ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ - การลาออกของนายเกษม นิมมลรัตน์ ส.ส.เชียงใหม่ โดยอ้างว่ามีปัญหาสุขภาพ แต่ยังไม่อยากทิ้งการเมืองจึงขอนั่งรองนายกฯ อบจ.เชียงใหม่แทน ส่วนตำแหน่งส.ส.ก็เท่ากับยกให้“เจ๊แดง” -นางเยาวภา วงศ์สวัสดิ์ เจ้าแม่วังบัวบานที่ถนัดแต่เล่นบทหลังฉาก จะได้ออกมาโชว์พาวเต็มที่ นี่เป็นการบอกสังคมไทยว่าเครือญาติชินวัตรจะขอครองเก้าอี้นายกรัฐมนตรี คนที่ 4 และนี่คือโฉมหน้านายกรัฐมนตรีอะไหล่ ที่พรรคเพื่อไทยภูมิใจเสนอ พร้อมเสียบทันทีหากนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เกิดอุบัติเหตุทางการเมือง มีอันต้องพ้นเก้าอี้แบบไม่คาดฝัน
วีรกรรมความกล้าหาญชาญชัยของนายเกษม ครั้งนี้ ทำเอานายพานทองแท้ ชินวัตร "ลูกโอ๊ค" ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของ "พ่อแม้ว" พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ซาบซึ้งใจอย่างยิ่ง ไม่มีเสียงตำหนิ ด่าทอนายเกษมแม้แต่น้อย ผิดกับตอน ว่าที่ ร.ต.สุเมธ ฤทธาคนี ลาออกจาก ส.ส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย ไปลงสมัครเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (อบจ.ปทุมธานี) แล้วเพื่อไทยแพ้เลือกตั้งทั้งสนาม ส.ส. และ นายก อบจ.ปทุมธานี คราวนั้น ลูกโอ๊ค ถึงกับออกงิ้วว่าเป็นเรื่องที่ทำให้พรรคเสื่อมเสีย มีภาพลักษณ์ตกต่ำถูกนำไปโจมตีทางการเมือง
“หากใครคิดว่าลงส.ส.แล้วจะเปลี่ยนใจเป็นอื่นก็ไม่ควรอาสามารับใช้ประชาชน" ลูกโอ๊ค สั่งสอนบรรดา ส.ส.ของ "บริษัทเพื่อไทย" ให้รู้สำนึก และสำทับว่า "ผมคิดว่า ส.ส.ในพรรคน่าจะถือว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นกรณีศึกษา และถ้าเป็นไปได้ก็ไม่ควรเกิดขึ้นอีก”
แต่ในคราวเดียวกันนั้น นายพานทองแท้ ได้แสดงความเห็นอกเห็นใจญาติผู้น้อง "น้องเชียร์" นางสาวชินณิชา วงศ์สวัสดิ์ ลูกสาวเจ๊แดงที่ตกเก้าอี้ ส.ส. "กรณีนี้มิได้เกิดจากความบกพร่องในการรับผิดชอบต่อพี่น้องประชาชน แต่เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นจากความเข้าใจผิดโดยไม่เจตนาเกี่ยวกับการแสดงบัญชีทรัพย์สินในส่วนของเงินกู้ยืมและต้องมารับโทษแบนถึง 5 ปี"
นั่นคือมาตรฐานทางการเมืองของนายพานทองแท้ ที่เห็นกันชัดๆ ว่า ใครทำประโยชน์ให้กับพรรคได้หรือไม่ เป็นญาติพี่น้องหรือไม่ ซึ่งกรณีของนายเกษมนั้น การลาออกจากตำแหน่งส.ส.ของเขาถือเป็นการเสียสละอย่างสูงส่งเพื่อ "อาแดง" ของหลานโอ๊ค จะได้มีเวทีกลับสู่สนามการเมืองอีกครั้งแล้ว และการกลับมาของ "อาแดง" ครั้งนี้ก็ไม่ธรรมดา อย่างที่โอ๊คหลานรัก โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ค "Oak Panthongtae Shinawatra" เมื่อเวลา 19.10 น. วันที่ 19 มีนาคม 2556ที่ผ่านมา
"การลาออกจากส.ส.ในครั้งนี้ อาจมีคนมองว่าเป็นเรื่องของตัวตายตัวแทน ในกรณีที่ "อาปู" โดนตัดสิทธิ์ทางการเมือง ต่อให้เป็นเรื่องจริง ผมว่าพี่น้องชาวเชียงใหม่ เข้าใจในเหตุผลและความจำเป็นครับ การเมืองหลังจากการปฏิวัติ19ก.ย.49 เป็นอะไรที่พรรคเพื่อไทย จำเป็นต้องเตรียมทุกอย่างให้พร้อม เพราะทุกอย่างมักจะมีเรื่องบังเอิญให้เกิด "Dead Lock" อยู่ตลอดเวลา
"ดูอย่างกรณีที่ท่านอดีตนายกสมัครฯ ต้องหลุดจากตำแหน่งด้วยเรื่องทำกับข้าวสิครับ วันนี้ผู้เกี่ยวข้องก็ได้ออกมายอมรับแล้วว่าวินิจฉัยผิดพลาด คำตัดสินก็มีผลไปแล้ว ผู้เสียหายก็ได้ลาลับจากโลกนี้ไปแล้ว โดยที่ไม่ทราบเลยว่าตัวเองถูกตัดสินผิดๆ อย่างไรบ้าง การมีนายกฯสำรองสำหรับพรรคฯอื่นไม่จำเป็นหรอกครับ แต่สำหรับพรรคเพื่อไทยผมว่ามีไว้สัก2-3คน กำลังสวย อะไรๆ ก็เกิดขึ้นได้ครับยุคนี้"
การเปิดหน้าไพ่รับรองกันแข็งขันของนายพานทองแท้ ช่วยตอกย้ำความเชื่อของสังคมว่า คนในตระกูลนี้วางแผนเข้ามาสืบทอดตำแหน่งนายกรัฐมนตรีของประเทศไทย เป็นคนที่ 4 จริงแท้แน่นอน ทั้งๆ ที่เพียงไม่กี่ชั่วโมงก่อนหน้า พ่อแม้วของลูกโอ๊คเพิ่งปฏิเสธข้อกล่าวหานี้ไปหมาดๆ
โดยช่วงเวลาประมาณ 13.00 น.ของวันที่ 19 มีนาคม 2556 ที่มีการประชุมส.ส.พรรคเพื่อไทย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้สไกป์มาร่วมประชุมนานกว่า 40 นาที โดยระบุว่า นางเยาวภา เสนอตัวอีกครั้งเพื่อจะได้ไปช่วยงานในสภา ไม่ได้เป็นนายกฯ สำรองอย่างที่เขาว่า
"คุณเยาวภามีบ้านเกิดอยู่เชียงใหม่ เคยเป็น ส.ส.มาก่อน ติดโทษถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง 5 ปี เมื่อพ้นโทษแบน ก็เสนอตัวอีกครั้ง จะได้ไปช่วยงานในสภา ไม่ได้เป็นนายกฯ สำรองอย่างที่เขาว่า ต้องการไปช่วยในสภาให้พวกเราได้คลับคล้ายมีความอบอุ่นกัน โดยเฉพาะ ส.ส.หญิง จะได้มีเพื่อนอีกคน พวกที่กล่าวหาก็กล่าวไป มันกล่าวหาได้ทั้งวัน ไม่รู้มันสรรหาอะไรมาพูด พูดแรงมาก บางทีพูดเอาเจ้านายมายุ่งการเมือง มันทุเรศ อดทุเรศไม่ได้" พ.ต.ท.ทักษิณ กล่าว
สำหรับอุบัติเหตุทางการเมืองที่อาจเกิดขึ้นกับนางสาวยิ่งลักษณ์ กระทั่งต้องหานายกฯ สำรอง ไว้ล่วงหน้านั้น เวลานี้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) กำลังตรวจสอบนางสาวยิ่งลักษณ์ กรณีปล่อยกู้ 30 ล้านบาท ให้บริษัทแอ๊ค อินเด็กซ์ จำกัด บริษัทที่สามีของนางสาวยิ่งลักษณ์ คือ นายอนุสรณ์ อมรฉัตร เป็นผู้ถือหุ้นนั้นหาก ป.ป.ช.พิจารณาว่ากระทำความผิดแจ้งเท็จ จะต้องส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีอาญานักการเมืองพิจารณา นางสาวยิ่งลักษณ์ จะต้องหยุดการปฏิบัติหน้าที่
และแน่นอน นายห้างดูไบ ไม่เคยไว้วางใจใครเหมือนกับคนในครอบครัว ไม่ว่าจะเป็นคนนอกอย่างนายสมัคร สุนทรเวช อดีตนายกรัฐมนตรี ร่างทรงชั่วยาม หรือแม้แต่นายมิ่งขวัญ แสงสุวรรณ ที่มีอันเป็นไปทางการเมืองเพียงแค่แสดงความอยากเป็นนายกรัฐมนตรีเท่านั้น
การกลับมาของเจ๊แดง ไม่เพียงมีความสำคัญในฐานะนายกฯ อะไหล่ เท่านั้น เพราะใครๆ ก็รู้ว่า เจ๊แดง เธอมีบทถนัดที่ทำได้ไม่อายฟ้าอายดิน จนมีคำถามมากมายในเรื่องความไม่ชอบมาพากลในโครงการต่างๆ ของรัฐบาล โดยเฉพาะโครงการรับจำนำข้าว ที่ถามไถ่ครหานินทากันเรื่อง “ร้อยชัก 40” จนเป็นที่อื้อฉาวกระฉ่อนวงการ สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศชาติเหลือคณานับ รวมไปถึงเสียงเล่าลือที่ว่า ถ้าใครอยากได้ตำแหน่งไหน เจ้าแม่มักไม่ทำให้ผิดหวังถ้าการแลกเปลี่ยนนั้นถึงไหนถึงกัน ยิ่งถ้าได้ไปคารวะนายใหญ่ดูไบ และฝากเนื้อฝากตัวกับเจ้าแม่ รับประกันไม่มีผิดหวัง
อย่าถามว่า คนที่ได้รับเลือกเข้ามารับตำแหน่งสำคัญนั้น มีฝีไม้ลายมือขนาดไหน เพราะนั่นเป็นเรื่องรอง นาทีนี้เขาถือคติว่าเรื่องกินเรื่องใหญ่ทั้งนั้น
ยิ่งเวลานี้ มีเรื่องสำคัญที่ต้องอาศัยเจ๊แดง จัดการให้เรื่องราวต่างๆ เรียบร้อย นั่นคือ พ.ร.บ.เงินกู้ 2.2 ล้านล้านบาท ที่อ้างว่าจะนำมาใช้สำหรับโครงการก่อสร้างโครงสร้างพื้นฐานของประเทศในอีก 7-10 ปีข้างหน้า ซึ่งผ่านความเห็นชอบของคณะรัฐมนตรี (ครม.) ไปเมื่อวันที่ 19 มีนาคม 2556 ที่ผ่านมา และจ่อเข้าสภาภายในปลายเดือนมีนาคมนี้ โดยรัฐบาลตั้งเป้าหมายว่ากฎหมายจะมีผลเริ่มบังคับใช้ได้ก่อนปีงบประมาณ 2557
การใช้วิธีออกกฎหมายเพื่อกู้เงินโดยเฉพาะแทนที่จะอยู่ในระบบงบประมาณประจำปี เพราะไม่ใช่เรื่องเร่งด่วนแต่เป็นโครงการลงทุนที่ปัดฝุ่นแล้วปัดฝุ่นอีก มีหลายฝ่ายที่วิพากษ์วิจารณ์ไม่เห็นด้วย แต่งานนี้พี่ชายนายกรัฐมนตรี สไกป์มาสั่งเสียไว้แล้วว่า จะต้องจัดการให้กฎหมายผ่านสภาโดยไร้ปัญหา ส.ส.ฝักถั่วในคาถาต้องยกมือโดยพร้อมเพรียง โดยเจ๊แดงเธอจะทำหน้าที่ตรวจเช็กความเรียบร้อย ใครหือมีหวังหัวขาด หมดอนาคตทางการเมืองแน่
ส.ส.ผู้ทรงเกียรติ ซึ่งได้รับเลือกให้มาทำหน้าที่แทนประชาชน แต่ทำตัวเป็นพนักงานบริษัทเครือญาติเพื่อนพ้องชินวัตร ไม่ต้องไปฟังเสียงประชาชนจะว่าอย่างไรก็ตาม การก่อหนี้จะสร้างภาระทางการคลังมากมายแค่ไหน จะเกิดปัญหาหนี้สาธารณะท่วมหัว เอาแค่จ่ายดอกเบี้ยเงินกู้สารพัดกู้ปีละแสนล้านก็เป็นเรื่องเล็กน้อย ยิ่งคนไทยที่เลือก ส.ส.ผู้มีเกียรติตามระบอบประชาธิปไตย 4 วินาที ต้องแบกหนี้หลังแอ่นจากโครงการสารพัดกู้ของ “เลดี้ กูกู้” จะ 35 ปี หรือ 50 ปีก็ไม่ต้องไปห่วงกังวล เพราะกว่าจะถึงวันนั้นฝักถั่วในสภาที่ยกมือผ่านกฎหมายนี้คงมีชีวิตเหลืออยู่ไม่กี่คน
แต่หากเกิดคราวเคราะห์ ประเทศเจอวิกฤตหรือฟองสบู่แตกที่เริ่มเห็นเค้าลางจากการปั่นหุ้น ปั่นการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์ เสียก่อนก็ให้ถือเสียว่าเป็นเวรกรรมของประเทศชาติที่เลือกพี่น้องชินวัตรมาเป็นนายกรัฐมนตรี
งานนี้เชื่อขนมกินล่วงหน้าไว้ได้เลยว่า เจ๊แดง ไม่ทำให้พี่ชายผิดหวังแน่นอน ทั้งเรื่องการผ่านกฎหมายเงินกู้ การบริหารจัดการเงินลงทุนของประเทศสไตล์เจ๊แดง ที่มีคำถามล่วงหน้ากันว่าจะมีทั้งตามน้ำ ทวนน้ำ กวนน้ำ กินกันพุงปลิ้น หรือไม่
ไม่เพียงเท่านั้น การส่งเจ๊แดง มาช่วยงานในสภาที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังได้บอกไว้ชัดเจนว่า จะต้องคุมเกมแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งที่ผ่านมาเป็นเรื่องที่รัฐบาลยิ่งลักษณ์ พรรคเพื่อไทย สาวกเสื้อแดง ยังไม่สามารถทำได้สำเร็จ งานนี้พ.ต.ท.ทักษิณ ไว้เกมการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า อยากให้แก้รายมาตรา เพราะถ้าเดินหน้าแก้ทั้งฉบับจะมีปัญหา ถูกยื่นตีความทำให้รัฐบาลล้มได้ แต่ถ้าแก้ไขเป็นรายมาตราก็ไม่มีปัญหาอะไร สามารถทยอยแก้ไขได้ ถ้าไม่แก้เป็นรายมาตรา ก็คงแก้รัฐธรรมนูญไม่ได้
หากแก้รัฐธรรมนูญได้ ไม่ใช่เรื่องยากที่จะออกกฎหมายนิรโทษกรรม แล้ววันนั้นก็ถึงเวลากลับบ้านของทักษิณ เสียที