xs
xsm
sm
md
lg

ติงรถเมล์คันละ 4 ล้านแพง สว.แนะซอยสัญญาตามป.ป.ช.

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

วานนี้(7 ม.ค.56) ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา โดยมีนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย รองประธานคนที่หนึ่ง เป็นประธานโดยก่อนเข้าสู่วาระการประชุม นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ว.สรรหา หารือว่า ตามที่น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ เตรียมพิจารณาอนุมัติโครงการจัดซื้อรถเมล์เอ็นจีวี จำนวน 3,183 คัน มูลค่า 1.3 หมื่นล้านบาท นั้นตนเห็นด้วยที่จะมีรถเมล์ใหม่ และจำเป็นต้องเปลี่ยนรถเมล์ให้มาใช้ก๊าซเอ็นจีวี แทนน้ำมันดีเซล แต่ขอท้วงติง ว่า รถเมล์ที่ราคาคันละ 4 ล้านบาท ถือว่าสูงกว่าที่ควรจะเป็น ที่ต้องไม่เกินคันละ 3 ล้านบาท อีกทั้งการใช้งบประมาณที่นั้น เป็นห่วงเรื่องการประมูล ที่ให้มีเพียงสัญญาเดียว โดยประเด็นนี้ถือว่าเข้าข่ายการล็อคสเปค จำกัดจำนวนผู้มาประมูล เรื่องนี้ ปปช เคยมีความเห็นและแจ้งไปยังรัฐบาลแล้วว่าควรแบ่งการประมูลออกเป็น 10 สัญญาๆ ละ 300 คัน เพื่อ เปิดโอกาสให้มีการแข่งขันอย่างเป็นธรรม ที่สำคัญขอเรียกร้องให้รัฐบาลเปิดเผยราคากลาง ตามกฎหมาย ป.ป.ช. ที่ระบุให้รัฐบาลต้องเปิดเผย นอกจากนั้นแล้วตนในฐานะ ปธ.อนุกมธ.กฎหมายป้องกันการทุจริตและตรวจสอบการใช้อำนาจรัฐ ขอให้รัฐบาลอย่าเพิ่มเรื่องให้ตกเป็นจำเลยของสังคมในประเด็นความไม่โปร่งใสอีก หลังจากที่ก่อนหน้านั้นมีเรื่องความไม่โปร่งใสในโครงการรับจำนำข้าวทุกเมล็ดทำให้ประเทศเสียหายเป็นมูลค่ากว่าปีละหลายล้านบาท
มีรายงานว่า กระทรวงคมนาคมจะนำเสนอ 3 เรื่อง ให้ ครม.พิจารณา คือโครงการจัดหารถเมล์ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติ (เอ็นจีวี) จำนวน 3,183 คัน ขององค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ (ขสมก.) การประกวดราคารถไฟชานเมืองสายสีแดง ช่วงบางซื่อ-รังสิต และโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงบางใหญ่-บางซื่อ สัญญาที่ 4 สัมปทานสำหรับการลงทุน การจัดหาระบบรถไฟฟ้า การให้บริการการเดินรถ และซ่อมบำรุงรักษา ที่บริษัท รถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีเอ็มซีแอล เป็นผู้ชนะการประกวดราคา
ทั้งนี้ ในส่วนของโครงการจัดหารถเมล์เอ็นจีวีของ ขสมก. มั่นใจว่ากระทรวงคมนาคมมีข้อมูลครบถ้วนแล้ว และได้ผ่านการเห็นชอบจากคณะกรรมการกลั่นกรองเรื่องเสนอคณะรัฐมนตรี ฝ่ายเศรษฐกิจ ที่มีนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธานแล้ว โดยคณะกรรมการกลั่นกรองฯมีข้อสงสัยเพียงว่า เหตุใดจึงไม่จัดหาเป็นรถปรับอากาศทั้งหมด โดยกระทรวงคมนาคมชี้แจงว่า หากจัดหาเป็นรถเมล์ปรับอากาศทั้งหมด ผู้มีรายได้น้อยจะได้รับผลกระทบ เพราะมีค่าโดยสารเริ่มต้นที่ 13 บาท แต่หากจัดหาเป็นรถธรรมดา หรือรถร้อนทั้งหมด ซึ่งจัดเก็บค่าโดยสารที่ 7 บาท รายได้ ขสมก.ก็จะน้อยเกินไป จึงต้องจัดหารถปรับอากาศและรถร้อนอย่างละ 50% จึงเชื่อว่า ครม.ไม่น่ามีการท้วงติงเพิ่มเติม
กำลังโหลดความคิดเห็น