xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

ปี’56 ศึกชิงเก้าอี้ส.อ.ท.เดือดหนัก ย้ำภาพลักษณ์”ขุมทรัพย์”ข้าใครอย่าแตะ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล และ นายธนิต โสรัตน์ 2 ขั้วอำนาจในสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยที่กำลังเปิดศึกเข้าใส่กัน และยังไม่มีทีท่าว่าจะสามารถยุติลงได้เมื่อไหร่
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์-ความขัดแย้งของ สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ตลอดปี 2555 ที่ผ่านมาได้สร้างรอยร้าวอย่างหนักและดูไม่มีทีท่าว่าจะสงบศึกกันง่ายๆแม้กระทรวงอุตสาหกรรมในฐานะกำกับดูแลภายใต้พ.ร.บ.ส.อ.ท. ปี 2535 จะย้ำ แล้วย้ำอีกว่าน่าจะหาทางลงได้ในช่วงสิ้นปี 2555 และต้องการให้แต่ละฝ่ายหันหน้าเจรจากันเองโดยไม่อยากนำการเมืองเข้าไปยุ่ง

แต่ถึงที่สุดการประชุมคณะกรรมการส.อ.ท.(กส.)เมื่อวันที่ 25 ธันวาคม 2555 สถานการณ์กลับทำให้แนวโน้มยังคงคุกรุ่นมากขึ้นในปี 2556

ทั้งนี้เนื่องจากการประชุมกส.ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอมรับรองการประชุมของอีกฝ่าย โดยฟากของนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานส.อ.ท. ได้เรียกประชุมกส. ที่ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ขณะที่อีกฝ่ายนำโดยนายธนิต โสรัตน์ ก็ประชุมกส.ที่โรงแรมดุสิตธานี ซึ่งการประชุมกส.ของแต่ละฝ่ายจะต้องมีกรรมการมาประชุมให้ครบกึ่งหนึ่งจาก 348 คนถึงจะดำเนินการประชุมได้

ทั้งนี้ ปรากฏว่าฝ่ายของนายพยุงศักดิ์มีกรรมการเข้าร่วม 183 คน กลุ่มนายธนิตเข้าร่วม 176 คน เมื่อรวมคะแนนสองฝ่ายเข้าด้วยกันกลายเป็น 359 คะแนนซึ่งพบว่ากรรมการบางคนวิ่งรอกมาเซ็นชื่อให้ 2 ฝั่งเพราะต้องการเป็นกลาง

การประชุมกส.ดังกล่าวนายพยุงศักดิ์ ได้ให้สัมภาษณ์สื่อชนิดที่ไม่คาดคิดเพราะบุคลิกที่ผ่านมาจะไม่เคยพูดอะไรแรงๆ แต่กลับทำเหนือสิ่งคาดหมายเมื่อระบุที่จะยื่นฟ้องอีกฝ่ายก่อน โดยระบุว่า

“ที่ประชุมมีมติเตรียมที่จะยื่นฟ้องผู้ที่ใช้ตราสัญลักษณ์ส.อ.ท.และชื่อส.อ.ท.นับจากนี้เป็นต้นไปโดยจะดำเนินคดีทั้งแพ่งและอาญาเพราะถือว่ากระทำผิดตามพระราชบัญญัติส.อ.ท.ปี 2535พร้อมกันนี้ยืนยันว่าการประชุมกส. 26 พ.ย.เป็นไปตามกฎหมายและไม่รับรองการประชุมของอีกฝ่ายจึงยืนยันที่จะทำหน้าที่ดังกล่าวต่อไป” พร้อมกำหนดวันประชุมกบ.วันที่ 15 ม.ค.56 และกส. 28 ม.ค.56

แถมยังได้เร่งรัดให้คณะทำงานที่ตั้งให้ตรวจสอบการทุจริตการฝึกอบรมภายใต้งบประมาณของกระทรวงแรงงานซึ่งมีกรรมการ 4 ท่านที่เหลือเพื่อสรุปปัญหาโดยเร็วเพราะถือเป็นการใช้ ส.อ.ท.ไปในทางที่เสียหายซึ่งเข้าข่ายที่จะต้องฟ้องร้องเช่นกัน และยืนยันว่ามีบางส่วนเกี่ยวข้องกับคนของอีกกลุ่ม

ฟาก กส.ของนายธนิต โสรัตน์ ได้แถลงการณ์ตอบโต้และระบุที่จะฟ้องกลับนายพยุงศักดิ์เช่นกัน พร้อมกันนี้ยังท้าให้นายพยุงศักดิ์เปิดเผยรายละเอียดของการทุจริตออกมา เพราะยืนยันว่าการดำเนินงานดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนบุคคลไม่เกี่ยวกับส.อ.ท. แต่ที่น่าจับตาคือการกลับมาทวงสถานที่ทำงานของส.อ.ท.คืนด้วยการกำหนดการประชุมคณะกรรมการบริหารหรือกบ. วันที่ 21 ม.ค. 56 ณ ส.อ.ท. ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ งานนี้จึงเป็นการระเบิดศึกชิงพื้นที่สื่อกันอีกระลอกแน่

ย้อนกลับไปเหตุการณ์ที่ทำให้เกิดการแตกแยกการบริหารออกเป็น 2 ฝ่ายนำไปสู่ภาวะผู้นำ 2 กลุ่มนั้นเกิดจาก แกนนำสำคัญคือ นายสมมาต ขุนเศษฐ เลขาธิการ นายธนิต โสรัตน์ และนายทวีกิจ จตุรเจริญคุณ รองประธานส.อ.ท.ขณะนั้นได้ประกาศชัดเจนไม่เอา”พยุงศักดิ์”ในวันที่ 20 พ.ย.55 ซึ่งเป็นวันเดียวกับที่ครม.อนุมัติปรับขึ้นค่าแรง 300 บาทต่อวันทั่วประเทศ และเดินเกมนัดประชุมกส. วาระพิเศษที่มีกรรมการ 348 คนเมื่อวันที่ 11 ธ.ค. 55 และได้รวบรวมเสียงได้ 180 เสียงซึ่งเกินกึ่งหนึ่งและมีมติปลด”พยุงศักดิ์”ออกจากประธานรวมถึงกบ. 70 คนต้องพ้นสภาพ แต่นายพยุงศักดิ์ไม่ยอมรับและยืนยันว่าตนมีผู้สนับสนุนที่เป็นรายใหญ่จำนวนมาก

ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นกำลังเป็นที่คาใจของสังคมโดยรวมถึงเหตุผลเบื้องลึกที่แท้จริง ฝ่ายต่อต้านนายพยุงศักดิ์ระบุถึงการที่นายพยุงศักดิ์ไม่ผลักดันแนวทางแก้ไขปัญหาการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวันทั่วประเทศที่ธุรกิจรายกลางและย่อม(เอสเอ็มอี)ซึ่งส่วนใหญ่เป็นสมาชิกต่างจังหวัดได้รับผลกระทบ ฝ่ายพยุงศักดิ์ระบุว่าเป็นผลจากการตั้งกรรมการตรวจสอบทุจริตเงินเยียวยาน้ำท่วมภายใต้โครงการยกระดับฝีมือแรงงานลูกจ้างที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัยกลับสู่สถานประกอบการใน 5 จังหวัดรวมเงิน 60 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามนายสุชาติ วิสุวรรณ รองประธานส.อ.ท.อาวุโสที่เป็นประธานกรรมการตรวจสอบสมัยนั้นและต่อมาได้สนับสนุนกลุ่มต่อต้านนายพยุงศักดิ์แถลงโต้ประเด็นทุจริตและทิ้งปริศนาไว้ให้น่าคิดโดยกล่าวว่า “ ผมขอเปิดใจพูดตรงๆ ว่าหารือมา 3 ครั้ง ผมสรุปแล้ว อย่ามาบอกว่าทำไม่เสร็จมีอะไรหรือเปล่า ท่านน่าจะชี้แจงสังคมเลยเขาทำในนามส่วนตัวเขามีข้อขัดแย้งในจังหวัดและไม่ได้ทำให้ส.อ.ท.เสียหาย ถ้าคิดว่าทำให้เสียหายก็ฟ้องร้อง อย่าสาดโคลนเข้าหากัน ผมทำงานมาหลายสมัยมากปั้นคุณพยุงศักดิ์มาถ้าเรื่องทุกอย่างจบผมจะบอกให้ว่าความจริงคืออะไร ยอมรับว่าไม่ได้เกี่ยวกับ 300 บาทต่อวันโดยตรง”

ละครฉากใหญ่ของ”ส.อ.ท.” เชื่อว่าในที่สุดคงได้เห็นตอนจบ ! แต่แน่ๆ ภาพลักษณ์”ส.อ.ท.”วันนี้จบเห่ ยิ่งปล่อยนานวันเพียงใดการสาวไส้ให้กันยิ่งตอกย้ำภาพลักษณ์ของผลประโยชน์ในส.อ.ท.ให้เด่นชัดขึ้นว่ามีอยู่จริง และต่างฝ่ายต่างก็ต้องการยื้อเอาไว้เป็นสมบัติส่วนตัว ….


กำลังโหลดความคิดเห็น