“กฟน.” เตรียมแผน 8 ขั้นตอนรองรับวิกฤตก๊าซพม่า โดยกรณีเลวร้ายสุดหากเกิดอุบัติเหตุโรงไฟฟ้า กฟผ.หยุดจ่ายไฟ เตรีมงัดแผนฉุกเฉินด้วยการดับไฟรอบนอกวงแหวนสลับพื้นที่ไม่เกิน 1 ชม. แต่มั่นใจทุกฝ่ายร่วมมือกันจะเอาอยู่
นายอาทร สินสวัสดิ์ ผู้ว่าการ การไฟฟ้านครหลวง หรือ กฟน. เปิดเผยว่า ขณะนี้ 3 การไฟฟ้าได้ประสานงานเตรียมพร้อมรองรับกรณีก๊าซธรรมชาติจากพม่าหยุดส่งตั้งแต่วันที่ 5-14 เม.ย. โดยมีแผนรองรับไว้ถึง 8 ขั้นตอน และกรณีเลวร้ายสุดหากโรงโรงไฟฟ้าแห่งใดแห่งหนึ่งของการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เกิดอุบัติเหตุทำให้ต้องหยุดจ่ายไฟ กฟน.บางส่วนมีแผนฉุกเฉิน คือ การงดจ่ายไฟพื้นที่รอบนอกวงแหวน ซึ่งจะเน้นบ้านที่อยู่อาศัย สลับพื้นที่ไม่เกิน 1 ชั่วโมง เพื่อให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยสุด
ส่วนพื้นที่เศรษฐกิจสำคัญด้านใน โรงงานอุตสาหกรรม ตลาดหุ้น โรงพยาบาลทุกแห่ง เช่น ศิริราช รามาธิบดี จุฬาลงกรณ์ จะไม่มีผลกระทบและไม่ถูกตัดไฟฟ้า โดยในพื้นที่สำคัญทาง กฟน.ได้นำรถติดตั้งเครื่องยนต์ดีเซลผลิตไฟฟ้าไว้รองรับยามฉุกเฉิน เหมือนกับในพื้นที่ รพ.ศิริราช จะเห็นได้ว่ามีรถผลิตไฟฟ้ารองรับตลอดเวลา
“เราเตรียมมองไว้หลายกรณี ตั้งแต่ประชาชนผู้ประกอบการให้ความร่วมมือลดการใช้พลังงานลงอย่างน้อยร้อยละ 10 เปิดแอร์อุณหภูมิสูงขึ้น ลดการใช้ไฟฟ้าในช่วงพีก หรือ 14.00-17.00 น.ในกรณีนี้ปัญหาจะไม่เกิดไฟตกไฟดับทั้งสิ้นไม่ว่าจะเป็นเขตใด” นายอาทรกล่าว
นายธนา พุฒรังษี รองผู้ว่าการระบบส่ง กฟผ.กล่าวว่า วันที่ 26 ก.พ. กฟผ.จะชี้แจงถึงแผนการรับมือสถานการณ์ไฟฟ้าช่วงวันที่ 5-14 เม.ย.ต่อนายวีรพงศ์ ไชยเพิ่ม ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เพื่อให้ภาคอุตสาหกรรมมั่นใจว่าจะไม่ส่งผลกระทบต่อกระบวนการผลิตและหากฉุกเฉินจริงๆ พื้นที่ดับไฟแรกๆ จะเป็นที่อยู่อาศัยเพราะจะมีผลกระทบน้อยกว่าโรงงานต่างๆ อย่างไรก็ตาม หากโรงงานใดปรับแผนการผลิตในวันที่ 5 เม.ย.มาเป็นช่วงบ่ายก็จะช่วยให้สำรองไฟไม่ต่ำเกินไปได้มาก
“การดับไฟเป็นหน้าที่ของ กฟน.และ กฟภ.ว่าจะเลือกจุดไหนแต่นั่นกรณีวิกฤตจริงๆ ซึ่งถ้าทุกฝ่ายร่วมกันลดการใช้โดยเฉพาะปิดเครื่องปรับอากาศที่เปลืองไฟมาก และอื่นๆ ก็ไม่ถึงขั้นจะต้องดับไฟอะไร” นายธนากล่าว
