ส.อ.ท.ยังร้าวลึก การประชุมคณะกรรมการบริหาร 24 ธ.ค.ต่างฝ่ายต่างเดินหน้าชนไม่ยอมรับการประชุมของอีกฝ่าย “พยุงศักดิ์” เตรียมยื่นฟ้องผู้ใช้ตราสัญลักษณ์และชื่อ ส.อ.ท.จากนี้ไปเพราะถือว่าผิดกฎหมาย พร้อมแฉต่อยันอีกฝ่ายมีผู้เกี่ยวข้องกับทุจริตการฝึกอบรมของ ก.แรงงาน ขณะที่ฝ่าย “ธนิต” ยันจะฟ้องกลับเช่นกันเพราะถือว่าอีกฝ่ายก็ผิด
เล็งบุกยึด ส.อ.ท.วันที่ 21 ม.ค. 56 กรณีตรวจสอบทุจริตท้าให้เปิดเผย
นายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท. ) เปิดเผยถึงการประชุมคณะกรรมการบริหาร ส.อ.ท.(กส.) ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ซึ่งมีสมาชิกเข้าร่วม 183 คน เกินกึ่งหนึ่งขององค์ประชุม 348 คน วานนี้ (24 ธ.ค.) ว่า ที่ประชุมมีมติเตรียมที่จะยื่นฟ้องผู้ที่ใช้ตราสัญลักษณ์ ส.อ.ท. และชื่อ ส.อ.ท.นับจากนี้เป็นต้นไป โดยจะดำเนินคดีทั้งแพ่งและอาญาเพราะถือว่ากระทำผิดตามพระราชบัญญัติ ส.อ.ท.ปี 2535 พร้อมกันนี้ ยืนยันว่าการประชุม กส. 26 พ.ย.เป็นไปตามกฎหมาย และไม่รับรองการประชุมของอีกฝ่าย จึงยืนยันที่จะทำหน้าที่ดังกล่าวต่อไป
สำหรับกรณีการตรวจสอบการทุจริตการฝึกอบรมภายใต้งบประมาณของกระทรวงแรงงาน ที่ประชุมได้เร่งรัดให้คณะทำงานที่ตั้งให้ตรวจสอบซึ่งมีกรรมการ 4 ท่านที่เหลือจะเร่งแจ้งความคืบหน้าเพื่อสรุปปัญหาโดยเร็ว เพราะถือเป็นการใช้ ส.อ.ท.ไปในทางที่เสียหายซึ่งเข้าข่ายที่จะต้องฟ้องร้องเช่นกัน และยืนยันว่ามีบางส่วนเกี่ยวข้องกับคนของอีกกลุ่ม พร้อมกันนี้ยังได้กำหนดการประชุมคณะกรรมการบริหาร (กบ.) วันที่ 15 ม.ค. 56 และ กส. 28 ธ.ค. ส่วนกรณีที่อีกฝ่ายจะมาใช้ที่ประชุม ส.อ.ท.นั้นก็ไม่ทราบ
“ปัญหาที่เกิดขึ้นและการดำเนินงานใน ส.อ.ท.ตลอดที่มีปัญหาผมยืนยันทำถูกต้อง การเบิกจ่ายเงินต่างๆ ก็ไม่ได้ผิดอะไรเพราะผมมาอย่างถูกต้อง และกรณีที่มีการเสนอให้มีการเจรจานั้นระหว่างอุตสาหกรรมกับ ส.อ.ท.ต่างจังหวัดเพื่อให้ตั้งคณะกรรมการร่วมในการแก้ไขความขัดแย้งนั้นไม่ทราบประเด็นดังกล่าว และยืนยันอีกครั้งว่าทุกอย่างของเราดำเนินมาถูกต้องตามกฎหมาย” นายพยุงศักดิ์
นายธนิต โสรัตน์ เลขาธิการและรักษาการประธาน ส.อ.ท. กล่าวว่า การประชุม กส. ครั้งที่ 10 ที่โรงแรมดุสิตธานี ซึ่งมีสมาชิกมาร่วม 176 คน ได้ออกแถลงการณ์ 8 ข้อซึ่งระบุยืนยันไม่รับรองการดำเนินงานใดๆ ของนายพยุงศักดิ์ ชาติสุทธิผล เพราะถือว่าพ้นจากการเป็นประธาน ส.อ.ท.นับตั้งแต่ 26 พ.ย. และได้กำหนดวันที่ 21 ม.ค. 56 จะประชุมคณะกรรมการบริหาร (กบ.) กส.และสมาชิกจาก ส.อ.ท.จังหวัดทั่วประเทศ ณ ส.อ.ท. ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ เพื่อให้ทุกฝ่ายทราบว่าการดำเนินงานของฝ่ายตนได้ทำถูกกฎหมายทุกขั้นตอน และกรณีที่อีกฝ่ายจะฟ้องโดยระบุมีการใช้ตราสัญลักษณ์และชื่อ ส.อ.ท. ตนก็จะฟ้องกลับเช่นกันเพราะถือว่าอีกฝ่ายก็ทำผิด
พร้อมกันนี้ ได้ขอให้ภาคอุตสาหกรรมขนาดใหญ่วางตัวเป็นกลางเพื่อให้เกิดการเจรจาและแก้ไขปัญหาซึ่งควรรับฟังข้อมูลทั้งสองฝ่าย และเพื่อเป็นการแก้ปัญหาขัดแย้งควรมีการเจรจาระหว่างกลุ่มอุตสาหกรรม ส.อ.ท.กับ ส.อ.ท.ในต่างจังหวัด และขอขอบคุณรัฐบาลที่ได้วางตัวเป็นกลางเพื่อให้เอกชนได้แก้ไขปัญหากันเอง เป็นต้น
นายสุชาติ วิสุวรรณ รองประธานอาวุโส ส.อ.ท.กล่าวว่า ตนได้รับมอบหมายจากนายพยุงศักดิ์ให้เป็นประธานตรวจสอบโครงการฝึกอบรมของกระทรวงแรงงาน และต่อมาได้ตั้งกรรมการร่วมทำงานรวม 5 คน ต่อมาพอมีปัญหาขัดแย้งจึงปลดตนออกจากตำแหน่งดังกล่าว ซึ่งข้อเท็จจริงได้ทำเรื่องสรุปแล้ว ซึ่งหากนายพยุงศักดิ์มองว่าผิดจุดไหนขอให้บอกมา และการระบุว่ายังทำไม่เสร็จนั้นมีอะไรหรือไม่ ซึ่งยืนยันว่าการลงนามข้อตกลงดังกล่าวเป็นเรื่องส่วนบุคคลไม่ได้เกี่ยวกับ ส.อ.ท.แต่อย่างใด
“นายพยุงศักดิ์ และกรรมการตรวจสอบไม่ใช่ศาล ถ้าไม่จริงเขาก็ฟ้องได้ ผมขอเปิดใจพูดตรงๆ ว่าตรงนี้ทำไม่ได้ เพื่อความสบายใจก็จะทำ 3 ครั้งที่ทำผมสรุปแล้ว อย่ามาบอกว่าทำไม่เสร็จมีอะไรหรือเปล่า ท่านน่าจะชี้แจงสังคมเลย เขาทำในนามส่วนตัว เขามีข้อขัดแย้งในจังหวัดและไม่ได้ทำให้ ส.อ.ท.เสียหาย ถ้าคิดว่าทำให้เสียหายก็ฟ้องร้อง อย่าสาดโคลนเข้าหากัน ผมทำงานมาหลายสมัยมาก ปั้นคุณพยุงศักดิ์มา ถ้าเรื่องทุกอย่างจบผมจะบอกให้ว่าความจริงคืออะไร ยอมรับว่าไม่ได้เกี่ยวกับ 300 บาทต่อวันโดยตรง” นายสุชาติกล่าว