บางจากปิโตรเลียม แจ้งผลงานไตรมาส 2 ปีนี้ขาดทุน 385 ล้านบาท เหตุขาดทุนสต๊อกน้ำมัน และการปิดโรงกลั่นประจำปี อีกทั้งราคาน้ำมันปรับลดลง ส่งผลให้รายได้รวมลดลงกว่า 2,500 ล้านบาท และกำไรขั้นต้นลดจาก 3,939 ล้านบาท ในไตรมาส 2 ปีก่อน เหลือ 1,045 ล้านบาท ในไตรมาส 2 ปีนี้
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP แจ้งผลงานไตรมาส 2 ปีนี้ว่า บริษัทขาดทุนสุทธิ 385 ล้านบาท ขณะที่งวดนี้ปี 54 มีกำไรสุทธิ 3,021 ล้านบาท เนื่องจากส่วนต่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปและน้ำมันดิบของผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทฯ อ่อนตัวลง และมีการใช้กำลังการผลิตลดลง ส่งผลให้ค่าการกลั่นรวมในไตรมาสนี้ขาดทุน 2.78 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล รวมทั้งมีการขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน อันเป็นผลมาจากการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันดิบ และผลิตภัณฑ์น้ำมันอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กำไรขั้นต้นลดลงเหลือเพียง 1,045 ล้านบาท ในไตรมาส 2 ปีนี้ จากเดิมที่ทำไว้ 3,939 ล้านบาท ในไตรมาส 2 ปี 54
โดยบริษัทมีการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ย 70.79 พันบาร์เรลต่อวัน ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 98.16 พันบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากมีการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่น ประจำปี ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. ถึง 23 มิ.ย.2555 ธุรกิจการตลาดมีปริมาณการจำหน่ายผ่านช่องทางการตลาดที่สูงขึ้น และมีค่าการตลาด (รวมน้ำมันเครื่อง) 0.62 บาทต่อลิตรธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 8 เมกะวัตต์ สามารถดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2555 นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากค่าสินไหมทดแทนจากประกันความเสียหายจากอุทกภัยเมื่อปลายปี 2554 จำนวน 74 ล้านบาท
สำหรับไตรมาส 2 ปี 2555 รายได้จากการขาย และการให้บริการตามงบการเงินรวมของบริษัทฯ และบริษัทย่อยมี 40,362 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้จากการขายของบริษัทฯ 39,620 ล้านบาท รายได้ของบางจากกรีนเนท 6,601 ล้านบาท รายได้ของ บางจากไบโอฟูเอล 1,292 ล้านบาท และรายได้ของบางจาก โซลาร์เอ็นเนอร์ยี 0.83 ล้านบาท ในรายได้ดังกล่าว เป็นรายการระหว่างกัน 7,152 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายการขายน้ำมันสำเร็จรูปจากบริษัทฯ ให้แก่บริษัทบางจากกรีนเนท จำกัด และรายการขาย B-100 ของ บางจากไบโอฟูเอล ให้บริษัทฯ แต่โดยรวมลดลงจากไตรมาส 2 ปี 54 ที่ทำได้ 42,906 ล้านบาท
ขณะที่มีค่าใช้จ่ายหลักคือต้นทุนขาย และให้บริการตามงบการเงินรวมมีจำนวน 39,316 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากงวดนี้ปี 54 ที่มีต้นทุนขาย 38,967 ล้านบาท ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้นจากปีก่อน
นายอนุสรณ์ แสงนิ่มนวล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท บางจากปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ BCP แจ้งผลงานไตรมาส 2 ปีนี้ว่า บริษัทขาดทุนสุทธิ 385 ล้านบาท ขณะที่งวดนี้ปี 54 มีกำไรสุทธิ 3,021 ล้านบาท เนื่องจากส่วนต่างราคาน้ำมันสำเร็จรูปและน้ำมันดิบของผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทฯ อ่อนตัวลง และมีการใช้กำลังการผลิตลดลง ส่งผลให้ค่าการกลั่นรวมในไตรมาสนี้ขาดทุน 2.78 เหรียญสหรัฐต่อบาร์เรล รวมทั้งมีการขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน อันเป็นผลมาจากการปรับตัวลดลงของราคาน้ำมันดิบ และผลิตภัณฑ์น้ำมันอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้กำไรขั้นต้นลดลงเหลือเพียง 1,045 ล้านบาท ในไตรมาส 2 ปีนี้ จากเดิมที่ทำไว้ 3,939 ล้านบาท ในไตรมาส 2 ปี 54
โดยบริษัทมีการใช้กำลังการผลิตเฉลี่ย 70.79 พันบาร์เรลต่อวัน ลดลงจากไตรมาสเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 98.16 พันบาร์เรลต่อวัน เนื่องจากมีการหยุดซ่อมบำรุงโรงกลั่น ประจำปี ตั้งแต่วันที่ 25 พ.ค. ถึง 23 มิ.ย.2555 ธุรกิจการตลาดมีปริมาณการจำหน่ายผ่านช่องทางการตลาดที่สูงขึ้น และมีค่าการตลาด (รวมน้ำมันเครื่อง) 0.62 บาทต่อลิตรธุรกิจผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 8 เมกะวัตต์ สามารถดำเนินการผลิตเชิงพาณิชย์ (COD) เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2555 นอกจากนี้ ยังมีรายได้จากค่าสินไหมทดแทนจากประกันความเสียหายจากอุทกภัยเมื่อปลายปี 2554 จำนวน 74 ล้านบาท
สำหรับไตรมาส 2 ปี 2555 รายได้จากการขาย และการให้บริการตามงบการเงินรวมของบริษัทฯ และบริษัทย่อยมี 40,362 ล้านบาท ประกอบด้วย รายได้จากการขายของบริษัทฯ 39,620 ล้านบาท รายได้ของบางจากกรีนเนท 6,601 ล้านบาท รายได้ของ บางจากไบโอฟูเอล 1,292 ล้านบาท และรายได้ของบางจาก โซลาร์เอ็นเนอร์ยี 0.83 ล้านบาท ในรายได้ดังกล่าว เป็นรายการระหว่างกัน 7,152 ล้านบาท ซึ่งส่วนใหญ่เป็นรายการขายน้ำมันสำเร็จรูปจากบริษัทฯ ให้แก่บริษัทบางจากกรีนเนท จำกัด และรายการขาย B-100 ของ บางจากไบโอฟูเอล ให้บริษัทฯ แต่โดยรวมลดลงจากไตรมาส 2 ปี 54 ที่ทำได้ 42,906 ล้านบาท
ขณะที่มีค่าใช้จ่ายหลักคือต้นทุนขาย และให้บริการตามงบการเงินรวมมีจำนวน 39,316 ล้านบาท ซึ่งเพิ่มขึ้นจากงวดนี้ปี 54 ที่มีต้นทุนขาย 38,967 ล้านบาท ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายรวมเพิ่มขึ้นจากปีก่อน
