“กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง” ฉลุย ผู้ถือหุ้นพร้อมใจอนุมัติรับโชคสองชั้น ปันผลเป็นหุ้น กำหนดอัตราส่วน 10 หุ้นเดิมต่อ 1 หุ้นปันผล และรับเงินสดปันผลอีกหุ้นละ 0.10 บาท กำหนดจ่ายวันที่ 9 พฤษภาคมนี้ “โศภชา” ประเมินปี 55 ธุรกิจของกลุ่มบริษัทยังสดใส พร้อมตั้งเป้ารายได้โตทะลุ 4,000 ล้านบาท
นางสาวโศภชา ดำรงปิยวุฒิ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL เปิดเผยถึงผลการประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 55 ว่าที่ประชุมผู้ถือหุ้นมีมติเห็นชอบอนุมัติให้จ่ายเงินปันผลประจำปี 54 สำหรับผลการดำเนินงานในส่วนที่เสียภาษีเงินได้นิติบุคคลในอัตรา 30% โดยจ่ายจากกำไรสุทธิหลังหักเงินสำรองตามกฎหมายแล้วในรูปเงินสดอัตราหุ้นละ 0.10 บาท หรือ 40 ล้านบาท และในรูปหุ้นปันผลในอัตรา 10 หุ้น ต่อ 1 หุ้นปันผล รวม 40 ล้านหุ้น เป็นเงิน 40 ล้านบาท
ทั้งนี้ ได้กำหนดรายชื่อผู้ถือหุ้นที่มีสิทธิรับเงินปันผลในวันที่ 20 เม.ย. 55 และให้รวบรวมรายชื่อตาม ม.225 ของ พ.ร.บ.หลักทรัพย์ฯ โดยวิธีปิดสมุดทะเบียนในวันที่ 23 เมษายน 55 วันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) คือวันที่ 18 เม.ย.55 และกำหนดจ่ายเงินปันผลในวันที่ 9 พ.ค.55 และจากปริมาณงานที่เพิ่มเข้ามาอย่างต่อเนื่องทั้งในประเทศ และต่างประเทศ จึงคาดว่าปี 55 น่าจะเป็นปีที่ผลการดำเนินงานของบริษัทจะเติบโตอย่างโดดเด่นอีกครั้ง โดยตั้งเป้ารายได้ไว้ที่ 4,300 ล้านบาท เติบโตประมาณ 60% จากปีก่อนที่มีรายได้ 2,668 ล้านบาท
เนื่องจากทยอยรับรู้รายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 26 เมกะวัตต์ จากบริษัท จี-พาวเวอร์ ซอร์ซ จำกัด (GPS) ซึ่งเป็นบริษัทย่อย ถือหุ้นโดย บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO ในสัดส่วน 60% และ GUNKUL ในสัดส่วน 40% โดยจะสร้างรายได้ให้แก่บริษัทประมาณ 470 ล้านบาทต่อปี ขณะเดียวกัน จะรับรู้กำไรจากการขายหุ้นใน GPS ให้ EGCO ประมาณ 140 ล้านบาทปีนี้
นอกจากนี้ ในส่วนของโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ของบริษัท กันกุล พาวเวอร์เจน จำกัด (บริษัทย่อย) มีกำลังการผลิต 30.9 เมกะวัตต์ รวมถึงงานรับเหมาก่อสร้างโรงผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ขนาด 8 เมกะวัตต์ ให้แก่ บริษัท ซี.เค.แอนด์ ซัน เอ็นเนอร์ยี่ (ประเทศไทย) จำกัด และโครงการก่อสร้างโรงผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ให้แก่ บริษัท โซลาร์ต้า จำกัด ซึ่งมีกำลังการผลิตไฟฟ้าขนาด 8 เมกะวัตต์ จะรับรู้รายได้เข้ามาเต็มปีในปี 55 นี้เช่นกัน ขณะที่การส่งออกไปยังประเทศพม่า ปัจจุบัน มีคำสั่งซื้อเข้ามาแล้วประมาณ 410 ล้านบาท โดยปีนี้บริษัทตั้งเป้าส่งออกไปที่ประเทศพม่าไว้ที่ 1,250 ล้านบาท
“บริษัทยังมีแผนในการลงทุนด้านพลังงานทดแทนทั้งใน และต่างประเทศ เพื่อต่อยอดธุรกิจในอนาคตให้เติบโตอย่างแข็งแกร่ง และผลักดันงานในมือ (Backlog) ให้เพิ่มมากขึ้น จากปัจจุบันอยู่ที่ 2,426 ล้านบาท ซึ่งยังไม่รวมโครงการที่ยื่นประมูลแล้ว และเตรียมยื่นอีกกว่า 3 พันล้านบาทในปีนี้ ดังนั้น ปีนี้น่าจะเป็นอีกหนึ่งปีที่ดีของบริษัท” นางสาวโศภชากล่าว
