เผยเคล็บลับสร้างแบรนด์ให้ติดตลาด-ครองใจผู้บริโภค

“แม็กซ์ม่า”เผยเคล็ดลับก้าวสู่ท็อปไฟว์ ในตลาดฟิล์มกรองแสง เน้นสร้างทีมขายดูแลตัวแทนจำหน่ายเฉพาะกลุ่ม หวังสร้างสัมพันธ์ลูกค้าอย่างใกล้ชิด ประกาศรีแบรนด์ดิ้ง ชู ฟิล์มประหยัดพลังงานคุณภาพสูง ย้ำคอนเซ็ปต์ “สวย เย็น เป็น ธรรมชาติ”
การแข่งขันอันรุนแรงของธุรกิจฟิล์มรถยนต์และอาคารที่พักอาศัย ทำให้บริษัท วงศ์บราเดอร์ อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายฟิล์มประหยัดพลังงานสำหรับรถยนต์และอาคารที่พักอาศัยจากประเทศเกาหลี ภายใต้แบรนด์ “MAXXMA” ต้องปรับยุทธศาสตร์การบริหารงานใหม่ เพื่อให้สอดรับกับสภาพการแข่งขันที่ดุเดือด รวมทั้งรองรับการขยายตัวของตลาดรถยนต์ และธุรกิจบ้านจัดสรรที่มีแนวโน้มเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่ในปีก่อนอยู่ในช่วงชะลอตัว
นายชัยรัตน์ ชูประภาวรรณ กรรมการผู้จัดการ บริษัท วงศ์บราเดอร์ อินเตอร์เทรด จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้ปรับทีมการตลาดและการขายใหม่ทั้งหมด เพื่อรองรับกับธุรกิจที่จะต้องขยายตัวตามนโยบายของบริษัท โดยมีเป้าหมายเป็นผู้นำติดอันดับ 1 ใน 3 ของธุรกิจฟิล์มกรองแสง ภายใน 3 ปีข้างหน้า
โดยทีมการตลาดและการขาย จะแบ่งหน้าที่รับผิดชอบตามพื้นที่อย่างชัดเจน เช่น จะมีทีมขายดูแลตัวแทนจำหน่ายเฉพาะในเขตกรุงเทพฯ ส่วนในต่างจังหวัดก็จะแยกทีมให้แต่ละทีมดูแลตัวแทนเป็นโซนพื้นที่ ซึ่งบางทีมอาจจะดูแลพื้นที่ครอบคลุมทั้งภาค อาทิ ภาคใต้ เพราะมีตัวแทนจำหน่ายยังไม่มากนัก ฉะนั้น ทีมงานทีมเดียวสามารถดูแลตัวแทนจำหน่ายได้ครอบคลุม แต่อย่างไรก็ตาม ในอนาคตอาจจะต้องเพิ่มทีมขาย เพราะในปีหน้า บริษัทจะเร่งแต่งตั้งตัวแทนจำหน่ายเพิ่มขึ้น จากการขยายตัวของธุรกิจ
นายชัยรัตน์ กล่าวอีกว่า การให้ความสำคัญกับตัวแทนจำหน่าย ด้วยการมีทีมขายดูแลอย่างใกล้ชิด เพราะต้องการให้ทีมขายมีความสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับตัวแทนจำหน่าย อีกทั้งจะสามารถแก้ไขปัญหาให้ตัวแทนจำหน่ายและลูกค้าได้อย่างรวดเร็ว และตรงประเด็น และจะทำให้การดำเนินงานเป็นไปอย่างราบรื่น ซึ่งหลักการบริหารในลักษณะนี้จะช่วยให้บริษัทสามารถก้าวเข้าไปอยู่ในใจลูกค้าอย่างยั่งยืน
นอกจากการปรับทีมการตลาดและทีมขายแล้ว บริษัทจะเน้นทำการตลาดเชิงรุก มากกว่าเชิงรับ จากเดิมที่ทำตลาดแบบค่อยเป็นค่อยไป เพราะเห็นว่าหากไม่รีบปักธงในพื้นที่ที่มีโอกาสเติบโตทางธุรกิจจะโดนคู่แข่งเข้าไปทำตลาดเช่นเดียวกัน
กรรมการผู้จัดการ บริษัท วงศ์บราเดอร์ อินเตอร์เทรด กล่าวว่า ในช่วงนี้ต่อเนื่องปีหน้า บริษัทจะเร่งทำตลาดเชิงรุก เพื่อรักษาฐานลูกค้าเก่า และขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ โดยจะโฟกัสไปที่ผู้บริโภคที่ใส่ใจกับสภาพแวดล้อม เลือกซื้อและใช้สินค้าที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ขณะที่บริษัทต้องการเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยลดโลกร้อน
ดังนั้น บริษัทจึงรีแบรนด์ดิ้ง “MAXXMA” ครั้งใหญ่ซึ่งเป็นครั้งแรกในรอบ 14 ปี เพื่อตอกย้ำว่า ฟิล์มประหยัดพลังงานแม็กซ์ม่า เป็นฟิล์มที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เพราะฟิล์มประหยัดพลังงานแม็กซ์ม่าไม่ได้มีคุณสมบัติเพียงแค่ช่วยลดความร้อนเข้าสู่ภายในรถยนต์และอาคารที่พักอาศัยเท่านั้น แต่ยังช่วยลดการใช้พลังงานด้วย ซึ่งภายในอาคารหรือรถยนต์ที่ติดฟิล์มประหยัดพลังงานแม็กซ์ม่าอุณหภูมิจะต่ำกว่าภายนอกอาคารหรือรถยนต์ เฉลี่ยที่ 2-3 องศา
ปกติฟิล์มประหยัดพลังงานแม็กซ์ม่าก็ช่วยลดโลกร้อนอยู่แล้ว แต่ที่ผ่านมาบริษัทไม่ได้สื่อสารกับผู้บริโภคในเรื่องนี้ เพราะกระแสความสนใจเรื่องการลดโลกร้อนยังไม่แพร่หลาย อีกทั้งการเลือกซื้อฟิล์มกรองแสงของผู้บริโภค ส่วนใหญ่จะเลือกซื้อเพราะแบรนด์ คุณภาพ และราคาเป็นหลัก บริษัทจึงให้ความสำคัญกับการพัฒนาคุณภาพสินค้า และจำหน่ายในราคาที่สมเหตุสมผลมากกว่าการสื่อสารเรื่องแบรนด์
“บริษัทคิดว่าถึงเวลาแล้วที่จะสื่อสารและสร้างการรับรู้ให้กลุ่มผู้บริโภครับรู้ว่า ฟิล์มประหยัดพลังงานแม็กซ์ม่าไม่ได้เป็นเพียงฟิล์มประหยัดพลังงานที่มีคุณภาพสูง เพราะใช้เทคโนโลยีที่ผลิตจากสหรัฐอเมริกา และจำหน่ายในราคาที่กลุ่มเป้าหมายตัดสินใจซื้อได้ง่ายเท่านั้น แต่ฟิล์มประหยัดพลังงานแม็กซ์ม่ายังให้ความสำคัญกับการลดโลกร้อนอีกด้วย”นายชัยรัตน์กล่าว
ทั้งนี้ เพื่อให้การรับรู้ถึงกลุ่มผู้บริโภคง่ายขึ้น บริษัทจึงปรับเปลี่ยนโลโก้ใหม่ เพื่อสื่อสารตรงกับผู้บริโภค จากเดิม MAXXMA WINDOW FILM เป็น MAXXMA ECO FILM หรือจากคำว่าฟิล์มกรองแสง เป็น ฟิล์มประหยัดพลังงาน แต่ยังคงคอนเซ็ปต์ “สวย เย็น เป็นธรรมชาติ” ซึ่งโทนสีก็เลือกที่จะใช้สีเขียวเพิ่มขึ้น เพื่อสื่อถึงความเป็นธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม ซึ่งการปรับโลโก้ครั้งนี้จะช่วยตอกย้ำว่าฟิล์มประหยัดพลังงานแม็กซ์ม่าเป็น GREEN PRODUCT อย่างแท้จริง
สำหรับสภาพการแข่งขันฟิล์มกรองแสงนั้น มีความรุนแรงมากขึ้น ทั้งจากผู้ประกอบการรายเดิม และผู้ประกอบการรายใหม่ ซึ่งบริษัทจะทำการตลาดทุกช่องทางเพื่อรักษาฐานลูกค้ากลุ่มเก่า ด้วยการจะดูแลตัวแทนจำหน่ายด้วยการเน้นสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับตัวแทนจำหน่าย คู่ค้า พันธมิตรทางธุรกิจ รวมถึงลูกค้า โดยการให้รางวัล ให้โบนัส
โดยจะจัดกิจกรรมร่วมกับตัวแทนจำหน่ายอย่างสม่ำเสมอ เพื่อกระตุ้นยอดขายและสร้างความเชื่อมั่นให้กับลูกค้า อีกทั้งจะให้ความสำคัญกับการบริการหลังการขาย เพราะจะทำให้ลูกค้ามีความมั่นใจในสินค้าและบริษัทมากยิ่งขึ้น
ส่วนการขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ บริษัทจะเพิ่มไลน์สินค้า เพื่อให้มีสินค้าครอบคลุม ทุกเซ็กเมนท์ ทั้งในแง่ของความหลากหลายของสินค้า และราคาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งสินค้าจะมีราคาตั้งแต่ระดับกลางขึ้นไปถึงระดับสูง
ด้านนายอนุชา อภิรมย์เดช ผู้จัดการฝ่ายขายและการตลาด กล่าวว่า ในเดือนธันวาคมที่ผ่านมา บริษัทได้ร่วมออกงานมอเตอร์ เอ็กซ์โป เพื่อแนะนำฟิล์มประหยัดพลังงานแม็กซ์ม่าให้เป็นที่รู้จักสินค้าต่อกลุ่มเป้าหมาย และสร้างความมั่นใจในแบรนด์ต่อผู้เข้าร่วมชมงานด้วย และในเดือนเมษายน 2556 จะไปออกบูธที่งานสถาปนิกสยาม ที่เมืองทองธานี ซึ่งเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ได้ไปร่วมแนะนำสินค้าในงานบิวท์ เทค ที่ไบเทค ปรากฏว่าได้รับความสนใจจากผู้ร่วมเข้าชมงานเป็นอย่างดี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง สถาปนิก มัณฑนากร และวิศวกร ที่ต้องการนำฟิล์มประหยัดพลังงานแม็กซ์ม่าไปติดในอาคาร ปัจจุบันแม็กซ์ม่ามีตัวแทนจำหน่ายกว่า 200 ราย กระจายอยู่ทั่วประเทศ