xs
xsm
sm
md
lg

กฟภ.เตรียมแผนรับมือวิกฤตพลังงาน ยันสมุยไฟไม่ดับแน่ 100%

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายวัฒนา แพรกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายบริหาร การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.)เขต 2 ภาคใต้ เปิดเผยกรณีพม่าจะหยุดจ่ายก๊าซในเดือนเมษายน และอาจกระทบต่อพื้นที่ในภาคใต้ โดยเฉพาะแหล่งท่องเที่ยวอย่างเกาะสมุย จ.สุราษฎร์ธานี ว่า ทาง กฟภ.ได้มีมาตรการรองรับวิกฤตพลังงานในครั้งนี้อยู่แล้ว ทั้งระดมเครื่องยนต์กำเนิดไฟฟ้าเคลื่อนที่ หรือโมบายจากทั่วประเทศ 25ตัว
ด้านนายนำชัย หล่อวัฒนตระกูล ผู้ว่า กฟภ. ได้อนุมัติให้เช่าโมบายจากสิงคโปร์ด้วยงบประมาณเกือบ 25 ล้านบาท ตั้งแต่ช่วงทำการซ้อมสายเคเบิลไฟฟ้าใต้ดิน ซึ่งจะหมดสัญญาเช่าในเดือนเมษายนนี้ ฉะนั้นจึงมั่นใจ 100 เปอร์เซ็นต์ว่า ชาวเกาะสมุยจะไม่ประสบเหตุการณ์ไฟดับแน่นอน
สำหรับสายเคเบิลใต้น้ำที่นำขึ้นฝั่งที่บ้านแม่น้ำ อ.เกาะสมุย แล้วเชื่อมต่อกับเคเบิลใต้ดินนั้น ได้ดำเนินการแล้วเสร็จ โดยทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยเตรียมเชิญนายกรัฐมนตรี มาเป็นประธานในพิธีปล่อยกระแสไฟฟ้าในประมาณกลางเดือนมีนาคมนี้
นายธนรัชต์ ภุมมะกสิกร ผู้อำนวยการเขื่อนสิริกิติ์ จ.อุตรดิตถ์ กล่าวว่า หลังรับแจ้งว่าพม่าหยุดจ่ายก๊าซ ในช่วงวันที่ 5-13 เมษายน 2556 ซึ่งมีผลกระทบต่อการเดินเครื่องผลิตกระแสไฟฟ้า และความเสี่ยงที่อาจมีไฟฟ้าดับ หรือไฟตกในพื้นที่ภาคใต้และกรุงเทพมหานคร และผลต่อระบบการผลิตกระแสไฟฟ้าของประเทศไทยโดยตรง ทาง กฟภ.ได้เตรียมแผนรองรับแก้ไขปัญหาดังกล่าว ให้ประชาชนได้รับผลกระทบน้อยที่สุด
สำหรับเขื่อนสิริกิติ์เป็นเขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุด สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้สูงสุดถึง 500,000 กิโลวัตต์ ช่วยเสริมระบบไฟฟ้าของประเทศให้มั่นคงยิ่งขึ้น แต่การผลิตกระแสไฟฟ้าของเขื่อนสิริกิติ์ ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำที่ปล่อยออก เพื่อการชลประทานจะผ่านเครื่องกำเนิดไฟฟ้า และเข้าสู่กระบวนการจ่ายกระแสไฟฟ้าของ กฟภ.ไปยังการไฟฟ้านครหลวง และ กฟภ.ทั่วประเทศ
นายธนวัชต์ กล่าวต่อไปว่า แต่ด้วยปริมาณน้ำที่ไหลเข้าเขื่อนสิริกิติ์ปัจจุบันเฉลี่ยวันละ 2 ล้านลูกบาศก์เมตร เหตุจากฝนที่ทิ้งช่วง ทำให้ระดับน้ำที่สามารถใช้งานได้อยู่ที่ 1,646 ล้าน ลูกบาศก์เมตร หรือ ร้อยละ 24.70 เป็นปริมาณน้ำที่ต่ำกว่าช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมาถึง 11 เมตร หรือ 5,030 ล้านลูกบาศก์เมตร โดยปีที่ผ่านมาเขื่อนสิริกิติ์เก็บกักน้ำได้มากถึง 6,678 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือร้อยละ 70.23 เมื่อการพร่องน้ำของเขื่อนขึ้นอยู่กับความต้องการใช้น้ำของกรมชลประทาน และมติที่ประชุมของคณะอนุกรรมการติดตาม และวิเคราะห์แนวโน้มสถานการณ์น้ำ ช่วงภัยแล้งนี้มีการระบายน้ำเฉลี่ยวันละ 25 ล้านลูกบาศก์เมตร
ทั้งนี้ทุกปีที่ผ่านมา เมื่อเข้าสู่เดือนเมษายนจะพร่องน้ำลดลงประมาณ 15-20 ล้านลูกบาศก์เมตร ส่วนทางกับความต้องการใช้ไฟฟ้าของประชาชนที่สูงสุด แต่ปีนี้ด้วยผลกระทบจากพม่าหยุดจ่ายก๊าซ อาจมีการปรับแผนทั้งนี้ขึ้นอยู่กับกรมชลประทาน แต่ต้องคำนึงถึงปริมาณน้ำต้นทุนที่เก็บกักไว้ด้วย
อย่างไรก็ตาม การแก้ปัญหาที่ดีและทำได้ง่ายที่สุด คือ การประหยัดการใช้ไฟฟ้า การรณรงค์ให้ประชาชนตระหนักถึงการขาดแคลนพลังงานไม่เฉพาะไฟฟ้า รวมไปถึงทรัพยากรธรรมชาติที่มีวันหมด ยิ่งต้องพึ่งพาต่างประเทศยิ่งต้องให้ความสำคัญ และต้องกระทำอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช่เฉพาะเหตุวิกฤตเท่านั้น
กำลังโหลดความคิดเห็น