ศึกชิงเมืองหลวง เดิมพันประเทศ!

โสภณ องค์การณ์
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์

การรุกหนักด้วยสโลแกนหาเสียง “บริหารแบบไร้รอยต่อ” เจื้อยแจ้วจากปากของคนสมองไร้รอยหยัก ได้สร้างความฮึกเหิมอย่างมากในกลุ่มพวกอาชญากรการเมืองกุมอำนาจรัฐหวังกินรวบยึดประเทศไทย ไร้อุปสรรคขวางกั้น

อารมณ์ คึกคักถูกเสริมด้วยบรรดาโพลล์หลายแห่งว่า “จูดี้ อีเว้นท์” นักสร้างภาพ เปี่ยมลีลานักประชาสัมพันธ์ ไร้ประสบการณ์งานบริหารองค์กร มาแรงแซงโค้ง มีโอกาสคว้าชัยชนะในศึกชิงเก้าอี้ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานครแน่ๆ

การขับเคลื่อนด้วยโพลล์ไร้ความน่าเชื่อถือ สื่อรับจ้าง หน่วยงานกุมอำนาจรัฐทำให้ “จูดี้” มีสีหน้าระรื่น เดินประกบแม่นางโพยปูโพรกเน่าในตระเวนขายนโยบายประชานิยมสารพัดให้คนกรุงมากกว่า 37 โครงการ

อย่าว่าแต่ 4 ปีเลย ชาตินี้จะสำเร็จถึงครึ่งหนึ่งหรือเปล่าก็ไม่รู้ เมื่อนโยบายล้างผลาญชาติทุกย่างก้าวของกลุ่มอาชญากรการเมืองได้ผลักดันประเทศให้ใกล้ความหายนะด้วยการกู้เงิน นโยบายชั่วร้าย 3 ธนาคารใกล้เจ๊ง!

ล่าสุด รัฐบาลของเครือข่ายอาชญากรขายชาติได้เข้าไปฮุบอำนาจในคณะกรรมการ ธ.ก.ส. เรียบร้อย เพื่อสานต่อนโยบายรับจำนำข้าว ซึ่งจะเป็นส่วนหนึ่งของแผนทำลายความมั่นคงของชาติ ทำให้ข้าวไทยไร้ตลาด ไม่มีใครซื้อ

ศึกเลือกตั้งผู้ว่า กทม. จึงมีเดิมพันสูงกว่าการมองง่ายๆ ว่าเป็นการต่อสู้ในการเมืองท้องถิ่น! กรุงเทพฯ คือศูนย์รวมแห่งอำนาจของประเทศไทย ถ้าปล่อยให้รัฐบาลขายชาติ มีเครือข่ายอาชญากร ผู้ก่อการร้าย ฆ่าทหาร เผาบ้านเผาเมือง ได้กุมอำนาจผู้ว่าฯ กทม. อีก นั่นเท่ากับเพิ่มงบให้โกงกินอีกมากมาย

ผู้ลงคะแนนโหวตเลือกผู้ว่าฯ ย่อมมีสิทธิ ใครจะโดนจูงใจ ชี้นำโดยปัจจัยต่างๆ ให้เลือกใครโดยเฉพาะก็สุดแล้วแต่ มีทั้งเลือกด้วยความชอบ ความนิยม ความหลง ความสะใจ ความอิสระ ไม่เป็นทาสคำขู่ “ไม่เลือกเรา เขามาแน่”

แต่ผลสุดท้าย ทุกคนที่ลงคะแนน หรือไม่ไปใช้สิทธิ ต้องรับผลพวงของการตัดสินใจและทางเลือกของตัวเอง มีทั้งคนที่ตัวเองชื่นชอบชนะ และพ่ายแพ้

มาถึงจุดนี้ มีทางเลือกให้คนตัดสินใจว่าจะเลือกตัวแทนพรรคเพื่อเหลี่ยมร้ายเผาเมืองโกงทั้งโคตร คือ “จูดี้” หรือ “หม่อม ชาย ส.” ตัวแทนของค่ายสะตอ หรือจะเลือกผู้สมัครอิสระ ไร้ฐานเสียง ไร้อำนาจต่อรองทั้งก่อนและหลังเลือกตั้ง

มีมุมมองว่าถ้าเลือก “จูดี้” จะมีความราบรื่นในการบริหาร “ไร้รอยต่อ” จากต้นคิดของคนไร้รอยหยักในสมอง! ไม่มีอุปสรรคในการจัดการงบและบริหารโครงการต่างๆ โดยไม่มองว่าจะมีการยกระดับการโกงบูรณาการ รวบงบ กทม. ให้รวมกับงบของรัฐบาลเพื่ออุดรูรั่ว สภาพใกล้ถังแตกหรือไม่

มีข้อเถียงว่า ไม่ว่าจะเลือกตัวแทนพรรคเหลี่ยมร้ายเผาเมือง หรือค่ายสะตอ ก็ชั่วร้ายเหมือนกัน! ประเด็นนี้อาจไม่ถูกต้องนัก ถ้าพิจารณาให้ละเอียดลงไปจากภาพรวม พรรค และพฤติกรรมของตัวบุคคลว่า ใครจะชั่วร้ายน้อยกว่าตามคำพูดที่ว่า “ต้องเลือกตัวชั่วน้อยกว่า” หรือ “ความชั่วร้ายที่จำเป็น”

ถ้าจะดูพรรค เหมือนดูป่าทั้งป่า ต้องเลือกดูต้นไม้ด้วย เช่นไม้แดง ไม้กากี “จูดี้” หรือดูป่าสะตอ ให้ดูต้น “หม่อมสุขุมพันธุ์” ว่าใครเป็นเนื้อแท้ ของจริง มีความกล้าหาญ กล้าทำกล้ารับ มีแนวคิดอิสระ! ใครมีนิยมทัศนคติเชิงขี้ข้า ประจบประแจง ฉอเลาะจำนรรจา ลวงโลกพูดจาขนาดให้ลิงหลับตกต้นไม้

ถ้าทนแม่นางโพยปูโพรกเน่าในกับนโยบายล้างผลาญชาติไม่ได้ จะเลือก “จูดี้” ให้มาเป็นตัวเร่งกินรวบ ยึดเมืองหลวง ครอบครองประเทศเด็ดขาดหรือ! เมื่อเห็นเจตนาร้ายเช่นนี้ โดยพฤติกรรมของพรรคเหลี่ยมร้าย ยังจะยอมหรือ

ข้อเถียงอีกว่า ขอเลือกผู้สมัครอิสระ เปิดโอกาสให้คนดีมีเสียง จะให้หนุนคนดีกล้าเข้าสู่การเมือง ทั้งๆ ที่รู้เต็มหัวอกว่านั่นเป็นการ “เสียของ” ทำให้เสียงแตก ส่งผลให้เกิดความเสี่ยงและพรรคเหลี่ยมร้ายอ้างได้เต็มปากว่าคนเมืองหลวงมีความนิยมในพรรคฆ่าทหาร เผาบ้าน เผาเมือง และโกงทั้งโคตร

โอกาสที่ผู้สมัครอิสระจะชนะ มีน้อย หรือถ้าจะพูดให้ปวดกระดองใจ ก็คือ มีโอกาสริบหรี่กว่าแสงหิ่งห้อยเทียบกับกองไฟขนาดใหญ่! การเลือกเพื่อขอไม่เป็นทาสความเชื่อ เพื่อความเป็นอิสระ หรือเพื่อความสะใจนั้น ย่อมต้องพร้อมรับผลพวงของความเลวร้ายที่จะตามมาแน่ๆ!

มีคำถามว่านั่นเป็นการตัดสินใจถูกต้องกับการกาลเวลา เมื่อเทียบกับเดิมพันมีค่าแพงมหาศาลเช่นนั้นหรือ! เป็นการตัดสินใจที่พร้อมจะรับผิดชอบกับความเสียหายของบ้านเมือง เมื่อต้องเผชิญและยอมรับความเลวร้ายหรือ

ถ้าผู้สมัครอิสระ ใครก็ตามที่มีคะแนนพอสมควรชนะ เป็นปรากฏการณ์ที่ดี! แต่มีความเป็นไปได้หรือในเมื่อไม่มีฐานเสียง และเครือข่ายกำลังคน พลังเงิน และฐานต่อรอง! ใครจะกล้าลุกสู้หรือต้านรัฐบาลอาชญากร ซึ่งกล้าใช้ทั้งอำนาจรัฐ และอำนาจเถื่อน อำนาจมืด การคุกคามในรูปแบบต่างๆ?

จะพูดให้ตรง เข้าเป้าก็คือ การเลือก “หม่อม ชาย ส.” ย่อมถูกมองว่าเป็นการเลือกความเลวที่น้อยกว่า! แต่โดยพฤติกรรม ระหว่างตัวแทนทั้ง 2 พรรคนั้น สามารถเปรียบเทียบกันได้หรือ ด้านประสบการณ์ ความน่าเชื่อถือ ความกล้าเผชิญปัญหา ความเป็นตัวของตัวเอง และความซื่อสัตย์ มือสะอาด

โดยพฤติกรรมที่พิสูจน์ได้ในช่วง 4 ปี “หม่อม ชาย ส.” ย่อมกล้าต้านแรงกดดันจากกลุ่มอาชญากรการเมืองได้แน่นอนกว่าตัวแทนพรรคเผาเมือง ซึ่งประจ๋อประแจ๋ จะเป็นอีกหนึ่งคนซึ่งคอยเดินตามก้นบานๆ ของนางโจ๊กซ้ำซาก

ถ้าไม่ใช่ “หม่อม ชาย ส.” กรุงเทพฯ คงจมน้ำทั้งหมดในปี 2554 โดยแรงกดดันของพวกนักกร่าง อาชญากรการเมือง ซึ่งตัดสินใจผิดเรื่องการควบคุมน้ำ ในเขื่อน จนสร้างความพินาศหลายแสนล้านบาทต่ออุตสาหกรรมและชาวบ้าน

สิทธิการลงคะแนนเป็นเรื่องส่วนตัว หลังจากนั้นโปรดรับผิดชอบด้วยก็แล้วกัน! ถามตัวเองด้วยว่า จะอยู่ทนกับนักสร้างภาพ เครือข่ายองค์กรอาชญากรรม รู้ทั้งรู้ ก็จะยอมให้ความสะใจครอบงำสติจิตสำนึกด้านดีหรือ!

ถ้าตัวแทนบักเหลี่ยมร้ายชนะ สถานการณ์โดยรวมจะไม่เลวร้ายกว่าหรือ? หรืออะไรจะเกิดก็ให้เกิด เมื่อเส้นทางสู่ความพินาศของชาติดูเหมือนจะไร้ทางเลี่ยง ขณะที่โครงสร้างบ้านเมืองอยู่ในสภาพผุกร่อนโดยการโกงกินทุกวัน!

จะให้ความหายนะของบ้านเมืองนำไปสู่การสิ้นสุดอำนาจของอาชญากรขายชาติเช่นนั้นหรือ! มีแต่พวกมันจะเอาทุกอย่างไปขายจนไม่เหลือต่างหาก!