xs
xsm
sm
md
lg

ซีอีโอ “พรีเมียร์ โพรดักส์” ชี้เทรนด์ธุรกิจสิ่งแวดล้อม/พลังงานทดแทนโตโดดเด่น

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

เนื่องจากเทรนด์การเติบโตของธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสิ่งแวดล้อมและพลังงานทดแทนเป็นธุรกิจแห่งอนาคตที่อยู่ ในความสนใจของทั้งผู้ประกอบการและผู้บริโภคที่ให้ความสำคัญกับการดูแลโลกและสิ่งแวดล้อมมากขึ้น
“บริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจทั้ง 4 กลุ่ม ให้เติบโตไปพร้อมๆ กันอย่างต่อเนื่อง ทั้งกลุ่มธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม ด้านระบบบำบัดน้ำเสีย และระบบสำรองน้ำ และ กลุ่มธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างและอุตสาหกรรม ซึ่งดำเนินธุรกิจภายใต้ บมจ. พรีเมียร์ โพรดักส์ ส่วนอีก 2 กลุ่มธุรกิจดำเนินการโดยบริษัทย่อย 2 แห่ง ได้แก่ ธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีคุณสมบัติในการประหยัดพลังงาน และธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์” สุรเดช บุณยวัฒน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. พรีเมียร์ โพรดักส์ (PPP) ผู้ประกอบธุรกิจ ผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อม กล่าว
สุรเดช บุณยวัฒน
2 กลุ่มธุรกิจหลัก คือธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เพื่อสิ่งแวดล้อมด้านระบบบำบัดน้ำเสียและระบบสำรองน้ำ และกลุ่มธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างและอุตสาหกรรมมีทิศทางการเติบโตที่โดดเด่นและชัดเจน โดยในกลุ่มธุรกิจระบบบำบัดน้ำเสียและระบบสำรองน้ำ เชื่อว่าจะเติบโตไปในทิศทางเดียวกับการเติบโตของอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากผลิตภัณฑ์ ที่บริษัทฯ จัดจำหน่ายได้รับการยอมรับจากลูกค้าเจ้าของโครงการ และกลุ่มสถาปนิกในวงกว้าง ทำให้ธุรกิจเติบโตอย่างรวดเร็วไปพร้อม ๆ กับโครงการก่อสร้างดังกล่าว
ปัจจุบัน ธุรกิจบำบัดน้ำเสียของบริษัทฯ ถือเป็นผู้นำในตลาดระบบบำบัดน้ำเสียแบบสำเร็จรูปที่ใช้ในอาคาร เช่นเดียวกับธุรกิจผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างและอุตสาหกรรม ซึ่งถือเป็นผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากซีเมนต์เสริมใยแก้ว และผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์กลาสเสริมแรง ส่วนธุรกิจในกลุ่มพลังงานทั้งธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ และธุรกิจจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีคุณสมบัติในการประหยัดพลังงานกำลังเติบโตในทิศทางที่ดี คาดว่าจะเห็นการขยายตัวชัดเจนตั้งแต่ปี 2556 เป็นต้นไป
“ระบบบำบัดน้ำเสียของเราเป็นระบบสำเร็จรูปที่ใช้ในอาคารทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ซึ่งปัจจุบัน ได้รับความนิยมให้ติดตั้งทั้งในโครงการอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่อาศัย และโครงการขนาดใหญ่เพิ่มขึ้น จึงทำให้ทิศทางการเติบโตที่ผ่านมาอยู่ในอัตราที่สูงกว่าการเติบโตของอุตสาหกรรมก่อสร้างประเภทที่อยู่อาศัย หรือ อสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากปัจจุบันโครงการก่อสร้างขนาดใหญ่จะหันมาใช้ระบบบำบัดน้ำเสียแบบสำเร็จรูปมากกว่าระบบคอนกรีตซึ่งเป็นระบบแบบเดิมเนื่องจากในอนาคตจะเป็นไปได้ถึงการนำน้ำเสียที่บำบัดกลับมาใช้ใหม่ได้ จึงสนับสนุนให้มีโอกาสการเติบโตทางธุรกิจเพิ่มสูงขึ้น”สุรเดช กล่าว
พรีเมียร์ โพรดักส์ ถือเป็นผู้นำในตลาดระบบบำบัดน้ำเสียแบบสำเร็จรูปที่ใช้ในอาคาร เนื่องจากเข้าสู่ตลาดนี้ก่อนจึงทำให้ได้รับการยอมรับอย่างกว้างขวางจากกลุ่มผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ ส่วนอีกปัจจัยที่ บริษัทฯ มีทีมงานวิศวกรเอง รวมทั้งมีการทำวิจัยและพัฒนาสินค้า (R&D) อย่างต่อเนื่อง จึงสร้างความมั่นใจให้กับเจ้าของโครงการและวิศวกรผู้ออกแบบและผู้เกี่ยวข้อง รวมผลิตภัณฑ์มีคุณภาพ และการบริการหลังการขายที่ดี
สำหรับโครงการที่ใช้ระบบบำบัดน้ำเสียของบริษัทฯ ที่ผ่านมา อาทิ ศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ธนาคาร กรุงไทยสำนักงานใหญ่ มหาวิทยาลัยอัสสัมชัญ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร สนามกีฬาบางกอกฟุตซอล อารีน่า รวมทั้ง สถานีรถไฟฟ้าแอร์พอร์ต เรลลิงค์ มักกะสัน แลอาคารที่อยู่อาศัยขนาดใหญ่มากมาย ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงการยอมรับจากกลุ่มลูกค้าในตลาดในวงกว้าง
ส่วนธุรกิจผลิตและจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัสดุก่อสร้างและอุตสาหกรรม ปัจจุบันพรีเมียร์ โพรดักส์ ถือเป็นผู้นำในตลาดผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากซีเมนต์เสริมใยแก้ว และผลิตภัณฑ์ไฟเบอร์กลาสเสริมแรง ส่งผล ให้การเติบโตมีทิศทางชัดเจนเช่นเดียวกัน เนื่องจากเป็นธุรกิจที่มีผู้ประกอบการน้อยราย ประกอบกับ บริษัทฯ มีจุดแข็งเหนือคู่แข่งที่มีเทคโนโลยีเป็นที่ยอมรับ มีความยืดหยุ่นสูง สามารถปรับให้เข้ากับความต้องการของลูกค้าแต่ละรายได้เป็นอย่างดี และประการสำคัญคุณภาพของสินค้าและบริการหลังการขายของบริษัทฯ เป็นที่ยอมรับจากเจ้าของโครงการและกลุ่มสถาปนิกในวงกว้าง อีกทั้งยังมีกำลังการผลิตที่สามารถรองรับโครงการที่มีขนาดใหญ่ได้อย่างคล่องตัวอีกด้วย
สำหรับโครงการที่ใช้ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตจากซีเมนต์เสริมใยแก้ว (Glass Reinforced Cement: GRC) เช่น แผ่นผนัง GRC ผนังกั้นเสียง ปูนปั้นลายประดับ ของบริษัทฯ ที่ผ่านมา ได้แก่ การทำผนังกันเสียงให้กับโครงการรถไฟฟ้าสายสีม่วง สายสีแดง สะพานพระราม 8 สะพานพระราม 4 ถนนรามคำแหง และอื่นๆ ในขณะที่ผลิตภัณฑ์หลังคาและผนังเหล็กขึ้นรูป เช่น หลังคาเหล็กตามอาคารก่อสร้างต่าง ๆ ผลงานที่ผ่านมาของบริษัทฯ คือ หลังคาศูนย์ประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ คลังเก็บสินค้าของ บมจ. ท่าอากาศไทย ศูนย์นิทรรศการและการประชุมไบเทค เป็นต้น
นอกจากนี้ ธุรกิจของบริษัทย่อย 2 แห่ง ได้แก่ ธุรกิจด้านไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งดำเนินการโดยบริษัท อินฟินิท กรีน จำกัด (IGC) โดยจัดอยู่ในประเภทผู้ผลิตไฟฟ้าเอกชนรายเล็กมาก (Very Small Power Producer หรือ “VSPP”) มีสัญญาซื้อขายไฟฟ้ากับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัท อินฟินิท กรีน จำกัด มีทั้งหมด 3 แห่ง อยู่ในจังหวัดสระบุรี โดยโครงการแห่งที่ 1 ก่อสร้างแล้วเสร็จและเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) ตั้งแต่ 27 ธันวาคม 2553 มีกำลังการผลิต 5.86 เมกะวัตต์ ส่วนโครงการที่ 2 และ 3 อยู่ระหว่างการก่อสร้างโรงไฟฟ้า มีกำลังการผลิต 5.75 และ 5.74 เมกะวัตต์ ตามลำดับ คาดว่าจะเริ่มดำเนินการเชิงพาณิชย์ได้ ภายในเดือนมกราคม 2556 ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ สามารถรับรู้รายได้และผลกำไรจากธุรกิจดังกล่าวได้อย่างเต็มที่ในปี 2556
ในขณะที่ธุรกิจจัดจำหน่ายเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทประหยัดพลังงานดำเนินการโดยบริษัท พรีเมียร์ โฮม แอพพลายแอนซ์ จำกัด (PHA) จะสามารถเติบโตได้อย่างโดดเด่นต่อเนื่องเช่นกัน จากการเติบโตของผลิตภัณฑ์หลักเดิมและการนำผลิตภัณฑ์ประเภทประหยัดพลังงานเสริมทัพเพิ่มเติม โดยใช้ประโยชน์จากช่องทางการจัดจำหน่ายที่แข็งแกร่งของ PHA ผ่านร้านค้ากว่า 500 แห่งทั่วประเทศ
กำลังโหลดความคิดเห็น