xs
xsm
sm
md
lg

เยือนภูฏานย้อนมองไทย

เผยแพร่:   โดย: โสภณ องค์การณ์

ผมมีโอกาสได้ไปเยือนภูฏาน ประเทศเล็กๆ อยู่ในแนวเทือกเขาหิมาลัย 5 วัน 4 คืน เป็นประสบการณ์ที่ประทับใจ มีความโดดเด่นสมกับคำร่ำลือที่ว่า ถ้ามีทั้งเงินและเวลา อย่างน้อยควรไปเยือนภูฏานสัก 1 ครั้งในชีวิต จะได้เห็นสภาพสังคม ชีวิตความเป็นอยู่ของบ้านเมืองซึ่งใช้ดัชนีแห่งความสุขเป็นตัววัด

ผมไปเป็นวิทยากรด้านการทำงานของสื่อมวลชน การแก้ไขปัญหาและวิกฤตซึ่งเกิดจากสื่อ ทำการอบรมให้ข้าราชการภูฏานจากหน่วยต่างๆ ชี้แนะแนวทางปฏิบัติ รวมทั้งการรายงานข่าวและรายการข่าวด่วนที่จำเป็น 2 วันเต็ม

มีข้าราชการภูฏานเข้าร่วมประมาณ 55 คน ให้ความสนใจต่องานวิชาชีพสื่อ ผมชี้ให้เห็นสื่อแท้ สื่อเทียม สื่อทำตัวเป็นขี้ข้านักการเมืองชั่ว ผู้มีอิทธิพลซึ่งจ้องทำลายชาติ หวังล้มสถาบันกษัตริย์ และโครงสร้างบริหาร

แถมยังเตือนให้ระวังคนอย่างบักเหลี่ยมร้าย นักธุรกิจการเมืองสามานย์ ล้างผลาญทรัพย์สินแผ่นดินด้วยการผ่องถ่ายเข้ากระเป๋าโคตรเหง้าเหล่ากอของตัวเองผ่านนโยบายประชานิยมมอมเมาชาวบ้านให้ขี้เกียจ เป็นทาสดักดาน

ผมเล่าให้เขาฟังถึงความเลวร้ายของสังคมบ้านเราภายใต้การครอบงำของระบอบบักเหลี่ยม ไพร่กำมะลอ กองกำลังถ่อย นักการเมืองชั่วกังฉิน ผู้นำบ้านเมืองโง่เขลาเบาปัญญา ไม่เต็มเต็ง ออกแนวเอ๋อ เซ่อซ่า ตีหน้าระรื่น

ข้าราชการภูฏานรู้ว่าเกิดอะไรในประเทศไทย ช่วงเผาบ้านเผาเมือง เพียงแต่เขาต้องการรายละเอียดเกี่ยวกับความชั่วร้ายของบักเหลี่ยม ความพยายามใช้เงินจ้างกุ๊ย อาชญากร กังฉินทำลายบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเอง

ผมถามว่า “ท่านนึกได้มั้ยว่ามีเผด็จการ ทรราชคนไหน มุ่งทำลายชาติของตัวเองเหมือนบักเหลี่ยม” เขายอมรับว่า “หายาก” หรือ “ไม่มี” แต่ย้อนถามว่า “คนไทย 65 ล้านคนยอมรับผู้นำโง่เขลาเบาปัญญา รัฐบาลมีแต่กังฉินกินเมือง งาบถึง 40 เปอร์เซ็นต์ได้อย่างไร” ทั้งที่มีความเสี่ยงว่าบ้านเมืองจะล่มจม

ผมชี้ให้เห็นว่านักการเมืองขี้ข้าบักเหลี่ยมเป็นขบวนการอาชญากรขายชาติ ทำกันอย่างซึ่งหน้าในกรณีปราสาทพระวิหาร พร้อมจะยกพวกฆ่ากลุ่มคนรักชาติหวงแหนแผ่นดิน! เขาบอกว่า เขาก็รู้ แต่ว่า “คนไทยทนได้อย่างไร”

ผมไม่ได้เอานักการเมืองไทยชั่วๆ ไปเผาที่ภูฏาน! ที่ทำเพราะไม่อยากให้สังคมดีๆ ของเขาต้องซ้ำรอยเมืองไทย! ไปอยู่ 5 วันไม่มีคนหน้าเหลี่ยมให้เห็น ผมยังเตือนด้วยซ้ำว่า ถ้ามีนักการเมืองแบบบักเหลี่ยม อย่าให้ปีกกล้าขาแข็ง

ต้องบอกว่าภูฏานเป็นเมืองและสังคมที่น่าไปเยือน หรือพักผ่อนสักระยะ ประมาณ 1 เดือนเพื่อเที่ยวไปตามเมืองในหุบเขา การเดินทางต้องใช้รถวิ่งตามไหล่เขา ใช้เวลานานกว่าปกติ แต่ยังถือว่าความปลอดภัยอยู่ในขั้นดีพอสมควร

อยู่ภูฏานจิตใจสงบ ระดับกิเลสลดวูบ ตื่นเช้าคิดแต่ว่าจะทำความดีด้านไหนก่อน จัดลำดับความสำคัญก่อนหลัง! ต่างจากอยู่เมืองไทย ตื่นเช้าคิดแต่ว่าจะด่าประณามนักการเมืองชั่วขายชาติคนไหนก่อน! 24 ชั่วโมงยังด่าไม่ครบตัว

สังคมภูฏานแม้จะไม่ทันสมัย แต่ใช้เส้นเบ่งอิทธิพลไม่ได้! เจ้าหน้าที่ผู้รักษากฎหมาย แม้แต่ รปภ.เฝ้าสถานที่ต่างๆ ไม่แยแสบัตรเบ่งของพวกบิ๊กๆ ผมได้เห็นกับตา เมื่อ รปภ.เถียงข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ไม่ยอมตามคำขอ

ถ้าเป็นเมืองไทย มี รปภ.ทำหน้าที่เข้มงวดอย่างนี้ โดนปลดคาที่แน่ๆ! เพราะเมืองไทยเป็นสังคมของคนมีเส้น อภิสิทธิชน แม้แต่ขอทานยังเป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ขอทานของตัวเอง ห้ามใครล้ำเส้น ไม่อย่างนั้นเจ็บตัว

ผมได้มีโอกาสเยือนเพียงเมืองทิมพู เมืองหลวง มีประชากร 80,000 คน ขณะที่ทั่วประเทศมีประมาณ 7 แสนคน นับว่าพื้นที่มีขนาดใหญ่กว่าประชากรมากนัก เป็นเทือกเขาสูง มีทั้งป่าหินและป่าสน มีที่ราบสำหรับทำการเกษตรเพียงเล็กน้อยดังเช่น ทิมพู และปาโร เมืองสนามบินนานาชาติ

ชาวภูฏานมีชนเผ่า และโดยทั่วไปมีรูปร่างหน้าตา ผิวพรรณ ไม่ต่างจากคนไทยมากนัก ส่วนใหญ่ถ้ามาเดินถนนในกรุงเทพฯ อาจถูกทึกทักว่าเป็นชาวไทย นิสัยใจคอโอบอ้อมอารี เต็มไปด้วยมิตรไมตรี เมืองปลอดภัยพอสมควร

เรื่องน่าสนใจคือชาวภูฏานส่วนใหญ่สามารถพูดภาษาอังกฤษและฮินดีนอกเหนือจากภาษาท้องถิ่น ใครอยากไปเที่ยวไม่ต้องกลัวว่าจะสื่อสารไม่ได้ เพราะแม้แต่เด็กร้านสะดวกซื้อพูดภาษาอังกฤษได้ดีกว่า รมต.ต่างประเทศ นายกรัฐมนตรีของไทย รวมทั้งด็อกเตอร์กำมะลอหลายคนที่พูดได้งูๆ ปลาๆ

การมีพลเมืองเพียง 7 แสน ประเทศไร้ทางออกทางทะเล ภูฏานต้องพึ่งพาการขนส่งสำหรับนำสินค้าเข้าผ่านประเทศอินเดีย ดังนั้น อินเดียจึงมีอิทธิพลอย่างมากต่อภูฏาน รวมทั้งเงินตรา โดยสกุลนูลตรัมผูกติดเงินรูปี

เทือกเขาในภูฏานมีป่าสนอุดมสมบูรณ์ เป็นทรัพยากรธรรมชาติ มีรายได้จากการขายพลังงานไฟฟ้าจากเขื่อนให้อินเดีย ถ้าเป็นเมืองไทย รับรองป่าไม่เหลือ เพราะคนบนแผ่นดินไทยเป็นนักทำลายธรรมชาติอันดับต้นๆ

คนภูฏานชอบมาเมืองไทย ถ้าต่อเครื่องบิน ก็แวะพักกินอาหารอร่อยซื้อของ รักเมืองไทยมากกว่านักการเมืองและขี้ข้าบักเหลี่ยมซึ่งเร่งขายชาติขณะนี้!
กำลังโหลดความคิดเห็น