เห็นความขยันขันแข็งของขบวนการขี้ข้าทักษิณในการรุกคืบหน้าในการกระชับอำนาจรัฐ ใช้ความได้เปรียบทุกด้านเพื่อจัดการฝ่ายตรงข้าม รื้อระบบโครงสร้างเดิม หวังเปลี่ยนรัฐไทยให้เป็นแผ่นดินใต้ตีนบักเหลี่ยมร้าย ต้องยอมรับว่าเป็นสุดยอดแห่งความชั่วร้าย
มองไปทั่วโลก ไม่เห็นว่าผู้กุมอำนาจรัฐไหนตั้งหน้าตั้งตาจะโกงบ้านกินเมืองด้วยการคิดโครงการต่างๆ เพื่อผ่องถ่ายเงินงบประมาณเข้ากระเป๋าต่อเนื่องเหมือนขบวนการขี้ข้าทักษิณ! งบประมาณประจำปีมีน้อยยังกู้เงินอย่างหน้าด้านๆ เพื่อกอบโกยไม่หยุด
นี่เป็นยุคดิจิตอล น่าจะมีความโปร่งใสตรวจสอบได้ เป็นช่วงแห่งความเจริญด้านวัตถุ สังคมนานาชาติพร่ำพูดเรื่องหลักธรรมาภิบาล การปราบปรามทุจริตประพฤติมิชอบ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศตะวันตกชิงชังระบบกินเงินใต้โต๊ะ ติดสินบน มีกฎเหล็กเข้มงวด
เมื่อเห็นการโกงกินอย่างมูมมาม เหมือนขอทานตายอดตายอยาก ระดับเงินหัวคิวหักดิบพุ่งสูงถึง 30-40 เปอร์เซ็นต์ สังคมนานาชาติไม่ยักมีใครโวยวาย อย่างมากเพียงจัดอันดับการทุจริตของแต่ละประเทศ ไม่มีมาตรการจัดการให้ได้ผล เช่น การฟอกเงิน
รัฐบาลแม่นางโพยปูโพรกเน่าในถูกร่ำลือระบือฉาวโฉ่ว่าระดับการงาบนั้นหนัก เน้นอย่างต่ำๆ ก็ 40 เปอร์เซ็นต์ ทำกันอย่างไม่อาย จับได้ไล่ทันก็ยืดอกสู้ ข้ออ้างตะแบงสารพัด เช่น ข้อมูลคลาดเคลื่อน เข้าใจผิด ใส่ร้ายป้ายสี แล้วแต่สมองชั่วจะคิดคำแหลได้
ต้องบอกว่าขบวนการขี้ข้าทักษิณน่าจะเป็นกลุ่มพลังกังฉินซึ่งน่าเกรงขามที่สุด ใช้นโยบายเปิดเผยในการจัดโครงการพร้อมกำหนดเปอร์เซ็นต์หัวคิวสูงลิ่ว ไม่คำนึงว่าจะเกิดความเสียหายต่อระบบโครงสร้างการบริหารประเทศซึ่งมุ่งให้ประชาชนได้อยู่ดีกินดี
โกงกินโดยกำหนดนโยบายชัดเจน ไม่อ้อมค้อม เอี้ยมเฟี้ยม เชื่อมั่นในการกุมอำนาจรัฐเด็ดขาด กระบวนการยุติธรรม หน่วยงานทรงพลัง เช่น กองทัพ ถูกอำนาจกระแสเงินของขบวนการขี้ข้าทักษิณจัดการจนเชื่องมองความรักชาติเป็นเรื่องโจ๊กไร้สาระ
การทุจริตเชิงโครงสร้างสมบูรณ์แบบสะท้อนให้เห็นความเป็นรัฐล้มเหลว กลไกผู้รักษากฎหมายเป็นไม้ประดับในลักษณะง่อยเปลี้ย ไร้พลัง สร้างบรรยากาศความน่าเหลือเชื่อว่าสังคมไร้จิตสำนึกขาดหิริโอตตัปปะจะได้รับการยอมรับจากประชาคมโลก
เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปว่าองค์กรตำรวจได้เป็นเครื่องมือการเมืองของขบวนการขี้ข้าทักษิณจนสิ้นความน่าศรัทธา ความน่าเชื่อถือ นายตำรวจน้อยใหญ่อยู่ในตำแหน่งสำคัญต่างก้มหัวให้สยบต่ออำนาจรัฐโจร! อัยการไม่ใช่ทนายแผ่นดินอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นมือตีนของกลุ่มกังฉินในการขับเคลื่อนโครงการใหญ่ๆ เต็มไปด้วยการทุจริต
เมื่อองค์กรตำรวจ อัยการ และหน่วยตรวจสอบอื่นๆ เดี้ยง เสือโคร่งกลายสภาพเป็นเสือกระดาษ ขบวนการโจรกับพวกอยู่ในภาครัฐเป็นกลุ่มเนื้อเดียวกัน สังคมรู้สึกว่าไร้ที่พึ่ง ร้องเรียนเรื่องทุจริต อาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ ไม่มีความหมายอีกต่อไป
ขบวนการขี้ข้าทักษิณเป็นกลุ่มอยู่เหนือกฎหมาย ไม่ยอมรับคำพิพากษาของศาล โดยเฉพาะหัวโจกบักเหลี่ยมร้าย ซึ่งไม่อาย ตากหน้าสู้โลกโดยมีคดีติดตัว เช่น หนีโทษจำคุก 2 ปี หนีหมายจับ 6 คดีสำหรับอาชญากรรมต่างๆ ในฐานะทรราชกังฉินกินเมือง
ด้วยเหตุนี้ ขบวนการขี้ข้าทักษิณและเครือข่ายบักเหลี่ยมร้ายในองค์กรต่างๆ จึงได้พยายามทำตัวให้สังคมเห็นว่าเคารพกฎหมาย บ้านเมืองมีขื่อแป แต่โดยเนื้อแท้ปัจจุบัน กระบวนการยุติธรรมระดันต้นและกลางได้กลายเป็นเพียงเครื่องมือนักการเมืองเท่านั้น
การโกงกินในโครงการจำนำข้าวเห็นชัด ทำกันอย่างซึ่งหน้า แหกกฎระเบียบ โดนจับได้ไล่ทันก็ยังแหล โกหกพกลมตาใส ไม่แยแสสายตาสังคมว่าเป็นขบวนการโกงกิน กะจะให้วายวอดสิ้นชาติ จากนั้นบักเหลี่ยมจะเป็นพระมาโปรด เปลื้องทุกข์ให้มวลชน
ไม่มีโครงการใดปลอดจากการโกงกิน การแสวงหาผลประโยชน์ เพราะเมืองไทยได้เป็นสังคมไร้ราก ฟอนเฟะด้วยการแสวงหาความสุขในยุคของสุขนิยม ปั่นด้วยกระแสพลังของระบบเศรษฐกิจทุนนิยมสุดขั้ว ปลาใหญ่กินปลาเล็ก เสี่ยงต่อกลียุคจนล่มสลาย
การใช้กลเกม กลลวง ในระดับชนชั้นรากหญ้าถึงสังคมเมืองอย่างเข้มข้น มีเน้นจังหวะการรุก รับนั้นคือการมุ่งหวังจะใช้ความเฉื่อย ขลาดเขลา การไม่อยากยุ่งกับเรื่องสาธารณะของชาวบ้าน เป็นเกราะกำบังในการรุกคืบหน้าทำความชั่วโฉ่งฉ่าง อหังการ
เมื่อคนในเมืองเริ่มอยู่แบบสังคมหละหลวม ขาดการรวมตัว มีจิตสำนึกร่วมกัน ย่อมทำให้ขบวนการกังฉินมีพลังเงินหนุนกล้าทำการอาจหาญ มองว่ามวลชนไม่อยากเสี่ยงกับการบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ของรัฐกล้าจัดการ ใช้กำลังและกฎหมายกดหัวจนเอาอยู่
รัฐบาลแม่นางโพยปูโพรกเน่าในจึงกลายเป็นองค์กรมหัศจรรย์ เหลือเชื่อว่าจะมีชนชาติใดซึ่งมีคนมากเกือบ 70 ล้านคนยอมให้กลุ่มทุรชนกังฉินชั่วร้ายสารพัดรูปแบบ มีผู้นำเอ๋อ สติปัญญาพร่อง ขบวนการนอกกฎหมาย กุมอำนาจรัฐเด็ดขาดสยบไม่กล้าหือ
เป็นปรากฏการณ์เหลือเชื่อว่าชนชาติขนาดใหญ่ในสังคมโลกยอมตากหน้า ให้กลุ่มอาชญากรการเมืองโกงกินอย่างตะกละตะกลามมูมมาม ไม่อาย ไม่ยอมอิ่ม! ผู้เสียภาษีก้มหน้าก้มตายอมรับชะตากรรมแบบไร้ศักดิ์ศรี ไม่กล้ารวมตัวต่อต้านขับไล่ออกไป
เป็นยุคของสังคมไทยซึ่งถูกพิสูจน์ได้ว่า “เงิน” ซื้อคนได้ ฟาดหัวได้ ทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเรียกตัวเองว่านักวิชาการ ปัญญาชน ด็อกเตอร์ อาจารย์มหาวิทยาลัย ผู้ทรงภูมิ ข้าราชการระดับสูง นายพลเหล่าทัพต่างๆ! ยอมถูกตราหน้าว่าเป็นคนขายชาติ!!
กลุ่มเหล่านี้เป็นพวกกำมะลอ เห็นแก่ตัว เอาตัวรอด ไร้ค่า ศักดิ์ศรี เป็นผีโม่แป้งให้ขี้ข้าทักษิณปู้ยี่ปู้ยำประเทศ! ถ้าหยุดไม่อยู่ บ้านเมืองไม่ล่มสลายก็ปาฏิหาริย์เต็มทนแล้ว!
มองไปทั่วโลก ไม่เห็นว่าผู้กุมอำนาจรัฐไหนตั้งหน้าตั้งตาจะโกงบ้านกินเมืองด้วยการคิดโครงการต่างๆ เพื่อผ่องถ่ายเงินงบประมาณเข้ากระเป๋าต่อเนื่องเหมือนขบวนการขี้ข้าทักษิณ! งบประมาณประจำปีมีน้อยยังกู้เงินอย่างหน้าด้านๆ เพื่อกอบโกยไม่หยุด
นี่เป็นยุคดิจิตอล น่าจะมีความโปร่งใสตรวจสอบได้ เป็นช่วงแห่งความเจริญด้านวัตถุ สังคมนานาชาติพร่ำพูดเรื่องหลักธรรมาภิบาล การปราบปรามทุจริตประพฤติมิชอบ โดยเฉพาะกลุ่มประเทศตะวันตกชิงชังระบบกินเงินใต้โต๊ะ ติดสินบน มีกฎเหล็กเข้มงวด
เมื่อเห็นการโกงกินอย่างมูมมาม เหมือนขอทานตายอดตายอยาก ระดับเงินหัวคิวหักดิบพุ่งสูงถึง 30-40 เปอร์เซ็นต์ สังคมนานาชาติไม่ยักมีใครโวยวาย อย่างมากเพียงจัดอันดับการทุจริตของแต่ละประเทศ ไม่มีมาตรการจัดการให้ได้ผล เช่น การฟอกเงิน
รัฐบาลแม่นางโพยปูโพรกเน่าในถูกร่ำลือระบือฉาวโฉ่ว่าระดับการงาบนั้นหนัก เน้นอย่างต่ำๆ ก็ 40 เปอร์เซ็นต์ ทำกันอย่างไม่อาย จับได้ไล่ทันก็ยืดอกสู้ ข้ออ้างตะแบงสารพัด เช่น ข้อมูลคลาดเคลื่อน เข้าใจผิด ใส่ร้ายป้ายสี แล้วแต่สมองชั่วจะคิดคำแหลได้
ต้องบอกว่าขบวนการขี้ข้าทักษิณน่าจะเป็นกลุ่มพลังกังฉินซึ่งน่าเกรงขามที่สุด ใช้นโยบายเปิดเผยในการจัดโครงการพร้อมกำหนดเปอร์เซ็นต์หัวคิวสูงลิ่ว ไม่คำนึงว่าจะเกิดความเสียหายต่อระบบโครงสร้างการบริหารประเทศซึ่งมุ่งให้ประชาชนได้อยู่ดีกินดี
โกงกินโดยกำหนดนโยบายชัดเจน ไม่อ้อมค้อม เอี้ยมเฟี้ยม เชื่อมั่นในการกุมอำนาจรัฐเด็ดขาด กระบวนการยุติธรรม หน่วยงานทรงพลัง เช่น กองทัพ ถูกอำนาจกระแสเงินของขบวนการขี้ข้าทักษิณจัดการจนเชื่องมองความรักชาติเป็นเรื่องโจ๊กไร้สาระ
การทุจริตเชิงโครงสร้างสมบูรณ์แบบสะท้อนให้เห็นความเป็นรัฐล้มเหลว กลไกผู้รักษากฎหมายเป็นไม้ประดับในลักษณะง่อยเปลี้ย ไร้พลัง สร้างบรรยากาศความน่าเหลือเชื่อว่าสังคมไร้จิตสำนึกขาดหิริโอตตัปปะจะได้รับการยอมรับจากประชาคมโลก
เป็นที่รับรู้กันโดยทั่วไปว่าองค์กรตำรวจได้เป็นเครื่องมือการเมืองของขบวนการขี้ข้าทักษิณจนสิ้นความน่าศรัทธา ความน่าเชื่อถือ นายตำรวจน้อยใหญ่อยู่ในตำแหน่งสำคัญต่างก้มหัวให้สยบต่ออำนาจรัฐโจร! อัยการไม่ใช่ทนายแผ่นดินอีกต่อไป แต่ได้กลายเป็นมือตีนของกลุ่มกังฉินในการขับเคลื่อนโครงการใหญ่ๆ เต็มไปด้วยการทุจริต
เมื่อองค์กรตำรวจ อัยการ และหน่วยตรวจสอบอื่นๆ เดี้ยง เสือโคร่งกลายสภาพเป็นเสือกระดาษ ขบวนการโจรกับพวกอยู่ในภาครัฐเป็นกลุ่มเนื้อเดียวกัน สังคมรู้สึกว่าไร้ที่พึ่ง ร้องเรียนเรื่องทุจริต อาชญากรรมในรูปแบบต่างๆ ไม่มีความหมายอีกต่อไป
ขบวนการขี้ข้าทักษิณเป็นกลุ่มอยู่เหนือกฎหมาย ไม่ยอมรับคำพิพากษาของศาล โดยเฉพาะหัวโจกบักเหลี่ยมร้าย ซึ่งไม่อาย ตากหน้าสู้โลกโดยมีคดีติดตัว เช่น หนีโทษจำคุก 2 ปี หนีหมายจับ 6 คดีสำหรับอาชญากรรมต่างๆ ในฐานะทรราชกังฉินกินเมือง
ด้วยเหตุนี้ ขบวนการขี้ข้าทักษิณและเครือข่ายบักเหลี่ยมร้ายในองค์กรต่างๆ จึงได้พยายามทำตัวให้สังคมเห็นว่าเคารพกฎหมาย บ้านเมืองมีขื่อแป แต่โดยเนื้อแท้ปัจจุบัน กระบวนการยุติธรรมระดันต้นและกลางได้กลายเป็นเพียงเครื่องมือนักการเมืองเท่านั้น
การโกงกินในโครงการจำนำข้าวเห็นชัด ทำกันอย่างซึ่งหน้า แหกกฎระเบียบ โดนจับได้ไล่ทันก็ยังแหล โกหกพกลมตาใส ไม่แยแสสายตาสังคมว่าเป็นขบวนการโกงกิน กะจะให้วายวอดสิ้นชาติ จากนั้นบักเหลี่ยมจะเป็นพระมาโปรด เปลื้องทุกข์ให้มวลชน
ไม่มีโครงการใดปลอดจากการโกงกิน การแสวงหาผลประโยชน์ เพราะเมืองไทยได้เป็นสังคมไร้ราก ฟอนเฟะด้วยการแสวงหาความสุขในยุคของสุขนิยม ปั่นด้วยกระแสพลังของระบบเศรษฐกิจทุนนิยมสุดขั้ว ปลาใหญ่กินปลาเล็ก เสี่ยงต่อกลียุคจนล่มสลาย
การใช้กลเกม กลลวง ในระดับชนชั้นรากหญ้าถึงสังคมเมืองอย่างเข้มข้น มีเน้นจังหวะการรุก รับนั้นคือการมุ่งหวังจะใช้ความเฉื่อย ขลาดเขลา การไม่อยากยุ่งกับเรื่องสาธารณะของชาวบ้าน เป็นเกราะกำบังในการรุกคืบหน้าทำความชั่วโฉ่งฉ่าง อหังการ
เมื่อคนในเมืองเริ่มอยู่แบบสังคมหละหลวม ขาดการรวมตัว มีจิตสำนึกร่วมกัน ย่อมทำให้ขบวนการกังฉินมีพลังเงินหนุนกล้าทำการอาจหาญ มองว่ามวลชนไม่อยากเสี่ยงกับการบาดเจ็บ เจ้าหน้าที่ของรัฐกล้าจัดการ ใช้กำลังและกฎหมายกดหัวจนเอาอยู่
รัฐบาลแม่นางโพยปูโพรกเน่าในจึงกลายเป็นองค์กรมหัศจรรย์ เหลือเชื่อว่าจะมีชนชาติใดซึ่งมีคนมากเกือบ 70 ล้านคนยอมให้กลุ่มทุรชนกังฉินชั่วร้ายสารพัดรูปแบบ มีผู้นำเอ๋อ สติปัญญาพร่อง ขบวนการนอกกฎหมาย กุมอำนาจรัฐเด็ดขาดสยบไม่กล้าหือ
เป็นปรากฏการณ์เหลือเชื่อว่าชนชาติขนาดใหญ่ในสังคมโลกยอมตากหน้า ให้กลุ่มอาชญากรการเมืองโกงกินอย่างตะกละตะกลามมูมมาม ไม่อาย ไม่ยอมอิ่ม! ผู้เสียภาษีก้มหน้าก้มตายอมรับชะตากรรมแบบไร้ศักดิ์ศรี ไม่กล้ารวมตัวต่อต้านขับไล่ออกไป
เป็นยุคของสังคมไทยซึ่งถูกพิสูจน์ได้ว่า “เงิน” ซื้อคนได้ ฟาดหัวได้ ทุกระดับ ไม่ว่าจะเป็นกลุ่มเรียกตัวเองว่านักวิชาการ ปัญญาชน ด็อกเตอร์ อาจารย์มหาวิทยาลัย ผู้ทรงภูมิ ข้าราชการระดับสูง นายพลเหล่าทัพต่างๆ! ยอมถูกตราหน้าว่าเป็นคนขายชาติ!!
กลุ่มเหล่านี้เป็นพวกกำมะลอ เห็นแก่ตัว เอาตัวรอด ไร้ค่า ศักดิ์ศรี เป็นผีโม่แป้งให้ขี้ข้าทักษิณปู้ยี่ปู้ยำประเทศ! ถ้าหยุดไม่อยู่ บ้านเมืองไม่ล่มสลายก็ปาฏิหาริย์เต็มทนแล้ว!