โรงพิมพ์ตะวันออก ดีเดย์จ่ายไฟในโครงการโรงไฟฟ้าแสงอาทิตย์แห่งแรกให้แก่ กฟภ. วันที่ 15
ตุลาคมนี้ เริ่มรับรายรู้ทันทีไตรมาส 4/55 กว่า 42 ล้านบาท ก่อนรับรู้เต็มที่ 170 ล้านบาทต่อปี ตั้งแต่ปี 56 เป็นต้นไป เดินหน้าเจรจาสร้างโรงไฟฟ้าเพิ่มอีก คาดได้ข้อสรุปภายในปีนี้ “ยุทธ” มั่นใจรายได้ปีนี้โตตามเป้า 20%จากปีก่อนที่มีรายได้ 634 ล้านบาท
นายยุทธ ชินสุภัคกุล ประธานกรรมการบริหาร บริษัท โรงพิมพ์ตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ EPCO เปิดเผยถึงความคืบหน้าโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์แห่งแรก ขนาดกำลังการผลิตรวม 10 เมกะวัตต์ ซึ่งตั้งอยู่ที่อำเภอบ่อพลอย จังหวัดกาญจนบุรี ว่า จะสามารถเริ่มต้นจำหน่ายกระแสไฟฟ้าเข้าระบบ (Commercial Operation Date: COD) ได้ในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ หลังจากที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ได้ดำเนินการทดสอบระบบการเชื่อมต่อกระแสไฟฟ้าไปเรียบร้อยแล้วตั้งแต่วันที่ 20-21 กันยายน 2555 ที่ผ่านมา
โดยบริษัทจะรับรู้รายได้ในไตรมาส 4/55 นี้ และจะรับรู้รายได้เต็มปีในปี 2556 ประมาณ 170 ล้านบาทต่อปี (ตามประมาณการของที่ปรึกษาทางการเงินอิสระ) โดยโครงการดังกล่าวมีสัญญาเป็นระยะเวลา 25 ปี และมีรายได้ตลอดอายุสัญญาไม่ต่ำกว่า 2,800 ล้านบาท
นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างเจรจาสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มเติมอีก ซึ่งปัจจุบัน ยังไม่มีข้อสรุป แต่คาดว่าจะสามารถสรุปได้ภายในปี 2555 ทั้งนี้ เพื่อในอนาคตจะผลักดันให้รายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้ากลายมาเป็นรายได้หลัก เพราะมีความแน่นอนมากกว่ารายได้ที่มาจากธุรกิจสิ่งพิมพ์ ซึ่งปัจจุบัน เป็นรายได้หลักของบริษัท
“ไตรมาส 4/2555 หากสามารถจำหน่ายไฟฟ้าได้ตามแผนงานที่วางเอาไว้ น่าจะทำให้สามารถรับรู้รายได้ประมาณ 42 ล้านบาท จากการขายไฟของโรงไฟฟ้าที่บ่อพลอยให้ กฟภ. โดยจะเริ่มจ่ายไฟในวันที่ 15 ตุลาคมนี้ และจะไปรับรู้เต็มปีประมาณ 170 ล้านบาทในปีหน้า และตอนนี้ก็ยังมีการคุยอยู่อีก 2 แห่ง คาดว่าจะสรุปได้ภายในปีนี้ ซึ่งเรามีเป้าหมายที่จะผลักดันรายได้จากธุรกิจไฟฟ้าขึ้นมาเป็นรายได้หลัก จะเห็นภาพชัดเจนตั้งแต่ปีหน้าเป็นต้นไป โดยการที่บริษัทขายไฟฟ้าให้ กฟภ. มีสัญญาระยะยาวถึง 25 ปี และโดยได้อัตราส่วนเพิ่มราคารับซื้อไฟฟ้า (Adder) จากกองทุนพัฒนาไฟฟ้า สำนักงานคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (สกพ.) จำนวน 8 บาทต่อหน่วย เป็นระยะเวลา 10 ปี” นายยุทธกล่าว
ประธานกรรมการบริหาร EPCO กล่าวอีกว่า ในส่วนของรายได้ปีนี้ตั้งเป้าเติบโต 20% จากปี 2554 ที่มีรายได้ 634.91 ล้านบาท โดยเป็นการเติบโตของรายได้จากธุรกิจโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ และธุรกิจสิ่งพิมพ์ แต่หากคิดเป็นสัดส่วนรายได้ทั้งปี รายได้หลักจะยังมาจากธุรกิจสิ่งพิมพ์ 60% ส่วนอีก 40% เป็นรายได้จากธุรกิจพลังงานทดแทน ซึ่งจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นมาอย่างต่อเนื่อง ขณะที่กำไรสุทธิน่าจะอยู่ในระดับทรงตัว หรือเติบโตขึ้นเล็กน้อยจากปี 2554 ที่มีกำไรสุทธิ 81.42 ล้านบาท