าไปช่วยชายธง
“อย่าค่ะ พอได้แล้ว”
เพื่อนธารินซึ่งเป็นหุ้นส่วนร้านและพนักงานมาช่วยกันห้ามและเคลียร์กับกลุ่มของชายคนนั้น ธารินกังวล เขย่าตัวชายธงที่เมาไม่รู้เรื่อง พนักงานช่วยประคองชายธงไปนั่งในรถ ธารินเดินตามมากับเพื่อนผู้ชายที่เป็นหุ้นส่วนร้าน
“ขอบใจนะ”
ธารินให้เงินพนักงานที่ช่วยประคองมา เพื่อนและพนักงานจึงพากันกลับไป
ธารินเข้ามานั่งในรถ มองชายธงที่เมาหลับไม่ได้สติ หน้าตาเป็นแผลและบวมช้ำแล้วสงสาร เธอเสยผมให้เขาอย่างแผ่วเบาเพ้อเศร้าๆ
“นุช...”
ธารินกุมมือชายธงไว้อย่างสงสาร
อนุชนอนบนเตียง เปลี่ยนชุดเป็นชุดนอนแล้ว พร้อมเป็นคนเปลี่ยนเสื้อและเช็ดตัวให้ คณิตตรวจอาการ กร้าวนั่งอยู่ข้างเตียงอย่างกังวล กลัวว่าอนุชจะเป็นอะไรไปรีบถาม
“เป็นไงบ้าง”
“อาการทั่วไปก็ปกติดี คุณนุชคงจะพักผ่อนน้อย ร่างกายอ่อนเพลีย นอนพักก็จะดีขึ้นเอง”
กร้าวโล่งอก
“ขอบใจ”
คณิตมองกร้าว ไม่สบายใจ
“แกควรจะดูแลคุณนุชให้ดีๆ”
คณิตแตะไหล่กร้าว แล้วออกไป กร้าวมองอนุชแล้วรู้สึกผิด ที่ทำให้อนุชเป็นแบบนี้
คณิตออกมาจากห้อง พร้อมรออยู่อย่างเป็นห่วง
“คุณนุชเป็นไงบ้างคะ”
“ไม่เป็นไรครับ เพียงแต่เป็นลมไปเท่านั้น”
พร้อมโล่งอก
“ไปกันเถอะครับ”
“ค่ะ”
พร้อมตามคณิตออกไป
กร้าวนั่งมองอนุชด้วยความสับสนในใจ รู้สึกผิดต่อแม่ที่แก้แค้นไม่สำเร็จ ขณะเดียวกันก็รู้สึกผิดต่ออนุชที่ทำให้เธอล้มป่วย กร้าวลูบผมอนุชด้วยความห่วงใย นึกถึงคำพูดตัวเองที่ได้สาบานไว้กับรูปแม่
‘แม่ครับ...ไอ้ประสิทธ์ทำร้ายแม่ยังไง วันนี้ผมจะทำกับลูกสาวของมันเหมือนกัน!’
กร้าวลูบไล้แก้มอนุชหน้าเครียด มองเธออย่างสับสนในใจว่าจะทำร้ายเธอดีหรือไม่ แต่แล้วเขาชะงักมือ เพราะทำร้ายเธอไม่ลง กร้าวกุมขมับ สับสนในใจ คิดไม่ออกว่าควรทำอย่างไรดี
เช้าวันใหม่...อนุชรู้สึกตัวตื่นขึ้นงงนิดหนึ่ง พอนึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก็รีบสำรวจตัวเอง พอเห็นว่าใส่ชุดนอนก็ตกใจ คิดว่าโดนเขาข่มขืนไปแล้ว กร้าวเคาะประตูและเปิดประตูเข้ามา ถือถาดใส่อาหารมาด้วย เห็นอนุชฟื้นแล้วก็ดีใจ
“ตื่นแล้วเหรอ ทานอะไรสักหน่อย”
อนุชเห็นหน้าเขาก็กลัว
“อย่าเข้ามานะ”
อนุชคว้าของแข็งๆ ที่อยู่ใกล้ตัวขึ้นมาเตรียมพร้อมป้องกันตัว
“คุณจะทำอะไรของคุณ”
“ออกไปนะ”
กร้าวไม่อยากให้อนุชเครียด วางถาดอาหารไว้
“ผมไปทำงานก่อน อย่าลืมทานข้าวด้วย”
กร้าวออกจากห้องไป อนุชระแวง กำอาวุธในมือแน่น รอจนกร้าวออกไป อนุชโล่งอก แต่ก็เสียใจเพราะคิดว่าโดนกร้าวข่มขืนแล้ว
ชายธงรู้สึกตัวตื่นขึ้น ปวดศีรษะเพราะดื่มหนักและเจ็บปากที่โดนชกจนบวมช้ำ
“โอ๊ย”
ชายธงหันมาเห็นธารินฟุบหน้าหลับอยู่ข้างเตียง
“ริน...”
ชายธงแปลกใจ เขาหันไปมองข้างๆ เห็นบนโต๊ะเล็กข้างเตียงมีอ่างเล็กและผ้าชุบน้ำวางอยู่ รวมทั้งชุดทำแผล ก็นึกรู้ว่าธารินดูแลตนตั้งแต่เมื่อคืน ชายธงมองธารินด้วยความรู้สึกผิดที่ทำให้เธอต้องเดือดร้อน เขาจะหยิบผ้าห่มไปคลุมให้ธาริน แต่พอขยับตัวก็เจ็บ
“โอ๊ย”
ธารินสะดุ้งตื่น มองอย่างเป็นห่วง
“พี่ชายธง เจ็บตรงไหนรึเปล่าคะ”
ชายธงและธารินนั่งที่โต๊ะเก้าอี้ในสวน ธารินตักข้าวต้ม เป่าให้หายร้อนและป้อนชายธง
“ทานสักหน่อยนะคะ จะได้ทานยา”
ชายธงค่อยๆ อ้าปากกินข้าวต้มอย่างยากเย็นเพราะเจ็บมุมปาก ธารินเช็ดปากให้อย่างอ่อนโยน
ชายธงมองดูธารินที่ดูแลตนอย่างดีแล้วซึ้งใจ
“พี่ขอโทษที่ทำให้รินต้องลำบาก”
ธารินยิ้มสบายใจ
“พูดอะไรอย่างนั้นคะ รินไม่ลำบากเลยสักนิด”
ชายธงเศร้าๆ แต่ก็ยิ้มให้กัน
อนุชนั่งเหม่อ คิดวนเวียนถึงแต่เหตุการณ์เมื่อคืนแล้วก็ไม่สบายใจ กร้าวเดินเข้ามาดู
“คิดแล้วเชียวว่าคุณต้องไม่ยอมทานข้าวเช้า”
อนุชตกใจ เจอกร้าวก็กลัว รีบถอยกรูด
“อย่าเข้ามานะ”
อนุชจะหนี กร้าวจับตัวไว้
“จะทำอะไร ปล่อยฉัน”
“มานี่”
กร้าวดึงอนุชออกไป อนุชฉวยคว้าของตกแต่งที่เป็นของแข็งได้ก็ตีมือ กร้าวเจ็บ ต้องปล่อยมือ
“โอ๊ย”
อนุชทำท่าจะสู้
“นี่คุณ ทำไมต้องทำร้ายกันด้วย”
อนุชระแวง
“คุณจะพาฉันไปไหนล่ะ”
กร้าวจำต้องอธิบาย
“เมื่อคืนคุณเป็นลม หมอคณิตมาดูอาการให้ บอกว่าร่างกายคุณอ่อนเพลียมาก ผมก็เลยซื้อข้าวมาให้เท่านั้นเอง”
อนุชอึ้ง
“ฉันเป็นลมเหรอ แล้ว...ใครเปลี่ยนเสื้อให้ฉัน”
กร้าวรู้ทัน แกล้งอนุช
“เราอยู่กันสองคน แล้วคุณคิดว่าใครล่ะ”
อนุชตกใจ
“งั้นคุณก็...”
กร้าวทะเล้น แกล้งมองร่างกายอนุช ทำสายตาเจ้าชู้กรุ้มกริ่มใส่ อนุชอายมาก กร้าวหลุดขำ
“คุณขำอะไร”
กร้าวเฉลย
“ป้าพร้อมเปลี่ยนเสื้อผ้าให้คุณ ไม่ใช่ผมหรอกน่า”
อนุชโล่งอก กร้าวถามยิ้มๆ
“ทีนี้จะยอมทานข้าวได้รึยัง”
กร้าวตักอาหาร จะป้อนข้าวอนุช
“ฉันทานเองได้”
อนุชรับช้อนมาจากกร้าว ยังไม่ทันกิน นึกได้
“แล้วคุณล่ะ”
กร้าวดูนาฬิกา
“ไม่ทันแล้ว ผมต้องกลับไปทำงานต่อ คุณทานให้หมดนะ จะได้มีแรงสู้กับผมไง”
กร้าวลุกขึ้น อนุชลุกตามไป ถามอย่างห่วงๆ
“คุณมัวแต่ซื้อข้าวให้ฉันจนไม่มีเวลาทานข้าวกลางวันเหรอ”
“ผมไม่เป็นไรง่ายๆ หรอก ไม่ต้องห่วง”
“ฉันไม่ได้ห่วงสักหน่อย”
กร้าวนึกได้ หันมาแตะหน้าผากและแก้มอนุชอย่างอ่อนโยนและห่วงใย
“ตัวไม่ร้อนแล้ว”
อนุชอึ้งที่กร้าวอบอุ่นและอ่อนโยน ทั้งคู่สบตากันหวานๆ
“ผมต้องไปแล้ว เลิกงานแล้วผมจะรีบกลับมารับคุณไปข้างนอกกัน”
อนุชรู้สึกดีกับกร้าวมากขึ้น จากตอนแรกที่ระแวง
อรชาโวยวาย ไล่ เมื่อปรารภมาหา
“ออกไป อย่ามายุ่งกับฉัน”
ปรารภใจเย็น พยายามเกลี้ยกล่อม
“ผมเอาหนังสือมาฝากคุณอรเยอะแยะเลย อ่านหนังสือจะได้ไม่เบื่อไงครับ”
ปรารภพูดพลางหยิบหนังสือจากกระเป๋าออกมาให้อรชาดู อรชาคว้าหนังสือได้ก็ขว้างใส่
“ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ ออกไป”
ปรารภรีบเผ่นออกจากห้องแทบไม่ทัน
ปรารภรีบหนีออกมาจากห้องอรชา เจออนุชที่ได้ยินเสียงอรชาโวยวายก็รีบมาดู ทั้งคู่
ต่างแปลกใจและดีใจที่เจอกัน จึงพากันมาเดินคุยด้วยกันในสวน
“พี่ใจคอไม่ดี กลัวคุณอรเป็นอะไรไป ก็เลยพังประตูเข้าไปดู กลอนประตูเสียหมดเลยครับ”
“ดีแล้วล่ะค่ะ พี่อรจะได้ไม่ขังตัวเองอยู่แต่ในห้องอีก”
“จิตใจคุณอรบอบช้ำมาก คงต้องใช้เวลานานกว่าจะลืมเรื่องที่เกิดขึ้น...แล้วนุชเป็นไงบ้าง”
อนุชตอบเลี่ยงๆ
“นุชสบายดีค่ะ นุชขอตัวไปดูพี่สิตก่อนนะคะ” อนุชจะแยกไป แล้วนึกได้ หันมาบอก
“คราวหน้าลองเปลี่ยนเป็นนิตยสารแฟชั่นสิคะ พี่อรชอบ”
ปรารภยิ้ม มีหวังขึ้น
“ขอบใจนุชมาก”
อสิตนอนซมบนเตียง เมื่ออนุชเข้ามาหา
“ลิต้าโทรหานุชบ้างรึเปล่า”
“ไม่เลยค่ะ”
อสิตเศร้า เมื่อนึกถึงลลิตา
“เมื่อวานนุชคุยกับคุณหมอคณิต เขาบอกว่าให้พี่สิตไปตรวจร่างกาย เพื่อเตรียมตัวผ่าตัดค่ะ”
อสิตพยักหน้ารับคำ ไม่พูดอะไร ไม่มีกะจิตกะใจ ยังเศร้าเรื่องลลิตาอยู่ อนุชมองอย่างสงสาร
กร้าวเซ็นต์เอกสารเสร็จ ปิดแฟ้ม แล้วดูนาฬิกาข้อมือ เห็นว่าได้เวลาเลิกงานแล้วก็ยิ้มออก ดีใจ ที่จะได้กลับไปเจออนุช เขารีบโทรหา เมื่อเธอรับสายก็บอกทันที
“นุชครับ ผมกำลังจะออกจากบริษัท เดี๋ยวเจอกันนะครับ”
หลังจากวางสาย กร้าวไปที่ลานจอดรถ กำลังจะไปขึ้นรถ โทรศัพท์ดัง เห็นเบอร์ลลิตาก็ไม่สบายใจ ไม่อยากรับ ลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จึงรับสาย
“ครับ ลิต้า”
ลิตาเกาะราวสะพาน มองลงไปยังแม่น้ำเบื้องล่าง ร้องไห้สะอึกสะอื้น
“ลาก่อนค่ะคุณกร้าว”
กร้าวได้ฟังก็ตกใจมาก
“ลิต้า คุณจะทำอะไร คุณอยู่ที่ไหน”
ลลิตาบอกให้รู้ว่าตนอยู่ที่ไหน กร้าวตัดสินใจบึ่งรถไปหาทันที เมื่อไปถึงกร้าวรีบร้อนลงจากรถ ลลิตาทำทีเป็นปีนราวสะพาน
“อย่านะลิต้า”
“คนอย่างลิต้าอยู่ไปก็ไม่มีใครรัก ไม่มีใครเห็นความสำคัญ”
ลลิตาทำท่าจะกระโดดจากสะพานฆ่าตัวตาย กร้าวรีบจับตัวไว้ ดึงลลิตาลงมาจากราวสะพาน
“อย่าห้ามลิต้า ปล่อยให้ลิต้าตายไปดีกว่า ลิต้าไม่เหลือใครแล้ว”
ลลิตากอดกร้าวร้องไห้ แต่แอบยิ้มร้าย เพราะแค่เป็นแผน ไม่ได้จะฆ่าตัวตายจริง
ลลิตานั่งที่โซฟา ตีหน้าเศร้า น่าสงสาร มุมรับแขกคอนโดของกร้าว ขณะที่กร้าวนำน้ำหวานมาให้
“ที่นี่ไม่มีใครอยู่ คุณพักที่นี่ได้”
“ขอบคุณนะคะที่ช่วยลิต้าไว้ สิตโกรธลิต้ามาก ไล่ลิต้าออกจากบ้าน ลิต้าไม่มีที่ไป ไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งใครจริงๆ”
ลลิตาโผเข้ากอดกร้าว ร้องไห้สะอึกสะอื้น กร้าวลำบากใจ ค่อยๆดันตัวเธอออก
“คุณทำใจให้สบายนะ ระหว่างนี้ก็พักที่นี่ไปก่อน”
ลลิตากอดกร้าวอีก พยายามอ้อน
“ลิต้าไม่อยากอยู่คนเดียว คืนนี้คุณอยู่เป็นเพื่อนลิต้าได้มั้ยคะ นะคะคุณกร้าว”
กร้าวรีบผลักลลิตาออกห่าง
“ผมมีธุระ ต้องรีบไป”
กร้าวจะลุก ลลิตาไม่ยอมให้กร้าวกลับไปหาอนุช แกล้งปัดแก้วน้ำหกใส่กร้าว เลอะกางเกง
“ว้าย ขอโทษค่ะ”
อนุชแต่งตัวสวย มองดูตัวเองในกระจก ยิ้มแย้ม มีความสุขที่มีนัดกับกร้าว แล้วมานั่งอ่านหนังสือรอ อนุชดูนาฬิกา เริ่มรู้สึกว่ารอนานผิดปกติ จะโทรศัพท์หากร้าว แต่มีสายเข้าพอดี เป็นเบอร์กร้าวโทรเข้ามา
อนุชรับสาย
“ฮัลโหล รถติดเหรอคะคุณกร้าว”
“ฉันเอง”
อนุชชะงัก จำเสียงได้
“พี่ลิต้า”
ลลิตาแอบใช้โทรศัพท์กร้าว คอยมองห้องน้ำ กลัวกร้าวออกมาเห็น
“คุณกร้าวอยู่กับฉันที่คอนโด คืนนี้คงกลับดึก ไม่ต้องรอนะ”
อนุชเสียใจ ลลิตายิ้มเยาะ
“ทำไมเงียบไปล่ะ อย่าโกรธคุณกร้าวเลยนะ ของมันเคยๆ แล้วคุณกร้าวเขาก็ตัดใจจากฉันไม่ได้ด้วยสิ
ทางที่ดีเราน่าจะตกลงกันไปเลยว่าเราจะแบ่งสามีกันยังไง”
อนุชน้ำตาคลอ เจ็บปวดใจ พูดไม่ออก จึงตัดสายทิ้งไป ลลิตายิ้มสะใจ เสียงน้ำในห้องน้ำเงียบไป เธอรีบลบชื่ออนุชที่เพิ่งโทรและวางโทรศัพท์ไว้ตามเดิม
กร้าวออกจากห้องน้ำ ลลิตาเตรียมผ้าเช็ดตัวไว้ให้
“ขอบคุณ”
กร้าวรับผ้าไปเช็ดขากางเกงที่เปียก ลลิตาอ้อน
“เปียกขนาดนี้ น่าจะตากไว้ รอให้แห้งก่อนแล้วค่อยกลับนะคะ”
ลลิตาจะแกะเข็มขัดให้ กร้าวเอาผ้าเช็ดตัวยัดใส่มือ
“ผมรีบกลับ”
กร้าวเดินหนีไปหยิบโทรศัพท์ ลลิตารีบตาม
“เดี๋ยวสิคะคุณกร้าว”
กร้าวไม่ฟัง รีบออกจากห้องไป
“คุณกร้าว”
ลลิตาหงุดหงิดที่กร้าวไม่สนใจ
อนุชเสียใจ นึกถึงคำที่กร้าวเคยพูด
“ผมจะใช้หนี้ทั้งหมดให้คุณ เลิกยุ่งกับคุณอรและคุณลิต้า…ถ้าคุณยอมเป็นของผม ไม่ใช่ในฐานะภรรยา แต่เป็นนางบำเรอ”
อนุชร้องไห้เสียใจ ที่ตัวเองไม่มีค่าสำหรับกร้าวเลย เสียงโทรศัพท์ดัง เป็นชื่อกร้าวโทรเข้ามา
อนุชเห็นก็ไม่อยากรับ คิดว่าเป็นลลิตาโทรมาเย้ยอีก เธอปล่อยให้สายตัดไป แต่กร้าวก็โทรมาอีก อนุชทนไม่ได้ เลยปิดเครื่องแล้วร้องไห้อย่างเจ็บปวดใจ กร้าวโทรไม่ติดก็ไม่สบายใจ คิดว่าอนุชโกรธที่ผิดนัด
ชายธงนั่งเศร้าอยู่ในผับหรู ธารินเดินมานั่งด้วย
“ริน มาทำไม”
“ก็มาเป็นเพื่อนพี่ชายธงไงคะ นั่งคนเดียวเหงาออก”
พนักงานมาเสิร์ฟเครื่องดื่มให้ชายธง ธารินรีบบอก
“ขอเหมือนกันอีกที่ค่ะ”
ครู่หนึ่งพนักงานเสิร์ฟเครื่องดื่มแบบเดียวกับของชายธงให้ธาริน
“เล่นอะไรของเธอ”
“พี่ชายธงทำอะไร รินก็ทำด้วยค่ะ”
ชายธงดื่ม ธารินก็ดื่มด้วย เขาลองดื่มหมดแก้ว เธอก็ทำท่าจะดื่มหมดแก้วตาม
“พอแล้ว” ชายธงตกใจ
ชายธงแย่งแก้วเครื่องดื่มแล้วดึงเธอออกจากผับไปคุยกันด้านนอก
“ทำอะไรของเธอ บ้าไปแล้วเหรอ อยู่ดีๆ มาเลียนแบบพี่ทำไม”
ธารินโวยกลับ
“แล้วไม่ดีเหรอคะ”
“ก็ไม่ดีน่ะสิ”
“รู้ว่าไม่ดีแล้วทำๆไมคะ พี่ชายธงห่วงริน แล้วทำไมไม่รู้จักห่วงตัวเองบ้าง”
ชายธงอึ้ง พูดไม่ออก
“ผู้หญิงคนนั้นแต่งงานแล้ว พี่ชายธงตัดใจจากเขาแล้วเริ่มต้นชีวิตใหม่เถอะค่ะ”
ชายธงเสียใจ ยังทำใจเรื่องอนุชไม่ได้
“ต่อให้พี่ชายธงทำร้ายตัวเองจนตาย เขาก็ไม่กลับมา”
ชายธงน้ำตาคลอ เจ็บปวดใจ เดินออกไปนั่งเก้าอี้ที่มุมหนึ่ง ธารินตามมาอย่างเห็นใจ เธอนั่งข้างๆเขา ไม่พูดอะไร แค่อยากอยู่เป็นเพื่อน
กร้าวจะเข้าห้อง แต่ประตูล็อคจึงเคาะเรียก
“นุช”
อนุชนั่งบนเตียงงอนและเสียใจ นั่งเงียบ ไม่ตอบและไม่เปิดประตูให้ เสียงกร้าวดังเข้ามา
“เปิดประตูหน่อยครับ”
อนุชปิดหู ไม่อยากฟัง กร้าวเคาะจนเหนื่อย แต่อนุชไม่ตอบก็หยุดเคาะ ร้องถาม
“คุณโกรธผมเหรอ ผมขอโทษที่ผิดนัด มันมีเหตุสุดวิสัย”
ไม่มีเสียงตอบ กร้าวหมดหวัง
กร้าวนอนลงบนโซฟาในห้องรับแขกทั้งชุดทำงาน ไม่ได้อาบน้ำ ไม่ได้เปลี่ยนเสื้อผ้า กลุ้มใจ นอนไม่หลับไม่สบายใจที่อนุชโกรธ
อนุชก็ไม่นอน นั่งเหม่อเศร้า คิดโน่นนี่ไปเรื่อยจนดึก เธอจึงเปิดประตูห้องออกมา พบว่ากร้าวนอนหลับคุดคู้อยู่ที่โซฟา พูดเบาๆกับเขา
“สมน้ำหน้า”
เธอเห็นเขานอนคุดคู้เพราะหนาวก็ใจอ่อน สงสาร นำผ้าห่มมาห่มให้อย่างแผ่วเบาโดยที่เขาหลับไม่รู้เรื่อง
อสิตนอนพลิกตัว จะหันไปกอดลลิตาด้วยความเคยชิน เขารู้สึกตัวตื่นขึ้น มองที่นอนข้างๆ ที่ว่างเปล่าอย่างอ้างว้าง นึกถึงลลิตา
ทางด้านลลิตาอยู่ที่คอนโดกร้าว คุยโทรศัพท์กับเชิด
“ฉันอยู่คอนโดคุณกร้าว…แกนี่โง่จริงไอ้เชิด ตอนนี้แค่คอนโดแต่อีกหน่อย ฉันจะแย่งคุณกร้าวมาให้ได้”
ลลิตาหยุดฟังแล้วพูดต่ออีก
“แกก็อย่าไปป้วนเปี้ยนแถวบ้านวิชเวทย์อีกอย่าให้โดนจับได้ ฉันไม่อยากเดือดร้อนเพราะแก”
ลลิตาวางสายมองรอบห้องคอนโด ยิ้มอย่างมั่นใจว่าจะต้องแย่งกร้าวมาจากอนุชจนได้
วันใหม่...กร้าวรู้สึกตัวตื่นมา เห็นมีผ้าห่มก็นึกรู้ว่าอนุชมาห่มให้ เขาดีใจ คิดว่าเธอหายโกรธแล้ว...อนุชอยู่ในวางผลไม้ที่มุมหนึ่ง กระรอกมาแทะกินผลไม้ที่เธอวางไว้ให้ อนุชมองเพลิน มีความสุข กร้าวเข้ามาเห็นก็ประชดเล่นๆ
“คนอะไรใจดำ ห่วงแต่กระรอก ไม่ห่วงสามีเลย”
อนุชงอน ไม่พูดด้วย เดินหนี กร้าวรีบตาม
“นี่คุณ ผมหิว ไม่ได้ทานข้าวตั้งแต่เมื่อเย็นวาน”
“เรื่องของคุณสิ”
อนุชจะเดินหนีอีก กร้าวหมั่นไส้ เลยดึงมากอดไว้ เธอทุบเขา
“ปล่อยฉัน”
“ไม่ปล่อย เป็นภรรยาก็ต้องทำหน้าที่ภรรยา ในเมื่อคุณไม่ยอมทำข้าวเช้าให้ผม คุณก็ต้องทำอย่างอื่นแทน”
อนุชระแวง
“ทำอะไร”
กร้าวหอมแก้ม
“แบบนี้ไง”
กร้าวจะหอมอีก อนุชเอามือดันไว้
“อย่านะ ฉันทำก็ได้”
กร้าวยิ้ม แต่ลืมปล่อย กอดเพลิน
“ปล่อยฉันสิ ไม่ปล่อยแล้วจะไปเข้าครัวได้ยังไง”
กร้าวนึกได้ เลยต้องปล่อยอย่างเสียดาย อนุชทั้งโกรธทั้งอาย เดินเช็ดแก้มออกไป กร้าวมองตามยิ้ม มีความสุข
ในห้องครัว...อนุชทอดไข่ดาว เธอนึกได้ อยากแก้เผ็ดเขาจึงหยิบกระปุกเกลือมาโรยใส่ไข่ดาวไม่หยุด
“นี่ๆๆๆ”
อนุชขำ สะใจที่จะได้แก้เผ็ด
อาหารเช้าวางบนโต๊ะตรงหน้ากร้าว มีขนมปัง ไข่ดาว เบคอนทอดเขายิ้มพอใจ
“หอม น่าทานจัง”
อนุชยิ้มๆ กร้าวตักไข่ดาวกิน แล้วตกใจ ไข่ดาวเค็มปี๋ เขารีบคว้าทิชชู่มาคายทิ้ง แล้วดื่มน้ำตาม
“ไข่ดาวทำไมเค็มอย่างนี้”
อนุชหลุดขำสนุกที่แกล้งได้
“ชอบสั่งดีนัก ต้องโดนแบบนี้แหละ”
“คุณแกล้งผมเหรอ”
กร้าวลุกขึ้นจะเล่นงาน อนุชรีบหนี กร้าววิ่งไล่
“จับได้โดนดีแน่”
อนุชกรี๊ดกร๊าด
“อ๊าย อย่านะ”
อนุชวิ่งหนีออกไป กร้าวตามมาจับตัวได้ กอดไว้แน่น
“แกล้งดีนัก ต้องโดนลงโทษ”
“ปล่อยฉันนะ”
กร้าวอุ้มอนุชพาดบ่าออกไป เธอดิ้นรนกรี๊ดกร๊าด เขาอุ้มมาวางบนโต๊ะกินข้าว อนุชจะหนีแต่กร้าวจับข้อมือกดไว้กับโต๊ะ
“คุณจะทำอะไร”
“ลงโทษไง”
กร้าวหอมแก้มหนึ่งครั้ง
“นี่สำหรับเมื่อคืนที่ปล่อยให้ผมนอนนอกห้อง”
อนุชตกใจ โกรธ
“นี่คุณ”
กร้าวหอมอีกครั้ง
“นี่สำหรับไข่ดาวเค็มปี๋”
“หยุดนะ”
“ว่าอะไร อย่าหยุดเหรอ ได้เลย”
กร้าวหอมแก้มซ้ายขวา ไม่หยุด อนุชกรี๊ด
“ปล่อยฉันนะ”
กร้าวหอมแก้มอีก อนุชอาย นิ่งไป เขาชะงัก แปลกใจที่เธอไม่โวยวาย อนุชอายๆ
“พอได้แล้ว”
กร้าวมองหน้าอนุชใกล้ๆ เธอหันมามองตาเขาทั้งสองสบตากัน ต่างรักกัน แต่ไม่เคยเปิดเผยความรู้สึก กร้าวสบตากับอนุชแล้วเหมือนมีแรงดึงดูด เขาค่อยๆก้มหน้าเข้าใกล้จะจูบ
กรวิกเข้ามาในบ้าน มองหากร้าว เห็นทั้งสองเหมือนกำลังจะจูบกันก็หึง
“อากร้าวคะ”
กร้าวและอนุชสะดุ้งรีบผละออกจากกัน
กร้าวกับกรวิกเดินคุยกันที่มุมหนึ่งในสวน กรวิกกราบที่อกเขา
“นกขอโทษที่ทำให้อากร้าวไม่สบายใจ ตอนนี้นกเข้าใจแล้ว นกควรจะยินดีกับอากร้าว”
“ไม่ต้องขอโทษหรอก อาไม่เคยโกรธนก”
“งั้นนกขอเป็นนกน้อยคนเดิมของอากร้าวนะคะ”
กร้าวลูบผมกรวิกด้วยความเอ็นดูเหมือนน้องสาว
“ได้สิ ตำแหน่งนี้อาสงวนสิทธิ์ไว้ให้นกคนเดียว”
กรวิกดีใจ เกาะแขนอ้อน
“นกรักอากร้าวที่สุดเลยค่ะ”
กร้าวดีใจที่กรวิกกลับมาเป็นคนเดิม
ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 6 (ต่อ)
อนุชจัดโต๊ะในสวนสวย มีเครื่องดื่มและขนมที่กรวิกซื้อมาฝากวางอยู่ กร้าวและกรวิกเดินเข้ามาหา
“นกซื้ออะไรมาเยอะแยะเนี่ย”
“ของโปรดของอากร้าวไงคะ”
กรวิกตักขนมป้อน
“อร่อย”
“เจ้าที่อากร้าวชอบไงคะ”
“นกนี่รู้ใจอาจริงๆ”
กรวิกเช็ดปากให้ป้อนน้ำ ดูแลทุกอย่าง ตั้งใจทำท่าทางสนิทสนมกับกร้าวต่อหน้าอนุช
“ลองชิมจานนี้ด้วยนะคะ”
อนุชรู้สึกเป็นส่วนเกิน
“นุชไปเอามาเพิ่มนะคะ”
อนุชออกไป กรวิกมองตามร้ายๆ
อนุชเดินเข้ามาในครัวอย่างเศร้าๆ กรวิกตามเข้ามา
“เธอรู้สึกไม่ดีรึเปล่าที่ฉันแย่งหน้าที่เธอ”
อนุชยิ้มให้กุมมือเพื่อนรัก
“พูดอะไรอย่างนั้น นุชดีใจซะอีกที่นกหายโกรธนุชแล้ว นุชดีใจที่เรากลับมาเป็นเหมือนเดิม”
กรวิกแกะมือออกอย่างเย็นชาพูดยิ้มๆ ร้ายๆ เชือดเฉือน
“แต่ฉันอยากให้เธอรู้สึกไม่ดีนะ”
อนุชแปลกใจ
“ฉันอยากให้เธอรู้ซะบ้างว่าความรู้สึกที่โดนเพื่อนรักหักหลังมันเป็นยังไง ฉันอยากให้เธอเจ็บ เหมือนที่ฉันเจ็บ”
อนุชตกใจที่กรวิกคิดแบบนี้
“นุชคิดว่าเราจะกลับมาเป็นเหมือนเดิมได้”
“ระหว่างเรา ไม่มีวันเป็นเหมือนเดิม ฉันไม่มีวันเป็นเพื่อนกับคนที่ทรยศฉัน”
กรวิกยกจานขนมที่อนุชเตรียมไว้ออกไป อนุชเสียใจ
กรวิกยกจานขนมเข้ามาทำสนิทสนมออดอ้อนกับกร้าว คุยอะไรสนุกกัน หัวร่อต่อกระซิกกันสองคน อนุชแอบมองอยู่มุมหนึ่ง กรวิกยิ้มร้ายให้ อนุชเสียใจ รีบหนีออกไปมุมหนึ่งในบ้านแอบร้องไห้คนเดียว เสียใจที่มีปัญหากับกรวิก
มุมหนังสือในศูนย์การค้า...ปรารภเดินดูบรรดานิตยสารแฟชั่น เขาคิดหนัก ไม่รู้ว่าเล่มไหนดีไม่ดี เลยตัดสินใจหยิบทุกเล่มที่เป็นแฟชั่นผู้หญิง แล้วมาหาอรชาที่บ้าน
ปรารภเข้ามาในห้องอรชาแล้วยิ้มให้ เธอไม่พอใจ ตั้งท่าจะโวยแต่เขารีบเบรก
“ผมรู้ครับว่าคุณอรจะพูดอะไร”
ปรารภนับนิ้วตามประโยคที่อรชาพูดกับตนหลายครั้งไล่ประโยคฮิตของเธอ
“ออกไป...ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณ...อย่ามายุ่งกับฉัน”
อรชาพูดไม่ออก เมื่อโดนเขาดักคอ
“ผมไม่รบกวนคุณอรนานหรอกครับ แค่มีของมาฝาก”
ปรารภยื่นถุงนิตยสารที่ซื้อมาสองถุงใหญ่ให้
“เอาไว้อ่านแก้เบื่อนะครับ”
เธอไม่รับเข้าจึงวางถุงหนังสือไว้ให้
“ผมรบกวนคุณอรแค่นี้แหละครับ อ้อ...ถ้าคุณอรอยากได้อะไรเพิ่มเติมบอกผมได้นะครับ”
ปรารภยิ้มจริงใจให้แล้วออกไป อรชางง ไม่เข้าใจ...ปรารภออกมาจากห้องอรชา ถอนใจโล่งอกที่วันนี้เธอไม่อาละวาด
อรชาหยิบนิตยสารในถุงออกมาดู เห็นเป็นนิตยสารแฟชั่นที่ชอบก็สนใจ
ปรารภแง้มประตูมองเข้าไปในห้องเห็นอรชาเลือกนิตยสารได้ ก็นั่งอ่านบนเตียง เขายิ้ม ดีใจที่เธอเริ่มสนใจโลกภายนอก เขาได้นัดพบอนุชที่สวนสาธารณะ และเล่าเรื่องอรชาให้ฟัง
“จริงเหรอคะพี่รภ พี่อรดีขึ้นอย่างนี้ นุชก็สบายใจ ขอบคุณนะคะที่พี่รภช่วยดูแลพี่อร” อนุชบอกอย่างดีใจมาก
“พี่ก็ทำเท่าที่ทำได้”
“ไม่ต้องถ่อมตัวหรอกค่ะ นุชรู้ว่าพี่รภดูแลพี่อรอย่างดีที่สุด”
ปรารภเป็นห่วง
“แล้วนุชเป็นไงบ้าง...นายกร้าวเขาทำไม่ดีกับนุชรึเปล่า”
อนุชซึมลง ไม่อยากได้ยินชื่อกร้าว
“อย่าพูดถึงเขาเลยค่ะ”
“นุชมีเรื่องอะไรไม่สบายใจ บอกพี่ได้นะ”
“นุชไม่รู้ว่าตัดสินใจถูกรึเปล่าที่แต่งงาน เพราะมันทำร้ายทั้งพี่อรและเพื่อนสนิทของนุช”
ปรารภสงสารให้กำลังใจ
“อย่าโทษตัวเอง ไม่ใช่ความผิดของนุช นายกร้าวต่างหากที่เป็นต้นเหตุทำให้ใครต่อใครต้องเสียใจ”
อนุชคลายความกังวลไปได้บ้าง
“สิ่งที่สำคัญตอนนี้คือ นุชต้องระวังตัวจากนายกร้าวให้มากๆ”
“ค่ะ”
ปรารภเห็นท่าทีหนักใจของอนุช ก็รู้สึกเป็นห่วงมาก
ค่ำนั้น อนุชออกมาจากห้องน้ำ เจอกร้าวนอนบนเตียง ใส่แต่กางเกงขายาว เสื้อไม่ใส่ก็ตกใจ
“คุณเข้ามาได้ยังไง”
กร้าวโชว์กุญแจให้ดู
“ผมปั๊มไว้หลายชุด ตอนที่คุณออกไปข้างนอก ซ่อนไว้ทั่วบ้านเลย”
อนุชไม่ไว้ใจรีบหนีออกนอกห้อง กร้าวตามไป...อนุชจะเปิดประตูแต่กร้าวตามมาปิดประตูแล้วอุ้มเธอทันที
“ปล่อยฉันนะ”
กร้าวอุ้มมาวางบนเตียง แล้วกดแขนไว้ อนุชดิ้นรน
“ปล่อย”
“ไม่! อย่าลืมสิว่าคุณเป็นลูกหนี้ผม คุณต้องทำตามใจผมทุกอย่าง”
กร้าวก้มหน้าเข้าใกล้ ทำท่าจะจูบ อนุชหันหน้าหนี น้ำตาไหลพราก เสียใจที่ตัวเองเป็นแค่ลูกหนี้ ต้องโดนดูถูก โดนข่มเหงรังแก โดยที่เขาไม่ได้รัก กร้าวชะงัก เมื่อเห็นน้ำตาอนุช
“สำหรับคุณ ฉันมันก็แค่นางบำเรอ”
กร้าวพูดไม่ออก เพราะใจจริงก็รัก เขาสงสาร เช็ดน้ำตาให้เธออย่างอ่อนโยน อนุชแปลกใจ เขาเช็ดน้ำตาให้เธอเสร็จแล้วก็ล้มตัวลงนอนข้างๆ อนุชงง ไม่เข้าใจ
“ผมไม่ทำอะไรคุณหรอก ใจเสาะอย่างคุณ เดี๋ยวก็เป็นลมเป็นแล้งไปอีก” กร้าวปากแข็ง
อนุชโล่งอก จะลุกจากเตียง เขาคว้าข้อมือเธอไว้
“แต่มีข้อแม้ว่าคุณต้องนอนในห้อง ห้ามไปไหน”
อนุชจำต้องยอมนอนลงบนเตียง เขาพลิกตัวมากอด เธอตกใจ
“ไหนว่าจะไม่ทำอะไร คนไม่รักษาคำพูด”
“ก็ไม่ทำอะไร แค่นอนกอด คุณไม่มีสิทธิ์ต่อรอง ไม่งั้นผมเปลี่ยนใจไม่รู้ด้วยนะ”
อนุชเลยต้องยอมให้กอด กร้าวนอนกอดยิ้ม มีความสุข อนุชอาย รู้สึกสะท้านไปทั้งตัวเมื่ออยู่ในอ้อมกอดของเขา
ลลิตากลับจากซื้อของที่ร้านสะดวกซื้อ โทรศัพท์หากร้าว แต่เป็นสัญญาณไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งทำให้เธอหงุดหงิดมาก
“คุณกร้าวนะคุณกร้าว”
ลลิตาหันมาเห็นชาติยืนอยู่ก็สะดุ้ง
“ไอ้เชิด แกรู้ได้ไงว่าฉันอยู่ที่นี่”
“แกคิดว่าฉันโง่เหรอ ฉันสะกดรอยตามแกตั้งแต่วันแต่งงานของไอ้กร้าวกับน้องสาวไอ้อสิตแล้ว แกหนีฉันไม่พ้นหรอก”
เชิดดึงลลิตามากอด มองสายตาโลมเลีย ลลิตาตกใจ
“แกจะทำอะไร”
“ไหนๆ คืนนี้ไอ้กร้าวไม่มา คอนโดก็ว่าง เราน่าจะไปรำลึกความหลังกันซะหน่อย”
ลลิตาขัดขืน เชิดจะปลุกปล้ำ เธอได้จังหวะกระทืบเท้า แล้ววิ่งหนีออกไป เชิดเจ็บขา แต่เจ็บใจมากกว่า รีบตามไป
ลลิตาวิ่งหนีมาอีกมุมในซอยเปลี่ยว เชิดตามมาจิกผม
“โอ๊ย”
ลลิตาพยายามใช้ไม้อ่อน
“แกอย่าทำให้เสียแผนสิ ถ้าคุณกร้าวจับได้ขึ้นมาเราสองคนจะไม่ได้อะไรเลยนะ”
เชิดชะงัก ห่วงเงินมากกว่า
“เอาไว้ให้ได้เงินก่อน แล้วค่อยมีความสุขกัน”
เชิดใจอ่อน หลงคารมลลิตา
“ก็ได้”
เชิดลูบแก้มลลิตาอย่างเสียดายปล่อยเธอแล้วออกไป ลลิตาโล่งอก
เช้าวันใหม่...อนุชตื่นมาในอ้อมกอดกร้าว เธอมองหน้าเขาที่นอนหลับอยู่ใกล้ๆ แล้วยิ้มออกมา รู้สึกดี อนุชจะลุก แต่เขากลับกอดแน่น กร้าวลืมตาขึ้นมายิ้มให้
“คุณแกล้งหลับเหรอ ปล่อยฉันนะ”
“หอมแก้มผมก่อน แล้วผมจะปล่อย”
“ปล่อยฉัน”
กร้าวไม่ยอม แต่ยื่นแก้มให้ อนุชไม่มีทางเลือก ต้องหอมแก้ม
“ปล่อยได้แล้ว”
กร้าวยื่นแก้มอีกข้างให้หอม อนุชจำต้องหอมอีกข้าง
“จะปล่อยได้รึยัง”
กร้าวเลยยอมปล่อยอย่างเสียดาย อนุชอายรีบลุกหนีไป กร้าวมองตามยิ้มออกมาอย่างมีความสุข
ภายในสปอร์ตคลับ ชายธงกับธารินตีเทนนิสกันสนุกสนาน ทำกิจกรรมร่วมกัน จนลืมเรื่องเศร้าไปได้บ้าง
“เห็นมั้ยคะ เล่นกีฬาดีกว่าเป็นไหนๆ”
เสียงผู้หญิงคนหนึ่งเรียกเพื่อนดังขึ้น
“นุช”
ชายธงหันขวับ คิดว่าเป็นอนุชกลายเป็นผู้หญิงคนอื่น เขาผิดหวังที่ไม่ใช่หันกลับมา ธารินมองอยู่ รู้ว่าเขายังลืมอนุชไม่ได้ ชายธงเดินหนีออกไป ธารินมองตาม เสียใจที่ชายธงยังไม่ลืมอนุช
อรชาดูโทรทัศน์อยู่ในห้อง เปลี่ยนช่องไปมา แล้วปิดโทรทัศน์อย่างเบื่อหน่าย เธอจึงออกจากห้อง เดินลงบันไดมาถึงประมาณกลางบันไดเกิดหน้ามืด เพราะเก็บตัวอยู่แต่ในห้องนานหลายวัน ไม่ค่อยทานอาหาร สายตาของเธอพร่ามัวเซ จะตกบันได ปรารภเข้ามาเห็น
“คุณอร”
อรชาล้มลงจากบันได ปรารภรีบรับไว้ทัน
“คุณอร”
ปรารภประคองอรชามาที่โต๊ะอาหาร เอายาลมให้ดื่ม อรชาดื่มนิดหน่อยแล้ววางลง หน้าเบ้เพราะกลิ่นรสของยา
“หน้าคุณซีดมากเลย ไปโรงพยาบาลมั้ยครับ” ปรารภเป็นห่วง
“ไม่ต้องหรอกค่ะ อรแค่หน้ามืดนิดหน่อยเอง”
“งั้นทานอะไรหน่อยซะหน่อยมั้ยครับ จะได้มีแรง”
อรชาส่ายหน้า
“อรทานไม่ลงค่ะ”
ปรารภเป็นห่วง แล้วนึกได้รีบเข้าไปในครัวหาผักมาคะเนน้ำให้อรชา
“ดื่มน้ำผักคั้นสดๆ ซะหน่อยนะครับ จะได้สดชื่น”
อรชาดื่ม ปรารภดีใจ มีความสุขที่ได้ดูแล
อนุชอบขนมอยู่ในครัว กร้าวนั่งเฝ้า เธอรู้สึกแปลกๆ ที่เขามานั่งมองจึงพูดแก้เขิน
“ทำไมต้องมานั่งเฝ้าด้วย กลัวอดทานรึไง”
“ไม่ได้นั่งเฝ้าขนมซะหน่อย”
กร้าวยิ้มตาหวาน อนุชเขิน หลบตา รีบเสไปหยิบขนมเข้าเตาอบ แต่ไม่ระวัง เลยโดนส่วนที่ร้อนๆ ของเตา
“โอ๊ย”
กร้าวรีบเข้าไปดู พอเห็นว่าเป็นรอยแดง รีบพาเธอไปที่ห้องรับแขก หายามาทาให้
“ยังเจ็บอยู่มั้ย”
“ไม่แล้วค่ะ ขอบคุณ”
ทั้งสองสบตากัน เขินๆ ไปมาแต่แล้วก็ได้กลิ่นไหม้ กร้าวชะงัก
“กลิ่นอะไรเหม็นไหม้”
อนุชนึกได้
“ตายแล้ว”
อนุชวิ่งไปในครัวนำถาดขนมออกมาจากเตา ขนมไหม้เป็นสีดำ กร้าวตามมามอง
“ไหม้หมดเลย ทำเป็นเปล่าเนี่ย ถามจริง”
“เป็นเพราะคุณนั่นแหละ มาเกะกะในครัว จนฉันเสียสมาธิ”
“อ้าว ทำไม่เป็นแล้วอย่ามาโทษผมสิ”
“ว่าฉันเหรอ คุณต้องรับผิดชอบ ทานเข้าไปให้หมดเลย”
อนุชจะเอาขนมไหม้ยัดปาก กร้าววิ่งหนี อนุชวิ่งไล่ กร้าวหนีๆอยู่หันมากอดอนุชไว้หอมแก้ม
“ฉวยโอกาสอีกแล้วนะ”
“ก็คุณจะให้ผมกินขนมไหม้ ต้องโดนลงโทษ”
กร้าวหอมอีก อนุชกรี๊ดกร๊าด ชาติ คณิต พร้อม ขำ เข้ามา กร้าวกับอนุชอึ้ง อาย รีบผละออกจากกัน
ทุกคนมานั่งคุยกันในห้องรับแขก อนุชอ้อน
“ทำไมป๋ารีบกลับนักล่ะคะ นุชคิดถึงป๋าแย่เลย”
“คิดถึงก็ไปหาที่ไร่สิ”
“นุชอยากไปอยู่กับป๋าที่ไร่จังค่ะ”
กร้าวแกล้งกระแอม
“แต่ผมต้องทำงานที่กรุงเทพ”
“ก็เรื่องของคุณสิ ฉันจะไปอยู่กับป๋า”
“สามีอยู่ที่ไหน ภรรยาก็ต้องอยู่ที่นั่นสิ หรือว่าคุณลืมว่าเราเป็นสามีภรรยากัน สงสัยต้องเตือนความจำ”
อนุชอายมากที่เขาพูดต่อหน้าทุกคน พร้อมกับขำหัวเราะคิกคัก อนุชเปลี่ยนเรื่อง
“นุชทำขนมค้างไว้ เดี๋ยวทำมาให้ป๋าชิมนะคะ”
อนุชเดินหนีออกจากห้องไป
“ป้าไปช่วยค่ะ”
พร้อมและขำตามออกไป กร้าวมองตามยิ้มๆ สายตาเปี่ยมด้วยความรัก ชาติสังเกตเห็น นึกรู้ว่ากร้าวนั้นรักอนุช ขณะเดียวกันนั้นโทรศัพท์มือถือกร้าวดังขึ้น เขามองเบอร์แล้วหน้าเครียดขึ้น ไม่อยากคุยต่อหน้าชาติเพราะคนที่โทรมาคือคนที่เขากำลังว่าจ้างให้ทำลายพวกวิชเวทย์
“เดี๋ยวผมมานะครับ”
กร้าวออกไป ชาติมองตาม สงสัย
กร้าวแอบมาคุยโทรศัพท์เรื่องแผนเล่นงานอสิต หลังจากที่คนงานของอสิตลาออกไปชุดใหญ่ กร้าวก็ส่งคนของตนเข้าไปทำงานให้อสิตและจะก่อปัญหาต่อไป
“ดีมาก คราวนี้อสิตหมดตัวแน่”
กร้าววางสายหันหลังมา เจอชาติมองหน้าด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“กร้าวคิดจะทำอะไรอีก”
กร้าวอึ้ง รู้ว่าชาติจะต้องห้ามปราม
“จะทำร้ายสามพี่น้องวิชเวทย์ไปถึงไหน ทำกับเขาถึงขนาดนี้แล้วยังไม่พอใจอีกเหรอ”
“บริษัทรัตนกิจก่อสร้างเคยเป็นของพ่อผมครึ่งหนึ่ง แต่ประสิทธิ์ วิชเวทย์ใช้เล่ห์กลโกงเอาไปเป็นของตัวเองทั้งหมด ทำให้พ่อหมดตัวและเป็นหนี้มัน”
“ถ้ากร้าวอยากได้บริษัทคืน ก็เจรจาขอซื้อจากเขาดีๆ ก็ได้ เงินเราก็มี”
“ผมอยากให้พวกวิชเวทย์เจ็บปวด เพราะถูกคนที่ไว้ใจ...คนที่เรียกว่าเพื่อน...หักหลัง เหมือนที่พ่อของผมเคยไว้ใจ เพื่อนที่ชื่อประสิทธิ์ วิชเวทย์!”
ขณะเดียวกัน จานหลุดจากมืออนุชตก ตกแตกเสียงดัง เธอเก็บเศษจาน นิ้วโดนบาด
“โอ๊ย”
พร้อมเป็นห่วง
“เป็นอะไรรึเปล่าคะ”
อนุชไม่สบายใจ รู้สึกใจคอไม่ดี
ชาติไม่สบายใจ พยายามจะปรามหลาน
“ใจคอจะกร้าวจะให้พวกวิชเวทย์หมดตัว ไม่เหลืออะไรเลยรึไง”
“ใช่ครับ ผมจะทำให้พวกเขาหมดตัว ไม่เหลือแม้แต่ที่ซุกหัวนอนมีชีวิตเหมือนลูกไก่ในกำมือผม”
“แล้วอนุชล่ะ เคยคิดถึงความรู้สึกของนุชบ้างมั้ย”
กร้าวเจ็บปวด แต่ดื้อดึง
“ทำไมผมต้องคิดถึงความรู้สึกของนุชด้วย”
“อย่าบอกนะว่านุชไม่มีความสำคัญ ไม่มีความหมายต่อกร้าวเลย”
กร้าวพูดไม่ออก สับสนเหมือนกันระหว่างรักกับแค้น ยังไม่ทันตอบอะไร เสียงแตรรถดังขึ้นหน้าบ้าน ชาติและกร้าวชะงัก แปลกใจว่าใครมา...อนุช พร้อมและขำก็แปลกใจ พร้อมบอกกับอนุช
“คุณนุชไม่ต้องหรอกค่ะ” พร้อมหันไปชวนขำ “ไปนังขำ”
พร้อมกับขำออกไป
รถแท๊กซี่อยู่หน้าบ้าน กดแตรเสียงดังรัว พร้อมกับขำออกมา แปลกใจว่าใครมา ลลิตาเปิดกระจก โผล่หน้ามา
“คุณลิต้า!”
ลลิตาตวาด
“เปิดประตูซินังพวกขี้ข้า”
พร้อมกับขำไม่พอใจ พร้อมแกล้งทำไม่ได้ยิน
“เขาเรียกใครนะนังขำ”
ขำรับมุก
“ไม่รู้สิป้า”
ลลิตาโกรธที่พร้อมและขำไม่ยอมเปิดประตู เลยลงจากรถแท๊กซี่ เปิดประตูเล็กเข้ามาเอง พร้อมและขำเข้าไปขวาง
“มาหาใคร”
“ไม่ใช่เรื่องของพวกแก”
พร้อมและขำพยายามจะขวาง ไม่ให้ลลิตาเข้าบ้าน ลลิตาตบขำล้มลงและผลักพร้อมเซไป
“โอ๊ย”
“ว้ายๆๆ”
ลลิตายิ้มเยาะ
“สมน้ำหน้า”
ลลิตาเดินรีบร้อนเข้ามา เจอกร้าวยืนหน้าเข้มขวางอยู่ ชาติอยู่ด้วย ลลิตาดีใจ เข้าไปเกาะแขนกร้าว
“คุณกร้าวขา”
กร้าวไม่สบายใจ
“คุณมาที่นี่ได้ยังไง”
ชาติระอา
“ลุงกลับก่อนล่ะ ฝากบอกนุชด้วย”
ชาติไม่อยากยุ่ง ออกไป ลลิตาจะเข้าบ้าน กร้าวถามเสียงเข้ม
“จะไปไหน”
“ไปทักทายนุชไงคะ”
กร้าวไม่อยากให้ลลิตากับอนุชเจอกัน จึงดึงออกไปคุยกันที่อื่น
กร้าวดึงลลิตามาคุยที่มุมหนึ่งในสวน
“คุณมาทำไม”
ลลิตาออดอ้อน
“ลิต้าคิดถึงคุณ คุณไม่ไปหาลิต้าบ้างเลย”
“คุณไม่ควรมาวุ่นวายที่นี่”
ลลิตาไม่พอใจ
“ทำไมคะ กลัวนังนุชรับไม่ได้เหรอไง ดีเหมือนกัน มันจะได้ออกไปจากชีวิตคุณซะที”
ลลิตาจะไป กร้าวรีบห้าม
“หยุดนะ”
ลลิตายิ่งโกรธ
“คุณปกป้องมันเหรอ แล้วลิต้าล่ะ คุณเห็นลิต้าเป็นตัวอะไร”
กร้าวไม่อยากให้แผนแตก เลยโกหก
“ผมไม่ได้ปกป้อง แต่ไม่อยากให้เสียแผน”
ลลิตาสงสัย
“แผนอะไร”
“ผมแต่งงานกับอนุชเพราะอยากได้สมบัติของวิชเวทย์ ทั้งบ้านและบริษัท”
“บริษัทที่กำลังจะล้มละลายอย่างนั้น คุณจะอยากได้ไปทำไม”
“ที่ดินที่ตั้งบริษัท ถ้าเอามาพัฒนา จะทำกำไรได้มหาศาล”
ลลิตาตาโตเมื่อกร้าวพูดถึงจำนวนเงิน
“อสิตคงไม่เคยบอกคุณล่ะสิ”
ลลิตาส่ายหน้า กร้าวยุ
“สมบัติของวิชเวทย์ เขาก็คงอยากเก็บไว้แบ่งกันเองกับน้องๆ แต่คุณเป็นภรรยา คุณมีสิทธิ์ในสมบัติพวกนั้น ถ้าผมเป็นคุณ คงไม่ยอมออกมามือเปล่าแน่”
ลลิตาคล้อยตามเพราะโลภ
อนุชยกจานขนมเข้าในห้องรับแขก
“ขนมมาแล้วค่ะ”
ไม่มีใครอยู่แล้ว อนุชแปลกใจ วางจานขนมไว้บนโต๊ะ มองหาชาติ ขณะที่กร้าวยังคุยกับลลิตาอยู่ในสวน
“หมายความว่าคุณไม่ได้รักนุชเลยเหรอคะ”
กร้าวอึ้งถูกถามแทงใจ ลลิตาคาดคั้น
“ว่าไงคะ”
กร้าวยิ้ม
“ไม่เลยสักนิด”
ลลิตาลังเล
“แล้วลิต้าล่ะคะ คุณคิดยังไงกับลิต้ากันแน่”
“คุณอยากรู้เหรอว่าผมคิดยังไงกับคุณ”
กร้าวดึงลลิตามากอดแล้วจูบ...อนุชเดินเข้ามามุมหนึ่งในบ้านมองหาชาติ
“ป๋าคะ”
อนุชแปลกใจที่ไม่มีใครอยู่เลย เธอมองออกไปนอกหน้าต่างเห็นกร้าวยืนหันหลัง แต่ไม่เห็นลลิตา เธอออกไปหาเขา...กร้าวและลลิตากอดจูบกันอย่างร้อนแรง สัดครู่เขาก็ถอนริมฝีปากออก ลลิตาเคลิ้ม กร้าวยิ้ม มองด้วยสายตาแพรวพราว หว่านเสน่ห์
“เชื่อรึยังว่าผมรักคุณ นุชอาจเป็นผู้หญิงที่เพียบพร้อมในสายตาคนอื่น แต่สำหรับผม นุชสู้คุณไม่ได้สักนิด”
ลลิตายิ้มพอใจ ชอบเอาชนะคนอื่นอยู่แล้วโดยเฉพาะอนุช เธอออดอ้อน
“ถ้างั้นคุณก็เลิกกับนุช แล้วแต่งงานกับลิต้าสิคะ”
“ผมจะเลิกกับนุชทันทีที่ผมได้สิ่งที่ผมต้องการ”
ลลิตากังวล
“ลิต้าต้องรออีกนานแค่ไหน”
“คุณก็ช่วยผมสิ เราจะได้อยู่ด้วยกันเร็วๆ”
ลลิตาดีใจ
“ค่ะ ลิต้าจะช่วยคุณ”
ลลิตาหอมแก้มและกอด กร้าวยิ้มร้าย อนุชเข้ามาด้านหลังกร้าวที่ยืนหันหลังอยู่ เธอเดินเข้ามาใกล้แล้วเรียก
“คุณกร้าว”
กร้าวหันมา ลลิตาไม่อยู่แล้ว เขายืนอยู่คนเดียว
“ป๋าล่ะคะ”
“กลับไปแล้ว ท่านฝากให้ผมบอกคุณแทน”
“เสียดายจัง คุยกันยังไม่หายคิดถึงเลย”
กร้าวกุมมือ หวานกับอนุช
“เอาไว้ผมจะพาคุณไปที่ไร่ทานตะวัน”
อนุชดีใจ
“จริงนะคะ”
“ครับ...แต่ขอเวลาให้ผมสะสางงานทางนี้ให้เรียบร้อยก่อน”
อนุชไม่รู้ความหมายของกร้าว ดีใจ อยากเจอลุงชาติ แล้วเธอก็นึกได้ แปลกใจ
“แล้วคุณมายืนทำอะไรอยู่ตรงนี้คะ”
กร้าวเก็บดอกไม้มาทัดหูให้เธอ
“เห็นดอกไม้สวยดี เลยตั้งใจมาเก็บให้คุณ”
อนุชยิ้มแปลกใจนิดๆ ที่เขามีมุมนี้ด้วย
กร้าวยิ้ม โล่งอกที่จัดการเรื่องลลิตาได้ โดยที่อนุชไม่สงสัย
ติดตาม "ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง" ตอนที่ 7