xs
xsm
sm
md
lg

แรงปรารถนา ตอนที่ 12

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


แรงปรารถนา ตอนที่ 12 
พิทยาล้มตามลงมาด้วย ทั้งคู่นอนกันอยู่บนเตียง สุอาภาจี้เอว พิทยาขำ กล้องยังถ่ายอยู่เรื่อยๆ
“เฮ้ยคุณแต..อย่า!”
สุอาภาจี้ไม่เลิก พิทยาขำไม่หยุด
“ถ้าไม่หยุด เจอเอาคืนนะ”
สุอาภามองอย่างท้าทาย
“ไม่กลัว”
พิทยายังถ่ายคลิปอยู่...แล้วก็จับแขนสุอาภาดันให้สุอาภานอนลงบนเตียง ก่อนจะจี้เอวคืน สุอาภาหัวเราะไม่หยุด
“พอแล้วพิท โอ๊ย...ฉันไม่ไหวแล้ว”
สุอาภาหัวเราะร่วน แล้วแย่งมือถือจากมือพิทยาสำเร็จ
“ได้แล้ว...”
หน้าจอมือถือ พิทยาอยู่ด้านบนยิ้มให้สุอาภา ทั้งคู่ต่างหอบเหนื่อย พิทยามองหน้าสุอาภาแล้วก็นิ่งไป แววตามีความหมาย ก่อนจะเอามือถือออกจากมือสุอาภาแล้วกดปิด วางไว้บนเตียง
พิทยากับสุอาภามองหน้ากัน ทั้งคู่ตกอยู่ในภวังค์ พิทยาค่อยๆยื่นหน้าลงมาเหมือนจะจูบ แต่สุอาภาได้สติ รีบลุกขึ้นนั่ง
“ฉันเอามือถือนายไปชาร์จแบตก่อนดีกว่า”
สุอาภารีบเดินออกไป พิทยาหันไปมองตามสุอาภาแล้วยิ้มออกมาอย่างรู้สึกดีมาก

สุอาภาออกมายืนพิงประตู ด้วยหัวใจที่เต้นระทึกแล้วก็ยิ้มออกมาอย่างรู้สึกดีเช่นกัน

รวีพรรณกลับเข้ามาในห้อง ปากระเป๋าลงบนเตียงด้วยความโมโหมาก เสียงเมสเสจดังขึ้นอีกครั้ง รวีพรรณรีบหยิบมากดเปิดเห็นเป็นคลิปที่ส่งมาจากเบอร์แปลก
รวีพรรณกดเปิดคลิป--เป็นคลิปที่สุอาภากับพิทยาถ่ายด้วยกันเมื่อกี้ ทั้งคู่สดใสร่าเริงมาก รวีพรรณมองคลิปตรงหน้าด้วยความอึ้ง...จนมาถึงช๊อตที่สุอาภากับพิทยาล้มไปบนเตียง แววตาของพิทยาทำให้รวีพรรณรู้ได้ทันทีว่า พิทยารู้สึกดีกับสุอาภาเข้าให้แล้ว
รวีพรรณใจเสียมาก แล้วภาพก็ดับไป รวีพรรณทั้งโกรธทั้งเสียใจทั้งเจ็บใจและอึ้ง ไม่นานเสียงมือถือก็ดังขึ้น รวีพรรณรีบกดรับทันที

สุอาภายืนกอดอกสีหน้ายิ้มเยาะ
“เมื่อกี้มีคลิปอะไรส่งไปให้คุณรวีรึเปล่าคะ”
รวีพรรณสีหน้าไม่พอใจ
“มี”
สุอาภาทำเป็นตกใจ
“ตายจริง ขอโทษนะคะ พอดีฉันซื้อมือถือเครื่องใหม่ให้พิท เรากำลังลองเครื่อง สงสัยฉันจะเผลอกดปุ่มส่งออกไป”
รวีพรรณกำมือถือในมือแน่น โกรธจนตัวสั่น
“เค้าว่ามือถือรุ่นนี้เป็นระบบ HD เห็นชัดทุกรายละเอียด มันเป็นแบบนั้นรึเปล่า”
รวีพรรณสุดทน
“ไม่ต้องโกหก ฉันรู้ว่าเธอจงใจส่งมันมา”
สุอาภายิ้มแบบไม่กลัวเกรงใดใด
“คิดจะเอาคืนฉันใช่มั้ย”
สุอาภายิ้มสะใจ
“เริ่มฉลาดขึ้นแล้วนี่”
รวีพรรณชะงักที่สุอาภาย้อนคำของเธอ
“คิดว่าคลิปนี้จะทำอะไรฉันได้งั้นเหรอ”
สุอาภาหน้าร้ายน้ำเสียงกวน
“ก็ไม่รู้สิว่ามันทำอะไรคุณได้รึเปล่า แต่คุณก็เห็นแล้วนะว่าเวลาที่พิทอยู่ฉัน เค้ามีความสุขมากแค่ไหน ตอนที่เค้าคบกับคุณ เค้าเคยหัวเราะมากขนาดนี้มั้ย”
รวีพรรณเงียบ พูดไม่ออก สุอาภายิ้มที่มุมปาก
“เงียบแบบนี้แสดงว่าไม่เคย”
พูดแล้วสุอาภาก็จงใจแกล้งทำเสียงอ้อน
“ค่าพิท...เดี๋ยวฉันไปหา รอแป๊บนะคะ”
รวีพรรณอึ้ง
สุอาภาเสียง
“พิทเรียกฉันแล้ว ฉันคงต้องวางสายจากคุณแล้วล่ะ”
สุอาภาแกล้งต่อ
“อ้อ แล้วอีกอย่างไม่แน่คืนนี้ ฉันกับพิทอาจจะเป็นสามีภรรยากันโดยสมบูรณ์ก็ได้ บ๊าย”
สุอาภากดวางสาย สีหน้าสะใจสุดๆ ฝ่ายรวีพรรณหน้าตาเห็นแววอาฆาตแค้น

วันรุ่งขึ้น ที่บ้านพิทยา สุอาภาส่งกระเป๋าใส่แบบให้พิทยารับมาแล้วก็ยิ้มมีความสุข
“ขอบคุณครับ คุณแตครับ ถ้าไงเย็นนี้ เราทานข้าวด้วยกันที่บ้านนะครับ ผมจะทำสเต็กให้คุณทาน”
“ได้สิ”
พิทยากับสุอาภายิ้มให้กัน สองคนดูเก้อๆเขินๆ เหมือนคนที่เพิ่งเป็นแฟนกัน
“ผมไปทำงานนะครับ”
“อื้อ”
พิทยามีท่าทางเหมือนไม่อยากไป เขาค่อยๆเดินออกไป แต่ก็ไม่วายหันมายิ้มให้เธออีก สุอาภาแปลกใจ
“มีอะไรจะพูดกับฉันอีกรึเปล่า”
“เออ...เปล่าครับเปล่า”
พิทยาหันหลังแล้วก็รีบเดินออกไป สุอาภาอมยิ้ม

1.
เวลากลางวัน ภายในนพอาร์คิเทค ที่ห้องทำงานของพิทยา รวีพรรณยื่นการ์ดแต่งงานให้พิทยา เขาชะงัก
“รวีอยากให้พิทกับคุณแตมานะคะ”
“ครับ ผมกับคุณแตจะไป รวีโอเคขึ้นแล้วใช่มั้ย”
“ค่ะ รวีทำใจได้แล้ว ชีวิตต้องดำเนินต่อไป ถูกต้องมั้ย”
พิทยาพยักหน้า พลันเสียงมือถือพิทยาดังขึ้น พิทยารับสาย
“ครับคุณแต”
รวีพรรณชะงัก นิ่งฟัง
“คุณแตเลือกเลยครับ ผมไม่ถนัด ครับ สวัสดีครับ”
พิทยาวางสายแล้วเผลอยิ้มออกมา จนรวีพรรณสงสัย
“พิทยิ้มอะไรคะ”
พิทยาผงะแล้วถาม
“ผมยิ้มเหรอครับ”
“ใช่ค่ะ พิทยิ้ม แถมยังเป็นรอยยิ้มที่ดูมีความสุขอีกด้วย”
รวีพรรณมองพิทยาด้วยความระแวง และอยากรู้
“ก็ไม่ได้มีอะไรหรอกครับ เย็นนี้ผมจะทำสเต็กให้คุณแตทาน คุณแตกำลังไปซื้อไวน์อยู่กับคุณต่าย”
รวีพรรณไม่พอใจมากแต่ฝืนยิ้ม
“น่าอิจฉาจังอิจฉาที่คุณแตได้ทานอาหารอร่อยๆฝีมือพิท คิดถึงเหมือนกันนะคะ เพราะรวีไม่ได้ทานอาหารที่พิททำมานานแล้ว”
พิทยาสีหน้าเจื่อน เขาคิดเล็กน้อยแล้วถาม
“รวีมาทานด้วยกันมั้ยล่ะ”
“ไม่ต้องชวนรวีเพราะเกรงใจนะ”
“ไม่เลย ผมเต็มใจชวน ถ้าไงเราไปหาซื้อของกันก่อน แล้วค่อยกลับบ้านด้วยกัน”
รวีพรรณดีใจมาก
“ตกลงค่ะ”
พิทยายิ้ม รวีพรรณหันไปลอบทำหน้าร้ายสะใจ

ภายในร้านไวน์ สุอาภากับวรรณวดีกำลังเลือกไวน์ แต่วรรณวดีอมยิ้มไม่หุบ จนสุอาภาแปลกใจ
“พี่ต่ายยิ้มอะไร”
“พี่มีความสุขที่เห็นน้องสาวของพี่มีความสุขน่ะสิ เดี๋ยวนี้โรแมนติกนะจ๊ะ มีนัดทานอาหารเย็นกันด้วย”
สุอาภาเขิน
“พี่ต่าย อย่าแซวแตสิคะ”
“อ่ะอ่ะ ไม่แซวก็ได้”
สุอาภารีบเปลี่ยนเรื่อง
“มาช่วยแตเลือกไวน์ดีกว่าค่ะ”
สุอาภากับต่ายช่วยกันเลือกไวน์อย่างมีความสุข

เวลาเย็น สุอาภาถือกล่องใส่ขวดไวน์เดินเข้ามาในบ้าน แล้วก็ชะงักเพราะเห็นรองเท้าส้นสูงวางอยู่ สุอาภารู้ทันทีว่าเป็นรองเท้าของใคร

พิทยากับรวีพรรณกำลังช่วยกันอยู่ในครัว รวีพรรณทำเป็นหยิบของข้ามหน้าข้ามตาพิทยา เพื่อให้ตัวใกล้กัน สุอาภาเดินเข้ามาเห็นพอดีก็ชะงัก หรี่ตามองรวีพรรณไม่พอใจ
“แฮ่ม...”
พิทยากับรวีพรรณหันไปเห็นสุอาภายืนอยู่ รวีพรรณส่งแววตาร้ายกาจมาให้สุอาภาก่อนจะยิ้มจริงใจออกมา
“สวัสดีค่ะคุณแต”
สุอาภาแสร้งยิ้มจริงใจกลับ
“สวัสดีค่ะคุณรวี”
“วันนี้รวีเอาการ์ดแต่งงานมาให้ ผมก็เลยชวนรวีให้มาทานด้วยกัน”
สุอาภาเดินเข้ามา
“มีอะไรให้ฉันช่วยมั้ย”

รวีพรรณรีบพูดทำเหมือนตัวเองเป็นเจ้าของบ้าน
“ไม่ต้องหรอกค่ะ คุณแตออกไปคอยข้างนอกดีกว่า ฉันจะอยู่ช่วยพิทเอง”
สุอาภากับรวีพรรณมองกันแบบตาต่อตา ฟันต่อฟัน รวีพรรณยิ้มแล้วก็หันไปช่วยพิทยาต่อ ทำเป็นใกล้ชิด สุอาภามองอย่างไม่พอใจ รู้ว่ารวีพรรณจงใจยั่วโมโห

บนโต๊ะอาหาร พิทยากับสุอาภานั่งอยู่ข้างกัน รวีพรรณนั่งตรงข้าม ทุกคนลงมือทานอาหาร
“อร่อยมากเลยพิท” สุอาภาบอก
“ผมดีใจที่คุณชอบ”
พิทยากับสุอาภายิ้มให้กัน รวีพรรณลอบมองทั้งคู่จนไม่ค่อยได้ทาน สุอาภารู้สึกได้ว่ารวีพรรณกำลังมองมาทางเธอ เลยคิดแกล้ง
“นายทำให้ฉันซักชิ้นใหญ่เลย ฉันทานไม่หมดแน่ ช่วยฉันทานด้วยนะ”
พิทยาพยักหน้า สุอาภาหั่นสเต็กพลางเหลือบมองรวีพรรณด้วยสีหน้าเจ้าเล่ห์ แล้วก็ยื่นไปตรงหน้าพิทยา
“อ่ะ...ทานสิ”
พิทยาผงะไปนิดนึง สุอาภาป้อนพิทยา รวีพรรณไม่พอใจ หั่นสเต็กอย่างแรง สุอาภาแกล้งรวีพรรณต่อ
“ร้อนเหรอพิท เหงื่อเต็มหน้าเลย”
“ครับ..เมื่อกี้อยู่ในครัวนานไปหน่อย”
สุอาภาหันไปดึงทิชชู่ขึ้นมาซับเหงื่อให้ พิทยาชะงัก
“ผมทำเองคุณแต”
“ไม่ต้อง อยู่เฉยๆ”
สุอาภาค่อยๆซับหน้าให้พิทยา แล้วเธอก็ยื่นหน้าเข้าไปใกล้พิทยามากขึ้น รวีพรรณกำด้ามส้อมกับด้ามมีดแน่น ทนไม่ไหว กระแทกส้อมกับมีดลงบนจานเสียงดัง สุอาภากับพิทยาหันไปมอง
“ขอโทษค่ะ มันหลุดมือ” รวีพรรณบอก
รวีพรรณคว้าแก้วไวน์มาดื่มอักๆจนหมดแก้ว สุอาภาลอบยิ้มพอใจ พิทยาแปลกใจมาก
“รวีดื่มหนักจังเลยครับ ระวังจะเมานะ”
“รวีไม่เมาง่ายๆหรอกค่ะ”
รวีพรรณเอาขวดไวน์มาเทไวน์เพิ่ม สุอาภาแอบสะใจ แล้วก็ขยับเก้าอี้เข้ามานั่งติดกับพิทยา หันไปหัวร่อต่อกระซิก คุยกับพิทยาทำเหมือนรวีพรรณไม่มีตัวตนอยู่ด้วย ยิ่งทำให้รวีพรรณหัวเสีย

อาหารหมดจาน พิทยาลุกขึ้นเก็บจาน รวีพรรณรีบเสนอตัวช่วย
“รวีช่วยค่ะ”
“ไม่ต้องครับ ผมจัดการเอง รวีกับคุณแตคุยกันไปเถอะ”
พิทยาเก็บจานเดินเข้าไปในครัว ทันทีที่พิทยาพ้นสายตาไปแล้ว รวีหันมาจ้องหน้าสุอาภาด้วยความโมโหทันที
“พิทนี่เค้าน่ารักนะคะ เป็นสุภาพบุรุษที่สุด ฉันโชคดีจังที่ได้แต่งงานกับเค้า” สุอาภาจงใจยั่ว
“ถึงเธอได้แต่งงานกับเค้า แต่เค้าก็ไม่ได้รักเธอ เค้ารักฉัน”
สุอาภาชะงักไปนิดนึง นึกถึงคำพูดของพิทยา
“เรื่องระหว่างผมกับรวี...เป็นไปไม่ได้อีกแล้ว”
สุอาภาอึ้งที่พิทยาพูดประโยคนี้ออกมา
“ถ้าเป็นเพราะคำสัญญาที่นายรับปากกับป๋าว่านายจะดูแลฉัน ฉันจะไปพูดกับป๋าให้เข้าใจ ฉันอยากเห็นนายมีความสุขกับคนที่นายรัก ไม่อยากเหนี่ยวรั้งนายเอาไว้ไปตลอดชีวิต”
“มันไม่ใช่เพราะคำสัญญาหรือหน้าที่”
สุอาภานิ่วหน้า พิทยาขยับมาใกล้ตรงหน้าเธอ
“มันเป็นเพราะผมอยากดูแลคุณ”
สุอาภามีสีหน้าแบบถือไพ่เหนือกว่า
“คุณแน่ใจได้ยังไงว่าพิทยังรักคุณ เท่าที่ฉันจำได้ พิทเคยบอกว่าเรื่องระหว่างเค้ากับคุณ เป็นไปไม่ได้อีกแล้ว”
สุอาภาบอก รวีพรรณผงะ
รวีพรรณใจเสีย รีบแก้ตัว
“ที่พิทพูดแบบนั้น เพราะว่าฉันต้องแต่งงานกับคนอื่นยังไงล่ะ”
“เหรอ แต่เค้ายังบอกอีกนะว่าเค้าอยากดูแลฉัน”
รวีพรรณกำมือแน่น
“ไม่จริง เธอโกหก!”
“คุณต่างหากที่ต้องเลิกโกหกตัวเอง คุณกับพิทเป็นอดีตไปแล้ว ปัจจุบันต่างหากคือความจริง”
“ไม่ว่าจะเป็นอดีตหรือปัจจุบัน พิทก็รักฉัน รักฉันคนเดียว”
“ถ้าอย่างนั้นเรามาพิสูจน์กันว่าพิทจะเลือกใคร”
สุอาภากับรวีพรรณส่งสายตาท้าทายใส่กัน

วันถัดมา เวลากลางวันที่ร้านกาแฟ พราวพิไลมองหน้าสุอาภาด้วยความตกใจ
“แกไปท้าทายอะไรแบบนั้นห๊ะไอ้แต”
“ก็จะได้รู้กันไปไง...ว่าความรู้สึกของพิทในตอนนี้ มันคืออะไรกันแน่”
พราวพิไลถอนใจ
“ถ้าเกิดคุณพิทเลือกทางนั้นล่ะ”
“ฉันจะปล่อยเค้าให้เป็นอิสระ”
“แล้วถ้าคุณพิทเลือกแก”
“ฉันจะบอกว่าฉันรู้สึกกับเค้ายังไง”
สุอาภาแววตามุ่งมั่นสุดๆ

ภายในห้องทำงาน พิทยานั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะ เสียงข้อความในมือถือเข้า พิทยาหยิบมือถือขึ้นมาเปิดดูเป็นข้อความจากสุอาภา “เย็นนี้เจอกันที่ร้าน...ทุ่มนึงนะพิท ฉันมีเรื่องสำคัญจะคุยกับนาย นายต้องมาให้ได้นะ”
พิทยาสีหน้าครุ่นคิด ย้อนนึกถึงคำพูดของบวร
“แกเองก็เหมือนกันนะพิท ตอนนี้แกยังมีเวลา มีโอกาสที่จะได้บอกทำไมไม่ใช้โอกาสนี้ให้เป็นประโยชน์ ก่อนที่แกจะมานั่งเสียใจที่ไม่ได้บอกความรู้สึกของตัวเองออกไป”
พิทยาเหมือนตัดสินใจอะไรได้บางอย่าง หันไปกดอินเตอร์คอม
“คุณแป๋วครับ ผมมีอะไรให้ช่วยหน่อย”

ภายในห้องนอน สุอาภากำลังแต่งตัว มองตัวเองในกระจก เสียงของรวีพรรณดังเข้ามาในหัว
“ถึงเธอได้แต่งงานกับเค้า แต่เค้าก็ไม่ได้รักเธอ เค้ารักฉัน”
“ไม่ว่าจะเป็นอดีตหรือปัจจุบัน พิทก็รักฉัน รักฉันคนเดียว”
สุอาภาสีหน้ากังวล แต่ก็พยายามยิ้มเรียกกำลังใจตัวเอง

ปวีณายื่นช่อดอกไม้ไปตรงหน้าพิทยา พิทยาชะงักเงยหน้าขึ้นมอง เขารับช่อดอกไม้มาแล้วก็ยิ้ม
“แป๋วเลือกได้สวยมาก ขอบใจนะ
“คุณพิทซื้อไปให้คุณแตเหรอคะ”
พิทยาพยักหน้าเขินๆ แป๋วรู้สึกใจแป้วแปลกๆ พิทยามองดอกไม้แววตามีความสุข
“งั้นแป๋วขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ”
“ครับ”
ปวีณาหน้าเศร้าหันหลังจะเดินออกไป พิทยามองช่อดอกไม้สีหน้าปลาบปลื้ม ก่อนจะเอาวางไว้บนโต๊ะข้างๆ
ประตูห้องทำงานเปิดออก รวีพรรณก้าวเข้ามาพอดี ปวีณาชะงัก
ปวีณากับรวีพรรณสบตากันในทำนองไม่ค่อยถูกชะตา ก่อนที่รวีพรรณหันไปยิ้มแย้มกับพิทยา ปวีณาสะบัดหน้าเดินออกไปอย่างไม่ค่อยสบอารมณ์
“สวัสดีค่ะพิท รวีมาทำธุระแถวนี้ เลยแวะเอาขนมมาฝาก”
“ขอบคุณครับ”
พิทยายิ้มให้ รวีพรรณยิ้มตอบอย่างรู้สึกดี

ปวีณาเดินกระแทกเท้าอย่างไม่สบอารมณ์ออกมาจากห้องพิทยา และเผลอเหยียบเท้าบวรที่เดินออกมาจากมุมข้างๆ อย่างจังอย่างจังเพราะไม่ทันระวัง
บวรยกเท้าขึ้นจับ
“โอ๊ย”
ปวีณาตกใจรีบเข้าไปประคองบวรด้วยความเป็นห่วง
“ฉันขอโทษ คุณเจ็บมากรึเปล่า”
บวรก้มลงมองเท้าตัวเองแล้วเงยหน้าขึ้นก็เจอกับหน้าปวีณาที่ใกล้กันมากโดยบังเอิญ ทั้งสองคนจ้องหน้ากันเหมือนตกอยู่ในภวังค์
บวรรีบกลบเกลื่อนความรู้สึก
“มาก! ลองมาโดนดูมั้ย เดินนี่ไม่เคยมองคนบ้างเลยรึไงห๊ะ”
ปวีณาชะงักผละออกจากบวร
“ก็คนมันไม่อยู่ในสายตานี่ เลยมองไม่เห็น” ปวีณาประชด
บวรชะงัก ประชดเสียงดัง
“อ๋อ ฉันลืมไป ฉันมันไม่ใช่ไอ้พิทนี่นะ”
ปวีณาส่งสายตาดุ
“คุณบวร!”
“ทำไม กลัวไอ้พิทมันได้ยินรึไง”
“ฉันกลัวคนอื่นได้ยินแล้วเอาไปนินทาให้คุณแตเข้าใจผิดต่างหาก เพราะแค่ยัยแฟนเก่ามาป้วนเปี้ยนอยู่ที่นี่บ่อยๆ ก็คงทำใจลำบากมากพออยู่แล้ว”
ปวีณาสะบัดหน้าเดินหนีไป บวรอึ้งอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะคิดได้ว่ารวีพรรณมาหาพิทยา

ภายในห้องทำงาน รวีพรรณจัดการเปิดกล่องขนมเตรียมให้พิทยา แล้วก็เหลือบไปเห็นช่อดอกไม้ที่วางไว้ที่โต๊ะข้างๆ แปลกใจ
“ใครให้ดอกไม้พิทมาเหรอคะ”
“ผมซื้อไปให้คุณแตน่ะครับ เย็นนี้ผมมีนัดกับคุณแต”
“ว้าแย่จัง รวีว่าจะขอให้พิทไปช่วยคุยเรื่องแบบกับผู้รับเหมาที่ร้าน พอดีรวีจะตกแต่งร้านใหม่น่ะค่ะ”
พิทยาก้มมองดูเวลาเห็นเกือบจะสี่โมงเย็นแล้ว
“ไม่นานหรอกค่ะ รับรองว่าพิทไปทันนัดกับคุณแตแน่”
“แต่ฉันว่า ช่วงเลิกงานนี่รถมันติดมากนะพิท แกควรจะเผื่อเวลาไว้บ้าง”
บวรเดินเข้ามาในห้อง รวีพรรณมองด้วยสีหน้าไม่พอใจแวบหนึ่ง ก่อนจะปรับสีหน้ายิ้มแย้มอย่างปกติ
“สวัสดีค่ะคุณใหญ่”
บวรพยักหน้ายิ้มให้
“ผมยังพอมีเวลานะครับคุณรวี ให้ผมไปช่วยแทนได้มั้ย”
รวีพรรณทำหน้าไม่ถูก
“ขอบคุณนะคะ แต่รวีไม่กล้ารบกวนคุณใหญ่หรอกค่ะ ถ้าพิทไม่ว่าง ไว้วันหลังก็ได้”
รวีพรรณไม่พอใจแต่ก็จำต้องปั้นหน้ายิ้ม เหลือบมองพิทยาที่ทำเฉย รวีพรรณยิ่งจี๊ด บวรแอบยิ้มขำที่แกล้งรวีพรรณได้
บวรเหลือบมองเห็นช่อดอกไม้
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ ไปก่อนนะพิท... แล้วก็อย่าช้าล่ะ เดี๋ยวดอกไม้เฉาหมดนะเว้ย ไอ้น้องเขย”
บวรยิ้มแซวพิทยาอย่างอารมณ์ดี พิทยายิ้มตอบอย่างเขินๆ บวรเดินออกไป รวีพรรณพยายามคิดแผนการ
รวีพรรณทำเหมือนนึกขึ้นได้
“เอ่อ พิทคะ รวีขอยืมมือถือหน่อยนะคะ ของรวีแบตหมด”
พิทยาส่งมือถือให้รวีพรรณแบบไม่คิดอะไร เธอรับมือถือจากพิทยามาแล้วแอบยิ้มร้าย

พิทยาเก็บกระเป๋าแบบไว้ท้ายรถ แล้วถือช่อดอกไม้มาเปิดรถด้านฝั่งคนขับ เขาขึ้นไปนั่งบนรถ มองช่อดอกไม้แล้วมองไว้ที่เบาะคนนั่งข้างๆ สีหน้าพิทยามีความสุขมากเพราะตั้งใจจะบอกรักสุอาภา เขาคาดเข็มขัดนิรภัย แล้วขับรถออกจากลานจอดรถ

สุอาภาเดินตรงเข้ามาที่โต๊ะซึ่งจองไว้ บนโต๊ะอาหารจัดตกแต่งอย่างดูดีและโรแมนติก แต่แล้วก็อึ้งไปเมื่อคนที่นั่งอยู่กลับเป็นรวีพรรณไม่ใช่พิทยา
“คุณรวี! คุณมาที่นี่ได้ยังไง”
“พิท ให้ฉันมาหาเธอ”
สุอาภาสีหน้างงมาก
“พิทรู้ว่าเธอนัดเค้าเพื่อจะพูดอะไร เค้าลำบากใจที่จะต้องปฏิเสธเธอเพราะเค้าไม่ได้รักเธอ เค้ารักฉัน”
“ไม่จริง!”
“ทำไมเธอถึงดื้อด้านอย่างนี้ห๊ะ ถ้าไม่จริง แล้วฉันจะรู้ได้ยังไงว่าเธอนัดกับพิทที่นี่”
รวีพรรณยิ้มเยาะสุอาภาอย่างเป็นต่อ
“เรื่องนี้ฉันจะถามพิทเอง ฉันไม่มีเรื่องจะคุยกับคุณ เชิญคุณกลับไปได้แล้ว”
“คนที่ควรจะกลับไปคือเธอมากกว่า และเธอก็ควรจะออกไปจากชีวิตของพิทซะ เพราะ
แค่นี้ก็พิสูจน์ได้แล้วว่า เขาเลือกฉัน ไม่ใช่เธอ”
“สิ่งที่คุณพูดมากับสิ่งที่ฉันเห็นจากการกระทำของพิท มันทำให้ฉันเชื่อคุณไม่ลงหรอกค่ะ เก็บคำโกหกของคุณเอาไว้ไปหลอกตัวเองดีกว่านะคะคุณรวี”
รวีพรรณโมโห แต่สะกดอารมณ์ให้เย็นลง
“พิทเป็นคนดี เป็นสุภาพบุรุษ เธอแน่ใจเหรอว่าที่พิททำดีกับเธอมันคือความรัก”
สุอาภากลับเป็นอึ้งไปด้วยความสับสน
“ฉันไม่หลงกลคุณ”
รวีพรรณโมโหคว้าแก้วน้ำจะสาดใส่สุอาภาแต่ก็ชะงัก เพราะเหลือบเห็นพิทยาเดินเข้ามาในร้าน รวีพรรณเลยตัดสินใจเอาแก้วน้ำเอามาราดใส่ตัวเอง แล้วก็ตบหน้าตัวเองทันที

แรงปรารถนา ตอนที่ 12 (ต่อ)

สุอาภาอึ้ง คนในร้านเริ่มหันมามอง รวีพรรณเข้ามาคว้าแขนทั้งสองข้างของสุอาภา แล้วทำเป็นถูกยื้อกระชากไปมา
“อย่าค่ะ คุณแต ชั้นกลัวแล้วๆ ฉันขอร้อง ปล่อยชั้น”
“หยุดนะคุณรวี คุณเป็นบ้าอะไรเนี่ย”
พิทยากำลังหันมองหาโต๊ะสุอาภา เห็นเสียงทะเลาะเอะอะโวยวายก็รู้สึกคุ้นๆ รีบวิ่งไปตามเสียง
สุอาภายื้อยุดกับรวีพรรณ แต่ภาพดูเหมือนสุอาภากำลังทำร้ายรวีพรรณ
พิทยาเดินเข้ามาพอดีตกใจกับภาพตรงหน้า รวีพรรณปล่อยมือสะบัดตัวเองล้มไปโดนเก้าอี้ล้มระเนระนาด
พิทยารีบเข้าไปประคองรวีพรรณ จนช่อดอกไม้กระเด็นตกไปบนพื้น
“คุณแต!”
รวีพรรณเอามือกุมหน้า
“คุณตบหน้ารวีทำไมคะคุณแต ช่วยรวีด้วยพิท”
สุอาภาเหวอ และก็รู้ทันทีว่าเป็นแผน รวีพรรณแกล้งร้องโอดโอยเข้าไปหลบหลังพิทยาทันที
พิทยาเสียงเครียดถาม
“มันเกิดอะไรขึ้น”
“ฉัน...”
รวีพรรณพูดแทรกขึ้น
“รวีพยายามบอกคุณแตไปแล้วว่า รวีกับพิทไม่ได้มีอะไรกัน แต่คุณแตไม่เชื่อ คุณแตเลย...”
สุอาภาตะลึงกับการแสดงขั้นสุดยอดของรวีพรรณ
พิทยามองสุอาภาด้วยสายตาตำหนิ เพราะภาพที่เห็นตรงหน้าทำให้พิทยาเชื่อรวีพรรณมากกว่า
“คุณทำร้ายรวีทำไม”
“ฉันไม่ได้ทำ คุณรวีโกหก”
“ผมเห็นทุกอย่างกับตา คุณยังว่าไม่ได้ทำ”
สุอาภาอึ้งที่พิทยาเชื่อรวีพรรณมากกว่า
รวีพรรณแอบยิ้มเยาะอย่างสะใจ
“ฉันไม่ได้โกหก ถามทุกคนในร้านนี้ หรือไปดูภาพในกล้องวงจรปิดก็ได้ ว่าฉันไม่ได้ทำ”
รวีพรรณชะงัก สีหน้าเจื่อน กลัวสุอาภาเอาจริง
“หยุดสร้างเรื่องซะทีคุณแต”
รวีพรรณสีหน้าโล่งใจ
สุอาภาอึ้งมาก
“ตลอดเวลาที่ผ่านมานายไม่เคยเชื่อเลยใช่มั้ยว่าฉันเปลี่ยนไปแล้ว ทำไมนายถึงตัดสินว่า ฉันเป็นคนยังไงด้วยคำพูดของคนอื่น”
พิทยาเผลอหลุดปาก
“รวีไม่ใช่คนอื่น”
สุอาภาช็อก
“ถ้าอย่างนั้น ฉันคงเป็นคนอื่นสำหรับนายสินะ”
สุอาภาหันหลังเดินหนีไปทันที พร้อมกับน้ำตาที่ไหลลงมาอย่างพรั่งพรู เธอเหยียบช่อดอกไม้ที่ตกลงบนพื้นอย่างไม่ได้ตั้งใจ
พิทยามองเห็นช่อดอกไม้ที่ตกกระจายอยู่บนพื้น ก็รู้สึกตัวว่าพูดแรง
“เดี๋ยวก่อน คุณแต”
พิทยาจะตามสุอาภาแต่รวีพรรณรั้งไว้
รวีพรรณแกล้งทำเป็นเจ็บ
“พิทคะ”
พิทยาประคองให้รวีพรรณนั่งรอ
“รวีรออยู่ที่นี่ก่อนนะ”
พิทยารีบผลุนผลันตามสุอาภาออกไป
รวีพรรณมองตามแววตากร้าวขึ้นมาอย่างไม่พอใจ แต่พอเห็นสายตาลูกค้าในร้านมองมาก็แกล้งทำเป็นเจ็บเหมือนเดิม

สุอาภาวิ่งร้องไห้ตรงมาที่รถ รีบเปิดประตูขึ้นนั่ง แล้วก็ถอยรถออกจากที่จอดรถทันที พิทยาวิ่งตามมาทัน รีบเคาะกระจกเรียกสุอาภา
“เดี๋ยว คุณแต ลงมาคุยกันก่อน”
สุอาภาชะงักหันมามองพิทยาทั้งน้ำตา พิทยายิ่งรู้สึกแย่ เธอหันหน้ากลับ แล้วเหยียบคนเร่งออกรถไปทันที พิทยาวิ่งตามแต่ไม่ทัน
“คุณแต”
พิทยาหยุดยืนมองสีหน้าแย่มาก

ภายในร้านอาหาร รวีพรรณแกล้งทำหน้าเศร้า
“รวีขอโทษนะคะพิทที่เป็นต้นเหตุของเรื่องทั้งหมด”
พิทยานิ่งเพราะรู้สึกเสียใจที่พูดแรงกับสุอาภา เริ่มคิดได้ว่าทำไมรวีพรรณถึงอยู่ที่นี่
“แล้วรวีมาที่นี่ได้ยังไง”
รวีพรรณอึ้ง รีบแก้ตัว
“รวีนัดเพื่อนไว้ค่ะ แล้วก็มาเจอคุณแตโดยบังเอิญ รวีเลยเข้าไปทักทายบอกว่าเพิ่งเจอกับพิท แต่คุณแตกลับโกรธที่รวีไปหาพิทบ่อยๆ เธอสั่งไม่ให้รวีมายุ่งกับพิทอีก รวีอธิบายยังไงคุณแตก็ไม่ฟัง จนเป็นอย่างที่พิทเห็นนั่นแหละค่ะ”
พิทยานิ่งไปอย่างครุ่นคิด รวีพรรณเริ่มใจเสีย กลัวพิทยาจะจับได้

นพ บวร ต่ายกำลังนั่งดูทีวีอยู่ในบ้าน ทุกคนหัวเราะ สนุกสนาน ระหว่างนั้นสุอาภาเดินเข้ามา ทุกคนหันไปเห็นก็แปลกใจ
“แต...” วรรณวดีเรียก
ทันทีที่สุอาภาเห็นครอบครัวตัวเองก็ต่อมน้ำตาแตกออกมาทันที ทำเอาทุกคนตกใจรีบลุกเดินมาหา
สุอาภาโผกอดนพเหมือนลูกนกปีกหัก
“ป๋า!”
นพรีบกอดสุอาภาเอาไว้ สุอาภากอดนพแน่น บวร วรรณวดีมองหน้ากันด้วยความประหลาดใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น

ภายในบ้าน พิทยาเดินไปเดินมากำลังโทรคุยกับพราวพิไล
“คุณแตไม่ได้ไปหาคุณพราว เพื่อนคนอื่นก็ไม่ได้ไปหาด้วยเหรอครับ ถ้าคุณพราวติดต่อคุณแตได้ รีบโทรบอกผมทันทีเลยนะครับ” พิทยาบอกพลางถอนหายใจ
พิทยาวางสาย หันไปเห็นบวรเดินเข้ามา พิทยารีบเดินไปหา
“คุณใหญ่!”
“ทำไมไอ้แตร้องไห้กลับไปที่บ้าน”
พิทยาอึ้ง
“คุณแตร้องไห้”
“ก็เออสิวะ แกทำอะไรมัน”
“ผมไม่ได้ทำอะไรเลยนะครับ เรานัดกัน แต่ว่าผมไปเลท พอไปถึง ก็ไม่เจอคุณแตแล้ว”
พิทยากับบวรมองหน้ากันด้วยความไม่เข้าใจ

สุอาภานอนซึมอยู่ในห้อง แล้วก็นึกย้อนกลับไป...
“ถึงเธอได้แต่งงานกับเค้า แต่เค้าก็ไม่ได้รักเธอ เค้ารักฉัน / ไม่ว่าจะเป็นอดีตหรือปัจจุบัน พิทก็รักฉัน รักฉันคนเดียว”
“ถ้าอย่างนั้นเรามาพิสูจน์กันว่าพิทจะเลือกใคร”
สุอาภากับรวีพรรณส่งสายตาท้าทายใส่กัน

พราวพิไลมองหน้าสุอาภาด้วยความตกใจ
“แกไปท้าทายอะไรบ้าๆกับผู้หญิงแบบนั้นได้ยังไงห๊ะ จะให้คุณพิทเลือกระหว่างแกกับยัยแฟนเก่าเนี่ยนะ ถ้าเกิดคุณพิทเลือกทางนั้นล่ะ”
“ฉันจะปล่อยเค้าให้เป็นอิสระ”
“ถ้าคุณพิทเลือกแก”
“ฉันจะบอกว่าฉันรู้สึกกับเค้ายังไง”
สุอาภาน้ำตาไหล พลันเสียงเคาะประตูดังขึ้นตามมาด้วยเสียงพิทยา
“คุณแตครับ”
สุอาภาชะงัก ลุกขึ้นนั่ง ...
ภายนอกห้องนอน พิทยาเคาะประตู มีนพ บวร วรรณวดียืนอยู่ด้วย
“คุณแตเปิดประตูให้ผมที”
สุอาภาเดินมายืนที่หลังประตูบอก
“กลับไปซะ!”
พิทยานิ่วหน้า
“ผมไม่กลับ จนกว่าคุณจะบอกว่าเป็นอะไร ออกมาคุยกับผมหน่อยสิครับ คุณแต!”
พิทยาพูดพลางทุบประตู
สุอาภายืนอยู่หน้าประตู สีหน้าครุ่นคิดบางอย่าง ก่อนจะมองแหวนแต่งงานที่ใส่นิ้วอยู่
พิทยา บวร นพ วรรณวดีมองหน้ากัน ไม่นานสุอาภาเปิดประตูออกมา พิทยากับคนอื่นดีใจ แต่สุอาภากลับตบหน้าพิทยาเพี๊ยะ!!! พิทยาอึ้ง นพ บวร วรรณวดีช็อก!
“กลับไปได้แล้ว ชั้นไม่มีอะไรจะพูดกับนาย เอาแหวนของนายคืนไป! ฉันต้องการอิสระ ได้ยินมั้ย!” สุอาภาพูดพลางถอดแหวนแต่งงานยัดใส่มือพิทยา เขาชะงัก ทุกคนอึ้ง
“ถ้าคุณโกรธ ผมขอโทษ...ผมยอมรับผิดทุกอย่าง”
“ทำไมถึงทำตัวน่ารำคาญอย่างนี้ห๊ะ! รู้มั้ยว่าชั้นเบื่อเบื่อ ฉันไม่อยากเห็นหน้านายอีก เข้าใจมั้ย!”
สุอาภาผลักอกพิทยาเต็มแรง แล้วก็รีบปิดประตูกระแทกใส่พิทยาดังปัง พิทยาพูดไม่ออก งงมาก ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น ทิ้งให้พิทยาและคนอื่นยืนนิ่งงันอยู่กับที่

สุอาภายืนพิงประตู ปิดปากตัวเองร้องไห้ออกมาอย่างหยุดไม่ได้

พิทยาสีหน้าไม่เข้าใจ เดินลอยๆงงๆ นพ บวร ต่าย มองพิทยาอย่างเป็นห่วง
“ที่แตพูดไปเป็นเพราะอารมณ์ อย่าเก็บมาใส่ใจ แล้วก็อย่าเพิ่งคิดมาก”
บวรเข้ามาจับไหล่พิทยาบอก
“แกกลับบ้านไปก่อน ฉันจะคุยกับแตเอง”
“ใจเย็นก่อนนะพิท”
พิทยาได้แต่พยักหน้ารับ พูดอะไรไม่ออก หันมายกมือไหว้ทั้งสามคนก่อนจะเดินออกไป สามคนมองหน้ากันด้วยความกลัดกลุ้มอย่างมาก

สุอาภาร้องไห้จนไม่มีน้ำตา เสียงเคาะประตูดังขึ้น สุอาภาหันไปมอง
“ให้พี่เข้าไปได้มั้ย” บวรถาม
สุอาภาเดินมาเปิดประตู บวรเข้ามาในห้อง
“ถ้าแกยังเห็นฉันเป็นพี่ บอกมาว่ามันเกิดอะไรขึ้น”
สุอาภามองหน้าบวรอย่างตัดสินใจ
สุอาภานั่งเครียด บวรนั่งลงข้างๆหน้าเครียดกว่า
“แกทำบ้าอะไรของแกห๊ะไอ้แต”
“ตลอดเวลาที่ผ่านมา ที่แตใช้ชีวิตร่วมกับพิท พี่ใหญ่รู้มั้ยว่าพิทไม่เคยลืมผู้หญิงคนนั้นได้เลย พิทรักผู้หญิงคนนั้นคนเดียว ถ้าพิทเลือกได้ พิทก็คงไม่แต่งงานกับแตหรอกค่ะ”
“แต่รวีกำลังจะแต่งงาน”
“แล้วไงคะพี่ใหญ่ เค้าแต่งงาน แต่พิทก็ไม่ได้เลิกรักเค้านี่คะ แตไม่อยากอยู่กับความรู้สึกนี้อีกแล้ว แตเหนื่อยที่ต้องรักคนที่เค้าไม่ได้รักเรา ทุกวันที่แตอยู่กับพิท มันทำให้แตรักพิทมากขึ้น ในขณะที่พิท...พิทไม่เคยคิดที่จะรักแต แล้วอีกอย่างพิทก็เสียสละเพื่อแตมามากพอแล้ว มันถึงเวลาที่แตต้องปล่อยเค้าไป” บวรมองน้องสาวด้วยความเห็นใจ
สุอาภาน้ำตาไหล บวรมองน้องสาวด้วยความสงสารมาก แล้วก็ดึงสุอาภาเข้ามากอดปลอบใจ

พิทยากลับเข้ามาในห้องนอน มองไปรอบๆด้วยความคิดถึงสุอาภา... เขานั่งลงบนเตียง เอาแหวนแต่งงานของสุอาภาออกมามอง แล้วก็ล้มตัวลงนอนบนเตียงด้วยสีหน้าเศร้าอย่างที่สุด
“คุณแต...คุณเป็นอะไรของคุณกันแน่”

ภายในบ้าน รวีพรรณนั่งนิ่ง สีหน้าคิดหนัก กังวลใจอยู่คนเดียว หันไปหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา กดโทรหาพิทยาทันที ไม่นานพิทยารับสาย
“พิทคุยกับคุณแตรู้เรื่องเหรอยังคะ”
พิทยากลืนน้ำลายลงคออย่างยากเย็น
“คุณแต...กลับไปอยู่บ้านแล้วครับ”
รวีพรรณฟังแล้วก็ชะงักไปด้วยความดีใจมาก แต่ทำเสียงเห็นใจ
“ตายจริง นี่แสดงว่าครั้งนี้คุณแตโกรธมาก นี่พิทก็อยู่บ้านคนเดียวน่ะสิคะ”
“ครับ”
“ถ้างั้นเดี๋ยวรวีไปอยู่เป็นเพื่อนพิทนะคะ”
“ไม่ต้อง...”
“ให้รวีไปหาพิทเถอะนะคะ พิทไม่สมควรอยู่คนเดียวในเวลาแบบนี้”
รวีพรรณวางสายทันทีโดยไม่รอฟังคำตอบของพิทยา สีหน้ายิ้มแย้มมีความสุข
“ในที่สุดวันนี้ก็มาถึง วันที่ฉันกับพิทจะได้กลับมาอยู่ด้วยกันอีกครั้ง”
รวีพรรณสีหน้ามั่นใจ

รวีพรรณจ้ำเดินลงมาเจอรมณีกับณรงค์ที่ห้องรับแขก ก็ชะงักหยุดเดิน
“จะไปไหน” รมณีถาม
รวีพรรณโกหก
“ไปหาสิคะ”
“ไปนานรึเปล่า เที่ยงนี้ศรีพิไลกับพ่อดลชวนพวกเราไปทานข้าว”
“ไปไม่นานหรอกค่ะ ถ้าไงคุณแม่เมสเสจมาบอกแล้วกันว่าไปร้านไหน รวีจะตามไป รวีไปก่อนนะคะ”
รวีพรรณรีบเดินออกไป รมณีกับณรงค์แปลกใจ
“ดูลูกรีบร้อนมากเลยนะคุณ”
รมณีหันไปมองณรงค์อย่างเห็นด้วย

ภายในห้องรับแขก พิทยานั่ง รวีพรรณนั่งลงข้างๆ
“รวีเป็นห่วงพิทนะคะ พิทมีอะไรให้รวีช่วยมั้ย”
“ เรื่องนี้รวีช่วยผมไม่ได้หรอก ขอบคุณนะครับที่เป็นห่วง”
พิทยาได้แต่ถอนหายใจ รวีพรรณมองพิทยาอย่างมีแผนการ รวีจับไปที่ต้นขาของพิทยา
“รวีเป็นห่วงพิทเสมอนะคะ ห่วงมากด้วย เพราะอะไรรู้มั้ย เพราะว่ารวี ยังรักพิทอยู่” รวีพรรณพูดพลางขยับตัวเข้าใกล้และยกมือจับหน้าพิทยา
พิทยาผงะ รวีรีบพูดต่อ
“ถ้าพิทเลิกกับคุณแต พิทก็ไม่มีข้อผูกมัดอะไรอีก ถ้าอย่างนั้นเราหนีไปจากที่นี่ด้วยกันดีมั้ย”
พิทยาตกใจ
“หนี”
“ใช่ค่ะ...หนี หนีไปที่ไหนก็ได้ หนีไปอยู่ด้วยกันสองคน รวียอมทิ้งทุกอย่าง ยอมถูกประณาม ขอเพียงแค่รวีไม่ต้องแต่งงานกับนายภูวดล แล้วได้กลับมาอยู่กับพิท เป็นของพิท”
รวีมองหน้าพิทยาอย่างมีความหมาย เอามือคล้องคอพิทยาไว้ พิทยาดึงมือเธอออก
“คุณพูดอะไรออกมารู้ตัวรึเปล่า”
“รวีรู้ตัว รวีมีสติ ในเมื่อไม่มีคุณสุอาภาแล้ว และเราก็ยังรักกันไม่ใช่เหรอคะ รวีรู้นะคะว่าจริงๆแล้วเรายังรักกัน”
แล้วรวีพรรณก็ซุกไซร้ซอกคอกพิทยา เขาตกใจมากพยายามจะดึงรวีพรรณออก
“คุณจะทำอะไร”
รวีพรรณผละออกมามองหน้าพิทยา
“ทำอย่างที่คนรัก...เค้าทำกันยังไงล่ะคะ”
พิทยามองรวีพรรณอย่างนึกไม่ถึง
รวีพรรณยื่นหน้าเข้ามาจะจูบเขา พิทยาสุดทน..ดึงรวีพรรณออกไปอย่างเต็มแรงพร้อมกับลุกขึ้นยืน พูดเสียงดัง
“หยุดได้แล้วรวี”
รวีพรรณผงะกับน้ำเสียงของพิทยา เขามองเธอด้วยแววตาที่สมเพชก็รู้สึกละอายใจขึ้นมาทันที
“หยุดทำให้ตัวเองดูไม่มีคุณค่าซักที ศักดิ์ศรีของคุณ เกียรติของคุณมันหายไปไหนหมด รวีคนที่ผมรู้จัก ผู้หญิงเรียบร้อย อ่อนหวาน น่ารักคนนั้นอยู่ที่ไหน!”
รวีพรรณหน้าถอดสี
“รวีผู้อ่อนแอคนนั้นได้ตายไปแล้ว พิทได้ยินมั้ย มันแปลกตรงไหนถ้าเราจะทำแบบนี้ ในเมื่อเรารักกัน นี่พิท..พิทรักคุณแตเหรอคะ”
รวีพรรณพูดพลางน้ำตาไหลพรั่งพรู พิทยามีสีหน้าลำบากใจ
พิทยาไม่กล้าพูดออกมา กลัวรวีพรรณเสียใจ แต่การที่พิทยาไม่พูด มันแทนคำว่าใช่ รวีพรรณหัวใจแทบแตกสลาย
“ผู้หญิงคนนั้นเค้าไม่เคยเห็นค่าในตัวพิท อย่าลืมสิว่าที่ผู้หญิงคนนั้นยอมแต่งงานกับพิท เพราะอะไร เพราะเค้าต้องการให้พิทปกป้องศักดิ์ศรี และเกียรติยศของเค้ากับครอบครัวเท่านั้น รวีต่างหากที่รักพิท รักมาก..มากที่สุด”
รวีพรรณเข้ามากอดพิทยาแน่น เขาดันเธอออก
“คุณกลับไปซะรวี”
รวีพรรณอึ้ง
“พิท!”
“กลับไป! ก่อนที่ผมจะรู้สึกแย่กับคุณมากไปกว่านี้”
รวีพรรณมองพิทยาด้วยความช็อก พิทยาพูดจบก็หันหลังเดินออกไป ทิ้งให้รวีพรรณเคว้งคว้างอยู่เพียงลำพัง และเจ็บปวดที่ได้รู้ว่าจริงๆแล้วพิทยาเลือกสุอาภา รวีร้องไห้ออกมาอย่างเจ็บปวด

ภายในร้านอาหาร รมณีวางสาย สีหน้าแย่มาก มีณรงค์ ภูวดล ศรีพิไลนั่งอยู่ด้วย
“ติดต่อยัยรวีไม่ได้เลย” รมณีว่า
ภูวดลไม่ค่อยพอใจแต่เก็บอาการเอาไว้
“คุณรวีบอกว่าไปไหนครับ”
“เค้าบอกว่าเค้าไปหาสิ”
“ผมว่าคุณน้าโทรถามคุณสิดีมั้ยครับ” ภูวดลว่า
“จริงด้วย”
รมณีโทรหาสินีนาฎ ไม่นานสินีนาฎก็รับสาย
“หนูสิ...นี่แม่นะลูก รวีอยู่กับหนูรึเปล่าจ๊ะ”

แรงปรารถนา ตอนที่ 12 (ต่อ)

ณ สถานที่แห่งหนึ่ง สินีนาฎยืนกอดอก หน้าตาไม่ยี่หระ
“นี่คุณแม่ไม่ทราบเหรอคะว่าสิกับรวีเลิกคบกันไปแล้ว”
รมณีแปลกใจ ภูวดล ศรีพิไล ณรงค์มองหน้ารมณีด้วยความอยากรู้
“อะไรนะ”
ภูวดลนิ่วหน้า
“เราเลิกคบกัน เพราะสิดันไปรู้ความจริงว่า รวีจะแย่งพิทมาจากนังสุอาภา และที่รวีหายไปก็ไม่ได้หายไปไหนหรอกค่ะ คงอยู่กับพิทนั่นแหละ”
สินีนาฎสีหน้าร้าย สะใจ แล้วก็กดวางสาย
รมณีอึ้ง ช็อก หน้าซีด ลมแทบจับ ภูวดล ณรงค์ ศรีพิไลต่างแปลกใจ
“คุณรมณี..คุณเป็นอะไร” ณรงค์ถาม
รมณีพูดไม่ออกค่อยๆเก็บมือถือใส่กระเป๋าด้วยมือที่สั่นเทา รมณีหันไปทางภูวดล
“อยู่ดีดีก็รู้สึกไม่สบายขึ้นมา ถ้ายังไงวันนี้ฉันต้องขอตัว เอาไว้เราค่อยนัดกันใหม่ ไปกันเถอะคุณ”
รมณีรีบสุดๆ ณรงค์รีบประคองพารมณีออกไป ภูวดลกับศรีพิไลงงมาก แต่ภูวดลสงสัยบางอย่าง

รวีพรรณกลับบ้านมาในสภาพที่แย่สุดๆ เจอรมณีกับณรงค์รออยู่ สองคนหน้าตาโกรธมาก
“ไปหาไอ้พิทยามาใช่มั้ย”
รวีพรรณชะงัก รมณีลุกเดินมาตรงหน้าแล้วใส่ไม่หยุด
“ฉันไม่เข้าใจว่ามันมีดีอะไรนักหนา แกถึงหลงมันจนไม่ลืมหูลืมตา ทำไมแกถึงได้โง่อย่างนี้ห๊ะ”
รวีพรรณสีหน้าเรียบเฉยมากบอก
“ก็เพราะว่าพิทเป็นสามีของรวีแล้วยังไงล่ะคะ”
รมณีกับณรงค์มองหน้ากันด้วยความอึ้ง ตะลึงงัน
“พูดจาบ้าๆอะไรออกมารู้ตัวรึเปล่า” ณรงค์ว่า
“รู้สิคะ ทำไมจะไม่รู้ ก็เรา..หมายถึงรวีกับพิทเพิ่งมีความสุขด้วยกันมา”
รมณีกับณรงค์ตกใจมาก
“รวีไปนอนกับพิทมาค่ะ”
รมณีกับณรงค์แทบช็อก
“แก...แกสติเสียไปแล้วเหรอ! ทั้งๆที่แกกำลังจะแต่งงาน แต่กลับไปมีชู้”
“พิทไม่ได้เป็นชู้แต่เป็นคนที่รวีรัก พิทมาก่อน คนที่มาทีหลังต่างหากล่ะคะที่เป็นชู้”
รมณีเลือดขึ้นหน้า
“ยัยรวี...!”
“รวียังพูดไม่จบ รวีไม่เห็นว่ามันจะน่าแปลกใจตรงไหน กับการที่รวีไปนอนกับผู้ชายที่เรารักก่อนวันแต่งงาน มันก็เป็นการแลกเปลี่ยนที่คู่ควรแล้วกับการที่รวีต้องฝืนใจแต่งงานกับผู้ชายที่ไม่ได้รักไม่ใช่เหรอคะ”
รมณีกับณรงค์ช็อกและเชื่อ รมณีจะตบ แต่รวีพรรณจับแขนรมณีเอาไว้ได้ทัน รมณีตกใจ
“ตลอดชีวิตที่ผ่านมาของรวี รวีทำเพื่อพ่อกับแม่มามากพอแล้ว รวีขอทำเพื่อตัวเองเป็นครั้งสุดท้ายเถอะค่ะ”
รมณีพูดไม่ออก รวีพรรณปล่อยมือออกจากแขนแม่แล้วจ้ำเดินเข้าไปด้านในทันที ณรงค์หน้าแย่สุดๆ หันไปมองรมณีที่กรี๊ดออกมาอย่างสติแตก
“อ๊าย!”
ณรงค์สะดุ้ง
“คุณรมณี...จะ...ใจ...ใจเย็นๆ”
“มันเย็นอีกต่อไปไม่ไหวแล้ว”
รมณีจ้ำพรวดพราดออกไปจากบ้าน ณรงค์รีบตามไปติดๆ
“คุณจะไปไหน”

ภายในบ้านสุอาภา ณีเอาถาดวางจานข้าวมาวางบนโต๊ะ นพ บวร วรรณวดีมีสีหน้าเป็นห่วง
“ตั้งแต่เมื่อวานก็ยังไม่ยอมทานอะไรเลย เฮ้อ” นพว่า
ยังไม่ทันที่ทุกคนจะพูดอะไรกันต่อ รมณีกับณรงค์ก็บุกเข้ามา ทุกคนหันไปเห็นก็ตกใจ
“แห่กันมาทำไม!” นพว่า
“นี่ป้าต้องเอาถังน้ำมาล้างสิ่งสกปรกอีกแล้วสิคะคุณต่าย” ณีบอก
“นั่นสิคะป้า”
รมณีเลือดขึ้นหน้า
“คนที่พวกแกต้องเอาน้ำล้างคราบสกปรกคือลูกเขยของแกต่างหาก!”
นพ ต่าย บวร ณีต่างนิ่วหน้า
“พิทไปทำอะไร”
“มันนอนกับลูกสาวฉัน!”

ทุกคนมองหน้ากันด้วยความตกใจมาก
“ไม่จริง พิทไม่ใช่ผู้ชายแบบนั้น”
“รู้ได้ไงว่ามันไม่ใช่ พวกแกอยู่กับมันตลอดเวลาเหรอไง ถึงเห็นว่ามันทำอะไร หรือ ไม่ทำอะไร”
ทุกคนพูดไม่ออก
“ยัยรวีกำลังจะแต่งงาน แต่ไอ้สารเลวนั่นกลับย่ำยีลูกสาวฉัน แถมยังเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของฉันอีกด้วย ถ้าลูกสาวแกไม่มีปัญหาดูแลผัวก็หาโซ่มาล่ามเอาไว้ มันจะได้ไม่เพ่นพ่านมายุ่งกับคนอื่น”
บวรฉุนอย่างแรง
“คนที่ควรล่ามโซ่ น่าจะเป็นลูกพวกคุณมากกว่า”
ณรงค์จะเอาเรื่อง
“แก!”
รมณีจับแขนณรงค์ห้ามไว้
“อย่าเอาพิมเสนไปแลกกับเกลือเลยคุณ ฝากบอกลูกเขยชั่วของแกด้วยว่า อย่าคิดทำลายลูกสาวฉันด้วยวิธีสกปรกแบบนี้ ไม่อย่างนั้นฉันกับมันได้เห็นดีกันแน่”
รมณีพูดจบก็เดินออกไปกับณรงค์ นพงงมาก บวร วรรณวดีกับณีหันมาทางนพ มีสีหน้ากังวลใจ แล้วทุกคนก็หันไปเห็นสุอาภายืนอยู่
“ยัยแต!”
ทุกคนอึ้งกันไปหมด สุอาภาได้ยินทุกอย่างแล้วก็หน้ามืดจะเป็นลม ทุกคนรีบกรูกันเข้ามาหา บวรรีบประคองสุอาภาได้ทันก่อนที่จะล้มลงไป
“แต!”

ภายในห้องนอน นพนั่งอยู่บนเตียง จับมือสุอาภาที่นอนไม่ได้สติ ไม่นานสุอาภาก็ฟื้นขึ้นมา นพดีใจมาก
“แต...ลูกเป็นยังไงบ้าง”
สุอาภาพูดไม่ออกจะร้องไห้ตลอดเวลา นพยกมือลูบหัวลูก
“สิ่งที่ได้ยินเมื่อกี้ อย่าเพิ่งเก็บเอามาคิดมาก รอให้ป๋าถามพิทก่อน”
“ไม่ต้องถามหรอกค่ะป๋า เค้าจะไปมีอะไรกับใครมันก็เรื่องของเค้า มันไม่เกี่ยวกับแต”
สุอาภาน้ำตาไหล นพมองสุอาภาราวใจจะขาด นพยกมือเช็ดน้ำตาให้ลูกสาวด้วยความทะนุถนอม แล้วดึงเข้ามากอด สุอาภาร้องไห้ออกมาอย่างหยุดไม่ได้

นพเดินลงมา บวร ต่าย ณีหันไปมอง
“น้องเป็นยังไงบ้างคะป๋า”
นพถอนหายใจพลางส่ายหัวว่าอาการแย่ วรรณวดีผงะไปด้วยความสงสารน้อง
บวรสีหน้าจริงจังมาก
“ผมจะไปหาพิท...”
ทุกคนตกใจ
“ใจเย็นก่อนเจ้าใหญ่ อย่าทำอะไรวู่วาม”
“ผมต้องไปทำให้ทุกอย่างมันจบครับป๋า”
บวรจ้ำเดินออกไปทันที ทุกคนตกใจ
“ตายแล้ว คุณใหญ่จะไปฆ่าคุณพิทมั๊ยคะเนี่ย” ณีว่า
ทุกคนพากันเครียด

ภายในบ้าน พิทยามองบวรด้วยสีหน้าตกใจ
“ผมไม่ได้มีอะไรกับรวีนะครับ จะให้ผมไปสาบานที่ไหนก็ได้”
“ไม่ต้อง ฉันเชื่อแก ฉันรู้จักแกดี แต่ตอนนี้ฉันเดาว่า แตมันคงคิดว่าพอมันออกจากบ้านแก แกก็พารวีเข้ามามีความสุขกัน”
“ผมจะไปอธิบายให้คุณแตเข้าใจ”
“ก่อนที่แกจะไปอธิบายให้แตเข้าใจ ฉันมีความจริงบางอย่าง...ที่ต้องบอกให้แกรู้ บางทีมันอาจจะช่วยทำให้อะไรๆดีขึ้น”
พิทยามองบวรด้วยความสงสัย

ภายในห้องนอน รวีพรรณนั่งจมปลักอยู่ในความทุกข์ ภูวดลเปิดประตูเข้ามา รวีพรรณตกใจมาก
“เข้ามาทำไม”
“แล้วทำไมผมจะเข้ามาไม่ได้ ไปหาไอ้หมอนั่นมาใช่มั้ย”
“ใช่..ฉันไปหาพิทมา”
“มันวิเศษยังไง คุณถึงต้องเอาตัวไปประเคนให้มันถึงที่ขนาดนี้”
“เพราะเค้าเป็นคนที่ฉันรัก”
ภูวดลโมโห เข้ามาจะจับตัวรวีพรรณ
“อย่าเข้ามาแตะเนื้อต้องตัวฉัน ไม่อย่างนั้นฉันจะร้องให้ลั่นบ้าน ทุกคนจะได้รู้สันดานที่แท้จริงของคุณซักที”

ภูวดลไม่กล้าเพราะเห็นท่าทางเอาจริงของรวีพรรณ
ภูวดลยิ้มร้ายที่มุมปาก
“ให้มันรู้กันไปว่าผมจะจัดการผู้หญิงคนเดียวไม่ได้”
รวีพรรณมองภูวดลด้วยความสงสัย

ภูวดลยืนอยู่กับคนขับรถ รวีพรรณ รมณี และณรงค์ยืนอยู่
“ผมจะให้คนขับรถของผมอยู่ที่นี่ เพราะว่าใกล้วันแต่งงานแล้ว ผมไม่อยากให้คุณรวีขับรถไปไหนมาไหนเอง ผมอยากให้คุณสบายที่สุด เพราะวันนั้นเราจะเหนื่อยกันมาก”
รวีพรรณมองภูวดลอึ้งไม่นึกว่าภูวดลจะใช้วิธีนี้
“พ่อดลช่างเป็นห่วงลูกสาวของน้าซะจริง ขอบใจมากนะจ๊ะ”
“ครับ...”
ภูวดลหันไปพูดกับคนขับรถ
“พาคุณรวีไปทุกที่ที่คุณรวีอยากไป อย่าให้ฉันรู้ว่าแกละเลยหน้าที่”
“ครับ”
ภูวดลตบบ่าคนขับรถอย่างรู้กัน แล้วหันไปมองรวีพรรณด้วยสายตาเยาะเย้ย รวีพรรณเจ็บใจมากที่ทำอะไรไม่ได้

ภายในบ้าน นพกับวรรณวดีนั่งอยู่ ส่วนณีผุดลุกผุดนั่งด้วยสีหน้ากังวลใจมาก
“ป้าณี..หยุดลุกๆนั่งๆได้แล้วค่ะ ต่ายมึนตามไปด้วยแล้วเนี่ย”
“ป้ากลัวคุณพิทจะโดนคุณใหญ่อัดน่ะสิคะ”
นพถอนหายใจ สีหน้าเป็นห่วง แล้วก็ลุกขึ้นยืน
“ป๋าทนนั่งอยู่อย่างนี้ต่อไปไม่ไหวแล้ว ป๋าจะไปหาพิท”
นพขยับจะเดิน วรรณวดีกับณีรีบตาม แต่บวรกับพิทยากลับเข้ามาในบ้าน ทุกคนเห็นพิทยาสภาพปกติก็พากันโล่งใจ

พิทยาเดินขึ้นบันได สีหน้าครุ่นคิด หยุดเดิน นึกย้อนกลับไปที่บวรบอกเขา
พิทยามองหน้าบวรสีหน้าตะลึงอึ้งมากมาย
“คุณใหญ่พูดว่าอะไรนะครับ”
“น้องสาวฉันรักแก”
พิทยายืนตัวแข็งอย่างทำอะไรไม่ถูก เพราะนึกไม่ถึงสุดๆ
“คุณใหญ่แน่ใจ”
“ทำไมฉันจะไม่แน่ใจ ในเมื่อไอ้แตเป็นคนบอกฉันเอง มันแอบรักแกมาตั้งแต่เด็ก แต่ความเป็นที่มันเป็นคนฟอร์มจัด เยอะสิ่งก็เลยไม่แสดงออก แตเลยใช้วิธีเรียกร้องความสนใจจากแกโดยการกลั้นแกล้งแกแทน แล้วแกล่ะ แกรู้สึกอย่างเดียวกับแตรึเปล่า ถ้าแกรู้สึกอย่างเดียวกับน้องสาวฉัน อย่าปล่อยให้แตหลุดมือไปเด็ดขาด”
พิทยาอึ้ง ตะลึง แต่หัวใจพองตัว บวรจับไหล่ พิทยามองหน้าบวรแล้วก็นิ่งไป

พิทยาสูดลมหายใจเข้าเต็มปอดแล้วเดินขึ้นไป ... บวร นพ วรรณวดี ณีโผล่หน้าออกมามองตาม
“คิดว่าพิทจะง้อแตสำเร็จมั้ย”
“ไม่รู้สิคะ แตใจแข็งหยั่งกับอะไรดี”
นพ บวร ต่าย ณีมองหน้ากันด้วยความกังวลใจ

ภายในห้องนอน สุอาภานอนหันหลังให้ประตู เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“ใครคะ”
เงียบไม่มีเสียงตอบ!! เสียงเคาะประตูดังขึ้นอีก สุอาภาหันไป นิ่วหน้าสงสัย ลุกเดินมาเปิดประตู ทันทีที่เห็นพิทยาก็ตกใจ จะรีบปิดประตู แต่พิทยาเอามือยันประตูไว้แล้วผลักเข้าไปเต็มแรง ก่อนจะเดินเข้าไปในห้อง แล้วปิดประตูดังปัง!!
สุอาภาชี้นิ้วไปที่ประตู พร้อมกับจ้องหน้าพิทยาเอาเรื่อง
“ออกไป!”
“ผมไม่ออกจนกว่าคุณจะฟังผม”
“ฉันไม่ฟัง”

สุอาภาเดินไปเปิดเพลงเสียงดังลั่นห้อง พิทยาเดินมากดปิดเสียง สุอาภาหันขวับไปมองไม่พอใจ
“แต่คุณต้องฟัง!ผมกับรวีไม่ได้มีอะไรกัน”
สุอาภาสวนกลับทันควัน
“ถ้าไม่มีอะไรกัน แล้วแม่เค้าจะมาอาละวาดที่นี่ทำไม”
“ผมยืนยันด้วยเกียรติของผม ว่าผมกับรวี...”
สุอาภาพูดขัดขึ้นมา
“ไม่ต้องอธิบายอะไรอีกแล้ว ฉันไม่อยากฟังเรื่องนายกับผู้หญิงคนนั้นอีก”
สุอาภารีบเดินไปเปิดประตู แต่พิทยาเดินมาขวางประตูเอาไว้ แล้วจับแขนสุอาภาทั้งสองข้าง
“คุณแต คุณต้องฟังผม!”
“ฉันบอกแล้วไงว่าไม่ฟัง”
“คุณแต...”
“ออกไปซะ!”
พิทยาส่ายหัว สุอาภาเอามือทุบไปที่ตัวพิทยาไม่หยุด
“ออกไป ฉันบอกให้ออกไป ไปสิไป..ไปสิ”
สุอาภาร้องไห้ พิทยารวบมือสุอาภาแล้วกอดสุอาภาไว้
“ถ้าทุบผมให้ตาย แล้วมันจะทำให้คุณหายโกรธ คุณจะทุบจะตีผมเท่าไหร่ ผมก็ยอม”
สุอาภาหยุดอยู่ในอ้อมกอดพิทยาด้วยความหวั่นไหว..ครู่หนึ่งตัดใจเงยหน้ามองพิทยา ทันใดนั้นสุอาภากระทืบเท้าพิทยาเต็มแรง พิทยาสะดุ้ง สุอาภาผลักพิทยาให้พ้นทาง แล้วก็เปิดประตูเดินออกไปทันที พิทยาหันไปมองตามสีหน้าเจ็บปวด

สุอาภาเดินลิ่วๆออกมาที่หน้าบ้าน บวร นพ วรรณวดี ณี รีบตามออกมา บวรเข้ามาฉุดแขนสุอาภาเอาไว้
“แกจะไปไหน”
“ไปที่ไหนก็ได้ ที่ไม่มีผู้ชายคนนั้น”
พิทยาเดินออกมา
“ผมไปเอง แต่ที่ผมยอมไป..ไม่ใช่เพราะว่าผมยอมแพ้ ผมจะกลับมาหาคุณอีก ผมจะไม่มีวันปล่อยคุณไปเด็ดขาด”
ทุกคนหันไปมองพิทยา สุอาภามองด้วยสายตากร้าว
พิทยามองสุอาภาด้วยสีหน้ามุ่งมั่น ทำเอาสุอาภาชะงักไปเหมือนกัน พิทยาหันไปไหว้ลาทุกคนและหันหันไปมองสุอาภาอีกครั้ง ก่อนจะเดินออกไป
สุอาภาหันไปมองตามพิทยาแล้วก็หันไปมองทุกคน ทั้งสี่คนผงะกับสายตาของสุอาภา แล้วสุอาภาก็จ้ำเดินกลับเข้าไปบ้านทันที ทุกคนได้แต่ถอนหายใจด้วยความกลุ้ม

เช้าวันถัดมา สุอาภาเดินด้อมๆมองๆเช็คว่าพิทยามารึเปล่า แต่ไม่เห็นพิทยา..ก็เดินมาที่โต๊ะอาหาร นพ บวร วรรณวดีนั่งทานอาหารเช้ากันอยู่แล้ว ทั้งหมดเห็นสุอาภาเดินมาก็ลอบมองหน้ากันดูมีพิรุธมาก สุอาภาไม่ทันสังเกตสีหน้าของแต่ล่ะคนก็มานั่งที่เก้าอี้
ไม่นานณีเอาข้าวต้มออกมาเสิร์ฟตรงหน้าสุอาภา
“ขอบคุณค่ะป้า”
ณียิ้มแล้วถอยไปยืนข้างหลัง นพ บวร ต่ายเหล่มอง ณียกมือโอเค ทุกคนยิ้มพอใจ สุอาภาตักข้าวต้มขึ้นมาทานแล้วก็ชะงักเพราะรสชาติคุ้นเคยมาก
ทุกคนทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ สุอาภาไม่แน่ใจลองทานอีกครั้งก็มั่นใจทันที รีบวางช้อน หันไปทางทุกคน
“พิทอยู่ไหน”
“พิทก็อยู่บ้านเค้าไงลูก” นพว่า
“นี่เป็นข้าวต้มสูตรคุณหนูกระแต มีพิทกับแตเท่านั้นที่รู้สูตรนี้ คนอื่นทำไม่ได้ พิทอยู่ที่ไหนคะ”
ทุกคนมองหน้ากัน แล้วไม่นานพิทยาก็เดินออกมา สุอาภาหันไปมองแล้วก็ลุกขึ้นยืน
“มาอีกทำไม”
“ผมบอกคุณแล้วไงว่าผมจะไม่ปล่อยคุณไป ผมจะมาที่นี่ทุกวันจนกว่าคุณจะยอมฟังผมอธิบาย”
“ถ้าฉันฟัง นายจะไม่มาอีกใช่มั้ย”
“ใช่...”
“ไม่ว่าฉันจะเชื่อหรือไม่เชื่อนายด้วยใช่มั้ย”
“ใช่...”
“งั้นก็รีบพูดมา”
ทุกคนหันมามองหน้ากัน นพพยักหน้า ทุกคนลุกเดินออกไปเหลือสุอาภากับพิทยาสองคน
“ผมยอมรับว่ารวีมาหาผมที่บ้านจริง แต่มันไม่มีอะไรเกิดขึ้น อย่างที่ผมเคยบอกว่าเรื่องระหว่างผมกับรวี...ไม่มีทางเป็นไปได้อีก ผมยังยืนยันคำเดิม ผมกับเค้า จบกันไปนานแล้ว”
“ความสัมพันธ์ของนายกับเค้าอาจจะจบไปนานแล้ว แต่ความรู้สึกของนายกับผู้หญิงคนนั้น มันยังไม่จบ

แรงปรารถนา ตอนที่ 13 (ต่อ)
พิทยาอึ้งที่สุอาภาคิดแบบนี้พยายามจะอธิบาย
“มันไม่ใช่...”
สุอาภาไม่ฟัง พูดต่อทันที
“ฉันรู้ว่านายต้องกล้ำกลืนฝืนทนมากแค่ไหนที่ต้องมาแต่งงานกับฉัน คนเดียวที่อยู่ในหัวใจของนายตลอดเวลาคือเค้า ยอมรับความจริงมาเถอะพิท ฉันรู้ว่านายนั่งนับวันรอเวลาที่จะได้เป็นอิสระมานานแล้ว”
พิทยาสวนกลับทันควัน
“ไม่จริง ตลอดเวลาที่เราอยู่ด้วยกัน ผมไม่เคยต้องกล้ำกลืนฝืนทน”
สุอาภาพูดขัดขึ้นมา
“เลิกโกหกซักที มันถึงเวลาที่เราต้องพูดความจริงกันแล้ว ฉันรู้ว่าสิ่งที่นายทำลงไปทุกอย่าง นายทำเพื่อป๋า”
พิทยาพูดต่อทันที
“ผมไม่ได้ทำเพื่อคุณอา ผมทำเพื่อคุณ”
สุอาภาชะงัก พิทยามองสุอาภาด้วยแววตาที่จริงจังและจริงใจ ขยับเข้ามาใกล้แล้วจับมือสุอาภาขึ้นมา
“ได้โปรด...เชื่อใจผมเถอะนะครับคุณแต”
พิทยาส่งสายตาเว้าวอน สุอาภานิ่งคิดย้อนกลับไปวันที่เธอรอพิทยาจนมืดค่ำแต่พิทยาก็ไม่มา เธอดึงมือออกจากพิทยา พิทยาผงะ
“ฉันเคยเชื่อใจนาย แต่มาตอนนี้ ฉันไม่อยากที่จะเชื่อใจนายอีก กลับไปเถอะ หมดเรื่องที่ต้องพูดกันแล้ว”
สุอาภาหันหลังจะเดิน
“คุณบอกให้เราต้องพูดความจริง แล้วทำไมคุณถึงไม่พูดความจริงกับผมล่ะครับ”
สุอาภายืนนิ่งงัน พิทยาเดินอ้อมมายืนตรงหน้าสุอาภา
“คุณรู้สึกยังไงกับผมกันแน่คุณแต คุณ..รักผมรึเปล่า ผมถามว่าคุณรักผมรึเปล่า”
สุอาภาสีหน้านิ่งมองพิทยา พิทยาลุ้น แล้วสุอาภาก็ทำหน้าไม่แยแส
“รักเหรอ นายก็รู้ว่าเราแต่งงานกันเพราอะไร ฉันแต่งงานกับนายเพราะป๋า ไม่ใช่เพราะความรัก ถ้าฉันรักนาย ฉันคงไม่ต้องการอิสระคืนจากนายหรอกจริงมั้ย”
พิทยาแทบจะหมดแรงยืน
“คุณคงทรมานมากที่ต้องอยู่กับคนอย่างผม”
สุอาภาฝืนใจตอบทั้งๆที่อยากร้องไห้
“เข้าใจถูกแล้ว”
พิทยาอึ้ง หัวใจจะแตกสลาย
“ผมคิดไปเองว่าเรามีความสุขกันดี”
สุอาภาจะร้องไห้แต่ต้องกลั้นเอาไว้
“เราจะมีความสุขได้ยังไง ในเมื่อเรา...เราไม่เคยรักกัน”
สุอาภาพยายามควบคุมไม่ให้เสียงสั่น พิทยาเจ็บปวดมาก หยิบแหวนแต่งงานที่สุอาภาคืนเค้าออกมาจากกระเป๋ากางเกง แล้ววางบนโต๊ะ
“ของอะไรที่ผมให้คุณแล้ว ผมจะไม่รับคืน”
พิทยาพูดจบก็เดินออกไปด้วยสีหน้าที่เสียใจและเจ็บปวด สุอาภากำมือแน่น น้ำตาคลอเบ้า

พิทยาเดินลิ่วๆออกไปจากบ้าน ด้วยใบหน้าที่เศร้ามาก ทุกคนเห็นสภาพของเขาก็ตกใจ

บริเวณสระว่ายน้ำ ภายในบ้าน เวลาต่อมา สุอาภายืนหน้าเศร้าดูแหวนแต่งงานในมือ... ทุกคนเดินเข้ามาหาสุอาภา
วรรณวดีเดินมาจากข้างหลังเข้ามาจับไหล่น้องสาว ทันทีที่สุอาภาหันไปเห็นพี่สาวก็ปล่อยโฮออกมาทันที
“พี่ต่าย”
ทั้งคู่กอดกันร้องไห้
“แตทำแบบนี้ทำไม ทั้งๆที่คนที่เจ็บปวดมากที่สุดก็คือแต”
“เพราะแตต้องการให้คนที่แตรักมีความสุขน่ะสิคะ”
วรรณวดีเห็นใจ ลูบหัวน้องสาวให้กำลังใจ สุอาภาร้องไห้ออกมาอย่างหยุดไม่ได้

พิทยากลับเข้ามานั่งในบ้าน แววตาและสีหน้าเต็มไปด้วยความหมองเศร้าสุดๆ มองไปทางไหนก็ว่างเปล่า ไม่มีสุอาภาอีกต่อไป

ภายในบ้าน รมณีกำลังลองชุด มีช่างตัดเสื้อกำลังจัดเสื้อผ้าให้ ณรงค์นั่งอยู่ด้วย รวีพรรณแอบมองอยู่ไม่ห่างออกไป
“ตรงเอวเอาให้หลวมกว่านี้อีกหน่อยก็ดีนะ เดี๋ยววันงานจะทานได้นิดเดียว”
“ได้เลยค่ะคุณนาย”
รวีพรรณมองไปรอบๆ ไม่เห็นคนขับรถของภูวดลก็ค่อยๆย่องออกไปทางหลังบ้าน

รวีพรรณจ้ำเดินออกมาตามทาง แล้วก็ต้องตกใจสุดขีดเพราะเจอคนขับรถยืนอยู่
“คุณรวีจะไปไหนครับ”
“ไม่ต้องยุ่ง”
รวีพรรณจะเดิน แต่คนขับรถขวางทางเอาไว้
“ไม่ยุ่งไม่ได้ครับ ผมต้องยุ่ง เพราะคุณภูวดลสั่งเอาไว้ ให้ผมคอยรับใช้คุณรวี”
รวีพรรณมองคนขับรถอย่างไม่พอใจมาก
“ฉันไม่ไปแล้ว”
รวีพรรณตะคอกเสร็จก็จ้ำเดินเข้าไปในบ้านทันที

รวีพรรณเข้ามาในห้องนอน ปิดประตูดังปัง! ด้วยความโมโหมาก
“บ้าบ้า บ้า!ฉันไม่ใช่นักโทษที่ต้องให้คนเฝ้าตลอดเวลา”
รวีพรรณประสาทจะเสีย หันไปเห็นชุดเจ้าสาวก็ยิ่งหัวฟาดหัวเหวี่ยงแล้วก็ร้องไห้ออกมาอย่างหนัก อย่างคนที่จนตรอกแล้ว

เวลากลางคืน สุอาภายืนเหม่อที่ริมหน้าต่างห้องนอน เสียงเคาะประตูดังขึ้น สุอาภาเห็นนพเดินเข้ามาพร้อมกล่องผลไม้
“ป๋าเห็นแตทานข้าวไปนิดเดียว กลัวหิวก็เลยเอาผลไม้มาให้ มาทานสิลูกมา”
สุอาภาเดินมานั่งที่โต๊ะ นพเอาจานผลไม้วางตรงหน้าสุอาภาก่อนจะนั่งลงข้างๆ
“ขอบคุณนะคะป๋า แต่..แตยังไม่อยากทานตอนนี้” สุอาภาตอบหน้าเศร้า
“ไม่ทานตอนนี้ก็ไม่เป็นอะไร เดี๋ยวป๋าเอาแช่ตู้เย็น ยังเก็บไว้ได้อีกหลายวัน ไอ้กล่องนี้มันดีนะ ทำให้ของไม่เน่าไม่เสีย นี่ถ้าเอาความรู้สึกของเราเก็บในกล่องใบนี้ได้ เราคงจะมีแต่ความรู้สึกดีดีต่อกันเนอะ”
สุอาภามองนพอย่างรู้ทัน
“ป๋าต้องการจะพูดอะไรกับแตคะ”
นพยิ้มอ่อนโยน จับมือสุอาภา
“ป๋าไม่รู้หรอกนะว่าพิทกับแตมีปัญหาอะไรกัน แต่ป๋าได้เห็นถึงความพยายามของพิทที่จะทำให้ลูกหายโกรธ มันทำให้ป๋ารู้ว่าพิทยังคงเป็นคนดีเสมอ ที่ผ่านมา ป๋าเห็นว่าพิทกับแตเป็นยังไงกัน ป๋าไม่อยากให้สิ่งผิดพลาดที่เกิดจากความตั้งใจก็ดี หรือไม่ตั้งใจก็ดี มาทำลายความรู้สึกของพิทกับแตที่มีให้กัน”
นพเข้ามาโอบสุอาภาเอาไว้หลวมๆ สุอาภายังตั้งใจฟังอยู่
“ป๋าอยากให้แตเปิดโอกาสให้พิทอีกซักครั้ง คนเราถ้าไม่พูด จะเข้าใจกันได้ยังไง บางครั้งสิ่งที่เราเห็น สิ่งที่เราเข้าใจ มันก็ไม่ใช่สิ่งที่ถูกต้องเสมอไป ป๋าไม่อยากเห็นลูกของป๋าจมอยู่กับความทุกข์ไปจนชั่วชีวิต ลองเอาที่ป๋าพูดไปคิดดูให้ดี”
สุอาภาไม่ตอบ นพยิ้มแล้วก็หอมหน้าผากสุอาภาก่อนจะเดินออกไป เธอมองกล่องผลไม้สีหน้าครุ่นคิด

เวลากลางวันถัดมา ภายในห้องนอนของรวีพรรณ ชุดแต่งงานแขวนอยู่หน้าตู้เสื้อผ้า..รวีพรรณนั่งเหม่อลอยมองออกไปนอกหน้าต่าง สีหน้าไม่มีความสุขหมดอาลัยตายอยากในชีวิต ระหว่างนั้นเสียงเคาะประตูดังขึ้น รวีพรรณไม่หันไป รมณีสีหน้ายิ้มแย้มเปิดประตูเดินถือกล่องกำมะหยี่ เข้ามายืนข้างรวีพรรณ
“รวีลูกแม่”
รวีพรรณหันมาช้าๆ รมณีเปิดกล่องกำมะหยี่ แล้วยื่นชุดเครื่องเพชรสวยงามไปตรงหน้ารวีพรรณ
“เครื่องเพชรที่พ่อดลเอามาให้ ลูกจำได้มั๊ย เอาไว้ใส่วันงานนะลูกนะ รับรองว่าวันนั้น...ลูกแม่จะต้องเป็นเจ้าสาวที่สวยที่สุด”
รวีไม่ตอบอะไรออกมา รมณีวางกล่องไว้บนโต๊ะ แล้วก็จับไหล่รวีพรรณให้ลุกขึ้นยืนแล้วดึงลูกสาวเข้ามากอด
“แม่รอวันนี้มานานเหลือเกิน แม่มีความสุขมากจริงๆ”
รมณีลูบหัวรวีพรรณที่น้ำตาไหลด้วยความทุกข์ระทมที่สุด เธอกำมือแน่นอย่างสุดที่จะทนได้อีกต่อไป

ภายในบ้าน พิทยานั่งซึม พลันเสียงมือถือพิทยาดังขึ้น เขาหยิบมากดรับสาย
“ฮัลโหล”
“พิท..นี่รวีนะ”
พิทยาชะงัก ... รวีพรรณร้องไห้
“รวีทนไม่ไหวอีกแล้ว”
“คุณเป็นอะไร”
“พิทช่วยพารวีหนีงานแต่งงานที”
พิทยาอึ้ง
“รวีขอร้อง พิทไม่ต้องกลับมารักรวีอีกแล้วก็ได้ ขอแค่พารวีหนี แล้วรวีจะหาทางไปเอง..นะพิทนะ..
สงสารรวีเถอะ...ถ้ารวีต้องอยู่กับผู้ชายคนนี้ไปจนชั่วชีวิต รวีต้องตายแน่ๆ”
พิทยาพูดอย่างลำบากใจ
“นี่ไม่ใช่ทางออกนะรวี แต่มันคือการแก้ปัญหาที่ปลายเหตุ”
รวีพรรณเสียใจมาก
“ถ้าพิทไม่ช่วยรวี รวีขอตาย!”
รวีพรรณแววตาสิ้นหวัง พิทยาตกใจมาก
หลายวันต่อมา วันที่พระอาทิตย์ส่องแสงแรงกล้า รวีพรรณในชุดเจ้าสาวกำลังนั่งให้ช่างแต่งหน้า ทำผม อยู่ที่หน้ากระจก สีหน้าเศร้ามาก

เวลาเย็น พิทยาเดินมาตามทางในโรงแรม มองไปที่หน้างานแต่งงาน เขาเห็นภูวดล ภาสันต์ รมณี จันทร์จำนง ศรีพิไล ณรงค์ยืนอยู่กันที่หน้างาน ทั้งหมดหันไปเห็นพิทยาเดินเข้ามาก็ตกใจมาก ยกเว้นจันทร์จำนงที่ดีใจ
ภาสันต์เดินมาหาพิทยาทันที
“ใครเชิญแกมางานนี้”
“ผมมาเพราะรวี ผมอยากมาแสดงความยินดีกับเพื่อนของผม”
ทุกคนมองพิทยาอย่างไม่ไว้ใจ ยกเว้นจันทร์จำนงที่เดินมาหาพิทยา
“ย่าดีใจจริงๆที่เห็นพิทมา มากับย่าดีกว่าลูก”
จันทร์จำนงพาพิทยาเดินออกไป ภูวดลมองตามอย่างไม่ชอบใจ พิทยาพยายามทำหน้านิ่งแต่จริงๆมีแผนในใจ ภาสันต์กระซิบภูวดล
“หาคนจับตาดูมันเอาไว้”
“ครับพ่อ”
ภูวดลมองพิทยาด้วยแววตาหวาดระแวง

รวีพรรณในชุดเจ้าสาวแต่งหน้าทำผมเสร็จ แต่สีหน้ายังเศร้าอยู่ ช่างทั้งสองมองแล้วก็แอบเมาท์กัน
“สวยเศร้าๆไงก็ไม่รู้ เธอว่ามั้ย” ช่างแต่งหน้าว่า
“นั่นสิ” ช่างผมบอก
รวีพรรณลุกขึ้น หันมาทางช่าง ช่างรีบฉีกยิ้ม
“คุณรวีจะลงไปที่งานเลยมั้ยคะ”
“ฉันขอเข้าห้องน้ำ ก่อน”
รวีพรรณหยิบมือถือเดินไปเข้าห้องน้ำ

บริเวณห้องจัดเลี้ยง แขกเริ่มทยอยกันมา พิทยาหันไปมองเห็นภูวดล ภาสันต์ รมณี ศรีพิไล ณรงค์ ยืนต้อนรับแขก จันทร์จำนงเดินมาหาพิทยา
“เดี๋ยวมานั่งเป็นเพื่อนย่านะพิท”
“คุณนายไปนั่งก่อนนะครับ ผมขอออกไปโทรศัพท์ก่อน”
จันทร์จำนงพยักหน้า พิทยาประคองจันทร์จำนงพาไปนั่งแล้วก็เดินออกไปอีกทาง ภูวดลหันไปเห็นพิทยาเดินออกไป ก็หันไปส่งซิกให้พนักงานโรงแรม พนักงานพยักหน้ารับและตามพิทยาออกไป

รวีพรรณนั่งอยู่ที่ขอบอ่างอาบน้ำ จ้องมองมือถือ สีหน้าอมทุกข์สุดๆ
“นี่พิทจะไม่ช่วยเราจริงๆเหรอ”
รวีพรรณสีหน้าแย่มากๆ พลันเสียงเมสเสจดังขึ้น รวีพรรณตื่นเต้น รีบกดเปิดอ่านเห็นเป็นข้อความจากพิทยา
“รออยู่ที่ลานจอดรถด้านหลังโรงแรม”
รวีพรรณดีใจ และโล่งใจอย่างที่สุด

บริเวณหน้าห้องจัดเลี้ยง พิทยาเก็บมือถือใส่กระเป๋ากางเกง หันไปมองเห็นพนักงานยืนมองอยู่ พนักงานพอเห็นพิทยามองมาทางตัวเองก็รีบหันไปทางอื่น
พิทยามองพนักงานอย่างสงสัยแล้วก็เดินไปอีกทาง พนักงานรีบตามไปทันที พร้อมทั้งเอามือถือออกมากดโทรออก

ภูวดลกำลังยิ้มแย้มรับแขกกับภาสันต์
“เชิญตามสบายนะครับ เจ้าสาวกำลังจะลงมาแล้ว”
เสียงมือถือของภูวดลดังขึ้น ภูวดลมองภาสันต์อย่างรู้กัน ภูวดลเดินเลี่ยงออกไปรับโทรศัพท์
“ฮัลโหล … รีบตามไป”
ภูวดลวางสายแล้วสีหน้าเครียดขึ้นมาทันที

ช่างแต่งหน้ากำลังคุยโทรศัพท์ในห้อง
“คุณรวีกำลังเข้าห้องน้ำค่ะ ให้พาลงไปที่ห้องจัดเลี้ยงได้เลยนะคะ”
ช่างแต่งหน้าวางสาย รวีพรรณเดินออกมา ช่างแต่งหน้ากับช่างทำผมหันไป
“คุณรมณีโทรมาบอกให้ลงไปที่ห้องจัดเลี้ยงได้แล้วค่ะ”
รวีพรรณพยักหน้าแล้วก็เดินออกไปจากห้องพร้อมกับช่างแต่งหน้าและช่างทำผม

รวีพรรณกับช่างกำลังยืนรอลิฟต์ ไม่นานลิฟต์เปิดออก ทั้งสามคนเดินเข้าไปข้างใน แล้วรวีพรรณก็ทำเป็นตกใจ
“แย่แล้ว ฉันลืมต่างหูไว้ในห้องน้ำ คุณช่วยไปเอาให้ฉันทีได้มั้ย”
“ฉันไปเอาให้เองค่ะ” ช่างผมบอก
ช่างผมรีบเดินออกไป ช่างแต่งหน้าไม่ทันระวังตัว เจอรวีพรรณผลักออกไปนอกลิฟท์อย่างแรง จนล้มลงไปบนพื้น
“โอ๊ย!”
ช่างผมที่เดินไปแล้วได้ยินเสียงก็หันมาเห็นช่างแต่งหน้าหกล้มก็ตกใจ รวีพรรณรีบกดปิดลิฟท์ ช่างแต่งหน้าหันมาจะลุกขึ้นแต่ข้อเท้าแพลงเลยลุกไม่ไหว ช่างทำผมกลับมาดูเพื่อน เป็นจังหวะเดียวกับที่ประตูลิฟต์ปิดพอดี

รวีพรรณยืนหลังชนฝา หอบหายใจถี่ด้วยความตื่นเต้นสุดๆ หันไปมองเลขชั้นที่กำลังลงไปชั้น 1 ด้วยความลุ้นระทึก ก่อนจะเอามือถือออกมากดส่งข้อความไปหาพิทยา
“กำลังลงไป”

พิทยาเร่งฝีเท้าเดินมาตามทาง พนักงานตามมาติดๆ พิทยาเข้าไปในช่องบันไดหนีไฟ

พิทยารีบวิ่งลงไปข้างล่างทันที พนักงานโรงแรมตามออกมาเห็นพิทยาวิ่งลงบันไดก็รีบตามไป แต่พิทยาวิ่งเร็วมาก ทำให้พนักงานไล่ตามไม่ทัน พนักงานยังคงวิ่งมาเรื่อยๆ พิทยาวิ่งมาถึงทางออกประตูชั้นหนึ่งและเป็นคนเปิดประตูออกมา...เขาสีหน้าหอบเหนื่อย และโล่งอกที่รอดมาได้ ก่อนจะรีบเดินออกไปทันที

บริเวณหน้าห้องจัดเลี้ยง รมณีรับสายด้วยความตกใจมาก
“ว่าไงนะ..!”
รมณีอยากจะบ้าตายรีบวางสาย แล้วเดินไปหาภูวดลที่ยืนอยู่ภาสันต์
“พ่อดล..ยัยรวีหนีไปแล้ว”
ภูวดลกับภาสันต์อึ้ง หัวเสีย พนักงานโรงแรมวิ่งหน้าตาตื่นกลับมา
“คนที่คุณให้ผมตาม หายไปแล้วครับ”
ภูวดลกำมือแน่น
“ไอ้พิทยา!”
ภาสันต์พูดกับรมณี
“คุณดูแลทางนี้ ผมกับลูกจะไปตามหนูรวี”
รมณีพยักหน้า ภูวดลกับภาสันต์รีบออกไป ศรีพิไลกับณรงค์เดินมาหารมณี
“เกิดอะไรขึ้นรมณี”
รมณีหน้าเสีย พูดไม่ออก

ภูวดล ภาสันต์ และพนักงานวิ่งผ่านหน้าลิฟต์ไป ไม่นานประตูลิฟต์เปิดออก รวีพรรณค่อยๆโผล่ออกมามองเห็นด้านหลังภูวดลและภาสันต์ก็ตกใจ ก่อนจะรีบเดินเลี่ยงออกไปอีกทาง

ภูวดล ภาสันต์ และพนักงานตามหาพิทยากับรวีพรรณ แล้วก็เห็นพิทยาเดินกลับเข้ามา ภูวดลพุ่งเข้าไปหาพิทยาเป็นคนแรก
“แกพารวีไปไว้ที่ไหน”
“พูดอะไรของคุณ”
“อย่ามาตีหน้าซื่อ บอกมาหนูรวีอยู่ไหน” ภาสันต์ว่า
“คุณเป็นเจ้าบ่าว มาถามหาเจ้าสาวกับผมเนี่ยนะ ผมจะไปรู้ได้ยังไง ผมออกไปโทรศัพท์ เพราะในนี้สัญญาณไม่ดี”
ภูวดลโมโหมากกระชากคอเสื้อพิทยาเข้ามาใกล้
“ไอ้โกหก! ฉันรู้ว่าที่แกมางานนี้ เพราะจงใจจะมาทำให้งานฉันล่ม”
กำลังโหลดความคิดเห็น