ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 2
เช้าวันใหม่ เสียงลลิตากรี๊ดดังลั่นไปทั่วทั้งบ้านวิชย์เวทย์
“อ๊ายยย!”
อสิต อรชาและอนุชต่างตกใจ วิ่งเข้ามาจากคนละทาง อสิตเข้ามาถามภรรยา
“เป็นอะไร…ลิต้า”
“หนังสือพิมพ์ฉบับนี้ลงข่าวคุณชายธง…มีคู่หมั้นซะแล้ว”
อรชารับไปอ่าน อ่านเสร็จก็ห่วงความรู้สึกอนุช
“นุชรู้เรื่องนี้มาก่อนรึเปล่า”
“นุชเพิ่งทราบนี่แหละค่ะ แต่ชายธงกับนุชเป็นเพื่อนกัน เขาจะหมั้นกับใครก็ไม่เกี่ยวกับนุช”
“ขอเตือนด้วยความหวังดี ถ้าจะแต่งงาน ต้องเลือกผู้ชายรวยๆ” ลลิตาประชดอสิต “จะได้ไม่ลำบาก”
อสิตเสียใจ อนุชโต้ทันที
“นุชคงทำอย่างที่พี่ลิต้าแนะนำไม่ได้ เพราะถ้านุชจะแต่งงานกับใครสักคน นุชจะเลือกคนที่นุชรักค่ะ ไม่ใช่ที่เงิน”
ลลิตาเบะปากหมั่นไส้อนุชมาก
เธียรกำลังจะออกจากบ้าน ชายธงเดินเข้ามาขวาง เอาหนังสือพิมพ์ให้ดู
“ผมรู้นะว่าเป็นฝีมือพ่อ พ่อให้ข่าวแบบนี้ทำไม”
“รู้ก็ดีแล้ว พ่อทาบทามหนูรินให้แกแล้ว แกจะต้องหมั้นกับเขาให้เร็วที่สุด”
“แต่ผมไม่ได้รักริน ผมคิดกับรินเหมือนน้องสาวคนหนึ่งเท่านั้น”
“หนูรินเป็นคนดี อยู่กันไปก็รักกันเองแหละ”
“ผมรักนุช ผมไม่มีวันเปลี่ยนใจ”
เธียรตวาด
“ฉันขอบอกแกไว้เลยว่า…ฉันไม่รับพวกวิชเวทย์เป็นสะใภ้! สะใภ้บ้านนี้ต้องเป็นหนูรินคนเดียวเท่านั้น!”
ชายธงโกรธ
“พ่อบังคับผมไม่ได้หรอก”
ชายธงเดินหนีออกไปเลย เธียรไม่พอใจ
ชายธงหน้าเครียด คุยโทรศัพท์อยู่มุมหนึ่งในบ้าน
“นุช ออกมาพบผมได้มั้ย ผมมีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย”
อนุชคุยโทรศัพท์อยู่ที่ทำงาน
“ตอนนี้นุชทำงานอยู่ คงต้องรอพักเที่ยง”
กร้าวแย่งโทรศัพท์มือถือมากดตัดสายทิ้ง
“นี่คุณ เสียมารยาท”
“ก็ยังดีกว่าคนไม่มีความรับผิดชอบ เอาเวลางานมาคุยโทรศัพท์อยู่ได้”
“ฉันเพิ่งคุยไม่ถึงห้านาที”
“ก็ผมรู้สึกว่านานแล้ว”
อนุชหมั่นไส้ หันไปทำงานต่อ กร้าวยิ้ม ดีใจที่ชนะอนุชได้ กลับไปนั่งทำงานต่อแล้วนึกบางอย่างได้ หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาส่งข้อความอย่างมีแผน
โทรศัพท์มือถือของอนุชดังขึ้น เธอรับสายเสียงหวานเป็นพิเศษ
“มาแล้วเหรอจ๊ะ ตรงเวลาจังเลยมาที่ห้องประธานเลยจ๊ะ นุชรออยู่ คิดถึงม๊ากมาก”
กร้าวหึง คิดว่าอนุชคุยกับชายธง อนุชปิดแฟ้มเอกสาร หยิบกระเป๋าจะออกจากห้องท่าทางอารมณ์ดี กร้าวรีบลุกไปขวาง
“จะไปไหน”
“ไปทานข้าวกลางวันค่ะ”
“ผมหิวพอดี ไปทานข้าวกัน”
“เสียใจค่ะ ฉันมีนัดแล้ว”
“ผมขอสั่งให้คุณยกเลิกนัดกับนายเสาธงนั่น”
“เขาชื่อชายธง!”
“นั่นแหละ นายเสาธงชายธงอะไรนั่นแหละ คุณต้องไปทานข้าวกับผม”
เสียงเคาะประตูดังขึ้น อนุชเปิดประตู กรวิกยืนยิ้มอยู่หน้าห้อง
“อากร้าวคะ นกมาแล้วค่ะ”
กร้าวชะงัก
“นก!”
กรวิกมาควงแขนกร้าว
“ไม่เห็นอากร้าวบอกนกเลยว่านุชเป็นเลขา ของอากร้าว ถ้านุชไม่บอกว่าอากร้าวอยากทานข้าวกับนก นกก็คงไม่รู้”
อนุชยิ้มล้อเลียน
“ทานให้อร่อยนะคะท่านประธานขา”
กร้าวเจ็บใจที่เสียรู้อนุช จำต้องออกไปกับกรวิก อนุชยิ้มยั่วโบกมือบ๊ายบาย
ขณะที่อนุชนั่งทานข้าวกับชายธงอยู่ในร้านอาหารแห่งหนึ่ง กร้าวพากรวิกเข้ามาในร้านเดียวกัน แต่คนละมุม กรวิกยังไม่เห็นอนุชและชายธง
“ร้านนี้อร่อยและบรรยากาศดีที่สุดในละแวกนี้ พนักงานที่บริษัทชอบมากัน”
กร้าวเลื่อนเก้าอี้ให้กรวิกนั่งหันหลังให้อนุชกับชายธง กรวิกจึงไม่เห็นสองคนนั้น กร้าวนั่งฝั่งตรงข้าม คอยจับตามองอนุชและชายธง
ชายธงหน้าตาเคร่งเครียดมาก อนุชสงสัย
“ทำไมทำหน้าอย่างนั้น”
ชายธงมองอนุชแล้วกุมมือ
“ชายธง” อนุชตกใจ
กร้าวมองอยู่ ไม่พอใจที่เห็นชายธงกุมมืออนุช
“อาขอตัวสักครู่นะ”
กร้าวลุกไป กรวิกซึมลง รู้สึกว่าเขาไม่สนใจเธอเลย...กร้าวเดินมามุมหนึ่ง คิดแผน แล้วโทรหานักสืบ
“คุณนักสืบ ผมอยากได้เบอร์โทรศัพท์คู่หมั้นของชายธง ธนานุรัตน์หาให้ผมเดี๋ยวนี้เลยได้มั้ย”
กร้าววางสายแล้วแอบถ่ายรูปชายธงกับอนุช เขายิ้มเจ้าเล่ห์
กร้าวกลับมานั่งโต๊ะ โทรศัพท์มีสัญญาณเข้ามา เขากดรับสาย
“ดีมาก ขอบใจ”
กร้าวส่ง mms รูปไปที่เบอร์ของธารินที่ได้จากนักสืบ
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น ธารินเปิดดูข้อความ เห็นรูปที่ส่งมาเป็นรูปชายธงจับมืออนุช ธารินตกใจ
“พี่ชายธง!”
ธารินไม่สบายใจ
ชายธงนั่งคุยกับอนุชอย่างกลุ้มๆ แต่อนุชกลับไม่เดือดร้อนอะไร
“ผมไม่รู้เรื่องด้วยนะ ข่าวนี่เป็นฝีมือพ่อ”
“ทำตามที่คุณพ่อต้องการเถอะค่ะชายธง นุชไม่อยากเป็นต้นเหตุทำให้ชายธงมีปัญหากับพ่อ”
ชายธงจับมืออนุช
“ผมอยากให้พ่อได้รู้จักตัวจริงของนุช ไม่ใช่ตัดสินแค่นามสกุล”
ธารินรีบร้อนเข้ามาในร้าน มองหาเห็นชายธงจับมือกับอนุชก็เสียใจ เธอเรียกเขาเสียงดัง
“พี่ชายธง!”
กรวิกได้ยินเสียง หันไปมอง
“นั่นนุชกับชายธงนี่นา”
กร้าวยิ้มๆ ที่ทุกอย่างเป็นไปตามแผน ขณะที่ชายธงตกใจ ไม่คิดว่าจะเจอธาริน
“ริน!”
“ผู้หญิงคนนี้เป็นใครคะ”
ชายธงตอบตรงๆ
“นุชเป็นคนรักของพี่”
ธารินตกใจ อนุชก็ตกใจที่ชายธงพูดอย่างนั้น พยายามอธิบายกับธาริน
“ไม่จริงนะคะ ฉันกับชายธงไม่ได้…”
อนุชยื่นมือไปจะแตะแขนแต่ธารินโกรธ สะบัดแขน ผลักอนุชเซไป
“อย่ามายุ่งกับฉัน”
ชายธงประคองอนุช หันไปดุธาริน
“ทำไมต้องทำร้ายนุชด้วย”
“พี่ชายธงปกป้องเขาทำไม”
ชายธงเหนื่อยใจ
“พี่ว่ารินกลับไปก่อนดีกว่า เสียงดัง อายเขา”
“ทำไมรินต้องอาย รินไม่ได้ทำอะไรผิด”
คนในร้านมองอนุชและกระซิบกระซาบกัน ชายธงสงสารอนุช
“ไปกันเถอะนุช”
ชายธงวางเงินค่าอาหารไว้บนโต๊ะแล้วรีบพาอนุชออกจากร้านไป ธารินเสียใจ
“หยุดนะ พี่ชายธง รินบอกให้หยุด!”
ชายธงไม่ฟัง ออกจากร้านไป ธารินเห็นคนมองกันทั้งร้านก็อับอายขายหน้า เลยรีบออกจากร้านไป...กรวิกห่วงอนุช กร้าวผิดหวังที่ชายธงปกป้องอนุชและออกไปกับอนุช ไม่เป็นไปตามที่คิดไว้ว่าธารินจะมาดึงชายธงกลับไป
ชายธงมาส่งอนุชที่บริษัท
“ชายธงไม่น่าพูดกับเธอแบบนั้น มีอะไรก็น่าจะคุยกันดีๆ”
“ก็รินเขาพูดไม่ดีกับนุชก่อน ผมจะหาทางจัดการเรื่องนี้ให้เร็วที่สุด ผมไม่ยอมหมั้นกับธารินเด็ดขาด”
อนุชไม่สบายใจที่เรื่องมันชักจะวุ่นวายไปใหญ่
ธารินร้องไห้เสียใจกับเธียรอยู่ในห้องรับแขก
“คุณลุงรู้มั้ยคะว่าพี่ชายธงมีคนรักแล้ว”
“ลุงรู้ว่าชายธงมีคนรักแล้ว แต่ผู้หญิงคนนี้เป็นคนไม่ดี ครอบครัวมีแต่หนี้สินพะรุงพะรัง ขืนแต่งงานกัน ชายธงต้องหมดตัวแน่ๆ”
ธารินตกใจ
“จริงรึคะ”
“ชายธงกำลังหลงแม่คนนี้หัวปักหัวปำ หนูรินต้องช่วยลุงนะ”
ธารินใจอ่อน ห่วงชายธง
“โธ่ พี่ชายธง”
อนุชนั่งทำงานอยู่ กร้าวยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ ท่าทางกวนๆ
“ซับน้ำตาคนอกหัก”
อนุชโกรธ
“ไม่จำเป็น เพราะฉันไม่ได้อกหัก”
“อยากรู้จังว่านายเสาธงนั่นมีอะไรดี ผู้หญิงถึงต้องเปิดศึกแย่งกันกลางร้านอาหาร”
“ฉันไม่เคยคิดแย่งของใคร...หรือคุณชอบคนที่มีเจ้าของแล้วเลยคิดว่าคนอื่นเขาจะชอบเหมือนคุณคะ”
กร้าวจ้องหน้า อนุชจ้องตอบสู้ตา ไม่กลัวเพราะไม่ได้ทำอะไรผิด
หลังเลิกงาน เมื่อกลับถึงบ้าน อนุชโวยอสิตทันที
“พี่สิตน่าจะบอกนุชสักคำว่าเป็นบริษัทของอีตา…เอ๊ย คุณกร้าวถ้านุชรู้ก็คงไม่ไปสมัครหรอกค่ะ”
“พี่ไม่เห็นจะเสียหายตรงไหน บริษัทคุณกร้าวใหญ่โตมั่นคงแถมยังให้เงินเดือนสูงกว่าที่อื่น”
“นุชรู้สึกว่านายคนนี้ มายุ่งกับครอบครัวเรามากเกินไปแล้วนะคะ”
“เขาอุตส่าห์มีน้ำใจช่วยเหลือเรา ถ้าไม่ได้เขาช่วยไว้ ป่านนี้เราคงแย่”
“แต่นุชว่าของฟรีไม่มีในโลก ที่เขาช่วยเรา เขาอาจมีจุดประสงค์บางอย่างก็ได้”
อนุชออกไปอย่างหงุดหงิด อสิตขำ
“ยายนุชคิดมากเกินไปแล้ว”
ลลิตาไม่พอใจ ส่วนอรชากังวล
อนุชนั่งอยู่มุมหนึ่งในบ้าน อรชาเข้ามาคุยด้วย
“นุชไปทำงานกับคุณกร้าวแล้วเป็นไงบ้าง เขา...เอ่อ...เขาทำอะไรนุชรึเปล่า”
“นอกจากกวนประสาทแล้วก็ไม่มีอะไรนี่คะ”
“ยังไงก็ระวังตัวไว้ อย่าอยู่ใกล้เขามากเกินไป”
“ทำไมเหรอคะ”
อรชาอึกอัก ไม่กล้าบอก
“เขา...เอ่อ...ไม่มีอะไรหรอกจ๊ะ”
อนุชสงสัย แต่ยังไม่ทันได้ถามอะไรต่อ แหวนเข้ามารายงาน
“คุณนุชคะ มีแขกมาพบคุณนุชค่ะ”
อนุชและอรชาแปลกใจว่าใครมา
เธียรและธารินนั่งคุยกับอนุชอยู่ในห้องรับแขก
“ฉันขอพูดตามตรงเลยนะ ต้องการเงินเท่าไร ถึงจะเลิกยุ่งกับชายธง” เธียรบอกด้วยน้ำเสียงวางอำนาจเต็มที่
อนุชหยิ่งในศักดิ์ศรี ปฏิเสธทันที
“ครอบครัวของฉันกำลังเดือดร้อนก็จริง แต่ฉันไม่เคยคิดขายศักดิ์ศรีค่ะ เงินของคุณ ต่อให้มีมากมายก่ายกองแค่ไหนก็ซื้อฉันไม่ได้ค่ะ”
ธารินโกรธ
“นี่หมายความว่าจะไม่เลิกยุ่งกับพี่ชายธงใช่มั้ย”
“คุณไม่จำเป็นต้องเสียเงินสักบาท ฉันสัญญาว่าฉันจะไม่ติดต่อกับชายธงอีก”
ธารินงง ไม่เข้าใจอนุช เธียรอึ้งที่อนุชหยิ่งในศักดิ์ศรีและใจแข็งกว่าที่คิด ขณะเดียวกันลลิตาแอบฟังอยู่นอกห้องอย่างอยากรู้อยากเห็น...
เธียรและธารินออกมาจากบ้านวิชเวทย์
“ทำไมยายนั่นถึงไม่ยอมรับเงินคุณลุงล่ะคะ” ธารินไม่เข้าใจ
“ผู้หญิงคนนี้ฉลาดกว่าที่คิด บางทีเขาอาจรู้ว่าเขาจะได้จากชายธงมากกว่าที่ได้จากลุงก็ได้”
ธารินหน้าตื่น
“ตายแล้ว ร้ายกาจจริงๆ รินคิดไม่ถึงเลยค่ะ แล้วจะทำยังไงดีคะ”
“รอดูไปก่อนว่าจะทำอย่างที่พูดรึเปล่า”
ธารินไม่สบายใจ
อนุชยังนั่งนิ่งอยู่ในห้องรับแขก เจ็บปวดที่เธียรคิดจะซื้อเธอด้วยเงิน อสิต ลลิตาและอรชาเข้ามา
“น่าจะเรียกแพงๆ ให้หมดตัวไปเลย หมูมาให้เคี้ยวถึงปากแล้ว”ลลิตาค้อน
“นุชขายศักดิ์ศรีตัวเองไม่ได้หรอกค่ะ คุณพ่อสอนว่าวิชเวทย์ต้องรักในศักดิ์ศรี”
ลลิตาหมั่นไส้
“โอ๊ย...ตาย ศักดิ์ศรีมันกินเข้าไปได้มั้ย”
อสิตถอนใจ
“พี่ไม่อยากซ้ำเติมนุชนะ แต่คนที่นุชควรจะอยู่ห่างๆไม่ใช่คุณกร้าว แต่เป็นนายชายธงต่างหาก”
อนุชเสียใจ เดินหนีไป อสิตไม่สบายใจ อรชาสงสารน้องรีบตามไป
อนุชนั่งเศร้าอยู่ในห้องนอน อรชาเคาะประตูและเปิดเข้ามา
“นุช”
“พี่อร”
อนุชโผเข้ากอดอรชา ร้องไห้
“นุชทำถูกแล้วที่ตอบเขาไปอย่างนั้น พี่ภูมิใจในตัวนุชมาก”
“นุชเจ็บใจที่เขาดูถูกเรา เพียงเพราะเราจน คนที่ไม่มีเงิน ไม่ได้หมายความว่าจะต้องไม่มีศักดิ์ศรีนี่คะ”
อรชากอดอนุช ปลอบโยน
ทีมช่างของบริษัทตกแต่งภายในของอสิต รวมตัวกันประท้วงขอขึ้นค่าแรง โดยมีหัวหน้าช่างเป็นแกนนำ อสิตคว้าโทรโข่งมาพูดกับพวกช่าง
“กลับไปทำงานเดี๋ยวนี้ ไม่งั้นฉันจะไล่ออกให้หมด”
“พวกเราอย่าไปกลัว ถ้าไม่มีพวกเรา ก็ไม่มีใครทำงานให้!”
พวกช่างยิ่งโกรธ โห่ร้อง ขว้างปาสิ่งของใส่ อสิตอยู่ไม่ได้ต้องรีบเผ่นหนี
และไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นฝีมือของกร้าวที่อยู่เบื้องหลังเรื่องทั้งหมด!
อสิตกลับเข้าบ้านมาอย่างเครียดๆ ลลิตาถือนิตยสารแฟชั่นยื่นมาให้ดูตรงหน้า พูดออดอ้อน
“สิตขา สิตว่าสร้อยเส้นนี้สวยมั้ย”
อสิตอารมณ์ไม่ดี
“ผมอยากอยู่คนเดียวลิต้า”
ลลิตาไม่ฟัง พยายามคะยั้นคะยอให้อสิตดูนิตยสารให้ได้
“ดูแป๊บเดียวเอง ลิต้าช๊อบชอบ”
อสิตโมโห ปัดนิตยสารหลุดมือ อสิตตวาด
“บอกว่าไม่ว่าง ไม่ดู ไม่เข้าใจรึไง วันๆหัดคิดหาเงินบ้าง ไม่ใช่คิดแต่ใช้เงิน”
อสิตเดินหนีไป ลลิตาโกรธ คว้านิตยสารที่ตกพื้นขว้างตามหลัง
อนุชนั่งทำงานอยู่ เลขาเคาะประตูและเปิดเข้ามา
“คุณนุชคะ มีของส่งถึงคุณกร้าวค่ะ”
อนุชรับของจากเลขา เป็นกล่องสี่เหลี่ยมใหญ่แต่แบนห่อด้วยกระดาษห่อของขวัญแบรนด์เครื่องเพชร
อนุชและกรวิกทานอาหารด้วยกันอยู่ในร้าน
“อากร้าวงานยุ่งมากเหรอนุช ตั้งแต่นกเรียนจบกลับมา เจอหน้าอากร้าวนับครั้งได้” กรวิกถามเศร้าๆ
“โถ นึกว่าเรื่องอะไร เป็นถึงประธานบริษัทก็ต้องงานยุ่งเป็นธรรมดาแต่นุชแอบเห็นอากร้าวของนก มีของขวัญเซอร์ไพร้ส์นกด้วยนะ”
กรวิกยิ้ม
“จริงเหรอ อะไรน่ะ”
“บอกก่อนก็ไม่เซอร์ไพร้ส์สิ เอาเป็นว่านกทำเป็นไม่รู้เรื่องไว้ก่อนนะ เดี๋ยวท่านประธานจะมาว่านุชได้ว่าทำแผนแตก”
กรวิกขำ
กร้าวกับลลิตาเดินเล่นอยู่ในศูนย์การค้า
“ผมอยากชวนคุณลิต้าไปดูคอนโดที่ตกแต่งเสร็จแล้ว แต่วันนี้วันเกิด คุณคงอยากฉลองกับครอบครัว”
“ไม่มีใครรอลิต้าอยู่ที่บ้านหรอกค่ะ สิตก็เอาแต่ทำงาน คุณกร้าวช่วยพาลิต้าไปไหนก็ได้ที่ไม่ใช่บ้าน”
ลลิตาหน้าเศร้า กร้าวทำเป็นมองอย่างเห็นใจ แล้วพาเธอไปที่คอนโดของเขาซึ่งเป็นห้องชุดที่ตกแต่งหรูหรา
“โห น่าอยู่จังเลยค่ะ” ลลิตาตื่นตาตื่นใจ
“ถ้าไม่ได้คุณลิต้าช่วยเลือกเฟอร์นิเจอร์ คงไม่ดูดีขนาดนี้หรอกครับ”
กร้าวมองลลิตาด้วยสายตาหวานซึ้ง ลลิตามองตอบ รู้ความต้องการของเขา
“มาทางนี้สิครับ”
กร้าวพาไปอีกมุมของห้องชุด พอเปิดไฟ ก็เห็นว่าเขาเตรียมจัดงานวันเกิดเล็กๆให้ มีเค้กวันเกิด ไวน์ และตกแต่งด้วยดอกไม้และลูกโป่งสวยงามตามมุมต่างๆ ลลิตาดีใจ เซอร์ไพร้ส์มาก กร้าวจุดเทียนบนขนมเค้กแล้วยกมาให้เธอเป่า
“สุขสันต์วันเกิดครับ”
ลลิตาเป่าเทียน อึ้ง ซึ้งใจมาก กร้าวยื่นกล่องสร้อยเพชรกล่องเดียวกับที่อนุชเห็นให้
“ลองเปิดดูสิครับว่าถูกใจรึเปล่า”
ลลิตาเปิดดู เห็นเป็นสร้อยเพชรสวยงาม
“วันก่อนผมเห็นคุณยืนดูอยู่ตั้งนาน คิดว่าคุณคงชอบ”
“แต่มันแพงนะคะ”
“ไม่มีอะไรแพงเกินไปสำหรับคุณลิต้าหรอกครับ”
ลลิตาซึ้งใจ
“นี่เป็นงานวันเกิดที่ดีที่สุดในชีวิตลิต้าเลยค่ะ ขอบคุณนะคะ ทำไมคุณดีกับลิต้าจัง”
กร้าวกุมมือลลิตา
“มันอาจไม่เหมาะสมที่จะพูดแบบนี้ แต่ผมรักคุณนะครับ คุณลิต้า ผมทำได้ทุกอย่างเพื่อความสุขของคุณ”
ลลิตากับกร้าวสบตากันอย่างหวานซึ้ง
กร้าวดันร่างพาลลิตาลงไปที่เตียง แล้วกอดจูบเธออย่างร้อนแรง
ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 2 (ต่อ)
อสิตพูดกับพวกช่างที่ชุมนุมอยู่หน้าบริษัทผ่านโทรโข่ง
“ผมจะขึ้นเงินเดือนยี่สิบเปอร์เซ็นต์ทุกคน”
พวกช่างต่างฮือฮา ปรึกษากัน
“ใครพอใจ ขอให้กลับเข้าไปทำงานต่อ ส่วนคนที่ไม่พอใจกับข้อเสนอนี้ก็ลาออกไปได้ ผมไม่บังคับ”
หัวหน้าช่างเครียดที่เริ่มแบ่งฝ่ายมีทั้งพวกเห็นด้วยและไม่เห็นด้วย เขาพยายามยุยงทุกคน
“เราอย่าไปยอมง่ายๆ เราต้องได้มากกว่านี้”
พวกช่างกลุ่มหนึ่งยอมรับข้อเสนอ เข้าไปจับมืออสิต คนงานและช่างที่เหลือตามกลุ่มแรกไปด้วย ทุกคนยอมรับข้อเสนอ เหลือหัวหน้าช่างคนเดียว อสิตจับมือพวกทีมช่าง ยิ้มแย้มเป็นกันเองกับทุกคน หัวหน้าช่างเจ็บใจที่อสิตชนะ
ค่ำนั้น...อสิตนั่งพักเหนื่อยอยู่ในรถที่จอดอยู่หน้าบริษัท เขาดูนาฬิกา เด็กขายดอกกุหลาบผ่านมา อสิตนึกได้ ร้องเรียก
“น้องๆ”
เด็กรีบมาหา
“พี่เหมาหมดเลย”
อสิตยื่นเงินให้ แล้วรับกุหลาบมาทั้งกำ เด็กดีใจ ออกไป อสิตมองกุหลาบแล้วยิ้ม นึกถึงลลิตา
กร้าวและลลิตาออกจากห้องด้วยกัน เขาโอบเอวของเธออย่างเป็นคู่รัก ชายธงกำลังจะเข้าห้อง เห็นกร้าวกับลลิตาก็รีบหลบ แอบมองทั้งสองอย่างคาดไม่ถึง เมื่อทั้งคู่เข้าไปในลิฟต์แล้ว เขาจึงรีบโทรหาอนุช
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น อนุชดูเบอร์เห็นเป็นชายธงโทรเข้ามาก็ตัดสินใจไม่รับสาย
“ใครโทรมา ไม่รับเหรอ” อรชาหันมาถาม
“ชายธงค่ะ นุชไม่อยากคุยกับเขาอีก”
“ดีแล้วล่ะ ขืนยังติดต่อกัน เราจะเป็นฝ่ายเสียหาย”
เสียงโทรศัพท์ตัดไป อนุชชะเง้อมองไปนอกบ้าน
“ป่านนี้ทำไมพี่ลิต้ายังไม่กลับอีกนะคะ”
“นั่นสิ โทรไปก็ไม่รับ”
อนุชชะเง้อมองหาลลิตา
กร้าวมาส่งลลิตาที่มุมหนึ่งใกล้บ้าน ลลิตานั่งเงียบ ไม่พอใจและไม่เข้าใจ กร้าวกุมมือแล้วดึงมาจูบมือ จูบแก้ม ลลิตาโอนอ่อน ใจอ่อน
ลลิตาลงจากรถ กร้าวยิ้มให้ เธอฝืนยิ้มให้เขา...พอรถกร้าวออกไปแล้ว ลลิตาเปลี่ยนเป็นโกรธ นึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้...ขณะที่เธออยู่กับเขาในห้องนอนของคอนโด ทั้งสองกำลังกอดจูบซุกไซร้กันอย่างร้อนแรงแล้วจู่ๆ กร้าวก็ผลักเธอออก ลลิตาชะงัก แปลกใจ เขามองเธอหน้าเครียดก่อนจะผละไปนั่งริมเตียง ลลิตาไม่เข้าใจ ตามไปกอดจูบออดอ้อน
“คุณกร้าวเป็นอะไรคะ ลิต้าทำอะไรไม่ถูกใจคุณกร้าวเหรอคะ”
“ผมไม่อยากได้ชื่อว่าเป็นชู้กับเมียคนอื่น”
กร้าวลุกหนี หยิบเสื้อเชิ้ตของตัวเองแล้วเดินหนีออกไป ลลิตามองตาม เสียอารมณ์ ทุบเตียง
“อะไรเนี่ย บ้าที่สุด!”
ลลิตาเจ็บใจที่ถูกกร้าวปฏิเสธ
ลลิตายืนอยู่หน้าบ้านล้วงกระเป๋าหยิบโทรศัพท์มือถือ กำลังจะกดโทรศัพท์เรียกแหวนมาเปิดประตู แต่มือเชิดมาปิดปากเธอจากด้านหลัง ลลิตาตาโต ตกใจ ร้องอู้อี้ เชิดลากตัวลลิตาออกไปจากหน้าบ้าน...ลลิตาโดนลากมาที่มุมมืดไม่ไกลจากบ้าน เชิดพูดเสียงเข้ม
“จำผัวไม่ได้เหรอ”
ลลิตาจำเสียงได้ ตาโตตกใจ เชิดปล่อยมือ ลลิตาเห็นหน้าเชิดก็ตกใจมาก จำสามีเก่าของตัวเองได้แม่น
“แก ไอ้เชิด!...กะ...แกมาที่นี่ได้ไง”
“ฉันออกจากคุก กลับบ้าน...” เชิดแค้นๆ “คนที่นั่นบอกว่าแกมีผัวใหม่แล้ว”
เชิดมองบ้านวิชเวทย์แล้วตาวาว
“ผัวใหม่แกมันรวยไม่ใช่เล่น”
ลลิตารู้ทันตวาดเสียงดัง
“ฉันไม่มีเงินให้แกหรอกนะ”
เชิดจิกหัว
“แกคิดว่าฉันโง่ให้แกหลอกง่ายๆ เหรอ เอาเงินมา”
“เอ๊ะ บอกว่าไม่มี”
เชิดพยายามแย่งกระเป๋า ลลิตาไม่ยอม ทั้งสองยื้อยุดกัน
“อยากเจ็บตัวใช่มั้ย”
เชิดตบผลั๊วะ
“โอ๊ย”
ลลิตาล้มลง เชิดคว้ากระเป๋า ลลิตาไม่ยอม ยื้อแย่ง
“เอาของฉันมา”
อนุชออกมาเดินในสนามหน้าบ้าน ชะเง้อมองหาอสิตกับลลิตา ได้ยินเสียงดังขึ้นก็ตกใจ อนุชยืนมองตรงประตูรั้ว เห็นเงาคนแวบๆ ในมุมมืด เสียงลลิตาดังเข้ามา
“ช่วยด้วย”
อนุชตกใจ
“พี่ลิต้า”
อนุชรีบออกไป เชิดเห็นมีคนมาก็ตกใจ รีบหนีไป ลลิตาโล่งอก อนุชวิ่งมาประคอง
“เกิดอะไรขึ้นคะ”
ลลิตาอึกอัก
“เอ่อ...คือ พวกวิ่งราวกระเป๋าน่ะ”
“ตายจริง แล้วพี่ลิต้าเป็นอะไรรึเปล่า”
“พี่ไม่เป็นไร รีบเข้าบ้านเถอะ”
อนุชประคองเข้าบ้าน ลลิตาท่าทางร้อนรน เชิดแอบมองอย่างเจ็บใจ
ลลิตาเข้ามากับอนุช อรชาเห็นลลิตาเสื้อผ้าหลุดลุ่ย ผมเผ้ายุ่งเหยิงก็ตกใจ
“พี่ลิต้า ทำไมเป็นแบบนี้”
“พี่ลิต้าเจอโจรวิ่งราวกระเป๋าค่ะพี่อร โชคดีที่ไม่เป็นไร”
อรชาตกใจ
“ตายจริง แล้วพี่ลิต้าไปไหนมาคะ กลับมาซะดึก”
“เอ่อ...พี่ก็ไปฉลองวันเกิดกับเพื่อนๆ มาน่ะสิ” เธอรีบตัดบท “พี่เหนื่อย ไปนอนก่อนนะ”
ลลิตารีบกลับห้องไป อนุชและอรชามองตามด้วยความเป็นห่วง
ลลิตาเข้ามาในห้อง ใจคอไม่ดี เธอนึกได้ รีบเปิดกระเป๋า หยิบกล่องสร้อยเพชรออกมาเปิดดู เห็นว่าสร้อยเพชรยังอยู่ดี ไม่พังเสียหายก็โล่งอก ลลิตาหยิบสร้อยเพชรมาลองใส่ มองตัวเองในกระจกนึกถึงเชิดแล้วไม่สบายใจ บอกกับตัวเอง
“ฉันจะไม่ยอมให้คุณกร้าวหลุดมือไปเด็ดขาด”
ลลิตากลัวใครมาเห็น รีบถอดสร้อยเพชรออก เก็บใส่กล่องกำมะหยี่แล้วซ่อนไว้ในตู้ รวมกับเครื่องประดับอื่นๆ แล้วเอากล่องของขวัญทิ้งถังขยะ
ลลิตาอาบน้ำเสร็จ ใส่เสื้อคลุมออกมาจากห้องน้ำ อสิตยื่นช่อกุหลาบที่มีริบบิ้นพันไว้ง่ายๆ แต่ดูดี เก๋ไก๋ให้
“สุขสันต์วันเกิดที่รัก”
ลลิตาเห็นหน้าอสิตก็งอน
“จำได้ด้วยเหรอคะว่าวันนี้วันเกิดลิต้า นึกว่าลืมไปแล้ว”
“ผมจะลืมได้ยังไง ผมขอโทษที่พูดไม่ดีกับคุณ พักนี้ที่บริษัทมีแต่เรื่องแต่ผมก็พยายามทำทุกทางเพื่อให้ทุกอย่างมันดีขึ้น ที่ผมเหนื่อยก็เพื่อเรานะ”
อสิตกอด ลลิตาสะบัดสะบิ้ง
“ปล่อยค่ะ”
“ไม่เอาน่า มาให้ชื่นใจหน่อย”
อสิตหอมแก้ม
“นี่แหนะ!”
อสิตแกล้งดึงลลิตาล้มลงไปนอน
“ว้าย สิต เล่นอะไรก็ไม่รู้”
อสิตซุกไซร้ ลลิตาโอนอ่อน ลลิตายิ้มมีความสุข จินตนาการว่าได้นอนกับกร้าว
วันใหม่...ธารินกดกริ่งที่ประตูรั้ว เสียงกริ่งดังรัว แหวนรีบวิ่งนำหน้ามา ลลิตาและอรชาต่างตกใจ ออกมาดู
“เสียงดังอะไรกันแต่เช้า มารยาทน่ะสะกดเป็นมั้ย” ลลิตาจ้องธาริน
ธารินตะโกน
“พี่ชายธง ออกมาเดี๋ยวนี้นะ”
อรชาเห็นท่าจะไปกันใหญ่ รีบเคลียร์
“คุณชายธงไม่ได้อยู่ที่นี่ คุณกลับไปดีกว่า แต่ถ้ายังไม่เลิกก่อกวน ฉันจะแจ้งตำรวจจับคุณ”
อรชานิ่ง แต่ท่าทางเอาจริง ธารินกลัวเรื่องบานปลายใหญ่โต เลยต้องยอมสะบัดหนีไป อรชาส่ายหน้าแล้วกลับเข้าบ้านไป ลลิตาคิดแผนร้ายได้
ธารินจะขึ้นรถ ลลิตามาจับประตูรถไว้
“เดี๋ยว”
“อะไรกัน ปล่อยนะ”
ลลิตายื่นนามบัตรบริษัทกร้าวให้
“ที่อยู่บริษัทที่ยายนุชทำงาน”
ธารินแปลกใจ รับมาดู ลลิตายิ้มร้าย
อรชานั่งลงบนเตียงนอน รู้สึกเหนื่อยจากเรื่องธาริน แหวนเคาะประตูและรายงาน
“คุณอรขา มีแขกมาพบค่ะ”
อรชาเหนื่อยใจ
“ถ้าเป็นคนเดิม บอกให้เขากลับไปได้แล้ว”
“ไม่ใช่ค่ะ”
อรชานึกถึงกร้าว
“หรือว่าจะเป็น…คุณกร้าว!”
อรชาดีใจ จะออกจากห้อง เดินผ่านโต๊ะเครื่องแป้งแล้วนึกได้ หยุดมองกระจก จัดทรงผม หยิบลิปสติกขึ้นมาเติมปาก แล้วจึงออกจากห้องไป
อรชาอารมณ์ดี เข้ามาในห้องรับแขก ปรารภหันหน้ามา อรชาหุบยิ้ม ผิดหวัง มองไปรอบๆ แต่ก็ไม่มีวี่แววกร้าว ลลิตาชิงพูดขึ้น
“พี่เห็นว่าหมู่นี้บ้านเรามีแต่เรื่อง อรคงจะเครียดมากเกินไป ถึงได้ไม่สบายบ่อย พี่ก็เลยขอให้ตารภช่วยพาอรไปเที่ยวพักผ่อนหน่อย”
อรชาไม่ค่อยชอบใจนัก
“แต่อรอยากอยู่บ้านมากกว่าค่ะ”
“ไหนๆ วันนี้ก็ลาหยุดแล้ว อย่าอุดอู้อยู่บ้านเลย ออกไปเที่ยวพักผ่อนเปิดหูเปิดตาดีกว่า ไปเถอะไป”
ลลิตาคะยั้นคะยอให้อรชาไปกับปรารภ อรชาขัดลลิตาไม่ได้ จำต้องไปกับปรารภ ลลิตายิ้มพอใจ
อนุชกำลังจะเข้าบริษัท ชายธงดักรออยู่เดินเข้ามาหา
“ชายธง!” อนุชตกใจ
อนุชจะเดินหนี แต่ชายธงจับมือไว้
“ปล่อยนะชายธง”
“ผมมีเรื่องสำคัญ เรื่องนายกร้าวกับพี่ลิต้า”
อนุชชะงัก ตกใจ... ธารินขับรถมาจอดอยู่ที่มุมหนึ่งริมถนน โดยที่ชายธงและอนุชไม่ทันสังเกต
อนุชกับชายธงนั่งคุยกันอยู่ที่โต๊ะริมกระจก ในร้านกาแฟ
“ชายธงเห็นพี่ลิต้ากับคุณกร้าวที่คอนโด” อนุชตกใจ
“ใช่”
อนุชไม่อยากเชื่อ
“จำคนผิดรึเปล่า”
“ไม่ผิดแน่นอน ตอนแรกผมก็ไม่อยากจะเชื่อ ผมตกใจจนลืมถ่ายรูปไว้เลย”
อนุชไม่สบายใจ
“สองคนนี้มีท่าทีผิดสังเกตบ้างมั้ย”
อนุชไม่สบายใจ คิดหนัก
ธารินจอดอยู่ ริมถนนฝั่งตรงข้าม เลื่อนกระจกหน้าต่างลง เห็นเหตุการณ์ทุกอย่าง ธารินโกรธอนุชมาก
อนุชเข้ามาในบริษัท เสียงธารินดังขึ้น
“นังอนุช”
อนุชหันหลังมาเจอธารินก็แปลกใจ
“คุณธาริน”
ธารินไม่พูดไม่จา ตบหน้าอนุชอย่างแรงด้วยความโกรธ พนักงานในบริษัทต่างตกใจ หยุดมองอนุชกับธาริน
“คุณธาริน คุณควรจะควบคุมอารมณ์หน่อยนะ” อนุชโกรธมาก
“ทำไม อายเหรอ”
“ฉันไม่อายหรอกค่ะ เพราะฉันไม่ได้ทำอะไรผิด ฉันกับชายธงเป็นเพื่อนกัน ไม่มีอะไรเกินเลย คุณต่างหากที่ควรจะอาย”
ธารินเถียงไม่ออก อับอายที่โดนอนุชตอกกลับ พวกพนักงานต่างก็ซุบซิบนินทา มองธารินเป็นตัวตลก ธารินอับอายขายหน้ามาก
“ถ้าแกยังไม่เลิกยุ่งกับพี่ชายธง แกโดนหนักกว่านี้แน่”
ธารินรีบออกจากบริษัทไป อนุชหันมาเจอพวกพนักงานซุบซิบนินทากัน ก็อายเหมือนกัน จึงรีบเดินหนีไป...อนุชเข้ามาในห้องทำงาน กร้าวรออยู่ ยืนมองนาฬิกาจับเวลา
“สายไปตั้งชั่วโมง...มัวแต่ไปมีเรื่องกับใครอยู่”
อนุชค้อน นึกถึงเรื่องที่ชายธงบอกแล้วโกรธมาก ไม่ตอบโต้อะไร ไปนั่งทำงานเงียบๆ
“แปลก! วันนี้ไม่ต่อปากต่อคำแฮะ” กร้าวแปลกใจ
กร้าวนั่งทำงานที่โต๊ะต่อไป อนุชนั่งทำงาน แต่ไม่มีสมาธิ แอบมองเขาด้วยความระแวงสงสัย กร้าวรู้ตัวว่าเธอมองอยู่ หันมายิ้มกวนประสาท
“แอบมองผมทำไม”
อนุชสะดุ้ง รีบเสไปทำงานต่อ
“ฉันเปล่า”
กร้าวลุกมายืนท้าวโต๊ะทำงานอนุช ยื่นหน้าเข้าใกล้สายตากรุ้มกริ่ม
“อยากมองก็ไม่เป็นไร ผมให้มองฟรี ไม่คิดเงิน”
อนุชยิ่งไม่พอใจประชด
“คุณกร้าวใจกว้างจังเลยนะคะ แต่ท่าทางจะใจกว้างไปทั่ว แถมยังไม่เลือกอีกด้วย”
กร้าวล้อๆ
“หงุดหงิดคนมีเจ้าของก็อย่ามาพาลผมสิ”
อนุชค้อนกร้าว ไม่อยากต่อล้อต่อเถียง จึงหยิบแฟ้มเอกสาร เดินเลี่ยงกร้าว ออกจากห้องไป กร้าวงง ไม่เข้าใจว่าอนุชเป็นอะไร
ปรารภและอรชาเดินเล่นพักผ่อนในสวนสาธารณะ อรชาเดินเงียบๆ ไม่พูดไม่จา ปรารภประหม่า พยายามคิดเรื่องคุยแต่ก็คิดไม่ออก หลังจากคิดอยู่นาน ในที่สุดก็คิดได้
“วันนี้อากาศดีจังเลยนะครับ”
“ค่ะ”
อรชาตอบสั้นๆแล้วทั้งสองก็เงียบอีก ปรารภคิดหาเรื่องคุย วัยรุ่นชายสองคนแอบมองอรชา แล้วพยักเพยิดกัน ก่อนจะค่อยๆ เดินเข้ามาใกล้อรชาและปรารภ แล้วฉวยโอกาสตอนทั้งสองเผลอ วิ่งราวกระเป๋า อรชาตกใจ
“ว้าย!”
ปรารภรีบวิ่งตามไป อรชาตกใจ...ปรารภวิ่งตามมาทัน กระชากเสื้อวัยรุ่นคนหนึ่งซึ่งถือกระเป๋าอรชาอยู่ล้มลง เขายื้อแย่งกระเป๋า วัยรุ่นอีกคนเห็นเพื่อนเสียท่าจึงเข้ามาด้านหลัง ถีบปรารภล้มลง ปรารภแย่งกระเป๋าไปได้ กอดกระเป๋าไว้แน่น วัยรุ่นทั้งสองรุมเตะรุมกระทืบ อรชาวิ่งตามมา เห็นปรารภโดนรุมก็รีบตะโกน
“ช่วยด้วยค่ะ ช่วยด้วย”
วัยรุ่นทั้งสองตกใจ รีบหนีไป อรชารีบเข้ามาประคองปรารภ
“คุณรภ เป็นอะไรรึเปล่า”
ปรารภเจ็บระบมไปทั้งตัว แต่ไม่ห่วงตัวเอง ปัดฝุ่นกระเป๋าแล้วยื่นให้และยิ้มให้อรชา
“นี่ครับคุณอร”
อรชาเพิ่งสังเกตเห็นที่คิ้วของเขามีแผล เลือดออกเล็กน้อย เธอตกใจ
“หางคิ้วคุณ”
ปรารภแตะคิ้วตัวเองแล้วมองดู เห็นเลือดก็ตกใจ
“เลือด!”
ปรารภกลัวเลือด เป็นลมไปในอ้อมกอดของอรชา
“คุณรภ!”
อนุชอยู่ในห้องเก็บเอกสาร เธอจะหยิบแฟ้มที่อยู่ชั้นบนสุดของตู้เก็บเอกสาร แต่เอื้อมไม่ถึง กร้าวมาช่วยหยิบให้ อนุชหันมา เจอเขาอยู่ใกล้กันมาก ทั้งสองสบตากัน ชายหนุ่มมองหญิงสาวตาหวานซึ้ง ด้วยความรัก อนุชรู้สึกหวั่นไหว หลบตา
“ขอบคุณค่ะ”
อนุชเดินหนีไป กร้าวตามไป...อนุชเดินมาอีกมุมหนึ่งในห้องเอกสาร กร้าวตามมา ดึงมือ เธอขัดขืน แต่เขาไม่ปล่อย
“คุณโกรธอะไรผม”
“คุณทำอะไรไว้ก็รู้อยู่แก่ใจ”
กร้าวกวน
“หรือว่าคุณหึงผม”
อนุชทั้งโกรธทั้งอาย
“หลงตัวเอง”
อนุชผลัก กร้าวเสียหลัก ล้มลงนั่งเก้าอี้ตัวหนึ่ง แต่เขาจับมือเธอไว้อยู่ อนุชเลยล้มลงนั่งตักเขาจมูกชนแก้มเชา อนุชอายมาก รีบลุกหนีออกจากห้องไป กร้าวลูบแก้มตัวเอง ยิ้ม มีความสุข...อนุชเดินหนีมาเช็ดจมูก ทั้งโกรธ ทั้งอายและรู้สึกหวั่นไหวอย่างบอกไม่ถูก
ปรารภนอนหนุนตักอรชาใช้ผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำเช็ดหน้าให้ สักครู่เขาก็ลืมตาตื่นขึ้น เห็นเธอยิ้มให้ ปรารภค่อยๆ ลุกขึ้น เขาคิดทบทวนเหตุการณ์แล้วนึกได้จับคิ้วตัวเองรู้สึกว่ามีพลาสเตอร์ยาที่อรชาแปะไว้ให้
“เพราะอรแท้ๆ คุณรภเลยต้องเจ็บตัว” อรชาไม่สบายใจ
ปรารภยิ้มจริงใจ
“คุณอรอย่ากังวลไปเลย ผมยินดีทำทุกอย่างเพื่อคุณอรครับ”
อรชามองหน้าปรารภ คำพูดของเขาทำให้เธอนึกถึงกร้าว ตอนนั้นเขากุมมือเธอ…
“ผมจะพิสูจน์ให้คุณเห็นว่าผมรักและจริงใจกับคุณ ผมจะทำทุกอย่างเพื่อให้คนที่ผมรักมีความสุข”
อรชาใจลอย เผลอคิดถึงกร้าว ปรารภเห็นเธอนั่งนิ่งก็แปลกใจ
“คุณอรครับ”
อรชาสะดุ้ง
“คะ คุณรภว่าไงนะคะ”
“คุณอรคิดอะไรอยู่เหรอครับ”
อรชาอายที่คิดถึงกร้าว
“อร...เอ่อ...ไม่มีอะไรค่ะ อรว่านี่ก็เย็นแล้ว เรากลับบ้านกันเถอะนะคะ”
อรชาแปลกใจตัวเองที่นึกถึงกร้าว
เย็นนั้น...ปรารภมาส่งอรชาที่บ้าน
“ขอบคุณนะคะ”
“ครับ”
อรชาเข้าบ้านไป ปรารภมองตาม ยิ้มเพ้ออยู่คนเดียว ลลิตาเข้ามาเห็นสภาพปรารภที่ติดพลาสเตอร์ยาที่หางคิ้วและมีรอยฟกช้ำตามตัวเต็มไปหมดก็ตกใจ
“ตายแล้ว ไปกัดกับใครมา”
ลลิตากับปรารภคุยกันอยู่ในห้องรับแขก ปรารภเล่าจบ ลลิตาถามอย่างอยากรู้อยากเห็น
“แล้วเป็นไง มีอะไรคืบหน้าบ้าง”
ปรารภงง
“อะไรเหรอที่ว่าคืบหน้า”
ลลิตาระอาที่ปรารภไม่รับมุก
“จุ๊บๆ กันรึยัง”
ปรารภตกใจ เกือบตกเก้าอี้
“คือ...ผมเป็นลมไปซะก่อน”
ลลิตากลุ้ม
“เจ็บตัวฟรี แม้แต่มือก็ไม่ได้แตะ โง่หรือบ้ากันแน่เนี่ย”
ลลิตาเซ็ง ที่จับคู่ให้อรชากับปรารภไม่สำเร็จ
อรชาเข้ามาในห้อง ไปนั่งที่โต๊ะเครื่องแป้ง เหม่อนึกถึงกร้าวที่จูบเธอ อรชาเผลอแตะปากตัวเอง แล้วนึกได้ ตกใจที่คิดถึงแต่เขา เธอไม่สบายใจ
อนุชและกรวิกเลือกเสื้อผ้าอยู่ในร้านหนึ่ง กรวิกอารมณ์ดี สดใส ขณะที่อนุชดูไม่ร่าเริง ครุ่นคิดกังวลเรื่องกร้าวกับลลิตา
“นุชว่าอากร้าวจะชอบมั้ย” กรวิกหยิบเสื้อผ้าชุดหนึ่งมาทาบตัว
“อะไรๆ ก็อากร้าว ท่าทางนกจะชอบอากร้าวมาก”
กรวิกเพ้อ
“ก็อากร้าวทั้งหล่อ ทั้งเก่ง ทั้งใจดี สุภาพ ตั้งแต่นกเกิดมานอกจากพ่อแล้วไม่เคยเห็นใครดีเท่าอากร้าวเลย”
อนุชสงสารกรวิก
“แล้วถ้าวันหนึ่งนกรู้ว่าอากร้าวไม่ใช่คนดีอย่างที่คิดล่ะ”
“ถ้าอากร้าวเป็นคนไม่ดี นกคงจะเสียใจมาก นกคงไม่เชื่อใจผู้ชายคนไหนอีกเลย”
อนุชอึ้ง พูดไม่ออกมองกรวิกแล้วสงสารเพื่อนที่หลงรักกร้าว
ค่ำนั้น...อนุชกลับมาบ้าน ครุ่นคิดเรื่องกร้าวกับลลิตา เดินเหม่อ ไม่ทันระวัง ไปชนแหวนที่ถือถุงขยะมาพอดี ถุงขยะหลุดมือ กล่องของขวัญที่ห่อสร้อยเพชรหล่นลงมา แหวนตกใจ
“ว้าย!”
“อุ๊ย ขอโทษจ๊ะ ฉันไม่ทันเห็น”
แหวนรีบเก็บกล่องของขวัญ อนุชเห็น จำได้
“เดี๋ยว นี่กล่องอะไร”
“แหวนก็ไม่ทราบค่ะ”
“ไปเก็บมาจากไหน”
“ห้องคุณลิต้าค่ะ”
“ห้องพี่ลิต้า…”
อนุชหน้าเครียด แหวนงงๆ
อนุชเข้ามาในห้อง นั่งลงบนเตียง นึกถึงมีของมาส่งให้กร้าวที่บริษัท เป็นกล่องแบบเดียวกัน กระดาษห่อของขวัญเหมือนกัน อนุชเชื่อว่าทั้งสองมีความสัมพันธ์เกินเลย ทั้งโกรธ ผิดหวังและเสียใจ
วันใหม่...อนุชเข้ามาในห้องทำงาน ไม่สบายใจ เห็นโต๊ะทำงานกร้าวก็โกรธ เธอนั่งที่โต๊ะทำงานของตัวเอง แต่ก็ยังไม่หายโกรธ เลยขยำกระดาษปาใส่โต๊ะเขา
กร้าว ชาติและคณิตอยู่มุมหนึ่งในไร่ทานตะวัน กร้าวจามออกมา
“สงสัยจะมีคนคิดถึง” คณิตหยอก
“กลัวจะมีใครแอบด่าลับหลังมากกว่า”
คณิตเข็นรถเข็นให้ชาติ เดินเล่นในไร่ กร้าวรายงานเรื่องราวในบริษัท
“ผมมีโครงการจะขยายไลน์ ออกผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ มากขึ้นครับ เช่น พวกเครื่องสำอาง”
ลุงชาติรับฟัง
“เรื่องบริษัทลุงไม่ห่วงหรอกเพราะรู้ว่าหลานลุงเก่งอยู่แล้ว ลุงห่วงเรื่องเดียว”
กร้าวมองหน้าลุงชาติ เดาออก
“ลุงไม่เคยขออะไรกร้าว แต่เรื่องนุช ลุงขอได้มั้ย เลิกยุ่งกับนุชและคนในครอบครัววิชเวทย์”
กร้าวหน้าเข้มขึ้น ไม่พอใจ
“เพราะอะไรครับ”
“ลุงเชื่อว่านุชไม่ใช่คนใจร้ายใจดำเหมือนพ่อของเขา”
“อะไรทำให้ลุงมั่นใจขนาดนั้น แค่ตัวหนังสือในจดหมายงั้นเหรอเอางี้ ถ้าลุงอยากให้ผมเชื่อ ก็พิสูจน์ให้เห็นสิครับ”
ชาติไม่เข้าใจ
“พิสูจน์ยังไง”
กร้าวกับลุงจ้องหน้า ต่างคนต่างเชื่อในความคิดของตัวเอง คณิตไม่สบายใจ ไม่อยากให้ลุงกับหลานมีปัญหากัน
ชาติอยู่ในห้องนอน นึกถึงคำพูดของกร้าว
“ถ้าเขาเป็นคนดีจริง อย่างน้อยก็ควรกตัญญูรู้คุณต่อคนที่ให้ทุนเรียนจนจบ”
ชาติตัดสินใจ เขียนจดหมายถึงอนุช
ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 2 (ต่อ)
เมื่ออนุชได้รับจดหมาย เธอเปิดอ่านอย่างไม่สบายใจ เป็นห่วงป๋า ที่ส่งเสียให้เรียน จึงตัดสินใจบอกให้พี่ๆ รู้ว่าเธอต้องการจะไปดูแลเขา
“ว่าไงนะ นุชจะไปดูแลป๋าเอง จะบ้าไปแล้วเหรอ” อสิตตกใจมาก
“นุชเห็นว่าเป็นโอกาสดีที่จะได้ตอบแทนน้ำใจของป๋า ที่อุตส่าห์ให้ทุนนุชเรียนจนจบโดยไม่เรียกร้องอะไรเลย พี่อสิตอนุญาตเถอะนะคะ”
อสิตเสียงแข็ง
“ไม่ได้”
อนุชหันไปหาอรชา
“พี่อรช่วยพูดกับพี่สิตหน่อยสิคะ”
“พี่เห็นด้วยกับพี่สิต คนสมัยนี้ไว้ใจไม่ได้”
อสิตมองหน้าน้องสาว
“อย่าลืมว่านุชเป็นวิชเวทย์ จะไปทำงานเป็นคนรับใช้ใครรู้เข้าจะเสื่อมเสียชื่อเสียง”
อนุชผิดหวัง แต่ก็ต้องเคารพพี่ๆ
อนุชเขียนจดหมายอย่างไม่สบายใจที่จะต้องปฏิเสธผู้มีพระคุณ
“ป๋าคะ นุชต้องขอโทษด้วย นุชไม่สามารถหาใครที่ไว้ใจได้ไปทำหน้าที่ปรนนิบัติดูแลป๋าเลยค่ะ…”
กร้าวยิ้มอย่างเป็นต่อ เมื่อได้ฟังเรื่องอนุชจากชาติ
“เห็นรึยังครับ ผมเดาไม่ผิด”
กร้าวออกไป คณิตมองตามอย่างไม่สบายใจ ขณะที่ชาติหนักใจที่โน้มน้าวให้กร้าวเปลี่ยนใจไม่ได้
อนุชอยู่ในห้องทำงาน คุยโทรศัพท์กับชายธง
“เจอกันตอนเย็นนะ”
กร้าวเข้ามา อนุชเห็นก็รีบวางสาย
“แค่นี้ก่อนนะชายธง”
อนุชวางสายแล้วทำงานต่อ ไม่พูดไม่จากับกร้าวเพราะรับไม่ได้ที่เป็นชู้กับลลิตา กร้าวนั่งที่โต๊ะทำงานแล้วคิดจะลองใจ
“ผมอยากดื่มกาแฟสักแก้ว”
อนุชชะงักนิดหนึ่ง แล้วพูดต่อโดยไม่ละสายตาจากงานตรงหน้า
“เรียกแม่บ้านสิคะ”
กร้าวไม่พอใจ
“คุณเป็นเลขาผม ทำให้แค่นี้ไม่ได้เหรอ”
“ฉันไม่ว่าง เจ้านายสั่งงานไว้เยอะมาก ต้องรีบทำให้เสร็จค่ะ”
กร้าวประชด
“ผมว่าไม่ใช่งานยุ่งหรอก คุณไม่มีน้ำใจมากกว่า คนใจจืดใจดำ”
อนุชโกรธ
“ใจดำก็ยังดีกว่าพวกไร้ศีลธรรม ไร้ยางอายนะคะ”
“คุณว่าใคร”
อนุชทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้
“เปล่า ไม่ได้ว่าใคร แค่ยกตัวอย่างค่ะ”
กร้าวไม่เข้าใจอนุช
นาฬิกาบนโต๊ะทำงานบอกเวลา 18:00 น. อนุชถือกระเป๋า รีบร้อนจะออกไป กร้าวเอางานมายื่นให้
“นี่มันเวลาเลิกงานแล้วนะคะ”
“ก็งานยังไม่เสร็จ คุณจะทิ้งงานเหรอ ทำให้เสร็จทั้งหมดนี่แล้วค่อยกลับบ้าน”
กร้าวออกไปข้างนอก ยิ้มเย้ย อนุชอยากตามจับผิดแต่ก็ต้องทำงาน อนุชคิดหนักแล้วนึกได้ โทรหาชายธง
“ชายธง…เราต้องเปลี่ยนแผน นุชติดงาน ไปตามนัดไม่ได้ตอนนี้เป้าหมายกำลังออกไป”
ชายธงคุยโทรศัพท์อยู่ในรถที่จอดรออยู่มุมหนึ่งใกล้บริษัท
“ไม่ต้องห่วง ผมจัดการเอง”
กร้าวเลี้ยวรถออกจากบริษัท ชายธงขับตามไปห่างๆ
กร้าวสังเกตเห็นในกระจกมองหลังว่ามีรถตามมา เขาเริ่มสงสัย แต่ยังไม่แน่ใจ ลองเลี้ยวเปลี่ยนเส้นทางโดยไม่เปิดสัญญาณเลี้ยว ชายธงขับเลยไป ต้องถอยรถและเลี้ยวตาม กร้าวนึกรู้ว่าถูกตาม
กร้าวเดินเข้ามาในโรงแรมหรูแห่งหนึ่ง ชายธงตามมาห่างๆ กร้าวไปติดต่อที่เคาท์เตอร์และรับคีย์การ์ดมา ชายธงนั่งรอที่ล็อบบี้ห่างออกไป แอบจับตามอง กร้าวนั่งรอที่ล็อบบี้ คนละมุมกับชายธง ท่าทางเขากระวนกระวายเหมือนรอใคร หญิงสาวแต่งตัวเซ็กซี่มาหาทั้งสองจูบแก้มทักทายกันเหมือนฝรั่ง ชายธงเห็นหน้าไม่ชัดเพราะมีนักท่องเที่ยวเดินผ่านไปมา บังไว้ ชายธงดีใจ ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายภาพไว้แต่พอเห็นหน้าชัด ก็ไม่ใช่ลลิตา กลายเป็นเพื่อนชาวต่างชาติที่กร้าวนัดไว้...กร้าวให้คีย์การ์ด จับมือแล้วแยกกันไป ไม่ได้ขึ้นไปบนห้องด้วย ชายธงเจ็บใจ...กร้าวโทร.หาลลิตา พูดเสียงเบา
“ลิต้าเหรอครับ ผมติดธุระด่วน คงไปเจอคุณไม่ได้ ขอโทษด้วย”
กร้าวแอบมองชายธงแล้วยิ้มพอใจที่ชายธงจับผิดอะไรเขาไม่ได้
กร้าวกลับมาที่หน้าห้องทำงานของตัวเอง แล้วต้องแปลกใจที่เห็นไฟในห้องยังเปิดอยู่ ขณะที่ด้านนอกปิดไฟแล้ว พนักงานคนอื่นกลับไปหมดแล้ว เขาแอบแง้มประตูมองเข้าไปด้านในเห็นอนุชยังนั่งทำงานที่เขามอบหมายให้
กร้าวดูนาฬิกาแล้วตกใจมาก กร้าวรู้สึกผิดไม่สบายใจ คิดหาทางแก้ปัญหา
อนุชทำงาน ทั้งเหนื่อยทั้งง่วง แต่ก็ยังทำงานต่อไป ขณะเดียวกันนั้นมีเสียงเคาะประตูดังขึ้น
“ใครคะ”
รปภ. เปิดประตูเข้ามา
“นุชยังทำงานไม่เสร็จเลยค่ะ อีกสักพักถึงจะกลับ”
รปภ. ยื่นถุงขนมและน้ำผลไม้ให้
“ที่จริงไม่ต้องลำบากก็ได้ นุชไม่หิวหรอกค่ะ”
รปภ.อึกอัก
“เอ่อ...คือ รับไว้เถอะครับ”
“ขอบคุณค่ะ”
รปภ. ออกไป อนุชทำงานต่อ...รปภ. ออกจากห้องมาเจอกร้าว
“ขอบใจ”
กร้าวยื่นถุงขนมและเครื่องดื่มอีกถุงให้ รปภ.
“เอ้า นี่ของนาย”
รปภ. ตะเบ๊ะก่อนรับและออกไป กร้าวแอบแง้มประตูดู เห็นอนุชยังคงนั่งทำงานอย่างตั้งใจ เขามองเธอด้วยความชื่นชม แอบยิ้มคนเดียว
ดึกมากแล้ว อนุชเพิ่งกลับถึงบ้าน เดินคุยโทรศัพท์กับชายธง
“จริงเหรอ น่าเสียดายจังที่ไม่ใช่พี่ลิต้า ขอบคุณชายธงมากนะ”
อรชาเข้ามา
“แค่นี้ก่อนนะ”
อนุชรีบวางสาย ไม่อยากให้รู้ว่าคุยกับชายธง
“เพิ่งกลับเหรอนุช งานยุ่งเหรอ”
“ค่ะพี่อร บริษัทนี้เจ้านายโหด ใช้งานเยี่ยงทาสค่ะ”
อรชาขำที่อนุชประชดกร้าว
“นุชขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ”
อนุชหอมแก้มพี่สาวแล้วออกไป อรชามองตามยิ้มๆ
ลลิตาเดินมาที่สวนหลังบ้าน แล้วโทรหากร้าว
“ลิต้ารู้ค่ะว่าเราต้องระวังตัว ลลิตาจะรอค่ะ รักนะคะ”
ลลิตาวางวางสาย นึกถึงกร้าวแล้วมีความสุข แต่พอหันหลังมาก็เจอเชิดยืนอยู่ ลลิตาตกใจ
“ไอ้เชิด! กะ แกเข้ามาได้ไง ออกไปเดี๋ยวนี้นะ”
“อย่าใจจืดใจดำนักเลย ไอ้เรามันก็คนคุ้นเคย แกมีอะไรก็แบ่งให้ฉันใช้บ้างก็เท่านั้น”
“ฉันไม่มี ฉันบอกแกแล้วไงว่าตอนนี้พวกวิชเวทย์มีแต่หนี้สินจะอดตายกันอยู่แล้ว”
เชิดบีบแขน
“คิดว่าฉันโง่เรอะ เมื่อกี้ฉันได้ยินแกคุยโทรศัพท์ ฉันรู้นะว่าตอนนี้แกกำลังมีเป้าหมายใหม่ คิดจะเขี่ยไอ้อสิตทิ้งแล้วโผไปหาคนใหม่ที่รวยกว่า ฉันรู้จักแกดี”
“โอ๊ย ฉันเจ็บนะ”
“งั้นก็เอาเงินมา”
“ฉันไม่มี”
“ไม่มีเหรอ แล้วนี่อะไร”
เชิดแกะสร้อยทองเส้นเล็กๆ บางๆ จากคอ ลลิตาดิ้นรนแต่ก็โดนถอดสร้อยไปจนได้ เชิดยิ้มพอใจ
“เอาของฉันคืนมา”
ลลิตาจะแย่งคืน เชิดผลักล้มลง แล้วรีบย่องหนี ปีนรั้วออกไป ลลิตามองตาม โกรธมาก
“ไอ้เชิด! ไอ้ชั่ว!”
ลลิตามองตามแค้นๆ
วันใหม่...อรชาทำงานอยู่ในห้อง โทรศัพท์บนโต๊ะดังขึ้น เธอรับสาย
“ผม…กร้าว ศุภกาญจน์ ครับ”
“คุณกร้าว”
อรชาแอบดีใจ
“ผมอยากชวนคุณทานอาหารเย็นด้วยกัน”
“เสียใจค่ะ ฉันมีนัดแล้ว”
“แต่ผมมีเรื่องสำคัญจะคุยกับคุณ เรื่องอนุชกับชายธง”
อรชาชะงัก สนใจ
เย็นนั้น ปรารภมาที่บริษัท ที่อรชาทำงานสวนกับอรชาที่กำลังจะออกไปพอดี
“คุณอร”
“คุณรภ! ตายจริง อรติดธุระด่วนคงไปกับคุณไม่ได้ อรมัวแต่ยุ่งจนลืมโทรบอกค่ะ อรขอโทษด้วยนะคะ”
ปรารภหน้าสลด
“ไม่เป็นไรครับ เอาไว้คราวหน้าก็ได้”
“อรไปก่อนนะคะ”
อรชารีบร้อนไป ทำเอกสารหล่น ปรารภเห็น เก็บให้และรีบตามไป
“คุณอรครับ”
ปรารภรีบตามอรชามาถึงด้านหน้าบริษัท ร้องเรียก
“คุณอรครับ คุณอร”
ปรารภเห็นกร้าวเปิดประตูรถให้ อรชาขึ้นไปกับเขา ไม่ได้ยินเสียงเรียกก็ได้แต่เศร้าๆ นำเอกสารในมือ นำไปฝากไว้ที่พนักงานต้อนรับ
“ฝากให้คุณอรชา วิชเวทย์ด้วยนะครับ”
ปรารภเดินออกไปอย่างเสียใจ
ค่ำนั้น...กร้าวทานอาหารกับอรชา คอยเทคแคร์เอาอกเอาใจ ตักอาหารให้
“คุณกร้าวบอกว่ามีเรื่องเกี่ยวกับนุชกับชายธง เรื่องอะไรเหรอคะ”
กร้าวทำสีหน้ากังวล
“คุณอรทราบมั้ยครับว่าคุณนุชยังติดต่อกับคุณชายธงอยู่ คู่หมั้นคุณชายธงเคยมาพบเข้า มีเรื่องทะเลาะกันใหญ่โตด้วยครับ”
อรชาไม่เชื่อ
“ยายนุชน่ะเหรอคะ ไม่น่าเป็นไปได้ อรรู้จักยายนุชดี เขาไม่ใช่คนแบบนั้น”
“ผมก็พูดตามที่เห็นนะครับ ยังไงคุณอรเตือนคุณนุชไว้บ้างก็ดีนะครับ”
“ค่ะ อรจะลองถามยายนุชดู”
อรชาไม่สบายใจ กร้าวแอบยิ้มมีแผน
อนุชกับชายธงคุยกันอยู่ที่ร้านกาแฟ
“คิดแล้วเสียดาย คิดว่าจะได้หลักฐานแล้วเชียว”
“ใจเย็นสิชายธง อย่าวู่วาม ถ้านายกร้าวรู้ว่าเราตามจับผิดเขาอยู่ งานนี้พังแน่”
“ครับผม”
อนุชซึ้งใจ
“ขอบคุณชายธงมากที่ช่วยนุช ถ้าไม่มีชายธง นุชก็ไม่รู้จะพึ่งใคร”
“จะว่าไปต้องขอบคุณนายกร้าว”
อนุชแปลกใจ
“ขอบคุณทำไม”
“ก็เพราะนายกร้าวทำให้นุชยอมมาเจอผมไง”
“พูดถึงเรื่องนี้นุชไม่สบายใจเลย”
“ไม่เอาน่า เราไม่ได้ทำอะไรเสื่อมเสียสักหน่อย ผมรู้ว่านุชให้ผมเป็นได้แค่เพื่อนเท่านั้น ส่วนผม…แค่อยู่ใกล้ๆ นุช ผมก็มีความสุขแล้ว”
“ชายธงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดสำหรับนุช”
ชายธงและอนุชยิ้มให้กัน...ที่มุมหนึ่ง ห่างออกไป นักสืบจับตามองชายธงและอนุชอยู่
หลังจากที่แยกจากอนุช ชายธงกลับมาที่คอนโดของเขา เขาเดินเข้าไป นักสืบที่ตามมาถึง ต้องอยู่แค่ด้านหน้า เพราะเข้าไม่ได้ นักสืบรีบโทรรายงานกร้าวทันที
กร้าวคุยโทรศัพท์กับนักสืบอยู่ในห้องนอน ฟังข้อมูลแล้วตกใจ ก่อนจะวางสายไป
“นายชายธงอยู่คอนโดเดียวกับเราเหรอนี่”
กร้าวนิ่งคิดว่าจะทำอย่างไรต่อไปดี
อนุชกลับมาถึงบ้าน อรชารออยู่อย่างกังวล อนุชนั่งข้างๆซบไหล่อ้อนๆ แล้วตัดสินใจถามออกไปตรงๆ
“ชายธงเขายังมาวุ่นวายกับนุชอีกรึเปล่า”
อนุชชะงัก ตกใจ
“ทำไมเหรอคะ”
“ไม่มีอะไร พี่เพียงแต่เป็นห่วง ไม่อยากให้ยุ่งเกี่ยวกับชายธงอีก”
อรชาลูบผมน้องสาวรักและเป็นห่วง อนุชกุมมือพี่สาว
“สัญญากับพี่ได้มั้ยว่าจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับชายธงอีก”
อนุชอึกอัก ไม่สบายใจ
“ว่าไง”
อนุชจำต้องรับปาก
“ค่ะ นุชสัญญา”
อรชายิ้ม ดีใจ เชื่อในตัวน้องโอบไหล่อย่างอบอุ่น อนุชไม่สบายใจ
อนุชเข้ามาในห้องนอน เปิดโทรศัพท์มือถือดูรูปคู่ตัวเองกับอรชาสมัยยังเด็กเห็นความสนิทสนม รักกันมาก เธอรู้สึกผิด
“ขอโทษนะคะพี่อร”
อนุชไม่สบายใจเลย
วันใหม่...ธารินมาหาชายธง เธอจัดบลูเบอร์รี่ชีสพายใส่จานสวยมาให้ ชายธงลองชิม
“อร่อย ซื้อที่ไหน”
“รินทำเองกับมือค่ะ”
ชายธงทึ่ง
“เก่งเหมือนกันนี่เรา”
“ถ้าพี่ชายธงชอบก็ทานเยอะๆ นะคะ”
ชายธงกินขนม ธารินมองแล้วมีความสุข
กร้าวเดินเข้าบริษัท อนุชแอบย่องตามมา กร้าวหันมามอง อนุชรีบหลบ กร้าวเห็นปลอดคน ก็คุยโทรศัพท์ เขารู้ว่าอนุชแอบฟังอยู่เลยแกล้งหวานกับลลิตามากๆ
“ลิต้าครับ กลางวันนี้ผมว่าง คุณมาเจอผมได้มั้ย”
อนุชแอบฟังอยู่ โกรธมาก รีบโทรหาชายธง
ธารินรินน้ำร้อนใส่ถ้วยชา ส่งให้ ชายธงยิ้ม รับมา ยังไม่ทันดื่ม โทรศัพท์มือถือดังขึ้นก่อนที่หน้าจอเขียนว่า “อนุช” ชายธงดีใจ รีบรับสาย
“ครับ”
“ได้เรื่องแล้วชายธง สองคนนั้นกำลังไปที่คอนโด”
“ผมจะรีบไปเดี๋ยวนี้”
ชายธงคว้ากุญแจรถแล้วรีบออกไป ไม่สนใจ ขนมและน้ำชาของธาริน
“พี่ชายธง จะรีบไปไหน พี่ชายธง”
ชายธงไม่สนใจ ธารินมองตามอย่างโมโห
กร้าวและลลิตาเดินเข้าคอนโดด้วยกัน ลลิตาใส่แว่นกันแดด ทั้งสองท่าทางระวังตัว ชายธงและอนุชแอบมองอยู่มุมหนึ่ง รีบตามไปห่างๆ
ธารินตามชายธงมา เห็นชายธงกับอนุชเข้าไปในคอนโดด้วยกันก็โกรธมาก
กร้าวโอบเอวลลิตาเข้าห้องไปด้วยกัน...ชายธงโผล่หน้าออกมาจากลิฟต์มองก่อน เห็นปลอดคน ก็เรียกอนุชออกมา อนุชใจร้อน รีบตรงไปที่ห้องกร้าว จะเคาะประตู ชายธงตกใจ รีบดึงอนุชเข้าห้องของตนที่อยู่อีกมุม
ชายธงดึงอนุชเข้ามาในห้อง ปิดประตู อนุชโวย
“ห้ามนุชทำไม”
“ใจเย็นๆ สินุช ขืนไปกดกริ่งสภาพนี้ ก็เสียแผนหมด”
อนุชตั้งสติ ชายธงยื่นวิกผมให้ปลอมตัว อนุชรับวิกผมไป ยังไม่ทันใส่วิก โทรศัพท์มือถือของอนุชก็ดังขึ้นก่อนเธอหยิบมาดู เห็นชื่อก็ไม่สบายใจ แต่ก็รับสาย
“ค่ะ พี่อร”
อรชาหน้าเครียด คุยโทรศัพท์
“นุชอยู่ที่ไหนจ๊ะ”
“บ้านเพื่อนค่ะ”
อรชาพยายามข่มเสียงเป็นปกติ
“เพื่อน…ผู้หญิงหรือผู้ชาย”
อนุชอึกอัก ลำบากใจ ไม่อยากโกหก แต่จำเป็น
“ผู้หญิงค่ะพี่อร”
ขณะที่อนุชกำลังคุยโทรศัพท์ เสียงกริ่งห้องชายธงก็ดังขึ้น ชายธงเปิดประตู พบกร้าวกับอรชายืนอยู่ อรชาหน้าเครียด ชายธงและอนุชตกใจ
“พี่อร!”
อรชามองอนุชและชายธงด้วยแววตาผิดหวังและเสียใจมาก
“ทำไมต้องโกหกพี่”
อนุชพยายามอธิบาย
“พี่อรคะ นุช…”
ธารินมาถึงพอดี เห็นชายธงกับอนุชอยู่ในห้องด้วยกันก็โกรธมาก เข้าไปตบหน้าอนุชอย่างแรง
“นังอนุช! นังหน้าด้าน!”
ชายธงรีบจับตัวธารินไว้ ธารินสะบัดจากชายธงมาทุบตีอนุช
“ฉันบอกแกแล้วใช่มั้ยว่าอย่ายุ่งกับพี่ชายธง”
“ริน หยุดนะริน”
ชายธงกอดธารินไว้แน่น
“ปล่อยรินนะพี่ชายธง ปล่อย!”
อนุชมองพี่สาว อรชาเสียใจมาก หันหลังเดินหนีไป
“พี่อร”
อนุชจะตามอรชาไป แต่ติดชายธงกับธารินขวางอยู่
อรชาวิ่งออกมาจากคอนโด อับอายขายหน้า ผิดหวังและเสียใจมาก กร้าววิ่งตามมา
“คุณอร”
“พาอรไปจากที่นี่ทีค่ะคุณกร้าว พาอรไปที”
กร้าวเปิดประตูรถแล้วประคองอรชาขึ้นไปนั่ง เขาเดินอ้อมไปจะขึ้นรถ มองคอนโดแล้วไม่สบายใจ ห่วงอนุช แต่จำต้องไปกับอรชา กร้าวขึ้นรถและขับออกไป
“พี่อร! พี่อร!” อนุชวิ่งตามมา
แต่ไม่ทัน รถกร้าวออกไปแล้ว อนุชเสียใจ ธารินวิ่งตามลงมา
“นังอนุช จะหนีไปไหน!”
ธารินจะตบอนุช แต่ชายธงตามมาจับตัวไว้ทัน
“ปล่อยรินนะพี่ชายธง รินจะสั่งสอนให้มันรู้ว่าอย่ามายุ่งกับพี่ชายธงของริน!...ปล่อยริน!”
ชายธงรีบพาธารินขึ้นรถของตน ชายธงห่วงอนุช แต่ต้องรีบพาธารินไป เพื่อไม่ให้มีเรื่อง อนุชเศร้า เสียใจที่อรชาเข้าใจผิด
อรชาในรถ นั่งเงียบไปตลอดทาง
“ผมจะพาคุณอรกลับบ้านนะครับ”
“ไม่ค่ะ อรไม่อยากกลับบ้าน คุณกร้าวช่วยพาอรไปที่ไหนก็ได้ ยิ่งไปให้ไกลยิ่งดี”
อรชาเสียใจ ทำใจไม่ได้เรื่องน้องสาว
ลลิตานั่งอยู่ในรถตู้ โทรศัพท์หากร้าว แต่เขาไม่รับสาย เธอรอจนสายตัดไป
“ทำไมคุณกร้าวทำแบบนี้”
ลลิตาหงุดหงิด ไม่เข้าใจกร้าว นึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้...กร้าวโอบเอวพาลลิตาเข้ามาในห้อง ปิดประตู เธอโอบคอเขา
“คุณกร้าวขา ลิต้าคิดถึงคุณกร้าวจังเลย”
กร้าวไม่สนใจลลิตา แต่แอบแง้มประตูมองนอกห้อง
“คุณกร้าวทำอะไรอยู่คะ”
กร้าวทำมือจุ๊ปากให้เงียบก่อน
“รีบไปเร็ว”
กร้าวดึงลลิตาออกไปจากห้อง ลลิตางงๆ
กร้าวรีบพาลลิตามาที่รถตู้คันหนึ่งที่จอดติดเครื่องรออยู่
“ที่นี่ไม่ปลอดภัย คุณลิต้ากลับไปก่อนนะครับ”
“นี่มันอะไรกันคะ ลิต้างงไปหมดแล้ว”
“เอาไว้ผมจะอธิบายให้ฟังทีหลังนะครับ”
กร้าวพาลลิตาขึ้นรถ ปิดประตู แล้วคนขับก็รีบออกรถไป...ลลิตาไม่เข้าใจหงุดหงิดมาก
ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 2 (ต่อ)
ส่วนชายธงพาธารินกลับมาที่บ้าน ธารินดิ้นรน ไม่ยอมเข้าบ้าน จะไปเอาเรื่อง
“ปล่อยรินนะ พี่ชายธงห้ามรินทำไม” อนุช เธอโวยวายลั่น
“พอได้แล้วธาริน เธอเข้าใจผิดกันไปใหญ่แล้ว นุชไม่ใช่ผู้หญิงไม่ดีอย่างที่เธอคิด พี่กับเขาไม่มีอะไรกัน”
“รินไม่เชื่อ ถ้าไม่มีอะไรแล้วพี่ชายธงพามันขึ้นคอนโดทำไม อย่าบอกนะว่าไปคุยกันเฉยๆ รินไม่เชื่อ ไม่เชื่อ”
ธารินโกรธ ทุบตี ชายธงรำคาญ ผลักธารินล้มลงไปนั่งบนโซฟา
“ไม่เชื่อก็ไม่ต้องเชื่อ ใช่...พี่มีอะไรกับเขาแล้ว พอใจรึยัง อยากให้มีนักพี่ก็จะมีให้ดู”
ชายธงออกจากบ้านไปเลย ธารินเสียใจ ร้องกรี๊ดๆ ที่เขาขัดใจ
“อ๊าย พี่ชายธง กลับมาเดี๋ยวนี้นะ พี่ชายธง”
กร้าวและอรชาเดินเล่นริมทะเล อรชาซึมเศร้า ไม่ร่าเริง เดินเงียบ ไม่พูดไม่จา
“ผมขอโทษ เป็นเพราะผมแท้ๆ ทำให้พี่น้องต้องมีปัญหากัน” กร้าวแสร้งทำเป็นรู้สึกผิด
“อย่าโทษตัวเองเลยค่ะ ไม่ใช่ความผิดของคุณกร้าวหรอก”
อรชาพูดไม่ออก ร้องไห้ออกมา ระบายความอัดอั้นตันใจออกมา
“อรไม่คิดเลยว่านุชจะทำเรื่องเสื่อมเสียแบบนี้ เป็นความผิดของอรเอง น้องสาวคนเดียว อรยังเลี้ยงให้เขาเป็นคนดีไม่ได้”
“คุณอรอย่าโทษตัวเองสิครับ”
“ที่ผ่านมาอรคิดว่ารู้จักนุชดีที่สุด แต่กลายเป็นว่าอรไม่รู้จักน้องสาวตัวเองเลย อรเสียใจ อรไม่รู้จะทำยังไงแล้ว…”
อรชาร้องไห้สะอึกสะอื้น เจ็บปวด เพราะรักน้องสาวมาก กร้าวกอดเธอไว้ ปลอบโยน
ดึกคืนนั้น...กร้าวมาส่งอรชาที่หน้าบ้าน
“ดึกแล้ว อรเข้าบ้านก่อนนะคะ” อรชายิ้มให้รู้สึกดีกับเขา
“ครับ”
อรชาจะเข้าบ้าน แต่เสียหลัก กร้าวรีบประคองไว้ เลยดูเหมือนเขากอดเธอ อนุชออกมาเห็นพอดี
“ปล่อยพี่อรเดี๋ยวนี้นะ”
อนุชเข้ามาผลักกร้าวออกห่างจากพี่สาวแล้วทุบตี
“ไอ้คนฉวยโอกาส”
อรชาตกใจ รีบห้ามน้อง
“หยุดนะนุช หยุดเดี๋ยวนี้”
ลลิตาได้ยินเสียงดัง รีบออกมาดู เห็นกร้าว อรชาและอนุช ก็สงสัย จึงหลบมุมแอบดู...อรชาผลักอนุชไม่ให้ทำร้ายกร้าว
“คุณกร้าวไม่ได้ทำอะไรพี่ ต่อให้คนอื่นทำร้ายพี่ยังไง ก็ไม่เจ็บเท่ากับน้องสาวคนเดียวที่พี่รักมากที่สุดทำร้ายจิตใจพี่หรอก”
อนุชพยายามอธิบาย
“ไม่ใช่นะคะพี่อร มันไม่ได้เป็นอย่างที่พี่อรคิด นุชกับชายธงไม่ได้มีอะไรกัน”
“พี่เห็นกับตายังจะแก้ตัวอีก พี่เห็นนุชอยู่กับชายธงสองต่อสองที่คอนโดนั่น ยังจะปฏิเสธอีกเหรอ”
ลลิตาตาโตเมื่อได้ยินเรื่องอนุชกับชายธง เธอสงสัย
“คอนโด”
ลลิตาร้อนตัว กังวล...อนุชชี้หน้ากร้าว
“มันเป็นแผนของผู้ชายคนนี้ เขารู้ว่านุชตามไป เขาจงใจทำให้เราเข้าใจผิดกัน พี่อรอย่าไปเชื่อเขานะ”
อรชาโกรธ ตบหน้าอนุช ลลิตาตกใจ ไม่เคยเห็นสองพี่น้องทะเลาะกันแรงขนาดนี้
“ขอโทษคุณกร้าวเดี๋ยวนี้นะนุช”
“ไม่ค่ะ นุชไม่ได้ทำอะไรผิด นุชไม่ขอโทษ”
กร้าวไกล่เกลี่ย
“อย่าทะเลาะกันเพราะผมเลยนะครับ”
“ไม่ต้องเสแสร้ง ไม่ต้องมาพูดดีกับฉัน ผู้ชายสองหน้า ฉันเกลียดคุณ เกลียดที่สุด”
อนุชวิ่งหนีเข้าบ้านไป อรชาเสียใจ
“ทำไมถึงเป็นคนอย่างนี้ไปได้นะ” อรชาหันไปหากร้าว “อรต้องขอโทษแทนนุชด้วยนะคะที่เสียมารยาทกับคุณ”
“ช่างเถอะครับ ผมไม่ถือ”
ลลิตาฟังอย่างสงสัยมากว่าเรื่องอะไรกัน
อนุชเข้ามาในห้อง แตะแก้มที่โดนพี่สาวตบ เจ็บ แต่เจ็บในใจมากกว่า...กร้าวออกจากบ้านวิชเวทย์ หันกลับไปมองที่หน้าต่างชั้นสองที่เปิดไฟอยู่ ไม่สบายใจ ห่วงและรู้สึกผิดต่ออนุช
กร้าวไปดื่มเหล้ากับคณิต
“เอ้า ฉลองให้กับความสำเร็จของฉันที่ทำให้พวกวิชเวทย์แตกกันได้”
คณิตมองสภาพกร้าวแล้วส่ายหน้า
“แต่ฉันว่าสภาพแกไม่เหมือนคนประสบความสำเร็จเลย เหมือนคนอกหักมากกว่า”
“ใครอกหัก แกไม่รู้อะไร ฉันกำลังมีความสุขที่ได้ทำลายบ้านวิชเวทย์ ฉันมีความสุข มีความสุขมากที่สุดเลย!”
“เออๆ ไม่ต้องมาบอกฉันหรอก มีความสุขรึเปล่า ตัวแกเองเท่านั้นที่รู้”
กร้าวดื่มไม่หยุด คณิตทนไม่ได้ ต้องแย่งแก้วเหล้ามา
“พอแล้ว พอๆ”
“ไม่ ฉันยังไม่พอ เอาแก้วฉันคืนมา”
กร้าวแย่งแก้วไปดื่มอีกจนได้ คณิตส่ายหน้า กลุ้มๆ
คณิตประคองกร้าวที่เมามายคอพับคออ่อนกลับมาบ้าน
“แกพาฉันกลับบ้านทำไม ไอ้คณิต”
คณิตประคองไปนอนที่โซฟา กร้าวเมาหลับไป คณิตมองสภาพของเพื่อนแล้วส่ายหน้า
“ฉันอยากรู้จริงๆ ว่าผู้หญิงบ้านวิชเวทย์คนไหนที่ทำให้แกเป็นแบบนี้ ลลิตา อรชา หรือว่า…อนุช”
คณิตออกจากห้องไป
วันใหม่...อนุชเข้ามาที่โต๊ะอาหาร หน้าตาอิดโรยเพราะนอนร้องไห้ทั้งคืน อสิต ลลิตาและอรชากำลังทานอาหารเช้ากันอยู่ พอเห็นหน้าอนุช อรชาก็วางช้อน
“อรอิ่มแล้ว ไปก่อนนะคะ”
อรชาลุกหนีไป ไม่แม้แต่จะมองหน้าอนุช ท่าทางอรชาเย็นชา เพราะโกรธและผิดหวังในตัวอนุชมาก อนุชมองตามพี่สาวไปอย่างเสียใจ แล้วหันมามองอสิตกับลลิตา อสิตทำหน้าเครียด โกรธอนุชเหมือนกันที่ทำตัวไม่ดี ทำเป็นหยิบหนังสือพิมพ์มาเปิดอ่าน ไม่สนใจ ลลิตาก็ก้มหน้ากินอาหารเช้าตรงหน้า ไม่พูดไม่จากับเธอเช่นกัน อนุชรู้สึกอึดอัดกับบรรยากาศในบ้านที่ทุกคนต่างเข้าใจผิดและมองเธอเป็นคนไม่ดี จึงกินอะไรไม่ลง ลุกจากโต๊ะและรีบเดินหนีออกไป
กร้าวเข้ามาในห้อง นั่งที่โต๊ะทำงาน มึนศีรษะไปหมด เขามองไปที่โต๊ะทำงานของอนุชที่ยังว่างเปล่าอย่างไม่พอใจ ก่อนจะกดโทรศัพท์ถามเลขา
“สายป่านนี้แล้วทำไมคุณนุชยังไม่มาทำงานอีก”
“ไม่ทราบค่ะ คุณนุชไม่ได้บอกไว้ค่ะ”
กร้าวปิดโทรศัพท์ กระวนกระวายใจ...เลขางง อนุชเดินมาหน้าห้องทำงานพอดี
“คุณนุชมาพอดี คุณกร้าวกำลังถามถึงเลยค่ะ”
อนุชยิ้มเศร้าๆให้ เลขาแปลกใจ
กร้าวนั่งทำงานอยู่ เสียงเคาะประตูดังขึ้น
“เข้ามา”
อนุชเปิดประตูเข้ามา กร้าวเห็นหน้าอนุช เผลอยิ้ม ดีใจ
“นุช!”
อนุชยื่นเอกสารให้
“ฉันขอลาออก!”
กร้าวตกใจ รับเอกสารจากอนุชมาดูแล้วฉีกทิ้ง
“ผมไม่อนุญาต”
“งั้นก็เรื่องของคุณ เพราะฉันจะไม่มาเหยียบที่นี่อีก”
อนุชจะออกจากห้อง กร้าวรีบตามไปขวาง
“ทำไมต้องลาออก”
“เพราะฉันขยะแขยง ไม่อยากทำงานกับคนน่ารังเกียจอย่างคุณ คนที่แม้แต่เมียคนอื่นก็ไม่เว้น”
กร้าวโกรธมาก คำพูดของอนุชสะกิดแผลในใจ
“ถ้าคนอย่างผมน่ารังเกียจ น่าขยะแขยงนัก แล้วคนที่ข่มขืนเมียชาวบ้านจนเขาต้องฆ่าตัวตาย คนแบบนี้จะเรียกว่าอะไร”
อนุชไม่เข้าใจ
“คุณหมายถึงใคร”
กร้าวไม่ตอบ แต่กลับกระชากตัวเธอเข้ามาใกล้ อนุชตกใจ
“พวกคุณก็ไม่ดีไปกว่าผมหรอก”
อนุชโกรธที่กร้าวล่วงเกินถึงตระกูล ตบหน้าเขาอย่างแรง
“เกินไปแล้วนะ พวกเราไปทำอะไรให้คุณ”
กร้าวโกรธจัดที่โดนตบ
“อยากรู้เหรอว่าทำอะไร”
กร้าวดึงเธอมาจูบอย่างรุนแรง อนุชตกใจ ดิ้นรนขัดขืน แต่เขาไม่ยอมปล่อย มืออนุชคว้าที่ทับกระดาษบนโต๊ะกร้าวได้ก็ขว้างใส่
“โอ๊ย!”
กร้าวมีแผลเลือดซึมนิดๆ ที่หน้าผาก อนุชน้ำตาคลอ โกรธจนตัวสั่น
“คุณคิดว่าคุณแน่นักเหรอที่ใช้กำลังข่มเหงคนอ่อนแอกว่า ฉันจะบอกให้นะ ผู้ชายที่ทำร้ายผู้หญิงซึ่งเป็นเพศเดียวกับแม่ของตัวเอง เป็นผู้ชายที่น่ารังเกียจ น่าสมเพชที่สุด!”
อนุชวิ่งหนีออกจากห้องไป
“อนุช”
กร้าวรู้สึกผิดที่ทำไม่ดีกับอนุช
กร้าวนั่งทำงาน แต่ไม่มีสมาธิ เขามองโต๊ะทำงานของอนุชที่ว่างเปล่าแล้วทำงานต่อไม่ได้จึงเดินออกจากห้อง เลขามองอย่างสงสัย
“คุณกร้าวจะไปไหนคะ เดี๋ยวมีประชุมนะคะ”
“แคนเซิลนัดให้หมด ผมมีธุระด่วน”
กร้าวรีบออกไป
กร้าวขับรถมาจอดหน้าประตูรั้วบ้านวิชเวทย์ เขาลงจากรถ มองเข้าไปในบ้านรู้สึกผิดต่ออนุช ขณะเดียวกันด้านใน
อนุชนั่งเหม่อ เศร้า น้ำตาไหลอาบแก้มอยู่ในสวนของบ้าน ปรารภผ่านมาเห็นเข้าก็ตกใจ
“คุณนุชเป็นอะไรครับ ใครทำอะไรคุณนุช”
อนุชรีบเช็ดน้ำตา
“เปล่าค่ะ นุชไม่ได้เป็นอะไร”
“คุณนุชโกหกไม่เก่งเลยนะครับ ตาบวมขนาดนี้ยังบอกว่าไม่เป็นไรอีก”
ปรารภยิ้มจริงใจ อนุชสัมผัสได้ถึงความจริงใจของเขา เธอนึกถึงกร้าวแล้วโกรธ
“นุชไม่อยากให้พี่อรไปยุ่งกับนายกร้าวเลยค่ะ นุชไม่รู้จะทำยังไงดีแล้ว พูดไปพี่อรก็ไม่เชื่อ แม้แต้หน้านุช พี่อรก็ยังไม่มองเลย พี่อรคงเกลียดนุชมาก”
อนุชพูดแล้วก็เสียงสั่นเครือ ร้องไห้ออกมาเมื่อคิดว่าอรชาเกลียดเธอ ปรารภยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ เธอรับไปซับน้ำตา
“คุณอรอาจจะโกรธ แต่ไม่มีวันเกลียด เชื่อผมนะครับ ไม่มีใครเกลียดน้องสาวแท้ๆของตัวเองลงหรอก”
“จริงเหรอคะ”
ปรารภพยักหน้า ยิ้มจริงใจ อนุชโล่งใจไปบ้าง ปรารภลูบผม เธอรู้สึกสบายใจ เอนศีรษะพิงไหล่เขาเหมือนพี่ชายกับน้องสาว
“รอให้คุณอรใจเย็นกว่านี้ แล้วค่อยพูดค่อยจากันดีกว่า”
อรชาเดินผ่านมาเห็นอนุชกับปรารภ ดูเผินๆ เหมือนมาแอบพลอดรักกันอยู่ในสวนก็โกรธมาก รีบออกไปหาทั้งสอง
“ยายนุช! คุณรภ!”
อนุชและปรารภตกใจ
“จะทำอะไรก็ระวังหน่อย อย่าให้ประเจิดประเจ้อมากนัก ใครเห็นเข้าจะเอาไปนินทาได้”
อนุชและปรารภงง
“คุณอรเข้าใจผิดแล้วครับ”
อนุชพยายามอธิบาย
“พี่อร นุชไม่ได้…”
อรชาไม่ฟัง
“พี่ไม่ว่าหรอก ถ้านุชกับคุณรภจะคบกัน ยังไงคุณรภก็ยังไม่มีใคร ดีกว่าไปยุ่งกับคนที่มีเจ้าของแล้วอย่างนายชายธง”
อรชาสะบัดหนีไป อนุชรีบตามไป
“พี่อร!”
อรชาเดินหนี อนุชตาม
“พี่อรจะไปไหน จะไปกับนายกร้าวอีกใช่มั้ย พี่อรอย่าไปกับเขาเลยนะคะนุชขอร้อง เขาไม่ใช่คนดีอย่างที่พี่อรคิด”
อรชาชะงักหันกลับมาพูดอย่างเย็นชา
“พี่คิดเองได้ว่าอะไรควรไม่ควร ก่อนจะเตือนพี่ เตือนตัวเองซะก่อนเถอะ”
อรชาเดินหนีไป อนุชเสียใจ
กร้าวยืนรออรชาอยู่ ลลิตาแอบมาหา
“หมู่นี้คุณกร้าวสนิมสนมกับยายอรเป็นพิเศษ ถ้าคุณกร้าวไม่จริงจังกับลิต้า ก็อย่าหลอกให้ลิต้าดีใจ บอกมาตรงๆ ลิต้าจะได้ตัดใจจากคุณ”
ลลิตางอน จะเดินหนี กร้าวดึงไว้
“เดี๋ยวสิครับ คุณลิต้า”
กร้าวเหลียวซ้ายแลขวา เห็นว่าปลอดคนก็ดึงลลิตาไปมุมลับตาคนในสวน
“อย่าเข้าใจผมผิดสิครับ ที่ผมทำทุกอย่างก็เพื่อเราสองคน ตอนนี้คุณนุชกำลังจับตามองเราอยู่ ที่ผมไปไหนมาไหนกับคุณอรก็เพื่อไม่ให้ใครสงสัยเราสองคนไงครับ”
ลลิตาดีใจ
“คุณกร้าวพูดจริงๆ นะคะ อย่าหลอกให้ลิต้าหลงดีใจนะคะ”
ลลิตาโผเข้ากอด กร้าวกอดตอบ
“ผมรักคุณคนเดียวนะครับ”
อรชาออกมาจากบ้าน หากร้าวไม่เจอจึงเรียก
“คุณกร้าวคะ คุณกร้าว”
กร้าวกับลลิตากอดกันอยู่ ได้ยินเสียง กร้าวจำต้องผละทำหน้าตาเศร้า ไม่อยากไปจากลลิตา
“ผมต้องไปแล้ว”
กร้าวหอมแก้ม ลลิตาเขิน กร้าวเดินออกไป ลลิตามองตาม ยิ้มมีความสุข...อรชามองหาอยู่ กร้าวเข้ามา
“ไปกันรึยังครับ”
“ไปค่ะ”
“เชิญครับ”
กร้าวผายมือเชิญให้อรชาเดินนำไป เขาแอบมองเข้าไปในบ้านวิชเวทย์อย่างเศร้าๆ อยากเจออนุช แต่ต้องตัดใจ
อนุชตามมาแอบมองอรชาไปกับกร้าวแล้วไม่สบายใจ นึกห่วงพี่สาว
กร้าวกับอรชาจูงมือกันเดินช้อปปิ้งเหมือนคู่รักอยู่ในศูนย์การค้า ทั้งคู่เลือกซื้อของ หยิบของมาลองเล่นกันอย่างสนุกสนาน จากนั้นก็พากันมาถ่ายรูปเล่น และมานั่งที่ร้านกาแฟ ผลัดกันป้อนขนมราวกับเป็นคู่รัก
อรชาหลงเพริดมีความสุขมาก เพราะหัวใจเธอเปิดรับกร้าวเต็มที่แล้ว มือถือกร้าวดังขึ้นหน้าจอมีรูปกรวิกขึ้นโชว์
“เดี๋ยวผมมานะครับ”
กร้าวลุกเดินห่างออกไป แล้วรับโทรศัพท์
“ว่าไงครับ...นกน้อยของอา”
“อากร้าวขา วันนี้อากร้าวว่างรึเปล่า นกจะชวนไปทานข้าว”
“แย่จัง วันนี้อาติดธุระ อาขอโทษจริงๆ วันนี้นกเลยต้องอยู่คนเดียว เหงาแย่เลย”
“ไม่เหงาหรอกค่ะ เดี๋ยวนกชวนยายนุชก็ได้”
กร้าวชะงัก ได้ยินชื่ออนุชก็สนใจ
“เอ่อ นกไปที่ไหนล่ะ เผื่ออาเสร็จธุระแล้วจะตามไป”
กร้าวฟังกรวิกสักพักก็วางสายเพราะใจอยากเจออนุช กร้าวหันไปมองอรชาที่นั่งอยู่ เธอโบกมือ ยิ้มให้ เขาคิดหนัก ต้องเลือกระหว่างหน้าที่กับหัวใจ
กร้าวกลับมานั่งที่เดิม หน้าเครียด คิดเรื่องจะปลีกตัวไปหาอนุช
“เป็นไรรึเปล่าคะ มีปัญหาเรื่องงานเหรอ ทำไมทำหน้าอย่างนั้น” อรชาสังเกตเห็น
กร้าวมองอรชา ตัดสินใจพูด
“ผมมีธุระด่วน”
อรชาเสียดาย แต่ก็เข้าใจ ยิ้มให้
“คุณกร้าวไปเถอะค่ะ”
กร้าวยิ้มให้อรชา แต่ใจคิดไปถึงเรื่องที่จะได้เจออนุช
กรวิกร้องคาราโอเกะพลางเต้นไปด้วยอย่างสนุกสนาน อนุชนั่งฟังอย่างเดียว ไม่ค่อยร่าเริงนัก
“ทำตัวให้ร่าเริงหน่อยสิ”กรวิกดึงไปร้องและเต้นด้วยกัน
อนุชยิ้มขำ รู้ว่าเพื่อนหวังดี จึงร้องเพลงและเต้นไปกับเพื่อน ขณะเดียวกันนั้นโทรศัพท์มือถือของกรวิกสั่น เธอจึงออกจากห้องไป
กรวิกออกไปคุยโทรศัพท์มือถือที่มุมหนึ่ง กร้าวเข้ามาจากอีกด้านไม่เห็นกัน...อนุชนั่งฟังเพลงอยู่ในห้อง กร้าวเข้ามาเห็นหน้าหญิงสาวก็ดีใจ อนุชชะงัก โกรธ ไม่อยากเจอเขา จึงเดินหนีออกจากห้อง แต่เขาปิดประตูไว้ ไม่ให้เธอออก
“ทำไมต้องหลบหน้าผมด้วย กลัวรึไง”
อนุชไม่พอใจ
“ฉันไม่ได้ทำอะไรผิด คนทำผิดสิต้องกลัว ฉันไม่อยากเห็นหน้าคุณต่างหาก…หลีก”
“ไม่”
กร้าวจับไหล่เธอทั้งสองข้าง อนุชดิ้นรน ทุบตี
“โอ๊ย” กร้าวร้องออกมาเพราะเจ็บ
อนุชผลักเขาแล้วจะหนีออกจากห้อง กร้าวคว้าตัวไว้ เลยเสียหลัก ล้มลงไปบนโซฟาด้วยกัน กร้าวลืมตัวจะจูบ อนุชหลบ แล้วผลักออกไปรีบไปที่ประตูห้อง แต่พอเปิดออกก็เจอกรวิกยืนอยู่หน้าห้องพอดี
“นก” อนุชตกใจ
“อ้าว...อากร้าวมาตั้งแต่เมื่อไร แล้วนุชจะไปไหน อย่าเพิ่งรีบกลับสิ”
กรวิกดึงอนุชมานั่งที่โซฟาข้างกร้าว อนุชลำบากใจ ไม่กล้าปฏิเสธเพื่อน
ค่ำนั้น อนุชเข้าบ้านมา เห็นอรชายืนหันหลังคุยโทรศัพท์กับกร้าว
“ฝันดีนะคะคุณกร้าว”
อรชาวางสาย ยิ้มคนเดียวอย่างตกอยู่ในภวังค์แห่งรัก หันกลับมาเจออนุชก็ชะงัก ทั้งสองมองหน้ากัน แต่ต่างเงียบ ไม่รู้จะพูดคุยอะไรกัน อรชาหันหลังกลับเข้าบ้านไปโดยไม่ทักทาย อนุชอ้าปากจะเรียก แต่ก็พูดไม่ออก เธอไม่สบายใจเรื่องที่พี่น้องไม่เข้าใจกัน
อนุชเดินเข้าในบ้านพบลลิตามองอยู่ เธอรู้สึกไม่ดีกับลลิตา จึงเลี่ยง ไม่ทักทาย จะเดินผ่านไป
“เหม็นอะไรนะ อ๋อ...กลิ่นหมาหัวเน่านี่เอง” ลลิตาแกล้งพูดขึ้นลอยๆ
อนุชไม่พอใจ
“เน่ากับคาว อย่างไหนมันน่ารังเกียจกว่ากันคะ”
ลลิตาโกรธมาก ตบหน้าอนุชแล้วจะเข้าไปตบอีก อนุชคว้าแขนไว้ได้ ทั้งสองยื้อยุดกัน อสิตกับอรชาได้ยินเสียงดัง
“เอะอะอะไรกัน” อสิตเข้ามาถาม
อสิตและอรชาเดินเข้ามา ลลิตารีบออเซาะอสิต บีบน้ำตา ใส่ความอนุช
“ลิต้าแค่เตือนนุชดีๆ ว่าอย่ายุ่งกับชายธงอีก”
อนุชโกรธ
“โกหก”
อสิตโกรธ
“พอได้แล้วนุช คดีเก่ายังไม่ชำระ ก่อเรื่องอีกแล้วเหรอ”
อสิตและอรชามองอนุชด้วยสายตาผิดหวังอรชาหันไปหาลลิตา
“ไปเถอะค่ะ อรจะทายาให้”
อสิตและอรชาพาลลิตาออกไป ลลิตาหันมายิ้มเย้ย อนุชเสียใจที่อสิตและอรชาไม่เชื่อตน
ติดตาม "ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง"ตอนที่ 3