xs
xsm
sm
md
lg

“ตัน” เมินปั๊มชาเขียวขวดคืน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ อิชิตัน กรุ๊ป(ภาพจากเฟซบุ๊คตัน www.facebook.com/tanmaitan )
ASTVผู้จัดการรายวัน – ตัน ลั่นไม่ปั๊มอิชิตันแบบขวดคืนแข่งโออิชิ ระบุพีอีที-กล่องยูเอชที มาแรงในตลาดชาเขียว สอดรับพฤติกรรมคนรุ่นใหม่ต้องการความสะดวก อ้างสร้างพฤติกรรมการดื่มชาเขียวกินกับอาหาร เจาะช่องทางร้านอาหารเกิดยาก ครึ่งปีหลังส่งรสชาติใหม่สร้างความคึกคัก สิ้นปีกวาดแชร์ 30-35% บี้โออิชิฝุ่นตลบ

นายตัน ภาสกรนที กรรมการผู้อำนวยการ อิชิตัน กรุ๊ป ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายชาเขียวพร้อมดื่มอิชิตัน เปิดเผยว่า บริษัทไม่มีแผนที่จะทำชาเขียวพร้อมดื่มอิชิตันบรรจุภัณฑ์ขวดแก้วหรือขวดคืน เพื่อเจาะช่องทางร้านอาหาร เนื่องจากมองว่าพฤติกรรมการดื่มชาเขียวกับอาหารของคนไทยยังมีไม่มากนัก ซึ่งการทำตลาดต้องใช้เวลาสร้างพฤติกรรมการดื่มเช่นเดียวกับน้ำอัดลม น้ำเปล่า หรือชาดำ และแนวโน้มขวดแก้วหรือขวดคืนในตลาดน้ำอัดลมผ่านทางช่องทางร้านอาหารเป็นบรรจุภัณฑ์ที่ลดลงมาอย่างต่อเนื่อง สวนกระแสกับขวดพีอีทีซึ่งมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งตลาดชาเขียวพร้อมดื่มบรรจุภัณฑ์พีอีทียังเป็นตลาดใหญ่ถึง 70-80% และบรรจุภัณฑ์กล่องยูเอชที 20-30% ขณะที่ขวดแก้วยังไม่มีในตลาด เนื่องจากไลฟ์สไตล์การดื่มของผู้กลุ่มเป้าหมายที่เป็นกลุ่มวัยรุ่นต้องการความสะดวกสบาย และประการสำคัญการทำขวดแก้วมีต้นทุนการผลิตสูง บริษัทไม่มีโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์ดังกล่าว ดังนั้นบริษัทมองว่า จะโฟกัสชาเขียวพร้อมดื่มบรรจุภัณฑ์พีอีทีและกล่องยูเอชที 250 มล. เป็นหลัก และในครึ่งปีหลังนี้บริษัทมีรสชาติใหม่ๆ ออกมาตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่มีความหลากหลายยิ่งขึ้น
“ผมมองว่าตลาดขวดคืนไม่น่าที่จะโต แม้กระทั่งน้ำอัดลมทุกวันนี้ตลาดยังไม่โตและขวดพีอีทีเข้ามาแทนที่ แต่เนื่องจากโออิชิมีโรงงานเสริมสุข ที่มีศักยภาพผลิตขวดแก้วและมีความเชี่ยวชาญการกระจายสินค้าตามร้านอาหารและช่องทางเทรดิชันนัลเทรดจึงเข้ามาทำตลาด เพื่อขยายช่องทางดังกล่าวเพิ่มมากขึ้น”
สำหรับปีนี้บริษัทวางงบการตลาด 300-400 ล้านบาท ตามแผนที่วางไว้ โดยสภาพตลาดชาเขียวพร้อมดื่มในช่วงครึ่งปีแรกมีอัตราการเติบโต 42-44% และคาดว่าตลาดทั้งปีนี้เติบโต 30-35% หรือมีมูลค่า 1.3หมื่นล้านบาท โดยจัดเป็นเครื่องดื่มที่มีการเติบโตสูง ปัจจัยที่ทำให้ตลาดเติบโตมาจากการจัดกิจกรรมการตลาดของผู้ประกอบการที่เข้ามาทำตลาดเพิ่มขึ้น โดยสิ้นปีนี้บริษัทตั้งเป้ามีส่วนแบ่ง 30-35% เพิ่มขึ้นจากส่วนแบ่งช่วงครึ่งปีแรกมีส่วนแบ่ง 26% ส่วนโออิชิ มีส่วนแบ่ง 42-44%
แหล่งข่าวจากวงการเครื่องดื่ม กล่าวถึงกรณีเสริมสุขผลิตชาเขียวพร้อมดื่มโออิชิขวดแก้วหรือขวดคืนว่า ในแง่พฤติกรรมการดื่มของลูกค้าทางช่องทางร้านอาหารสามารถขยายตลาดได้ไม่ยาก เนื่องจากที่ผ่านมาคนไทยมีพฤติกรรมการดื่มชาดำหรือลิปตันผ่านทางช่องทางร้านอาหารอยู่แล้ว เพราะเครื่องดื่มชาเขียวก็เป็นสินค้าดับกระหายสามารถทดแทนได้ ไม่ว่าจะเป็น น้ำอัดลม น้ำดื่ม ชาดำ จึงมองว่าเป็นอีกช่องทางหนึ่งที่มีศักยภาพขยายฐานลูกค้าและสร้างพฤติกรรมการดื่มรูปแบบใหม่ๆ แม้ว่าขณะนี้ขวดแก้วกำลังกลายเป็นตลาดที่หดตัวไปแล้วก็ตาม เพราะต้นทุนสูงและไม่สะดวกกับการดื่ม
กำลังโหลดความคิดเห็น