ASTVผู้จัดการรายวัน-นิด้าโพลเผยคนไทยไม่กล้าไป 3 จังหวัดชายแดนใต้ เพราะกลัว สมช. เตรียมถก บีอาร์เอ็น 28 มี.ค.นี้ ยันคุยถูกฝาถูกตัว "เหลิม"โวมี 20 โจรใต้จ่อมอบตัว ปชป.ตั้งวงถล่ม "ปู" แนะล้มลงนามกับโจร ด้านตำรวจจับ 3 วัยรุ่นบึ้มร้านทองสอบเครียด ล่าสุดหน่วยข่าวความมั่นคง เตือนปัตตานี สงขลา ระวังระเบิด 8 ลูก และคาร์บอมบ์
ศูนย์สำรวจความคิดเห็นสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) หรือนิด้าโพล ได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “3 จังหวัดชายแดนในสายตาคนไทย” พบว่า ประชาชนร้อยละ 45.41 ระบุว่าระดับความรุนแรงของปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในขณะนี้ มีความรุนแรงอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อถามว่าหากประชาชนมีโอกาสไปเยือนที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะไปหรือไม่นั้น พบว่า ประชาชนร้อยละ 61.05 ระบุว่าไม่ไป เพราะมีความกังวลในเรื่องของความไม่ปลอดภัยและสถานการณ์ยังคงมีความรุนแรงอยู่ และร้อยละ 31.60 ระบุว่าไป เพราะยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าสนใจ มีญาติพี่น้อง และจะต้องไปทำงานหรือธุระที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
นอกจากนี้ ประชาชนร้อยละ 32.80 ระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ที่มีความเหมาะสมมากที่สุดในการดูแลรับผิดชอบการแก้ไขปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
**สมช.เชื่อถูกตัว ถก"บีอาร์เอ็น"28มี.ค.
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์รายการอินไซด์ไทยแลนด์ ทางสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ถึงกรณีการเจรจากับผู้ที่จะอำนวยความสะดวกในการเจรจาอดีตหัวหน้าหน่วยข่าวมาเลเซีย ดาโต๊ะซัม ซามีน ในการพบปะสื่อสารข้อมูล และมีการพูดคุยกรอบการทำงานระหว่างสองกลุ่ม ซึ่งครั้งหน้าจะอยู่ที่วันที่ 28 มี.ค. โดยประเด็นที่สำคัญที่สุดของเรา ควรหยิบยกเรื่องการลดความรุนแรงขึ้นมาพูดเลย และก่อนหน้านี้ เราได้สื่อว่า หากสถานการณ์ลดลงได้ ก็จะเป็นเรื่องดี
ทั้งนี้ ยืนยันว่า นายฮัสซัน ตอยิบ ที่กำลังเจรจาด้วยนั้น ถูกฝาถูกตัว เพราะรายงานจากหน่วยข่าวของทั้งสองประเทศตรงกัน เขาเป็นองค์กรนำทางความคิด ซึ่งหากเชื่อมได้ ก็จะไปถึงกองกำลังเอง และอนาคตก็จะไปถึงนายสแปอิง บาซอ หรือ นายมะแซ อุเซ็ง
พล.ท.ภราดรยังกล่าวถึงการปรากฏชื่อกลุ่มเปอร์มูตอ บารู หรือกลุ่มแนวร่วมรุ่นใหม่ คงไม่ได้มีอะไรผิดปกติ ซึ่งเป็นกลุ่ม อาร์เคเคนั่นเองที่แยกตัวออกมาเมื่อก่อการเยอะขึ้นและโดดเด่นขึ้น ก็เปลี่ยนชื่อกันไป แต่ยังไงก็ยังเชื่อมโยงอยู่กับองค์กรนำ
**"เหลิม"โว 20 โจรใต้มอบตัว
วันเดียวกัน คณะหัวหน้าราชการ และผู้บริหารท้องถิ่น ในโครงการศึกษาดูงานตามโครงการสี่ประสานประจำปีงบประมาณ 2556 จาก อ.เมือง จ.ปัตตานี ประมาณ 100 คน นำโดยนายขวัญชาติ วงศ์ศุภรานันต์ รองผู้ว่าฯ ปัตตานี เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี โดยมีนายสุธิพันธ์ ศรีริกานนท์ หนึ่งใน 9 กลุ่มวาดะห์ ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ร่วมรับฟังด้วย
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า คนใต้มีน้ำใจกับผม แล้วผมจะไม่รักพวกท่านได้อย่างไร เดิมเขายังไม่ได้มอบงานแก้ปัญหาภาคใต้ให้ผมทำ ผมเพิ่งมารับผิดชอบแค่ 3 เดือน การแก้ไขปัญหามันต้องคุยกัน และผมไม่นิยมความรุนแรง เพราะในชีวิตเจอความรุนแรงมาเยอะแล้ว การจะแก้ปัญหามันต้องศึกษาประวัติศาสตร์ คนใต้ชอบการเมือง รู้การเมือง และไม่ต้องการการกดขี่ขมเหง เรียนรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ร้อยละ 70-80% แสดงว่ากลไกขับเคลื่อนในความคิด ความรู้สึกของคนใต้ ต้องการประชาธิปไตย ความถูกต้อง และความชอบธรรม ซึ่งผมก็อยากเห็น เลยได้แต่งตั้งกลุ่มวาดะห์มาเป็นที่ปรึกษา
"ขณะนี้ทางแม่ทัพภาคที่ 4 กำลังเจรจาอยู่ประมาณ 20 คน และจะให้เข้ามามอบตัวตามมาตรา 21 ถือเป็นระดับแกนนำทั้งนั้น โดยคนเหล่านี้อยู่ในคดีของดีเอสไอ ซึ่งได้สั่งการว่าถ้าทหารเอาด้วย ตำรวจห้ามไปยุ่ง เรื่องนี้ถือว่าเป็นข่าวดี และในสัปดาห์หน้าจะได้รู้"
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า ได้รับการติดต่อจากผู้ว่าฯ สตูลเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ว่า นายมหาเธร์ บินมูฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย จะอนุญาตให้เข้าพบในวันที่ 28 มี.ค.นี้
**รมว.กห.ไม่รู้แนวคิดตั้งนครปัตตานี
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่จะมีการเจรจากับกลุ่มบีอาร์เอ็นรอบสอง ว่า ยังไม่ได้เริ่ม มันยังไม่คืบหน้าทุกวันขนาดนั้น ซึ่งการเจราจาก็ดำเนินการไป ส่วนการปกป้องชีวิตทรัพย์สินก็ดำเนินการไป ไม่ได้เกี่ยวกัน สำหรับกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเสนอให้มีการตั้งมหานครปัตตานี ยังไม่ได้พูดคุยหรือเสนอกันเลย อย่าพูดล่วงหน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ไม่เห็นด้วยกับเขตปกครองพิเศษกรณีของนครรัฐปัตตานี
**“ประยุทธ์” ยินดีสะแปอิง-มะแซถก สมช.
ที่หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก (นปอ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสะแปอิง บาซอ และนายมะแซ อุเซ็ง แกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็นจะร่วมพูดคุยด้วยว่า ถ้ามาได้ก็มา ไม่มีปัญหาอะไร ขอให้เข้ามาหารือกัน ตนในฐานะที่เป็นรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จะติดตามสถานการณ์และให้ข้อเสนอแนะต่างๆ ว่า ต้องระมัดระวังอะไรบ้าง ซึ่งเท่าที่ทราบทั้ง2คนพยายามเข้ามาช่วยและเข้ามามีส่วนร่วม แต่ครั้งที่แล้วแจ้งมาว่าไม่สบาย ถ้าครั้งนี้หายดี เขาคงมา ทั้งนี้อาจจะต้องกำหนดระยะเวลาว่า จะใช้เวลาเท่าใด และพื้นที่ไหนที่ควรยุติความรุนแรงให้ได้ หากยังยุติความรุนแรงไม่ได้ เขาจะไปพุดคุยกับผู้ปฎิบัติให้มากขึ้น เนื่องจากมีหลายกลุ่ม ทุกคนต้องเข้าใจว่าเราพยายามรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก
"ขณะนี้เข้าใจว่า กลุ่มที่เข้ามาพูดคุย คือ ตัวแทนที่จะไปพูดคุยกับคนที่สร้างความรุนแรง ต้องดูผลว่าสำเร็จหรือไม่ ถ้าไม่สำเร็จก็ไปหาวิธีอื่น อย่างไรก็ตาม เรามีวิธีการหลัก คือ การบังคับใช้กฎหมาย การดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม การสร้างความเข้าใจ การพัฒนา รวมถึงการแสวงหาทางออกท่ามกลางความขัดแย้ง และต้องระมัดระวังไม่ให้คนอื่นเข้ามาวุ่นวายในประเทศของเรา และสื่อต้องระวังการนำเสนอข่าว เพราะหากเขาเห็นว่าเราแก้ไขปัญหาไม่ได้ เขาจะเข้ามาช่วย ทุกวันนี้ผมมองว่า เป็นการแก้ไขปัญหาภายในอยู่ การมีความร่วมมือกับต่างประเทศถือเป็นสิ่งที่ดี สิ่งที่เราได้จากประเทศเพื่อนบ้าน คือ การไม่ให้เป็นแหล่งซ่อนตัวของผู้ก่อเหตุ ไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงและการไม่แบ่งแยกดินแดน”ผบ.ทบ.กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กรณีที่ สมช. เตรียมใช้พ.รบ.ความมั่นคงแทน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่ 5อำเภอในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ถือเป็นแนวทาง ซึ่งเราได้เตรียมการเพื่อกำหนดขั้นตอนและระยะเวลายุทธศาสตร์ที่เราต้องเดิน ซึ่งการลดพื้นที่ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินสามารถทำได้ โดยฝ่ายความมั่นคงเสนอว่า จะต้องมีมาตรการต่างๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เกิดความสบายใจในการทำหน้าที่โดยถูกต้อง ไม่ไปละเมิดสิทธิ
**ปชป.ถล่ม “ปู”แนะล้มลงนามโจร
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคพร้อมเสนอข้อมูลในพื้นที่ให้กับรัฐบาล ด้วยการตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกฯ ควรมาตอบด้วยตัวเอง หากจะมอบให้ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นผู้ตอบกระทู้แทน ต้องถามว่า ร.ต.อ.เฉลิม เกี่ยวข้องกับการลงนามเจรจาสันติภาพหรือไม่ เพราะเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบกับร.ต.อ.เฉลิม เจ้าตัวบอกว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทั้งนี้ รัฐบาลต้องชี้แจงว่า คนที่อ้างตัวเป็นผู้แทนของผู้ที่เห็นต่างจากรัฐ ได้สื่อสารกับกลุ่มปฏิบัติการณ์ในพื้นที่หรือยัง และจะสื่อสารให้กับกลุ่มในพื้นที่ได้เมื่อไร และหากสื่อสารแล้ว เหตุใดความรุนแรงจึงเกิดขึ้นอยู่ หากรัฐบาลยังเดินหน้าคุยกับผู้คุมสภาพในพื้นที่ไม่ได้ ก็ไม่เป็นประโยชน์ และจะยิ่งทำให้เกิดปัญหามากขึ้น
นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จะทำหนังสือเสนอแนวทางแก้ปัญหาภาคใต้ถึง นายกรัฐมนตรีและ ร.ต.อ.เฉลิม เพื่อให้มีการปรับปรุงทิศทางการทำงาน โดยเรื่องหนึ่งระบุว่า รัฐบาลต้องระมัดระวังว่า การลงนามเป็นการยอมรับสถานภาพขององค์การก่อการร้ายจะกระทบต่อการเข้ามาแทรกแซงขององค์กรความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) หรือสหประชาชาติหรือไม่ และรัฐบาลจะแก้ปัญหาอย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ใช้กำปั้นเหล็กผิดครั้งที่หนึ่ง ไปเจรจาผิดตัว เกิดระเบิดยะลาผิดครั้งที่สอง ผิดครั้งที่สามให้น้องสาวไฟเขียวให้มีการลงนามสันติภาพ จึงขอฝากไปยังพ.ต.ท.ทักษิณว่าอย่าทำร้ายประเทศไทยด้วยการหาเสียงทางการเมืองที่ไม่ยั่งยืน ไม่ว่าจะไปลงนามอีกกี่กลุ่ม ก็เป็นที่หัวเราะของคนในวงการความมั่นคง
ที่รัฐสภา นายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ ส.ส.ยะลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การลงนามความกับกลุ่มบีอาร์เอ็น เป็นการทำงานแบบนักการตลาด ที่มีความเร่งร้อน เร่งรีบ รัฐบาลน่าจะนำเรื่องดังกล่าวผ่านสภาตามมาตรา 190 ก่อนที่จะไปทำการเจรจา
ด้านนายสุรเชษฐ์ แวอาแซ ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่จะมีการพิจารณาปรับใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาเป็น พ.ร.บ.ความมั่นคงใน 5 อำเภอ หลังจากเจรจากับกลุ่ม บีอาร์เอ็น ว่า แปลกใจมาก ตอนแรกรัฐบาลบอกว่าจะปรับมาใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง แต่เลขาฯ สมช. กลับต้องรอคุยกับกลุ่มก่อความไม่สงบก่อน ก็ไม่เข้าใจว่า ทำไม สมช. นำพี่น้องใน 5 อำเภอ มาเป็นตัวประกัน ในการเจรจากลับกลุ่มก่อความไม่สงบ ซึ่งทำให้มองได้ว่ารัฐบาลนี้ขาดความชัดเจนในการแก้ปัญหา จึงอยากขอความชัดเจนในภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรี
ส่วน นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ควรจะเปลี่ยนผู้ดูแลปัญหาจาก ร.ต.อ.เฉลิม ไปเป็นคนอื่น
**เชิญ 3 วัยรุ่นต้องสงสัยสอบเครียด
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุคนร้ายนำประทัดยักษ์ไปวางไว้ในร้านทองซังเต้ง 2 เลขที่ 4 ถนนรถไฟ เขตเทศบาลนครยะลา จนเกิดระเบิดขึ้นภายในร้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เหตุเกิดวันที่ 5 มี.ค. ว่า เมื่อเวลา 06.00 น. พ.ต.อ.พชรพล ณ นคร ผกก.สภ.เมือง จ.ยะลา ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนสอบสวน ประสานกำลังทหาร เข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมาย 2 หลัง ในซอยสิโรรส 6 และซอยเลิศปัญญา ย่านตลาดเก่า เขตเทศบาลนครยะลา ภายหลังภาพจากกล้องวงจรปิดพบรถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่ก่อเหตุ ขับออกจากซอยเลิศปัญญาก่อนเกิดเหตุ ซึ่งหลังจากเข้าตรวจค้นได้เชิญตัววัยรุ่น 3ราย ไปซักถามที่สภ.เมือง
เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมสภ.เมือง พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผบก.ภ.จว. กล่าวภายหลังการประชุมว่า จากตรวจสอบเบื้องต้นคนร้ายน่าจะได้ทองคำไปกว่า 20 บาท ซึ่งเชื่อว่าภายใน 2 วันนี้จะมีความชัดเจน แต่ข้อสังเกตในการก่อเหตุคนร้ายในครั้งนี้ คือ พบว่าคนร้ายจุดชนวนแล้วนำไปวางที่ตู้ทอง รอให้ระเบิด แล้ววิ่งกลับเข้าไปหยิบทอง โดยระเบิดที่พบคล้ายกับของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง จึงมีข้อสังเกตว่าคนร้ายมีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้ให้น้ำหนักเรื่องชิงทรัพย์ก่อน
ขณะที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 11 สนธิกำลังตำรวจสภ.เมือง ชุดสืบสวนสอบสวนคดีสำคัญ ศูนย์ปฎิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 541/97 อาคารที่พักแขวงการทางจังหวัดยะลา ชั้น 3 อ.เมือง จ.ยะลา ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 3 ราย ประกอบด้วย นายมะเสาพี ดอแม อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ 2 ต.สามัคคี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส นายอาซูวัล กาเจ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 2 ต.เรียง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และนายอัสมาน กาเจ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 2 ต.เรียง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส
***มั่นคงเตือนระวังระเบิด-คาร์บอมบ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยข่าวความมั่นคงได้แจ้งเตือนไปยังหน่วยกำลังที่รับผิดชอบในพื้นที่ 12 อำเภอ ให้เพิ่มความเข้มในการตั้งจุดตรวจ การลาดตระเวนเส้นทาง ตลอด 24 ชั่วโมง หลังหน่วยข่าวได้แจ้งเตือนว่า นายมะซอเร ดือรามะ แกนนำอาร์เคเคระดับปฏิบัติการเตรียมระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 8 ลูก บรรจุอยู่ในกระเป๋าเหล็ก เตรียมก่อเหตุในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี และอีก 1 ลูก เป็นระเบิดคาร์บอมบ์ น้ำหนัก 40 กิโลกรัม โดยคนร้ายได้นำระเบิดมาซุกไว้ในรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว กระโปรงด้านหน้ามีแถบดำสองเส้น เป้าหมายเตรียมก่อเหตุในพื้นที่ จ.สงขลา ล่าสุด ระเบิดทั้ง 8 ลูก ได้เคลื่อนย้ายออกมาจากพื้นที่ อ.ยะรัง และซุกซ่อนไว้บริเวณเขตรอยต่อ อ.เมืองปัตตานีแล้ว
หน่วยข่าวด้านความมั่นคง กล่าวว่า สมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง เครือข่ายของ นายมะซอเร มีแผนที่จะก่อเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองปัตตานี และได้นำระเบิดแสวงเครื่องเข้าไปซุกซ่อนในพื้นที่ อ.เมือง เรียบร้อยแล้ว ซึ่งกลุ่มดังกล่าวน่าจะมุ่งเป้าหมายก่อเหตุในหลายจุดพร้อมๆ กัน เหมือนเหตุการณ์ลอบวางระเบิดเพลิง และวางระเบิดแสวงเครื่องในพื้นที่ อ.เมือง ให้เหมือนเหตุในวันที่ 16-17 ก.พ. ที่ผ่านมา ทำให้ อส.เสียชีวิต 3 นาย ประชาชนบาดเจ็บจำนวนมาก ทรัพยิ์สินเสียหายอีกหลายแห่ง
ส่วนรถยนต์คันที่คนร้ายประกอบระเบิดนั้น กลุ่มก่อความไม่สงบอาจจะนำไปก่อเหตุในพื้นที่ จ.สงขลา ตามที่ได้รับแจ้ง หรืออาจจะเป็นการปล่อยข่าวลวงเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเจ้าหน้าที่ จากนั้นก็อาจจะนำไปก่อเหตุในพื้นที่ อ.เมือง, อ.หนองจิก ก็เป็นได้
ศูนย์สำรวจความคิดเห็นสถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) หรือนิด้าโพล ได้เปิดเผยผลสำรวจความคิดเห็นของประชาชน เรื่อง “3 จังหวัดชายแดนในสายตาคนไทย” พบว่า ประชาชนร้อยละ 45.41 ระบุว่าระดับความรุนแรงของปัญหาใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในขณะนี้ มีความรุนแรงอยู่ในระดับมากที่สุด เมื่อถามว่าหากประชาชนมีโอกาสไปเยือนที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จะไปหรือไม่นั้น พบว่า ประชาชนร้อยละ 61.05 ระบุว่าไม่ไป เพราะมีความกังวลในเรื่องของความไม่ปลอดภัยและสถานการณ์ยังคงมีความรุนแรงอยู่ และร้อยละ 31.60 ระบุว่าไป เพราะยังมีสถานที่ท่องเที่ยวที่สวยงามและน่าสนใจ มีญาติพี่น้อง และจะต้องไปทำงานหรือธุระที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
นอกจากนี้ ประชาชนร้อยละ 32.80 ระบุว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เป็นผู้ที่มีความเหมาะสมมากที่สุดในการดูแลรับผิดชอบการแก้ไขปัญหาความรุนแรงใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้
**สมช.เชื่อถูกตัว ถก"บีอาร์เอ็น"28มี.ค.
พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ให้สัมภาษณ์รายการอินไซด์ไทยแลนด์ ทางสถานีโทรทัศน์สปริงนิวส์ ถึงกรณีการเจรจากับผู้ที่จะอำนวยความสะดวกในการเจรจาอดีตหัวหน้าหน่วยข่าวมาเลเซีย ดาโต๊ะซัม ซามีน ในการพบปะสื่อสารข้อมูล และมีการพูดคุยกรอบการทำงานระหว่างสองกลุ่ม ซึ่งครั้งหน้าจะอยู่ที่วันที่ 28 มี.ค. โดยประเด็นที่สำคัญที่สุดของเรา ควรหยิบยกเรื่องการลดความรุนแรงขึ้นมาพูดเลย และก่อนหน้านี้ เราได้สื่อว่า หากสถานการณ์ลดลงได้ ก็จะเป็นเรื่องดี
ทั้งนี้ ยืนยันว่า นายฮัสซัน ตอยิบ ที่กำลังเจรจาด้วยนั้น ถูกฝาถูกตัว เพราะรายงานจากหน่วยข่าวของทั้งสองประเทศตรงกัน เขาเป็นองค์กรนำทางความคิด ซึ่งหากเชื่อมได้ ก็จะไปถึงกองกำลังเอง และอนาคตก็จะไปถึงนายสแปอิง บาซอ หรือ นายมะแซ อุเซ็ง
พล.ท.ภราดรยังกล่าวถึงการปรากฏชื่อกลุ่มเปอร์มูตอ บารู หรือกลุ่มแนวร่วมรุ่นใหม่ คงไม่ได้มีอะไรผิดปกติ ซึ่งเป็นกลุ่ม อาร์เคเคนั่นเองที่แยกตัวออกมาเมื่อก่อการเยอะขึ้นและโดดเด่นขึ้น ก็เปลี่ยนชื่อกันไป แต่ยังไงก็ยังเชื่อมโยงอยู่กับองค์กรนำ
**"เหลิม"โว 20 โจรใต้มอบตัว
วันเดียวกัน คณะหัวหน้าราชการ และผู้บริหารท้องถิ่น ในโครงการศึกษาดูงานตามโครงการสี่ประสานประจำปีงบประมาณ 2556 จาก อ.เมือง จ.ปัตตานี ประมาณ 100 คน นำโดยนายขวัญชาติ วงศ์ศุภรานันต์ รองผู้ว่าฯ ปัตตานี เดินทางเข้าเยี่ยมคารวะ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี โดยมีนายสุธิพันธ์ ศรีริกานนท์ หนึ่งใน 9 กลุ่มวาดะห์ ที่ได้รับการแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี ร่วมรับฟังด้วย
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวว่า คนใต้มีน้ำใจกับผม แล้วผมจะไม่รักพวกท่านได้อย่างไร เดิมเขายังไม่ได้มอบงานแก้ปัญหาภาคใต้ให้ผมทำ ผมเพิ่งมารับผิดชอบแค่ 3 เดือน การแก้ไขปัญหามันต้องคุยกัน และผมไม่นิยมความรุนแรง เพราะในชีวิตเจอความรุนแรงมาเยอะแล้ว การจะแก้ปัญหามันต้องศึกษาประวัติศาสตร์ คนใต้ชอบการเมือง รู้การเมือง และไม่ต้องการการกดขี่ขมเหง เรียนรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์ร้อยละ 70-80% แสดงว่ากลไกขับเคลื่อนในความคิด ความรู้สึกของคนใต้ ต้องการประชาธิปไตย ความถูกต้อง และความชอบธรรม ซึ่งผมก็อยากเห็น เลยได้แต่งตั้งกลุ่มวาดะห์มาเป็นที่ปรึกษา
"ขณะนี้ทางแม่ทัพภาคที่ 4 กำลังเจรจาอยู่ประมาณ 20 คน และจะให้เข้ามามอบตัวตามมาตรา 21 ถือเป็นระดับแกนนำทั้งนั้น โดยคนเหล่านี้อยู่ในคดีของดีเอสไอ ซึ่งได้สั่งการว่าถ้าทหารเอาด้วย ตำรวจห้ามไปยุ่ง เรื่องนี้ถือว่าเป็นข่าวดี และในสัปดาห์หน้าจะได้รู้"
ร.ต.อ.เฉลิม กล่าวด้วยว่า ได้รับการติดต่อจากผู้ว่าฯ สตูลเมื่อช่วงเช้าวันเดียวกันนี้ ว่า นายมหาเธร์ บินมูฮัมหมัด อดีตนายกรัฐมนตรีประเทศมาเลเซีย จะอนุญาตให้เข้าพบในวันที่ 28 มี.ค.นี้
**รมว.กห.ไม่รู้แนวคิดตั้งนครปัตตานี
พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กล่าวถึงกรณีที่จะมีการเจรจากับกลุ่มบีอาร์เอ็นรอบสอง ว่า ยังไม่ได้เริ่ม มันยังไม่คืบหน้าทุกวันขนาดนั้น ซึ่งการเจราจาก็ดำเนินการไป ส่วนการปกป้องชีวิตทรัพย์สินก็ดำเนินการไป ไม่ได้เกี่ยวกัน สำหรับกระแสข่าวว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี จะเสนอให้มีการตั้งมหานครปัตตานี ยังไม่ได้พูดคุยหรือเสนอกันเลย อย่าพูดล่วงหน้า
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ก่อนหน้านี้ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) ไม่เห็นด้วยกับเขตปกครองพิเศษกรณีของนครรัฐปัตตานี
**“ประยุทธ์” ยินดีสะแปอิง-มะแซถก สมช.
ที่หน่วยบัญชาการป้องกันภัยทางอากาศ กองทัพบก (นปอ.) พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายสะแปอิง บาซอ และนายมะแซ อุเซ็ง แกนนำกลุ่มบีอาร์เอ็นจะร่วมพูดคุยด้วยว่า ถ้ามาได้ก็มา ไม่มีปัญหาอะไร ขอให้เข้ามาหารือกัน ตนในฐานะที่เป็นรองผู้อำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) จะติดตามสถานการณ์และให้ข้อเสนอแนะต่างๆ ว่า ต้องระมัดระวังอะไรบ้าง ซึ่งเท่าที่ทราบทั้ง2คนพยายามเข้ามาช่วยและเข้ามามีส่วนร่วม แต่ครั้งที่แล้วแจ้งมาว่าไม่สบาย ถ้าครั้งนี้หายดี เขาคงมา ทั้งนี้อาจจะต้องกำหนดระยะเวลาว่า จะใช้เวลาเท่าใด และพื้นที่ไหนที่ควรยุติความรุนแรงให้ได้ หากยังยุติความรุนแรงไม่ได้ เขาจะไปพุดคุยกับผู้ปฎิบัติให้มากขึ้น เนื่องจากมีหลายกลุ่ม ทุกคนต้องเข้าใจว่าเราพยายามรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็นหลัก
"ขณะนี้เข้าใจว่า กลุ่มที่เข้ามาพูดคุย คือ ตัวแทนที่จะไปพูดคุยกับคนที่สร้างความรุนแรง ต้องดูผลว่าสำเร็จหรือไม่ ถ้าไม่สำเร็จก็ไปหาวิธีอื่น อย่างไรก็ตาม เรามีวิธีการหลัก คือ การบังคับใช้กฎหมาย การดำเนินการตามกระบวนการยุติธรรม การสร้างความเข้าใจ การพัฒนา รวมถึงการแสวงหาทางออกท่ามกลางความขัดแย้ง และต้องระมัดระวังไม่ให้คนอื่นเข้ามาวุ่นวายในประเทศของเรา และสื่อต้องระวังการนำเสนอข่าว เพราะหากเขาเห็นว่าเราแก้ไขปัญหาไม่ได้ เขาจะเข้ามาช่วย ทุกวันนี้ผมมองว่า เป็นการแก้ไขปัญหาภายในอยู่ การมีความร่วมมือกับต่างประเทศถือเป็นสิ่งที่ดี สิ่งที่เราได้จากประเทศเพื่อนบ้าน คือ การไม่ให้เป็นแหล่งซ่อนตัวของผู้ก่อเหตุ ไม่สนับสนุนการใช้ความรุนแรงและการไม่แบ่งแยกดินแดน”ผบ.ทบ.กล่าว
พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า กรณีที่ สมช. เตรียมใช้พ.รบ.ความมั่นคงแทน พ.ร.ก.ฉุกเฉิน ในพื้นที่ 5อำเภอในจังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น ถือเป็นแนวทาง ซึ่งเราได้เตรียมการเพื่อกำหนดขั้นตอนและระยะเวลายุทธศาสตร์ที่เราต้องเดิน ซึ่งการลดพื้นที่ใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉินสามารถทำได้ โดยฝ่ายความมั่นคงเสนอว่า จะต้องมีมาตรการต่างๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่เกิดความสบายใจในการทำหน้าที่โดยถูกต้อง ไม่ไปละเมิดสิทธิ
**ปชป.ถล่ม “ปู”แนะล้มลงนามโจร
ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคพร้อมเสนอข้อมูลในพื้นที่ให้กับรัฐบาล ด้วยการตั้งกระทู้ถามนายกรัฐมนตรี ซึ่งนายกฯ ควรมาตอบด้วยตัวเอง หากจะมอบให้ ร.ต.อ.เฉลิม เป็นผู้ตอบกระทู้แทน ต้องถามว่า ร.ต.อ.เฉลิม เกี่ยวข้องกับการลงนามเจรจาสันติภาพหรือไม่ เพราะเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พบกับร.ต.อ.เฉลิม เจ้าตัวบอกว่า ไม่ได้เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ ทั้งนี้ รัฐบาลต้องชี้แจงว่า คนที่อ้างตัวเป็นผู้แทนของผู้ที่เห็นต่างจากรัฐ ได้สื่อสารกับกลุ่มปฏิบัติการณ์ในพื้นที่หรือยัง และจะสื่อสารให้กับกลุ่มในพื้นที่ได้เมื่อไร และหากสื่อสารแล้ว เหตุใดความรุนแรงจึงเกิดขึ้นอยู่ หากรัฐบาลยังเดินหน้าคุยกับผู้คุมสภาพในพื้นที่ไม่ได้ ก็ไม่เป็นประโยชน์ และจะยิ่งทำให้เกิดปัญหามากขึ้น
นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า จะทำหนังสือเสนอแนวทางแก้ปัญหาภาคใต้ถึง นายกรัฐมนตรีและ ร.ต.อ.เฉลิม เพื่อให้มีการปรับปรุงทิศทางการทำงาน โดยเรื่องหนึ่งระบุว่า รัฐบาลต้องระมัดระวังว่า การลงนามเป็นการยอมรับสถานภาพขององค์การก่อการร้ายจะกระทบต่อการเข้ามาแทรกแซงขององค์กรความร่วมมืออิสลาม (โอไอซี) หรือสหประชาชาติหรือไม่ และรัฐบาลจะแก้ปัญหาอย่างไร พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ใช้กำปั้นเหล็กผิดครั้งที่หนึ่ง ไปเจรจาผิดตัว เกิดระเบิดยะลาผิดครั้งที่สอง ผิดครั้งที่สามให้น้องสาวไฟเขียวให้มีการลงนามสันติภาพ จึงขอฝากไปยังพ.ต.ท.ทักษิณว่าอย่าทำร้ายประเทศไทยด้วยการหาเสียงทางการเมืองที่ไม่ยั่งยืน ไม่ว่าจะไปลงนามอีกกี่กลุ่ม ก็เป็นที่หัวเราะของคนในวงการความมั่นคง
ที่รัฐสภา นายประเสริฐ พงษ์สุวรรณศิริ ส.ส.ยะลา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การลงนามความกับกลุ่มบีอาร์เอ็น เป็นการทำงานแบบนักการตลาด ที่มีความเร่งร้อน เร่งรีบ รัฐบาลน่าจะนำเรื่องดังกล่าวผ่านสภาตามมาตรา 190 ก่อนที่จะไปทำการเจรจา
ด้านนายสุรเชษฐ์ แวอาแซ ส.ส.นราธิวาส พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่จะมีการพิจารณาปรับใช้พ.ร.ก.ฉุกเฉิน มาเป็น พ.ร.บ.ความมั่นคงใน 5 อำเภอ หลังจากเจรจากับกลุ่ม บีอาร์เอ็น ว่า แปลกใจมาก ตอนแรกรัฐบาลบอกว่าจะปรับมาใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง แต่เลขาฯ สมช. กลับต้องรอคุยกับกลุ่มก่อความไม่สงบก่อน ก็ไม่เข้าใจว่า ทำไม สมช. นำพี่น้องใน 5 อำเภอ มาเป็นตัวประกัน ในการเจรจากลับกลุ่มก่อความไม่สงบ ซึ่งทำให้มองได้ว่ารัฐบาลนี้ขาดความชัดเจนในการแก้ปัญหา จึงอยากขอความชัดเจนในภาวะผู้นำของนายกรัฐมนตรี
ส่วน นายอันวาร์ สาและ ส.ส.ปัตตานี พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า ควรจะเปลี่ยนผู้ดูแลปัญหาจาก ร.ต.อ.เฉลิม ไปเป็นคนอื่น
**เชิญ 3 วัยรุ่นต้องสงสัยสอบเครียด
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าเหตุคนร้ายนำประทัดยักษ์ไปวางไว้ในร้านทองซังเต้ง 2 เลขที่ 4 ถนนรถไฟ เขตเทศบาลนครยะลา จนเกิดระเบิดขึ้นภายในร้าน มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย เหตุเกิดวันที่ 5 มี.ค. ว่า เมื่อเวลา 06.00 น. พ.ต.อ.พชรพล ณ นคร ผกก.สภ.เมือง จ.ยะลา ได้สั่งการให้ชุดสืบสวนสอบสวน ประสานกำลังทหาร เข้าตรวจค้นบ้านเป้าหมาย 2 หลัง ในซอยสิโรรส 6 และซอยเลิศปัญญา ย่านตลาดเก่า เขตเทศบาลนครยะลา ภายหลังภาพจากกล้องวงจรปิดพบรถจักรยานยนต์ของคนร้ายที่ก่อเหตุ ขับออกจากซอยเลิศปัญญาก่อนเกิดเหตุ ซึ่งหลังจากเข้าตรวจค้นได้เชิญตัววัยรุ่น 3ราย ไปซักถามที่สภ.เมือง
เวลา 10.00 น. ที่ห้องประชุมสภ.เมือง พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผบก.ภ.จว. กล่าวภายหลังการประชุมว่า จากตรวจสอบเบื้องต้นคนร้ายน่าจะได้ทองคำไปกว่า 20 บาท ซึ่งเชื่อว่าภายใน 2 วันนี้จะมีความชัดเจน แต่ข้อสังเกตในการก่อเหตุคนร้ายในครั้งนี้ คือ พบว่าคนร้ายจุดชนวนแล้วนำไปวางที่ตู้ทอง รอให้ระเบิด แล้ววิ่งกลับเข้าไปหยิบทอง โดยระเบิดที่พบคล้ายกับของกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง จึงมีข้อสังเกตว่าคนร้ายมีความเชื่อมโยงกันหรือไม่ อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้ให้น้ำหนักเรื่องชิงทรัพย์ก่อน
ขณะที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจยะลาที่ 11 สนธิกำลังตำรวจสภ.เมือง ชุดสืบสวนสอบสวนคดีสำคัญ ศูนย์ปฎิบัติการตำรวจจังหวัดชายแดนภาคใต้ เข้าตรวจค้นห้องพักเลขที่ 541/97 อาคารที่พักแขวงการทางจังหวัดยะลา ชั้น 3 อ.เมือง จ.ยะลา ได้ควบคุมตัวผู้ต้องสงสัย 3 ราย ประกอบด้วย นายมะเสาพี ดอแม อายุ 26 ปี อยู่บ้านเลขที่ 90 หมู่ 2 ต.สามัคคี อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส นายอาซูวัล กาเจ อายุ 29 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 2 ต.เรียง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส และนายอัสมาน กาเจ อายุ 24 ปี อยู่บ้านเลขที่ 20 หมู่ 2 ต.เรียง อ.รือเสาะ จ.นราธิวาส
***มั่นคงเตือนระวังระเบิด-คาร์บอมบ์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หน่วยข่าวความมั่นคงได้แจ้งเตือนไปยังหน่วยกำลังที่รับผิดชอบในพื้นที่ 12 อำเภอ ให้เพิ่มความเข้มในการตั้งจุดตรวจ การลาดตระเวนเส้นทาง ตลอด 24 ชั่วโมง หลังหน่วยข่าวได้แจ้งเตือนว่า นายมะซอเร ดือรามะ แกนนำอาร์เคเคระดับปฏิบัติการเตรียมระเบิดแสวงเครื่อง จำนวน 8 ลูก บรรจุอยู่ในกระเป๋าเหล็ก เตรียมก่อเหตุในเขตเทศบาลเมืองปัตตานี และอีก 1 ลูก เป็นระเบิดคาร์บอมบ์ น้ำหนัก 40 กิโลกรัม โดยคนร้ายได้นำระเบิดมาซุกไว้ในรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อมิตซูบิชิ สีขาว กระโปรงด้านหน้ามีแถบดำสองเส้น เป้าหมายเตรียมก่อเหตุในพื้นที่ จ.สงขลา ล่าสุด ระเบิดทั้ง 8 ลูก ได้เคลื่อนย้ายออกมาจากพื้นที่ อ.ยะรัง และซุกซ่อนไว้บริเวณเขตรอยต่อ อ.เมืองปัตตานีแล้ว
หน่วยข่าวด้านความมั่นคง กล่าวว่า สมาชิกกลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรง เครือข่ายของ นายมะซอเร มีแผนที่จะก่อเหตุลอบวางระเบิดในพื้นที่เขตเทศบาลเมืองปัตตานี และได้นำระเบิดแสวงเครื่องเข้าไปซุกซ่อนในพื้นที่ อ.เมือง เรียบร้อยแล้ว ซึ่งกลุ่มดังกล่าวน่าจะมุ่งเป้าหมายก่อเหตุในหลายจุดพร้อมๆ กัน เหมือนเหตุการณ์ลอบวางระเบิดเพลิง และวางระเบิดแสวงเครื่องในพื้นที่ อ.เมือง ให้เหมือนเหตุในวันที่ 16-17 ก.พ. ที่ผ่านมา ทำให้ อส.เสียชีวิต 3 นาย ประชาชนบาดเจ็บจำนวนมาก ทรัพยิ์สินเสียหายอีกหลายแห่ง
ส่วนรถยนต์คันที่คนร้ายประกอบระเบิดนั้น กลุ่มก่อความไม่สงบอาจจะนำไปก่อเหตุในพื้นที่ จ.สงขลา ตามที่ได้รับแจ้ง หรืออาจจะเป็นการปล่อยข่าวลวงเพื่อเบี่ยงเบนความสนใจของเจ้าหน้าที่ จากนั้นก็อาจจะนำไปก่อเหตุในพื้นที่ อ.เมือง, อ.หนองจิก ก็เป็นได้