ข่าวในประเทศ - “แม็กซ์ม่า”ประกาศรีแบรนด์ดิ้งครั้งใหญ่ในรอบ 14 ปี เกาะกระแสลดโลกร้อน แปลงโฉม MAXXMA WINDOW FILM เป็น MAXXMA ECO FILM หรือ ฟิล์มประหยัดพลังงาน ย้ำคอนเซ็ปต์ “สวย เย็น เป็น ธรรมชาติ” ชูจุดเด่นที่เป็นฟิล์มประหยัดพลังงานที่มีคุณภาพสูง หวังครองใจผู้บริโภค เผยยอดขายปีนี้มั่นใจโกย 50 ล้านบาท

ชัยรัตน์ ชูประภาวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วงศ์บราเดอร์ อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มประหยัดพลังงานจากประเทศเกาหลี ภายใต้แบรนด์ “MAXXMA” เปิดเผยว่า บริษัทได้รีแบรนด์ดิ้งครั้งแรกในรอบ 14 ปี เพื่อตอกย้ำว่า ฟิล์มประหยัดพลังงานแม็กซ์ม่า เป็นฟิล์มที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะฟิล์มประหยัดพลังงานแม็กซ์ม่าไม่ได้มีคุณสมบัติเพียงแค่ช่วยลดความร้อนเข้าสู่ภายในรถยนต์หรืออาคารเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการใช้พลังงานด้วย ซึ่งภายในรถยนต์หรืออาคารที่ติดฟิล์มประหยัดพลังงานแม็กซ์ม่าอุณหภูมิจะต่ำกว่าภายนอกรถยนต์หรืออาคาร
โดยบริษัทพยายามสื่อสารและสร้างการรับรู้ให้กลุ่มผู้บริโภครับรู้ว่า ฟิล์มประหยัดพลังงานแม็กซ์ม่าไม่ได้เป็นเพียงฟิล์มประหยัดพลังงานที่มีคุณภาพสูง เพราะใช้เทคโนโลยีที่ผลิตจากสหรัฐอเมริกา และจำหน่ายในราคาที่กลุ่มเป้าหมายตัดสินใจซื้อได้ง่ายเท่านั้น แต่ฟิล์มประหยัดพลังงานแม็กซ์ม่ายังให้ความสำคัญกับการลดโลกร้อนอีกด้วย
อย่างไรก็ตามเพื่อให้การรับรู้กับกลุ่มผู้บริโภคง่ายขึ้น บริษัทจึงปรับเปลี่ยนโลโก้ใหม่ เพื่อสื่อสารตรงกับผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น จากเดิม MAXXMA WINDOW FILM เป็น MAXXMA ECO FILM หรือจากคำว่าฟิล์มกรองแสง เป็น ฟิล์มประหยัดพลังงาน แต่ยังคงคอนเซ็ปต์ “สวย เย็น เป็นธรรมชาติ” ซึ่งโทนสีก็เลือกที่จะใช้สีเขียวเพิ่มขึ้น เพื่อสื่อถึงความเป็นธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งการปรับโลโก้ครั้งนี้จะช่วยตอกย้ำว่าฟิล์มประหยัดพลังงานแม็กซ์ม่าเป็น GREEN PRODUCT อย่างแท้จริง
สำหรับสภาพการแข่งขันฟิล์มกรองแสงนั้น มีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งจากดีเวลลอปเปอร์รายเดิม และดีเวลลอปเปอร์รายใหม่ ที่เข้ามาทำตลาดมากขึ้น ซึ่งทางบริษัทจะทำการตลาดทุกช่องทางเพื่อรักษาฐานลูกค้ากลุ่มเก่าและขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ มุ่งเน้นรักษาฐานลูกค้ากลุ่มเก่าโดยจะดูแลตัวแทนจำหน่ายด้วยการเน้นสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวแทนจำหน่าย คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ รวมถึงลูกค้า โดยการให้รางวัล ให้โบนัส เมื่อสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมาย ขณะเดียวกัน ก็มีการจัดโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าด้วย
โดยบริษัทจะมีการจัดกิจกรรมร่วมกับตัวแทนจำหน่ายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นยอดขายและสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า อีกทั้งจะให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขาย เพราะจะทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจในสินค้าและบริษัทมากยิ่งขึ้น และจะขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ โดยเพิ่มไลน์สินค้า เพื่อให้มีสินค้าครอบคลุม ทุกเซ็กเม้นท์ ทั้งในแง่ของความหลากหลายของสินค้า และราคาอย่างต่อเนื่องถึงปี 2556 ซึ่งสินค้าจะมีราคาตั้งแต่ระดับกลางขึ้นไปถึงระดับสูง
นอกจากนี้ในช่วงวันที่ 28พฤศจิกายน- 10 ธันวาคม 2555 บริษัทจะไปออกบูธที่งาน MOTOR EXPO ซึ่งจะนำฟิล์มป้องกันรอยมือจับประตู (MAXXMA CLEAR GUARD)ไปแนะนำต่อกลุ่มเป้าหมาย และจัดโปรโมชั่นพิเศษภายในงาน เพราะหลังจากที่ทดลองทำตลาด ปรากฏว่ามียอดขายจำนวนมากประมาณ 10,000 ชุด ซึ่งมากกว่าเป้าหมายตั้งไว้

“จากนโยบายคืนภาษีรถคันแรกทำให้ความต้องการรถยนต์สูงขึ้นต่อเนื่อง และคาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นจนสิ้นสุดการจองภายในสิ้นปีนี้ จะส่งผลให้ยอดขายฟิล์มประหยัดพลังงานและฟิล์มป้องกันรอยมือจับประตู (MAXXMA CLEAR GUARD) เพิ่มขึ้นด้วย เห็นได้จากในช่วงนี้ ยอดขายทั้งฟิล์มประหยัดพลังงานและฟิล์มป้องกันรอยมือจับประตูเริ่มดีขึ้น หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เกิดปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่”
ขณะเดียวกันยังมีร้านประดับยนต์ คาร์แคร์ติดต่อเข้ามาขอเป็นตัวแทนจำหน่ายเป็นจำนวนมาก ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าจะสรุปผลได้ประมาณไตรมาสแรกปี 2556 โดยแม็กซ์ม่ามีตัวแทนจำหน่ายกว่า 200 ราย กระจายอยู่ทั่วประเทศ ด้านผลประกอบการที่ผ่านมา บริษัทตั้งยอดขายปีนี้ไว้ที่ประมาณ 50 ล้านบาท และมั่นใจว่าหลังจากการรีแบรนด์ดิ้งครั้งนี้จะทำให้บริษัทเป็นผู้นำตลาดติดอันดับ 1 ใน 5 โดยชูจุดเด่นที่เป็นฟิล์มประหยัดพลังงานที่มีคุณภาพสูง และครองใจผู้บริโภคได้อย่างแน่นอน
ชัยรัตน์ ชูประภาวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วงศ์บราเดอร์ อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มประหยัดพลังงานจากประเทศเกาหลี ภายใต้แบรนด์ “MAXXMA” เปิดเผยว่า บริษัทได้รีแบรนด์ดิ้งครั้งแรกในรอบ 14 ปี เพื่อตอกย้ำว่า ฟิล์มประหยัดพลังงานแม็กซ์ม่า เป็นฟิล์มที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะฟิล์มประหยัดพลังงานแม็กซ์ม่าไม่ได้มีคุณสมบัติเพียงแค่ช่วยลดความร้อนเข้าสู่ภายในรถยนต์หรืออาคารเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการใช้พลังงานด้วย ซึ่งภายในรถยนต์หรืออาคารที่ติดฟิล์มประหยัดพลังงานแม็กซ์ม่าอุณหภูมิจะต่ำกว่าภายนอกรถยนต์หรืออาคาร
โดยบริษัทพยายามสื่อสารและสร้างการรับรู้ให้กลุ่มผู้บริโภครับรู้ว่า ฟิล์มประหยัดพลังงานแม็กซ์ม่าไม่ได้เป็นเพียงฟิล์มประหยัดพลังงานที่มีคุณภาพสูง เพราะใช้เทคโนโลยีที่ผลิตจากสหรัฐอเมริกา และจำหน่ายในราคาที่กลุ่มเป้าหมายตัดสินใจซื้อได้ง่ายเท่านั้น แต่ฟิล์มประหยัดพลังงานแม็กซ์ม่ายังให้ความสำคัญกับการลดโลกร้อนอีกด้วย
อย่างไรก็ตามเพื่อให้การรับรู้กับกลุ่มผู้บริโภคง่ายขึ้น บริษัทจึงปรับเปลี่ยนโลโก้ใหม่ เพื่อสื่อสารตรงกับผู้บริโภคได้ง่ายขึ้น จากเดิม MAXXMA WINDOW FILM เป็น MAXXMA ECO FILM หรือจากคำว่าฟิล์มกรองแสง เป็น ฟิล์มประหยัดพลังงาน แต่ยังคงคอนเซ็ปต์ “สวย เย็น เป็นธรรมชาติ” ซึ่งโทนสีก็เลือกที่จะใช้สีเขียวเพิ่มขึ้น เพื่อสื่อถึงความเป็นธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งการปรับโลโก้ครั้งนี้จะช่วยตอกย้ำว่าฟิล์มประหยัดพลังงานแม็กซ์ม่าเป็น GREEN PRODUCT อย่างแท้จริง
สำหรับสภาพการแข่งขันฟิล์มกรองแสงนั้น มีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งจากดีเวลลอปเปอร์รายเดิม และดีเวลลอปเปอร์รายใหม่ ที่เข้ามาทำตลาดมากขึ้น ซึ่งทางบริษัทจะทำการตลาดทุกช่องทางเพื่อรักษาฐานลูกค้ากลุ่มเก่าและขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ มุ่งเน้นรักษาฐานลูกค้ากลุ่มเก่าโดยจะดูแลตัวแทนจำหน่ายด้วยการเน้นสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวแทนจำหน่าย คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ รวมถึงลูกค้า โดยการให้รางวัล ให้โบนัส เมื่อสามารถสร้างยอดขายได้ตามเป้าหมาย ขณะเดียวกัน ก็มีการจัดโปรโมชั่นสำหรับลูกค้าด้วย
โดยบริษัทจะมีการจัดกิจกรรมร่วมกับตัวแทนจำหน่ายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นยอดขายและสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า อีกทั้งจะให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขาย เพราะจะทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจในสินค้าและบริษัทมากยิ่งขึ้น และจะขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ โดยเพิ่มไลน์สินค้า เพื่อให้มีสินค้าครอบคลุม ทุกเซ็กเม้นท์ ทั้งในแง่ของความหลากหลายของสินค้า และราคาอย่างต่อเนื่องถึงปี 2556 ซึ่งสินค้าจะมีราคาตั้งแต่ระดับกลางขึ้นไปถึงระดับสูง
นอกจากนี้ในช่วงวันที่ 28พฤศจิกายน- 10 ธันวาคม 2555 บริษัทจะไปออกบูธที่งาน MOTOR EXPO ซึ่งจะนำฟิล์มป้องกันรอยมือจับประตู (MAXXMA CLEAR GUARD)ไปแนะนำต่อกลุ่มเป้าหมาย และจัดโปรโมชั่นพิเศษภายในงาน เพราะหลังจากที่ทดลองทำตลาด ปรากฏว่ามียอดขายจำนวนมากประมาณ 10,000 ชุด ซึ่งมากกว่าเป้าหมายตั้งไว้
“จากนโยบายคืนภาษีรถคันแรกทำให้ความต้องการรถยนต์สูงขึ้นต่อเนื่อง และคาดว่าจะเพิ่มมากขึ้นจนสิ้นสุดการจองภายในสิ้นปีนี้ จะส่งผลให้ยอดขายฟิล์มประหยัดพลังงานและฟิล์มป้องกันรอยมือจับประตู (MAXXMA CLEAR GUARD) เพิ่มขึ้นด้วย เห็นได้จากในช่วงนี้ ยอดขายทั้งฟิล์มประหยัดพลังงานและฟิล์มป้องกันรอยมือจับประตูเริ่มดีขึ้น หากเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนที่เกิดปัญหาอุทกภัยครั้งใหญ่”
ขณะเดียวกันยังมีร้านประดับยนต์ คาร์แคร์ติดต่อเข้ามาขอเป็นตัวแทนจำหน่ายเป็นจำนวนมาก ขณะนี้อยู่ระหว่างการเจรจา คาดว่าจะสรุปผลได้ประมาณไตรมาสแรกปี 2556 โดยแม็กซ์ม่ามีตัวแทนจำหน่ายกว่า 200 ราย กระจายอยู่ทั่วประเทศ ด้านผลประกอบการที่ผ่านมา บริษัทตั้งยอดขายปีนี้ไว้ที่ประมาณ 50 ล้านบาท และมั่นใจว่าหลังจากการรีแบรนด์ดิ้งครั้งนี้จะทำให้บริษัทเป็นผู้นำตลาดติดอันดับ 1 ใน 5 โดยชูจุดเด่นที่เป็นฟิล์มประหยัดพลังงานที่มีคุณภาพสูง และครองใจผู้บริโภคได้อย่างแน่นอน