โออิชิโต้อิชิตันรักษาบัลลังก์ อัดงบ 250 ล้านบาทสูงที่สุดรอบหลายปี แจกรางวัลทองคำ รถยนต์ ร่วม 100 ล้านบาท ดันยอดโต 60% หวังดันตลาดมูลค่าพุ่ง 1.3 หมื่นล้านบาท สิ้นปีกวาดแชร์เพิ่ม 55%
นอกจากตลาดน้ำอัดลมจะแข่งขันกันอย่างรุนแรงแล้ว ชาเขียวพร้อมดื่มก็เป็นอีกตลาดหนึ่งที่แข่งขันกันอย่างรุนแรงระหว่างโออิชิ ภายใต้บังเหียนของเสี่ยเจริญ สิริวัฒนภักดี กับอิชิตัน ของตัน ภาสกรนที โดยภายหลังจากอิชิตันปล่อยแคมเปญโปรโมชัน “ลุ้นรหัสรวยเปรี้ยง อิชิตัน 60 วัน 60 ล้าน” แจกทองคำมูลค่า 1 ล้านบาททุกวัน รวม 60 วัน 60 ล้านบาท รวมทั้งแจกไอโฟน 5 ความจุ 16GB อีก 100 เครื่อง ซึ่งแคมเปญเริ่มตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม-26 ธันวาคมนี้
เพียงชั่วเวลาที่อิชิตันจัดแคมเปญเพียง 1 เดือนเท่านั้น อิชิตันดึงยอดขายจากโออิชิไปได้พอสมควร ล่าสุดโออิชิออกมาป้องบัลลังก์ผู้นำตลาดชาเขียวพร้อมดื่มมูลค่า 13,000-13,500 ล้านบาท จากการครองส่วนแบ่งเดือน ม.ค.-ก.ย. หรือ 9 เดือน ราว 50% ซึ่งมีแชร์ลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา ขณะที่อิชิตันมีส่วนแบ่งเพิ่มขึ้นจากกว่า 10% เป็น 23%
นายอนิรุทธิ์ มหธร รองกรรมการผู้จัดการ สายงานธุรกิจเครื่องดื่ม บริษัท โออิชิ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทใช้งบ 250 ล้านบาทเปิดตัวแคมเปญ “รวยซ้ำรวยซ้อน” ลุ้นง่าย ทุกวัน “ได้ทั้งล้านได้ทั้งรถ” วันที่ 1 พ.ย. 55-15 ก.พ. 56 หรือนานกว่า 3 เดือน ซึ่งใช้งบมากที่สุด จากปกติใช้ราว 150 ล้านบาท ส่งผลให้งบการตลาดปีนี้ของบริษัทเพิ่มขึ้นเป็น 12% ของยอดขาย ซึ่งโดยเฉลี่ยบริษัทใช้ 10% ของยอดขายต่อปีเท่านั้น เป็นแคมเปญส่งท้ายปีที่ตลาดเติบโตรองจากช่วงไตรมาส 2
ปีนี้คาดว่าไตรมาส 4 จะผลักดันให้ตลาดเติบโต 40-50% เมื่อเทียบกับช่วงหน้าร้อนหรือไตรมาส 2 เติบโต 30-40% ขณะที่ในช่วงหน้าฝนหรือโลว์ซีซันของเครื่องดื่มตลาดโตเพียง 10-20% เท่านั้น ส่วนตลาดรวม 13,000- 13,500 ล้านบาท ปีนี้เติบโต 30% จากเมื่อปีที่ผ่านมามูลค่า 9,000 ล้านบาท
อย่างไรก็ตาม การทำแคมเปญโปรโมชันในครั้งนี้เพื่อตอบโต้คู่แข่งอย่างอิชิตันซึ่งทำโปรโมชันแจก 60 ล้านบาท โดยโออิชิมีการแจกรางวัลทองคำและรถยนตร์มาสด้า มูลค่ากว่า 100 ล้านบาท
แคมเปญใหม่นี้แม้ว่าจะช้ากว่าคู่แข่ง แต่เป็นเพราะบริษัทมีความพร้อมด้านกำลังผลิตทุกบรรจุภัณฑ์จากปีที่ผ่านมาน้ำท่วม คาดว่าการทำแคมเปญในครั้งนี้จะมีผู้บริโภคส่งฝา 25-30 ล้านฝา เพิ่มขึ้นจากแคมเปญโปรโมชันช่วงหน้าร้อนที่มีผู้ส่งฝา 15-20 ล้านฝา ตั้งเป้ายอดขายโต 60% ส่วนสิ้นปีนี้โออิชิมีส่วนแบ่งเพิ่มจาก 50% เป็น 55%
นายอนิรุทธิ์กล่าวว่า การทำโปรโมชันมีส่วนผลักดันให้ตลาดชาเขียวพร้อมดื่มเติบโต แต่กลยุทธ์การสร้างตลาดให้เติบโตหลักๆ มาจากการวางแพกเกจจิ้งที่หลากหลายครอบคลุมทุกช่องทางและไลฟ์สไตล์ของผู้บริโภค ได้แก่ ขวดแก้วเจาะในช่องทางร้านอาหาร ขนาด 1 ลิตรเจาะกลุ่มครอบครัวสำหรับดื่มที่บ้าน ฯลฯ โดยปัจจุบันสัดส่วนขวดเพ็ท 75% เติบโต 30% ยูเอชที 20% และกระป๋อง 5% ขณะที่การกระตุ้นให้เกิดการดื่มหรือซื้อซ้ำคงเป็นเรื่องของการทำโปรโมชัน
ขณะนี้บริษัทวางแผนเพิ่มกำลังผลิตชาเขียวพร้อมดื่ม ขวดแก้ว โรงงานเสริมสุข ที่นครสวรรค์ จากปัจจุบันได้ใช้โรงงานที่นิคมอุตสาหกรรมอมตะนครผลิตจำนวน 2.5-3 แสนลังต่อเดือน รองรับแผนขยายตลาดในช่องทางร้านอาหารและร้านค้าทั่วไป ซึ่งขณะนี้สามารถเข้าถึงได้เพียง 40% หรือราว 8 หมื่นร้านค้า ตั้งเป้าต้นปีหน้าจะครอบคลุม 2 แสนร้านค้า