“จารุพงศ์” กำชับผู้ว่าฯ ประหยัดไฟ - สั่ง กฟน.-กฟผ.สำรองไฟฟ้ารับวิกฤตพลังงาน

รมว.มหาดไทยคอนเฟอเรนซ์สั่งผู้ว่าฯ ทั่วประเทศประหยัดไฟ-คุมเข้มงานทะเบียนป้องกันทุจริต อีกด้านให้ข่าวร่วม กฟน.-กฟภ. เผยสำรองไฟฟ้ารับมือวิกฤตพลังงาน เม.ย. วอนไม่ต้องเป็นห่วง

วันนี้ (26 ก.พ.) ที่กระทรวงมหาดไทย นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย เป็นประธานการประชุมกระทรวงมหาดไทย โดยมีการถ่ายทอดผ่านระบบวิดีโอคอนรเฟอเรนซ์ไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทั่วประเทศ โดยนายจารุพงศ์กล่าวในที่ประชุมว่า เรื่องการประหยัดไฟ สืบเนื่องจากทางกระทรวงพลังงานได้แจ้งให้ทราบในที่ประชุม ครม.ว่าจะต้องมีการลดจำนวนกำลังการผลิตไฟฟ้าอันเนื่องมาจากพม่าจะปิดซ่อมท่อก๊าซธรรมชาติ จากการสอบถามกับการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค และการไฟฟ้านครหลวง พบว่าประเทศไทยมีกำลังการผลิต 30,000 เมกะวัตต์ เราใช้จริง 26,000 เมกะวัตต์ เราสำรองไว้ 4,000 เมกะวัตต์ ตามหลักสากล

แต่เมื่อปิดท่อก๊าซจะทำให้กำลังการผลิตพอดีที่ 26,000 เมกะวัตต์ แล้วจะไม่มีพลังงานสำรอง จึงจำเป็นที่จะต้องวางมาตรการในการประหยัดไฟ ในเฉพาะช่วงฤดูร้อนที่มีการใช้ไฟกันมาก ดังนั้น จึงขอให้ผู้ว่าฯ ได้นำนโยบายประหยัดพลังงานซึ่งเราเคยทำมาโดยตลอดมาใช้อย่างเข้มงวดกวดขัน เช่น งดใส่สูท ปรับอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศไว้ที่ 25 องศาเซลเซียส หรือปิดเครื่องปรับอากาศในช่วงพักเที่ยง จึงฝากให้ผู้ว่าฯ เอาใจใส่หน่วยราชการต่างๆ และขอร่วมมือกับรัฐวิสาหกิจและภาคเอกชนต่างๆ ด้วย

รมว.มหาดไทยกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ในงานทะเบียนจะต้องตรวจตราอย่างเข้มงวดกวดขัน เพราะต่อไปเราจะลดรั้วประเทศลงเพื่อต้อนรับประชาคมอาเซียน เราจะต้องมีระบบแยกแยะตัวบุคคลของงานการทะเบียน เรื่องทุจริตงานทะเบียนขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยกำชับไปยังอำเภอและนายทะเบียนท้องถิ่น กำชับว่าอย่าให้เกิดขึ้น และพัฒนาให้สามารถป้องกันการทุจริตได้ และติดตามให้ทันเหตุการณ์

ต่อมานายจารุพงศ์ให้สัมภาษณ์พร้อมกับนายอาทร สินสวัสดิ์ ผู้ว่าการการไฟฟ้านครหลวง และนายนำชัย หล่อวัฒนตระกูล ผู้ว่าการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค ถึงกรณีพม่าจะหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติ ให้กับไทยในช่วงระหว่างวันที่ 5-13 เม.ย. 2556 ซึ่งมีผลกระทบต่อการเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า และความเสี่ยงที่อาจมีไฟฟ้าดับหรือไฟตกในพื้นที่ภาคใต้และกรุงเทพมหานคร ว่าขอให้ประชาชนไม่ต้องเป็นห่วง ได้มีการวางแผนกับ กฟภ.และ กฟน.แล้ว เรื่องดังกล่าวไม่ใช่สิ่งทีอันตรายหรือสิ่งที่น่ากลัวใดๆ

ทั้งนี้ แม้การซ่อมระบบของประเทศพม่าจะทำให้มีไฟฟ้าส่งมาน้อยลง แต่ความสามารถในการผลิตไฟฟ้ายังอยู่ในเกณฑ์ที่สามารถผลิตได้ เพราะได้มีการเตรียมไฟฟ้าสำรองแล้ว 4,000 เมกะวัตต์ เชื่อว่าปริมาณไฟฟ้าที่เตรียมไว้เพียงพอต่อการใช้งานเว้นแต่มีเรื่องฉุกเฉินเกิดขึ้น ซึ่งอาจจะมีปรับแผนในการจ่ายไฟในกรณีที่มีเหตุ ดังนั้นเพื่อป้องกันผลกระทบจึงจำเป็นต้องเตือนให้ประชาชนทราบเบื้องต้น ขณะเดียวกันก็ขอให้ประชาชนช่วยกันประหยัดพลังงานอีกทางหนึ่งด้วย

“มาตรการประหยัดไฟฟ้าของกระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามแนวนโยบายของรัฐบาล เช่น การประหยัดพลังงานของหน่วยราชการร้อยละ 10, การใช้เครื่องปรับอากาศที่อุณหภูมิ 25 องศา ด้วยการประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนล้างแอร์ก่อนเข้าหน้าร้อนเพื่อรองรับการใช้พลังงาน” รมว.มหาดไทยกล่าว

ขณะที่นายอาทรกล่าวเสริมว่า หากการใช้พลังงานอยู่ในปริมาณปกติเชื่อว่าจะไม่เกิดปัญหา การที่รัฐบาลมุ่งเน้นการประหยัดพลังงานจะทำให้มีพลังงานส่วนหนึ่งเป็นพลังงานสำรอง ด้านนายนำชัยกล่าวว่า สำหรับภาคอุตสาหกรรมได้มีมาตรการให้เลี่ยงการใช้ไฟฟ้าในช่วงบ่าย หากมีความจำเป็นในช่วงเวลาดังกล่าวต้องดับไฟคงมีการดับแค่ส่วนน้อยไม่เกินร้อยละ 2 ของพื้นที่ทั้งหมด โดยอยู่ในฟื้นที่รอบนอกเขตขุมชนเมืองหากดับจะดับไม่นาน การดับไฟถ้ามีปัญหาจะดับเฉพาะวันที่ 5 เม.ย. วันอื่นจะไม่มีปัญหา