xs
xsm
sm
md
lg

โจรใต้บึ้ม!อส.ยะลาเจ็บ2

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศูนย์ข่าวหาดใหญ่-คนร้ายลอบวางระเบิด อส.เมืองยะลาชุด รปภ.ครู ริมถนนบ้านยุโป เจ็บ 2 นาย ตำรวจเชื่อเป็นฝีมือกลุ่ม "รอกิ ดอเลาะ" ด้านเจ้าหน้าที่ยังคุมพื้นที่เสียง 6 อำเภอในสงขลา พร้อมจับตารถยนต์ต้องสงสัยทำคาร์บอมบ์ "บิ๊กตู่"ควง"บิ๊กอ๊อด"ลงใต้ ติดตามสถานการณ์ป่วนที่ปัตตานี "เหลิม"ไม่สนใครติงตั้งกลุ่มวาดะห์เป็นที่ปรึกษา อัดเป็นพวกคิดแคบ "ถาวร" เตือนใช้งานกลุ่มนี้ต้องระวัง

เมื่อเวลา 07.25 น.วานนี้ (20 ก.พ.) ศูนย์รวมข่าว สภ.เมืองยะลา ได้รับแจ้งว่าเกิดเหตุระเบิดเจ้าหน้าที่ อส.เมืองยะลา ที่บนถนนในหมู่บ้านบริเวณรอยต่อ ม.1 และ ม.6 บ้านบ่อเจ็ดลูก ต.ยุโป อ.เมือง จ.ยะลา จึงได้แจ้ง ร.ต.อ.รุสดี กะโด ร้อยเวร สภ.เมืองยะลา นำกำลังเจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ อส.เจ้าหน้าที่ชุดเก็บกู้วัตดุระเบิดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุทราบว่า ผู้ได้รับบาดเจ็บ คือ อส.สุเทพ จันทร์วรรณโณ อายุ 30 ปี ถูกสะเก็ดระเบิดบริเวณศีรษะ และ อส.ภิญโญ คงทน อายุ 39 ปี โดนสะเก็ดระเบิดที่ลำตัว เจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลยะลาแล้ว ส่วนในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบที่เกิดเหตุระเบิดอยู่บริเวณริมถนนเส้นทางบ่อเจ็ดลูก-ยุโป ซึ่งเป็นกองอิฐ และกองทราย โดยเศษอิฐกระเด็นทั่วถนนจากแรงระเบิด นอกจากนี้ ยังพบสายไฟซึ่งคนร้ายลากเข้าไปในป่าริมทาง เศษวิทยุสื่อสาร เศษสะเก็ดระเบิดตกกระจายอยู่ทั่วบริเวณ จึงรวบรวมไว้เป็นหลักฐาน ส่วนฝั่งตรงข้ามพบรถจักรยายนต์ของเจ้าหน้าที่ อส.ล้มคว่ำอยู่ข้างทาง

สอบสวนทราบว่า ขณะที่เจ้าหน้าที่ อส.เมืองยะลา นำกำลัง 8 นายโดยใช้รถจักรยานยนต์ 4 คัน เป็นพาหนะเพื่อจะเดินทางไป รปภ.ครูในช่วงเช้า เมื่อขับมาถึงที่เกิดเหตุ ซึ่งคาดว่าคนร้ายได้นำวัตถุระเบิดน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 3 กก.มาวางไว้ที่ริมกองอิฐ เมื่อเจ้าหน้าที่ อส.เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ คนร้ายจึงได้กดชนวนระเบิดขึ้นทันที แรงระเบิดทำให้เจ้าหน้าที่ อส.ได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ส่วนกลุ่มก่อเหตุในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่คาดว่าเป็นกลุ่มของนายรอกิ ดอเลาะ กลุ่มผู้ก่อเหตุรุนแรงที่เคลื่อนไหวในพื้นที่บ้านทุ่งยามู และบ้านยุโป ลงมือ

หลังเกิดเหตุ พล.ต.ต.พีระ บุญเลี้ยง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดยะลา ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจสอบบุคคล ยานพาหนะ บุคคลต้องสงสัยที่จะเข้ามาในพื้นที่เขตเทศบาลนครยะลา เนื่องจากคนร้ายยังคงก่อเหตุในพื้นที่อย่างต่อเนื่อง

**ผวาคาร์บอมบ์คุมเข้ม6อำเภอสงขลา

ด้านสถานการณ์ในพื้นที่ จ.สงขลา ยังไม่น่าไว้วางใจ โดยเจ้าหน้าที่ยังคงมีมาตรการรักษาความปลอดภัยในพื้นที่เสี่ยงทั้ง 6 อำเภอที่อาจตกเป็นเป้าหมายของการก่อเหตุร้าย ทั้ง อ.จะนะ เทพา นาทวี สะบ้าย้อย หาดใหญ่ และ อ.เมือง โดยวานนี้มีการสั่งการให้เจ้าหน้าที่ประจำด่านตรวจทุกแห่งในพื้นที่ 6 อำเภอ ทั้งเส้นทางสายหลัก และเส้นทางลัดที่เชื่อมต่อกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ พร้อมสั่งการให้หน่วนยงานที่เกี่ยวข้องเฝ้าระวัง และจับตารถยนต์ต้องสงสัยอย่างน้อย 2 คันที่หน่วยข่าวด้านความมั่นคงรายงานว่า ถูกใช้ประกอบเป็นคาร์บอมบ์ เพื่อเตรียมก่อเหตุในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ และ จ.สงขลา

ทั้งนี้ รถต้องสงสัยทั้ง 2 คัน ประกอบด้วยรถกระบะ อีซูซุ ตอนเดียว ไม่ทราบสี และหมายเลขทะเบียน และรถเก๋ง โปรตอนของมาเลเซีย ไม่ทราบสี และหมายเลขทะเบียน ซึ่งหากพบรถที่เข้าข่ายต้องสงสัย เจ้าหน้าที่จะต้องทำการตรวจค้นอย่างละเอียด โดยเฉพาะรถที่ถูกนำไปจอดตามย่านการค้าและชุมชน ส่วนบรรยากาศที่ด่านตรวจร่วมบ้านควนมีด อ.จะนะ จ.สงขลา ซึ่งเป็นด่านตรวจแรกก่อนเข้าสู่ อ.หาดใหญ่ และ อ.เมืองสงขลา เจ้าหน้าที่ทั้งตำรวจและทหารได้เพิ่มความเข้มงวดในการตรวจค้น ทั้งรถยนต์และบุคคลต้องสงสัยตลอด 24 ชั่วโมง

**ผบ.ทบ.ควง"ยุทธศักดิ์" ลงปัตตานี

เวลา 09.30 น.ที่โรงแรมซีเอส ปัตตานี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) พร้อมคณะนายทหารระดับสูงของกองทัพบก เดินทางมาพบปะผู้ร่วมโครงการพัฒนาศักยภาพผู้ร่วมเสริมสร้างสันติภาพ ภายใต้นโยบายสานใจสู่สันติ โดยมี พล.ท.อุดมชัย ธรรมสาโรรัชต์ แม่ทัพภาคที่ 4 กล่าวรายงานสรุปถึงความคืบหน้าของโครงการและสถานการณ์โดยรวมในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้

โดยผู้ที่เข้าร่วมโครงการครั้งนี้เป็นผู้ที่ออกมารายงานตัวแสดงตนเพื่อยุติใช้ความรุนแรง มีทั้ง หมาย ป.วิอาญา หมาย พ.ร.ก.และผู้ที่หลงผิด จำนวน 93 คน โดยเป็นกลุ่มที่เคยใช้ความรุนแรง แต่สำนึกผิดกับสิ่งที่กระทำ เนื่องจากแนวทางที่เคยใช้ความรุนแรงไม่ได้เป็นผลดีต่อใคร โดยเฉพาะพี่น้องประชาชนของตนเอง และที่ผ่านมา ไม่มีใครแสดงตัวออกมารับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้น ฉะนั้น ครั้งนี้ก็ขอออกมารายงานแสดงตัวเพื่อร่วมเสริมสร้างสันติสุข โดยการต่อสู่ในเชิงสันติตามระบอบประชาธิปไตยโดยไม่มีเงื่อนไข และข้อต่อรองใดๆ ทั้งสิ้น

พร้อมกันนี้ ผบ.ทบ.ได้เข้าพบผู้นำศาสนาและผู้นำท้องถิ่นในพื้นที่ เพื่อพูดคุยทำความเข้าใจเกี่ยวกับสถานการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นด้วย พร้อมเรียกร้องให้ทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจกันสร้างสันติสุขในพื้นที่ โดยดึงผู้หลงผิดให้กลับใจและเข้ามามีส่วนร่วมในการช่วยกันแก้ปัญหา เนื่องจากทุกคนเป็นคนไทยจะต้องช่วยเหลือกันเพื่อความสงบสุขของบ้านเมือง

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า การเดินทางมาในครั้งนี้มาในนามนายกฯ เพื่อติดตามการทำงานของ กอ.รมน ประสานร่วม ศอ.บต ในการสร้างความเข้าใจกับเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานตามยุทธศาสตร์ โดยได้นำคณะที่ปรึกษานายกฯ พบปะกลุ่มคนโครงการสานใจสู่สันติ กลุ่มนี้เข้าใจในการปฏิบัติหน้าที่ เพื่อเสนอหนทางแก้ปัญหา หาแนวทางสร้างความเข้าใจ และหาวิธีการสนับสนุนช่วยเหลือผู้หลงผิดอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นแรวร่วมหรือปฏิบัติ ต่างมีประโยชน์ทั้งสิ้น หากเป็นผู้ใหญ่ก็ดีจะได้พาเด็กออกมา เพราะทุกคนเป็นญาติกันทั้งนั้น ต้องเรียกกลับมาคุยกัน โดยเอาข้อกฎหมายมาพิจารณา แต่ไม่กระทบต่อกระบวนการยุติธรรม เพราะทุกอย่างต้องเดินไปตามกฎหมาย

ส่วน พ.ร.บ.ฉุกเฉิน มาตรา 21 ปี 2551 นั้น มีประกาศใช้แล้วบางส่วน แต่ประชาชนยังไม่เข้าใจ ซึ่งในการสร้างความเข้าใจต่อประชาชนว่า มาตราดังกล่าวพิจารณากลั่นกรองโดยคณะกรรมการ ส่วน ป วิ อาญานั้น จะลดโทษทันอย่างไรต้องให้ความเป็นธรรมทุกภาคส่วน สำคัญต้องให้อภัย เอื้อเฟื้อต่อกันไม่ว่าจะเป็นไทยพุทธหรือมุสลิม เพราะเราก็คือคนไทยด้วยกันทั้งนั้น เราต้องแก้ปัญหาโดยเร็ว

สำหรับกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ตั้งกลุ่มวาดะห์เป็นที่ปรึกษารองนายกฯ อย่าไปกังวลต่อการนั่งที่ปรึกษาแล้วจะทำให้เกิดปัญหา ซึ่งที่ปรึกษามีหลายคณะ ที่ปรึกษามีหน้าที่เสนออย่างเดียว จะทำหรือไม่ขึ้นอยู่กับนายกฯ หรือ ครม.หรือสภา เป็นผู้อนุมัติ เพราะมีการถ่วงดุลอำนาจกันในการทำงาน

**"เฉลิม"ยันตั้งกลุ่มวาดะห์เป็นที่ปรึกษา

ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ตอบคำถามผู้สื่อข่าวถึงการตั้งกลุ่มวาดะห์เป็นที่ปรึกษารองนายกฯ ซึ่งเคยมีข้อกล่าวหาในอดีตที่เกี่ยวข้องกับความไม่สงบในพื้นที่จะส่งผลถึงการแก้ปัญหาหรือไม่ว่า พวกคิดแบบนี้เป็นพวกใจคับแคบ กรณีของนายนัจมุดดีน อูมา ศาลยกฟ้องก็แสดงว่าไม่ผิด จะเอาอะไรไปตีตราบาปเขา ใครจะตั้งข้อสังเกตก็เป็นสิทธิ์ แต่ตนก็มีสิทธิ์ตัดสินใจว่าอะไรจะนำไปสู่ทางที่ดีกว่า ในเมื่อนายกฯ มอบหมายให้ตนรับผิดชอบแล้ว ซึ่งตนได้นัดหารือกับกลุ่มวาดะห์ในวันที่ 1 มี.ค.นี้ เวลา 13.00 น. รวมทั้งเป็นไปได้ว่าในวันหนึ่งจะให้กลุ่มวาดะห์เข้าประชุม สมช.ด้วย

"พวกที่คิดว่าเป็นเกมการเมืองนั้น เป็นพวกเลอะเทอะ พวกฝ่ายค้านถาวร ใครจะรู้ดีกว่าคนในพื้นที่ ส่วนกระแสโจมตีว่าไม่ลงพื้นที่นั้น ผมลงปักษ์ใต้ตั้งแต่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังนุ่งกางเกงขาสั้นอยู่ลอนดอน สมัยผมเป็นตำรวจกองปราบอยู่ปักษ์ใต้มาตลอด วันนี้เราต้องให้นโยบาย ไม่ใช่ไปถือปืนเดินถ่ายรูปหน่อยแล้วก็กลับกรุงเทพฯ"

**บิ๊กอ๊อดไม่รู้ "ปู"ไม่พอใจ

พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี และที่ปรึกษา กปต. กล่าวว่า การลงพื้นที่ครั้งนี้ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับกรณีที่ ร.ต.อ.เฉลิม ไม่ยอมลงพื้นที่ภาคใต้ และนายกฯ ก็ไม่ได้สั่ง เพียงแต่ ผบ.ทบ. โทรศัพท์มาชวนตนว่าอยากให้ไปด้วยกัน ซึ่งตนมองว่าเป็นเรื่องที่ดีหากมีอะไรจะได้เสนอแนะนายกฯ ได้ถูกต้อง และต่อไปนี้หาก ผบ.ทบ.ลงพื้นที่ภาคใต้ตนก็จะลงด้วยทุกครั้ง

"ยุทธศาสตร์แก้ไขปัญหาเดินมาถูกทางแล้ว แต่ด้านยุทธวิธีต้องปรับ เพราะเรายังตามหลังเขาอยู่ ต้องนำคนที่สามารถนำยุทธศาสตร์มาเปลี่ยนเป็นยุทธวิธีให้ได้ ถ้าทำไม่ได้มีช่องว่างเกิดขึ้น รวมถึงมีการปรับเปลี่ยนคนที่มาทำงานด้วย แต่โชคดีที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายปฏิบัติยังอยู่ ส่วนการให้ ร.ต.อ.เฉลิม มาดูแลงานภาคใต้ทำให้เกิดช่องว่างใช่หรือไม่นั้น ผมไม่ได้มองอย่างนั้น แต่เมื่อเปลี่ยนเจ้าหน้าที่หลายคนทำให้การทำงานไม่มีความต่อเนื่อง แต่ยังดีที่มีกองทัพ แม่ทัพภาคที่ 4 ที่ยังเป็นคนเดิมอยู่"

ส่วนที่ ร.ต.อ.เฉลิม ตั้งกลุ่มวาดะห์เป็นที่ปรึกษาขณะที่บางคนมีคดีแบ่งแยกดินแดนอยู่นั้น พล.อ.ยุทธศักดิ์ กล่าวว่า ทุกคนในกลุ่มวาดะห์ต่างมีประวัติทางการเมืองด้วยกันทั้งนั้น ซึ่ง ร.ต.อ.เฉลิม คงทราบดี โดยเขามีหน้าที่เสนอแนะให้คำแนะนำส่วนจะทำตามหรือไม่ก็ขึ้นอยู่กับ ร.ต.อ.เฉลิม ส่วนที่นายกฯ ไม่พอใจต่อกรณีดังกล่าว ตนไม่ทราบ และ ร.ต.อ.เฉลิม ก็ไม่เคยพูดให้ตนฟัง แต่มองว่ากลุ่มวาดะห์อาจจะเสนอแนะสิ่งที่เป็นประโยชน์ สิ่งที่เรามองไม่เห็นหรือมองข้ามไป

"สมัยที่ผมทำหน้าที่รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคง ก็ไม่เคยมีแนวคิดที่จะให้กลุ่มวาดะห์เข้ามาเป็นที่ปรึกษา เพราะบางคนผมไม่ทราบประวัติที่แน่ชัด คนที่เราจะแต่งตั้งให้มาเป็นที่ปรึกษานั้น สิ่งเราต้องรู้ คือประวัติความเป็นมาก่อนว่าเป็นคนอย่างไร และจะให้เขาทำงานในส่วนไหน ซึ่งคิดว่า ร.ต.อ.เฉลิม น่าจะทราบดี ส่วนกรณีที่มีข่าวว่า จะให้ พล.อ.ชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกฯจะมาดูงานภาคใต้นั้น ยังไม่ทราบเป็นข่าวที่มาจากสื่อ"

**"ถาวร"เตือนระวังใช้งานกลุ่มวาดะห์

นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์เคยยกเลิกกฎอัยการศึกใน 4 อำเภอ จ.สงขลา และนำเอา พ.ร.บ.ความมั่นคง มาตรา 21 มาใช้ และยกเลิก พ.ร.ก.ใน อ.แม่ลาน จ.ปัตตานี และใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง มาตรา 21 ซึ่งเมื่อมีการยกเลิก พ.ร.ก.ก็ไม่เคยเกิดเหตุร้ายหรือเหตุรุนแรงอีกเลย โดยประชาชนมาร่วมคิดร่วมแก้ร่วมพัฒนา

"เห็นด้วยที่จะนำมาตรา 21 กลับมาใช้และให้เตรียมความพร้อมสำหรับหน่วยงานที่จะเข้ามาร่วมงาน เช่น ระเบียบเกี่ยวกับความผิด ส่วนกระบวนการไต่สวนชั้นอัยการและศาล ถ้ายกเลิกได้ก็จะได้รับความไว้วางใจจากคนที่ได้รับมอบตัว และอยากเสนอว่า ควรจะตัดตอนให้อัยการศาลทำการไต่สวนว่า บุคคลใดควรจะเข้าสู่กระบวนการอบรมบ้าง"

นายถาวร กล่าวอีกว่า การที่ ร.ต.อ.เฉลิม ตั้งกลุ่มวาดะห์ ก็ต้องดูในภาพรวม และการลงลึกในบุคคลต้องระมัดระวัง แต่อย่างไรก็ดี รัฐบาลนี้ไม่เอาองค์กรที่มีอยู่แล้วมาใช้งาน จึงขอให้เอามาใช้ให้เกิดประโยชน์ ซึ่งการที่ไม่เอาองค์กรที่มีอยู่แล้วมาใช้เป็นการสร้างกระแสข่าวใหม่ขึ้นมาและมีทิฐิ
กำลังโหลดความคิดเห็น