ASTVผู้จัดการรายวัน- ถกรับมือวิกฤตไฟวันนี้ 3 การไฟฟ้าเตรียมรับกรณีฉุกเฉินไฟขาด งัดมาตรการขั้นเด็ดขาดดับไฟบางพื้นที่ ขั้นรองลงมาแค่ลดแรงดันทำให้ไฟตก ดับ หวังดึงแผนประหยัดภาคอุตสาหกรรมและประชาชนลดใช้ไฟให้ได้ 500 เมกะวัตต์ช่วยสำรองเพิ่มสูงซึ่งจะฝ่าวิกฤตไฟดับได้ทันที
นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า วันนี้ ( 5 มี.ค.) จะมีการประชุมเตรียมความพร้อมรองรับวิกฤตไฟฟ้าวันที่ 5 เม.ย. 56 ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในภาพรวมเพื่อประเมินแผนรองรับต่างๆ อีกครั้งหนึ่ง โดยจะนำแผนของแต่ละส่วนมาดูรายละเอียดก่อนจะนำเสนอและหารืออีกครั้งกับนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงานวันที่ 6 มี.ค.
นายธนา พุฒรังษี รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการปรับปรุงความเชื่อถือได้ระบบไฟฟ้าของ 3 การไฟฟ้าได้แก่ กฟผ. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) เพื่อที่จะหารือถึงแผนการรองรับวิกฤตไฟฟ้า โดยเฉพาะวันที่ 5 เม.ย.ที่สำรองไฟจะต่ำสุดซึ่งกรณีที่ขาดแคลนไฟฟ้าแผนที่เข้มข้นสุดก็คือการดับไฟบางพื้นที่
“กรณีไฟฟ้าขาดแคลนแผนที่เข้มข้นสุดคือ การดับไฟบางพื้นที่ โดยจะดูตัวเลขอีกครั้ง ซึ่งจะเฉลี่ยดับไฟในเขตกรุงเทพฯ 30% ภูมิภาค 70% ส่วนแผนรองลงมากรณีที่ไม่เข้มข้นคือ การลดแรงดันไฟฟ้าบางพื้นที่ซึ่งอาจทำให้เกิดไฟตก ดับ เล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น” นายธนากล่าว
สำหรับการขอความร่วมมือในภาคอุตสาหกรรม และภาคประชาชนที่จะช่วยกันประหยัดไฟฟ้าในช่วงเกิดปัญหานั้นประเมินว่าจะสามารถประหยัดไฟได้ประมาณ 500 เมกะวัตต์ ซึ่งวันที่ 5 เม.ย.สำรองไฟพร้อมจ่ายเดิมที่อยู่ระดับต่ำ 676 เมกะวัตต์แต่กฟผ.ได้จัดหาเพิ่มเติมมาเพิ่มได้อีก 291 เมกะวัตต์ก็จะเพิ่มเป็น 1,058 เมกะวัตต์และหากได้เพิ่มจากภาคอุตสาหกรรมและประชาชนอีก 500 เมกะวัตต์สำรองก็จะเป็นระดับ 1,500 เมกะวัตต์จึงถือเป็นสำรองปกติที่ปัญหาไฟดับก็จะไม่เกิดขึ้นเว้นกรณีฉุกเฉินจริงๆ
นายนำชัย หล่อวัฒนตระกูล ผู้ว่ากฟภ. กล่าวว่า กฟภ.ได้เตรียมพร้อมกรณีฉุกเฉินในเรื่องของรถบริการไฟฟ้าเคลื่อนที่(รถโมบาย) ที่ปั่นจากดีเซลไว้บริการโดยสวนของกฟภ.จะมีพร้อม 30-40 คัน และ กรณีเลวร้ายหากกฟผ.ประสานขอให้ดับไฟก็ประเมินว่าจะช่วยดับได้อย่างต่ำ 300 เมกะวัตต์ โดยจะดับพื้นที่ชนบทและแต่ละพื้นที่ไม่เกิน 2 ชั่วโมง
นายอาทร สินสวัสดิ์ ผู้ว่ากฟน. กล่าวว่า คงจะต้องสอบถามกฟผ.ว่าวันที่ 5 เม.ย.ที่สำรองไฟต่ำสุดเมื่อมีการลดการประหยัดไฟจากส่วนต่างๆ แล้วที่สุดกรณีเลวร้ายหากจะต้องดับไฟจะเป็นปริมาณเท่าใดโดยเบื้องต้นจะสำรองไฟไว้ให้ 300-350 เมกะวัตต์แต่เท่าที่ประเมินจากตัวเลขที่ทุกฝ่ายจะร่วมมือกันประหยัดก็ไม่น่าจะถึงขั้นต้องดับไฟ.
นายณอคุณ สิทธิพงศ์ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า วันนี้ ( 5 มี.ค.) จะมีการประชุมเตรียมความพร้อมรองรับวิกฤตไฟฟ้าวันที่ 5 เม.ย. 56 ของหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในภาพรวมเพื่อประเมินแผนรองรับต่างๆ อีกครั้งหนึ่ง โดยจะนำแผนของแต่ละส่วนมาดูรายละเอียดก่อนจะนำเสนอและหารืออีกครั้งกับนายพงษ์ศักดิ์ รักตพงศ์ไพศาล รมว.พลังงานวันที่ 6 มี.ค.
นายธนา พุฒรังษี รองผู้ว่าการระบบส่ง การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย(กฟผ.) กล่าวว่า การประชุมคณะกรรมการปรับปรุงความเชื่อถือได้ระบบไฟฟ้าของ 3 การไฟฟ้าได้แก่ กฟผ. การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค(กฟภ.) และการไฟฟ้านครหลวง(กฟน.) เพื่อที่จะหารือถึงแผนการรองรับวิกฤตไฟฟ้า โดยเฉพาะวันที่ 5 เม.ย.ที่สำรองไฟจะต่ำสุดซึ่งกรณีที่ขาดแคลนไฟฟ้าแผนที่เข้มข้นสุดก็คือการดับไฟบางพื้นที่
“กรณีไฟฟ้าขาดแคลนแผนที่เข้มข้นสุดคือ การดับไฟบางพื้นที่ โดยจะดูตัวเลขอีกครั้ง ซึ่งจะเฉลี่ยดับไฟในเขตกรุงเทพฯ 30% ภูมิภาค 70% ส่วนแผนรองลงมากรณีที่ไม่เข้มข้นคือ การลดแรงดันไฟฟ้าบางพื้นที่ซึ่งอาจทำให้เกิดไฟตก ดับ เล็กๆ น้อยๆ เท่านั้น” นายธนากล่าว
สำหรับการขอความร่วมมือในภาคอุตสาหกรรม และภาคประชาชนที่จะช่วยกันประหยัดไฟฟ้าในช่วงเกิดปัญหานั้นประเมินว่าจะสามารถประหยัดไฟได้ประมาณ 500 เมกะวัตต์ ซึ่งวันที่ 5 เม.ย.สำรองไฟพร้อมจ่ายเดิมที่อยู่ระดับต่ำ 676 เมกะวัตต์แต่กฟผ.ได้จัดหาเพิ่มเติมมาเพิ่มได้อีก 291 เมกะวัตต์ก็จะเพิ่มเป็น 1,058 เมกะวัตต์และหากได้เพิ่มจากภาคอุตสาหกรรมและประชาชนอีก 500 เมกะวัตต์สำรองก็จะเป็นระดับ 1,500 เมกะวัตต์จึงถือเป็นสำรองปกติที่ปัญหาไฟดับก็จะไม่เกิดขึ้นเว้นกรณีฉุกเฉินจริงๆ
นายนำชัย หล่อวัฒนตระกูล ผู้ว่ากฟภ. กล่าวว่า กฟภ.ได้เตรียมพร้อมกรณีฉุกเฉินในเรื่องของรถบริการไฟฟ้าเคลื่อนที่(รถโมบาย) ที่ปั่นจากดีเซลไว้บริการโดยสวนของกฟภ.จะมีพร้อม 30-40 คัน และ กรณีเลวร้ายหากกฟผ.ประสานขอให้ดับไฟก็ประเมินว่าจะช่วยดับได้อย่างต่ำ 300 เมกะวัตต์ โดยจะดับพื้นที่ชนบทและแต่ละพื้นที่ไม่เกิน 2 ชั่วโมง
นายอาทร สินสวัสดิ์ ผู้ว่ากฟน. กล่าวว่า คงจะต้องสอบถามกฟผ.ว่าวันที่ 5 เม.ย.ที่สำรองไฟต่ำสุดเมื่อมีการลดการประหยัดไฟจากส่วนต่างๆ แล้วที่สุดกรณีเลวร้ายหากจะต้องดับไฟจะเป็นปริมาณเท่าใดโดยเบื้องต้นจะสำรองไฟไว้ให้ 300-350 เมกะวัตต์แต่เท่าที่ประเมินจากตัวเลขที่ทุกฝ่ายจะร่วมมือกันประหยัดก็ไม่น่าจะถึงขั้นต้องดับไฟ.
