เสือสมิง ตอนที่ 19
สมรักษ์ลอบเข้ามาในปางไม้ เห็นว่ามีเหตุการณ์ที่กำลังเตรียมตัวและเตรียมกำลัง เขาหลบตามสิ่งของและกองไม้ ค่อยๆเคลื่อนไป เบิ้มนำลูกน้องผ่านมา
“เฮ้ยเร็ว วางกำลังไว้รอบๆ ส่งคนไปคุมไอ้เด็กนั่นด้วย”
เบิ้มนำลูกน้องจากไป สมรักษ์ได้ยินคำสั่งแล้วรู้ว่าหินต้องอยู่ที่นั่น เขารีบเคลื่อนตัวไปอย่างระวังทันที
จ่าชิตยังคงต่อสู้กับเสือทศอยู่อย่างดุเดือด เสือทศท่าทางจะสู้ไม่ค่อยได้ ในที่สุดก็ลงไปกองกับพื้นลุกขึ้นมาไม่ไหว จ่าชิตดึงตัวขึ้นมาแล้วหมายจะจับมัดเอาไว้
“หมดฤทธิ์แล้วสิมึง”
จ่าชิตกำลังจะลากร่างที่โอนเอนของเสือทศไปมัดเอาไว้ แต่ศักดากับลูกน้องวิ่งตรงเข้ามา
“หยุดนะจ่าชิต”
จ่าชิตหันมามองศักดาที่กำลังตรงเข้ามาแล้วตัดสินใจ
“มาแล้วหรือ ไอ้เลว...”
จ่าชิตทิ้งเสือทศแล้ววิ่งหนีไป ศักดาวิ่งมาถึงเสือทศที่ตอนนี้มีสติขึ้นมาแล้ว
“เป็นไงบ้างเสือทศ”
“ไม่เป็นไร...ตามมันไปสิผู้กอง”
ศักดารู้แผนการดี
“ตามไปทำไม มันวิ่งล่อให้เราออกไปมันจะได้ช่วยคนของมันได้ง่ายไง แต่เอาเถอะ...นายสองคนตามมันไปก็ได้ ระวังด้วยล่ะ ที่เหลือกลับไปที่ปาง”
ศักดาสั่งตำรวจสองนายของเขาตามจ่าชิตไปแล้วสั่งให้ที่เหลือกลับ
ประเดิมเอาผ้าขาวม้าคลุมศีรษะเดินเข้ามาที่คุมขังหิน ลูกน้องทั้งสองคนสงสัย
“เฮ้ย...เข้ามาทำไม”
“นายให้มาเปลี่ยนออกไปคนหนึ่ง”
ลูกน้องสองคนมองหน้ากันตัดสินใจว่าใครจะไป
“ข้าไปเอง...”
ลูกน้องคนหนึ่งเดินออกไป หินอยู่ในกรงมองประเดิมแปลกๆ ในใจเตรียมตัว ประเดิมเห็นว่าลูกน้องออกไปแล้วจึงเดินมาหาลูกน้องที่เหลืออีกคน มันถามอย่างสงสัย
“หัวหน้าให้มาเปลี่ยนทำไมวะ”
“ก็เขาอยากให้ข้าช่วยไอ้เด็กนี่ออกไปน่ะสิ”
ประเดิมยียวน ลูกน้องคนนั้นยิ่งสงสัย...ทันใดนั้นประเดิมก็เอาเข่ากระทุ้งท้องแล้วซ้อมมันจนสลบไป
ด้านหน้าที่คุมขัง ลูกน้องเสี่ยรงค์เห็นว่าหมู่มีพิรุธ
“ทำไมข้าไม่เคยเห็นหน้าเอ็งมาก่อน”
ลูกน้องเสี่ยรงค์เอาปืนจี้ หมู่หน้าซีดกำลังหาทางออก ทันใดนั้นเสียงเสือใจลอดเข้ามา
“เพราะเขาเป็นตำรวจน่ะสิ...”
ลูกน้องทั้งสองคนงงหันมาเจอเสือใจ แต่ถูกเสือใจกับแก้วเล่นงานจนสลบไป
“เสือใจ” หมู่ดีใจ
หินวิ่งมาที่ลูกกรง ประเดิมหยิบกุญแจจากลูกน้องแล้วไขให้หินออกมา เขาเปิดผ้าขาวม้าออกเห็นหน้าชัดเจน หินดีใจ
“น้าประเดิม...”
“ออกมาไอ้หนู”
หินรีบออกไปอย่างร้อนรน ประเดิมถาม
“พี่สาวเอ็งล่ะ”
“เห็นมันพูดกันว่าจับเอาไปขังข้างบนโน้น”
“งั้นไป...เร็ว”
ประเดิมจูงหินออกมา หินได้เจอกับเสือใจและแก้ว หินดีใจสุดขีด
“แก้ว...เอ็งยังไม่ตาย ลุงเสือ...ลุงเสือยังไม่ตาย แล้วแม่...”
แก้วส่ายหน้าสีหน้าเศร้าเป็นทำนองบอกว่าแม่ตายแล้ว หินหน้าเศร้าแววตาแค้น
“กูจะล้างแค้นให้แม่กู...”
“ใจเย็นไอ้หิน เอ็งต้องสงบสติอารมณ์ไว้ก่อน ไปช่วยจงใจกันดีกว่า”
หินฟังเสือใจด้วยความรู้สึกกล้ำกลืน แต่ตัดสินใจเข้มแข็ง พยักหน้ารับ
เสือใจ แก้ว หมู่ หิน ประเดิมลอบหลบมาตามกองไม้และกองวัสดุต่างๆ เขามองหาทางที่จะไปที่คุมขังจงใจ เสือใจมองไปชั้นบน
“สงสัยจะอยู่บนนั้น”
หินรับรู้แล้วกำลังจะขึ้นไปในส่วนที่ผลิตยาเสพติด ลูกน้องสองสามคน มาเจอเสือใจกับทุกคนพอดี
“จะไปไหน...ตายเถอะมึง”
ลูกน้องยกปืนหมายจะยิงพวกเสือใจ ทันใดนั้นมีมีดสั้นลอยมาปักที่กลางหลังของมันคนนั้นล้มลงขาดใจตายทันที เสือใจหันมองคนที่ปามีดแล้วอึ้งไป
“ไอ้หมวด”
“หมวด”แก้วดีใจ
เสี้ยววินาทีนั้น เสือใจรีบจัดการลูกน้องที่เหลือจนสลบไป สมรักษ์เข้ามาหา
“จงใจล่ะ”
“ถูกขังอยู่บนโน้น”
สมรักษ์หันไปสั่ง
“ประเดิม หมู่ พาหินหนีไปก่อน ไปพบกับจ่าชิตตามที่นัดกันไว้”
สมรักษ์มองหน้าเสือใจเชิงถาม เสือใจรีบบอก
“ข้ากับไอ้หมวดจะไปช่วยจงใจเอง”
หินไม่ยอม
“ให้ฉันไปด้วย ฉันจะไปช่วยพี่จงใจ”
“ไปน้อยคนคล่องตัวกว่า” สมรักษ์บอก
“รีบไปซะ”
เสือใจแววตาแกรมบังคับ แก้วกับหินทำตาม ทั้งหมดแยกกันไปคนละทาง
เสี่ยรงค์กำลังปลุกปล้ำหมายจะขืนใจ จงใจปัดป้องสุดชีวิต
“เป็นของฉันเถอะน่า...”
“อย่านะ...ไอ้บ้า...”
จงใจต่อสู้ดิ้นรนจนถุงผ้าเล็กๆที่ใส่พลอยแดงเม็ดนั้นหล่นออกมากลิ้งลงที่พื้น เสี่ยรงค์มองตามอย่างสงสัยและผละออกไปเก็บมันขึ้นมาดู จงใจวิ่งมาแย่ง เสี่ยรงค์ผลักออกไป
“นี่อะไร”
“เอาคืนมานะ”
เสี่ยรงค์เอาพลอยออกมาจากถุงผ้าแล้วตาโต
“พลอย...พลอยของฉัน”
“ไม่ใช่ของแก มันของแม่ฉันต่างหาก เอาคืนมา”
เสี่ยรงค์นึกถึงความหลังแล้วแค้น
“แม่แกก็เมียเก่าฉันไง เมียเก่าฉันที่ไอ้ใจมันฉุดไปทำเมีย แล้วก็มีแกออกมาไง วันนี้นอกจากจะได้ของคืนแล้วยังได้ลูกไอ้ใจมาเป็นเมียอีก สะใจจริงโว้ย”
เสี่ยรงค์ตรงเข้ามาหาจงใจอีกครั้ง จงใจถอยร่นออกไปติดข้างฝา
เสือใจกับสมรักษ์ลอบขึ้นไปข้างบนที่ผลิตยาเสพติด มีคนงานมากมายเดินตรวจตราความเรียบร้อยอยู่
เบิ้มเดินผ่านไปมาแล้วสั่งลูกน้อง
“ดูให้ดีนะโว้ย ใครแปลกหน้าเข้ามายิงทันที ไม่ต้องถาม...”
“ครับ”
เสือใจกับสมรักษ์หลบหลีกอย่างระมัดระวัง มาเรื่อยๆ จนมาถึงกองเฮโลอีนที่กำลังจะเตรียมส่ง สมรักษ์เอานิ้วจิ้มลองชิมดู
“เฮโลอีนจริงๆด้วย”
“ไอ้นี่มันเกิดมาเพื่อบ่อนทำลายชาติจริงๆ”
สมรักษ์ครุ่นคิดที่จะทำอะไรบางอย่าง
ตำรวจ 2 นายวิ่งแกะรอยจ่าชิตมาตามป่า ตำรวจนายหนึ่งเห็น รอยเท้าชัดมากเป็นรอยรองเท้าคอมแบทแบบตำรวจ
“เดี๋ยวดูนี่รอยเท้า”
ตำรวจอีกคนเข้ามามอง
“จ่าชิต...ต้องอยู่แถวนี้แหละ”
ตำรวจสองนายมองไปรอบๆ แล้วกำลังวิ่งออกไป ตำรวจคนหนึ่ง
“ก้าวเท้าออกไปก็ไปเหยียบบ่วงเชือก บ่วงเชือกรัดขาแล้วดีดตัวขึ้นไปห้อยต่องแต่งอยู่บนต้นไม้
“เฮ้ย...ช่วยด้วย”
“ใจเย็น...”
ตำรวจกำลังจะเข้าไปแกะเชือกให้เพื่อน จ่าชิตโผล่มาเอาพานท้ายปืนฟาดที่ท้ายทอยตำรวจคนนั้น สลบไป จ่าชิตสีหน้าเหี้ยมและพอใจ
เสือใจกับสมรักษ์เอาน้ำมันเบนซินและผ้า ชุบน้ำมันจุดไฟตามจุดต่างๆในโรงงานผลิตยาเสพติด
“มึงต้องโดนอย่างนี้ไอ้รงค์ กูจะล้างผลาญมึงตลอดไป”เสือใจแค้นๆ
ไฟจุดแรกลุกโชนขึ้น ลูกน้องคนหนึ่งเห็นจึงร้องโวยวาย
“ไฟไหม้...ไฟไหม้...”
สมรักษ์เลี่ยงออกไปที่จุดอื่น เสือใจแยกกับสมรักษ์เลี่ยงออกไปอีกข้างหนึ่ง เบิ้มหันมาเห็นแล้วสั่ง
“ช่วยกันดับไฟเร็ว”
ทุกอย่างอยู่ในช่วงโกลาหล ลูกน้องต่างทิ้งอาวุธมาช่วยกันดับไฟ
เสือสมิง ตอนที่ 19 (ต่อ)
ประเดิมกับหมู่พาหินหนีอกมาจากปางไม้ได้ ทั้งคู่วิ่งมาตามทางในป่าอย่างระวัง หินหันไปดูเห็นแต่ไกลว่ามีควันไฟ
“น้า...ไฟไหม้ในปางแน่ะ”
หมู่มองอย่างเข้าใจ
“ฝีมือหมวดเขาล่ะ”
ประเดิมรีบบอก
“รีบไปกันเถอะ”
แก้วมองที่ไฟไหม้เป็นห่วงสมรักษ์ หินคิดถึงจงใจแล้ววิ่งไปกับประเดิม แก้วและหมู่
สมรักษ์วิ่งไปอีกมุมเขาจุดไฟลุกขึ้นอีกจุดหนึ่ง ลูกน้องอีกคนตะโกนบอก
“ตรงนี้ก็ไหม้...หัวหน้า”
เบิ้มตะโกนลั่น
“เฮ้ย...แยกกันไปดับเร็ว...อะไรกันนักหนาวะ...”
เหตุการณ์วุ่นวาย สมรักษ์เข้าไปล็อคคอลูกน้องคนหนึ่งแล้วถาม
“เอาผู้หญิงขังไว้ที่ไหน”
“เอ่อ...”
“บอกมา เร็ว”
สมรักษ์ล็อคคอมันยิ่งแน่นขึ้นจนมันยอมบอก
“บ้านพักเสี่ยข้างบน”
สมรักษ์บิดคอมันหักสิ้นลมทันที แล้วรีบไปที่บ้านพัก เบิ้มยังคงคุมคนงานดับไฟอย่างรีบเร่ง
เสือใจลอบเข้ามาเกือบถึงที่คุมขังจงใจ เขามองดูลูกน้องที่เฝ้าข้างหน้าแล้วลอบเข้าไปอย่างเงียบๆ...เสี่ยรงค์กำลังปลุกปล้ำจงใจอยู่บนเตียงนอนอย่างเมามัน จงใจปัดป้อง
“อย่า...ช่วยด้วย...”
เสี่ยรงค์ไม่ฟังยังคงฉีกเสือผ้าของจงใจ หญิงสาวพยายามดิ้นรนเอาตัวรอด
ลูกน้องสองคนที่เฝ้าอยู่ข้างหน้าบ้าน ได้ยินเสียงเสี่ยรงค์ปลุกปล้ำจงใจแล้วหน้าตามีความสุขไปด้วย
“เจ้านายมีความสุขเราก็ดีใจ”
“จริงว่ะ...ข้าเป็นคนชอบเห็นคนอื่นมีความสุข...หลีกไปซิ”
ลูกน้องปัดเพื่อนออกพ้นทางแล้วไปแอบดูตามช่องไม่แตก
“ขอส่วนแบ่ง”
“แบ่งข้าดูบ้างนะเฟ้ย”
“เออ...เฝ้าต้นทางไปก่อน”
ลูกน้องจำใจเฝ้าต้นทาง แต่ทันใดนั้น เสือใจลอบมาข้างหลังแล้วหักคอมันด้วยมือเปล่าสิ้นลมทันที ลูกน้องอีกคนไม่รู้เรื่องยังคงแอบดูอยู่ เสือใจเดินเข้าไปสะกิดด้านหลัง
“ฮือ...”
ลูกน้องปัดมือออกแล้วบ่นโดยไม่หันหน้ามา
“เออ...รู้แล้วเดี๋ยวสิยังไม่เข้าพระเข้านางเลย”
เสือใจสะกิดต่อ
“ฮือ...”
ลูกน้องรำคาญจึงหันหน้ามา
“โธ่เว้ย...”
เสือใจตอกด้วยเข่าและศอกไป 2 ชุดมันล้มลงทันที เสือใจมองประตูแล้วถีบเข้าไปจนประตูเปิด...เสี่ยรงค์หันมาที่ประตู เห็นเสือใจในชุดคลุมหน้าแล้วตะลึง
“เฮ้ย...เอ็งเป็นใคร”
เสือใจยืนแววตาแค้นแล้วค่อยๆเอาผ้าคลุมใบหน้าออกเห็นเป็นเสือใจ ทั้งจงใจและเสี่ยรงค์ตกใจ
“ไอ้ใจ นี่มึงยังไม่ตาย...”
จงใจอาศัยจังหวะถีบเสี่ยรงค์กระเด็นไป แล้ววิ่งไปหาเสือใจด้วยความดีใจสุดขีด
“พ่อ...พ่อไม่ตาย...”
“ไม่เป็นอะไรใช่ไหม”
จงใจหายตื่นกลัวแล้วพยักหน้ารับ เสือใจจ้องปืนมาที่เสี่ยรงค์ ที่ตอนนี้ยืนขึ้นแบบระวังตัว
“มึงนี่มันตายยากตายเย็นเสียจริง...เมื่อไหร่จะตายๆไปให้จบเรื่องซะทีวะ”
เสือใจยิ้มเยาะ
“ต้องรอให้แกตายก่อน”
เสือใจขึ้นนกปืนในมือแววตาเข้ม ทันใดนั้น เสี่ยรงค์หยิบแจกันข้างๆขว้างใส่ เสือใจเสียจังหวะเสี่ยรงค์วิ่งเข้ามาแย่งปืน ทั้งคู่เกิดการยื้อแย่งกัน
“นึกว่าข้าหมูหรือไง...ไอ้ใจ”
จงใจยืนเก้ๆกังๆ เสือใจสั่งทั้งที่ยังยื้ออยู่กับเสี่ยรงค์
“หนีไปก่อน จงใจ ไปสิ...ไม่ต้องห่วงพ่อ”
จงใจตัดสินใจวิ่งไปทันที เสี่ยรงค์แค้น แล้วแย่งปืนมาได้ กำลังจะยิง แต่เสือใจพุ่งเข้ามาแล้วต่อยเสี่ยรงค์คว่ำไป
ปืนลั่นไปหนึ่งนักก่อนที่มันจะกลิ้งไปที่พื้น เสี่ยรงค์จะวิ่งมาหยิบแต่เสือใจหยิบได้ก่อนแล้วสยบเสี่ยรงค์เอาไว้
“เฉยไว้ไอ้รงค์ ถ้าไม่อยากไปเฝ้ายมบาลก่อนวัยอันควร”
เสี่ยรงค์ทำตามที่เสือใจบอก แต่ใจยังสู้
“เอาสิ...แกยิงฉันแกก็ออกไปไม่รอดหรอก”
“ยัง...อย่าใจร้อน...ข้าไม่ยิงแกตอนนี้หรอก แกยังพาข้ากับลูกออกไปได้...ไป...ออกไป”
เสือใจล็อคเสี่ยรงค์เอาปืนจี้แล้วเดินออกไป เบิ่มกับลูกน้อง 4 – 5 คน รีบมาดักข้างหน้าของเสือใจ
และยังมีหัวหน้าคนงานพาคนมาอีก4-5 คนมาจากอีกด้านล้อมรอบเอาไว้ เบิ้มเล็งปืนใส่
“เฮ้ย...หยุด”
เสือใจเอาปืนจี้เสี่ยรงค์แล้วขู่
“ถอยไป...เดี๋ยวปืนลั่นใส่เสี่ยแล้วจะยุ่ง”
เบิ้มกับพวกหยุดกึกท่าทางละล้าละลัง เสี่ยรงค์ต่อรอง
“ไม่เอาน่าไอ้ใจ มีอะไรคุยกันได้น่า”
“คงไม่ได้หรอก ตอนนี้ข้าเจ็บคอ”
เสี่ยรงค์หน้าเสียเข้าใจความหมายของเสือใจ
“ถอยไป”
ศักดาแหวกลูกน้องเข้ามาขวางในมือมีปืน
“ปล่อยเสี่ยเดี๋ยวนี้”
เสือใจแววตาเข้ม ทันใดนั้นสมรักษ์ลอบเข้ามาเอาปืนจี้ศักดา
“ผู้กองนั่นแหละปล่อยพวกเราไป”
ศักดานิ่งยิ้มใจเย็น เสี่ยรงค์พยายามต่อรอง
“ใจเย็นหมวด มีอะไรค่อยๆคุยกัน...หรือว่าเจ็บคอเหมือนไอ้ใจอีกคน”
สมรักษ์ยียวน
“เปล่า...แต่ฉันลิ้นเป็นฝ้า...”
ศักดาเย้ยหยัน
“อย่าไปต่อรองกับหมวดเขาเลย ตำรวจในอุดมคติก็อย่างนี้แหละ”
“แน่นอน คนอย่างผมมันตำรวจในอุดมคติ แล้วผู้กองล่ะเป็นตำรวจเพื่ออะไร เพื่อกอบโกยผลประโยชน์อย่างนั้นหรือ”
ศักดาสีหน้ายียวนแสดงความเป็นต่อ
“คนเรามันต้องกินต้องใช้ ปล่อยเสี่ยรงค์ซะ”
สมรักษ์เสียงเข้ม
“ผู้กองนั่นแหละถอยไป สถานะของผู้กองตอนนี้ไม่อยู่ในฐานะที่จะมาต่อรอง...หลีกไป”
ทันใดนั้นเสียงเสือทศดังมาจากด้านหลัง
“แล้วฉันล่ะพอจะต่อรองกับแกได้ไหม”
เสือทศเดินออกมาจากด้านหลังพร้อมกับคุมตัวจงใจมาด้วย สมรักษ์กับเสือใจเห็นจงใจแล้วหน้าเสีย
“จงใจ”
จงใจหน้าสลด
“หมวด...พ่อ”
เสือใจแววตาเข้มและแค้น
“ไอ้ทศ”
“มีอะไรหรือพ่อเสือ...” เสือทศยียวน “ว่ายังไงทีนี้ปล่อยเสี่ยได้หรือยัง”
สมรักษ์ตัดสินใจโยนปืนลงพื้นปล่อยเสี่ยรงค์เป็นอิสระ
“แกนี่มันเดนคนจริงๆ คนรักแกแท้ๆยังผลักไสให้คนอื่น”
“เป็นเมียเสี่ยรงค์แล้วเป็นไง...มันแปลกตรงไหนหรือ...มีอนาคตจะตาย”
เสือใจตัดสินใจพูดความลับที่เขาเก็บมานาน
“ไม่แปลกหรอกไอ้ทศ...ถ้าจงใจไม่ได้เป็นลูกสาวของเสี่ยรงค์”
เสี่ยรงค์และทุกคนแปลกใจ จงใจชะงักมองหน้าเสี่ยรงค์
ประเดิม กับหมู่พาหินกับแก้วมาที่จุดนัดพบที่นัดกันไว้ เขามองซ้ายมองขวาไม่มีจ่าชิต
“จ่าชิตยังไม่มาอีกหรือเนี่ย”
หินคิดๆ
“หรือจะเสียทีไอ้พวกนั้นซะแล้วก็ไม่รู้”
จ่าชิตเดินมาจากข้างหลัง
“ปากดีนักนะไอ้หนู ไม่น่าช่วยเอ็งออกมาเลย”
หมู่หันไปตามเสียง
“อ้าวจ่า...”
“หมวดล่ะ”
ประเดิมกับหมู่หน้าเสียนิดหน่อย
“เข้าไปช่วยจงใจ ไม่รู้เป็นยังไงบ้าง”
จ่าชิตรับรู้ครุ่นคิด
เสือใจ สมรักษ์กับจงใจถูกขังในที่คุมขัง เสี่ยรงค์ ศักดา เบิ้ม หัวหน้าคนงาน และเสือทศ อยู่ที่หน้าห้องขัง
เสี่ยรงค์ไม่เชื่อสิ่งที่เสือใจบอก
“กูไม่เชื่อ...เป็นไปไม่ได้”
“จันทร์แก้วตั้งท้องมาตั้งแต่ข้าฉุดมาแล้ว คนอย่างข้าเป็นสุภาพบุรุษพอที่จะไม่เหยียบย่ำหัวใจของผู้หญิงที่ไม่รู้เรื่องอะไรด้วยอย่างจันทร์แก้ว”
เสี่ยรงค์ยังเถียง
“ไม่จริง...คนอย่างมึงน่ะหรือสุภาพบุรุษ”
แม้ว่าจงใจจะไม่เชื่อแต่ก็แก้ต่างแทนเสือใจ
“คนอย่างพ่อเป็นสุภาพบุรุษเสมอ จริงไหมพี่ทศ”
จงใจจ้องหน้าเสือทศ เสือทศนึกถึงเสือใจ
“จริง...พ่อเสือกับน้าจันทร์แก้วอยู่บ้านคนละหลัง น้าจันทร์แก้วเป็นคนเลี้ยงฉันตลอดเวลา”
เสือใจบอกเสียงเข้ม
“แกลองมองแววตาของจงใจดูสิ...คุ้นแววตาแบบนี้บ้างไหม”
เสี่ยรงค์มองแววตาของจงใจแล้วเริ่มสองจิตสองใจรำพึงเบาๆ
“จันทร์แก้ว...ไม่เชื่อ...ยังไงฉันก็ไม่เชื่อ...เบิ้ม มัดและขังมันเอาไว้เฝ้ามันไว้ให้ดี”
เสี่ยรงค์สั่งเสร็จแล้วเดินกลับออกไป ทุกคนตามออกไป เสือทศยืนมองจงใจกับสมรักษ์อย่างอาฆาต แต่ไม่ยอมสบตาเสือใจแล้วเดินจากไป สมรักษ์กอดจงใจและปลอบ
“ไม่ต้องกลัวนะ เราต้องออกไปจากที่นี่ให้ได้”
เสือใจกระแอม
“เฮ้ยข้าตาไม่บอดนะโว้ย”
สมรักษ์รู้ตัวค่อยๆคลายแขนจากจงใจหน้าเจื่อนไป
เสือสมิง ตอนที่ 19 (ต่อ)
กินรีเสร็จจากการทอผ้าแล้วมานั่งพัก หัวหน้าโรงทอที่เป็นผู้หญิงกลางคนเดินเข้ามาหาแล้วดูผ้าที่เธอทอ
“ทอได้สวยมากนี่หนู ดูสิละเอียดดีด้วย เสี่ยรงค์เข้าใจหาคนนะ”
คนงานของระรินขับรถมาพอดีแล้วเดินลงมาหากินรี หัวหน้าเห็นก็หันมาบอกจงใจ
“มีคนมารับแล้ว”
กินรีสงสัยว่าทำไมไม่ใช่ภราดร
“คุณหมอไม่มาหรือ”
“คุณหมอไม่ว่าง คุณระรินเลยให้ผมมารับแทน”
กินรีรับรู้ไม่เอะใจอะไร
จ่าชิต หมู่ ประเดิมแก้วและหิน รอสมรักษ์ที่จุดนัดพบ
“เย็นแล้ว หมวดกับไอ้ใจยังไม่มา สงสัยจะเสียทีพวกมันแน่” จ่าชิตรู้สึกผิดสังเกต
หินหน้าตื่น
“อ้าว...แล้วพี่จงใจล่ะ”
จ่าชิตถอนหายใจ ประเดิมกังวล
“นั่นสิจ่า ถ้าเป็นอย่างที่จ่าพูดจริงๆ เราจะทำยังไงกันดี”
“หมวดคงแก้สถานการณ์ได้”
หินเป็นห่วงจงใจ
“หมวดน่ะฉันไม่ค่อยห่วงเท่าไหร่หรอกลุงจ่า แต่พี่จงใจน่ะสิป่านนี้ไอ้เสี่ยนั่นมันไม่ปู้ยี่ปู้ยำหมดแล้วหรือ”
จ่าชิตหัวเราะ
“มันจะข่มขืนลูกสาวตัวเองลงก็เอา...ไป...ไปตั้งหลักกันก่อนดีกว่า”
ประเดิม แก้ว หมู่และหินงงในคำพูดของจ่าชิต แล้วเดินตามไป
“อะไรนะ...จ่าว่าอะไรนะ จงใจเป็นลูกสาวเสี่ยรงค์หรือ” ประเดิมถามอย่างไม่เข้าใจ
แม่หมอฟื้นลืมตาขึ้นมาก็เย็นใกล้จะค่ำแล้ว แม่หมออ่อนเพลียร้องออกมาเบาๆ
“โอย...ข้าอยู่ที่ไหน”
พะอูอยู่ไม่ห่างได้ยินแล้วรีบมาหา พระธุดงค์เดินเข้ามาแล้วดูแม่หมอ
“ฟื้นแล้วรึ โยม”
แม่หมอพยายามยกมือไหว้
“พระคุณท่าน...”
“โยมไม่เป็นอะไรแล้วล่ะ พักผ่อนให้มากๆ”
แม่หมอคิดถึงกินรีขึ้นมา
“กินรี...ฉันเป็นห่วงกินรี”
“ไม่หรอกโยม กินรีจะไม่เป็นอะไร...บางทีสิ่งที่โยมคิดมันอาจจะไม่ใช่ บางอย่างที่เห็นอาจจะใช่ก็ได้...เมื่อเวลาหมุนเวียนเปลี่ยนไปทุกอย่างก็จะเผยออกมาเอง...”
แม่หมอพยักหน้ารับ แต่ใจไม่คลายกังวล
ภราดรขับรถมาจอดที่หน้าโรงทอผ้า แล้วลงมาหาหัวหน้าถามหากินรี
“ผมมารับกินรีครับ”
“กินรีกลับไปแล้วนี่คะ เห็นมีคนมารับไป”
ภราดรสงสัยแล้วพยักหน้ารับรู้
คนงานของระรินขับรถให้กินรีนั่งมาตามทาง
“คุณหมอไปไหนหรือจ๊ะ” กินรีสงสัย
“เอ่อ...เห็นว่าไปในเมืองมั๊งครับ”
กินรีแปลกใจเล็กน้อยแต่ไม่สงสัย คนงานชำเลืองดูกินรีบ่อยๆ เขานึกถึงคำสั่งที่ระรินสั่งมา
ก่อนหน้านี้ ระรินยื่นเงินสดปึกหนึ่งให้คนของเธอแล้วสั่ง
“ฉันอยากเห็นศพนังกินรี นี่ค่าจ้าง งานเสร็จแล้วแกก็หนีไปให้พ้น เงินนี่น่าจะพอสำหรับตั้งต้นชีวิตใหม่ ที่ไหนก็ได้”
คนงานตาโตแล้วรับคำ
“ได้ครับ ผมจะจัดการไม่ให้เหลือซากเลย”
ระรินยิ้มอย่างพอใจ
คนงานเลี้ยวรถออกนอกเส้นทางที่จะไปบ้านเสี่ยรงค์
“นี่มันไม่ใช่ทางไปบ้านคุณระรินนี่คะ”
“อ๋อ...คือว่าคุณระรินใช้ผมไปทำธุระให้นิดนึงน่ะครับ คุณกินรีคงไม่ว่าอะไรนะครับ”
กินรีเข้าใจแต่ยังกังวล
“ไม่เป็นไรค่ะ”
คนงานยิ้มในใจ แววตากร้าวแล้วขับรถต่อไป รถวิ่งผ่านถนนไป
ค่ำนั้นงะดินเดนั่งบริกรรมเพื่อเสริมสร้างอาคมอยู่ในถ้ำ คนรูนอนหมอบข้างๆ น้ำเต้าที่บรรจุหัวใจเสือสมิงทั้ง 10 ยังคงนิ่ง งะดินเดลืมตาขึ้นท่าทางมีความหวัง
“ข้ารู้แล้วว่า ข้าจะเอาหัวใจดวงที่ 11 ได้ยังไง ชะเวโบลูกพ่ออโหสิให้พ่อด้วย”
งะดินเดมองปราดไปที่คนรูแววตาออกคำสั่ง คนรูรีบคลานเข้ามา
“เจ้าสองคนรู้นะว่าจะต้องทำยังไง”
คนรูตัวผู้รับคำ
“ขอรับนายท่าน”
คนรูสองผัวเมียรีบออกทันที งะดินเดยิ้มมีความหวัง
ภราดรขับรถมาที่บ้านเสี่ยรงค์ระรินยืนคอยอยู่ข้างล่าง ภราดรลงมาจากรถ ระรินตรงมาหาแล้วเกาะแขน
“วันนี้ทำไมกลับช้าจัง”
“อ๋อ...พอดีผมรับปากกับกินรีว่าจะไปรับเขาแต่พอแวะไปที่โรงทอผ้า เขาบอกว่ามีคนมารับกลับมาแล้ว”
ระรินเสแสร้ง
“ระรินสั่งให้คนไปรับเองล่ะค่ะ เห็นว่าหมองานยุ่ง”
“แล้วกินรีมาถึงหรือยัง”
“ถึงนานแล้วและก็ไปแล้ว”
ภราดรสงสัยในใจเป็นห่วงกินรี
“ไปไหนหรือครับ”
“เอ๊ะ หมอนี่ จะไปสนอะไรมันนักหนานะ”
ภราดรรู้ตัวเลยกลบเกลื่อนกลัวความแตก
“เอ่อ...ผมก็ถามไปอย่างนั้นแหละ ใครจะไปสนเด็กพรรณอย่างนั้นกันล่ะ”
“นังกินรีมันกลับไปบ้านกับยายของมันค่ะ...ไม่ต้องถามอีกนะคะว่ามันไปทำไม เพราะระรินไม่ทราบค่ะ”
ระรินตัดบทแล้วเดินจากไปภราดรสงสัยแต่หยุดคำถามไว้ แล้วเดินตามระรินไปในใจกังวล
คนงานขับรถมากับกินรีในเส้นทางที่เปลี่ยว สองข้างทางเป็นป่าทึบ ทันใดรถเกิดกระตุกแล้วดับลง
“รถเป็นอะไรหรือคะ” กินรีถามอย่างสงสัย
“ไม่รู้สิครับ นั่งอยู่ในนี้นะผมจะลงไปดู”
“ค่ะ”
คนงานเปิดล็อคฝากระโปรงพร้อมหยิบไฟฉายแล้วเปิดประตูลงไป แล้วเปิดฝากระโปรงรถแล้วก้มลงไปดูที่เครื่อง กวาดไปฉายไปในห้องเครื่องเห็นมีมีดดาบคมกริบวาววับซ่อนอยู่แล้วหยิบออกมา แล้วส่งเสียงเรียก
ช่วยออกมาหน่อยครับ”
“ค่ะ”
กินรีเปิดประตูออกไป
“มีอะไรหรือคะ”
“ช่วยถือไฟฉายให้ผมหน่อยครับ”
“ได้ค่ะ”
กินรีรับไฟฉายไป คนงานบอกให้ฉายไปที่ห้องเครื่อง
“ส่องตรงนี้นะครับ”
กินรีก้มไปส่องไฟ คนงานได้จังหวะ เขาหยิบมีดเล่มนั้นออกมาแล้วทำท่าจะฟันจากข้างหลัง กินรีฉายไฟแล้วเห็นร่างของคนงานกำลังจะฟันเธอจากภาพสะท้อนที่ขอบกระโปรงรถ จังหวะเดียวกับคนงานเงื้อมีดฟัน กินรีพลิกตัวหลบ มันจึงฟันพลาดไปถูกรถ
“นี่แก...”
กินรีตั้งหลักแล้วถอยห่าง คนงานย่างสามขุมเข้าไปหาในมือมีมีด
“แก...แกทำอย่างนี่ทำไม”
“ก็แกมันเป็นตังเงินตัวทองไง ฆ่าแกแล้วฉันก็จะลืมตาอ้าปากได้”
คนงานเงื้อฟันเธออีก กินรีหลบทัน
“อย่านะ...ช่วยด้วย...”
คนงานฟันอีก แต่ไม่ถูก กินรีหลบแล้ววิ่งหนีไป มันไล่ตามไปติดๆ
“อย่าหนีนะ”
เสือสมิง ตอนที่ 19 (ต่อ)
แม่หมอกังวล ก้มกราบพระธุดงค์แล้วสอบถาม
“หลานของอีฉันไม่เป็นอะไรแน่นะคะ”
พระธุดงค์งพยักหน้ารับ
“อืม...แต่ช่วงนี้หลานสาวของโยมกำลังชดใช้กรรมอยู่”
พระธุดงค์หลับตาทำสมาธิแล้วไม่พูดอะไร แม่หมอหน้าเศร้าและทำใจ ห่างออกไปใต้ต้นไม้พะอูนั่งครุ่นคิดเป็นห่วงกินรีอยู่
อองไชยนั่งดูปริศนาและเส้นทางจากแผ่นไม้ของรูปปั้นชะเวมะรัตที่ภราดรหยิบมาจากที่พักแม่หมอแล้วเอามาต่อกันเห็นว่าเป็นเส้นทางแผนที่ ระริน และภราดรอยู่ด้วย เสี่ยรงค์เดินเข้ามาหน้าตาไม่ค่อยจะดีนัก
“พ่อ...” ระรินทัก
“ระริน...หมอ...เป็นยังไงบ้างท่านพราน”
อองไชยรายงาน
“เราได้มาแล้ว”
แววตาเสี่ยรงค์เป็นประกายลืมเรื่องที่กลุ้มอยู่ชั่วขณะ ระรินชวนภราดรออกไป
“ไปกันเถอะค่ะหมอ”
ภราดรเดินไปกับระรินในใจยังกังวลเรื่องกินรี
กินรีวิ่งหนีการไล่ฆ่ามาตามป่าอย่างหวาดกลัว เธอล้มลุกคลุกคลานในบางจังหวะ คนงานวิ่งตามมาติดๆอย่างย่ามใจ
“จะหนีไปไหน”
กินรีวิ่งหนีด้วยความตื่นกลัว จังหวะหนึ่งส้นเท้าเธอพลิกเท้าแพลงล้มลง คนงานมาหยุดตรงหน้าแสยะยิ้มอย่างย่ามใจ
“ไปที่ชอบที่ชอบเถอะนะ คนสวย”
กินรีร้องลั่น
“อย่า...อย่า...”
คนของกินรีเงื้อมีดดาบหมายจะฟัน กินรีหมดทางปกป้องยกมือขึ้นป้องกัน ทันใดนั้น มืออันว่องไวของคนรูตัวผู้จับมือคนงานข้างที่มีดาบ แล้วตบกระเด็นไป
“พาตัวไป”
คนรูตัวผู้สั่งคนรูตัวเมียที่โดดลงมาตรงหน้ากินรีแล้วคำรามท่าทางหน้าเกลียด กินรีร้องกรี๊ดด้วยความตกใจแล้วสลบไป คนรูตัวเมียอุ้มกินรีขึ้นหลังแล้ววิ่งเข้าป่าหายไปในความมืด คนงานตั้งตัวได้ คนรูตัวผู้ยืนท่าทางระวังมองอย่างกระหยิ่ม
“เนื้อเจ้าคงจะอร่อยน่าดู”
คนรูพุ่งเข้าจู่โจมทันที คนงานปัดป้องแล้วต่อสู้ป้องกันตัว แต่พลาดท่าถูกกรงเล็บของคนรูสิ้นใจลง คนรูตัวเมียอุ้มกินรีหมายจะวิ่งออกไป ลูกปืนวิ่งแหวกวิ่งมาเฉี่ยวศีรษะคนรูตัวเมียไปนิดเดียว จ่าชิตเป็นคนยิงปืนมาแต่ไกล และกำลังวิ่งมากับประเดิม หิน หมู่ และแก้ว ทั้งหมดตกใจแล้วรีบวิ่งตามไป หินตามไปด้วย
อองไชยกับเสี่ยรงค์ปรึกษากันเรื่องแผนที่ที่จะเดินทางไปหลุมฝังศพบาเยงโบ
“ท่านพรานแน่ใจนะว่ามันเป็นแผนที่จริงๆ”
“ข้าเดิมพันด้วยชีวิตของข้า”
เสี่ยรงค์มองดูคำเขียนที่เป็นปริศนา
“แล้วคำปริศนานั่นล่ะ”
“ข้ากำลังแกะมันอยู่”
“เราจะเดินทางเมื่อไหร่”
“เร็วที่สุด...เดือนหน้าฝนจะมาแล้ว ท่านต้องเตรียมผู้คนและเสบียงให้พร้อม รวมทั้งอาวุธด้วย”
“เรื่องนั้นไม่มีปัญหา ข้าพร้อมอยู่นานแล้ว”
เสี่ยรงค์บอกอย่างมั่นใจ
ร่างของกินรีที่ยังสลบอยู่ถูกวางลงบนแท่นหิน คนรูตัวเมียเขยิบออกไป งะดินเดเดินเข้ามาดูกินรีที่ยังสลบอยู่ มันแสยะยิ้มอย่างพอใจใบหน้าดูน่าเกลียด
“ชะเวมะรัต...ดูซิว่าน้องเจ้าจะรักเจ้าจริงหรือเปล่า”
กินรียังไม่รู้สึกตัว งะดินเดหันไปมองที่ปากถ้ำและรับรู้อะไรบางอย่าง
“ไอ้พวกแมงเม่า...”
คนรูวิ่งหนีกลุ่มของจ่าชิต มาจนถึงทางขึ้นเขาไปสู่ถ้ำงะดิเด จ่าชิตวิ่งนำประเดิม หมู่แก้ว และหินตามมาติดๆ
“เร็ว”
จ่าชิตยิงปืนไล่หลังคนรูไปด้วย แต่ไม่ถูก คนรูวิ่งขึ้นเขาไป จ่าชิตยังคงวิ่งตามแต่ประเดิมห้ามเอาไว้
“อย่าขึ้นไปจ่า นั่นมันเขาต้องห้ามนะ”
“ฉันไม่สนหรอก ต้องไปช่วยกินรี”
หินเห็นด้วย
“ใช่ ลุงจ่า ช่วยคนสำคัญกว่า ไปกันเถอะ”
ประเดิมเข้าใจ จ่าชิตกับหินจะวิ่งขึ้นไปแต่กลับมีลมกรรโชกและแสงตาข่ายมากั้นเอาไว้ ทั้งหมดโดนอาคมกระเด็นไปได้รับบาดเจ็บคนละเล็กละน้อย หินลุกขึ้นอย่างรวดเร็วแล้วหยิบน้ำเต้าเครื่องรางอันจิ๋วที่อองไชยให้ขึ้นมา เหล่าปีศาจในน้ำเต้าต่างพุ่งออกมาช่วย หมู่ถึงกับตะลึง
“โห...”
เสียงงะดินเดกังวานออกมา
“นึกว่าไอ้พวกลิ่วล้อกระจอกจะทำอะไรข้าได้รึ...”
งะดิเดหัวเราะแสดงอาคมจนปีศาจพุ่งกลับเข้าไปในน้ำเต้าจนหมด ทุกอย่างเงียบลง ประเดิมหน้าเครียด
“เอายังไงดีจ่า”
จ่าชิตครุ่นคิด
“กลับกันก่อน”
ทุกคนเห็นด้วย
คนรูตัวผู้วิ่งเข้ามาในถ้ำแล้วมาซุกที่คนรูตัวเมีย กินรีเริ่มรู้สึกตัว
“ฟื้นแล้วรึ ชะเวมะรัต” งะดินเดเดินเข้าไปหา
“ท่าน...ท่านบรรพบุรุษ”
“พ่อ...ชะเวมะรัต...เจ้าต้องเรียกข้าว่าพ่อ”
“ไม่ ฉันไม่ใช่ลูกท่าน...ท่านจับฉันมาทำไม”
“ชีวิตเจ้าจะทำให้ข้ากลับมาเป็นใหญ่อีกครั้ง...ชะเวมะรัต ความห่วงใยของน้องชายเจ้าจะนำเอาสิ่งที่ข้าต้องการมาให้”
กินรีไม่ยอมแล้วลุกขึ้นจะวิ่งออกมา
“ไม่...ปล่อยฉันไปนะ”
งะดินเดหันไปแล้วใช้อาคมทำเป็นลูกกรงไฟล้อมกินรีเอาไว้ กินรีอยู่ในพันธนาการร้องคร่ำครวญ
“โอ๊ย...ปล่อยฉันไปเถอะ”
งะดินเดมองอย่างสะใจ
“ในเมื่อเจ้าเลือกสามีของเจ้า ข้าก็ต้องทำเช่นนี้”
ลูกกรงไฟลุกโชติช่วง ขณะเดียวกัน พะอูนั่งสมาธิอยู่เห็นเหตุการณ์ ตกใจหน้าตื่นเหงื่อกาฬเต็มใบหน้า
เสี่ยรงค์นั่งเล่นอยู่นอกชานบ้าน พร้อมกับจิบน้ำชาร้อนๆอย่างครุ่นคิด
“เขาเป็นลูกสาวข้าจริงๆหรือ...ไอ้ใจ”
ในอดีต บ้านเสี่ยรงค์เมื่อ 20 ปีที่แล้ว...เสี่ยรงค์เลิกงานกลับมาที่บ้าน ระรินวิ่งเข้ามาหา
“พ่อ...พ่อมาแล้ว”
คนใช้เดินตามมา เสี่ยรงค์อุ้มระรินโยนด้วยความรัก
“โอย...ลูกสาวพ่อ...วันนี้ดื้อไหมคะ”
“ไม่ดื้อค่ะ วันนี้ระรินเป็นเด็กดี”
“เก่งมากลูก”
เสี่ยรงค์ส่งระรินให้คนรับใช้แล้วถามถึงจันทร์แก้ว
“จันทร์แก้วล่ะ”
คนรับสีหน้าไม่ค่อยดี
จันทร์แก้วอาเจียนอยู่ที่หน้าต่างเสียงโอ้กอ้าก เสี่ยรงค์เดินเข้ามา
“เป็นอะไรหรือจันทร์แก้ว”
“ไม่เป็นอะไรหรอกจ้ะพี่”
“ไปหาหมอไหม”
“ไม่ต้องหรอก...แค่เวียนหัวแล้วก็คลื่นไส้นิดหน่อยกินยาหอมเข้าไปเดี๋ยวก็หาย ฉันไปทำกับข้าวก่อนนะ พี่ก็ไปอาบน้ำอาบท่าไป...จะได้มากินข้าวกินปลากัน”
จันทร์แก้วท่าทางเอาใจแล้วเดินจากไป เสี่ยรงค์มองตามไม่สงสัยอะไร
ปัจจุบัน...เสี่ยรงค์ยังคงนั่งคิดถึงวันที่จันทร์แก้วแพ้ท้อง
“หรือวันนั้นจันทร์แก้วแพ้ท้อง”
ทุกอย่างดูสับสนสำหรับเสี่ยรงค์ ระรินเดินเข้ามาทักทาย
“มานั่งอยู่นี่เอง”
“อ้าวลูก...มีอะไรหรือ”
ระรินนั่งข้างๆ
“ไม่มีอะไรหรอก เห็นพ่อหายไป”
เสี่ยรงค์เปลี่ยนเรื่องตัดสินใจบอกระริน
“ลูกจะแปลกใจไหมถ้าพ่อจะบอกว่าลูกมีน้องสาวอีกคน”
ระรินมองหน้าเสี่ยรงค์ทั้งสงสัยและแปลกใจ
เสือใจสมรักษ์กับจงใจถูกขังอยู่ด้วยกัน มีลูกน้องของเสี่ยรงค์ควบคุมอย่างหนาแน่นและเข้มงวด เสือใจมองหาหนทางหนีตลอดเวลา จงใจนั่งนิ่งไม่พูดไม่จา
“จงใจนั่งแบบนี้มาเป็นชั่วโมงๆแล้วนะ”สมรักษ์ตัดสินใจถาม
จงใจยังคงเหม่อลอยแล้วถามเสือใจ
“ไม่จริงใช่ไหมพ่อ จงใจไม่ใช่ลูกของเสี่ยคนนี้ใช่ไหม”
“ความจริงมันก็ต้องเป็นความจริงวันยังค่ำนั่นแหละ ลูก”
เสือใจไม่หลอกจงใจในใจของเขาก็ปวดร้าวไม่แพ้กัน จงใจหันขวับแววตากร้าว
“ไม่จริง...จงใจเป็นลูกพ่อเสือ...จงใจเป็นลูกพ่อเสือ”
จงใจเข้ามากระชากเสื้อของเสือใจด้วยสองมือของเธอ
“บอกจงใจมาสิ ว่าพ่อเสือเป็นพ่อของจงใจ...บอกมาสิ...บอกมา...ฮือ...ฮือ...”
จงใจเปลี่ยนอารมณ์เป็นร้องไห้ เสือใจนั่งนิ่ง สมรักษ์เข้ามาดึงจงใจและปลอบ
“ใช่ไหมหมวด...จงใจเป็นลูกพ่อเสือ...ใช่ไหม”
สมรักษ์ดึงจงใจเข้ามากอดปลอบ เสือใจมองอย่างสงสารจงใจเช่นกัน
จบตอนที่ 19