ASTVผู้จัดการรายวัน-"ยิ่งลักษณ์” เรียก 3อรหันต์แก้รัฐธรรมนูญกินข้าวเที่ยง แต่ยังไร้ข้อสรุป ให้รอมติที่ประชุมพรรค 6-7 ม.ค.นี้ก่อน "วราเทพ"เตรียมนัดคณะทำงานประชามติหารือสัปดาห์หน้า เพื่อไทยรุมสับพวกค้าน "บรรหาร"โซ่กลางปรองดอง ด้าน ปชป. แบไต๋พร้อมคุยรัฐปมแก้รัฐธรรมนูญ ย้ำช่วย "แม้ว" เมื่อไรวงแตก กกต.มีมติส่งตัวแทนหารือรัฐบาลแล้ว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (2ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะคณะทำงานศึกษาข้อกฎหมายและวิธีการออกเสียงประชามติ นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และคณะทำงานศึกษาข้อกฎหมายและวิธีการออกเสียงประชามติ และนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทย ในฐานะคณะทำงานศึกษาข้อกฎหมายและวิธีการออกเสียงประชามติ ได้เดินทางมายังตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเข้าหารือและรับประทานอาหารร่วมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
จากนั้น นายวราเทพ เปิดเผยว่า การรับประทานครั้งนี้ ไม่ได้มีการหารือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเป็นทางการ แต่มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างการรับประทานอาหาร โดยกรอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญคงต้องไปพูดคุยกันในพรรค เป็นเรื่องของพรรค วันนี้ยังไม่มี และยังคงต้องรอการหารือของพรรคก่อน
เมื่อถามว่า นายกฯได้แสดงความเป็นห่วงอะไรในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า ยังไม่มี เพราะยังไม่ได้มีการหารือในรายละเอียด เพราะทางพรรคได้นัดหมายว่าจะประชุมกันในวันที่ 6-7 ม.ค.นี้ ที่เขาใหญ่ ส่วนความชัดเจนของกระทรวงมหาดไทยในการจัดทำเวทีประชาเสวนาและการทำประชามติ ตนจะมีการหารือกับนายจารุพงศ์ อีกครั้ง หลังจากที่นัดหารือกับทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ก่อน โดยคาดว่าสัปดาห์หน้าคณะทำงานจะประชุมกันอีกครั้ง
**"จารุพงศ์"แบะท่าคุยฝ่ายค้าน
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ พรรคมีความพยายามที่จะพูดคุยกับผู้นำฝ่ายค้านตลอดเวลา ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าในปีใหม่นี้อาจจะประสานและพูดคุยกันในทางบวกมากขึ้น ข้อไหนที่ตกลงกันไม่ได้ ก็จะมอบอำนาจคืนให้ประชาชนตัดสินใจเพื่อหาทางออก โดยขณะนี้กำลังเตรียมการเรื่องการจัดเวทีสานเสวนา เพื่อหาคนกลางมากำหนดทิศทาง ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพราะต้องใช้ความรอบคอบ อีกทั้งต้องทำความเข้าใจกับวิทยากรเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และอาจจะรวม 4 เขตเลือกตั้งเป็น 1 เขต เมื่อเฉลี่ยแล้วจะมีคนเข้าฟังเสวนารวมทั่วประเทศประมาณ 75,000 คน ซึ่งเป็นไปตามสำนักงานสถิติที่พอรับได้ คาดว่าจะเริ่มได้ประมาณปลายเดือนม.ค.-ก.พ.นี้
**ป้อง“บรรหาร”ปัดเดินสายช่วย “ทักษิณ”
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา อาสาเป็นคนกลางพูดคุยกับทุกฝ่ายเพื่อสร้างความปรองดองในบ้านเมืองว่า เป็นเรื่องดีที่นายบรรหารเดินสายสร้างความปรองดอง เพราะตรงกับผลโพลต่างๆ ที่ประชาชนอยากให้นักการเมืองหยุดทะเลาะกัน และยุติความขัดแย้งของกลุ่มต่างๆ ในปี 2556 เพื่อให้บ้านเมืองเกิดความปรองดอง ดังนั้น ไม่อยากให้ฝ่ายค้านหรือฝั่งตรงข้ามรัฐบาลออกมาเตะตัดขานายบรรหารว่าเป็นการเดินสายเพื่อนำพ.ร.บ.ปรองดองฯ กลับมาพิจารณาอีกครั้งในการประชุมสภาสมัยนิติบัญญัติ หรือเอื้อประโยชน์ให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขอให้ดูเจตนานายบรรหารก่อน
**"สมศักดิ์"ซัดบางคนปรามาส"บรรหาร"
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า เจตนาของนายบรรหาร ไม่ได้มองปัญหาอยู่ที่จะอภัยโทษให้กับใคร หรือนิรโทษกรรมให้กับใคร แต่เป็นคนไทยคนหนึ่งที่มีความเจ็บปวดกับปัญหาความขัดแย้งของบ้านเมืองที่เกิดขึ้น และนำพาประเทศของเราให้ย้ำอยู่กับที่ เพราะฉะนั้นคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาว และมีสำนึกในบ้านเมือง ท่านก็ต้องการอยากเห็นความปรองดองสู่ภาวะปกติ จึงเป็นสิ่งที่น่าจะร่วมมือกันนำความสันติสุขมาสู่ประเทศไทย และนายบรรหารก็ไม่ได้เป็นตัวแทนของพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา เพราะนโยบายปรองดองเป็นนโยบายของพรรคมาตั้งแต่ต้น อย่าเอาการเมืองมาเป็นตัวตั้ง ต้องเอาประเทศชาติเป็นตัวตั้ง ดังนั้นถึงเวลาที่ฝ่ายการเมืองที่จะทำให้ปัญหาความขัดแย้งยุติลง
***"มาร์ค"หนุนหากก้าวข้าม"แม้ว"ได้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นในรายการ ฟ้าวันใหม่ ทางช่องบลูสกายทีวี กรณีที่นายบรรหาร จะเดินสายสร้างความปรองดองกับทุกฝ่ายว่า ถ้าให้คนกลางหรือเป็นนายบรรหาร หรือใครเข้ามา ก็คงไม่ยาก แต่ต้องเข้าใจว่าขณะนี้ความขัดแย้งพื้นฐานเป็นความขัดแย้งในเชิงหลักการ โดยเฉพาะปัญหาการล้างความผิดคดีทุจริต ถ้านายบรรหารมาคุยและเข้าใจหลักการนี้ พร้อมมีคำตอบได้ ก็จะเป็นเรื่องดี เพราะทุกคนอยากได้คำตอบ แต่คำตอบที่ดีที่สุด คือ รัฐบาลบริหารบ้านเมืองไป พวกตนก็ไม่ได้ล้มล้างรัฐบาล ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการล้างผิดที่เป็นประเด็นขัดแย้งก็อย่าทำ ทั้งนี้ ตนอยากให้นายบรรหารเข้าใจต้นเหตุและเหตุผลที่แท้จริงของความขัดแย้ง ถ้าทุกคนยอมรับกฎหมาย ยอมรับสิ่งที่เป็นความผิดต่างๆ ที่มีการตัดสินตามกระบวนการยุติธรรมแล้วสังคมก็ให้อภัย แต่ถ้าบอกว่าไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมก็เป็นเรื่องยากที่จะหาข้อยุติ
ต่อข้อถามว่าไม่ได้ปฏิเสธนายบรรหารที่จะมาทำหน้าที่เป็นคนกลางในการสร้างความปรองดอง และมีความคาดหวังอะไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า หากใครทำ ตนก็ไม่ห้าม ใครอยากทำให้เกิดความสามัคคี ตนเชียร์ทั้งนั้น แต่ทำแล้วจะสำเร็จหรือไม่ ก็อยู่ที่ว่าถ้าเข้าใจประเด็นก็คงจะง่ายขึ้น แต่ถ้าไม่เข้าใจก็คงลำบาก และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสำเร็จได้
**ปชป.พร้อมถกรัฐบาลแก้รัฐธรรมนูญ
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรีเรียกร้องให้ทุกฝ่ายคิดบวกนั้น ต้องขึ้นอยู่กับการทำงานของรัฐบาลก่อนว่า มีการสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยในการคิดบวกหรือไม่ พร้อมเชื่อว่า หากรัฐบาลหยุดคิดเรื่องแก้รัฐธรรมนูญก็จะทำให้บ้านเมืองคิดบวกได้ ขณะเดียวกัน ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อมพูดคุยเรื่องแก้รัฐธรรมนูญกับทางรัฐบาล เพื่อหาทางออกของประเทศ หากมีการติดต่อเข้ามา แต่อยากให้รัฐบาลคิดเรื่องดังกล่าวให้รอบคอบ เพื่อลดปัญหาบ้านเมืองร่วมด้วย
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายวุสิทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เสนอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พูดคุยกับนายอภิสิทธิ์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านเพื่อหาทางออกในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า เรายินดีพูดคุยเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ ไม่มีปัญหา แต่ข้อเสนอของพรรคประชาธิปัตย์มีความชัดเจนมาตั้งแต่แรก และไม่ได้มีอะไรซับซ้อนว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญสามารถทำได้ เพียงแค่ประกาศว่ามาตราใดมีปัญหาบ้าง พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมแสดงความคิดเห็น แต่การที่มีปัญหาทุกวันนี้เพราะรัฐบาลต้องการล้มรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ แต่ไม่ได้มีคำรับประกันเลยว่ามาตราใดที่ประชาชนเป็นห่วงจะไมได้รับการแตะต้อง
"ถ้ารัฐบาลพูดให้ชัดเจนว่าจะไม่มีการล้างความผิด ไม่มีการนิรโทษกรรม และเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ก็น่าจะเสร็จได้นานแล้ว และหากจะมีการพูดคุยกับทุกฝ่ายกันจริง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องสลัดตัวเองให้พ้นจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีก่อน เพราะถ้าสลัดไม่หลุด การพูดคุยก็จะไม่มีประโยชน์อะไร เนื่องจากทุกอย่างขึ้นอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ"
**กกต.ตอบรับหารือรัฐบาล
นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า กกต.มีมติมอบหมายให้เลขาธิการ กกต. พร้อมด้วยรองเลขาธิการฯ และผู้อำนวยการสำนักกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องในการจัดทำประชามติ เป็นตัวแทนไปรับทราบข้อหารือในเบื้องต้น หลังจากที่รัฐบาลได้มีหนังสือถึงกกต. เพื่อขออนุญาตเข้าพบคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อปรึกษาหารือกำหนดแนวทางในการจัดทำประชามติ พร้อมปรึกษาเกี่ยวกับรายละเอียดและข้อกฎหมายในการจัดทำประชามติ
ทั้งนี้ การที่ กกต. ส่งตัวแทนไปพบคณะทำงานฯ ของนายวราเทพ ไม่ถือว่าเป็นการช่วยเหลือรัฐบาล เป็นเพียงขั้นตอนการรับฟังเกี่ยวกับข้อปฏิบัติในการจัดทำประชามติ ในฐานะที่กกต.เป็นผู้รักษาการตามกฎหมายมีความเป็นมีกลางและยึดหลักตามข้อกฎหมายเป็นสำคัญอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้นำไปเปรียบเทียบกับกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เดินทางมาหารือกับ กกต.ด้วยตัวเอง แล้วจะมามองว่าการที่รัฐบาลนี้ ให้กกต.ไปหารือกับคณะทำงานของรัฐบาล เท่ากับกกต.ช่วยเหลือรัฐบาล คงไม่ใช่
**บิ๊กจิ๋วเปิดบ้าน เชื่อรัฐบาลอยู่รอด
วันเดียวกันนี้ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 22 ของประเทศไทย พร้อมด้วยคุณหญิงพันธ์เครือ ยงใจยุทธ ภรรยา และนางสาวณัฏฐ์พัชร์ ยงใจยุทธ หลานสาว รวมถึงญาติพี่น้อง เปิดบ้านที่ถนนสุนทรวิจิตร ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม รับการอวยพรของข้าราชการ ประชาชน ตลอดจนนักการเมืองทุกระดับ
พลเอกชวลิตกล่าวว่า ตนมีความเชื่อมั่นว่าในปี 2556 รัฐบาลจะสามารถขับเคลื่อนประเทศไทยให้เจริญได้มากกว่านี้แน่นอน และขอให้คนไทยทุกคนมีแต่ความสุข ทำความดีถวายพ่อหลวงของชาวไทย
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วานนี้ (2ม.ค.) เมื่อเวลา 10.00 น. นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ในฐานะคณะทำงานศึกษาข้อกฎหมายและวิธีการออกเสียงประชามติ นายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ในฐานะเลขานุการคณะทำงานพรรคร่วมรัฐบาล เพื่อศึกษาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และคณะทำงานศึกษาข้อกฎหมายและวิธีการออกเสียงประชามติ และนายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่ากระทรวงมหาดไทย ในฐานะคณะทำงานศึกษาข้อกฎหมายและวิธีการออกเสียงประชามติ ได้เดินทางมายังตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล เพื่อเข้าหารือและรับประทานอาหารร่วมกับ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี
จากนั้น นายวราเทพ เปิดเผยว่า การรับประทานครั้งนี้ ไม่ได้มีการหารือเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญอย่างเป็นทางการ แต่มีการพูดคุยแลกเปลี่ยนความเห็นระหว่างการรับประทานอาหาร โดยกรอบการแก้ไขรัฐธรรมนูญคงต้องไปพูดคุยกันในพรรค เป็นเรื่องของพรรค วันนี้ยังไม่มี และยังคงต้องรอการหารือของพรรคก่อน
เมื่อถามว่า นายกฯได้แสดงความเป็นห่วงอะไรในเรื่องดังกล่าวหรือไม่ นายวราเทพ กล่าวว่า ยังไม่มี เพราะยังไม่ได้มีการหารือในรายละเอียด เพราะทางพรรคได้นัดหมายว่าจะประชุมกันในวันที่ 6-7 ม.ค.นี้ ที่เขาใหญ่ ส่วนความชัดเจนของกระทรวงมหาดไทยในการจัดทำเวทีประชาเสวนาและการทำประชามติ ตนจะมีการหารือกับนายจารุพงศ์ อีกครั้ง หลังจากที่นัดหารือกับทางคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ก่อน โดยคาดว่าสัปดาห์หน้าคณะทำงานจะประชุมกันอีกครั้ง
**"จารุพงศ์"แบะท่าคุยฝ่ายค้าน
นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย กล่าวว่า เรื่องการแก้รัฐธรรมนูญ พรรคมีความพยายามที่จะพูดคุยกับผู้นำฝ่ายค้านตลอดเวลา ซึ่งส่วนตัวเชื่อว่าในปีใหม่นี้อาจจะประสานและพูดคุยกันในทางบวกมากขึ้น ข้อไหนที่ตกลงกันไม่ได้ ก็จะมอบอำนาจคืนให้ประชาชนตัดสินใจเพื่อหาทางออก โดยขณะนี้กำลังเตรียมการเรื่องการจัดเวทีสานเสวนา เพื่อหาคนกลางมากำหนดทิศทาง ซึ่งเป็นเรื่องยากที่จะทำให้ครอบคลุมทั่วประเทศ เพราะต้องใช้ความรอบคอบ อีกทั้งต้องทำความเข้าใจกับวิทยากรเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน และอาจจะรวม 4 เขตเลือกตั้งเป็น 1 เขต เมื่อเฉลี่ยแล้วจะมีคนเข้าฟังเสวนารวมทั่วประเทศประมาณ 75,000 คน ซึ่งเป็นไปตามสำนักงานสถิติที่พอรับได้ คาดว่าจะเริ่มได้ประมาณปลายเดือนม.ค.-ก.พ.นี้
**ป้อง“บรรหาร”ปัดเดินสายช่วย “ทักษิณ”
นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีที่นายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา อาสาเป็นคนกลางพูดคุยกับทุกฝ่ายเพื่อสร้างความปรองดองในบ้านเมืองว่า เป็นเรื่องดีที่นายบรรหารเดินสายสร้างความปรองดอง เพราะตรงกับผลโพลต่างๆ ที่ประชาชนอยากให้นักการเมืองหยุดทะเลาะกัน และยุติความขัดแย้งของกลุ่มต่างๆ ในปี 2556 เพื่อให้บ้านเมืองเกิดความปรองดอง ดังนั้น ไม่อยากให้ฝ่ายค้านหรือฝั่งตรงข้ามรัฐบาลออกมาเตะตัดขานายบรรหารว่าเป็นการเดินสายเพื่อนำพ.ร.บ.ปรองดองฯ กลับมาพิจารณาอีกครั้งในการประชุมสภาสมัยนิติบัญญัติ หรือเอื้อประโยชน์ให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ขอให้ดูเจตนานายบรรหารก่อน
**"สมศักดิ์"ซัดบางคนปรามาส"บรรหาร"
นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา กล่าวว่า เจตนาของนายบรรหาร ไม่ได้มองปัญหาอยู่ที่จะอภัยโทษให้กับใคร หรือนิรโทษกรรมให้กับใคร แต่เป็นคนไทยคนหนึ่งที่มีความเจ็บปวดกับปัญหาความขัดแย้งของบ้านเมืองที่เกิดขึ้น และนำพาประเทศของเราให้ย้ำอยู่กับที่ เพราะฉะนั้นคนที่ผ่านร้อนผ่านหนาว และมีสำนึกในบ้านเมือง ท่านก็ต้องการอยากเห็นความปรองดองสู่ภาวะปกติ จึงเป็นสิ่งที่น่าจะร่วมมือกันนำความสันติสุขมาสู่ประเทศไทย และนายบรรหารก็ไม่ได้เป็นตัวแทนของพล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา เพราะนโยบายปรองดองเป็นนโยบายของพรรคมาตั้งแต่ต้น อย่าเอาการเมืองมาเป็นตัวตั้ง ต้องเอาประเทศชาติเป็นตัวตั้ง ดังนั้นถึงเวลาที่ฝ่ายการเมืองที่จะทำให้ปัญหาความขัดแย้งยุติลง
***"มาร์ค"หนุนหากก้าวข้าม"แม้ว"ได้
นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเห็นในรายการ ฟ้าวันใหม่ ทางช่องบลูสกายทีวี กรณีที่นายบรรหาร จะเดินสายสร้างความปรองดองกับทุกฝ่ายว่า ถ้าให้คนกลางหรือเป็นนายบรรหาร หรือใครเข้ามา ก็คงไม่ยาก แต่ต้องเข้าใจว่าขณะนี้ความขัดแย้งพื้นฐานเป็นความขัดแย้งในเชิงหลักการ โดยเฉพาะปัญหาการล้างความผิดคดีทุจริต ถ้านายบรรหารมาคุยและเข้าใจหลักการนี้ พร้อมมีคำตอบได้ ก็จะเป็นเรื่องดี เพราะทุกคนอยากได้คำตอบ แต่คำตอบที่ดีที่สุด คือ รัฐบาลบริหารบ้านเมืองไป พวกตนก็ไม่ได้ล้มล้างรัฐบาล ส่วนการแก้ไขรัฐธรรมนูญและการล้างผิดที่เป็นประเด็นขัดแย้งก็อย่าทำ ทั้งนี้ ตนอยากให้นายบรรหารเข้าใจต้นเหตุและเหตุผลที่แท้จริงของความขัดแย้ง ถ้าทุกคนยอมรับกฎหมาย ยอมรับสิ่งที่เป็นความผิดต่างๆ ที่มีการตัดสินตามกระบวนการยุติธรรมแล้วสังคมก็ให้อภัย แต่ถ้าบอกว่าไม่ยอมรับกระบวนการยุติธรรมก็เป็นเรื่องยากที่จะหาข้อยุติ
ต่อข้อถามว่าไม่ได้ปฏิเสธนายบรรหารที่จะมาทำหน้าที่เป็นคนกลางในการสร้างความปรองดอง และมีความคาดหวังอะไรหรือไม่ นายอภิสิทธิ์ตอบว่า หากใครทำ ตนก็ไม่ห้าม ใครอยากทำให้เกิดความสามัคคี ตนเชียร์ทั้งนั้น แต่ทำแล้วจะสำเร็จหรือไม่ ก็อยู่ที่ว่าถ้าเข้าใจประเด็นก็คงจะง่ายขึ้น แต่ถ้าไม่เข้าใจก็คงลำบาก และไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะสำเร็จได้
**ปชป.พร้อมถกรัฐบาลแก้รัฐธรรมนูญ
นายองอาจ คล้ามไพบูลย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) กล่าวว่า การที่นายกรัฐมนตรีเรียกร้องให้ทุกฝ่ายคิดบวกนั้น ต้องขึ้นอยู่กับการทำงานของรัฐบาลก่อนว่า มีการสร้างบรรยากาศที่เอื้ออำนวยในการคิดบวกหรือไม่ พร้อมเชื่อว่า หากรัฐบาลหยุดคิดเรื่องแก้รัฐธรรมนูญก็จะทำให้บ้านเมืองคิดบวกได้ ขณะเดียวกัน ระบุว่า พรรคประชาธิปัตย์พร้อมพูดคุยเรื่องแก้รัฐธรรมนูญกับทางรัฐบาล เพื่อหาทางออกของประเทศ หากมีการติดต่อเข้ามา แต่อยากให้รัฐบาลคิดเรื่องดังกล่าวให้รอบคอบ เพื่อลดปัญหาบ้านเมืองร่วมด้วย
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีที่นายวุสิทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร เสนอให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พูดคุยกับนายอภิสิทธิ์ ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านเพื่อหาทางออกในการแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า เรายินดีพูดคุยเพื่อหาทางออกให้กับประเทศ ไม่มีปัญหา แต่ข้อเสนอของพรรคประชาธิปัตย์มีความชัดเจนมาตั้งแต่แรก และไม่ได้มีอะไรซับซ้อนว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญสามารถทำได้ เพียงแค่ประกาศว่ามาตราใดมีปัญหาบ้าง พร้อมเปิดโอกาสให้ประชาชนร่วมแสดงความคิดเห็น แต่การที่มีปัญหาทุกวันนี้เพราะรัฐบาลต้องการล้มรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ แต่ไม่ได้มีคำรับประกันเลยว่ามาตราใดที่ประชาชนเป็นห่วงจะไมได้รับการแตะต้อง
"ถ้ารัฐบาลพูดให้ชัดเจนว่าจะไม่มีการล้างความผิด ไม่มีการนิรโทษกรรม และเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญรายมาตรา ก็น่าจะเสร็จได้นานแล้ว และหากจะมีการพูดคุยกับทุกฝ่ายกันจริง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ต้องสลัดตัวเองให้พ้นจาก พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีก่อน เพราะถ้าสลัดไม่หลุด การพูดคุยก็จะไม่มีประโยชน์อะไร เนื่องจากทุกอย่างขึ้นอยู่กับ พ.ต.ท.ทักษิณ"
**กกต.ตอบรับหารือรัฐบาล
นายภุชงค์ นุตราวงศ์ เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) กล่าวว่า กกต.มีมติมอบหมายให้เลขาธิการ กกต. พร้อมด้วยรองเลขาธิการฯ และผู้อำนวยการสำนักกิจการพรรคการเมืองและการออกเสียงประชามติ รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้องในการจัดทำประชามติ เป็นตัวแทนไปรับทราบข้อหารือในเบื้องต้น หลังจากที่รัฐบาลได้มีหนังสือถึงกกต. เพื่อขออนุญาตเข้าพบคณะกรรมการการเลือกตั้ง เพื่อปรึกษาหารือกำหนดแนวทางในการจัดทำประชามติ พร้อมปรึกษาเกี่ยวกับรายละเอียดและข้อกฎหมายในการจัดทำประชามติ
ทั้งนี้ การที่ กกต. ส่งตัวแทนไปพบคณะทำงานฯ ของนายวราเทพ ไม่ถือว่าเป็นการช่วยเหลือรัฐบาล เป็นเพียงขั้นตอนการรับฟังเกี่ยวกับข้อปฏิบัติในการจัดทำประชามติ ในฐานะที่กกต.เป็นผู้รักษาการตามกฎหมายมีความเป็นมีกลางและยึดหลักตามข้อกฎหมายเป็นสำคัญอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม ไม่อยากให้นำไปเปรียบเทียบกับกรณีการแก้ไขรัฐธรรมนูญสมัยรัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่เดินทางมาหารือกับ กกต.ด้วยตัวเอง แล้วจะมามองว่าการที่รัฐบาลนี้ ให้กกต.ไปหารือกับคณะทำงานของรัฐบาล เท่ากับกกต.ช่วยเหลือรัฐบาล คงไม่ใช่
**บิ๊กจิ๋วเปิดบ้าน เชื่อรัฐบาลอยู่รอด
วันเดียวกันนี้ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ อดีตนายกรัฐมนตรีคนที่ 22 ของประเทศไทย พร้อมด้วยคุณหญิงพันธ์เครือ ยงใจยุทธ ภรรยา และนางสาวณัฏฐ์พัชร์ ยงใจยุทธ หลานสาว รวมถึงญาติพี่น้อง เปิดบ้านที่ถนนสุนทรวิจิตร ในเขตเทศบาลเมืองนครพนม รับการอวยพรของข้าราชการ ประชาชน ตลอดจนนักการเมืองทุกระดับ
พลเอกชวลิตกล่าวว่า ตนมีความเชื่อมั่นว่าในปี 2556 รัฐบาลจะสามารถขับเคลื่อนประเทศไทยให้เจริญได้มากกว่านี้แน่นอน และขอให้คนไทยทุกคนมีแต่ความสุข ทำความดีถวายพ่อหลวงของชาวไทย