xs
xsm
sm
md
lg

ฮอนด้าค้างส่งอื้อ อานิสงส์รถคันแรก เบี้ยประกันพุ่งตามด้วย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน - ค่าย “ฮอนด้า”เตรียมปิดยอดขายปี 2555 ถึง 1.7 แสนคัน โตเกิน 100% พร้อมยอมรับยังมียอดค้างส่งมอบอีก 1 แสนคัน ลูกค้าต้องรอรถอย่างน้อย 6 เดือน เผยไตรมาส 4 ปีหน้าจะเพิ่มกำลังผลิตเป็น 1,200 คันต่อวันรองรับ ด้านคปภ.เผยตัวเลข10เดือนธุรกิจประกันโตกระฉูด กวาดไป 4.5 แสนล้านบาท โดยนโยบายรถคันแรกดันเบี้ยประกันวินาศภัยทะลุ 8 หมื่นล้านบาท

    นายพิทักษ์ พฤทธิสาริกร รองประธานอาวุโส บริษัท ฮอนด้า ออโตโมบิล (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า ตลาดรถยนต์ปีนี้คึกคักมาก ยอดขายรวมทุกยี่ห้อน่าจะทำได้ถึง 1.43-1.45 ล้านคัน อันเป็นผลมาจากโครงการรถยนต์คันแรกของรัฐบาล ซึ่งกรมสรรพสามิตคาดว่าจะมีจำนวนรวมที่ขอใช้สิทธิ์ก่อน 31 ธันวาคมนี้เกิน 1.2 ล้านคัน

    สำหรับฮอนด้ามียอดขายสะสมถึงเดือนพฤศจิกายน1.5 แสนคัน ซึ่งบริษัทเริ่มผลิตรถและขายอย่างจริงจังตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมาเท่านั้น หลังฟื้นฟูโรงงานจากน้ำท่วม ส่วนยอดขายรวมถึงสิ้นปีนี้จะทำได้ 1.7 แสนคัน โตเกิน 100% เมื่อเทียบกับปี 2554  พร้อมครองส่วนแบ่งตลาด 12-13%
 อย่างไรก็ตามบริษัทยังมียอดค้างส่งมอบรถให้ลูกค้าอีกกว่า 1 แสนคัน หรือประมาณ 6 เดือน โดยเก๋งรุ่นซิตี้ และซิตี้ ซีเอ็นจี มียอดค้างส่งมากที่สุด ทั้งนี้บริษัทได้เพิ่มกำลังการผลิตจาก 1,000 คันต่อวัน เป็น 1,100 คันต่อวัน หวังตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้เร็วที่สุด และปีหน้ามีแผนลงทุนเพิ่มศักยภาพการผลิตเป็น1,200 คันต่อวัน เพื่อรองรับตลาดในประเทศและส่งออก
 นายพิทักษ์ กล่าวถึงตลาดรถยนต์ในปีหน้า 2556 ว่า ความต้องการรถในกลุ่มโครงการรถยนต์คันแรกจะน้อยลง เพราะดึงดีมานล่วงหน้ามาใช้ก่อนหลายปี แต่กระนั้นฮอนด้ายังมีแผนรุกตลาดอย่างต่อเนื่อง พร้อมตั้งเป้ายอดขายรวมไว้ 2แสนคัน จากตลาดรวม 1.2 ล้านคัน

รถคันแรกหนุนประกันวินาศภัย
    นายประเวช  องอาจสิทธิกุล เลขาธิการคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) เปิดเผยว่า การขยายตัวอย่างต่อเนื่องของเศรษฐกิจไทย โดยเฉพาะด้านอุตสาหกรรมชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ และอุตสาหกรรมรถยนต์ ส่งผลให้ธุรกิจประกันภัยช่วง 10 เดือนที่ผ่านมามีเบี้ยประกันภัยรับโดยตรงสูงถึง  455,920 ล้านบาท ขยายตัวจากช่วงเดียวกันของปีก่อนร้อยละ 20.39
 สำหรับภาพรวมธุรุกิจประกันภัยในเดือนตุลาคมนับเป็นเดือนที่มีการเติบโตมากที่สุด โดยมีเบี้ยรปะกันภัยรับตรงทั้งสิ้น 49,716 ล้านบาท หรือเติบโตถึงร้อยละ 32.23 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
 โดย เบี้ยประกันภัย10เดือนที่ผ่านมา  455,920 ล้านบาท จะแบ่งเป็นเบี้ยประกันภัยจากธุรกิจประกันชีวิต จำนวน 308,594 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 17.28 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และจากธุรกิจประกันวินาศภัย จำนวนรวมทั้งสิ้น 147,326 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 27.46 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน
    ทั้งนี้ เป็นผลจากการแข่งขันการขายผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่พัฒนาให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน และสนองต่อความต้องการของประชาชน มีการพัฒนาการให้บริการหลังการขาย การพัฒนาช่องทางการขายให้ประชาชนสามารถเข้าถึงการประกันภัยได้อย่างทั่วถึง ประกอบกับมาตรการของภาครัฐที่ให้สิทธิผู้ซื้อประกันชีวิตสามารถนำไปหักลดหย่อนภาษีได้
    โดยเบี้ยประกันภัยรับสูงสุด คือ การประกันชีวิตประเภทสามัญ จำนวน 258,372 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 16.89 รองลงมาการประกันชีวิตประเภทกลุ่ม จำนวน 38,798 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 25.97 และการประกันภัยอุบัติเหตุส่วนบุคคล จำนวน 4,520 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 9.24
 ส่วนการประกันวินาศภัยจะมีการประกันภัยรถมีเบี้ยประกันภัยรับสูงสุด จำนวน 84,865 ล้านบาท ขยายตัวถึงร้อยละ 23.35 จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเป็นผลจากปริมาณการจำหน่ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคลที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่องถึงร้อยละ 263.7 ในเดือนตุลาคม ปี 2555 จากมาตรการคืนเงินภาษีรถยนต์คันแรก และการเพิ่มกำลังการผลิตเพื่อตอบสนองอุปสงค์ของรถยนต์ของภาคอุตสาหกรรมยานยนต์ รองลงมาการประกันภัยเบ็ดเตล็ด จำนวน 50,173 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 38.84 และการประกันอัคคีภัย จำนวน 8,001 ล้านบาท ขยายตัวร้อยละ 18.90
กำลังโหลดความคิดเห็น