ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 4
อนุชนอนกระสับกระส่าย พลิกตัวไปมาอยู่บนเตียง มีกร้าวนั่งอ่านหนังสืออยู่ข้างๆ คอยชำเลืองมองเป็นระยะ
“ฉันหายดีแล้ว อยากออกไปข้างนอกบ้าง ไปเดินเล่นแป๊บเดียวก็ยังดี” อนุชลุกขึ้นนั่ง
“ไม่ได้ ผมไม่อนุญาต”
“โธ่ คุณ ทำไมใจดำอย่างนี้ คุณไม่มาเป็นฉัน คุณไม่เข้าใจหรอก”
“ผมไม่อนุญาตให้คุณไปเดินเล่นแถวนี้ แต่ผมจะพาคุณไปเที่ยวน้ำตก”
กร้าวยิ้ม อนุชดีใจ ลืมตัวจับมือกร้าว
“ขอบคุณนะ คุณใจดีที่สุดเลย”
อนุชนึกได้ รีบปล่อยมือจากเขา
ที่น้ำตกตรงบริเวณท้ายไร่...บรรยากาศร่มรื่นสวยงาม ยินเสียงน้ำตกกระทบโขดหินดังซ่าเป็นระยะ กร้าวและอนุชยืนอยู่มุมหนึ่ง เธอมองไปรอบๆ รู้สึกสดชื่นขึ้น
“สวย ร่มรื่นดีจังค่ะ”
“มันก็สวยตามธรรมชาติ ไม่หรูหราเหมือนสระว่ายน้ำในโรงแรม ไม่รู้คุณหนูวิชเวทย์จะชอบรึเปล่า”
กร้าวพูดๆ อยู่ มีน้ำสาดมาโดน เขาตกใจ หันไปมอง อนุชก้าวลงไปแช่น้ำแล้ว แกล้งสาดน้ำใส่เขา
“มัวบ่นเป็นตาแก่อยู่ได้”
กร้าวไม่ยอมแพ้
“คุณแกล้งผมเหรอ เปียกหมดแล้วเนี่ย จับได้จะจับกดน้ำให้เข็ดเลย”
กร้าวรีบวิ่งลงน้ำไป อนุชวิ่งหนี ทั้งสองสาดน้ำใส่กันอย่างไม่ยอมแพ้กัน หัวเราะสนุก ลืมเรื่องที่เคยขุ่นเคืองกันไปเสียสนิท...อนุชวิ่งหนี กร้าววิ่งไล่สาดน้ำ
“อย่าหนีนะ”
ทั้งสองหัวเราะสนุกสนาน อนุชเสียหลักลื่น
“ว้าย”
กร้าวรีบประคองแต่กลายเป็นเสียหลัก ล้มลงไปนั่งทั้งสองคน อนุชล้มทับกร้าว อยู่ในอ้อนแขนของเขา ทั้งสองสบตากัน อยู่ใกล้กันมากจนรู้สึกถึงลมหายใจของอีกฝ่าย กร้าวค่อยๆ ก้มหน้าเข้ามาใกล้ใบหน้าของอนุชจนเกือบจะจูบกัน อนุชเองก็เกือบจะเผลอใจ เธอหันหน้าหนี กร้าวชะงัก อนุชลุกขึ้นอายๆ
“มานานแล้ว กลับกันเถอะค่ะ”
อนุชรีบเดินหนีออกไป กร้าวมองตามตาละห้อย อยากอยู่ด้วยกันนานๆ
อนุชเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว เดินมา กร้าวก็เปลี่ยนเสื้อแล้ว ยืนรออยู่ หญิงสาวเอียงอาย ไม่กล้าสบตาชายหนุ่ม กร้าวยังไม่อยากกลับ จับมือเธอไว้
“คุณจะพาฉันไปไหน” อนุชแปลกใจ
กร้าวดึงอนุชออกไป...ทั้งสองพากันไปที่หน้าผาในป่าท้ายไร่ อนุชมองวิวทิวทัศน์ของไร่ทานตะวันที่สวยงามอย่างตะลึง กร้าวถอดเสื้อตัวนอกของตัวเองมาคลุมให้อย่างอ่อนโยน อนุชรู้สึกอบอุ่น ทั้งสองยืนชมวิวด้วยกัน
“เวลาไม่สบายใจ ผมชอบมาที่นี่ เป็นที่ๆพิเศษสำหรับผม”
“ขอบคุณนะคะที่พาฉันมา”
กร้าวกุมมืออนุช
“วันนี้เป็นวันที่ผมมีความสุขมากที่สุด ผมหวังว่าคุณจะมีความสุขเหมือนกัน ผมอยากให้คุณจดจำวันนี้ไว้ เหมือนที่ผมจะไม่มีลืมวันนี้เลย”
อนุชยิ้มให้
“ฉันก็จะไม่ลืมวันนี้เหมือนกันค่ะ”
กร้าวและอนุชสบตากัน ต่างรักกัน แต่ไม่เคยเปิดเผยความในใจ กร้าวก้มลงจูบที่หน้าผากของเธออย่างอ่อนโยน ก่อนจะค่อยๆ เลื่อนลงมาประทับจูบที่ริมฝีปากสวย อนุชยืนนิ่งในอ้อมกอดแข็งแรงและอบอุ่นของเขา ท่ามกลางทิวทัศน์ที่สวยงามของไร่ทานตะวัน
รถกร้าวเข้ามาหน้าบ้าน อนุชและกร้าวนั่งเงียบกันมาตลอดทาง ต่างคนต่างพูดไม่ออก พอรถจอด อนุชก็รีบลงจากรถ กร้าวไม่สบายใจ รีบตามไป อยากจะบอกความในใจว่าทำไปด้วยความรัก
“นุช”
อนุชชะงัก แต่ไม่หันไปมอง
“เรื่องที่เกิดขึ้น ผม...”
อนุชแทรกขึ้น
“ฉันรู้ค่ะว่าคุณไม่ได้ตั้งใจ”
“ไม่ใช่ ที่ทำไปเพราะผม...”
กร้าวจะบอกว่ารัก อนุชรอฟัง ใจเต้นโครมคราม แต่ทันใดนั้นเสียงชายธงดังขึ้น
“นุช!”
อนุชและกร้าวหันไปมอง อนุชเห็นชายธงก็แปลกใจมาก ไม่คิดว่าเขาจะมาที่นี่
“ชายธง!”
ชายธงวิ่งมาหา ดีใจจนลืมตัว ดึงอนุชมากอด
“นุชจริงๆ ด้วย รู้มั้ยผมตามหานุชไปทั่วเลย ดีใจจริงๆ ที่เจอนุชที่นี่”
อนุชไม่ทันตั้งตัวเลยยืนนิ่งไม่ขัดขืน
กร้าวหน้าเครียดเคร่ง เจ็บแปลบในใจที่เห็นผู้หญิงที่ตนรัก อยู่ในอ้อมกอดของชายอื่นต่อหน้า
ธารินสวยเฉิดฉายอยู่ในชุดเจ้าสาว แต่งหน้าทำผมพร้อมอยู่แล้วใน เวดดิ้งสตูดิโอแห่งนั้น เธอชะเง้อมองหาชายธงอย่างกระวนกระวายใจ เธียรอยู่ใกล้ๆ กำลังโทร.ตามชายธง
“เจ้าชายธงปิดมือถือ” เธียรหนักใจ
ธารินเสียใจ เธียรหงุดหงิด
“ทำไมเป็นคนไม่มีความรับผิดชอบแบบนี้นะ”
พนักงานของสตูดิโอมาถาม
“เจ้าบ่าวมารึยังคะ”
ธารินกลั้นน้ำตาไม่อยู่ เดินหนีออกไป เธียรสงสาร เห็นใจธาริน
“วันนี้ยกเลิกไปก่อน ค่าเสียหายทุกอย่างผมจ่ายเต็มจำนวน ไม่ต้องห่วง”
พนักงานงง เธียรตามธารินไป
ธารินเดินหนีมา ร้องไห้ เสียใจ เธียรตามมาอย่างสงสาร
“ยกเลิกงานแต่งงานไปเถอะค่ะคุณลุง ในใจของพี่ชายธงมีแต่ผู้หญิงที่ชื่ออนุช วิชเวทย์ ไม่เคยมีที่ว่างให้รินแม้แต่นิดเดียว”
เธียรหนักใจมองธารินอย่างสงสาร
ชาติยิ้มให้ชายธงกับอนุชที่นั่งอยู่ข้างๆ
“พักด้วยกันที่นี่แหละ ห้องหับมีเยอะแยะ”
ชายธงไหว้ชาติอย่างนอบน้อม
“ขอบคุณครับ คุณลุงใจดีอย่างที่นุชบอกไว้ไม่ผิดเลยครับ ผมดีใจที่มีโอกาสได้มากราบคุณลุงครับ”
ชายธงและอนุชยิ้มให้กัน
อนุชออกมาจากห้อง พบกร้าวที่มองอย่างไม่พอใจ
“นัดกันมาพลอดรักที่นี่ คู่หมั้นนายชายธงตามมาขัดขวางความสุขไม่ได้ เธอนี่แผนสูงจริงๆ”
อนุชอึ้ง ตั้งตัวไม่ทัน กร้าวเปลี่ยนท่าทีเร็วมาก เธอพยายามอธิบาย
“ฉันไม่ได้วางแผนนะ ฉันไม่รู้ด้วยซ้ำว่าชายธงจะตามมาถึงที่นี่”
กร้าวไม่เชื่อ
“บอกไว้ก่อนว่าทำอะไรอย่าให้ประเจิดประเจ้อ ที่นี่ไม่ใช่โรงแรมหัดเกรงใจคุณลุงด้วย”
อนุชโกรธและเสียใจมาก ตบหน้าเขา กร้าวกระชากแขนเธอเข้ามาใกล้ ชายธงตามมา
“หยุดนะ ปล่อยนุชเดี๋ยวนี้”
ชายธงมาผลักกร้าวออกไป แล้วดึงอนุชมาหลบข้างหลังตน
“คุณไม่มีสิทธิ์แตะต้องตัวนุช”
กร้าวกวนๆ
“ใช่ ผมไม่มีสิทธิ์ คนโสดอย่างผม นุชไม่มองหรอก เขาชอบคนมีเจ้าของ”
ชายธงโกรธมากที่กร้าวดูถูกอนุช กระชากเสื้อกร้าวมา เงื้อหมัดจะชก อนุชไม่อยากให้มีเรื่องรีบห้าม
“หยุดนะ ชายธงมานี่”
อนุชรีบดึงชายธงออกไป กร้าวยิ่งหึง
อนุชดึงชายธงมามุมหนึ่ง ชายธงหงุดหงิด ใจร้อน
“นุชห้ามทำไม ไม่ได้ยินเหรอว่ามันพูดจากดูถูกนุช ผมจะสั่งสอนมัน”
“นุชขอร้องอย่ามีเรื่องกันที่นี่เลยนะ นุชไม่อยากทำให้ป๋าไม่สบายใจ”
ชายธงยอมอ่อนลง เพราะรู้ว่าอนุชรักชาติมาก
“ที่ผ่านมาเขาทำอะไรนุชรึเปล่า”ชายธงกุมมืออนุชห่วงๆ
“ไม่มีอะไรหรอก”
ชายธงยิ้ม
“ได้ยินอย่างนี้ก็โล่งใจ”
อนุชไม่กล้าสบตาชายธง
ค่ำนั้น...อนุชยืนเหม่อที่ระเบียง นึกถึงเหตุการณ์ที่หน้าผาในป่าท้ายไร่ เธอแตะริมฝีปากตัวเอง นึกถึงคำพูดของกร้าว
“บอกไว้ก่อนว่าทำอะไรอย่าให้ประเจิดประเจ้อ ที่นี่ไม่ใช่โรงแรมหัดเกรงใจคุณลุงด้วย”
อนุชเสียใจเพราะคำพูดของเขา
“ถ้าคุณเกลียดฉัน แล้วมาทำดีกับฉันทำไม”
อนุชสับสน ไม่เข้าใจ
วันใหม่...อสิตนอนหลับอยู่บนเตียง ลลิตาที่นั่งเฝ้าลองเรียกดู
“สิต สิตคะ”
อสิตหลับสนิท ไม่รู้สึกตัว ลลิตาย่องไปเปิดลิ้นชักโต๊ะข้างเตียงอย่างเบามือและเงียบที่สุด ลุ้นๆ ว่าอสิตจะตื่นมาเห็นหรือไม่ แต่อสิตก็ไม่ตื่น ลลิตาหยิบกุญแจพวงหนึ่งมา แล้วออกจากห้องไป
ลลิตาหมุนรหัสและไขกุญแจเปิดตู้เซฟ รื้อค้นหาของในตู้เซฟ จนเจอซองเอกสารสีน้ำตาลที่มีเงินอยู่ประมาณ 2-3 หมื่นบาท รีบหยิบออกไปทันที แล้วย่องกลับมาวางกุญแจไว้ในลิ้นชักโต๊ะข้างเตียงตามเดิม แต่ยังไม่ทันปิดลิ้นชัก โทรศัพท์มือถือของลลิตาก็ดังขึ้น เธอตกใจ รีบปิดลิ้นชักอย่างเบามือ อสิตรู้สึกตัวตื่นขึ้นเห็นลลิตาอยู่ข้างเตียง เธอรีบทำเป็นขยับผ้าห่มให้อย่างห่วงใย
“ลิต้า เอ่อ ลิต้ากลัวสิตหนาวค่ะ”
อสิตซึ้งใจ จับมือลลิตามาจูบ
“ขอบใจมากนะ ลิต้าดีกับผมที่สุด”
“งั้นเดี๋ยวลิต้ารับสายก่อนนะ”
ลลิตารีบออกจากห้องไป อสิตมองตามเยื้อนยิ้มพอใจ ไม่สงสัยอะไร
ลลิตาออกมาหน้าห้อง โล่งอกที่อสิตไม่สงสัย มองดูหน้าจอมือถือ เห็นชื่อชายธงโทร.เข้ามาจึงรับสาย
“ผมเจอนุชแล้วครับ”
ลลิตาเบะปาก ไม่อยากรู้เรื่องอนุชเลยสักนิด
“เอ้อ ยังมีอีกเรื่องครับ บังเอิญมากที่นายกร้าวเป็นหลานของป๋า”
ลลิตาตกใจ
“คุณกร้าวน่ะเหรอคะ”
“ใช่ครับ ผมแปลกใจมากที่มาเจอเขาที่นี่ เขาไม่ได้บอกใครเลยเหรอว่านุชอยู่กับเขาที่นี่”
ลลิตาตกใจมาก...ชายธงแอบคุยโทรศัพท์อยู่มุมหนึ่ง อนุชเรียก
“ชายธง”
ชายธงรีบสรุป
“แค่นี้ก่อนนะครับ”
ชายธงวางสายไป ลลิตาตกใจจนพูดไม่ออกที่รู้ข่าว
ค่ำนั้น...อสิตและอรชาคุยกันอย่างเคร่งเครียด
“นุชอยู่กับชายธง”
“เราจะทำยังไงกันดีค่ะพี่สิต”
“พี่จะไปตามนุชกลับมา”
อสิตจะลุก อรชารีบประคอง
“พี่สิตไปไม่ไหวหรอก อรไปเองค่ะ”
ลลิตากลัวอรชาไปหาอนุชรีบขัด
“อรจำไม่ได้เหรอว่าที่นุชหนีไปก็เพราะมีเรื่องกับทั้งสิตและอร ถ้าอรไป ฉันกลัวว่านุชจะหนีไปอีก”
“แล้วเราจะทำยังไงกันดีล่ะคะ”
“ลิต้าจะไปอยู่ที่ไร่เป็นเพื่อนนุชเอง”
อสิตเห็นด้วย
“ดีเหมือนกัน ผมฝากด้วยนะลิต้า”
ลลิตาแอบยิ้มร้าย โดยที่อสิตไม่เห็น
วันใหม่ อนุชบรรจงตัดพวงองุ่น โดยมีชายธงถือกระบะสำหรับใส่องุ่นเดินตามต้อยๆ ทั้งสองเดินคุยกันไป ทำงานไป ท่าทางสนิทสนม ยิ้มแย้ม และดูมีความสุข กร้าวแอบมองอยู่มุมหนึ่งอย่างหึงหวง
อนุชตัดองุ่นจนเจ็บมือ ถอดถุงมือออกมาดูเห็นว่ามือแดงไปหมด ชายธงจับมือเธอมาดู
“ผมไม่อยากให้นุชทำงานที่นี่เลย ผมจะใช้ทุนคืนให้เอง นุชจะได้ไม่ต้องทำงานลำบากอย่างนี้”
อนุชไม่สบายใจ
“ไม่ได้หรอกชายธง”
อนุชเดินหนีออกไป ชายธงรีบตาม
“ผมรู้ว่านุชไม่ชอบเป็นหนี้ใคร นุชมีเมื่อไรค่อยคืนผมก็ได้”
ชายธงกุมมือขอร้อง
“กลับไปกับผมเถอะ ถ้านุชไม่อยากอยู่บ้าน ผมจะหาคอนโดให้อยู่”
กร้าวเข้ามา อนุชปล่อยมือจากชายธง ไม่อยากให้เขาเข้าใจผิดๆ กร้าวมองหน้าอนุช
“คุณชายธงอุตส่าห์มาหา น่าจะพาไปเที่ยวพักผ่อน ไม่ใช่มัวแต่ทำงาน แถวนี้บรรยากาศดี...แถมยังไกลหูไกลตาผู้คน จะทำอะไรก็สะดวก รับรองไม่มีใครตามมาวุ่นวาย”
อนุชไม่พอใจ รู้ว่าเขาประชด เธอจึงประชดกลับ
“ไม่จำเป็นหรอกค่ะ ชายธงเข้าใจว่าฉันมาที่นี่เพื่อทำงาน ชายธงเป็นคนเข้าใจง่าย ไม่เหมือนคนบางคนที่ไม่เคยเข้าใจอะไรเลย แถมยังชอบปรักปรำคนอื่น คิดว่าคนอื่นเขาจะเหมือนตัวเอง”
ทั้งสองจ้องหน้ากัน ต่างไม่ยอมแพ้กัน ลลิตามาถึงพอดี พอเห็นกร้าวก็ร้องเรียกอย่างดีใจ
“คุณกร้าวขา”
กร้าวตกใจ ไม่คิดว่าลลิตาจะมาที่ไร่
“ลิต้า”
อนุชกับชายธงก็ตกใจ ลลิตาเข้ามาหากร้าว แล้วแกล้งสะดุดล้ม เข้าไปกอดเขา
“ว้าย”
อนุชไม่พอใจ คิดว่ากร้าวนัดลลิตามาที่ไร่
กร้าวพาลลิตาเข้ามาในห้องพัก เธอไปดูวิวที่หน้าต่างอย่างตื่นเต้น
“สวยจังเลย...ที่ดินแถบนี้เป็นของคุณกร้าวหมดเลยเหรอคะ”
“ไม่ใช่ของผมหรอกครับ ของคุณลุง”
ลลิตาโอบคอ หอมแก้มเขา
“ลิต้าคิดถึงคุณที่สุดเลยรู้มั้ยคะ”
กร้าวไม่สบายใจ
“คุณลิต้า อย่าทำอย่างนี้เลยครับ มันไม่เหมาะ”
ลลิตาแกล้งดึงเขาล้มลงไปบนเตียงนอนด้วยกัน อนุชเคาะประตู อีกมือถือผ้าปูที่นอนและปลอกหมอนแล้วเปิดประตูเข้ามา เห็นลลิตากับกร้าวนอนกอดกันอยู่บนเตียงก็ตกใจ
“คุณกร้าว พี่ลิต้า”
กร้าวตกใจ พยายามแกะมือลลิตาออก แต่เธอยิ่งกอดแน่นนัวเนียยิ้มเย้ย อนุชทนดูไม่ได้
“นุชเอาเครื่องนอนมาให้ วางไว้ตรงนี้นะคะ”
อนุชรีบออกจากห้องไป กร้าวเครียดกลัวเธอเข้าใจผิด
“นุช!”
เขาจะตามไป แต่ลลิตากอดนัวเนียไม่ยอมปล่อย เขาจึงผลักออกอย่างมีมารยาท แล้วรีบออกจากห้องไป ลลิตามองตามอย่างหงุดหงิด
อนุชเดินหนีมามุมหนึ่งในบ้านทานตะวัน กร้าวรีบตามมา ดึงไว้
“ปล่อยฉัน อย่าเอามือสกปรกของคุณมาแตะตัวฉัน”
กร้าวน้อยใจ
“สกปรกเหรอ ใช่สิ ผมสกปรก ต้องนายชายธงใช่มั้ยถึงจะสะอาด”
อนุชโกรธมาก
“ไม่ต้องมาว่าฉันเรื่องชายธง คุณเองนั่นแหละที่นัดพี่ลิต้ามาพลอดรักที่นี่...ที่นี่ไม่ใช่โรงแรม ทำอะไรอย่าให้ประเจิดประเจ้อ เกรงใจคุณลุงบ้าง”
อนุชสะบัดตัวเดินหนีไปเลย
กร้าวพูดไม่ออก กลุ้มใจที่ลลิตาตามมาถึงไร่
ลลิตาอารมณ์เสีย จะออกไปหากร้าว พอดีโทรศัพท์มือถือดังขึ้น หน้าจอเป็นอสิตโทร.มา ลลิตารำคาญ ไม่อยากรับ แต่ก็ตัดสินใจรับสาย
“ลิต้าเหรอ เจอนุชมั้ย”
“เจอค่ะ”
อสิตหันไปพยักหน้าให้อรชาและปรารภ ดีใจมากที่เจออนุชแล้ว
“ขอผมคุยกับนุชหน่อยสิ”
ลลิตาไม่อยากให้อสิตคุยกับอนุช พยายามเกลี้ยกล่อม
“อย่าเพิ่งใจร้อนสิคะสิต ให้เวลาเขาหน่อยดีกว่า ลิต้าจะค่อยๆพูดกับเขาเอง”
ลลิตาวางสายยิ้มร้าย คิดหาทางรวบรัดกร้าว...อสิตผิดหวังมาก ขณะเดียวกันนั้นโทรศัพท์มือถือดังขึ้น เขารับสาย ฟังแล้วตกใจ
“ว่าไงนะ” อสิตเครียด “ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้”
เขากดวางสาย ปรารภถามอย่างสงสัย
“มีเรื่องอะไรรึเปล่าครับ”
อสิตกังวล
“พวกคนงานหยุดงานประท้วงที่บริษัทไม่จ่ายเงินเดือน พี่ต้องไปคุยกับพวกเขา ขืนหยุดกันหมดอย่างนี้ มีปัญหากับลูกค้าแน่”
อรชาเป็นห่วง
“แต่พี่สิตยังไม่แข็งแรงดี หมอบอกให้พักผ่อนนะคะ อรจะไปคุยกับคนงานเองค่ะ”
อรชาบอกไปอย่างนั้น ทั้งๆ ที่ไม่มั่นใจนัก
อรชามาที่บริษัทพูดผ่านไมโครโฟน พยายามเจรจากับกลุ่มคนงานที่รวมตัวกันประท้วงหน้าบริษัท ปรารภยืนอยู่ข้างๆ
“ฉันขอร้องให้ทุกคนกลับไปทำงานตามเดิมก่อนนะคะ”
พวกคนงานต่างโห่ไล่ วุ่นวาย ขว้างปาข้าวของใส่ ปรารภใช้ตัวเองบังอรชาไว้อย่างปกป้อง
“คุณอรระวังครับ”
คนงานขว้างกระป๋องน้ำอัดลมมาโดนศีรษะปรารภจนคิ้วแตกเป็นแผลเลือดไหล อรชาตกใจ
“คุณรภ”
“เรารีบไปจากที่นี่ก่อนเถอะครับ”
ปรารภรีบพาอรชาออกไป
ค่ำนั้น ปรารภพาอรชากลับมาที่บ้าน ทั้งสองนั่งอยู่ในห้องรับแขก ปรารภมีผ้าก็อซปิดแผลที่คิ้ว อรชาเป็นห่วง อสิตนั่งรถเข็น มองสภาพทั้งสองแล้วหนักใจ
ปรารถอยู่คุยกับอรชาจนดึกจึงได้ลากลับ
“คุณรภเจ็บตัวเพราะช่วยอร ขอบคุณนะคะ”
“ผมเจ็บไม่เป็นไร แต่ถ้าคุณอรเป็นอะไรไป ผมคงทนไม่ได้”
เขามองด้วยแววตาหวานซึ้งเปี่ยมด้วยความรักและจริงใจ เธอหลบตา รู้สึกหวั่นไหวเพราะแพ้ความดีของเขา
กร้าวยืนเหม่ออยู่ที่ระเบียงห้องบ้านทานตะวัน คิดถึงตอนที่จูบอนุช ชายหนุ่มเผลอยิ้ม มีความสุข เสียงเคาะประตูดังขึ้น เขาดีใจคิดว่าเป็นอนุช
“นุช”
กร้าวรีบเปิดประตู ก็พบว่า ลลิตาใส่ชุดนอนเซ็กซี่อยู่หน้าห้อง เธอโผเข้ากอดเขาทันที
“คุณกร้าวขา ลิต้าไม่กล้านอนคนเดียว ลิต้ากลัว”
กร้าวพยายามจะผลักออก แต่ลลิตากอดแน่น
“ปล่อยเถอะครับ”
ทันใดนั้นเสียงอนุชดังขึ้นด้านหลัง
“ถ้าพี่ลิต้าไม่กล้านอนคนเดียว มานอนห้องนุชก็ได้นะคะ”
กร้าวและลลิตาชะงัก เขารีบผลักเธอออก
“ดีเหมือนกัน คุณลิต้าไปนอนห้องคุณนุชนะครับ”
ลลิตาเสียใจ
“คุณกร้าว!”
ลลิตาน้อยใจที่ถูกไล่ โกรธอนุชที่มาขัดจังหวะ กร้าวโล่งอก อนุชไม่พอใจทั้งสองมาก
อนุชตามลลิตามาที่หน้าห้อง เธอจะเข้าไปในห้อง แต่ลลิตาขวางไว้
“ไม่ต้อง ฉันนอนคนเดียวได้”
อนุชหนักใจ
“นุชไม่อยากยุ่งเรื่องของพี่ลิต้าหรอกนะคะ แต่พี่ลิต้ามาอยู่ที่นี่ในฐานะพี่สะใภ้ของนุช ช่วยทำตัวให้ดีหน่อยเถอะค่ะ”
ลลิตาหมั่นไส้
“ฉันมาที่นี่เพราะคุณกร้าวขอร้อง เขาบอกว่าคิดถึงฉัน อยากเจอฉัน”
อนุชเสียใจ
“เขาบอกอย่างนั้นเหรอคะ”
“ฉันก็มีหัวใจนะ เจอผู้ชายที่รักเรา เอาอกเอาใจสารพัด ให้ความสำคัญกับเรา พูดกรอกหูทุกวันว่าเราเป็นคนพิเศษของเขาคนเดียว มันก็อดใจอ่อนไม่ได้”
อนุชน้ำตาคลอ หลงเชื่อเจ็บที่โดนกร้าวหลอกให้รัก เธอกลับมาที่ห้องนอน ปิดประตูแล้วยืนพิงประตูร้องไห้ เสียใจเพราะเผลอใจรักกร้าวไปแล้ว
วันใหม่...อนุชและชายธงออกมาจากบ้านทานตะวัน จะไปทำงานในไร่ กร้าวขับรถกระบะมาจอดขวางหน้าทั้งสอง
“ผมจะไปดูงานในไร่พอดี ขึ้นรถสิ”
กร้าวลงจากรถ อนุชโกรธทำมึนตึงกับเขา
“ฉันไปกับคนงานได้”
“แต่รถออกไปแล้ว”
กร้าวยิ้มกวน อนุชรู้ทัน
“คุณสั่งให้รถออกก่อนเวลา คุณจงใจแกล้งฉัน”
กร้าวเปิดประตูด้านข้างคนขับให้ อนุชไม่พอใจ ลลิตาส่งเสียงมาก่อนตัว
“รอลิต้าด้วยค่ะ”
ลลิตาใส่แว่นกันแดดและสวมหมวกเบียดอนุชแล้วเข้ามาเกาะแขน กร้าวลำบากใจ ชายธงยิ้มสะใจ แกล้งพูดกับอนุชเยาะเย้ย
“ไปนั่งกระบะด้วยกันเถอะนุช จะได้ชมวิวสวยๆ ไปด้วย โรแมนติกน่าดู”
ชายธงพาอนุชไปนั่งกระบะด้วยกัน อนุชค้อนนิดนึง หึงๆแต่ก็ไปนั่งกระบะกับชายธง ลลิตาขึ้นรถ นั่งข้างคนขับ กร้าวผิดหวัง
“ไปกันรึยังคะ”
กร้าวจำต้องขึ้นรถไปอย่างหัวเสีย
ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 4 (ต่อ)
อนุชนั่งกระบะหลังกับชายธง ชมวิวกัน หัวเราะคิกคัก กร้าวแอบมองในกระจกมองหลัง ไม่พอใจ หึง เขาลืมมองถนน ทางข้างหน้าเป็นทางเลี้ยวหักศอก รถเกือบพุ่งลงข้างทาง ลลิตาตกใจ
“อ๊าย คุณกร้าว”
กร้าวตกใจ รีบหักเลี้ยวกะทันหัน อนุชเซ ล้มไปพิงชายธง กร้าวมองกระจกหลังเห็นเข้ายิ่งไม่พอใจ ลลิตามองด้านหลังก็ยิ้มๆแล้วใส่ไฟ
“แหม คู่นั้นเขาหวานกันจังเลย เราก็อย่ายอมแพ้เขานะคะ”
ลลิตาซบไหล่ อนุชมองเข้าไปในรถเห็นข้าก็หึง
“ฮึ มัวแต่ทำอะไรกันอยู่ ถึงไม่ยอมมองทาง”
อนุชโกรธ
คนงานต่อแถวรับเครื่องมือทำไร่ จากคนคุมการเบิกจ่ายเครื่องมือ อนุชและชายธงยืนอยู่กับลลิตาที่มุมหนึ่ง ชายธงถือเครื่องมือทั้งหมด อนุชตรวจสอบเครื่องไม้เครื่องมือแล้วเห็นว่ายังไม่ครบ
“เดี๋ยวนุชมานะ”
เธอไปต่อแถว ชายธงวางกระบะใส่เครื่องมือไว้แล้วรีบตามอนุชไป ลลิตามองถาดใส่เครื่องมือของอนุช แล้วคิดแผนได้ เหลียวซ้ายแลขวา กร้าวยืนคุยกับหัวหน้าคนงานอยู่อีกมุม ไม่มีได้สนใจ ลลิตาหยิบกรรไกรออกมาจากถาด ซ่อนไว้ในกระเป๋าถือ
อนุชค้นหาในกระบะที่ใส่เครื่องมือมา หากรรไกรไม่เจอ
“นุชจำได้ว่าหยิบมาแล้วนะ หายไปได้ยังไง”
ชายธงแปลกใจ
“หรือว่าจะหล่นหาย”
“นุชต้องไปเบิกมาใหม่”
“ผมไปด้วย”
อนุชกับชายธงหากรรไกรอยู่ในห้องเก็บเครื่องมือ ลลิตาแอบมาปิดประตูห้องอย่างเบามือล็อกแม่กุญแจจากด้านนอก
“เจอแล้ว รีบไปกันเถอะ เดี๋ยวสาย”อนุชหากรรไกรเจอ
ทั้งสองจะออกจากห้อง แต่เปิดประตูไม่ได้ ชายธงตกใจ
“เปิดไม่ได้”
อนุชทุบประตู
“ใครอยู่ข้างนอก เปิดหน่อย มีคนอยู่ในนี้”
ชายธงและอนุชช่วยกันเขย่าประตู ขณะที่ลลิตาเก็บกุญแจใส่กระเป๋าแล้วรีบเดินออกไป
กร้าวเดินดูคนงานทำงานในไร่ โดยมีลลิตาควงแขนตลอด เขามองหาอนุช แต่ไม่เจอ ก็แปลกใจถามหัวหน้าคนงาน
“อนุชไปไหน”
หัวหน้าหันไปถามคนงานคนหนึ่งที่ยืนอยู่ใกล้ๆ
“เห็นคุณนุชมั้ย”
คนงานต่างส่ายหน้า ลลิตาได้ทีใส่ไฟ
“ชายธงก็หายไปด้วย หายไปด้วยกันแบบนี้ น่าสงสัยนะคะ”
กร้าวไม่พอใจ
ชายธงเขย่าประตู แต่ก็เปิดไม่ออก เขาร้อนมากจึงถอดเสื้อ
“ทำไมไม่มีใครผ่านมาแถวนี้บ้าง”
“คนงานจะมาที่นี่ตอนเช้ากับตอนเลิกงานเท่านั้น”
ชายธงตกใจ
“เราต้องรอจนถึงเวลาเลิกงานเลยเหรอ”
ชายธงและอนุชกังวล
กร้าวสั่งคนงาน
“แยกย้ายกันตามหาให้ทั่ว”
คนงานแยกย้ายกันไปตามหา กร้าวหงุดหงิด ลลิตาไม่สบายใจ กลัวแผนแตก รีบเสแสร้ง
“ลิต้าจะช่วยตามหาอีกแรงนะคะ สิตฝากให้ลิต้าดูแลนุช ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับนุช ลิต้าคงไม่กล้าสู้หน้าสิตแน่ๆ”
กร้าวเห็นด้วย
“ดีเหมือนกันครับ”
ลลิตารีบออกไปทางหนึ่ง กร้าวออกไปอีกทาง
ชายธงกับอนุชนั่งรอในห้องเก็บเครื่องมือ อากาศในห้องร้อนอบอ้าว ไม่มีหน้าต่าง อนุชคอแห้ง ชายธงหงุดหงิด
“ผมไม่รอแล้ว”
ชายธงไปหาเครื่องมือมาพังประตู อนุชลุกขึ้น จะช่วยหา แต่หน้ามืด เป็นลม ชายธงตกใจรีบประคอง
“นุช! นุช!”
ด้านนอก ลลิตาเข้ามาหน้าห้องเก็บของ เหลียวมองซ้ายขวา ระวังตัว กลัวมีคนมาเห็น เธอไขกุญแจ ถอดแม่กุญแจที่คล้องประตูออกอย่างเบามือแล้วรีบหลบไปทางอื่น
กร้าว ลลิตาและคนงาน 2-3 คนมารวมกันที่มุมหนึ่งของไร่
“ว่าไง เจอคุณนุชมั้ย”
คนงานต่างส่ายหน้า ลลิตาเสแสร้าง
“ลิต้าก็ไม่เจอ ลิต้าใจคอไม่ดีเลยค่ะคุณกร้าว กลัวว่าจะเกิดเรื่องกับนุช ลิต้าจะทำยังไงดี”
ลลิตาบีบน้ำตา ร้องไห้ กร้าวกังวลเป็นห่วงอนุช
ชายธงนั่งประคองอนุช กังวล คิดหาทาง
“ขอโทษนะนุช”
ชายธงปลดกระดุมเสื้อให้ อนุชมีเสื้อกล้ามใส่ข้างในอีกตัว
หัวหน้าคนงานพาคนคุมห้องเก็บเครื่องมือมาหากร้าว
“เมื่อเช้าคุณนุชบอกว่าจะเอาของที่ห้องเครื่องมือ ผมเห็นว่าคุณนุชเป็นคนสนิทของคุณชาติ ก็เลยให้กุญแจไปแล้วก็ไม่เห็นอีกเลยครับ”
กร้าวรีบร้อนออกไปทันที ลลิตารีบตาม
“คุณกร้าวขา รอลิต้าด้วยค่ะ”
หัวหน้าคนงาน และคนงาน รีบตามกร้าวไป
อนุชรู้สึกตัวตื่นขึ้น ชายธงดีใจ
“นุช”
อนุชจะลุกขึ้น แต่ชายธงประคองไว้
“อย่าเพิ่งรีบลุก เดี๋ยวหน้ามืด”
กร้าวมาถึงหน้าห้องเครื่องมือ แต่ลังเล ไม่กล้าเปิดประตูกลัวจะเจอภาพบาดตาบาดใจ ลลิตารีบยุ
“มัวทำอะไรอยู่คะคุณกร้าว เปิดเลยค่ะ”
กร้าวเปิดประตูห้องเก็บเครื่องมือ พร้อมลลิตาและพวกคนงาน ภาพที่ทุกคนเห็นคือ อนุชอยู่ในอ้อมกอดของชายธงที่ถอดเสื้อ ส่วนอนุชก็เสื้อผ้าหลุดลุ่ย แต่งตัวไม่เรียบร้อย กร้าวและพวกคนงานต่างตกใจ
“นุช”
ลลิตาแกล้งตกใจ โวยวาย
“ตายแล้ว นุช ชายธง ทำอะไรกันน่ะ แล้วทำไมแต่งตัวแบบนี้”
กร้าวโกรธ ไม่พอใจ นึกว่าทั้งสองแอบมาพลอดรักกัน คนงานก็ซุบซิบนินทากัน ลลิตาแอบยิ้มร้าย สะใจที่เล่นงานอนุชได้
ชายธงประคองอนุชเข้ามาในห้องรับแขกบ้านทานตะวัน กร้าวและลลิตาตามมาด้วย ลุงชาติ ป้าพร้อมและขำเห็นอนุชหน้าตาซีดเซียวก็แปลกใจ ชาติหันไปถามชายธง
“เกิดอะไรขึ้น นุชเป็นอะไร”
“นุชเป็นลมครับ”
“มานั่งพักก่อน”
ชายธงประคองอนุชนั่งพัก ป้าพร้อมและขำช่วยดูแลอนุช ป้าพร้อมสงสาร
“โถ คงจะทำงานหนักเกินไป”
กร้าวประชด
“แต่ที่เป็นลมคงไม่ใช่เพราะทำงานหนักหรอก ทำอย่างอื่นมากกว่า”
ชายธงโกรธ ชี้หน้ากร้าว
“หยุดล่วงเกินนุชเดี๋ยวนี้”
อนุชจับแขนชายธง
“ใครอยากจะเข้าใจยังไงก็ช่าง”
อนุชมองกร้าว น้อยใจ ลุงชาติขัดขึ้น
“เอาล่ะๆ พร้อม ขำ พานุชไปพักข้างบน วันนี้ไม่ต้องทำงาน ป๋าอนุญาตให้หยุดหนึ่งวัน”
ชายธง ป้าพร้อม ขำ พาอนุชออกไป ชาติตามไปดูแลอนุชด้วย ลลิตาเกาะแขนกร้าวใส่ไฟ
“ชายธงกับนุชตัวติดกันเป็นปาท่องโก๋ ดูๆ ไปเหมือนคู่รักข้าวใหม่ปลามันที่มาฮันนีมูนกันเลยนะคะ”
กร้าวโกรธ หึง เข้าใจอนุชผิด ลลิตายิ้มร้าย สะใจที่ทำให้ทั้งสองเข้าใจผิดกันได้
อสิตนั่งรถเข็น มองตัวเองในกระจกอย่างกังวล ไม่มั่นใจ เขาจับขอบอ่างล้างหน้า พยายามยันตัวลุกขึ้นยืนและยืนได้ก็ดีใจ เขาลองปล่อยมือ ไม่จับขอบอ่างล้างหน้าก็ยืนไม่ได้ ล้มลงไปนั่งบนรถเข็น
“โอ๊ย”
อสิตทุบรถเข็น เจ็บใจตัวเองที่ยืนไม่ได้ เขาเครียด ทำใจไม่ได้ที่จะต้องไปเจอพวกคนงานในสภาพนี้
ในห้องประชุมบริษัทรัตนกิจก่อสร้าง...อรชา ปรารภและตัวแทนคนงาน 2-3 คนรอคุยกับอสิต
“ผมจะไปตามคุณสิตเองครับ”
ปรารภลุกไปเปิดประตู แต่พอประตูเปิดก็เจออสิตเข็นรถเข็นเข้ามา คนงานทั้งหมดลุกพรวดขึ้นอย่างไม่เชื่อสายตาตัวเอง มองอสิตเป็นตาเดียว อสิตพยายามฝืนยิ้ม ไม่อยากให้ทุกคนเห็นความอ่อนแอ
“เรื่องเงินเดือน ผมจะจัดการให้ทุกคนโดยเร็วที่สุด ผมรับรอง”
ตัวแทนคนงานมองหน้ากันอย่างลำบากใจ
“พวกผมตัดสินใจแล้ว พวกผมขอลาออก”
“ผมไม่ได้เป็นอะไร อีกไม่นานผมก็หายแล้ว ถ้าไม่เชื่อผมจะยืนให้ดู”
อสิตล็อกล้อรถเข็น ยันตัวลุกขึ้น แต่ก็ยืนไม่ได้ ทรุดล้มลง อรชาตกใจ
“พี่สิตคะ”
อรชาและปรารภเข้าไปหาอสิต พวกคนงานมองอย่างหมดศรัทธา แล้วออกจากห้องไปทั้งหมด
“กลับมาก่อน อย่าเพิ่งไป”
อสิตพยายามจะยันตัวลุกขึ้น แต่ก็ลุกไม่ไหว ได้แต่ทุบพื้น เจ็บใจตัวเอง
“โธ่เว้ย!”
อรชาและปรารภไม่สบายใจ
ป้าพร้อมและขำช่วยกันทำความสะอาดบ้าน ขำซึมๆไม่มีกะจิตกะใจทำงาน ป้าพร้อมสังเกตเห็น
“เป็นอะไรนังขำ”
ลลิตาเดินผ่าน
“โธ่ ป้า ไม่สังเกตเหรอว่าคุณกร้าวกับคุณนุชดูเย็นชา ไม่พูดไม่จากันเลย”
ลลิตาชะงัก แอบฟังอย่างสนใจ
“วันที่ไปเที่ยวน้ำตกกันยังดีๆ อยู่เลย”
ลลิตาเข้ามาถาม
“แถวนี้มีน้ำตกด้วยเหรอ”
พร้อมกับขำตกใจที่ลลิตามาได้ยิน
อนุชอ่านหนังสือท่องเที่ยวภาษาอังกฤษให้ชาติฟังอยู่ในห้อง โดยมีชายธงนั่งอยู่ข้างๆ กร้าวนั่งอีกข้าง นวดขาให้ชาติ พลางแอบมองอนุชไปด้วย อนุชอ่านจนจบ ลลิตาเข้ามาเกาะแขนกร้าว
“คุณกร้าวขา ที่นี่มีน้ำตกด้วยเหรอคะ”
ชาติหันมาบอก
“มีสิ ที่ท้ายไร่โน่น”
ลลิตาอ้อน
“ลิต้าอยากไปจัง คุณกร้าวพาลิต้าไปนะคะ นะค๊า”
กร้าวอึกอัก ไม่อยากไปกับลลิตาตามลำพัง ชาติเห็นดีด้วย
“ดีเหมือนกัน นุชก็ไปด้วยสิ เอาแต่ทำงาน ไปพักผ่อนซะบ้าง”
อนุชไม่สบายใจ ไม่อยากไปกับกร้าวและลลิตา
“แต่นุชอยากอยู่ดูแลป๋ามากกว่านี่คะ”
“ไม่ต้องห่วงป๋าหรอก พร้อมกับขำก็อยู่ ไปเที่ยวให้สนุกเถอะ”
อนุชไม่ค่อยอยากไป แต่ขัดชาติไม่ได้ กร้าวไม่สบายใจ แต่ลลิตายิ้มพอใจ
บรรยากาศน้ำตกสวยงามร่มรื่น...ลลิตากรี๊ดกร๊าดตื่นเต้น ไปวักน้ำเล่น เธอเกาะแขนออดอ้อนกร้าว
“เล่นน้ำกันนะคะคุณกร้าว”
กร้าวอึดอัดใจ ลลิตาหันไปหาอนุช
“เล่นน้ำด้วยกันมั้ยจ๊ะนุช”
อนุชเห็นท่าทางกร้าวและลลิตาก็ไม่พอใจ
“ไม่ดีกว่าค่ะ นุชอยากเดินเล่นมากกว่า”
อนุชรีบออกไป ไม่อยากเห็นภาพบาดตาบาดใจ ชายธงรีบตามไป ลลิตาใส่ไฟ
“ชายธงกับนุชนี่ตัวติดกัน ไม่ยอมห่างเลยนะคะ สวีทกันน่าดู”
กร้าวมองตามอนุชและชายธง หึงหวง อยากจะตามไป แต่โดนลลิตาเกาะติดหนึบ
อนุชมาที่มุมหนึ่งของน้ำตก ชายธงตามมา
“นุช จะรีบไปไหน รอผมด้วยสิ”
“นุชไม่อยากอยู่เป็นก้างขวางคอใคร”
อนุชโกรธกร้าวมาก
ลลิตาออดอ้อนกร้าว
“ไปเล่นน้ำเป็นเพื่อนลิต้าหน่อยนะคะคุณกร้าว”
“ลิต้าตามสบายเถอะครับ ผมไม่ได้เตรียมเสื้อผ้ามาเปลี่ยน ผมรออยู่ตรงนี้ดีกว่า”
“งั้นก็ตามใจคุณกร้าวค่ะ”
ลลิตาค่อยๆ ถอดเสื้อเชิ้ตตัวนอกออก เหลือแต่เสื้อสายเดี่ยวเซ็กซี่ตัวในและกางเกงขาสั้น จงใจให้ท่าเขา ลลิตาลงเล่นน้ำตก ทำท่าทางเซ็กซี่ยั่วยวน กร้าวอึดอัดใจ ยิ้มให้ลลิตาเป็นมารยาท แล้วมองไปทางอื่น ไม่อยากมอง ลลิตาหงุดหงิดที่เขาไม่เล่นด้วย เลยคิดแผน เธอดำน้ำลงไป กร้าวนั่งชมวิวสักพัก รู้สึกว่าลลิตาเงียบไปก็หันไปมองหา แต่ไม่เจอ เขาร้องเรียก
“ลิต้า”
กร้าวมองไปทั่วบริเวณ ไม่เห็นวี่แววลลิตาก็ตกใจ คิดว่าเธอจมน้ำ เขาถอดเสื้อ แล้วลงน้ำไปหา
กร้าวดำน้ำหาลลิตา เขาเจอเธออยู่ใต้น้ำ ท่าทางนิ่งเหมือนจะจมน้ำ ก็รีบดึงขึ้นมาเหนือน้ำ
“ลิต้า คุณเป็นอะไรรึเปล่า”
ลลิตากลับโอบคอเขาแน่น หัวเราะสนุก
“คุณแกล้งผมเหรอเนี่ย”
ลลิตายั่วยวนสบตาแล้วจะจูบ กร้าวมองนิ่งอึ้ง หน้าเครียด แต่พอเธอจะจูบ เขาก็ผละออก
“ถ้าคุณไม่เป็นไรแล้ว ผมขอตัว”
กร้าวกลับขึ้นฝั่ง ลลิตาผิดหวัง
“คุณกร้าว กลับมาเดี๋ยวนี้นะ คุณกร้าว”
กร้าวไม่ฟัง ออกไปเลย ลลิตาหงุดหงิด ตีน้ำระบายอารมณ์
“อ๊าย”
อนุชและชายธงเดินเข้ามามุมหนึ่งในป่า ชายธงล้วงกระเป๋าหาโทรศัพท์มือถือแต่ไม่มี
“ผมทำโทรศัพท์หล่น”
“นุชช่วยหามั้ย”
“ไม่เป็นไร นุชรออยู่นี่แหละ เดี๋ยวผมมา”
ชายธงออกไป อนุชมองไปด้านหนึ่ง จำทางได้ว่าเป็นทางไปหน้าผา เธอเดินออกไป...อนุชเดินมาถึงหน้าผามองไปรอบๆ นึกถึงกร้าว หญิงสาวเสียใจที่ลืมเขาไม่ลง ขณะเดียวกันนั้นที่ด้านหลังของเธอ กร้าวเข้ามา เห็นอนุชก็ยิ้ม ดีใจที่ใจตรงกัน อนุชตัดใจ จะกลับ หันมาเจอเขาก็ชะงักแปลกใจ
“คุณกร้าว”
อนุชมองสภาพกร้าวที่ตัวเปียกปอน ถอดเสื้อเหลือแต่กางเกง ก็หึง เข้าใจผิด คิดไปเองว่าเขาไปนัวเนียกับลลิตามา
“ผมดีใจที่เจอคุณที่นี่”
กร้าวจับมือเธอมากุมพูดอย่างจริงใจ
“ที่นี่เคยเป็นสถานที่พิเศษของผมคนเดียว แต่ตอนนี้เป็นของเราสองคน คุณคือคนพิเศษสำหรับผม”
อนุชมองตาเขาแล้วนึกถึงคำพูดของลลิตา
“ฉันก็มีหัวใจนะ เจอผู้ชายที่รักเรา…พูดกรอกหูทุกวันว่าเราเป็นคนพิเศษของเขาคนเดียว มันก็อดใจอ่อนไม่ได้”
อนุชเจ็บปวด คิดว่าเขาปากหวานไปทั่ว ไม่มีความจริงใจ
“เรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ ฉันลืมไปหมดแล้ว มันไม่มีค่าพอให้จดจำสักนิด”
กร้าวเสียใจมาก อนุชสะบัดมือจากเขาเดินหนีไป
“จะไปไหน”
อนุชประชด
“ไปหาชายธง”
กร้าวทั้งเสียใจ โกรธและไม่เข้าใจอนุช
“หายใจเข้าออกเป็นชายธง ทำไม ห่างจากมันไม่ได้เลยรึไง”
อนุชประชด
“ใช่ ฉันไม่อยากห่างจากชายธงสักวินาทีเลย”
กร้าวโกรธมาก กระชากเธอมากอดจูบซุกไซร้ประชดประชัน อนุชดิ้นรน
“ปล่อยฉัน”
“ทำเป็นดีดดิ้น ผมรู้ทันคุณหรอกน่ะ สิ่งที่คุณแสดง มันก็แค่มารยา เพื่อปั่นหัวผู้ชายให้มันคลั่ง”
กร้าวกอดจูบอย่างรุนแรง อนุชกัดหูเขาอย่างแรง
“โอ๊ย”
เธอผลักเขาออกร้องไห้ น้ำตาไหลพราก เจ็บปวดใจ
“ฉันคิดว่าคุณจะมีความจริงใจให้ฉัน แต่คนอย่างคุณไม่เคยจริงใจกับใคร คุณเห็นผู้หญิงเป็นแค่ของเล่น คุณมันไม่มีหัวใจ ฉันเกลียดคุณ!”
อนุชวิ่งหนีไป กร้าวเจ็บปวดใจ เข้าใจอนุชผิด
ชายธงถือโทรศัพท์มือถือ เข้ามาที่มุมเดิมที่แยกกับอนุช เขามองหาแต่ไม่เจอก็แปลกใจร้องเรียก
“นุช”
ทางด้านอนุชวิ่งมาที่น้ำตกน้ำตาคลอ ลลิตาเล่นน้ำอยู่คนเดียว เห็นอนุชก็รีบถาม
“อ้าว นุช...เจอคุณกร้าวรึเปล่า”
“เจอค่ะ แต่ไม่รู้ไปไหนแล้ว”
อนุชพยายามกลั้นน้ำตา หลบหน้าหลบตา...ลลิตาโกรธ เกลียดอนุช คิดแผนแกล้ง เธอแกล้งทำเป็นตะคริว จะจมน้ำ ตีน้ำและโวยวาย
“ว้าย ช่วยด้วย”
อนุชตกใจ
“พี่ลิต้า”
อนุชรีบลงน้ำ ว่ายไปช่วยเข้าไปประคอง แต่ลลิตาแกล้ง จับอนุชกดน้ำ
“ว้าย ช่วยด้วยๆ”
อนุชตกใจ
“พี่ลิต้า อย่า...”
ลลิตายิ้มร้าย สะใจ จับอนุชกดน้ำ แต่ทำเป็นโวยวาย
“ช่วยด้วย พี่กลัว”
อนุชจมน้ำ พยายามดิ้นรน แต่โดนลลิตาจับกดน้ำ เธอสำลักน้ำ อึดอัด หายใจไม่ออก ลลิตาสะใจ
“โทษฐานที่แกคิดจะแย่งคุณกร้าวของฉัน”
อนุชหายใจไม่ออกหมดสติ แน่นิ่งไป กร้าวเข้ามา มองเห็นลลิตากับอนุชจมน้ำก็ตกใจ
“ลิต้า นุช”
ลลิตาเห็นกร้าวก็ตกใจ รีบปล่อยมือจากอนุช และแกล้งทำเป็นจะจมน้ำ
“ช่วยด้วย ช่วยลิต้าด้วย”
กร้าวรีบว่ายน้ำไปช่วยสองสาว เขาว่ายไปประคองอนุชที่หมดสติไปแล้ว
“นุช”
ลลิตาร้องเรียก
“คุณกร้าว ช่วยด้วย”
กร้าวช่วยอนุชและลลิตาขึ้นจากน้ำ ประคองขึ้นมาบนตลิ่ง ลลิตาทำเป็นสำลักน้ำ ผวาเข้ากอด
“คุณกร้าวขา ลิต้ากลัว”
กร้าวไม่สนลลิตา หันไปเรียกอนุช
“นุช”
กร้าวเห็นอนุชหมดสติก็รีบวางเธอนอนราบ ปั๊มหน้าอก บีบจมูก ผายปอดให้ ลลิตาเห็นก็เจ็บใจ ชายธงเข้ามาเห็นอนุชหมดสติก็ตกใจ
“นุช”ชายธงหันไปถามกร้าวและลลิตา “เกิดอะไรขึ้น”
“คุณนุชจมน้ำ”
ชายธงผลักกร้าวออกไป
“ไม่ต้องยุ่ง”
ชายธงจะผายปอดให้ กร้าวหวง ไม่อยากให้ชายธงผายปอดให้อนุช ชายธงกำลังจะผายปอดแต่อนุชสำลักน้ำออกมาก่อน กร้าวดีใจที่เธอฟื้น ชายธงก็ดีใจดึงมากอด กร้าวไม่พอใจ ลลิตาเห็นสายตากร้าวที่มองอนุชและชายธงแล้วระแวง ดูออกว่าเขาหึงหวงอนุช เธอไม่พอใจที่เขาดูแคร์อนุชมาก
กร้าวขับรถมาจอดหน้าบ้าน ทั้งหมดลงจากรถ กร้าวจะประคองอนุช แต่ชายธงรีบเข้าไปประคองตัดหน้า ชาติ ป้าพร้อมและขำออกมาจากบ้าน เห็นอนุชหน้าตาซีดเซียวก็ตกใจ
“เกิดอะไรขึ้น”
กร้าวหันมาบอก
“นุชกับลิต้าจมน้ำครับ”
ป้าพร้อมกับขำตกใจ
“นุชกับหนูลิต้าไปนอนพักก่อนเถอะ” ชาติหันมาสั่งป้าพร้อม “หาอะไรอุ่นๆ ให้ดื่มสักหน่อย เดี๋ยวจะไม่สบาย”
“ค่ะ คุณชาติ”
ชายธงประคองอนุชไป
“ค่อยๆ เดินนะนุช”
กร้าวมองตาม อยากดูแลเอง ลลิตาแกล้งทำเป็นไม่มีแรง เซมาซบอกเขา
“คุณกร้าวขา ลิต้ายังเจ็บขาที่เป็นตะคริวอยู่เลย ลิต้าเดินไม่ไหว คุณกร้าวอุ้มลิต้าหน่อยสิคะ”
กร้าวลำบากใจ ลลิตาทำเป็นจะล้ม เขาจำต้องอุ้มเธอ ลลิตากอดคอ ซบอกแนบแน่น ป้าพร้อมกับขำเห็นลลิตามารยาก็อึ้งไป กร้าวอุ้มลลิตาเดินนำอนุชและชายธง ลลิตาแอบยิ้มให้ อนุชเห็นกร้าวกับลลิตาใกล้ชิดกันก็เศร้าใจ
วันใหม่...อสิตคุยกับลูกค้าอยู่ในบริษัท
“ผมขอเวลาอีกนิดเถอะ ผมจะรีบหาคนงานมาทำงานต่อ”
ลูกค้าคิดหนัก
“โปรเจ็กต์ของผมมันใหญ่เกินกว่าจะเอามาเสี่ยงกับคุณ”
ลูกค้าลุกขึ้น จะออกจากห้อง อสิตเกาะแขนลูกค้า อ้อนวอน
“ช่วยผมหน่อยเถอะ”
ลูกค้าตบไหล่อสิตเบาๆ แล้วออกจากห้องไป อสิตหน้าเศร้าหมดหวัง
ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 4 (ต่อ)
กร้าวยืนลังเลอยู่หน้าห้องอนุช ในใจเป็นห่วงแต่ไม่กล้าเข้าไป ลลิตาเห็นก็ไม่พอใจ คิดแผนได้จึงเข้ามาหาเขาออเซาะ
“คุณควรจะนอนพักนะครับ” กร้าวบอก
ลลิตาตีหน้าเศร้า
“นุชจมน้ำเพราะช่วยลิต้าแท้ๆ”
“อย่าโทษตัวเองเลย คุณนุชคงเข้าใจว่าเป็นอุบัติเหตุครับ ผมว่าคุณกลับไปพักที่ห้องเถอะ”
“ค่ะ”
ลลิตาเดินแล้วแกล้งทำเป็นจะล้ม กร้าวรีบประคอง
“ระวังครับ”
“ลิต้าเดินไม่ไหว คุณกร้าวไปส่งลิต้าหน่อยนะคะ”
กร้าวลำบากใจ ลลิตาอ้อน
“นะคะคุณกร้าว”
กร้าวพยักหน้าแทนคำตอบ แล้วประคองลลิตาไป
กร้าวประคองลลิตามานั่งบนเตียงจะออกจากห้อง ลลิตาโผเข้ากอดแน่น กร้าวแกะมือเธอออก พูดเสียงเข้ม
“ผมว่าคุณควรจะพักให้หาย แล้วรีบกลับได้แล้ว”
ลลิตาตกใจ
“คุณกร้าวไล่ลิต้าเหรอคะ”
“คุณสิตไม่สบาย คุณควรจะกลับไปดูแลสามีคุณถึงจะถูก”
ทันใดนั้นเสียงอนุชดังขึ้นหน้าห้อง
“พี่สิตเป็นอะไรคะ”
ชายธงประคองอนุชยืนอยู่หน้าห้องจะมาเยี่ยมลลิตาได้ยินพอดี กร้าวและลลิตาตกใจ
อนุชกราบตัก ชาติลูบผมด้วยความปราณี
“นุชขอโทษป๋าด้วยนะคะที่ต้องลากะทันหัน นุชเพิ่งรู้ว่าพี่สิตโดนรถชนจนเดินไม่ได้ ไม่มีใครบอกนุชสักคน”
อนุชน้อยใจ ค้อนกร้าวแวบหนึ่ง กร้าวรู้สึกผิดที่ไม่ได้บอกเธอ ชาติยิ้มใจดี
“กลับไปดูแลพี่ชายเถอะ ไม่ต้องห่วงทางนี้หรอก”
ป้าพร้อมเสริม
“ใช่ค่ะ ป้ากับนังขำก็อยู่ ไม่ต้องห่วงนะคะ”
อนุชกอดป้าพร้อมและขำด้วยความผูกพัน ชาติลูบผม ลูบหลังอนุชด้วยความเอ็นดูและสงสาร ลลิตาหมั่นไส้ที่ใครๆ ก็รักอนุช
กร้าวยืนรออยู่ จะเรียกให้อนุชขึ้นรถ แต่ลลิตารีบวิ่งมาเกาะแขน
“ลิต้ากลับกับคุณกร้าวนะคะ คุณกร้าวจะได้ไม่เหงา”
ลลิตาไม่รอให้เขาตอบขึ้นรถไปเลย กร้าวพูดไม่ออก อนุชเจ็บปวดใจ
“ไปกับผมนะนุช”
ชายธงเปิดประตูรถให้ อนุชค้อนกร้าวแวบหนึ่ง แล้วจึงขึ้นรถชายธงไป กร้าวเสียใจที่เห็นคนที่รักขึ้นรถไปกับผู้ชายคนอื่นต่อหน้าต่อตา แต่ทำอะไรไม่ได้ เขาขึ้นรถตัวเองขับออกไป
ปรารภเข็นรถเข็นที่อสิตนั่งซึมเศร้าเข้ามาในห้อง อรชาเป็นห่วง
“พี่สิตอย่าคิดมากเลยนะคะ เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของพี่สิต”
“พอเถอะอร ไม่ว่าอรจะพูดยังไง พี่ก็รู้แก่ใจดีว่าทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้น เป็นเพราะความไม่เอาไหนของพี่”
“โธ่ พี่สิต”
“ไม่ต้องมายุ่งกับพี่ ออกไป พี่อยากอยู่คนเดียว ไป”
“แต่ว่า...”
อสิตตัดบท
“ออกไป!”
อสิตโมโห ปัดข้าวของใกล้มือหล่นลงพื้นเสียงดัง อรชาตกใจ
“ว้าย”
ปรารภจับมืออรชา ส่ายหน้าแทนคำพูดว่าอย่าเพิ่งพูดอะไรตอนนี้ เขาพาเธอออกจากห้องไป อสิตกุมขมับ เครียด รับไม่ได้กับความล้มเหลวในชีวิต...อรชาและปรารภออกมาจากห้อง
“คุณอรเป็นอะไรรึเปล่าครับ”
อรชาส่ายหน้า แล้วร้องไห้ออกมา
“อรเป็นน้องที่แย่ที่สุด อรช่วยอะไรพี่สิตไม่ได้เลย”
ปรารภให้กำลังใจ
“คุณอรทำดีที่สุดแล้วครับ แต่คุณสิตคงต้องการเวลาทำใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น ให้เวลาคุณสิตบ้างนะครับ”
อรชาพยักหน้าแทนคำตอบ แต่ยังห่วงอสิต ไม่สบายใจ
อสิตหยิบกรอบรูปที่มีรูปคู่พ่อและแม่ขึ้นมามอง เขาเสียใจและรู้สึกผิดมาก น้ำตาคลอ
“พ่อครับ แม่ครับ ผมขอโทษ ผมมันไม่เอาไหน บริษัทที่พ่อสร้างมากับมือ ผมกลับรักษาไว้ไม่ได้ แล้วผมยังทำให้ครอบครัวแตกแยก ทำให้นุชต้องหนีออกจากบ้าน ผมมันแย่ที่สุด ผมไม่น่าเกิดเป็นลูกพ่อเลย”
อสิตร้องไห้ออกมาด้วยความละอายใจ
รถยนต์สองคันแล่นมาจอดบริเวณหน้าบ้านวิชเวทย์ ชายธงเปิดประตูให้แล้วประคองอนุชลงมาดูแลเอาใจใส่อย่างดี อนุชลงจากรถ มองบ้านด้วยความคิดถึงและผูกพัน หลังจากที่จากไปนาน
กร้าวลงจากรถ มองทั้งสองคนอย่างปวดใจ ลลิตาก้าวตามลงจากรถแล้วรีบมาเกาะแขนกร้าว ส่วนอรชานั่งอยู่ในห้องรับแขกกระสับกระส่าย ห่วงอสิตที่ยังเก็บตัวเงียบอยู่ในห้อง อนุชเข้ามาในบ้าน
“พี่อรคะ”
อรชาเห็นอนุชก็ดีใจมาก
“นุช”
สองพี่น้องลืมเรื่องที่เคยไม่เข้าใจกัน เข้ามากอดกัน
“พี่ดีใจที่นุชกลับมา”
อรชามองสำรวจน้องสาวไปทั้งตัว
“ตอนที่นุชไม่อยู่ พี่อธิษฐานทุกวัน ขอให้นุชปลอดภัย พี่กลัวว่า...จะไม่ได้เห็นหน้าน้องพี่อีกแล้ว...”
อรชาพูดได้เพียงแค่นั้นก็ร้องไห้ออกมา
“กลับมาอยู่บ้านเรา อย่าไปไหนอีกเลยนะ”
“ค่ะ พี่อร”
สองสาวกอดกันร้องไห้ ลลิตาหมั่นไส้ ปรารภและชายธงต่างดีใจที่พี่น้องเข้าใจกัน กร้าวมองสองพี่น้องแล้วใจอ่อน รู้สึกผิด รีบเบือนหน้าหนีไปทางอื่น อรชากับอนุชต่างเช็ดน้ำตาและยิ้มให้กัน
“แล้วพี่สิตล่ะคะ...พี่สิตเป็นยังไงบ้างคะ” อนุชนึกได้
“พี่สิตเอาแต่เก็บตัวอยู่แต่ในห้อง เขาเสียใจมาก โทษตัวเองว่าเป็นต้นเหตุทำให้นุชต้องออกจากบ้านไป”
อนุชเสียใจ
“โธ่ พี่สิต ไม่ใช่ความผิดของพี่สิตเลย”
อสิตเปิดประตูห้อง และเข็นรถออกมา เขาหน้าเคร่งเครียด เศร้าหมอง เขาเข็นรถมาที่ขอบสระว่ายน้ำ มองน้ำในสระ แววตาเศร้า นิ่ง ตัดสินใจจะจบชีวิตตัวเอง
ขณะเดียวกัน อนุชและอรชาเคาะประตูห้องเรียก ลลิตา กร้าว ปรารภและชายธงก็มาด้วย
“พี่สิตคะ”
“พี่สิตคะ นุชกลับมาแล้วค่ะ เปิดประตูเถอะค่ะ”
อนุชและอรชาไม่สบายใจ กร้าวจับลูกบิด ห้องไม่ได้ล็อก เลยเปิดประตูเข้าไป อนุชรีบเข้าไปหาพี่ชายแต่ไม่เห็น
“พี่สิตคะ”
กร้าวเรียก
“คุณสิต”
อนุชและกร้าวใจตรงกัน จับลูกบิดประตูห้องน้ำพร้อมกัน ทั้งสองมองหน้ากัน อนุชปล่อยมือ รีบเดินหนีไป กร้าวเจ็บปวดที่เธอหมางเมิน เปิดประตูห้องน้ำเข้าไปมองหา
“ในห้องน้ำก็ไม่มี”
อรชากังวล
“พี่สิตหายไปไหน”
ขณะที่ทุกคนตั้งใจหาแต่ลลิตายืนเบื่อหน่าย เพราะไม่อยากกลับมาที่นี่ อยากอยู่ที่ไร่ทานตะวันกับกร้าว แล้วทุกคนได้ยินเสียงตกน้ำดังตูมทุกคนชะงัก แล้วนึกได้ อนุชตกใจ
“พี่สิต!”
อสิตตกลงไปในน้ำทั้งรถเข็น เขาว่ายน้ำไม่ได้เพราะขาขยับไม่ได้ อสิตทรมาน จะขาดใจ กร้าว อนุช อรชา ปรารภ ชายธงและลลิตารีบร้อนเข้ามา อนุชมองหา เห็นอสิตอยู่ในน้ำก็ตกใจ
“พี่สิต”
ลลิตาร้องลั่น
“อ๊าย!”
อนุชจะลงไปช่วยอสิต แต่กร้าวห้ามไว้
“ผมเอง”
กร้าวกระโดดน้ำลงไปช่วย เขาประคองอสิตขึ้นมาพ้นน้ำแต่อสิตดิ้นรน ผลักกร้าว
“ปล่อย อย่ามายุ่งกับผม ปล่อยให้ผมตาย ผมอยากตาย”
กร้าวประคองมาริมสระ ปรารภและชายธงช่วยกันดึงตัวอสิตขึ้นมา อสิตสำลักน้ำ เกือบตาย อรชา อนุช รีบมาดูแล
“พี่สิตทำแบบนี้ทำไมคะ” อนุชน้ำตาคลอ
อสิตเห็นหน้าอนุชก็ดีใจ แต่ก็รู้สึกผิด
“นุช นุชจริงๆ ด้วย นุชกลับมาแล้ว พี่ขอโทษที่พี่ตบหน้านุช”
“นุชไม่เคยโกรธพี่สิตเลย เรื่องมันแล้วไปแล้ว ให้มันแล้วไปนะคะ”
“พี่เป็นพี่ที่ไม่เอาไหน บริษัทของคุณพ่อพี่ก็รักษาไว้ไม่ได้”
อรชาแย้ง
“ไม่จริงค่ะ พี่สิตเป็นพี่ชายที่ดีที่สุดสำหรับอร”
“สำหรับนุชด้วยค่ะ”
“แต่ตอนนี้เราไม่เหลืออะไรแล้ว”
“ใครว่าไม่เหลือ เราสามคนพี่น้องไงคะ พี่สิตกับพี่อรสิ่งที่มีค่าที่สุดสำหรับนุชถ้าไม่มีพี่ทั้งสอง นุชก็อยู่ไม่ได้”
อรชาน้ำตานองหน้า
“พี่สิตอย่าทิ้งเราสองคนไปนะคะ ถ้าไม่มีพี่สิต เราจะอยู่ยังไง”
“อร...นุช...”
อสิต อรชาและอนุชกอดกันร้องไห้ ลลิตาโล่งอกที่ไม่มีใครตายในบ้าน กร้าวรู้สึกสงสารสามพี่น้อง
ปรารภกับชายธงดีใจที่พี่น้องเข้าใจกัน
วันใหม่...ธารินอยู่ในบ้าน โทรศัพท์มือถือดังขึ้น เธอตื่นเต้น รีบมาดูเบอร์ที่โทรเข้ามา แต่พอเห็นเป็นเบอร์เธียร ไม่ใช่ชายธง ก็ผิดหวังแต่ก็กดรับสาย
“สวัสดีค่ะคุณลุง”
ธารินฟังจากเธียรแล้วดีใจ
“พี่ชายธงกลับมาแล้วเหรอคะ ขอบคุณค่ะคุณลุง”
ธารินวางสาย ตื่นเต้นดีใจ อยากเจอชายธง เธอคว้ากระเป๋าถือ รีบร้อนจะออกจากบ้าน แล้วนึกได้ ชะงัก
“ในเมื่อพี่ชายธงทำผิด ก็ต้องมาง้อเราถึงจะถูก”
ธารินวางกระเป๋าถือ เชิดหน้า มีศักดิ์ศรีทิฐิ
อสิตและอนุชนั่งเล่นเกมในไอแพดแข่งกันอยู่ที่ศาลาในสวนบ้านวิชเวทย์อย่างสนุกสนาน ต่างคนต่างไม่ยอมกัน สุดท้ายอนุชแพ้ ทั่งสองหัวเราะกันสนุก
“สนุกกันใหญ่เลยนะคะ” อรชายกจานผลไม้เข้ามา
“เราไม่มีเวลาเล่นเกมส์ด้วยกันอย่างนี้นานแล้วนะ ขอบใจอรกับนุช ที่ทำให้พี่คิดได้ว่าชื่อเสียงเงินทองเป็นแค่ของนอกกาย ครอบครัวต่างหากที่สำคัญกว่าอะไรทั้งหมด”
อสิตกุมมืออรชาและอนุช สามพี่น้องยิ้มให้กัน อบอุ่น มีความสุข ทันใดนั้นเสียงลลิตากรี๊ดลั่น
“อ๊ายยย!”
อสิต อรชาและอนุชต่างตกใจ
“ลิต้า!”
ลลิตากรีดร้องอย่างเสียขวัญ แหวนยืนอยู่ด้วย ทั้งสองต่างหวาดกลัว อนุชรีบไปดู อรชาเช็นรถอสิตไปด้วย
“พี่ลิต้าคะ”
อสิตเข้าไปถาม
“ลิต้า เป็นอะไร เกิดอะไรขึ้น”
มุมหนึ่งใกล้รั้ว มีถุงขยะสีดำเปิดอ้า ภายในถุงมีชิ้นส่วนของหุ่นโชว์ผู้หญิง แยกส่วนเป็นชิ้นๆ มีหัว ลำตัว แขน ขา อสิต อรชาและอนุชเห็นชิ้นส่วนหุ่นโชว์ ต่างตกใจ โทรศัพท์มือถือของอสิตดังขึ้นเขารับสาย
“ฝีมือเสี่ยเองเหรอ เสี่ยทำแบบนี้ทำไม”
เสี่ยยศพูดสายเสียงเหี้ยม
“ถ้าลื้อไม่ใช้หนี้ คราวหน้าอาจไม่ใช่แค่หุ่น แต่เป็นวิชเวทย์สักคน”
อสิตตกใจ กลัว
“อย่านะเสี่ย อย่าทำอะไรเมียกับน้องผมนะ พวกเขาไม่เกี่ยว”
เสี่ยยศตัดสายไป อสิตตื่นกลัว
“เสี่ย ฮัลโหล เสี่ย”
อสิตเครียด อนุชหันมาถาม
“ฝีมือเสี่ยยศเหรอคะ”
อสิตพยักหน้า
“มันต้องการให้เราใช้หนี้ทั้งหมด ไม่งั้น…มันจะฆ่าเรา”
ลลิตา อรชาและอนุชต่างตกใจ ลลิตาหวาดกลัวมาก วิ่งหนีออกไป ทุกคนต่างเป็นห่วงรีบตาม
ลลิตาสติแตก รีบเก็บเสื้อผ้าข้าวของยัดใส่กระเป๋าเดินทาง อรชาและอนุชเข็นอสิตเข้ามาในห้อง เห็นเข้าก็ตกใจ
“พี่ลิต้าใจเย็น มีสติหน่อยสิคะ” อนุชเข้าไปปลอบ
“ไม่ยงไม่เย็นแล้ว ฉันไม่อยากเป็นอย่างหุ่นพวกนั้น ฉันยังไม่อยากตาย”
อสิตจับมือลลิตาไว้ ดึงมากอดปลอบโยน
“ไม่ต้องกลัวนะลิต้า ผมไม่มีวันยอมให้ทำพวกมันทำอะไรคุณกับน้องๆเด็ดขาด ถึงต้องแลกด้วยชีวิตผม ผมก็ยอม”
ลลิตาร้องไห้ในอ้อมกอดของสามี อสิตกอดปลอบภรรยาทั้งๆ ที่ตัวเองก็ยังมืดมน ไม่รู้จะหาเงินจากไหน อรชาและอนุชเองก็กังวล ทั้งสองกุมมือกัน แทนคำปลอบโยน
วันใหม่...อสิตคุยกับกร้าวในห้องทำงานที่บ้าน ทั้งสองต่างเคร่งเครียด...อนุช อรชาและลลิตาอยู่หน้าห้อง ทั้งสามต่างเครียด รอฟังผล ครู่หนึ่งประตูห้องเปิดออก กร้าวออกมาจากห้อง เจอหน้าอนุชเป็นคนแรก ทั้งสองมองตากัน
“คุณกร้าว ตกลงว่ายังไงคะ”
ลลิตารีบแทรกเข้ามาหากร้าว กร้าวขรึมๆ
“เรื่องนี้เป็นเรื่องภายในครอบครัว พวกคุณคุยกับคุณสิตเองดีกว่าครับ”
กร้าวออกไป ลลิตารีบเข้าไปในห้องอย่างอยากรู้ อรชาและอนุชตามไปพบอสิตที่นั่งเครียดอยู่
“ว่าไงคะสิต” ลลิตาร้อนใจ
อสิตส่ายหน้าช้าๆ
“คุณกร้าวยังไม่รับปาก เขาขอเวลาคิดก่อน”
ลลิตาหน้าเสียทั้งต่างเป็นกังวล
กร้าวเดินเข้ามาที่ห้องโถงเห็นรูปภาพเต็มตัวของนายประสิทธิ์ วิชเวทย์แขวนอยู่ เขาจ้องหน้าประสิทธิ์เขม็ง
“ฉันรอวันนี้มานานแล้ว วันที่พวกวิชเวทย์จนตรอก”
กร้าวตาวาวด้วยความแค้น เขานึกถึงอดีต ตอนที่ประสิทธิ์ข่มขืนแม่ของเขา กร้าวแววตาเจ็บปวด โกรธแค้นประสิทธิ์มาก
“แกย่ำยีแม่ฉัน เห็นชีวิตแม่ฉันเป็นของเล่น ฉันจะทำกับลูกของแกเหมือนกัน”
กร้าวยิ้มให้รูปประสิทธิ์ วิชเวทย์
“แกรอดูความหายนะของลูกๆ แกทุกคนให้เต็มตา”
กร้าวตาวาวด้วยความโกรธแค้น เจ็บปวดลึกๆ ในใจ
อรชาเดินเข้ามาที่มุมหนึ่งในบ้านซึ่งกร้าวรออยู่
“คุณกร้าว”
กร้าวรีบเข้าไปหาแววตาอาทร ห่วงใย กุมมือไว้
“ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมจะหาทางช่วยคุณ”
“แต่เงินไม่ใช่น้อยๆ นะคะ”
“ไม่มีอะไรในโลกนี้มีค่าเกินกว่าชีวิตและความปลอดภัยของคุณ”
อรชาซาบซึ้งใจ
“คุณกร้าว ขอบคุณนะคะ คุณดีกับอรเหลือเกิน”
กร้าวดึงมากอด อรชารู้สึกอบอุ่นและปลอดภัย อนุชเดินผ่านมาเห็น รีบหลบ แอบมอง เห็นกร้าวกอดอรชา ก็ไม่สบายใจ
กร้าวจะกลับ ลลิตาโผล่มากอด
“คุณกร้าวขา”
กร้าวตกใจ กลัวอสิตและอรชามาเห็น
“ลิต้า”
กร้าวดึงลลิตาออกไป อนุชแอบตามจับผิด...กร้าวดึงลลิตามาที่มุมลับตาคนในสวน อนุชแอบมองอยู่ห่างๆ ลลิตาสวมกอด
“ลิต้ากลัวค่ะ คุณกร้าวพาลิต้าไปจากที่นี่นะคะ ลิต้าไม่อยากอยู่ที่นี่แล้ว”
กร้าวสงสาร กอดปลอบ
“ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมจะพยายามหาทางช่วยคุณให้ได้”
ลลิตาออดอ้อนออเซาะ กร้าวไม่สบายใจที่ต้องยุ่งเกี่ยวกับลลิตา อนุชแอบมองอยู่ เสียใจ ลลิตาเห็นอนุชแอบมองอยู่ก็คิดแผนร้าย กร้าวผละออก
“ผมกลับก่อนนะครับ”
“เดี๋ยวค่ะ”
ลลิตาจูบ กร้าวอึ้ง ไม่ทันตั้งตัว อนุชเห็นก็เสียใจ ทนดูไม่ได้ รีบเดินหนีออกไป...กร้าวตกใจ รีบผลักลลิตาออก
“อย่าทำแบบนี้เลยครับ”
กร้าวหนักใจ ออกไป ลลิตามองตามอนุชไปยิ้มอย่างสะใจ
ค่ำนั้น...อรชาออกมาจากห้องอสิต เจออนุชรออยู่
“นุช ยังไม่นอนเหรอ”
อนุชกังวล
“นุชอยากคุยกับพี่อร...เรื่องคุณกร้าว”
อรชากลัวอสิตได้ยิน จูงมือน้องสาวออกไป
อรชาพาอนุชมาคุยอีกมุมหนึ่ง
“เราอย่าคุยเรื่องนี้กันอีกเลย พี่ไม่อยากทะเลาะกับนุชตอนนี้ในบ้านมีปัญหามากพอแล้ว”
“คุณกร้าวไม่ใช่คนดีอย่างที่พี่อรคิด…”
อรชาตัดบท
“ไม่ว่าใครจะว่าคุณกร้าวยังไง แต่สำหรับพี่ คุณกร้าวเป็นผู้ชายที่ดีที่สุด”
อรชาเดินหนีไป ไม่ฟัง
“พี่อร”
อนุชเสียใจที่อรชาไม่ฟัง
วันใหม่ กร้าวเซ็นเอกสารอยู่ในห้องทำงาน แล้วเหม่อนึกถึงอนุช เลขาโทรอินเตอร์โฟนมารายงาน กร้าวสะดุ้ง ตื่นจากภวังค์
“คุณกร้าวคะ คุณอนุช วิชเวทย์มาขอพบค่ะ”
กร้าวดีใจ เสียงเคาะประตูดังขึ้น อนุชเข้ามา กร้าวยิ้มดีใจ แล้วนึกได้ เก๊กหน้าเข้มขรึม
“เชิญนั่ง”
อนุชนั่งตรงหน้า
“มีอะไร”
อนุชน้ำเสียงจริงจัง
“ระหว่างพี่อรกับพี่ลิต้า คุณรักใครกันแน่”
กร้าวแปลกใจ
“ผมนึกว่าคุณมาขอร้องให้ผมใช้หนี้ให้ซะอีก”
“เรื่องหนี้สำคัญมาก แต่ความสุขของพี่อรก็สำคัญไม่แพ้กันค่ะ”
กร้าวทึ่ง นึกชื่นชมอนุชที่ให้ความสำคัญกับครอบครัว
“คุณควรจะเลือกใครสักคน ไม่ใช่คบผู้หญิงสองคนพร้อมกันอย่างนี้”
กร้าวจริงจัง
“แล้วถ้าคนที่ผมรักไม่ใช่ทั้งคุณอรและคุณลิต้าล่ะ”
ชายหนุ่มมองหญิงสาวอย่างมีความหมาย เพราะคนที่รักก็คือเธอ แต่อนุชโกรธ ไม่รู้ว่าเขารักตน คิดว่ากร้าวเป็นผู้ชายเจ้าชู้หลายใจ ไม่รักใครจริงสักคน
“ถ้าคุณไม่ได้รักจริงก็อย่าให้ความหวังพี่อรอีกเลย ฉันขอร้อง อย่าทำให้พี่อรเสียใจไปมากกว่านี้”
“ผมจะเลิกยุ่งกับคุณอรและคุณลิต้าก็ได้”
อนุชแปลกใจระแวง
“คุณพูดจริงเหรอ”
กร้าวพยักหน้าแทนคำตอบ
“หวังว่าคุณคงรักษาคำพูด”
อนุชพูดจบก็รีบลุกขึ้น ออกไป กร้าวรีบตาม เธอจะออกจากห้อง แต่เขามาขวางไว้
“ไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ ผมเป็นนักธุรกิจนะคุณ จะทำอะไรต้องมีผลตอบแทน”
อนุชระแวง
“คุณต้องการอะไร”
“ผมจะใช้หนี้ทั้งหมดให้คุณ เลิกยุ่งกับคุณอรและคุณลิต้า ถ้าคุณยอมเป็นของผม ไม่ใช่ในฐานะภรรยา...แต่เป็นนางบำเรอ”
อนุชโกรธมาก ตบหน้าเขาอย่างแรง
“หยาบคาย เลวที่สุด”
กร้าวโกรธ คว้าแขนอนุชไว้แน่น
“ผมไม่เลวที่สุดหรอก มีคนเลวกว่าผมอีก คนที่คุณคาดไม่ถึง”
อนุชสะบัดออก
“คนอย่างคุณไม่เคยรักใครจริง คุณเห็นผู้หญิงเป็นแค่ของเล่นเท่านั้น คนไม่มีหัวใจ ฉันเกลียดคุณ!”
อนุชสะบัดอย่างแรงแล้วรีบออกจากห้องไป
กร้าวมองตามด้วยความเจ็บปวดใจ รักอนุช แต่ไม่กล้ายอมรับความรู้สึกตัวเอง
ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 4 (ต่อ)
อนุชนัดกับกรวิกที่บ้าน เมื่อมาถึงเธอเดินเข้าไปหา พบว่ากรวิกนั่งมองขวดโหลใส่กระดาษพับรูปหัวใจ กรวิกหันมายิ้มให้ มองอย่างสังเกต
“เป็นอะไรรึเปล่า ทำไมตาแดงๆ”
อนุชอึกอัก ไม่อยากเล่าเรื่องกร้าวให้ฟัง หยิบขวดโหลมาดู ล้อๆ
“ไม่มีอะไร...นกทำอะไรอยู่ หัวใจซะด้วย ทำให้หนุ่มคนไหนจ๊ะ”
กรวิกอาย
“ทำให้อากร้าว”
อนุชอึ้ง ไม่อยากได้ยินชื่อกร้าว
“เห็นอากร้าวงานยุ่ง คงจะเหนื่อยอยากให้อากร้าวรู้ว่านกเป็นกำลังใจให้เสมอ”
กรวิกพูดถึงกร้าวด้วยแววตาเป็นประกาย รักกร้าวและมีความสุขที่ได้ทำอะไรเพื่อคนที่รัก อนุชมองแววตาเพื่อนแล้วเศร้า น้ำตาพาลจะไหล ต้องพยายามกลั้นน้ำตา
“แต่โทรไปที่ไรอากร้าวก็ไม่ว่าง นุชช่วยนกหน่อยนะ” กรวิกจับมืออนุชอย่างขอร้อง
อนุชมองโทรศัพท์มือถือในมือ เธอโกรธที่โดนเขาดูถูก ไม่อยากคุยด้วย เช่นเดียวกับกร้าวที่กดหาเบอร์มือถือของอนุชในโทรศัพท์ อยากรู้คำตอบของเธอแต่ก็ไม่กล้าโทรไปถาม
อนุชคิดหนักเพราะรับปากกรวิกไว้แล้วตัดสินใจโทรหาเขา กร้าวกำลังคิดว่าจะโทรไม่โทรดี แต่แล้วก็มีสายโทรเข้ามา กร้าวรีบรับสาย อารมณ์ดี
“ว่าไงคุณ...อย่าบอกนะว่าเปลี่ยนใจแล้ว”
อนุชโกรธที่เขากวน แต่ต้องทำใจเย็น พูดนิ่งๆ
“เรื่องที่คุณบอกฉันเมื่อวาน ฉันมีคำตอบแล้ว”
เย็นนั้น...อนุชยืนรอรถแท็กซี่หน้าประตูรั้วบ้าน กร้าวขับรถมาจอดแล้วลงจากรถ อนุชเห็นกร้าวก็ตกใจ
“คุณมาอยู่ที่นี่ได้ไง”
“ผมก็มารับคุณไปด้วยกันไง”
“ฉัน...เอ่อ ฉันโทรเรียกแท็กซี่ไว้แล้ว”
“โทรไปยกเลิกก็ได้นี่”
กร้าวเปิดประตูรถให้ อนุชจำต้องขึ้นรถไปกับเขาเพื่อไม่ให้เขาสงสัย กร้าวยิ้ม รอดูว่าเธอจะทำยังไงต่อ
ค่ำนั้น...กรวิกขับรถมาตามทางเปลี่ยวและมืดมาก เธอมองขวดโหลที่จะให้กร้าว ยิ้มมีความสุขที่จะได้บอกความรู้สึกของตัวเองให้เขารู้ จู่ๆ มีคนวิ่งตัดหน้ารถ กรวิกตกใจรีบเบรก
“ว้าย”
กรวิกจอดรถ รีบลงไปดู ผู้ชายคนหนึ่งนอนคว่ำหน้าอยู่บนถนน
“คุณคะ คุณ เป็นอะไรรึเปล่าคะ”
ผู้ชายคนที่นอนคว่ำหน้าหันมาและใช้มีดจี้ กรวิกตกใจลุกขึ้นจะหนี แต่หันไปเจอผู้ชายอีกคน ซึ่งเป็นพวกเดียวกัน กรวิกเห็นว่าจะโดนรุมจับตัว จึงเหยียบเท้าคนหนึ่งอย่างแรงด้วยรองเท้าส้นเข็ม แล้วผลักอีกคนก่อนจะวิ่งหนีไป
“เฮ้ย ตามไป”
คณิตไปที่ร้านอาหารริมน้ำ ระหว่างนั้นได้โทรศัพท์หากร้าว...
“ฉันรออยู่ที่ร้านตั้งนานแล้ว ไม่เห็นมีใครมาเลย”
“เหรอ ขอบใจนะเพื่อน”
กร้าววางสาย เหลือบมองอนุชนิดหนึ่งอย่างระแวง จับผิด อนุชกระสับกระส่ายกลัวผิดแผน มองทางแล้วรู้ว่าผิดทาง
“นี่มันไม่ใช่ทางไปร้าน คุณจะพาฉันไปไหน”
กร้าวไม่ตอบ
“จอดเดี๋ยวนี้ จอด”
กร้าวไม่จอด อนุชปลดเข็มขัด ทำท่าจะเปิดประตู กร้าวตกใจ รีบจอดข้างทาง
อนุชลงจากรถ เดินหนีมาโบกเรียกแท๊กซี่ กร้าวรีบตามมาดึงไว้ โบกมือว่าไม่ขึ้น แท็กซี่เลยผ่านไป
“ปล่อยฉันนะ”
กร้าวสงสัย
“ร้านนั้นมีอะไร ทำไมต้องเจาะจงไปร้านนั้นให้ได้”
กร้าวมองจับผิด อนุชหลบตา อึกอัก
“ก็...ฉันจองไว้แล้ว”
“โทรไปแคนเซิลก็ได้”
อนุชตกใจ
“ไม่ได้นะ”
กร้าวคาดคั้น
“ทำไม”
อนุชคิดหาเหตุผลไม่ได้
“ขอร้องล่ะ กลับไปที่ร้านนั้นเถอะ”
“ไม่! จนกว่าคุณจะบอกมาว่าคุณวางแผนอะไรไว้กันแน่”
อนุชเครียด ห่วงว่ากรวิกจะรออยู่ที่ร้านคนเดียว
กรวิกวิ่งหนีพร้อมกับตะโกนไปด้วย
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย”
กรวิกเท้าพลิก ล้มลง เจ็บขา
“โอ๊ย”
คนร้ายทั้งสองคนตามมาทัน
“อยากได้เงินใช่มั้ย กระเป๋าเงินฉันอยู่ในรถ ปล่อยฉันไปเถอะ”
คนร้ายทั้งสองมองกรวิกแล้วยิ้ม ก่อนจะเข้ามารุมจับตัว กรวิกดิ้นรนขัดขืน
“อย่านะ ปล่อยนะ ช่วยด้วย”
คนร้ายชกท้อง กรวิกจุก ร้องไม่ออก คนร้ายทั้งสองคนช่วยกันประคอง โทรศัพท์มือถือของกรวิกหล่นอยู่บนถนน
กร้าวคาดคั้น
“ว่าไง บอกมาว่าคุณวางแผนอะไรไว้กันแน่”
อนุชไม่ตอบ ดูนาฬิกา
“ตามใจ ถ้าไม่บอกก็อยู่ตรงนี้แหละ ไม่ต้องไปไหนทั้งนั้น”
อนุชห่วงกรวิก ในที่สุดเลยสารภาพออกมา
“ฉันนัดนกไว้ที่ร้านนั้น นกมีของขวัญจะให้คุณ”
กร้าวงง
“แค่นี้เหรอ แผนของคุณ”
“ก็ใช่น่ะสิ จะไปกันได้รึยัง ป่านนี้นกรอนานแล้วรีบไปเถอะ ฉันขอร้อง”
กร้าวและอนุชรีบไป
คนร้ายทั้งสองหิ้วปีกกรวิกมาข้างทาง โยนเธอลงกับพงหญ้า กรวิกยกมือไหว้ ร้องไห้ ด้วยความหวาดกลัว
“อย่าทำอะไรฉันเลย ปล่อยฉันไปเถอะ”
คนร้ายคนหนึ่งจับมือเธอไว้ อีกคนปลดเข็มขัดกางเกง ปลุกปล้ำซุกไซร้ กรวิกร้องกรี๊ด ร้องไห้
“อย่า! ช่วยด้วย!”
คณิตขับรถผ่านมา มองเห็นคนร้ายกำลังรุมทำร้ายผู้หญิง เขาขับรถเลยไปแล้ว ถอยรถกลับมาอีกที ส่องไฟหน้ารถไปที่พวกคนร้าย และกดแตรเสียงดังหลายๆ ครั้ง คนร้ายทั้งสองคนต่างตกใจเสียงแตรและแสบตาแสงไฟหน้ารถทั้งสองทำท่าจะเข้ามาทำร้ายแต่คณิตไม่ลงจากรถ แกล้งขับรถพุ่งเข้าจะชนและกดแตรเสียงดังไม่หยุด คนร้ายจะเล่นงานคณิต แต่เพื่อนมันห้ามไว้
“รีบไปเถอะ เดี๋ยวชาวบ้านก็แห่กันออกมาหรอก”
คนร้ายทั้งสองจึงทิ้งกรวิกไว้ และรีบหนีไป คณิตเห็นว่าทั้งสองหนีไปแล้ว รีบลงจากรถ ไปดูอาการกรวิก
“คุณ เป็นอะไรรึเปล่าครับคุณ”
คณิตประคอง แล้วจำได้
“นี่คุณ”
“ช่วยด้วย! ช่วยฉันด้วย!”
กรวิกร้องไห้ หวาดกลัว
อนุชและกร้าวมาถึงร้านอาหารคุยกับพนักงานต้อนรับ อนุชแปลกใจ
“ยังไม่มีใครมาเลยเหรอคะ” อนุชกังวล “ขอบคุณนะคะ”
อนุชโทรหากรวิก แต่ไม่มีใครรับสาย เธอรอจนสายตัดไป
“นกไม่รับโทรศัพท์”
อนุชกังวล กร้าวก็เป็นห่วงกรวิก
กรวิกนั่งพักที่เบาะหลังรถ คณิตใช้ผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำดื่มจากขวด ส่งให้เธอเช็ดหน้า
“คุณควรไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลและไปแจ้งความลงบันทึกไว้ ผมจะเป็นพยานให้”
“ฉันนัดเพื่อนไว้ที่ร้านอาหารใกล้ๆ นี้ ฉันจะไปเจอเพื่อนก่อนค่ะ”
“งั้นผมไปส่งคุณเอง เผื่อพวกนั้นย้อนกลับมาอีก”
“ขอบคุณนะคะ” กรวิกจังใจสั่นด้วยความกลัว
อนุชและกร้าวออกมาหน้าร้านอาหาร มองหากรวิก แต่ไม่มีวี่แวว อนุชใจคอไม่ดี ห่วงเพื่อนมาก เลยต่อว่ากร้าว
“เป็นเพราะคุณคนเดียว ทำเสียแผน”
“อย่ามาพาลใส่ผมนะ ถ้าคุณไม่อุตริวางแผนบ้าๆ ก็คงไม่วุ่นวายแบบนี้”
อนุชเสียใจ
“ฉันทำเพื่อช่วยนก นกเขารักคุณ”
“ไม่ต้องอ้างนก คุณทำเพื่อตัวเองต่างหาก คุณอยากให้ผมเลิกยุ่งกับคุณใช่มั้ย ถ้าคุณรังเกียจผมนัก
ก็บอกมาตรงๆ ไม่ต้องทำถึงขนาดนี้ก็ได้”
“ใช่ ฉันเกลียดคุณ เลิกยุ่งกับฉันสักที ได้ยินชัดรึยัง ฉันเกลียดคุณ!”
กร้าวเสียใจ ไม่อยากฟัง ดึงตัวเธอมาจูบ อนุชตกใจ คณิตและกรวิกเข้ามาเห็นพอดี กรวิกเห็นกร้าวจูบอนุชก็ตกใจ
“นุช...อากร้าว...”
กรวิกมือไม้อ่อน ขวดโหลที่เตรียมมาให้กร้าวหลุดมือ ขวดโหลตกแตกกระจาย ไม่ต่างจากหัวใจของกรวิกในตอนนี้ กร้าวและอนุชได้ยินเสียง หันมาเห็นกรวิกยิ่งตกใจมาก กรวิกเสียใจ วิ่งหนีออกไป
“นก!”
อนุชรีบตามไป คณิตงง
“ไอ้กร้าว...คุณนุช...”
กร้าวรีบตามไป คณิตเลยตามไปด้วยแบบงงๆ ไม่คิดว่ากร้าว อนุชและกรวิกจะรู้จักกัน
อนุชตามมาทัน ดึงกรวิกไว้
“เดี๋ยวนก ฟังนุชก่อน”
กรวิกสะบัด
“ปล่อย”
กร้าวและคณิตตามมา อนุชหันไปหากร้าว
“คุณบอกนกไปสิว่านกกำลังเข้าใจผิด ฉันกับคุณไม่ได้เป็นอะไรกัน”
กร้าวนิ่งเงียบ ไม่ตอบ อนุชตกใจ
“เงียบทำไม บอกนกไปสิ บอกสิ”
กร้าวยืนนิ่ง ไม่พูดอะไร อนุชพยายามอธิบายให้กรวิกเข้าใจ
“ไม่จริงนะนก นกต้องเชื่อนุชนะ นกเข้าใจผิด มันไม่ใช่อย่างที่นกเห็น”
กรวิกเสียใจ ตบหน้า อนุชอึ้งไป
“นก”
กรวิกน้ำตาไหลพราก
“ใช่ นกเข้าใจผิด เข้าใจผิดมาตลอดว่านุชเป็นเพื่อนที่ดีที่สุด นกเพิ่งรู้ว่าไว้ใจคนผิด เพื่อนเขาไม่ทรยศเพื่อนแบบนี้หรอก”
กรวิกเสียใจ วิ่งหนีไป อนุชเสียใจ
“นก”
อนุชจะตามไป กร้าวดึงตัวไว้ คณิตหันมาบอกกร้าว
“ฉันเอง”
คณิตตามกรวิกไป อนุชดิ้นแต่กร้าวไม่ยอมปล่อย
“ปล่อยฉัน”
“ไม่มีประโยชน์ที่จะอธิบายอะไรตอนนี้ อธิบายไปนกก็ไม่ฟังหรอก”
อนุชทุบตีเขา
“ปล่อยฉัน ไม่ต้องมายุ่งกับฉัน สนุกนักใช่มั้ย ที่ทำลายชีวิตฉัน ทั้งพี่อร ทั้งนก ทุกคนเกลียดฉัน ฉันไม่เหลือใครแล้ว ทุกอย่างเป็นเพราะคุณคนเดียว”
อนุชผลักเขา แล้ววิ่งตามกรวิกไป
กรวิกขึ้นแท็กซี่ไป คณิตรีบขึ้นรถ ขับตามไป อนุชวิ่งตามมา แต่ไม่ทันแล้ว จึงตะโกนเรียก
“นก กลับมาก่อน นก!”
อนุชร้องไห้ เสียใจ...กร้าวเสียใจ มองที่พื้น หยิบกระดาษพับรูปหัวใจสีสวยขึ้นมา เขารู้สึกผิดที่จำต้องทำร้ายจิตใจกรวิก
อนุชเข้ามาในห้องนอนอย่างอ่อนแรง ทรุดนั่งลงบนเตียง เธอโทรศัพท์หากรวิกอย่างไม่สบายใจ...กรวิกนอนร้องไห้สะอึกสะอื้น เสียใจ โทรศัพท์บ้านในห้องดังขึ้น แต่เธอไม่รับสาย ใช้หมอนปิดหู ไม่อยากได้ยินเสียง...อนุชรอจนสายตัดไป เธอเศร้าหมองเมื่อเพื่อนไม่ยอมรับสาย อนุชเปิดดูรูปในโทรศัพท์มือถือ เป็นรูปถ่ายคู่กันสมัยเรียนต่างประเทศ ทั้งสองสนิทกันมาก รักกันมาก หญิงสาวน้ำตาไหล เสียใจ กอดโทรศัพท์มือถือที่มีรูปกรวิกแนบอก
“นก...นุชขอโทษ”
อนุชบอกตัวเองอย่างเสียใจ
กร้าวกลับมาที่คอนโดนั่งมองกระดาษพับรูปหัวใจที่เก็บมา เสียใจ รู้สึกผิดต่อกรวิก คณิตเข้าห้องมา กร้าวหันไปถามอย่างเป็นห่วง
“นกเป็นไงบ้าง”
“ฉันตามไปจนถึงบ้าน ท่าทางเขาเสียใจมาก”
“ขอบใจมาก”
กร้าวกลุ้ม รู้สึกผิดต่อกรวิก คณิตถามตรงๆ
“แกคิดยังไงกับคุณนกกันแน่”
“ฉันเห็นเขามาตั้งแต่เรียนมัธยม สำหรับฉัน นกเป็นน้องสาวที่น่ารักคนหนึ่ง แต่ฉันไม่เคยคิดกับเขาเกินกว่านั้น”
“เป็นเพราะแกมีใครในใจรึเปล่า”
กร้าวมีอนุชในใจ แต่ไม่กล้ายอมรับความรู้สึกของตัวเองที่หลงรักลูกของศัตรู
“ตอนนี้หัวใจฉันไม่มีพื้นที่ให้ความรัก มีแต่ความแค้นเท่านั้น”
คณิตไม่สบายใจ รู้ว่ากร้าวปากแข็ง แต่ก็ไม่อยากซักไซร้
ธารินอยู่ในห้องรับแขก รอชายธงอย่างกระวนกระวายใจ ขณะเดียวกันนั้นโทรศัพท์มือถือซึ่งวางอยู่บนโต๊ะดังขึ้น
“พี่ชายธง”
ธารินรีบมาคว้าโทรศัพท์มือถือมาดูหน้าจอโทรศัพท์เป็นเบอร์ที่ไม่ได้เมม ไม่ใช่ชื่อ ธารินผิดหวัง แต่ก็รับสาย ฟังและตอบนิ่งๆ
“โทรผิดแล้วค่ะ”
ธารินตัดสายทิ้ง โยนโทรศัพท์ลงบนโซฟาอย่างเศร้าๆ
วันใหม่ อนุชออกมาจากบ้าน จะเดินไปขึ้นรถแท็กซี่หน้าปากซอย กร้าวขับรถมาจอดขวางหน้าแล้วลงมาจากรถ
“คุณกร้าว” อนุชตกใจ
“ขึ้นรถสิ” กร้าวพูดนิ่งๆ
“คุณจะไปอธิบายให้นกเข้าใจใช่มั้ยว่าเราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกัน”
กร้าวนิ่ง ไม่ตอบอะไร อนุชคิดไปเองว่าเขาจะไปหากรวิก เลยรีบขึ้นรถไปกับเขา
ลลิตาอยู่มุมหนึ่งในบ้านกระวนกระวาย ชะเง้อรอกร้าว ขณะเดียวกันนั้นมีเสียงอสิตเรียกดังมา
“ลิต้า...ลิต้า”
ลลิตารำคาญ เธอเข้ามาในห้องอย่างหงุดหงิด
“คุณหายไปไหนมา ผมตื่นมาไม่เห็นคุณ”
“ลิต้าออกไปยืดเส้นยืดสายบ้างสิ อยู่แต่ในห้อง น่าเบื่อจะตาย”
“ผมฝันร้าย ฝันว่าคุณหนีผมไป”
อสิตจับมือลลิตา
“ผมใจคอไม่ดี ขอจับมือคุณไว้อย่างนี้นะ จะได้อุ่นใจ คุณอย่าทิ้งผมไปนะลิต้า ผมคงอยู่ไม่ได้ ถ้าไม่มีคุณ”
อสิตจับมือภรรยาไว้ ยิ้มให้รู้สึกอบอุ่นใจ แล้วนอนต่อ ลลิตาหงุดหงิดที่ต้องอยู่ติดกับอสิตแบบนี้
กร้าวขับรถมาจอดที่สวนสาธารณะ ทั้งสองลงจากรถ
“นกอยู่ที่นี่เหรอคะ” อนุชงง
“ผมไม่ได้พูดสักคำว่าจะไปหานก ผมแค่อยากคุยกับคุณให้รู้เรื่อง”
อนุชผิดหวัง และโกรธ
“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณ”
อนุชจะเดินหนี แต่เขาขวางไว้
“หลีก ฉันจะไปหานก ฉันจะอธิบายให้นกเข้าใจ ว่าฉันกับคุณไม่ได้เป็นอะไรกัน”
“อธิบายไปก็ไม่มีประโยชน์”
อนุชไม่พอใจ
“ทำไมจะไม่มี นกรักคุณมาก คุณมันเห็นแก่ตัว นึกถึงแต่ตัวเอง เคยนึกถึงความรู้สึกของคนอื่นบ้างมั้ย”
กร้าวน้อยใจ
“แล้วคุณเคยนึกถึงความรู้สึกของผมบ้างมั้ย จับผมไปยัดเยียดให้คนอื่น เห็นผมเป็นตัวอะไร ผมก็มีหัวใจ ผมก็เจ็บเป็นนะ”
กร้าวเสียใจ อนุชอึ้ง
“คุณคิดว่าผมดูไม่ออกเหรอว่าที่ผ่านมานกคิดยังไงกับผม แต่ผมเห็นนกเป็นน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น เมื่อคืนต่อให้แผนคุณสำเร็จ นกก็ต้องผิดหวังอยู่ดี”
อนุชสิ้นหวัง
“นกเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของฉัน ฉันไม่ตั้งใจจะทำร้ายนก ฉันไม่อยากให้นกเสียใจ ทำไมมันต้องเป็นแบบนี้”
อนุชร้องไห้ออกมา กร้าวมองอย่างสงสาร
“เรื่องที่เกิดขึ้น ไม่ใช่ความผิดของคุณ ไม่ใช่ความผิดของใครทั้งนั้น แต่ความรักบังคับไม่ได้ วันหนึ่งนกจะเข้าใจ”
กร้าวกอดปลอบ อนุชร้องไห้ในอ้อมกอดแสนอบอุ่นของเขา
ติดตาม "ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง" ตอนที่ 5