ศูนย์ข่าวเชียงใหม่ - รมว.เกษตรฯ เปิดการประชุมนานาชาติเครื่องจักรกลการเกษตรในการผลิตข้าวที่เชียงใหม่ เผยเป็นครั้งแรกที่นำเสนอเรื่องเครื่องจักร พร้อมดึงประเทศในอาเซียนแลกเปลี่ยนความรู้การพัฒนาข้าว ชี้ใช้เทคโนโลยีช่วยลดต้นทุนการผลิตได้ พร้อมแนะตลาดข้าวไทยต้องมุ่งเชิงคุณภาพมากกว่าปริมาณ เหตุข้าวไทยคุณภาพสูงกว่าคู่แข่ง
วันนี้ (26 พ.ย.) ที่ศูนย์การประชุมนานาชาติ ดิเอ็มเพรส จ.เชียงใหม่ นายยุคล ลิ้มแหลมทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ เป็นประธานในพิธีเปิดงานประชุมวิชาการนานาชาติ เครื่องจักรกลเกษตรในการผลิตข้าว (International Conference on Agricultural Machinery in Rice Production 2012) โดยมีผู้แทนจากหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องข้าวทั้งไทย และต่างประเทศเข้าร่วม
การประชุมดังกล่าวซึ่งมีมหาวิทยาลัยนเรศวรร่วมกับกรมการข้าวจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 26-28 พ.ย. 55 นั้น มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสให้หน่วยงานและองค์กรต่างๆ ทั้งจากภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้องกับเรื่องข้าวได้มีโอกาสในการแสวงหาความร่วมมือ และแลกเปลี่ยนความรู้เกี่ยวกับข้าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องของเครื่องจักรกลการเกษตรและเทคโนโลยีสมัยใหม่ ซึ่งจะมีส่วนช่วยยกระดับกระบวนการผลิตข้าวทั้งในส่วนของไทยและประเทศอื่นๆ ให้มีคุณภาพและเหมาะสมสำหรับการบริโภคมากยิ่งขึ้น
นายยุคลกล่าวถึงการประชุมในครั้งนี้ว่า ถือเป็นการประชุมในเรื่องของเครื่องจักรกลที่ใช้ในการผลิตข้าวเป็นครั้งแรก หลังจากที่ผ่านมาการจัดงานในลักษณะเดียวกันนี้จะมุ่งเน้นไปที่องค์ความรู้จากการวิจัยมานำแสดงและนำเสนอมากกว่า แต่ในเรื่องของเครื่องจักรที่เกี่ยวข้องกับการผลิตข้าวนั้นครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีการประชุม โดยได้เชิญประเทศต่างๆ ในกลุ่มอาเซียนมาแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ต่างๆ ที่แต่ละประเทศได้พัฒนาเพื่อใช้ในการผลิตข้าว
สำหรับในส่วนของประเทศไทยนั้น นายยุคลเปิดเผยว่า เทคโนโลยีที่ได้นำเสนอในการประชุมครั้งนี้ ได้แก่ เครื่องหว่านข้าวที่ผลิตโดยกรมการข้าว และเครื่องหว่านข้าวที่ทางมหาวิทยาลัยนเรศวรได้ศึกษาวิจัยขึ้น โดยเครื่องดังกล่าวมีเป้าหมายเพื่อลดปริมาณเมล็ดพันธุ์ข้าวที่ต้องใช้ในการเพาะปลูกและลดต้นทางการผลิตของเกษตรกร ซึ่งผลจากการใช้เครื่องหว่านข้าวนั้นพบว่าสามารถลดปริมาณการใช้พันธุ์ข้าวจาก 25-30 กิโลกรัมต่อไร่ เหลือเพียง 5 กิโลกรัมต่อไร่เท่านั้น
นายยุคลกล่าวต่อไปว่า แนวทางการพัฒนาข้าวในอนาคตจะต้องให้ความสำคัญในเรื่องของการพัฒนาคุณภาพข้าว เนื่องจากข้าวของไทยที่จำหน่ายอยู่ในตลาดโลก ไม่ว่าจะเป็นข้าวขาว ข้าวเหนียว หรือข้าวหอมมะลินั้น มีคุณภาพสูงกว่าข้าวจากแหล่งผลิตอื่นๆ ที่มีจำหน่ายอยู่ในท้องตลาด
ดังนั้น การจำหน่ายจึงต้องให้ความสำคัญต่อตลาดเฉพาะที่ต้องการข้าวคุณภาพดีมากกว่าจะเน้นการจำหน่ายในปริมาณมากๆ โดยในปี 2556 รัฐบาลได้กำหนดให้สำนักงานพัฒนาการวิจัยการเกษตร (องค์การมหาชน) หรือ สกว.เป็นเจ้าภาพหลักในการดูแลงานวิจัยที่เกี่ยวกับข้าวทั้งหมด โดย สกว.จะทำการจัดระบบและวางยุทธศาสตร์เกี่ยวกับการวิจัยด้านข้าว เพื่อให้ได้ผลการศึกษาวิจัยที่เหมาะสมและสามารถต่อยอดพัฒนาผลผลิตข้าวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ยังได้กล่าวถึงการเตรียมการจัดสรรการใช้น้ำในช่วงฤดูแล้งซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อการปลูกข้าวของเกษตรกรว่า เรื่องดังกล่าวเป็นสิ่งที่กระทรวงฯ มีการประกาศทุกปีในฤดูแล้งเพื่อให้การใช้น้ำเกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยในปีนี้มีพื้นที่ประมาณ 16 ล้านไร่ทั่วประเทศที่จะต้องมีการควบคุมเรื่องการใช้น้ำ อย่างไรก็ตามเชื่อว่าผลกระทบที่เกิดขึ้นจะมีไม่มากนัก
ส่วนกรณีของการรับจำนำข้าวที่ฝ่ายค้านได้หยิบยกขึ้นมาเป็นประเด็นหนึ่งในการอภิปรายไม่ไว้วางใจรัฐบาลนั้น นายยุคลให้ความเห็นว่า นโยบายดังกล่าวเป็นนโยบายของรัฐบาลที่มุ่งจะให้ความช่วยเหลือและทำให้ชาวนาได้รับประโยชน์อย่างทั่วถึง ซึ่งการบริหารจัดการข้าวที่ได้จากการรับจำนำนั้นเป็นหน้าที่ของรัฐที่จะต้องพิจารณาหาแนวทางที่เหมาะสมในการจัดการ รวมไปถึงการแสวงหาตลาดเพื่อจำหน่ายข้าวดังกล่าว
ทั้งนี้ เมื่อผู้สื่อข่าวสอบถามถึงปริมาณข้าวที่รัฐบาลรับจำนำอยู่ในปัจจุบัน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ระบุว่า กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ไม่มีตัวเลขดังกล่าว หากผู้สื่อข่าวต้องการทราบจะต้องสอบถามจากกระทรวงพาณิชย์ซึ่งเป็นผู้ดำเนินการในเรื่องดังกล่าว