xs
xsm
sm
md
lg

ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 3

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 3
 
ช่วงเช้าของวันใหม่ สองคนมานั่งให้อาหารปลาด้วยกัน อนุชนั่งเศร้า หลังจากที่เล่าเรื่องราวทั้งหมดให้ชายธงฟัง

“ไอ้หมอนี่มันร้ายกว่าที่คิด แล้วเราจะทำยังไงกันดี”
“นุชก็จนปัญญา ตอนนี้พี่อรเชื่อแต่นายกร้าวคนเดียว นุชพูด นุชเตือนอะไรก็ไม่ฟัง”
อนุชถอนใจ ไม่สบายใจ ทั้งสองให้อาหารปลาเสร็จก็ออกไป...นักสืบซึ่งทำเป็นซื้อของอยู่ห่างๆ พอเห็นชายธงกับอนุชออกไป ก็รีบตามไป โดยที่ชายธงและอนุชไม่มีท่าทางรู้ตัว

ชายธงกับอนุชเดินไปที่รถด้วยกัน นักสืบเดินตามทั้งสองห่างๆ พอเดินเลี้ยวมุมตึก ทั้งคู่ก็หายไป เมื่อหันกลับพบอนุชดักรออยู่
“คุณเป็นใคร ตามฉันทำไม”
ชายธงโผล่มาดักด้านหลัง นักสืบเห็นท่าไม่ดี ผลักอนุชเซ แล้ววิ่งหนีไป
“นุชไม่เป็นไร รีบตามไปเถอะ” ชายธงประคองอนุช
ชายธงรีบตามนักสืบไป อนุชไม่สบายใจ

นักสืบวิ่งหนีชายธงวิ่งตาม นักสืบผลักของล้มขวางแต่ชายธงกระโดดข้ามไปได้ นักสืบวิ่งไปเจอแม่ค้าตั้งแผงขายของ ก็ชนของแม่ค้าล้ม แล้วรีบหนีไป ชายธงวิ่งไล่ตาม แต่โดนแม่ค้าจับตัวไว้
“หยุดนะ ข้าวของฉันเสียหายหมด”
ชายธงรีบจ่ายเงินให้แม่ค้า นักสืบหนีไปไกลแล้ว แต่ชายธงนึกได้ วิ่งเข้าซอยทางลัดไป

นักสืบวิ่งมาหยุดมุมหนึ่ง เหนื่อยหอบ เห็นชายธงไม่ตามมาแล้วก็หยุดพัก ทันใดนั้นชายธงก็โผล่มา
“จะหนีไปไหน”
นักสืบจะหนี ชายธงกระชากเสื้อมาชกหน้าจนล้มลง แล้วตามเข้าไปจับแขนนักสืบไพล่หลังและดันไปกระแทกกำแพง อนุชตามมายืนมอง
“ใครจ้างแกมา!”
“คุณพูดอะไร ผมไม่รู้เรื่อง”
นักสืบอึกอัก ไม่ยอมตอบ อนุชขู่
“บอกมาดีกว่าถ้าไม่อยากเจ็บตัว”
อนุชขยิบตาให้ ชายธงรับมุกขู่ทันที
“แกน่าจะรู้นะว่าพ่อฉันเป็นใคร”
นักสืบกลัว ชายธงทำท่าโหดๆ
“บอกมา!”
นักสืบสะดุ้งเปิดปากออกมา
“กร้าว ศุภกาญจน์”
ชายธงกับอนุชตกใจมากเมื่อได้ฟังอย่างนั้น

อนุชกับชายธงพาตัวนักสืบมาที่คฤหาสน์มโนรมย์ ขณะที่กร้าว กับปรารภ นั่งคุยอยู่กับทุกคน กร้าวเห็นหน้านักสืบก็ตกใจ แต่วางท่านิ่งไว้
“บอกไปสิว่าใครจ้างคุณมา” อนุชพูดกับนักสืบเสียงเข้ม
“คุณกร้าวจ้างผมให้ตามสืบคุณอนุชกับคุณชายธงแล้วก็…ทุกคนในครอบครัววิชเวทย์ครับ”
อสิต ลลิตา อรชา ปรารภ ต่างตกใจ กร้าวหน้าเครียด
“ทำไมต้องตามสืบพวกเราด้วย” ชายธงตะคอกถาม
“ผมไม่รู้ครับ” นักสืบชี้หน้าปรารภ “ว่าไงครับคุณกร้าว คุณจ้างผมให้สืบพวกวิชเวทย์ทำไม!”
ปรารภงง
“ผม…ผมชื่อปรารภ”
ชายธงและอนุชงง
“ไหนว่าคุณกร้าวจ้างมา ทำไมถึงไม่รู้ว่าคนไหนคุณกร้าว” อสิตสงสัย
นักสืบกลัว คุกเข่า เกาะขาชายธง
“ผมขอโทษ ผมผิดไปแล้ว อย่าทำอะไรผมเลย ผมกลัวแล้ว”
ลลิตาแปลกใจ
“นี่มันอะไรกัน ฉันงงไปหมดแล้ว”
“คุณชายธงจ้างผมมาพูดแบบนี้”
“ไม่จริงนะคะ”
อนุชหน้าเหวอ ชายธงโกรธที่ถูกใส่ร้ายกลับ
“โกหก!”
ชายธงกระชากเสื้อนักสืบ เงื้อหมัดจะชก อสิตตวาด
“หยุดนะ!”
อสิตช่วยแยกนักสืบมาจากชายธง
“ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้ ไม่ว่านายจะใหญ่มาจากไหนแต่นายไม่มีสิทธิ์มาใส่ร้ายเพื่อนฉัน”
อสิตโกรธมาก ผลักไสไล่ส่งชายธงออกจากบ้าน อนุชพยายามอธิบาย
“หยุดนะพี่สิต ทุกคนเข้าใจผิด ชายธงไม่ได้จ้างนะคะ นายกร้าวต่างหากที่จ้างมา”
อสิตตวาด
“พอได้แล้วนุช พี่ได้ยินเต็มสองหู ยังจะโกหกอีก”
อสิต ลลิตาและอรชามองอนุชด้วยสายตาที่ไม่เชื่อ
“ตั้งแต่นุชคบกับนายชายธง มีแต่เรื่องเสื่อมเสีย พี่ขอสั่งให้นุชเลิกยุ่งเกี่ยวกับนายคนนี้เด็ดขาด!”
อนุชเสียใจ วิ่งหนีออกไป ชายธงอึ้ง
“นุช!”
ชายธงจะตามไป อสิตขวางไว้
“หยุดนะ ออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้”
ชายธงชะงัก ตามไปไม่ได้ ปรารภไม่สบายใจที่มีปัญหากัน อสิต ลลิตาและอรชาต่างเคร่งเครียด ไม่เข้าใจอนุช ขณะที่กร้าวเครียด ไม่สบายใจที่เห็นอนุชร้องไห้

อนุชวิ่งเข้ามาในห้องนอน ล็อกประตู ร้องไห้ เสียใจและเจ็บปวดใจ ที่ทุกคนในครอบครัวเห็นคนอื่นดีกว่า

ทุกคนรวมตัวกันอยู่ในห้องรับแขก อสิตหันไปบอกนักสืบ

“ขอบใจที่พูดความจริง ถ้าต้องการความช่วยเหลือ ให้มาหาฉันได้ทุกเวลา”
นักสืบไหว้อสิต
“ขอบคุณครับ”
นักสืบออกไป อสิต ลลิตาและอรชาต่างไม่สบายใจ
“ผมต้องขอโทษคุณกร้าวแทนนุชด้วย” อสิตหันไปหากร้าว
“ช่างเถอะครับ ผมไม่ติดใจอะไร”
ลลิตามองกร้าว
“ดูสิคะ คุณกร้าวดีแสนดีขนาดนี้ ลิต้าไม่เข้าใจเลยว่ายายนุชจะจงเกลียดจงชังอะไรคุณกร้าวนัก”
กร้าวหนักใจ
“งั้นผมขอตัวก่อนนะครับ”
กร้าวออกไป อสิต ลลิตาและอรชาต่างไม่สบายใจเรื่องอนุช

กร้าวคุยกับนักสืบที่มุมปลอดคนแถบชานเมือง
“นายแก้ปัญหาเฉพาะหน้าได้ดีมาก แต่ฉันว่าชายธงไม่ยอมจบง่ายๆ แน่ทางที่ดีช่วงนี้นายหลบไปก่อนดีกว่า”
กร้าวให้เงิน นักสืบรับเงินและออกไป กร้าวถอนใจ เขารู้สึกไม่ดีเลยที่ทำให้อนุชตกอยู่ในที่นั่งลำบากแบบนี้

ค่ำนั้น อนุชอยู่ในห้องนอน เธอวางจดหมายไว้บนโต๊ะเล็กๆข้างเตียง อนุชถือกระเป๋าเสื้อผ้า ออกจากห้องไปเงียบๆ เธอตรงเข้าไปในห้องพระมองรูปพ่อกับแม่อย่างเศร้าๆ
“พ่อคะ แม่คะ นุชไม่รู้ว่านายกร้าวต้องการอะไรกันแน่ ขอให้พ่อกับแม่คุ้มครองพี่สิตกับพี่อรด้วยนะคะ”
อนุชกราบอัฐิพ่อกับแม่ด้วยความเคารพรัก แล้วถือกระเป๋าเดินผ่านหน้าห้องอรชาอย่างเงียบเชียบ หยุดยืนมองหน้าประตูห้องพี่สาว พยายามกลั้นสะอื้น ไม่ให้ใครได้ยิน แล้วออกจากบ้านไป ขณะที่อรชานั่งมองรูปถ่าย 3 พี่น้องแล้วไม่สบายใจที่มีปัญหากับน้อง

วันใหม่...แหวนวิ่งกระหืดกระหอบเข้ามาหาอสิต ลลิตาและอรชา ที่รออยู่
“ว่าไง นังแหวน” ลลิตาร้อนใจ
แหวนยื่นจดหมายให้ อสิตรับจดหมายจากแหวนมาอ่าน
“ถึง พี่สิต…พี่ลิต้าและพี่อร นุชรักพี่ทั้งสามมาก วิชเวทย์ของเราเหลือกันอยู่เพียงเท่านี้ พี่ๆ คือคนที่สำคัญที่สุดในชีวิตของนุช แต่ในเมื่อทุกคนไม่รักนุช ไม่เชื่อนุช นุชก็จะไม่อยู่ให้พี่ๆ รำคาญใจ นุชขอไปตามทางของนุชค่ะ”
อสิตโกรธมาก
“เหลวไหล! ไม่รู้จักคิด!”
อรชาดึงจดหมายไปอ่านบ้าง
“นุชไปแล้ว…” อรชาร้องบอกอย่างตกใจ
ลลิตาตกใจ
“ว่าไงนะ นุชหนีออกจากบ้านเหรอ! หรือว่าจะหนีตามนายชายธงไปคะ”
“เราจะทำยังไงกันดีคะพี่สิต แจ้งความมั้ยคะ”
“จะแจ้งความให้เรื่องมันฉาวโฉ่รึไง”
อสิตเครียด อรชาไม่สบายใจเป็นห่วงอนุช

ในห้องรับแขกบ้านไร่ทานตะวัน...อนุชกราบชาติ อย่างนอบน้อม ขณะที่คณิตนั่งอยู่ด้วย ชาติมองอนุชด้วยความเอ็นดู รักเหมือนลูก
“ไหนตอนแรกบอกว่ามาไม่ได้ ทำไมถึงเปลี่ยนใจล่ะ แล้วที่บ้านเขาไม่ว่ารึ”
อนุชเศร้าเมื่อนึกถึงทางบ้าน ชาติมองออกว่าเธอมีปัญหา อนุชฝืนยิ้ม เปลี่ยนเรื่อง
“นุชต้องทำอะไรบ้างคะ นุชทำได้ทุกอย่างเลยนะคะป๋าไม่ต้องให้เงินเดือนนุชนะคะ ป๋าให้นุชมาเยอะแล้วให้นุชตอบแทนป๋าบ้าง”
ชาติมองอนุชด้วยความเอ็นดู ซึ้งใจในความดีของเธอ
“ป๋าให้พร้อมจัดห้องไว้ให้แล้ว เอาของไปเก็บที่ห้องก่อนเถอะ เดี๋ยวพร้อมจะเป็นคนคอยบอกว่าต้องทำอะไรบ้าง”
ป้าพร้อมยิ้มให้อนุชอย่างเป็นมิตร อนุชออกไปกับป้าพร้อม ชาติมองตามแล้วอดสงสารไม่ได้ คณิตเปรยขึ้น
“ท่าทางเป็นคนดีนะครับ”
“ลุงก็ได้แต่หวังว่าความดีของหนูนุชจะเป็นเหมือนน้ำที่ดับไฟแค้นในใจเจ้ากร้าวได้”
ชาติไม่สบายใจ ห่วงอนุช

ป้าพร้อมเดินนำอนุชเข้ามาในห้อง ขำถือกระเป๋าเสื้อผ้าของอนุชตามมา
“ทุกคนเลยต้องเหนื่อยเพราะนุช นุชขอบคุณนะคะ”
อนุชไหว้ป้าพร้อมและยิ้มให้ขำ
“ไม่ต้องไหว้หรอกค่ะ ป้าเป็นแค่คนรับใช้” ป้าพร้อมตกใจ
“นุชก็อยู่ที่นี่ในฐานะลูกจ้างเหมือนกัน แล้วคุณป้าก็อาวุโสกว่าด้วย”
ป้าพร้อมอึ้ง
“คุณป้ากับขำไปทำงานกันต่อเถอะค่ะ นุชรบกวนเวลามากแล้ว”
ป้าพร้อมและขำต่างงง ไม่คิดว่าอนุชจะปฏิบัติต่อพวกตนแบบนี้ ทั้งสองออกจากห้องไป...อนุชเปิดหน้าต่าง เห็นวิวไร่องุ่นสวยงามกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา หญิงสาวสูดอากาศบริสุทธิ์แล้วรู้สึกสบายใจขึ้น

ป้าพร้อมและขำช่วยกันเตรียมอาหารเย็น อยู่ในครัว
“ป้าว่าคุณนุชจะทำงานอะไรเป็นบ้าง”
“แกจะเอาอะไรกับนักเรียนนอก”
เสียงกวาดใบไม้ดังแกรกๆ ดังขึ้นด้านนอก ป้าพร้อมสงสัย
“เสียงอะไร”
ขำหวาดกลัว กระโดดมาเกาะหลังป้าพร้อม
“ผี!”
“จะบ้าเหรอ ผีอะไรกลางวันแสกๆ มานี่เลย”

ป้าพร้อมดึงขำออกไป

ไม่นานนัก ป้าพร้อมลากขำออกมา ทั้งสองต่างแปลกใจเมื่อเห็นอนุชกำลังกวาดใบไม้

“คุณนุช ทำอะไรคะ”
“นุชอยู่ว่างๆ ไม่รู้จะทำอะไรก็เลยมากวาดใบไม้ค่ะ”
“ไม่ต้องหรอกค่ะ ให้นังขำมันทำเถอะ มือนุ่มๆ จะด้านหมด”
“นุชชินแล้วค่ะ ตอนเรียนที่อังกฤษก็ต้องทำงานบ้านเองทุกอย่าง”
ป้าพร้อมกับขำทึ่ง
“อ้อ แล้วก็ไม่ต้องเรียกคุณนุชหรอกค่ะ เรียกนุชเฉยๆ ก็พอ”
อนุชยิ้มให้ แล้วหันไปกวาดใบไม้ต่อ ป้าพร้อมและขำมองอนุชแล้วยิ้มด้วยความชื่นชม

ชายธงกำลังจะเดินเข้าไปหาอนุชในบ้าน พบกร้าวพอดี
“แกยังกล้ามาที่นี่อีกเหรอ” ชายธงไม่พอใจ
ชายธงโกรธ กระชากเสื้อกร้าว เงื้อหมัดจะชก อสิตและอรชาได้ยินเสียงดัง ออกจากบ้านมาดู
“หยุดนะ! ปล่อยคุณกร้าวเดี๋ยวนี้!”
ชายธงชะงัก อสิตเข้ามาผลักชายธงออกห่างจากกร้าว
“ผมมาหานุชครับ” ชายธงหันมาบอกอสิต
อสิตยิ่งโกรธมาก
“ฉันรู้นะว่านุชหนีไปกับแก”
ชายธงตกใจ
“พี่สิตพูดอะไร ผมไม่เข้าใจ”
อสิตไล่ทันที
“แกออกไปจากบ้านฉันเดี๋ยวนี้เลย แล้วไม่ต้องมาเหยียบที่นี่อีก ออกไป!”
ชายธงไม่พอใจกลับไปทันที กร้าวหันมาถามอย่างเป็นห่วง
“นุชหายไปรึครับ”
อสิตถอนใจเครียด

กร้าวตกใจเสียงดัง เมื่อรู้เรื่องอนุช
“นุชหนีออกจากบ้าน!”
อรชาพยักหน้า ไม่สบายใจ ห่วงน้องสาวเช่นกัน
“แล้วนุชไปอยู่ที่ไหน ไปกับใคร” กร้าวถามอย่างร้อนใจมาก
“อรก็ไม่ทราบค่ะ นุชไม่ได้บอกใครไว้เลย”
กร้าวลืมตัวเขย่าตัวอรชา
“คุณไม่รู้ได้ไง คุณเป็นพี่ นุชสนิทกับคุณมากที่สุด”
“โอ๊ย คุณกร้าว อรเจ็บค่ะ”
กร้าวนึกได้ รีบปล่อย
“เอ่อ ผมขอโทษ”
กร้าวรีบแก้ตัว กลัวอรชาสงสัยในความรู้สึกที่เขามีต่ออนุช
“ผม...เอ่อ...ผมโกรธตัวเองมากกว่าที่เป็นต้นเหตุทำให้คุณนุชมีปัญหากับคนในบ้าน”
“คุณกร้าวอย่าโทษตัวเองเลยค่ะ อรต่างหากที่ผิด อรเป็นพี่ที่แย่ที่สุด อรดูแลน้องไม่ดี นุชถึงหนีไปแบบนี้”
อรชาเสียใจ กร้าวเห็นใจอรชา กุมมือ ปลอบโยน โอบกอดเธอ อรชาเอนศีรษะซบไหล่เขารู้สึกอบอุ่น -กร้าวกอดปลอบ ในใจเป็นห่วงอนุชมาก

ชายธงพยายามโทรศัพท์หาอนุช แต่ก็เป็นสัญญาณปิดเครื่อง ไม่สามารถติดต่อได้
“นุชนะนุช จะไปไหนทำไมไม่บอกสักคำ”
ชายธงคิดหนัก ขณะที่ธารินที่มาหา แอบฟังอยู่มุมหนึ่งของบ้าน

กร้าวกับกรวิกคุยกันอยู่ในร้านอาหาร
“จริงเหรอคะอากร้าว เรื่องที่ยายนุชหายตัวไป อากร้าวไม่ได้ล้อนกเล่นใช่มั้ยคะเนี่ย” กรวิกกังวล
กร้าวแปลกใจ
“นกไม่รู้จริงๆเหรอ”
“นกเพิ่งรู้จากอากร้าวนี่แหละค่ะ”
กร้าวลืมตัว
“ถ้านุชติดต่อมา นกต้องรีบบอกอานะ”
กร้าวนึกได้ว่าเป็นห่วงอนุชออกนอกหน้าเกินไป รีบเปลี่ยนท่าที
“คือ…พี่ๆ เขาเป็นห่วงมาก”
“ค่ะ ถ้านกติดต่อนุชได้ นกจะรีบบอกอากร้าวเลยค่ะ”
กร้าวกังวล คิดหนักว่าอนุชหายไปไหน

กร้าวไม่มีสมาธิกับเอกสารตรงหน้า มัวแต่คิดเรื่องอนุช เลขาเคาะประตูและเข้ามาในห้อง
“คุณกร้าวคะ รายงานผลผลิตของไร่ทานตะวันค่ะ”
กร้าวรับมา
“ขอบใจ”
กร้าวคิดออก
“ไร่ทานตะวัน…ลุงชาติ! ใช่แล้วลุงชาติ!”
กร้าวดีใจ จับมือเลขา
“ขอบใจมาก”
เลขางง
“แคนเซิลนัดทุกอย่าง ผมจะไปไร่ทานตะวันวันนี้เลย”

กร้าวรีบร้อนจะออกจากห้อง เลขามองตามอย่างไม่เข้าใจ

กร้าวออกมาจากห้อง เลขาตามมา พอดีกับที่ลลิตาเดินมาจากมุมหนึ่ง ตรงมาหากร้าว แต่ยังไม่เห็น กร้าวเห็นลลิตาก็รีบหลบบอกกับเลขา

“บอกว่าผมไม่อยู่นะ”
กร้าวเดินหลบไปอีกทาง

ชาติลองชิมอาหารฝีมืออนุชอย่างทึ่งๆ
“ฝีมือนุชอร่อยใช้ได้”
“ถ้างั้นต้องทานเยอะๆ นุชถึงจะเชื่อค่ะ”
อนุชตักกับข้าวให้ ชาติทานอาหาร ท่าทางยิ้มแย้มแจ่มใส ผิดจากที่ผ่านมา ป้าพร้อมเห็นชาติมีความสุขก็พลอยมีความสุขไปด้วย
“ตั้งแต่คุณนุชมาอยู่ที่นี่ คุณชาติทานข้าวได้เยอะขึ้นนะคะ”
“อีกสักคำนะคะ คำสุดท้าย”
ชาติทานอาหารอย่างอร่อย อนุชคอยดูแล ยกแก้วน้ำส่งให้ พอชาติดื่มน้ำเสร็จ เธอก็ส่งกระดาษเช็ดปากให้ กิริยาท่าทางของเธออ่อนโยน น่ารัก ชาติและป้าพร้อมยิ้มชื่นชม

อนุชและป้าเดินไปในไร่ด้วยกัน คุยกันไปด้วย
“ป้าพร้อมคะ ป๋าไม่มีญาติพี่น้องลูกหลานบ้างเลยรึคะ”
“มีค่ะ มีหลานชายแค่คนเดียว”
ขำวิ่งหน้าตื่น โวยวายเสียงลั่นเข้ามาขัดจังหวะ
“ป้าพร้อม! อยู่นี่เอง หาตั้งนาน ไปเร็วป้า ไปด้วยกัน”
ป้าพร้อมตกใจ
“ว้าย...นังขำ ปล่อยฉันนะ”
ขำดึงป้าพร้อมออกไปจนได้ อนุชหัวเราะ ขำปนเอ็นดูท่าทางกระโดกกระเดกของขำ

ป้าพร้อมกับขำเดินกลับมาจากไร่ พบกร้าวที่รออยู่ มองไปรอบๆด้วยท่าทีร้อนใจ
“มีใครแปลกหน้ามาที่นี่บ้างรึเปล่า”
“จะมีก็แต่คุณนุช คนที่คุณชาติให้ทุนการศึกษา เธอมาช่วยดูแลคุณชาติค่ะ”
กร้าวดีใจ ไม่สนใจฟัง
“แล้วตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน”
“คงจะอยู่ในครัวมั้งคะ เห็นว่าจะทำขนมให้คุณชาติทานกับน้ำชาตอนบ่าย”
กร้าวไม่รอพร้อมพูดจบ รีบร้อนออกไป

อนุชกำลังอบขนมมัฟฟิน กร้าวรีบร้อนมาที่ห้องครัว เห็นอนุชก็ดีใจ ยิ้มออก เขาหยุดยืนมองเงียบๆ แอบมองเธอทำขนม อนุชหยิบจับอะไรก็ดูสวยงามน่ารักไปหมด เหมือนนางฟ้ามาเสกเวทมนต์อยู่ในครัว กร้าวมองเพลิน ไม่ทันระวัง ทำเสียงดังขึ้นมา อนุชได้ยินเสียง คิดว่าขำ พูดโดยไม่หันมามอง
“ขำ…ช่วยหยิบจานบนโต๊ะให้หน่อยสิ”
กร้าวหยิบจานใบสวยส่งให้ อนุชรับไปโดยไม่ทันมอง
“ช่วยชิมขนมหน่อยสิจ๊ะ”
อนุชใช้ช้อนตักขนมมัฟฟิน เป่าแล้วส่งให้ชิม
“ระวังร้อนนะ”
กร้าวจับมืออนุช แล้วชิมขนม อนุชมองหน้า เห็นเป็นกร้าวก็ตกใจ
“นี่คุณ”
กร้าวยิ้มหวาน
“อร่อย ถูกปากผมเลย...คุณนี่รู้ใจผมจริงๆ”
อนุชตกใจ รีบปล่อยมือ ช้อนหล่นพื้น
“คุณมาได้ไง อย่าบอกนะว่าตามฉันมาถึงที่นี่ ออกไปเดี๋ยวนี้นะ”
“เดี๋ยวสิคุณ”
กร้าวเข้ามาใกล้ อนุชถอยกรูด กลัวเขาทำร้าย หันไปคว้าที่ตีไข่ มาไล่ตี
“ออกไปเดี๋ยวนี้ ออกไป”

อนุชไล่ตีกร้าวออกมาพบป้าพร้อมที่มองงๆ
“โอ๊ย คุณ ฟังผมก่อน”
ป้าพร้อมตกใจ
“อะไรคะ เกิดอะไรขึ้น”
“ป้าพร้อมค่ะ เรียกคนงานมาจับตัวนายคนนี้ออกไปเดี๋ยวนี้เลยค่ะ นายคนนี้เป็นพวกโรคจิต เป็นตัวอันตรายค่ะ”
“ไหนคะ ไอ้คนโรคจิต มันอยู่ที่ไหน”
อนุชชี้ไปที่กร้าว
“นี่ไงคะ ยืนอยู่นี่ไง รีบให้คนมาจับตัวไปเลยค่ะ”
ป้าพร้อมตกใจ
“เอ่อ คนนี้เหรอคะ”
“ใช่ค่ะ รีบไล่ไปไกลๆ เลยค่ะ”
ป้าพร้อมเจื่อนไป
“เห็นจะไม่กล้าไล่ค่ะ ป้ากลัวตกงาน”
อนุชงง
“ว่าไงนะคะ”
“ก็คนนี้แหละค่ะ คุณกร้าว…หลานชายคนเดียวของคุณชาติ”
อนุชตกใจมาก
“หลาน!”
กร้าวยิ้มกวน

อนุชกราบที่ตักชาติ
“นุชกราบขอโทษป๋าที่ก่อเรื่อง นุชไม่ทราบว่านาย...เอ่อ...คุณกร้าวเป็นหลานของป๋าค่ะ”
กร้าวไม่พอใจโวยทันที
“นี่คุณ คนเจ็บน่ะผม คุณควรจะขอโทษผมถึงจะถูก”
อนุชไม่สนใจกร้าว ทำไมเหมือนเขาไม่ได้นั่งอยู่ด้วย
“ป๋าอย่าโกรธนุชเลยนะคะ”
กร้าวโมโหที่เธอไม่สนใจ
“นี่คุณ ไม่ได้ยินที่ผมพูดรึไง”
ชาติพูดขึ้นอย่างเอ็นดู
“ป๋าไม่โกรธหรอก นุชไม่รู้ถือว่าไม่ผิด”
อนุชยิ้ม
“ป๋าใจดีที่สุดเลยค่ะ...” เธอประชดกร้าว “น่าเสียดายนะคะที่ความใจดีของป๋าไม่ถ่ายทอดทางดีเอ็นเอ”
กร้าวฉุนกึก
“นี่คุณว่าผมเหรอ ทำผมเจ็บ ไม่ขอโทษแล้วยังมาว่าอีก”
ชาติไกล่เกลี่ย
“เอาล่ะๆ ใครมีงานอะไรต้องทำก็ไปทำซะนะ”
อนุชแอบยิ้มเย้ย กร้าวไม่ยอมแพ้
“ป้าพร้อมช่วยจัดห้องให้ผมด้วยนะครับ”
ชาติและป้าพร้อมแปลกใจ
“จัดทำไมคะ”
“ผมว่าจะค้างที่นี่สักคืนสองคืน”
อนุชตกใจ กร้าวยิ้มกวนประสาท ป้าพร้อมงงเพราะปกติกร้าวไม่ค่อยนอนค้างที่ไร่

ชาติไม่สบายใจ ไม่อยากให้กร้าวมายุ่งเกี่ยวกับอนุช

ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 3 (ต่อ)

ป้าพร้อมและอนุชเดินคุยกันมาที่มุมหนึ่งในบ้านไร่ทานตะวัน โดยมีขำถือปลอกหมอนและผ้าปูเตียงตามมาด้วย

“ปกติคุณกร้าวมาค้างที่นี่บ่อยมั้ยคะป้าพร้อม” อนุชไม่สบายใจ
“ร้อยวันพันปีไม่เคยนอนค้างสักที วันนี้ไม่รู้เกิดครึ้มอกครึ้มใจอะไรขึ้นมา คุณนุชไม่ต้องช่วยหรอกค่ะ นังขำคนเดียวก็พอแล้ว ไปนังขำ”
ป้าพร้อมกับขำออกไป อนุชไม่สบายใจหันมาเจอกร้าวพอดีก็ตกใจ
“คุณ”
กร้าวยิ้ม อนุชรีบเดินหนี แต่กร้าวกระชากแขนอนุชเข้ามาใกล้
“คิดจะหนีผมเหรอ อย่าพยายามเลย คุณไม่มีวันหนีผมพ้นหรอก”
กร้าวแกล้งทำท่าจะจูบ อนุชผลักแล้วรีบวิ่งหนีไป กร้าวมองตาม ยิ้มดีใจที่หาอนุชเจอ

ค่ำนั้น ลลิตาเข้ามาในสวนโทรศัพท์หากร้าว แต่เป็นสัญญาณปิดเครื่อง ติดต่อไม่ได้ เธอหงุดหงิด กระวนกระวาย
“คุณกร้าวนะคุณกร้าว”
อสิตรู้สึกตัวตื่นขึ้น เห็นว่าลลิตาไม่ได้นอนอยู่ข้างๆ ก็แปลกใจ เขาเปิดโคมไฟ มองหา
“ลิต้า”
ลลิตากำลังจะกลับเข้าบ้าน เชิดมาแตะไหล่ ลลิตาหันมาเห็นก็ตกใจ
“ไอ้เชิด! แกมาทำไมอีก”
เชิดมองลลิตาด้วยแววตากรุ้มกริ่มมองลลิตาที่ใส่ชุดนอนบางเบา เซ็กซี่ มีเสื้อคลุมผ้าบางทับอีกชั้น ลลิตารู้ทัน รีบกระชับเสื้อคลุม
“เธอสวยขึ้นกว่าเมื่อก่อนเยอะนะ”
ลลิตาผลัก
“อย่ามาบ้านะ รีบออกไปเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวใครตื่นมาเห็นเข้า”
ลลิตาอารมณ์ไม่ดี หันหลังจะกลับเข้าบ้าน เชิดดึงมากอด ลลิตาโกรธ ดิ้นรน ทุบตี
“ปล่อยฉันนะ ไอ้เชิด ไอ้บ้า”
อสิตมองหาลลิตา ได้ยินเสียง เขามองออกไปในสวน คิดว่าลลิตาโดนทำร้ายก็เป็นห่วง
“ลิต้า!”
ลลิตาได้ยินเสียง หันไปมองเห็นอสิตก็ตกใจ
“สิต!” เธอหันมาบอกเชิดเบาๆ “รีบไปเร็วเข้า”
เชิดเห็นอสิตก็ตกใจ จะหนี แต่อสิตตามทัน กระชากเสื้อแล้วชกเชิดล้มลง
“ไอ้หัวขโมย!”
อสิตกระชากเสื้อเชิดขึ้นมาชกซ้ำ และเตะ เชิดยันอสิตล้มลง แล้วขึ้นคร่อมชก อสิตกับเชิดสู้กันนัวเนีย ผลัดกันชก ลลิตายืนตะลึง ตกใจ ทำอะไรไม่ถูก อสิตสู้เชิดไม่ได้ โดนเชิดชกล้มลง ลลิตาตั้งสติได้ หันรีหันขวาง คว้าไม้มาทำท่าหวดฟาดไปมาเพื่อไล่ แต่ไม่โดน
“อย่านะ ออกไปเดี๋ยวนี้นะ ไป!”
เชิดนึกรู้ รีบหนีไป อสิตโกรธ รีบตามเชิดไป
“อย่าหนีนะ”
ลลิตาอึ้ง
“สิต!”
เชิดวิ่งหนีมาที่ถนนนอกรั้วบ้าน อสิตตามทัน คว้าเสื้อได้ เชิดขัดขืน ผลักอสิตเสียหลัก ถลาออกไปกลางถนน รถยนต์คันหนึ่งแล่นมาอย่างเร็ว อสิตถลาออกไปตัดหน้ารถอสิตตกใจ ลลิตาวิ่งตามออกมาจากบ้าน เห็นพอดีตกใจกรี๊ดลั่น
“สิต!”

อรชาหน้าตาตื่นมาที่โรงพยาบาล ลลิตานั่งรออยู่หน้าห้องฉุกเฉิน
“พี่ลิต้า พี่สิตเป็นไงบ้างคะ” อรชากังวล
หมอออกมาจากห้องฉุกเฉิน ลลิตาเข้าไปถาม
“คุณหมอ สิตเป็นไงบ้างคะ”
“คนไข้ปลอดภัยแล้วครับ แต่…”
อรชาชะงัก
“แต่อะไรคะ พี่สิตเป็นอะไรคะหมอ”
“คนไข้ถูกกระแทกช่วงกระดูกสันหลังอย่างแรง หมอไม่รับรองว่าจะเดินได้เหมือนปกติ”
หมอพูดจบก็ออกไป อรชาและลลิตาตกใจกับข่าวร้าย
“พี่สิต!”
“โธ่ สิต”
ลลิตาและอรชาใจคอไม่ดี

วันใหม่...อนุชไม่สบายใจ ห่วงที่บ้าน ตัดสินใจใช้โทรศัพท์ของไร่ทานตะวันโทรไปที่บ้าน...อรชาและลลิตากลับมาบ้าน ทั้งสองต่างกังวล ไม่สบายใจเรื่องอสิต โทรศัพท์บ้านดังขึ้น แหวนวิ่งเข้ามา แต่อรชาอยู่ใกล้จึงรับสายแทน
“สวัสดีค่ะบ้านวิชเวทย์ค่ะ”
ลลิตาเดินออกไป ไม่สนใจใคร....อนุชจำเสียงอรชาได้ แต่กลับพูดไม่ออก จึงได้แต่เงียบอรชาแปลกใจ
“สวัสดีค่ะ”
อนุชพูดไม่ออก เลยวางสายไป สัญญาณตัดไป อรชาจึงวางสาย อนุชมองโทรศัพท์ คิดหนักว่าจะโทรไปอีกดีมั้ย แต่ในที่สุดก็ไม่กล้าโทร
อรชาร้อนใจ กดเบอร์มือถือของอนุชอย่างลังเลว่าจะโทร.ดีมั้ย ในที่สุดก็โทร.ออก แล้วรอสาย แต่กลายเป็นสัญญาณปิดเครื่อง เพราะอนุชปิดโทรศัพท์มือถือ

อรชาผิดหวังและไม่สบายใจมากยิ่งขึ้น

ลลิตากระวนกระวายใจ กลัวความผิด เสียงผิวปากของเชิดดังขึ้น ลลิตาหันไปมองเห็นเชิดหลบอยู่หลังต้นไม้ในสวนก็ตกใจ รีบไปดึงเขามาคุยที่มุมหนึ่งซึ่งปลอดคนอย่างระวังตัว กลัวใครมาเห็นเข้า เธอทั้งหยิกทั้งตีพัลวัน

“ไอ้บ้า แกรู้ตัวมั้ยว่าทำอะไรลงไป”
เชิดกลัวๆ
“ไอ้อสิตมันตายรึเปล่า”
“ไม่ตาย แต่ก็เจ็บหนัก”
เชิดโล่งอก
“ไม่ตายก็ดีแล้ว”
“ดีกับผีน่ะสิ ถ้าเรื่องถึงตำรวจจะทำยังไง”
“ถ้าตำรวจถาม ก็อย่าบอกว่ารู้จักฉันสิ เธอไม่พูดแล้วใครจะรู้ว่าเราเป็นอะไรกัน”
ลลิตากังวล ไม่สบายใจ
“ตอนนี้เป็นโอกาสทองของเธอแล้วนะ ได้ดีแล้วอย่าลืมฉันละกัน”
เชิดมองซ้ายมองขวา เห็นปลอดคนก็รีบย่อง ปีนรั้วหนีไป ลลิตาคิดตามคำพูดของเชิด แล้วยิ้มอย่างมีความหวัง ไม่เสียใจเรื่องอสิตสักนิด

ลลิตามาที่บริษัทของกร้าว เธอแต่งตัวสวยเซ็กซี่เดินนวยนาดเข้ามาที่โต๊ะเลขา พร้อมกับกรวิกมาจากอีกทาง ทั้งสองพูดกับเลขาพร้อมกัน
“อากร้าวอยู่มั้ยคะ”
“ฉันมาหาคุณกร้าว”
ลลิตาและกรวิกมองหน้ากัน ต่างไม่พอใจกัน เลขา กำลังจะตอบ แต่พูดไม่ทันลลิตาและกรวิก
“เอ่อ คือ…”
ลลิตาวีนเลขา
“มัวแต่อ้ำอึ้งอยู่ได้ รู้มั้ยว่าฉันเป็นใคร”
กรวิกแกล้งพูดลอยๆ แต่ตั้งใจกระทบลลิตา
“ตัวเองยังไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใคร แล้วใครเขาจะรู้”
ลลิตาโกรธ
“เอ๊ะ นี่เธอหาเรื่องฉัน อยากเจ็บตัวเรอะไง”
เลขา รีบห้าม
“ใจเย็นๆ ค่ะ อย่ามีเรื่องกันเลยนะคะ ไม่มีใครได้เจอคุณกร้าวทั้งนั้นแหละค่ะ เพราะคุณกร้าวไม่อยู่”
ลลิตาและกรวิกผิดหวังทั้งคู่

กรวิกเดินหนีมา หงุดหงิด รีบเดินไม่ทันระวัง ชนคณิตเข้า
“ขอโทษครับ”
กรวิกกำลังหงุดหงิดเต็มที่ เลยวีนคณิต
“ตาบอดรึไง”
คณิตงง
“คุณเดินมาชนผมเองนะ”
“แล้วทำไมคุณไม่หลบฉัน ยืนขวางทางอยู่ได้ คนยิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่ วันนี้วันอะไรเนี่ย เจอแต่คนน่ารำคาญ”
กรวิกวีนจบก็สะบัดหนีไปคณิตส่ายหน้าเซ็งๆ
“ผู้หญิงอะไรเนี่ย แค่เดินชน ว่าเป็นชุดอย่างกับเราเป็นพวกก่อการร้าย”

คณิตมาที่บ้านไร่ทานตะวัน ยื่นแฟ้มเอกสารให้กร้าว
“ต่อไปนี้ฉันจะไม่ไปเหยียบบริษัทแกอีกแล้ว”
กร้าวงง
“ทำไมวะ”
“วันนี้ฉันไปเจอยายผู้หญิงอารมณ์ร้ายเข้า ผู้หญิงอะไรก็ไม่รู้ดุชะมัด เจอหน้าก็ว่าใส่ฉันเป็นชุดเลย”
กร้าวงงๆ
“แค่ผู้หญิงคนเดียวเนี่ยนะ แกถึงกับจะไม่ไปเหยียบบริษัทฉันอีกเลย”
“ไม่รู้ล่ะ แกก็รีบกลับไปทำงานของแกได้แล้ว จะอยู่ที่นี่นานๆทำไม”
กร้าวอึกอัก ปากแข็ง
“ฉันกำลังทำงานของฉันอยู่นี่ไง งานสำคัญด้วย”
คณิตไม่เข้าใจ
“งานสำคัญอะไรวะ”
กร้าวยิ้มอย่างมีแผน

ในไร่องุ่น...กร้าวยื่นอุปกรณ์เก็บองุ่นให้อนุช มีตะกร้า ถุงมือ กรรไกรตัดกิ่ง อนุชมองอึ้ง ป้าพร้อมและขำอยู่ด้วย ต่างตกใจ
“คุณมาทำงานใช้ทุนไม่ใช่เหรอ คุณลุงให้ทุนตั้งเยอะกว่าจะเรียนจบเมืองนอกเมืองนามาได้ เพราะฉะนั้นคุณต้องทำงานอื่นด้วย จะได้คืนทุนเร็วๆ”
กร้าวยิ้มอย่างเหนือกว่า อนุชจ้องหน้าไม่พอใจ รู้ว่าเขาจงใจแกล้ง
“อ้อ ผมลืมไป พวกผู้ดีผิวบางอย่างพวกวิชเวทย์คงทำงานกลางแดดแบบนี้ไม่ได้”
อนุชโกรธมากที่เขาดูถูก ไม่ยอมแพ้ คว้าหมวกมาใส่ ตะกร้ามาสะพาย คว้ากรรไกร ออกไปเลย ป้าพร้อมและขำตกใจ
“คุณนุช!”
กร้าวสั่งเด็ดขาด
“ไม่ต้องห้ามเขา แล้วห้ามใครช่วยเด็ดขาด”

ป้าพร้อมและขำไม่กล้าขัดคำสั่ง กร้าวยิ้มสะใจ

อนุชเก็บองุ่นจนเหนื่อย ปวดไหล่ที่สะพายตะกร้า เจ็บมือที่ง้างกรรไกรตัดกิ่ง แดดก็ร้อน ป้าพร้อมและขำสงสาร แอบมาหา

“พอเถอะค่ะคุณนุช ที่เหลือให้คนงานทำไป คุณนุชไปพักเถอะ”
ทันใดนั้นเสียงกร้าวดังขึ้น
“ฉันสั่งแล้วใช่มั้ยว่าห้ามใครช่วย”
กร้าวเข้ามา ทำหน้าเข้ม ป้าพร้อมกับขำกลัว
“ไม่ต้องหรอกค่ะ นุชไม่อยากติดหนี้บุญคุณใครค่ะ ใช้คืนให้หมดๆ ไปซะจะได้ไม่ต้องมาตามจองเวรจองกรรมกันอีก”
อนุชจงใจประชดกร้าว แล้วหันไปทำงานต่อ หนัก เหนื่อย แต่ก็ทำ กร้าวยิ้มเยาะ
“เก่งนัก ผมจะรอดูว่าจะเก่งได้สักแค่ไหน”

คนงานเลิกงาน อนุชมากับกลุ่มคนงาน เธอวางตะกร้าและอุปกรณ์อื่นๆ นั่งพัก ทั้งร้อน ทั้งเหนื่อย ปวดเมื่อยไปหมดทั้งตัว ป้าพร้อมและขำรีบมาหา ขำยกแก้วน้ำเย็นมาให้ อนุชรับไปดื่ม ชื่นใจ ป้าพร้อมช่วยพัดวี ขำช่วยนวดไหล่ให้
“ขอบคุณค่ะป้าพร้อม ขอบใจนะขำ” อนุชซึ้งใจ ไหว้ป้าพร้อม
เสียงกร้าวดังเข้มเข้ามา
“ใครอนุญาตให้พัก!”
กร้าวหน้าโหด เข้ามาใกล้
“ไปรดน้ำต้นไม้ในสวนต่อ”
อนุช ป้าพร้อมและขำต่างตกใจ
“แต่คุณนุชทำงานทั้งวันแล้วนะคะคุณกร้าว” ป้าพร้อมพยายามแย้ง
“ใครทำไม่ไหวก็ให้เจ้าตัวเขามาอ้อนวอนขอร้องผมเอง ผมอาจจะเห็นใจ”
“ไม่มีวัน!”
อนุชโกรธมาก ฮึด ลุกขึ้นและออกไป ป้าพร้อมและขำต่างห่วงอนุช กร้าวเครียดที่อนุชไม่ยอมแพ้

อนุชรดน้ำต้นไม้ในสวน เหนื่อยจนหน้ามืด กร้าวเห็น เป็นห่วง รีบมาประคอง เธอผลักเขาออก
“ปล่อยฉัน ไม่ต้องมายุ่ง ถึงยังไงฉันก็ไม่มีวันขอความเห็นใจจากคนไม่มีหัวใจอย่างคุณ”
กร้าวโกรธที่ถูกว่า
“หน้าซีดจะเป็นลม แล้วยังทำเป็นเก่ง ผมจะคอยดูว่าคุณหนูวิชเวทย์จะเก่งได้สักกี่น้ำ”
อนุชหมั่นไส้ แกล้งฉีดน้ำใส่
“คุณแกล้งผมเหรอ”
“ฉันเปล่า น้ำมันกระเด็น”
อนุชแกล้งส่ายสายยางไปมา ให้น้ำกระเด็นใส่ กร้าวไม่ยอมแพ้ มาแย่งสายยางฉีดใส่เธอบ้าง
“กระเด็นเหรอ นี้แหนะ กระเด็น”
“ว้าย นี่คุณ”
อนุชกับกร้าวไม่ยอมแพ้ ต่างยื้อแย่งสายยางกัน เปียกทั้งคู่ ขณะที่ยื้อแย่ง ทั้งสองต่างลืมตัว กร้าวกอดรัดฟัดเหวี่ยงอนุช ทั้งสองยื้อแย่งกันจนสายยางหลุดมือไป อนุชจะไปคว้าสายยางมา กร้าวก็ไม่ยอม ดึงตัวเธอไว้ พอนึกได้อีกที ต่างก็ตัวเปียกปอน อนุชอยู่ในอ้อมกอดกร้าว เสื้อผ้าเปียกแนบเนื้อ ทั้งสองมองตะลึง สบตากัน กร้าวลืมตัว ก้มหน้าเข้าใกล้ จะจูบอ อนุชยืนตะลึง นิ่งอึ้ง อยู่ในอ้อมกอดเขา ป้าพร้อมและขำได้ยินเสียงโวยวายก็ตามมาดู เห็นกร้าวกับอนุชกอดกันตัวเปียกปอนก็ตกใจ ขำหน้าเหวอ
“คุณกร้าว คุณนุช”
กร้าวและอนุชต่างสะดุ้ง อนุชรีบผลักเขาออกไป แล้วไปปิดก๊อกน้ำ ป้าพร้อมเข้ามาตำหนิ
“เล่นอะไรกันคะเนี่ย เปียกไปหมดแล้ว เดี๋ยวก็ไม่สบายหรอกค่ะ”
อนุชอาย
“นุชไปเปลี่ยนเสื้อก่อนนะคะ”
อนุชรีบเดินหนีออกไป กร้าวมองตาม ป้าพร้อมกับขำมองๆ กร้าวรู้สึกตัว ตีหน้าเข้มใส่แล้วเดินหนีไป ป้าพร้อมกับขำงง ไม่เข้าใจกร้าว

คณิตเข็นรถเข็นให้ชาติแอบมองกร้าวและอนุชอยู่มุมหนึ่ง
“ผมไม่เข้าใจเลยว่าหัวใจเจ้ากร้าวมันทำด้วยอะไร” คณิตไม่สบายใจ
“กร้าวไม่ใช่คนใจร้ายหรอก แต่เพราะความแค้นบังตาถึงมองไม่เห็นว่าหนูนุชน่าสงสารแค่ไหน”
ลุงชาติไม่สบายใจ ห่วงอนุช คณิตคิดหาทางช่วย

กร้าวเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วนึกถึงอนุชแล้วเผลอยิ้มออกมา เขาเดินมาเจอคณิตดักรออยู่ กร้าวหุบยิ้ม เก๊กหน้าขรึมเข้ม
“คราวนี้อยู่หลายวันจังนะ”
“นี่บ้านลุงฉัน ฉันจะอยู่กี่วันก็ได้ แกมีปัญหาอะไรไอ้คณิต”
“ไม่ได้มีปัญหา ปกติแกไม่เคยค้างหลายวันแบบนี้ ฉันเลยสงสัยว่าแกติดใจอะไรที่นี่รึเปล่าถึงไม่ยอมกลับกรุงเทพ ซะที”
คณิตพูดแทงใจดำ กร้าวทำเป็นเคร่งเครียด
“ถ้าแกหมายถึงยายอนุช วิชเวทย์ ฉันบอกเลยว่าไม่มีทางติดใจยายนั่น ที่อยู่ก็เพื่อแก้แค้น ศัตรูมาอยู่ตรงหน้าแล้ว จะรีบหนีไปทำไม”
“ถ้าแกอยากแก้แค้นนัก งั้นแกควรจะรีบไปกรุงเทพฯ สิ เพราะที่นั่นมีวิชเวทย์อยู่ตั้งสามคน แต่ที่นี่มีแค่คนเดียว...นอกจากว่าคนเดียวที่นี่ จะเป็นคนสำคัญถึงขนาดทำให้แกลืมอีกสามคนไปได้”
กร้าวเถียงไม่ออกที่คณิตรู้ทัน ทำเข้มกลบเกลื่อน
“ยายอนุชไม่ได้มีความสำคัญอะไรสักหน่อย ฉันตั้งใจจะกลับกรุงเทพฯ พรุ่งนี้อยู่แล้ว”

คณิตระอาความดื้อรั้น ทิฐิและปากแข็งของเพื่อน

วันใหม่...อสิตรู้สึกตัวตื่น ลลิตา อรชาและปรารภเฝ้าอยู่ข้างๆ ต่างดีใจ

“พี่สิตฟื้นแล้ว” อรชาเข้าไปหา
อสิตมึนๆ
“พี่มาอยู่ที่นี่ได้ไง”
อรชาอึกอัก แต่ต้องตอบคำถาม
“พี่สิตถูกรถชนค่ะ”
อสิตคิดเรียบเรียงสถานการณ์ ลลิตาหน้าเสีย กลัวสามีสงสัยเรื่องเชิด
“พี่นัดลูกค้าไว้” อสิตนึกได้
อสิตใจร้อน รีบลุกพรวดพราด แต่พอเท้าแตะพื้น กลับยืนไม่ได้ ทรุดล้มลง อรชา ลลิตาและปรารภต่างตกใจ ลลิตาร้องออกมา
“ว้าย”
อรชาตะลึง
“พี่สิตคะ”
ปรารภประคองอสิตกลับขึ้นมานั่งบนเตียง อสิตตกใจ จับขาตัวเอง แต่รู้สึกชาและไร้เรี่ยวแรง เขาตกใจมาก
“ขาพี่เป็นอะไร ทำไมมันชา ไม่มีแรงเลย”
ลลิตา อรชาและปรารภต่างไม่สบายใจ
“ทำไมเป็นแบบนี้”
อสิตทุบขาตัวเอง
ลลิตา อรชาและปรารภพยายามห้าม
“พี่สิต อย่าทำอย่างนี้สิคะ”
ปรารภปลอบ
“ทำใจดีๆ ไว้นะครับ”
ลลิตาเห็นท่าไม่ดี กดเรียกพยาบาล
“เข้ามาดูคนไข้หน่อยค่ะ แย่แล้วค่ะ”
หมอและพยาบาลเข้ามา รีบประคองอสิตนอนลงและฉีดยานอนหลับให้ ลลิตา อรชาและปรารภต่างเสียใจ ทั้งสามรีบออกจากห้อง ปล่อยให้พยาบาลดูแล
อสิตมีอาการกระดูกทับเส้นประสาท เกิดจากแรงกระแทกจากอุบัติเหตุรถชนจนทำให้กระดูกเคลื่อนไปกดทับเส้นประสาท ทำให้ขาชา ไม่มีแรง ยืนและเดินไม่ได้เพราะขารับน้ำหนักไม่ได้เลย ขยับขาได้แต่ไม่คล่องเท่าคนปกติ การควบคุมการขับถ่ายก็ไม่ปกติ แต่นั่งและนอนได้ตามปกติ
ลลิตา อรชาและปรารภออกมาจากห้อง ต่างใจเสีย อรชาร้องไห้
“ร้องไห้แล้วมันจะได้อะไรขึ้นมานะยายอร น่ารำคาญที่สุด” ลลิตารำคาญ
ลลิตาเดินหนีไป ปรารภปลอบอรชา
“หมอบอกว่ายังพอมีความหวัง คุณอรก็ต้องเข้มแข็งไว้นะครับ”
“อรกลัว อรไม่รู้จะทำยังไง”
“ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมจะช่วยคุณอรอีกแรง”
อรชาซึ้งใจ
“ขอบคุณนะคะคุณรภ”
ปรารภยื่นผ้าเช็ดหน้าให้ อรชารับไปซับน้ำตา ปรารภกุมมืออรชาให้กำลังใจ

ปรารภประคองอรชาเข้าไปนั่งที่โซฟาในบ้าน เขาสงสารและห่วงใยเธอมาก
“คุณอรยังไม่ได้ทานข้าวตั้งแต่เช้า คุณอรรอสักครู่นะครับ เดี๋ยวผมไปซื้อมาให้”
ปรารภออกไป

ปรารภขับออกไปในซอยบ้าน รถตู้คันหนึ่งแล่นสวนมา เป็นรถตู้ของพวกลูกน้องเสี่ยยศ...อรชานั่งพักในห้องรับแขก เสียงแหวนดังขึ้น
“ช่วยด้วย!”
อรชาตกใจรีบออกไปดูที่หน้าบ้านเห็นพวกลูกน้องเสี่ยยศก็ตกใจ อรชาจำมันคนหนึ่งได้
“พวกคุณต้องการอะไร”
ลูกน้องเสี่ยยศพยักหน้าส่งสัญญาณ พวกลูกน้องคนอื่นๆเข้าไปจับตัว อรชาตกใจ
“จะทำอะไร”
พวกลูกน้องลากอรชาไปที่รถตู้ เธอดิ้นรนขัดขืน
“อย่านะ ปล่อยฉัน”
อรชาคว้าประตูรถไว้ ไม่ยอมขึ้น พยายามดิ้นรนทุบตี ลูกน้องคนหนึ่งชกท้อง อรชาเจ็บจุกจนร้องไม่ออก ทรุดล้มลงอ่อนแรง
“ช่วยด้วย”
อรชากลัว ร้องไห้ออกมา

ลูกน้องชายสองคนหิ้วปีกเธอขึ้นรถตู้ ลูกน้องเสี่ยยศยิ้มร้ายแล้วก้าวขึ้นรถตาม รถขับแล่นออกไป

ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 3 (ต่อ)

ลูกน้องเสี่ยยศที่เป็นหัวหน้าทีมลูบไล้แก้มอรชา มองตาวาว เธอไม่มีแรงสู้ ทำได้แค่พยายามปัดป้องอย่างหวาดกลัวมาก

“อย่า”
หัวหน้าทีมหัวเราะร่า ลูกน้องอีกคนจะปิดประตูรถ แต่มือกร้าวมาขวางและผลักประตูเปิดออกอย่างแรง มันไม่ทันระวังตัว ถูกกร้าวกระชากเสื้อและเหวี่ยงลงไปจากรถ
“โอ๊ย”
ลูกน้องคนอื่นๆกรูลงมาจากรถ ล้อมกร้าวไว้ หัวหน้าทีมลงตามมา พอเห็นหน้ากร้าวก็จำได้
“คุณกร้าว…” อรชาเห็นกร้าวก็ดีใจ
หัวหน้าทีมเข้ามาจะชก กร้าวหลบได้ แล้วจับแขนบิดไพล่หลัง มันเจ็บ ร้องลั่น
“โอ๊ยยย!”
กร้าวถีบล้มลงไป พวกลูกน้องที่เหลือไม่พอใจ เข้ามารุมพร้อมกัน กร้าวชกลูกน้องคนหนึ่งจนล้มลงไปกอง ลูกน้องอีกคนมาด้านหลังเล่นทีเผลอ ถีบกร้าวล้มคว่ำ ถลาไปหาหัวหน้าทีม มันสะใจ กระชากเสื้อขึ้นมาแล้วชกกร้าวล้มไปหาลูกน้องอีกคน มันจะกระทืบซ้ำแต่กร้าวจับเท้าไว้แล้วเหวี่ยงล้มลง
กร้าวเตะลูกน้องคนนั้นไม่ยั้ง จนมันหมดแรง คลานไปทรุดล้มลงแทบเท้าหัวหน้าทีม มันโกรธมากที่ลูกน้องหลายคนสู้กร้าวคนเดียวไม่ได้ ชักมีดออกมาสู้ กร้าวชะงัก ระวังตัว หัวหน้าทีมจะแทง กร้าวหลบซ้ายขวา มันแทงเฉียดแขนกร้าวจนเสื้อขาด เป็นแผลเลือดซิบ หัวหน้าทีมได้ใจจะแทงอีก แต่กร้าวหลบฉิวเฉียดแล้วเตะมีดหลุดมือ มันตกใจ กร้าวชกมันล้มลง กร้าวรีบประคองอรชาลงมาจากรถ แหวนรีบมาหา กร้าวไล่พวกลูกน้องเสี่ยยศเสียงเข้ม
“ไปซะ ไม่งั้นฉันจะจับพวกแกส่งตำรวจให้หมด”
หัวหน้าทีมเจ็บใจ มันและพวกลูกน้องขึ้นรถออกไป ต่างเจ็บใจที่โดนเล่นงาน

กร้าวประคองอรชาเข้ามานั่งลงบนโซฟาในห้องรับแขก อรชาดูแผลที่แขนกร้าวและแตะแก้มเขาที่มีรอยช้ำด้วยความห่วงใย
“คุณกร้าวเจ็บตัวเพราะอรแท้ๆ”
กร้าวจับมืออรชาที่แตะแก้มตนอยู่
“แผลแค่นี้เล็กน้อย”
กร้าวกุมมืออรชา
“ผมนี่แย่ที่สุด มัวแต่ยุ่ง ไม่มีเวลาให้คุณ จนไม่รู้เลยว่าเกิดเรื่องกับคุณสิต”
“อย่าโทษตัวเองเลยค่ะ เป็นเพราะพี่สิตต้องการปิดข่าวเลยไม่มีข่าวออกไป”
“หลายวันมานี้คุณอรคงลำบากมาก”
อรชาเศร้า
“ตอนที่คุณกร้าวไม่อยู่ มีแต่เรื่องวุ่นวายไม่เว้นวัน อรไม่รู้จะทำยังไงดีแล้วค่ะ อรกลัวค่ะคุณกร้าว”
อรชาร้องไห้ อ่อนแอ กร้าวกอดปลอบโยน
“ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมอยู่ตรงนี้แล้ว ผมจะไม่ยอมให้ใครทำร้ายคุณอร”
อรชารู้สึกอบอุ่นใจ เมื่อมีกร้าวอยู่ใกล้ๆ ปรารภรีบร้อนเข้ามา อารมณ์ดี
“คุณอรครับ โจ๊กร้อนๆ มาแล้ว”
ปรารภเห็นกร้าวกอดอรชาอยู่ก็งง

กร้าวตักโจ๊กจะป้อนอรชา แต่เธอไม่ยอมทาน
“อรไม่หิวเลยค่ะ”
ปรารภเป็นห่วง
“ไม่หิวได้ยังไง คุณอรไม่ได้ทานอะไรตั้งแต่เช้าแล้ว”
“ทานสักหน่อยนะครับ เดี๋ยวไม่สบายไปอีกคน”
กร้าวเป่าให้หายร้อนแล้วป้อน อรชายอมกินโจ๊ก กร้าวเช็ดปากให้อย่างอ่อนโยน ปรารภรู้สึกผิด
“ผมต้องขอโทษด้วยที่ปล่อยคุณอรอยู่คนเดียว โชคดีที่คุณกร้าวมาทัน ถ้าเกิดอันตรายกับคุณอร ผมคงไม่ให้อภัยตัวเองไปตลอดชีวิต”
“อย่าโทษตัวเองเลยค่ะ เรื่องมันแล้วไปแล้ว”
อรชายิ้มให้ปรารภ กร้าวป้อนอีก
“อีกคำนะครับ”
ปรารภมองกร้าวดูแลอรชาแล้วเจ็บจี๊ดในใจ

อนุชทำงานในไร่ ทั้งร้อนทั้งเหนื่อย หญิงสาวเอามือปาดเหงื่อ ชาติเข็นรถเข้ามา
“เหนื่อยก็พักเถอะ”
“ป๋า...”
อนุชยิ้มสดใสให้ แม้จะเหนื่อยมาก
“เจ้ากร้าวไม่อยู่ นุชไม่จำเป็นต้องทำหรอก ไม่มีใครบอกซะอย่าง เจ้ากร้าวก็ไม่รู้”
“ถึงคุณกร้าวจะไม่รู้ แต่นุชรู้แก่ใจนี่คะ นุชไม่ชอบเป็นคนต่อหน้าอย่างลับหลังอย่าง”
ชาติสงสารอยากปกป้องอนุชจากกร้าว
“นุชจะว่ายังไง ถ้าป๋าจะรับนุชเป็นลูกบุญธรรม”
อนุชชะงัก หยุดมือจากงานที่ทำ มองชาติ เห็นชาติจริงจังก็ไม่สบายใจเครียด
“ป๋า…”
“ถ้านุชเป็นลูกบุญธรรมอย่างถูกต้องตามกฎหมายก็ไม่จำเป็นต้องทำงานใช้ทุน และต่อไปนี้ป๋าจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนมารังแกลูกสาวป๋าอีก”
อนุชอึ้ง ซึ้งใจ นั่งลงบนพื้นตรงหน้าชาติ ก้มลงกราบเท้า ชาติตกใจ
“นุชทำอะไร ไม่เอาลูก ไม่ต้อง”
อนุชกราบเสร็จ เงยหน้ามาพูด
“ป๋าดีกับนุชเหลือเกิน จนนุชไม่รู้จะตอบแทนยังไงถึงจะพอแต่นุชไม่อยากให้ใครเข้าใจผิดคิดว่านุชทำดีเพราะหวังสมบัติเงินทองของป๋า”
“ใครจะคิดยังไงก็ช่าง ป๋าไม่สน”
“ป๋าทำเพื่อนุชมามากแล้ว ต่อไปนี้ให้นุชตอบแทนป๋าก็พอนะคะ ป๋าไม่ต้องทำอะไรเพื่อนุชอีกแล้วค่ะ”
ชาติลูบผมอนุชด้วยความเอ็นดู ชื่นชมในความดีของเธอ
“ป๋ามองคนไม่ผิดจริงๆ แต่ยิ่งนุชเป็นคนดีเท่าไร ป๋าก็ยิ่งเสียใจที่ปกป้องนุชไม่ได้”

ชาติไม่สบายใจเอามากๆ 

ชายธงไปหาเธียรที่ห้องทำงาน

“ฉันเอาดวงแกกับหนูรินไปดูฤกษ์มาแล้ว มีฤกษ์แต่งงานต้นปีหน้า” เธียรบอกทันที
ชายธงตกใจ
“แต่งงาน! ผมบอกพ่อแล้วไงว่าผมไม่แต่งกับยายรินเด็ดขาด ผมไม่ได้รักเขา คนที่ผมรักคือนุช ผมจะแต่งงานกับนุชคนเดียว”
เธียรโกรธ
“ฉันก็พูดชัดเจนแล้วว่าฉันไม่นับญาติกับพวกวิชเวทย์ ลูกสะใภ้ฉันมีคนเดียวคือหนูรินเท่านั้น”
“ผมไม่แต่ง!”
เธียรโมโห
“แกต้องแต่ง!”
ชายธงกับเธียรจ้องหน้ากัน ต่างคนต่างไม่ยอมแพ้กัน
“วันอาทิตย์ ไปเจอฉันกับหนูรินที่นี่…”
เธียรยื่นโบรชัวร์พร้อมนามบัตรเวดดิ้งสตูดิโอหรูแห่งหนึ่งให้ ชายธงมองโบรชัวร์แล้วยิ่งโกรธ
“ผมไม่แต่ง พ่อบังคับใจผมไม่ได้”
ชายธงออกจากห้องไป

ชายธงออกมาจากห้อง เจอธาริน เธอไม่สบายใจ พยายามจะอธิบายว่าตนไม่รู้เรื่องด้วย เป็นความคิดของเธียรคนเดียว
“พี่ชายธงคะ ริน...”
ชายธงกำลังหงุดหงิด มองธารินอย่างไม่เป็นมิตร แล้วเดินหนีไป ไม่พูดไม่จา
“พี่ชายธง!”
ธารินไม่สบายใจ

เธียรยืนอยู่ที่หน้าต่าง ธารินเข้ามา
“คุณลุงคะ รินว่าเลื่อนการแต่งงานออกไปก่อนเถอะค่ะ”
“ไม่!”
“แต่ว่าพี่ชายธงไม่ยอมแน่”
“ก็ให้มันรู้กันไป ฉันสั่งพนักงานเป็นพันๆคนได้ แค่ลูกชายคนเดียว ทำไมฉันจะสั่งไม่ได้”
เธียรดื้อดึง ธารินกังวล

วันใหม่...กร้าวและปรารภช่วยกันประคองอสิตนอนพักบนเตียง ลลิตาและอรชาอยู่ข้างๆ ช่วยจัดหมอน ผ้าห่มให้
“เสียดายที่ยายนุชไม่ได้อยู่ที่นี่ด้วย ไม่รู้ป่านนี้ไปอยู่ที่ไหนเป็นยังไงบ้าง ไม่มีใครติดต่อนุชได้เลยเหรอ” อสิตหน้าเศร้าหมอง
อรชาส่ายหน้า ไม่สบายใจ อสิตเสียใจ รู้สึกผิด
“เป็นเพราะพี่คนเดียว พี่ทำให้ครอบครัวแตกแยก ทำให้น้องๆต้องลำบาก พี่มันไม่เอาไหน น่าจะตายๆ ไปซะให้มันรู้แล้วรู้รอด อยู่ไปก็เป็นภาระน้อง”
อสิตทุบตีทำร้ายตัวเอง กร้าว อรชา ปรารภและลลิตาต่างตกใจ ลลิตารีบห้าม
“ว้าย สิต อย่าค่ะ”
อรชากอดพี่ชายไว้
“เรื่องที่เกิดขึ้นไม่ใช่ความผิดของพี่สิตนะคะ ถ้าไม่มีพี่สิต แล้วอรจะอยู่ยังไง พี่สิตอย่าทำร้ายตัวเองเลยนะคะ”
ลลิตาและปรารภไม่สบายใจขณะที่กร้าวนึกถึงอนุช

กร้าวกุมมืออรชาอยู่ที่โถงบ้าน
“ผมจะรีบไปรีบกลับ ถ้าคุณอรมีอะไร โทรหาผมได้ตลอดนะครับ”
กร้าวเป็นห่วง อรชายิ้มให้
“คืนพรุ่งนี้ ผมอยากชวนคุณอรไปดินเนอร์กัน ผมจองโต๊ะไว้แล้ว”
อรชาหน้าสลด
“พี่สิตเป็นอย่างนี้ อรคงไม่มีกะจิตกะใจจะไปไหนหรอกค่ะ”
“อย่ามัวดูแลคนอื่นจนลืมดูแลตัวเองสิครับ อย่าจมอยู่กับความทุกข์ ทำตัวให้มีความสุข แล้วคนที่อยู่ใกล้คุณก็จะมีความสุขไปด้วย”
อรชาทึ่ง
“คุณกร้าวเข้มแข็งจังนะคะ อรอยากเข้มแข็งให้ได้สักครึ่งหนึ่งของคุณกร้าวก็ยังดี”
กร้าวเจ็บปวด
“คงเพราะชีวิตผมเคยผ่านเรื่องเลวร้ายมาก่อน ความสูญเสียมันสอนให้รู้ว่าไม่มีประโยชน์ที่จะมัวจมกับความทุกข์”
กร้าวมองไปด้านหลังอรชา สายตาเขามองข้ามไหล่เธอไปยังรูปประสิทธิ์ วิชเวทย์บนผนังด้านหนึ่งด้วยความเจ็บแค้น

กร้าวออกมาจากบ้าน รีบร้อนอยากกลับไปหาอนุช เจอลลิตายืนรออยู่ ท่าทางเอาเรื่อง กร้าวไม่สบายใจ รู้ว่าลลิตาไม่ปล่อยตนไปง่ายๆ...กร้าวดึงลลิตาหลบมาคุยกันที่มุมลับตาคน ลลิตาออดอ้อนยั่วยวน
“ไม่กลับไร่ไม่ได้เหรอคะ ลิต้าคิดถึงคุณกร้าวใจจะขาดแล้วนะ”
ลลิตาเขี่ยแผ่นอกเขาเล่น ช้อนตามองอย่างยั่วยวน กร้าวลำบากใจ แต่ก็ตอบชัดเจน
“ไม่ได้หรอกครับ”
ลลิตาเซ็ง
“อยากรู้จังว่าที่ไร่มีอะไรดี วันๆ คุณกร้าวถึงขลุกอยู่แต่ที่นั่น”
“ที่ไร่มีเรื่องนิดหน่อย ผมเลยต้องกลับไปจัดการ ผมไปนะครับ”

กร้าวผละจากลลิตา แล้วออกไป ไม่สนใจเธอเลย ลลิตาไม่พอใจหงุดหงิด

อนุชกำลังทำงานอยู่ ป้าพร้อมเดินนำขำเข้ามาหา ขำยกแก้วน้ำหวานเย็นๆ มาให้

“ขอบคุณค่ะป้าพร้อม ขอบใจนะจ๊ะขำ”
อนุชดื่มน้ำหวาน ป้าพร้อมใช้ผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อให้อย่างสงสาร
“ทำมาทั้งวันแล้ว พักสักหน่อยเถอะค่ะ”
“พักไม่ได้หรอกค่ะ เดี๋ยวเจ้านายจะว่าเอา ยิ่งโหดๆอยู่ด้วย”
กร้าวเดินมาด้านหลัง อนุชไม่เห็น ป้าพร้อมและขำเห็นก็ตกใจ แต่เตือนอนุชไม่ทัน
“โหดมากมั้ย”
อนุชหันไปมอง เห็นหน้ากร้าวก็ตกใจ
“คุณมาตั้งแต่เมื่อไร”
“ก็ทันได้ยินคุณนินทาผมละกัน”
อนุชไม่ยอมแพ้
“ฉันไม่ได้นินทา ฉันพูดความจริง”
กร้าวไม่พอใจ ไม่ยอมแพ้เช่นกัน
“มาเหนื่อยๆ ไปเอาน้ำเย็นมาให้ผมสักแก้วซิ”
ป้าพร้อมรีบเสนอตัว
“เดี๋ยวพร้อมไปเอาให้นะคะ”
กร้าวเสียงเข้ม
“ไม่ต้อง ผมไม่ได้สั่งป้าพร้อม ผมสั่งคุณนุช”
อนุชไม่พอใจ หันไปทำงานต่อ ทำเป็นหูทวนลม ไม่ได้ยิน กร้าวไม่พอใจจับไหล่อนุชหันมา
“ผมพูดกับคุณไม่ได้ยินรึไง ไปเอาน้ำมาให้ผม”
“ไม่ ฉันทำงานให้ป๋า ไม่ใช่คนใช้คุณ คุณไม่มีสิทธิ์ใช้ฉัน”
“แต่คุณต้องทำ คุณไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธผม”
กร้าวลากอนุชออกไป อนุชดิ้นรนขัดขืน แต่สู้กำลังเขาไม่ได้
“ปล่อยฉันนะ”
ป้าพร้อมกับขำตกใจ ห่วงอนุชรีบตามไป

กร้าวลากอนุชมามุมหนึ่งในไร่
“ปล่อยฉัน”
“แค่สั่งให้เอาน้ำเย็นมาให้ ทำท่าจะเป็นจะตาย...เดี๋ยวก็สั่งให้ถูหลังให้ตอนอาบน้ำซะเลย”
อนุชทุบตีเขา
“คนบ้า คนหยาบคาย ปล่อยฉันนะ”
กร้าวลากอนุชมาเจอชาติ
“ปล่อยหนูนุชเดี๋ยวนี้”
กร้าวยิ่งไม่พอใจที่ชาติปกป้อง อนุชสะบัดจากกร้าว มาหลบหลังลุงชาติ
“ต่อไปนี้นุชไม่ใช่คนงาน ลุงจะรับนุชเป็นลูกบุญธรรม”
อนุชตกใจที่ชาติพูดต่อหน้ากร้าว
“ป๋า...”
กร้าวหน้าเคร่งเครียด

กร้าวคุยกับชาติอยู่ในห้องนอน เขาไม่เข้าใจลุงเลยจริงๆ
“คุณลุงคงลืมไปแล้วว่าวิชเวทย์เป็นศัตรูของเรา”
“ความแค้นไม่ใช่มรดกนะกร้าว ลูกจะได้รับช่วงต่อจากพ่อได้”
“ความแค้นไม่ใช่มรดก แต่เป็นหนี้ พวกวิชเวทย์ติดหนี้ผม หนี้แค้นที่พวกเขาต้องชดใช้ด้วยชีวิต”
“จำไว้นะกร้าว ความแค้นมันเหมือนไฟ มันไม่ได้เผาทำลาย แค่คนที่เราแก้แค้น แต่มันเผาทำลายตัวเราเองด้วย ลุงไม่อยากเห็นชีวิตที่กำลังรุ่งโรจน์ของกร้าวต้องพังลง”
กร้าวเจ็บปวด
“ชีวิตผมมันพังไปตั้งแต่วันที่ไอ้ประสิทธิ์ทำร้ายแม่ผมแล้ว ผมไม่มีอะไรจะเสียแล้ว”
กร้าวออกจากห้องไป ชาติหนักใจและห่วง

กร้าวออกมาจากห้องชาติ หน้าเครียด อนุชยืนรออยู่ ไม่สบายใจ พยายามอธิบาย
“ฉันบอกป๋าไปแล้วว่าฉันไม่ต้องการอะไรจากป๋าทั้งนั้น”
กร้าวเห็นหน้าอนุชก็ยิ่งโกรธ
“ไม่ต้องสร้างภาพเป็นคนดีกับผมหรอก ผมรู้ทันคุณ ทำงานมันเหนื่อยนักรึไงถึงอยากรวยทางลัด ถ้าอยากสบายทำไมไม่บอกผม”
กร้าวกระชากร่างอนุชมากอดจูบซุกไซih
“ปล่อยฉัน”
อนุชตกใจ ทั้งหยิกทั้งตี
“ดีดดิ้นทำไม ผมมีเงินให้นะ อยากได้เท่าไรล่ะ แค่เอาใจผมนิดหน่อย ไม่ต้องเสแสร้งเป็นคนดีให้เหนื่อยด้วย”
อนุชดิ้นรนทุบตี กร้าวไม่สน กอดจูบไม่หยุด อนุชได้จังหวะกัดจมูกเขาอย่างแรง
“โอ๊ย”
อนุชผลักแล้วตบหน้า น้ำตานองหน้า โกรธและเจ็บปวดมากที่โดนดูถูกศักดิ์ศรี เธอเสียใจ วิ่งหนีไปทั้งน้ำตา กร้าวอึ้ง พูดไม่ออก

อนุชวิ่งร้องไห้ออกมาจากบ้าน คนงานกำลังขนของลงจากท้ายรถกระบะ โดยจอดรถติดเครื่องและเปิดประตูด้านคนขับทิ้งไว้ อนุชขึ้นรถและขับออกไปเลย คนงานยกของกล่องสุดท้ายพอดีก็ตกใจร้องโวยวายเสียงหลง
อนุชขับรถไป ร้องไห้ไป เสียใจที่โดนกร้าวดูถูก เธอมัวแต่ร้องไห้รถคันหนึ่งแล่นตัดหน้า ต้องหักรถหลบกะทันหัน รถกระบะเสียหลัก พุ่งลงข้างทาง อนุชตกใจ พยายามจะเบรก แต่เบรกไม่อยู่ รถพุ่งไถลไปอย่างเร็วตามทางลาดชัน สองข้างทางเป็นป่ารก รถพุ่งไปชนต้นไม้และนิ่งไป

อนุชศีรษะกระแทกพวงมาลัย หมดสติไป

ชายธงคุยกับกรวิกอยู่ในร้านกาแฟ สองหนุ่มคุยกันด้วยความกลัดกลุ้ม

“ฉันจนปัญญาไม่รู้จะไปหาที่ไหน ถามเพื่อนทุกคนเท่าที่นึกออกแล้ว นุชไม่ได้ติดต่อใครเลย”
กรวิกก็ไม่สบายใจ
“ฉันก็เป็นห่วงนุชเหมือนกัน นุชไม่เคยเป็นแบบนี้มาก่อนเลย”
“ถ้านุชติดต่อมา รีบบอกฉันเลยนะ”
“ได้ นายก็เหมือนกันนะ”
ชายธงพยักหน้าแทนคำตอบ

คณิตดูผลเอ็มอาร์ไอของอสิตที่กร้าวเอามาให้ อยู่มุมหนึ่งในไร่ทานตะวัน กร้าวรอฟังคณิตด้วยความกังวล
“เคสของนายอสิต น่าจะพอมีหวัง”
กร้าวดีใจ คณิตสงสัย
“แกคิดยังไงถึงช่วยนายอสิต อย่าบอกนะว่าเกิดใจอ่อนกับศัตรู”
“ฉันไม่มีวันใจอ่อน แต่ฉันไม่ชอบคู่ต่อสู้ที่ด้อยกว่า อีกอย่างพวกวิชเวทย์ต้องเจ็บด้วยมือฉันเท่านั้น มันถึงจะสาสม”
กร้าวยังทิฐิ ยังยึดมั่นกับการแก้แค้น

กร้าวคุยโทรศัพท์กับอรชาอยู่หน้าบ้าน
“ผมกำลังจะออกจากไร่แล้วครับ อยากเจอคุณอรเร็วๆ จังเลย...แล้วเจอกันนะครับ”
กร้าววางสายจากอรชา ยิ้มร้าย ป้าพร้อมกระวนกระวาย ไม่สบายใจ รีบมาบอก
“คุณกร้าวคะ คุณนุชยังไม่กลับมาเลยค่ะ”
“ไม่เห็นต้องเป็นห่วงเลย ยายนั่นไม่ใช่เด็กแล้ว ป่านนี้อาจจะมัวเถลไถลที่ไหนก็ได้ ไปเองได้ก็ต้องกลับเองได้สิ”
กร้าวไม่สน ออกจากบ้านไป ป้าพร้อมไม่สบายใจ ห่วงอนุช

ฝนตกลงมาอย่างหนัก อนุชรู้สึกตัวฟื้นขึ้น ปวดศีรษะ
“โอ๊ย...”
อนุชกระเสือกกระสนออกมาจากรถ เธอมองไปรอบข้างที่เป็นพื้นที่ของไร่ทานตะวันซึ่งรกเรื้อกว้างไกลสุดลูกหูลูกตา ไม่มีบ้านคน รอบข้างเงียบเชียบ น่ากลัว เธอไม่รู้ไปทางไหน แต่เพราะฝนตกหนัก เลยต้องวิ่งหาที่หลบฝน...กร้าวขับรถฝ่าฝนตกหนักมองฟ้าฝนแล้วไม่สบายใจ เริ่มห่วงอนุชแต่ยังปากแข็ง ไม่ยอมรับความรู้สึกของตัวเอง เขาขับรถพลางครุ่นคิด ห่วงอนุช สุดท้ายก็เลี้ยวรถกลับอย่างเร็ว

อรชาแต่งตัวสวย รออยู่ อารมณ์ดี ดีใจที่จะได้เจอกร้าว โทรศัพท์มือถือของเธอดังขึ้น
“คุณอรครับ เกิดเรื่องที่ไร่ ผมคงไปรับคุณไม่ทัน ไปเจอกันที่ร้านนะครับแล้วผมจะรีบไป ขอโทษด้วยนะครับ”
กร้าววางสายไป อรชาไม่สงสัยอะไร ปรารภเข้ามาพอดี
“คุณอรจะไปไหนรึครับ ให้ผมไปส่งมั้ย”
“เอ่อ งั้น รบกวนคุณรภหน่อยนะคะ”
อรชายิ้มให้ปรารภ

ค่ำนั้น...อนุชเดินตากฝน ลื่นล้ม เจ็บขา
“โอ๊ย”
กร้าวขับรถพลางมองหาอนุช เขาโทรศัพท์หา ก็เป็นสัญญาณปิดเครื่อง ติดต่อไม่ได้ กร้าวมองหาไปเรื่อยๆ ตามสองข้างทางที่รถผ่าน

ในร้านอาหารหรู พนักงานเลื่อนเก้าอี้ให้อรชานั่งอย่างสุภาพ อรชายิ้มแทนคำขอบคุณให้พนักงาน ท่าทางเธอดูมีความสุขที่จะได้เจอกร้าว ปรารภยืนมองอรชาจากด้านนอกร้าน เศร้าหมองที่รู้ว่าอรชานัดกับกร้าว

อนุชกะเผลกมานั่งหลบฝนใต้ต้นไม้ ตัวเปียกปอนไปหมดทั้งตัว หนาว มองไปรอบตัว ทั้งมืด ทั้งเปลี่ยวฟ้าผ่าดังกึกก้อง อนุชปิดหู กรี๊ดลั่นหวาดกลัวจับใจ...กร้าวขับรถมาเห็นชาวบ้าน 3-4 คนกำลังมุงดูรถที่เกิดอุบัติเหตุ เขาไม่สบายใจ รีบจอดรถและวิ่งฝ่าฝนไปดู เขาแหวกไทยมุงเข้าไปเห็นคนเจ็บเป็นผู้ชายนั่งอยู่ ศีรษะแตก มีแผล เลือดออกเป็นอุบัติเหตุเล็กๆ จากมอเตอร์ไซค์ลื่นล้ม กร้าวอึ้งที่ไม่ใช่อนุช แต่ก็กังวลที่หาเธอไม่เจอ ใจคอไม่ดีกลัวจะมีอุบัติเหตุ กร้าวกลับมาที่รถ กดโทรศัพท์มือถือ
“เกณฑ์คนที่ไร่ให้ออกมาช่วยกันตามหาคุณอนุช...”

กร้าวและคนงานแยกย้ายกันตามหา เสียงคนงานตะโกนเรียกดังขึ้นจากมุมหนึ่งไกลออกไป
“ทางนี้ครับคุณกร้าว”
กร้าวและคนงาน 2-3 คนรีบไป เมื่อไปถึงที่เกิดเหตุก็เห็นรถกระบะของไร่ทานตะวันที่อนุชขับมาชนต้นไม้ กร้าวเครียดทันที
“แยกย้ายกันตามหา อาจจะอยู่ไม่ไกล”

คนงานแยกย้ายตามหา กร้าวกังวลมาก ห่วงว่าอนุชจะมีอันตราย

ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง ตอนที่ 3 (ต่อ)

ด้านอรชานั่งรออยู่ที่ร้าน เริ่มกระวนกระวาย พนักงานนำเครื่องดื่มมาเสิร์ฟให้ เป็นน้ำผลไม้ในแก้วทรงสูงที่ตกแต่งสวยงาม อรชาโทรศัพท์หากร้าว...แต่โทรศัพท์มือถือกร้าวอยู่ในรถ ไม่ได้เอาไปด้วย

อรชารอจนสายตัดไปไม่สบายใจที่ติดต่อเขาไม่ได้ มองไปรอบๆ โต๊ะอื่นมากันเป็นคู่ๆ ต่างมีความสุข อรชามองอย่างเศร้าๆ

กร้าวส่องไฟฉายตามหาอนุช ฝนยังคงโปรยปราย กร้าวตะโกนเรียก
“นุช คุณอยู่ที่ไหน นุช”
กร้าวหน้าเครียด เป็นห่วงอนุชมาก เขาใช้ไฟฉายส่องที่พื้น เห็นรอยเท้าเล็กๆ แบบรอยเท้าผู้หญิงก็มีความหวัง
“นุช!”
กร้าวรีบส่องไฟฉายหาไปรอบๆ เห็นอนุชนอนหมดสติอยู่ใต้ต้นไม้เข้าดีใจ
“นุช!”
กร้าวรีบวิ่งไปประคองอนุช ซึ่งเนื้อตัวเปียกปอนเขย่าเรียก
“นุช ตื่นสิ นุช”
กร้าวแตะหน้าผากอนุช ตัวร้อนจัด
“ตัวร้อนจี๋เลย”

กร้าวขับรถมาจอดหน้าบ้านไร่ทานตะวัน ชาติ พร้อมและขำรออยู่เห็นกร้าวอุ้มอนุชลงมาจากรถก็ตกใจ กร้าวหันไปสั่งป้าพร้อม
“ป้าพร้อมครับ โทรตามหมอคณิตด่วนเลย”
กร้าวอุ้มอนุชเข้าบ้านไป

ลูกค้าโต๊ะสุดท้ายเช็คบิลเสร็จแล้วออกจากร้านไป เหลืออรชาคนเดียวนั่งหน้าเศร้าหมอง มองโทรศัพท์และตัดสินใจโทรหากร้าวอีกครั้ง เป็นสัญญาณโทรติด อรชาลุ้นให้เขารับสาย แต่กร้าวลืมโทรศัพท์มือถือไว้ในรถ โทรศัพท์ดังจนแบตหมดไป...อรชารอสาย สายตัดไป เธอไม่สบายใจ ลองกดโทรออกอีกครั้ง คราวนี้ติดต่อไม่ได้ อรชาอยากร้องไห้ทั้งอายและเสียใจ

อรชาออกมาจากร้านเศร้าๆ ปรารภนั่งรออยู่ที่มุมหนึ่งหน้าร้าน พอเห็นเธอออกมาก็ลุกมาหา
“คุณอร”
อรชาเห็นปรารภก็แปลกใจมาก
“คุณรภ”
ปรารภยิ้มซื่อๆ ให้อรชา

อนุชนอนยู่บนเตียง เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว คณิตฉีดยาให้ ชาติ กร้าวและขำ ต่างเป็นห่วงอนุช
“คงจะตากฝนจนไข้ขึ้นครับ ให้ยาลดไข้แล้ว ปล่อยให้นอนพักก็คงจะดีขึ้น แต่ต้องคอยเช็ดตัวลดไข้นะครับ”
กร้าวไม่สบายใจ คณิตหันมาบอก
“ฉันไปก่อนนะ”
คณิตไหว้ชาติแล้วออกจากห้องไป ขำตามไปส่ง ป้าพร้อมยกกะละมังใบเล็กใส่น้ำและผ้าสะอาดเข้ามา ป้าพร้อมจะเช็ดตัวให้อนุช แต่กร้าวอาสา
“ผมเองครับ คุณลุงกับป้าพร้อมไปพักเถอะ ผมจะเฝ้าอนุชเอง”
ป้าพร้อมแปลกใจ ชาติรู้ว่ากร้าวห่วงอนุช
“ฝากดูหนูนุชด้วยนะ”
ป้าพร้อมเข็นรถชาติออกจากห้องไป กร้าวไม่สบายใจ เป็นห่วงอนุช เขาใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าให้อย่างอ่อนโยน

ปรารภขับรถพาอรชามาที่ริมแม่น้ำ อรชานั่งเหม่อเศร้า น้ำตาไหลพราก นิ่งๆแล้วรีบหันหน้าหนีไปอีกทาง แอบเช็ดน้ำตา ไม่อยากให้ปรารภที่นั่งอยู่ข้างๆ เห็นว่าร้องไห้ ปรารภนั่งอยู่ข้างๆสงสารอรชา
“ถ้าอยากร้องก็ร้องออกมาเถอะครับ”
อรชามองปรารภ แล้วเลยกลั้นน้ำตาไม่อยู่ ร้องไห้ออกมาพรั่งพรูความในใจทั้งน้ำตา
“อรไม่รู้ว่าคุณกร้าวคิดอะไรกันแน่ บางทีก็ทำเหมือนอรเป็นคนสำคัญแต่บางครั้งก็ไม่ใส่ใจอรเลย”
ปรารภสงสาร ปลอบใจอรชา
“เขาอาจจะติดธุระกะทันหันก็ได้นะครับ”
“เขาน่าจะโทรมาบอกอรสักนิด ไม่ใช่ปล่อยให้อรเป็นบ้าอยู่คนเดียวแบบนี้”
อรชาร้องไห้ ซบไหล่ปรารภ สะอึกสะอื้น เจ็บปวด สับสน ปรารภลูบผมและแตะไหล่อรชาแทนคำปลอบโยน

กร้าวใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดแขนให้อนุช มองด้วยความห่วงใย อนุชเพ้อเบาๆเพราะพิษไข้
“พี่อรคะ พี่สิต ช่วยนุชด้วย นุชกลัว”
กร้าวสงสาร กุมมืออนุชมาแนบแก้ม
“ไม่ต้องกลัวนะนุช คุณปลอดภัยแล้ว ผมอยู่ตรงนี้ทั้งคน ผมไม่ยอมให้คุณเป็นอะไรไปเด็ดขาด”
อนุชเพ้ออีก
“คุณกร้าวเขาเกลียดนุช เขาเกลียด...”
อนุชน้ำตาซึม ทั้งๆ ที่ยังหลับไม่ได้สติ กร้าวรู้สึกผิด สงสารจับใจ ซับน้ำตาให้แล้วลูบผมอย่างปลอบโยน
“คุณเข้าใจผิด ความจริงแล้วผมไม่เคยเกลียดคุณเลย ทั้งๆ ที่คุณคือวิชเวทย์ศัตรูของผม คนที่ผมควรจะเกลียด แต่ไม่รู้ทำไม ไม่ว่าจะพยายามแค่ไหนผมกลับ...เกลียดคุณไม่ลง”
กร้าวสับสน ไม่เข้าใจตัวเอง ไม่กล้ายอมรับความรู้สึกว่าจริงๆ แล้วรักศัตรูของตัวเอง เหมือนมีแรงดึงดูดเกินจะต้านทาน กร้าวค่อยๆ ก้มหน้าเข้าใกล้ใบหน้าอนุชช้าๆ เกือบจะจูบที่ริมฝีปากสวย แต่ก็หยุดไว้ พยายามอย่างหนักที่จะห้ามใจตัวเอง

ที่สุดกร้าวจูบที่หน้าผากแทนอย่างแผ่วเบา

อรชานั่งเหม่อมองแม่น้ำอย่างเศร้าๆ ปรารภเข้ามานั่งข้างๆ ส่งขวดน้ำให้ อรชารับไปแล้วนึกได้

“คุณรภรออรอยู่ที่ร้านตลอดเลยเหรอคะ”
“ผม...เอ่อ ไม่อยากทิ้งให้คุณอรอยู่คนเดียว ก็เลยรอเป็นเพื่อนตั้งใจว่าถ้าคุณกร้าวมาเมื่อไร ผมก็จะกลับ ผมอยากให้คุณอรรู้ว่าคุณอรไม่ได้อยู่คนเดียวบนโลกนี้ ยังมีผมคนหนึ่งที่จะอยู่ข้างๆ คุณอรเสมอ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ผมจะไม่ทิ้งคุณอรไปไหน วันที่คุณอรไม่มีใคร ขอให้คุณอรนึกถึงผมนะครับ”
ปรารภยิ้มอย่างจริงใจ อรชาซึ้งใจ
“คุณรภสัญญาได้มั้ยคะว่าจะไม่ทิ้งกัน”
ปรารภเกี่ยวก้อยสัญญากับอรชา
“ผมสัญญาว่าจะไม่ทิ้งคุณอร นอกจากว่าคุณอรจะไม่ต้องการผมครับ”
อรชาและปรารภยิ้มให้กัน อรชาซึ้งใจ รู้สึกดีขึ้นเมื่อมีปรารภอยู่ข้างๆ

ปรารภกับอรชานั่งกินก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นรถเข็นข้างทาง ลูกจ้างยกชามก๋วยเตี๋ยวมาให้สองชาม ปรารภคีบลูกชิ้นขึ้นมา
“ที่นี่ไม่มีไวน์ ไม่มีแชมเปญ งั้นฉลองด้วยลูกชิ้นแทนนะครับ”
อรชาขำปรารภ แต่ก็คีบลูกชิ้นมาชนกัน
“ฉลองให้กับมิตรภาพของเราสองคนครับ”
อรชากำลังจะกินลูกชิ้น แต่ปรารภรีบร้องห้าม
“เดี๋ยวครับคุณอร กินธรรมดามันไม่อร่อยหรอกครับ มันต้องแบบนี้”
ปรารภควงแขนอรชา ผลัดกันป้อนลูกชิ้น อรชาจะกินลูกชิ้น ปรารภแกล้งไม่ให้กิน แต่พออรชาทำหน้าดุใส่ ปรารภก็ไม่กล้าแกล้งอีก อรชาจึงกินลูกชิ้นที่ปรารภป้อน พอปรารภจะกิน อรชาแกล้งบ้าง ไม่ให้กิน อรชาหัวเราะสนุก แกล้ง 2-3 ครั้งแล้วถึงยอมให้ปรารภกิน ปรารภและอรชาใช้ตะเกียบแย่งกันจิ้มลูกชิ้นลูกสุดท้ายในชาม ทั้งสองหัวเราะสนุก ทำให้อรชาลืมเรื่องผิดหวังในวันนี้ไปได้

กร้าวแตะหน้าผากอนุช แล้วกังวลใจ เขาใช้ผ้าชุบน้ำเช็ดหน้าให้ กร้าวหาวหวอดทั้งง่วงและเหนื่อย แต่ไม่ยอมนอน ยังคงพยายามเช็ดตัวลดไข้ กร้าวนั่งข้างเตียง กุมมืออนุช มองอนุชด้วยความห่วงใย กร้าวนั่งข้างเตียง ฟุบหน้าหลับ แล้วรู้สึกตัวตื่นขึ้น นึกถึงอนุชเป็นคนแรก อนุชเพ้อออกมา
“หนาว...หนาว...”
กร้าวเป็นห่วง ขยับผ้าห่มให้ปิดถึงคอ อนุชก็ยังนอนตัวสั่น กร้าวร้อนใจ ไม่รู้จะทำยังไง จึงกอดอนุชไว้แนบแน่นอย่างกังวล
“อดทนไว้ อย่าเป็นอะไรนะนุช เธอต้องเข้มแข็งไว้นะ”
กร้าวนอนกอดอนุช กังวล ห่วงมาก

ปรารภมาส่งอรชาที่บ้าน
“ขอบคุณนะคะ ที่อยู่เป็นเพื่อนอร”
“คุณอรเป็นหนี้บุญคุณผมนะครับ”
อรชาแปลกใจ แต่ก็ยิ้มขำ
“อรจะตอบแทนยังไงดีคะ”
“ผมขอแค่คุณอรยิ้มก็พอครับ”
อรชาแปลกใจมาก
“แค่นั้นเองเหรอคะ ขอน้อยจัง”
“แค่นี้ก็พอแล้วครับ เพราะถ้าคุณอรมีความสุข ผมก็มีความสุขไปด้วยแล้ว”
อรชายิ้มให้ ปรารภสบายใจ เมื่อเห็นอรชายิ้มได้

กรวิกนั่งมองโทรศัพท์มือถืออยู่ในห้องรับแขก รอสายกร้าวแต่กร้าวก็ไม่โทรมา อยากโทรไปแต่ก็ลังเล ไม่กล้าโทร บนโต๊ะมีขวดโหลสวยๆ กับกระดาษสีสวยที่กรวิกใช้พับรูปหัวใจใส่ในขวดโหลให้กร้าว เธอเพิ่งเริ่มพับไปได้นิดเดียว ยังไม่เต็มโหล กรวิกถอนใจ กาญจนาเข้ามา
“อยากคุยทำไมไม่โทรไปหาอากร้าวล่ะลูก มัวแต่นั่งเศร้า เขาจะรู้มั้ย”
“นกเกรงใจ ไม่อยากรบกวนอากร้าวค่ะ หมู่นี้อากร้าวงานยุ่งมาก”
กรวิกเศร้า หันไปพับกระดาษเป็นรูปหัวใจต่อ กาญจนาสงสารลูก ชวนคุยเรื่องอื่นแทน
“ไหนสอนแม่พับบ้างสิ”
กรวิกสอนพับ สองแม่ลูกสนิทสนมกัน มีความสุข เป็นครอบครัวที่อบอุ่น

บรรยากาศยามเช้าในไร่ทานตะวัน อนุชลืมตาขึ้นมาเจอกร้าวระยะประชิด อยู่ในอ้อมกอดของเขาที่ไม่ใส่เสื้อ แต่ท่อนล่างยังอยู่ครบ เพราะเอาเสื้อเขามาห่มตัวให้เธอไว้ อนุชตาโตตกใจมาก
“คุณกร้าว!”
อนุชจะผลักกร้าวออก แต่เขานอนกอดแน่น แถมหลับสนิท อนุชดิ้นไม่หลุดดิ้นไปดิ้นมา หน้ากร้าวยิ่งเข้ามาใกล้มากขึ้น อนุชอาย พยายามจะหลบแต่หน้าเขาก็มาอยู่ตรงแก้มพอดี เธอพยายามปลุกเขา
“นี่ คุณกร้าว ตื่นเดี๋ยวนี้เลยนะ ตื่น ไม่ตื่นใช่มั้ย”
อนุชหยิกแขน กร้าวเจ็บ สะดุ้งตื่นขึ้น ตกใจที่ตัวเองเผลอหลับไป
“นุช คุณเป็นไงบ้าง”
กร้าวแตะหน้าผากอนุชแล้วดีใจ
“ไข้ลดแล้ว”
อนุชโกรธ คิดว่าเขาฉวยโอกาส ผลักออก
“ปล่อยฉันนะ คุณทำอะไรฉัน คนฉวยโอกาส”
กร้าวน้อยใจ
“ผมอุตส่าห์ช่วยคุณ ขอบคุณสักคำก็ไม่มี ยังมาหาว่าฉวยโอกาสอีก”
อนุชไม่เชื่อ
“ช่วยอะไร ทำไมต้องมากอดฉันด้วย”
“ก็เมื่อคืนคุณบ่นว่าหนาว ห่มผ้าให้ก็ยังไม่หายผมก็เลยช่วยให้อุ่นขึ้นทำเป็นโวย ทีเมื่อคืนกอดผมแน่น แถมยังเพ้อถึงผมไม่หยุดเลย”
อนุชอายและโกรธมาก คว้าหมอนขว้างใส่
“ออกไปจากห้องฉันเลยนะ คนบ้า”
กร้าวคว้าเสื้อแล้วรีบหนี
“คนอุตส่าห์ช่วย ยังมาไล่อีก ไม่รู้จักบุญคุณคน”

อนุชขว้างหมอนอีกใบ กร้าวรีบเผ่นแนบออกจากห้องไป

กร้าวรีบวิ่งหนีออกมาจากห้อง เจอป้าพร้อมที่เดินเข้ามา

“ว้าย คุณกร้าว เกิดอะไรขึ้นคะ แล้วคุณนุชเป็นยังไงบ้าง”
“แรงเยอะขนาดนี้ท่าทางจะไม่เป็นไรแล้วล่ะ”
“ฝากป้าพร้อมดูด้วยละกันนะครับ...พอหายก็ฤทธิ์มากทันที”
กร้าวเดินหนีไป ป้าพร้อมแปลกใจ

ป้าพร้อมเข้ามาในห้อง อนุชคิดว่าเป็นกร้าว เงื้อหมอนจะขว้างใส่ แต่พอเห็นเป็นป้าพร้อมก็ชะงัก
“ป้าพร้อม ขอโทษค่ะ นุชนึกว่า...”
“อย่าโกรธคุณกร้าวเลยค่ะ เมื่อคืนคุณกร้าวเฝ้าไข้คุณนุชไม่ได้หลับได้นอนทั้งคืนเลยค่ะ”
อนุชอึ้ง
“เห็นคุณนุชแข็งแรงดีแล้ว ป้าก็โล่งอก เดี๋ยวป้าไปเรียนคุณชาติก่อนนะคะ ท่านห่วงมาก”
“ค่ะ ป้า นุชขอโทษด้วยนะคะที่ทำให้ทุกคนเป็นห่วง”
ป้าพร้อมยิ้มให้และออกจากห้องไป อนุชมองข้างเตียง เห็นถังใบเล็กและผ้าขนหนูผืนเล็กวางอยู่ ก็ใจอ่อน รู้สึกผิดที่เข้าใจผิดและต่อว่ากร้าว อนุชสับสน เพราะเขาช่วยชีวิตตนไว้ แต่ที่ผ่านมาเขาก็ทำเรื่องร้ายๆ ไว้มากเกินกว่าจะให้อภัย

อรชานั่งอ่านหนังสืออยู่ในสวน ปรารภเข้ามาหา ถือถุงอาหารและขนมพะรุงพะรัง
“คุณอรครับ”
“คุณรภ หอบอะไรมาเยอะแยะคะ”
“ผมซื้อของอร่อยมาฝากคุณอรครับ”
“คุณรภจะขุนอรเหรอคะ มาทีไรมีของอร่อยมาด้วยทุกที”
“กองทัพต้องเดินด้วยท้องไงครับ”
ปรารภนั่งข้างอรชา ขณะเดียวกันนั้นโทรศัพท์มือถืออรชาดังขึ้น ที่หน้าจอโทรศัพท์มีรูปกร้าวถ่ายคู่กับเธอ อรชาและปรารภต่างอึ้ง อรชาโกรธกร้าว ไม่ยอมรับสาย ปล่อยให้โทรศัพท์ดัง จนสายตัดไป...กร้าวไม่สบายใจ โทรอีกครั้ง โทรศัพท์ดังขึ้นอีก อรชาเริ่มลังเล แต่พยายามใจแข็ง ปรารภมองออก
“ถ้าคุณอรอยากคุยกับคุณกร้าว ก็รับสายเถอะครับ”
ปรารภออกไป อรชามองโทรศัพท์แล้วลังเล...ปรารภเดินออกมาอีกมุมหนึ่ง หันไปมองอรชาเห็นเธอมองโทรศัพท์อย่างชั่งใจ ปรารภพลอยลุ้นไปด้วยแต่ในที่สุดอรชาก็รับสาย ปรารภผิดหวัง เศร้า หันหลังออกไป...กร้าวดีใจที่อรชารับสาย
“ผมขอโทษที่ผิดนัด เมื่อคืนเกิดเรื่องที่ไร่ครับ คนงานเกิดอุบัติเหตุรถชน”
“ทำไมคุณกร้าวไม่โทรบอกอรสักคำ ปล่อยให้อรเป็นตัวตลกอยู่ในร้าน”
“ตอนนั้นมันฉุกละหุกมาก ผมมัวแต่ยุ่งเลยไม่ได้โทรกลับ”
อรชาร้องไห้ด้วยความสับสน
“ผมรู้ว่าผมทำผิดอย่างไม่น่าให้อภัย แต่ผมอยากขอโอกาสอีกสักครั้ง”
อรชาลังเล
“ผมจะรีบจัดการธุระทางนี้ให้เรียบร้อยแล้วจะรีบไปหาคุณนะครับ”
กร้าววางสาย เริ่มรู้สึกไม่สบายใจกับสิ่งที่ทำอยู่

อรชาไม่แน่ใจว่าตัวเองทำถูกหรือไม่ที่ใจอ่อนกับกร้าว ปรารภเข้ามา มองอย่างอยากรู้คำตอบ
“คุณกร้าวบอกว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องที่ไร่ คุณกร้าวเลยมาตามนัดไม่ได้ค่ะ”
อรชารู้สึกผิดที่ใจอ่อน
“อรควรทำยังไงดีคะ”
ปรารภเจ็บปวดที่ต้องมาเป็นที่ปรึกษาความรักของอรชา แต่ก็ยอมเพราะความรักและความหวังดี
ที่มีให้เธออย่างจริงใจ
“ถ้าเป็นผม ผมจะฟังเสียงหัวใจตัวเองครับ ชีวิตคนเรามันสั้น ไม่มีใครรู้หรอกว่าจะมีชีวิตอยู่ถึงเมื่อไร อะไรที่ทำแล้วมีความสุขก็ทำเถอะครับ”
อรชาซึ้งใจ
“ค่ะ ขอบคุณนะคะ”
ปรารภเศร้า แต่ก็ฝืนยิ้มให้อรชา

อนุชกราบตักชาติ เธอมาลาเขา ชาติลูบผมอนุชด้วยความเอ็นดูและใจหายที่เธอจะไปจากไร่
“ไม่ว่ายังไงป๋าก็คงห้ามนุชไม่ได้ นุชเป็นคนดี ขอให้รักษาความดีไว้ จำไว้นะลูก ความดีนี่แหละจะคุ้มครองเรา”
อนุชซึ้งใจ กอดชาติ น้ำตาคลอ
“ป๋ารักษาสุขภาพด้วยนะคะ”
“ไร่ทานตะวันและทุกคนที่นี่รักนุชและยินดีต้อนรับนุชเสมอ นุชจะมาเมื่อไรก็ได้นะลูกนะ”
อนุชผละจากชาติ เดินไปหาป้าพร้อมและขำ ป้าพร้อมน้ำตาคลอ ส่วนขำร้องไห้สะอึกสะอื้น อนุชกราบที่อกป้าพร้อม
“นุชขอบคุณป้าพร้อมที่เมตตานุช” เธอหันไปหาขำ “ฉันจะไม่ลืมเธอ”

ป้าพร้อมและขำกอดอนุช สามคนกอดกันร้องไห้

อนุชถือกระเป๋าเสื้อผ้า ออกมาจากบ้าน มองบ้านทานตะวันด้วยความผูกพัน แล้วตัดใจจะไป แต่นึกถึงคำพูดของป้าพร้อม

“เมื่อคืนคุณกร้าวเฝ้าไข้คุณนุช ไม่ได้หลับได้นอนทั้งคืนเลยค่ะ”
อนุชลังเล

อนุชถือกระเป๋าเสื้อผ้าเข้ามา มองหา กร้าวเดินมาพอดี ทั้งสองเจอหน้ากัน อนุชเห็นหน้าเขาก็พูดไม่ออก กร้าวเห็นอนุชถือกระเป๋าเสื้อผ้าก็ตกใจ
“คุณจะไปไหน”
“ก็ไปจากที่นี่ คุณไม่อยากให้ฉันอยู่ที่นี่ไม่ใช่เหรอ”
กร้าวออกคำสั่ง
“ผมไม่ให้คุณไป”
อนุชงง
“คุณจะเอายังไงกันแน่ คุณไม่ชอบฉัน ฉันก็จะไม่อยู่ให้คุณเห็นหน้าไง”
กร้าวอึกอัก ไม่อยากให้ไป พยายามคิดหาเหตุผล
“ก็ เอ่อ” เขานึกออก “คุณยังใช้ทุนไม่หมด คิดจะหนีรึไง”
“ฉันไม่ได้หนี แต่ฉันไม่อยากให้คุณกับป๋ามีปัญหากันต่างหาก เรื่องทุนไม่ต้องห่วง ฉันจะทำงานหาเงินมาใช้คืนให้ครบ”
กร้าวไม่อยากให้ไป
“ไม่รู้ล่ะ ผมสั่งไม่ให้ไป ก็ห้ามไป”
“ฉันจะไป”
อนุชดื้อจะไป กร้าวไม่ยอมเข้าไปอุ้มเลย อนุชไม่ทันตั้งตัว ตกใจ ดิ้นรน
“ว้าย นี่คุณทำอะไร ปล่อยฉันนะ”
กร้าวอุ้มอนุชออกไป...กร้าวอุ้มอนุชเข้าบ้าน อนุชดิ้น
“ปล่อยฉัน”
กร้าวอุ้มผ่านหน้าป้าพร้อมกับขำ ทั้งสองต่างอึ้งมองหน้ากัน ดีใจ
“ฉันไม่ได้ตาฝาดใช่มั้ยนังขำ”

กร้าวอุ้มอนุชเข้ามาในห้องของเธอแล้วปล่อยลงบนที่นอนพอดี อนุชจะลุกหนี กร้าวกดข้อมือสองข้างของเธอไว้ อนุชดิ้น ถีบเขาโครม
“โอ๊ย”
กร้าวเซไป อนุชรีบลุกจะหนี กร้าวไม่ยอม คว้าตัวเธอ คราวนี้นอนกอดไว้แน่น อนุชดิ้นขลุกขลักอยู่ในอ้อมกอดของเขาหนีไม่รอด
“ว้าย ปล่อยนะ”
“ไม่ปล่อย จนกว่าเธอจะสัญญาว่าเธอจะไม่ไปจากที่นี่ ว่าไง ถ้าไม่สัญญา ก็จะกอดไว้อย่างนี้แหละ ดีเหมือนกัน เมื่อคืนไม่ได้นอนทั้งคืนง้วงง่วง นอนด้วยกันเลยละกัน”
กร้าวยิ้มกรุ้มกริ่มหน้าเขาอยู่ใกล้หน้าเธอมาก อนุชอาย หลบสายตาหวานหยาดเยิ้มของเขา
“สัญญา...ฉันสัญญาก็ได้”
“ดีมาก”
กร้าวพอใจแต่ยังไม่ยอมปล่อย
“ฉันสัญญาแล้วก็ปล่อยสิ”
“เธอเพิ่งหายไข้ ควรจะนอนพัก เข้าใจมั้ย”
อนุชอึ้งที่เขาเป็นห่วง
“เข้าใจแล้ว ทีนี้จะปล่อยฉันได้รึยัง”
กร้าวยอมปล่อยทั้งๆ ที่เสียดาย เขาลุกจากเตียง แต่ไปลากเก้าอี้มานั่งข้างเตียง นั่งจ้องหน้าเธอ อนุชอาย
“มานั่งมองหน้าอย่างนี้ใครจะหลับลง”
“คนดื้ออย่างคุณ ขืนไม่เฝ้าไว้ เดี๋ยวก็ไปก่อเรื่องอีก”
อนุชนอนตะแคงหันหลังให้เพื่อจะได้ไม่ต้องเห็นหน้า อนุชนอนแล้วรู้สึกแปลกๆ ที่มีคนนั่งมองอยู่ เลยหันกลับมามอง กร้าวยังคงนั่งอยู่ที่เดิม ยิ้มหวานให้ อนุชอาย รีบหันหน้าหนีแต่แอบยิ้มเขิน กร้าวนั่งมองแล้วมีความสุข

อสิตนอนอยู่บนเตียงร้องเรียก
“ลิต้า ผมอยากเข้าห้องน้ำ”
ลลิตาหงุดหงิด เล็บยังไม่แห้ง รีบเป๋าเล็บให้แห้ง แต่ยังไม่ลุกมาหา อสิตเร่ง
“เร็วหน่อยสิลิต้า”
ลลิตาเป่าเล็บ พลางวิ่งมาหา อสิตลุกขึ้นนั่ง ลลิตาช่วยประคอง แต่ไม่ทันตกใจ
“ว้าย สิต ทำไมทำอย่างนี้ เลอะเทอะหมดแล้ว”
ลลิตาโวยวาย อสิตรู้สึกผิด
“ผมขอโทษ ผมไม่ได้ตั้งใจ”
ลลิตารังเกียจ
“อี๋ สกปรก...แหวน นังแหวน”
แหวนรีบเข้ามา ลลิตาทั้งหงุดหงิดและรังเกียจ เดินหนีไป อสิตมองตามลลิตาไปแล้วยิ่งรู้สึกไม่ดีกับตัวเองที่เป็นภาระของคนในบ้าน

ลลิตาออกมาจากบ้านเดินมาพบชายธง เขาขอที่อยู่คนที่ส่งให้อนุชเรียนจนจบ เธอจึงเอาที่อยู่ของชาติมาให้
“นี่ค่ะ จดหมายจากป๋าของยายนุช ที่อยู่อยู่บนซองค่ะ”
ชายธงดีใจ
“คุณแน่ใจเหรอว่ายายนุชจะไปที่นั่น”
“นุชเขารักและเคารพป๋ามาก ผมเลยอยากจะลองดู ที่นี่เป็นความหวังสุดท้ายของผม ถ้าไม่เจอ ผมก็จนปัญญาแล้ว”
ลลิตาหมั่นไส้ที่ใครๆ ก็รักอนุช

กร้าวป้อนข้าว อนุชหันหน้าหนี ไม่ยอมกิน
“นี่คุณ ฉันแค่เป็นไข้นะ ไม่ได้แขนด้วน ฉันทานเองได้”
กร้าวไม่ยอม จะป้อน
“ทำไมชอบขัดคำสั่ง ผมอุตส่าห์จะป้อนให้ ปกติผมไม่บริการใครง่ายๆ นะ เอ้า อ้าปากสิ”
อนุชดื้อ ไม่ยอมเปิดปาก ปิดปากแน่น
“ไม่ยอมอ้าปากเหรอ”
กร้าวคิดๆ
“มือผมก็ไม่ว่างด้วยสิ สงสัยต้องเปิดปากคุณด้วยวิธีอื่นซะแล้ว”
กร้าวแกล้งยื่นหน้าเข้าใกล้ ทำท่าจะจูบ อนุชตกใจ
“จะทำอะไร”
“จะง้างปากคนดื้อ”
อนุชกลัวกร้าวเอาจริง ยอมกิน
“ฉันกินแล้ว”
กร้าวยิ้มพอใจ
กร้าวดูแล เป่าให้หายร้อนและป้อนข้าวให้อนุชพร้อมทั้งเช็ดปากให้อย่างอ่อนโยน ทั้งสองสบตากัน แล้วต่างหลบตา

อนุชแปลกใจมาก ไม่คิดว่าเขาจะอ่อนโยนได้ขนาดนี้

โปรดติดตาม "ร้อยเล่ห์เสน่ห์ลวง" ตอนที่ 4
กำลังโหลดความคิดเห็น