ความสามารถของทีมวิศกรก่อเกิดเป็นธุรกิจพร้อมแข่งขันกับรายใหญ่ อาศัยความได้เปรียบในแง่องค์ความรู้พัฒนาเครื่องจักรช่วยลดต้นทุนและศึกษาเทคโนโลยีใหม่ควบคู่กันไป ส่งผลให้ “กลุ่มบริษัทเอมกรุ๊ป” ขึ้นแท่นผู้นำด้านอุตสาหกรรมบรรจุภัณฑ์ทั้งผู้ผลิตและนำเข้าอันดับต้นของเมืองไทย
หากย้อนไปเมื่อ 20 ปีก่อน เส้นทางทำธุรกิจของ “นายดำรงพล วุฒิศิริ” กรรมการและกรรมการผู้จัดการเครือเอมกรุ๊ป ถือว่าค่อนข้างสดใส โดยเริ่มจากการซื้อมาขายไปกับหัวฉีดสเปรย์ หัวสีสเปรย์ สเปรย์ฉีดผม ที่นำเข้าจากประเทศสิงคโปร์ ธุรกิจเติบโตดีเนื่องจากในช่วงนั้นเป็นช่วงที่ลูกค้าหลายรายก็เริ่มต้นทำธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุปกรณ์เหล่านี้เช่นเดียวกัน
จนกระทั่งในปี 2543 ตัดสินใจก่อตั้ง บริษัท เอมแพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด ขึ้น ทำธุรกิจจำหน่ายหัวฉีดสเปรย์ หัวปั๊ม สำหรับผลิตภัณฑ์ที่บรรจุแก๊ส และไม่บรรจุแก๊ส รวมถึงบรรจุภัณฑ์ประเภทขวด PE PP และ PET รวมถึงถังสี แกลลอนน้ำมัน ต่อมาได้พัฒนาต่อยอดธุรกิจอย่างต่อเนื่องสู่สินค้าประเภทบรรจุภัณฑ์อย่างครบวงจร โดยปัจจุบันเครือเอมกรุ๊ปประกอบด้วย 3 บริษัท ได้แก่ บริษัท เอมแพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด นำเข้า จัดจำหน่าย และกระจายสินค้า ด้านบริษัท แอดวานซ์ อินโนเวชั่น เมนูแฟคเจอริ่ง (ประเทศไทย) จำกัด เน้นในส่วนการผลิต และกระบวนการบรรจุภัณฑ์ต่างๆ และบริษัท An Ich Minh Packing Trading and service co. Ltd. ประเทศเวียดนาม โดยเป็นผู้นำเข้า จัดจำหน่าย และกระจายสินค้าที่ประเทศเวียดนาม โดยในปัจจุบันมีพนักงานทั้งสิ้น 300 คน
นอกจากความโดดเด่นในเรื่องเทคโนโลยีเครื่องจักรที่สร้างความแตกต่างจากฝีมือทีมวิศวกรแล้ว ยังเป็นผู้ประกอบการที่นำเทคโนโลยี IML หรือ In-Mold Labelling ซึ่งเป็นการใช้นวัตกรรมในการผลิตฟิล์มฉลากเข้าเป็นเนื้อเดียวกันกับบรรจุภัณฑ์ ถือเป็นผู้นำในประเทศไทยที่ใช้เทคโนโลยีดังกล่าวช่วยพัฒนาคุณภาพบรรจุภัณฑ์ที่สวยงาม ลดต้นทุน ลดเวลาในการผลิต ง่ายต่อการรีไซเคิล และป้องกันการปลอมแปลงสินค้าได้ ในขณะที่ด้านศักยภาพการผลิตสามารถผลิตในจำนวนมากในระยะเวลาอันสั้นได้อีกด้วย
“เทคโนโลยี IML ถือเป็นเทคโนโลยีที่ผู้ผลิตสินค้าเริ่มรู้จัก ใช้ได้กับการผลิตบรรจุภัณฑ์ทั้งแบบเป่าและฉีด ส่งผลให้ผู้ประกอบการหลายรายสนใจปรับเปลี่ยนบรรจุภัณฑ์ใหม่ทั้งหมด เนื่องจากสามารถพิมพ์ฉลากสินค้าลงบนบรรจุภัณฑ์ได้ ช่วยลดขั้นตอนการติดฉลาก ราคาเท่ากับบรรจุภัณฑ์เดิม รวมถึงป้องกันการปลอมแปลงสินค้าตามจังหวัดแถบชายแดนได้ ซึ่งเทคโนโลยีดังกล่าวเป็นความร่วมมือกันระหว่างบริษัทผู้ผลิตฟิล์ม และบริษัท พาโก้ สาลี่ พริ้นท์ติ้ง จำกัด เป็นผู้พิมพ์ฉลากลงบนฟิล์มให้ โดยที่ผ่านมาเทคโนโลยี IML เป็นที่รู้จักดีในประเทศจีน ไต้หวัน ญี่ปุ่น และเกาหลี มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย”
ปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตอยู่ที่ 180 ตัน/เดือน หรือประมาณ 2,100 ตันต่อปี บนเนื้อที่ 5,000 ตารางเมตร ใน จ.ฉะเชิงเทรา และเพื่อเพิ่มศักยภาพการผลิตรับความต้องการที่เพิ่มสูงขึ้น จึงมีแผนขยายศักยภาพการผลิตแบบเต็มรูปแบบ เช่น การลงทุนกว่า 300 ล้านบาทนำเข้านวัตกรรมด้านการผลิต ทั้งเครื่องเป่า และเครื่องฉีดที่เป็นไฮบริด (Hybrid) เพื่อประหยัดพลังงาน และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม รวมถึงมีโครงการก่อสร้างโรงงานขนาดใหญ่ที่จะเพิ่มการให้ความสำคัญของระบบ GMP โดยมีมูลค่าโครงการประมาณ 450 ล้านบาทที่คาดว่าจะส่งผลให้มีกำลังการผลิตที่ 5,000 ตัน/ปี ยอดขาย 1,200 ล้านบาทที่จะเกิดขึ้นในปี 2556 ซึ่งมั่นใจว่าจะรองรับความต้องการของลูกค้าที่เพิ่มขึ้นหลังการเข้าสู่ประชาคมอาเซียน (AEC) ในปี 2558 จากขณะนี้ส่งสินค้าไปยังประเทศแถบอาเซียน เช่น เวียดนาม และอินโดนีเซีย
***สนใจติดต่อ บริษัท เอมแพ็ค (ประเทศไทย) จำกัด โทร. 0-2736-1001-2***
