ASTVผู้จัดการรายวัน-รฟม.ประเคนเดินรถ 1 สถานี (เตาปูน-บางซื่อ) ให้ BMCL พ่วงสัมปทานรถไฟใต้ดิน เสนอคมนาคมเพื่อชงครม.อนุมัตืก่อนเจรจาเอกชน “ยงสิทธิ์”ชี้เป็นแนวทางที่ดีที่สุด ปัดเอื้อเอกชนกินรวบ ระบุแบ่งรายได้ไม่ยุ่งยาก คาดเอกชนลงทุนระบบแค่ 500 ล้านบาท ส่วนเดินรถสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) เลื่อนเปิดเป็น ก.ค.59 ยอมรับ ช้า 9 เดือน ขณะที่เวนคืนสีส้มปัดกำหนดแนวเอื้อเอกชน ยันยึดตามแผนแม่บท
นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สรุปการเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงสถานีเตาปูน-สถานีบางซื่อ ระยะทาง 1 กิโลเมตร ช่วงต่อเชื่อมกับรถไฟใต้ดิน MRT (หัวลำโพง-บางซื่อ) ว่าจะให้บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือBMCL ผู้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT เดินรถ ในรูปแบบรัฐบาลและเอกชนลงทุนร่วมกัน (Public private Partnership :PPP) Net Cost คือ รัฐลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เอกชนได้รับสัมปทานเก็บค่าโดยสารและแบ่งส่วนแบ่งรายได้ให้รัฐเหมือนสัมปทานรถไฟใต้ดินในปัจจุบัน โดยจะทำเป็นสัญญาแนบท้ายสัมปทานเดิมและนับอายุต่อโดยจะสิ้นสุดพร้อมสัมปทานเดิมในปี 2572 เนื่องจากเป็นรูปแบบที่ดีที่สุดมากกว่ารูปแบบการจ้างเดินรถ (PPP Gross Cost) ที่จะมีความยุ่งยากในการคำนวนค่าจ้างเพียง 1 สถานี
“ยืนยันว่าการให้สัมปทานกับ BMCL เป็นแนวทางที่ดีที่สุดแล้ว ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้เอกชน แต่สมประโยชน์กันทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) รฟม.ที่มีนางสาวรัชนี ตรีพิพัฒน์กุล เป็นประธานให้ความเห็นชอบและเสนอไปยังกระทรวงคมนาคมแล้ว หากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ จะมีการตั้งคณะกรรมการพระราชบัญญัติเข้าร่วมงานหรือดำเนินงานในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุน) เพื่อเจรจาต่อไป ซึ่งเบื้องต้นได้แจ้งให้BMCL รับทราบรูปแบบแล้ว ส่วนงานระบบอาณัติสัญญาณคาดว่าเอกชนจะลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท โดยใช้ขบวนรถเดิมวิ่งเชื่อมทันที”นายยงสิทธิ์กล่าว
ส่วนความคืบหน้าการเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) สัญญา 4 (สัมปทานสำหรับการลงทุน การจัดหาระบบรถไฟฟ้า การให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรักษา) นายยงสิทธิ์ กล่าวว่า หากมีการลงนามสัญญาวันนี้ จะเปิดเดินรถได้ในเดือนกรกฎาคม 2559 ซึ่งล่าช้ากว่าแผนที่จะเปิดเดินรถในเดือนตุลาคม 2558 ประมาณ 9 เดือนเนื่องจาก คณะกรรมการตามมาตรา 13 แห่งพ.ร.บ. ร่วมทุนฯ 35 ยังเจรจาต่อรองกับ BMCL ไม่ได้ข้อยุติ โดยหากจะให้เปิดเดินรถได้ตามกำหนดจะต้องเจรจากับ BMCL เพื่อเร่งรัดขั้นตอน ในขณะที่การก่อสร้างงานโยธา ล่าสุดมีความคืบหน้า 55%
สำหรับความคืบหน้ารถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-ปากเกร็ด-มีนบุรี) วงเงิน 58,000 ล้านบาท และสายสีเขียว ( หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) วงเงิน 58,000 ล้านบาท รฟม.ได้เสนอเรื่องไปกระทรวงคมนาคมตั้งแต่เดือนธันวาคม 2555 เพื่อเสนอที่ประชุม ครม. โดยรฟม.ได้ชี้แจงรายละเอียดการปรับเพิ่มวงเงินให้กระทรวงรับทราบแล้ว ซึ่งตามตามแผนสายสีชมพู จะเสนอครม.เห็นชอบ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2556 เปิดประกวดราคาเดือนกรกฎาคม 2556 และเริ่มก่อสร้างเดือนพฤษภาคม 2557 ส่วนสีเขียว เสนอครม.เห็นชอบเดือนมีนาคมนี้ เปิดประกวดราคาเดือนสิงหาคม 2556 และเริ่มก่อสร้างเดือนสิงหาคม 2557
**ยันแนวเวนคืนสถานีสีส้ม ยึดตามแผนแม่บท
ส่วนกรณีที่ประชาชนได้ออกมาคัดค้านการเวนคืนรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-มีนบุรี ระยะทาง 35 กิโลเมตร มูลค่า 1.78 แสนล้านบาทนั้น นายยงสิทธิ์กล่าวว่า มีปัญหาคัดค้าน 2 ช่วงคือสถานีราชปรารถ และบริเวณชุมชนประชาสงเคราะห์ 21 ยืนยันว่า การออกแบบไม่สนใจว่าเป็นที่ของใครไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้ใคร รฟม.ยึดตามแผนแม่บทที่มีมา 10 ปีแล้วและได้ดำเนินการก่อนที่จะออกพ.ร.ฏ.เวนคืน เพื่อสำรวจและให้ประชาชนมีส่วนร่วมก่อน ที่จะประกาศจริง และสถานีสายสีส้มจะมีพื้นที่สำหรับให้รถส่วนตัว รถสาธาณระจอดรับส่งผู้โดยสารโดยไม่กระทบผิวจราจร
นายยงสิทธิ์ โรจน์ศรีกุล ผู้ว่าการ การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) เปิดเผยว่า ขณะนี้ได้สรุปการเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงสถานีเตาปูน-สถานีบางซื่อ ระยะทาง 1 กิโลเมตร ช่วงต่อเชื่อมกับรถไฟใต้ดิน MRT (หัวลำโพง-บางซื่อ) ว่าจะให้บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือBMCL ผู้รับสัมปทานเดินรถไฟฟ้าใต้ดิน MRT เดินรถ ในรูปแบบรัฐบาลและเอกชนลงทุนร่วมกัน (Public private Partnership :PPP) Net Cost คือ รัฐลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เอกชนได้รับสัมปทานเก็บค่าโดยสารและแบ่งส่วนแบ่งรายได้ให้รัฐเหมือนสัมปทานรถไฟใต้ดินในปัจจุบัน โดยจะทำเป็นสัญญาแนบท้ายสัมปทานเดิมและนับอายุต่อโดยจะสิ้นสุดพร้อมสัมปทานเดิมในปี 2572 เนื่องจากเป็นรูปแบบที่ดีที่สุดมากกว่ารูปแบบการจ้างเดินรถ (PPP Gross Cost) ที่จะมีความยุ่งยากในการคำนวนค่าจ้างเพียง 1 สถานี
“ยืนยันว่าการให้สัมปทานกับ BMCL เป็นแนวทางที่ดีที่สุดแล้ว ไม่ได้เอื้อประโยชน์ให้เอกชน แต่สมประโยชน์กันทั้ง 2 ฝ่าย ซึ่งที่ประชุมคณะกรรมการ(บอร์ด) รฟม.ที่มีนางสาวรัชนี ตรีพิพัฒน์กุล เป็นประธานให้ความเห็นชอบและเสนอไปยังกระทรวงคมนาคมแล้ว หากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบ จะมีการตั้งคณะกรรมการพระราชบัญญัติเข้าร่วมงานหรือดำเนินงานในกิจการของรัฐ พ.ศ. 2535 (พ.ร.บ.ร่วมทุน) เพื่อเจรจาต่อไป ซึ่งเบื้องต้นได้แจ้งให้BMCL รับทราบรูปแบบแล้ว ส่วนงานระบบอาณัติสัญญาณคาดว่าเอกชนจะลงทุนประมาณ 500 ล้านบาท โดยใช้ขบวนรถเดิมวิ่งเชื่อมทันที”นายยงสิทธิ์กล่าว
ส่วนความคืบหน้าการเดินรถไฟฟ้าสายสีม่วง (บางใหญ่-บางซื่อ) สัญญา 4 (สัมปทานสำหรับการลงทุน การจัดหาระบบรถไฟฟ้า การให้บริการเดินรถและซ่อมบำรุงรักษา) นายยงสิทธิ์ กล่าวว่า หากมีการลงนามสัญญาวันนี้ จะเปิดเดินรถได้ในเดือนกรกฎาคม 2559 ซึ่งล่าช้ากว่าแผนที่จะเปิดเดินรถในเดือนตุลาคม 2558 ประมาณ 9 เดือนเนื่องจาก คณะกรรมการตามมาตรา 13 แห่งพ.ร.บ. ร่วมทุนฯ 35 ยังเจรจาต่อรองกับ BMCL ไม่ได้ข้อยุติ โดยหากจะให้เปิดเดินรถได้ตามกำหนดจะต้องเจรจากับ BMCL เพื่อเร่งรัดขั้นตอน ในขณะที่การก่อสร้างงานโยธา ล่าสุดมีความคืบหน้า 55%
สำหรับความคืบหน้ารถไฟฟ้าสายสีชมพู (แคราย-ปากเกร็ด-มีนบุรี) วงเงิน 58,000 ล้านบาท และสายสีเขียว ( หมอชิต-สะพานใหม่-คูคต) วงเงิน 58,000 ล้านบาท รฟม.ได้เสนอเรื่องไปกระทรวงคมนาคมตั้งแต่เดือนธันวาคม 2555 เพื่อเสนอที่ประชุม ครม. โดยรฟม.ได้ชี้แจงรายละเอียดการปรับเพิ่มวงเงินให้กระทรวงรับทราบแล้ว ซึ่งตามตามแผนสายสีชมพู จะเสนอครม.เห็นชอบ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2556 เปิดประกวดราคาเดือนกรกฎาคม 2556 และเริ่มก่อสร้างเดือนพฤษภาคม 2557 ส่วนสีเขียว เสนอครม.เห็นชอบเดือนมีนาคมนี้ เปิดประกวดราคาเดือนสิงหาคม 2556 และเริ่มก่อสร้างเดือนสิงหาคม 2557
**ยันแนวเวนคืนสถานีสีส้ม ยึดตามแผนแม่บท
ส่วนกรณีที่ประชาชนได้ออกมาคัดค้านการเวนคืนรถไฟฟ้าสายสีส้ม ช่วงตลิ่งชัน-มีนบุรี ระยะทาง 35 กิโลเมตร มูลค่า 1.78 แสนล้านบาทนั้น นายยงสิทธิ์กล่าวว่า มีปัญหาคัดค้าน 2 ช่วงคือสถานีราชปรารถ และบริเวณชุมชนประชาสงเคราะห์ 21 ยืนยันว่า การออกแบบไม่สนใจว่าเป็นที่ของใครไม่มีการเอื้อประโยชน์ให้ใคร รฟม.ยึดตามแผนแม่บทที่มีมา 10 ปีแล้วและได้ดำเนินการก่อนที่จะออกพ.ร.ฏ.เวนคืน เพื่อสำรวจและให้ประชาชนมีส่วนร่วมก่อน ที่จะประกาศจริง และสถานีสายสีส้มจะมีพื้นที่สำหรับให้รถส่วนตัว รถสาธาณระจอดรับส่งผู้โดยสารโดยไม่กระทบผิวจราจร