xs
xsm
sm
md
lg

ผู้จัดการสุดสัปดาห์

x

“ส.อ.ท.”เกมแห่งการช่วงชิงอำนาจทางเศรษฐกิจ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล
ASTVผู้จัดการสุดสัปดาห์ -ความขัดแย้งในสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) แรกเริ่มดูจะไม่มีใครยอมถอยให้ใคร ... หลังคณะกรรมการบริหารสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทยหรือ ส.อ.ท.( กส.) เมื่อวันที่ 26 พ.ย. 55 ที่มีผู้เข้าประชุมรวม 182 คนโหวตให้นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล พ้นจากประธานส.อ.ท.ด้วยคะแนน 139 เสียงพ่วงด้วยการโหวตคณะกรรมการบริหาร(กบ.) 70 คนพ้นสภาพไปด้วย พร้อมกันนี้ได้เลือกให้ “นายสันติ วิลาสศักดานนท์” มาเป็นประธานคนใหม่แทน ล่าสุดเมื่อวันที่ 2 ธ.ค.นายสันติได้เซ็นแต่งตั้งคณะกรรมการบริหารชุดใหม่จำนวน 54 คนเพื่อที่จะเข้ามาทำงานในการขับเคลื่อนภาคอุตสาหกรรมไทยให้ก้าวไปข้างหน้า

เมื่อพิจารณาหน้าตากรรมการบริหารหลายคนก็เป็นไปตามที่คาดคิด ทั้งนายธนิต โสรัตน์ ที่มารับหน้าที่เป็นเลขาธิการส.อ.ท. ขณะที่นายสมมาต ขุนเศษฐ เป็นรองส.อ.ท. นายสุชาติ วิสุวรรณ รองประธานอาวุโส นายทวีกิจ จตุรเจริญคุณ รองประธาน แต่ต้องมาสะดุดตากับรายชื่อคนเครือปตท. อย่าง นายวีรศักดิ์ โฆสิตไพศาล และนายบวร วงศ์สินอุดม ที่เข้ามาเป็น รองประธานรวมถึง นายศุภรัตน์ ศิริสุวรรณางกูร จากค่ายรถโตโยต้า นางปิยะนุช มาลากุล ณ อยุธยา จากบ.ซี.พี.อินเตอร์เทรด ที่มีชื่อมาเป็นรองประธานเช่นกัน แต่พอสอบถามผู้ใหญ่หลายท่านก็คลายสงสัย เพราะงานนี้บริษัทใหญ่ๆ ไม่อยากมีปัญหากันเอง เลยพร้อมที่จะอยู่ทั้งสองฝ่ายว่าอย่างนั้น ........

การเปิดตัวทีมบริหารงานชุดของ “นายสันติ วิลาสศักดิ์นนท์” ซึ่งมีดีกรีเป็นบิ๊กผู้บริหารในเครือสหพัฒน์เป็นการเปิดกระดานท้าชนอย่างเต็มรูปแบบ หลังจากที่ข่าวความขัดแย้งส.อ.ท.ดูจะเงียบหายไปจากหน้าสื่อต่างๆ อยู่ 3-4 วันช่วงต้นเดือนธ.ค. ซึ่งต่อมาได้ถูกเฉลยขึ้นจากกลุ่มผู้สนับสนุน “นายสันติ” ที่นำโดยนายธนิต โสรัตน์ เดินทางมายื่นเอกสารที่เป็นลายลักษณ์อักษรให้กับกระทรวงอุตสาหกรรมเกี่ยวกับขั้นตอนการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 26 พ.ย. 55 ว่า ที่ต้องเงียบเพราะผู้ใหญ่จากรัฐบาลขอมา และได้ประสานที่จะให้ 2 ฝ่ายหารือกันโดยนัดพบไปที่จังหวัดเชียงใหม่เมื่อวันที่ 2 ธ.ค.แต่ปรากฏว่านายพยุงศักดิ์ไม่ยอมเดินทางไปไกล่เกลี่ย

หันมาดูความเคลื่อนไหว “นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล” พอเปิดทำงานหลังหยุดวันพ่อ 5 ธ.ค. ฝ่ายพีอาร์ได้ร่อนข่าวแจกมายังบรรดาสื่อประจำ โดยอ้างการประชุมคณะกรรมการสายงานอุตสาหกรรมวาระพิเศษ 4 ธ.ค. 55 ว่ากลุ่มอุตฯ 39 กลุ่มจาก 42 กลุ่มของส.อ.ท.มีมติสนับสนุนการทำงานของตนให้เป็นประธาน ส.อ.ท.ต่อจนครบวาระมี.ค. 2557 และยังมีเสียงสนับสนุนจากสภาอุตสาหกรรมจังหวัดโดยเบื้องต้นมีมากกว่า 10 จังหวัด อาทิ สระบุรี ระยอง สมุทรปราการ กระบี่ พังงาน สงขลา ปัตตานี ฯลฯ

ความขัดแย้งของทั้งคู่ดูจะกลับมาร้อนแรงอีกครั้ง แม้หลายฝ่ายจะมองไปที่ความหวังของคณะทำงานด้านกฎหมายกระทรวงอุตสาหกรรมที่นายประเสริฐ บุญชัยสุข รมว.อุตสาหกรรมมอบให้นายวิฑูรย์ สิมะโชคดี ปลัดอุตสาหกรรมเป็นประธานในฐานะที่กระทรวงอุตสาหกรรมรักษาการตามพ.ร.บ.ส.อ.ท. ปี 2531 ...ไปดูในแง่กฎหมายเพื่อชี้ขาดว่าใครผิดถูกแน่

แต่ล่าสุด นายวิฑูรย์เองก็เริ่มเสียงเบาในแง่ที่ยังไม่แน่ใจว่ากฎหมายให้อำนาจชี้ขาดได้มากน้อยเพียงใด และยืนยันว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่เคยยุ่งเรื่องความขัดแย้งภายในองค์กรส.อ.ท.เลยจึงเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ดังนั้นอำนาจชี้ขาดแท้จริงจึงน่าจะอยู่ที่ตัวนายสุวัจน์ ลิปตพัลลภ ในฐานะเป็นรมต.ตัวจริงหรือไม่.....

วันนี้หากมองรอบด้านไม่ว่าจะฝ่ายไหนต่างก็มีการเมืองเป็นตัวกลางที่จะหาทางเคลียร์ แต่จะเคลียร์รูปแบบไหนต่างฝ่ายก็คงจะรู้วิธีกันดี .....เพราะงานนี้วัดกันที่ศักดิ์ศรีและขุมทรัพย์ใน ส.อ.ท. ที่ประธานจะสามารถเข้าไปนั่งเป็นคณะกรรมการต่างๆมากมาย ทั้งทางตรงและอ้อมและบอร์ดหลายแห่งก็ล้วนแต่เป็นการกำหนดทิศทางนโยบายเศรษฐกิจของชาติซึ่งเป็นข้อมูลอินไซด์ที่จะได้รู้กันล่วงหน้าและร่วมกำหนดทิศทางอนาคตประเทศ....และแต่ละบอร์ดก็ว่ากันด้วยเงินค่าเหนื่อยแถมกลับมาอีกมหาศาล ยิ่งไทยจะก้าวเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ AEC ปี 2558 แล้วเวลานี้ใครบ้างจะไม่อยากร่วมกำหนดอนาคตประเทศ เพราะนั่นคือความได้เปรียบของธุรกิจตนเอง

ความขัดแย้งครั้งนี้จึงไม่ได้ว่ากันด้วยค่าแรง 300 บาทต่อวัน แต่เปรียบเหมือนมวยคู่ใหญ่ระหว่างเครือสหพัฒน์ที่นำโดยนายสันติ และเครือซิเมนต์ไทยหรือ SCG ที่นำโดยนายพยุงศักดิ์ ซึ่งแม้จะยังไม่เปิดตัวชัดเจนต่อสาธารณะ แต่หากดูโครงสร้างบริหาร ส.อ.ท.ที่นายพยุงศักดิ์วางไว้ใครๆ ก็พอจะเดาไม่ยากที่นายพยุงศักดิ์ได้ปูทางให้คน SCG ก้าวสู่ประธานส.อ.ท.คนต่อไปนั่นก็คือ นาย ปราโมทย์ เตชะสุพัฒน์กุล

และหากมองลึกไปยังโครงสร้างบริหาร ส.อ.ท.ขณะนี้ยังมีคน SCG อีกจำนวนไม่น้อย ทั้งนายขจรเดช แสงสุพรรณ จากบริษัทกระเบื้องกระดาษไทย นายสมชาย หวังวัฒนาพาณิช บริษัท ไทยโพลิเอททีลีน นายสมยศ ตั้งมีลาภ บริษัท สยามอุตสาหกรรมวัสดุทนไฟ และยังมีนายกิตติ ตั้งจิตรมณีศักดา และนายบดินทร์ อัศวาณิชย์ จาก บริษัท กฎหมายเอสซีจีที่เป็นกรรมการบริหารเดิมอยู่แล้ว ฯลฯ

เมื่อชนวนของความขัดแย้งว่ากันด้วยศักดิ์ศรีที่พี่เลี้ยงอย่าง “สันติ”ไม่พอใจอย่างหนักถึงการปูทางให้คน SCG เข้ามาผสมโรง กับความไม่พอใจของสายงานต่างจังหวัดเรื่องการปรับขึ้นค่าแรง 300 บาทต่อวันจึงกลายเป็นคลื่นลูกยักษ์ที่ซัดเข้าหานายพยุงศักดิ์อย่างแรง และต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอมแพ้แม้จะต้องวิ่งเข้าหานักการเมืองเข้ามาหนุนหลังให้อย่างไร้ศักดิ์ศรีและฉุดให้ภาพลักษณ์ ส.อ.ท.เสื่อมลงไปก็ตาม

อย่างไรก็ตาม ความเคลื่อนไหวล่าสุดนายสันติ ได้ไขก๊อกออกจากประธานส.อ.ท.แล้วเพื่อลดความแตกแยกขององค์กร และหวังที่จะให้นายพยุงศักดิ์ลาออกแล้วหันมาเลือกตั้งในวิถีแห่งประชาธิปไตย งานนี้ จึงดูเหมือนว่านายสันติพยายามจะทำให้แต่ละฝ่ายยอมถอยออกมาคนละก้าว...จึงอยู่ที่อีกฝ่ายว่าจะทำอย่างไร

หากต่างฝ่ายต่างก็ไม่ยอมแพ้ และยังคงดึงดันด้วยการใช้เวทีนี้เดิมพันอำนาจแห่งเงินตราและการกุมนโยบายและเศรษฐกิจของประเทศ แม้จนที่สุดการเมืองเข้ามาแทรกแซงภาพลักษณ์ส.อ.ท.คงหนีไม่พ้นความเสื่อมลง และเวทีนี้ก็คงหมดความน่าเชื่อถือไปในที่สุด


สันติ วิลาสศักดานนท์
กำลังโหลดความคิดเห็น