xs
xsm
sm
md
lg

โออิชิ “ปั๊ม” ขวดคืนรุกร้านอาหาร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โออิชิลั่น 4 ปีกวาดรายได้ 1.8 หมื่นล้านบาท ชูศักยภาพเสริมสุขเท 150 ล้านบาทปั๊มขวดคืน สยายปีกช่องทางร้านอาหาร-ร้านค้าตู้แช่ อัดกลยุทธ์ราคา 12 บาทขนาด 400 มล. ทิ้งบอมบ์อิชิตัน เทงบการตลาด 200 ล้านบาท รุกคอนเซ็ปต์น้ำพระเอกสร้างการจดจำ ตั้งเป้าปีหน้าขวดคืนกวาดยอด 1,000 ล้านบาท สิ้นปีตอกย้ำบัลลังก์ผู้นำตลาดกวาดแชร์ 55% หรือ 6,700 ล้านบาท

นายแมทธิว กิจโอธาน กรรมการผู้จัดการ บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ผลิตชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ เปิดเผยว่า การทำตลาดชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิในอีก 4 ปีข้างหน้า บริษัทวางเป้าหมายมีรายได้ 1.8 หมื่นล้านบาท หรือมีการเติบโต 28% ต่อเนื่องทุกปี ทำให้ล่าสุดหลังจากที่บริษัทได้เข้าซื้อกิจการเสริมสุข ซึ่งเป็นบริษัทที่มีศักยภาพการเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่ง จึงเปิดตัวโออิชิ กรีนที ขวดแก้วในรูปแบบขวดคืนเพื่อขยายช่องทางร้านอาหารและร้านค้าตู้แช่ทั่วไปราว 2 แสนแห่งทั่วประเทศ เนื่องจากเล็งเห็นช่องว่างทางการตลาด โดยเฉพาะร้านอาหารมีสัดส่วนถึง 8,000 ล้านบาท จากมูลค่าตลาดน้ำอัดลม 3.5 หมื่นล้านบาท และเป็นขวดคืนสัดส่วนถึง 60%

“ในช่องทางร้านอาหารยังไม่มีเครื่องดื่มชาเขียวที่ตอบโจทย์ความต้องการได้ โดยผู้บริโภคมีทางเลือก คือ น้ำอัดลม และน้ำเปล่าเท่านั้น นอกจากนี้ยังพบว่าการใช้บรรจุภัณฑ์ในร้านอาหารเป็นขวดแก้วเกือบ 100% ขณะที่ช่องทางเทรดิชันนัลเทรดในตลาดเครื่องดื่มมีสัดส่วนถึง 70-80% และ 20-30% เป็นโมเดิร์นเทรด และอื่นๆ ดังนั้นจึงมั่นใจในศักยภาพของเสริมสุขที่จะเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิ เนื่องจากมีความแข็งแกร่งด้านกระจายสินค้าเทรดิชันนัลเทรด จากการมีหน่วยรถ 1,100 คัน และมีตู้แช่ 1.5 แสนตู้”

ด้านนายฐิติวุฒิ์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัท เสริมสุข จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ขณะนี้บริษัทได้เปลี่ยนบทบาทจากเดิมเป็นผู้จัดจำหน่ายให้ชาเขียวโออิชิ แต่จากนี้ไปบริษัทจะเป็นผู้ผลิตและจัดจำหน่าย โดยล่าสุดทุ่มงบ 150 ล้านบาทเพื่อผลิตบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วโออิชิ กรีนทีที่โรงงานของเสริมสุข นับว่าเป็นกลุ่มนอนแอลกอฮอล์ตัวแรกของไทยเบฟฯ ที่ให้บริษัทเสริมสุขเป็นผู้ผลิตให้หลังจากเข้าซื้อกิจการ ทั้งนี้ การดำเนินการตลาดเชิงรุกชาเขียวพร้อมดื่มเพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพ คาดว่าปีนี้มูลค่าเพิ่มจากกว่า 9,000ล้านบาท เป็น 1.2 หมื่นล้านบาท จากการที่ตลาดเติบโต 38% สูงสุดในรอบหลายปี ซึ่งปกติตลาดจะเติบโต 20%

สำหรับการตลาดชาเขียวบรรจุภัณฑ์ขวดแก้ว บริษัทใช้กลยุทธ์ราคาที่ถูกกว่าคู่แข่ง โดยขวดแก้ว 400 มล.ราคา 12 บาท เมื่อเทียบกับอิชิตัน ขวดพีอีที ขนาด 400 มล.ราคา 20 บาท เนื่องจากขวดคืนทำให้ลดต้นทุนการผลิตบรรจุภัณฑ์ลง แต่มีต้นทุนการขนส่งสินค้าเพิ่มขึ้น โดยได้ทุ่มงบ 200 ล้านบาทเปิดตัวรสน้ำผึ้งผสมมะนาวเพราะเป็นรสที่มียอดขายสูง ภายใต้คอนเซ็ปต์เป็นน้ำพระเอกเพื่อให้ผู้บริโภคจดจำและทดลองดื่ม ดึง 3 พระเอก ได้แก่ ณเดชน์ หมาก เคน มาเป็นพรีเซ็นเตอร์ และจากการตลาดขวดคืนตั้งเป้ามียอดขาย 1,000 ล้านบาท ภายในปี 2556 และอีก 4 ปีข้างหน้า มีสัดส่วนรายได้ 20% หรือ 3,600 ล้านบาท จากรายได้กลุ่มชาเขียวพร้อมดื่ม 1.8 หมื่นล้านบาท

นายแมทธิว กล่าวเพิ่มเติมว่า โรงงานที่นวนครขณะนี้กำลังการผลิตชาเขียวพร้อมดื่มยังสามารถรองรับความต้องการได้ถึง 5 ปี แต่เพื่อลดความเสี่ยงในเรื่องของน้ำท่วมจากในปีที่ผ่านมา ส่งผลให้กำลังการผลิตในไตรมาสแรกและสองของปีนี้ไม่สามารถผลิตป้อนตลาดมากนัก โดยกำลังผลิตเริ่มกลับมาเต็มที่ในช่วงไตรมาสสี่ ดังนั้นบริษัทจึงได้นำชาเขียวพร้อมดื่มไปผลิตที่โรงงานนิคมอุตสาหกรรมอมตะ นอกจากนี้ ในส่วนโรงงานนวนครได้สร้างกำแพงขึ้นเพื่อป้อนกันน้ำท่วม ซึ่งบริษัทมั่นใจว่าปีนี้น้ำท่วมจะไม่ท่วมโรงงานแน่นอน สำหรับผลประกอบการกลุ่มชาเขียวพร้อมดื่มปีนี้ตั้งเป้ามีรายได้ 6,700 ล้านบาท หรือเติบโต 20% จากในปีที่ผ่านมามีรายได้ 5,300 ล้านบาท สิ้นปีโออิชิตอกย้ำผู้นำตลาดด้วยการครองส่วนแบ่ง 55% จากมูลค่าตลาด 1.2 หมื่นล้านบาท

กำลังโหลดความคิดเห็น