xs
xsm
sm
md
lg

ญาติร้องกองปราบทำคดีแทน-ปูด!อดีตตร.นอกรีต-คนร้ายดักฟันหัว"ราเมศ"

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ASTVผู้จัดการรายวัน - ปชป.ปูด! อดีต 2 ตร.มือฟันหัว “ราเมศ” เชื่อไม่มีปัญหาส่วนตัวกับใคร สงสัย ผบ.ชน.เป็นคู่กรณี หลังเจ้าตัวถูกประกบจากการร้องเรียน ไล่บี้ ผบ.ตร.เร่งหาตัวคนร้าย พร้อมกัน “คำรณวิทย์” ออกจากการสอบสวน ด้านญาติราเมศ เตรียมร้องกองปราบสุดสัปดาห์นี้ให้ดำเนินคดีแทนนครบาล ขณะที่ตำรวจเร่งหาพยานหลักฐานติดตามคนร้ายมาดำเนินคดี

วานนี้(20 ธ.ค.55) เมื่อเวลา 11.00 น ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล (บช.น.) พล.ต.ต.อิทธิพล พิริยะภิญโญ รองผบช.น. เปิดเผยถึงคนร้ายวัยรุ่น 2 คนดักฟันหัว นายราเมศ รัตนะเชวง ที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายพรรคประชาธิปัตย์ บาดเจ็บสาหัส และพักอยู่ที่โรงพยาบาลบำรุงราษฎร์ ว่า ตนพร้อม พล.ต.ต.กฤษฏิ์ เปียแก้ว ผบก.น.5 ได้เดินทางไปเพื่อสอบถามนายราเมศ แต่ทางมารดาและพี่ชายยังไม่ยอมให้เข้าพบ และได้ขอเบอร์โทรศัพท์ตนไว้เพื่อติดต่อกลับ

ทั้งนี้ได้บอกไปว่าให้รีบติดต่อกลับเพื่ออยากทราบว่าตั้งแต่เช้าเดินทางไปที่ไหน ทำอะไรบ้างก่อนเกิดเหตุขึ้น อีกทั้งกล้องวงจรปิดก็มีระยะเวลาในการบันทึกภาพ ซึ่งปกติจะประมาณ 7 วัน และตั้งแต่เกิดเหตุก็ผ่านมานานหลายวันแล้ว เกรงว่าภาพวงจรปิดจะถูกลบไปเสียก่อนถามว่าทราบว่านายราเมศ เป็นทีมงานทนายความที่ไปยื่นถอดถอน พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม ออกจากตำแหน่ง เนื่องจากเห็นว่ามีพฤติการณ์ที่ส่อกระทำทุจริตต่อหน้าที่ กรณีมีคำสั่งโดยมิชอบถอดยศร้อยตรี ของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ต่อสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) จะนำมาเป็นประเด็นหรือไม่ พล.ต.ต.อิทธิพลกล่าวว่า เรื่องนี้เพิ่งทราบจากสื่อมวลชน

อย่างไรก็ตาม จะทำการตรวจสอบทั้งหมดในส่วนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงกรณีที่นายราเมศ เคยออกไปพูดออกอากาศในเรื่องทางการเมืองที่อาจทำให้บางกลุ่ม บางคนไม่พอใจด้วย ส่วนการเอาเรื่องมาปะติดปะต่อเพื่อดูในส่วนของประเด็นต่างๆก็ต้องสอบปากคำทีมงานและคนใกล้ชิดของนายราเมศให้เสร็จสิ้นเสียก่อน

“เรื่องที่เกิดขึ้นนั้น เชื่อว่าคนร้ายต้องการทำร้ายร่างกายเพื่อข่มขู่ โดยตีและลงไปซ้อม แต่คงไม่ถึงขนาดต้องการให้เสียชีวิต ซึ่งหากคนร้ายจะก่อเหตุขนาดนั้นก็น่าจะทำได้ ขณะนี้มุ่งประเด็นไปที่ความโกรธแค้นเป็นหลัก ส่วนในเรื่องทางการเมืองนั้นก็ยังไม่ชัดเจน แต่ปกติในเวทีการเมืองก็มีการโต้เถียงรุนแรงอยู่แล้ว แต่ก็ไม่พบว่าจะก่อความรุนแรงขนาดนี้ อย่างไรก็ตาม ผู้บังคับบัญชาได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนพยายามติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะถือเป็นคดีที่สะเทือนขวัญและประชาชนให้ความสนใจ”พล.ต.ต.อิทธิพลกล่าว

เวลา 12.00 น. พ.ต.อ.กัญชล อินทราราม ผกก.สน.บางนา เปิดเผยความคืบหน้าคดีที่ทำการสอบปากคำพยานแวดล้อม 5-6 ปาก ทราบว่าชัดเจนในเรื่องของคนร้ายสวมหมวกทั้ง 2 คน ในส่วนของรถคันที่ก่อเหตุยี่ห้อยามาฮ่า แบบผู้ชาย สีฟ้า-ขาว หลังจากก่อเหตุได้หลบหนีไปซอยที่จะออกถนนบางนา-ตราด โดยเมื่อวานนี้ (19 ธ.ค.) ทางเจ้าหน้าที่ตร.กว่า 20 นาย ได้ทำการปูพรหมลงพื้นที่ตรวจสอบหาวัตถุที่คนร้ายใช้ในการก่อเหตุในละแวกใกล้ที่เกิดเหตุภายในรัศมี 1 กม. เบื้องต้นยังไม่พบแต่อย่างใด อย่างไรก็ตามหากมีผู้พบเห็นวัตถุดังกล่าวอย่าไปหยิบหรือจับ ให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทันที

รายงานข่าวแจ้งว่า ทางผู้บังคับบัญชาได้ทำการแบ่งงานสำหรับคลี่คลายคดี โดยทางบก.สส.บช.น.และกก.สส.บก.น.5 ดูแลในส่วนของการตรวจสอบกล้องวงจรปิดในที่เกิดเหตุและละแวกใกล้เคียง ส่วนฝ่ายสืบสวนสน.บางนาดูแลในส่วนของการลงพื้นที่หาข่าวละแวกดังกล่าว โดยขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ได้ทราบว่าเวลาคนร้ายก่อเหตุที่แน่นอนแล้ว คือ20.50 น.จากนั้นได้หลบหนีไปทางถนนบางนาตราด

ด้าน พ.ต.อ.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ ผกก.3 บก.สส.บช.น. เปิดเผยว่า ได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดของร้านเซเว่นอีเลฟเว่นที่ใกล้เคียงจุดเกิดเหตุแล้ว แต่ภาพนั้นเห็นในระยะไกลและไม่ชัดเจนและยังไม่ทราบแน่ชัดว่าเป็นคนร้ายหรือไม่ ขณะนี้ได้ประสานช่างเทคนิคเร่งทำการตรวจสอบ และได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ชุดทำงานลงพื้นที่ตรวจสอบภาพจากกล้องวงจรปิดในรัศมีใกล้เคียงที่เกิดเหตุอีกว่าจะมีกล้องตัวใดสามารถเห็นภาพบุคคลต้องสงสัย อย่างไรก็ตามทางเจ้าหน้าที่กำลังเร่งหาภาพจากกล้องวงจรปิดในละแวกที่เกิดเหตุเพิ่มเติมเพื่อนำตัวคนร้ายมาดำเนินคดีต่อไป

อีกด้านนายแทนคุณ จิตต์อิสระ โฆษกประจำตัวหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะผู้ได้รับมอบหมายให้รับผิดชอบคดีนายราเมศ กล่าวว่า นายราเมศ ได้ย้ายออกจากห้องไอซียูแล้ว อาการเลือดซึมในสมองลดลง และเลือดคั่งที่ตาก็น้อยลง การตอบสนองพูดคุยทำได้มากขึ้น แต่ยังมีอาการปวดหัวหากต้องมีการใช้ความคิด

ทั้งนี้นายราเมศ สามารถหายใจได้ด้วยตัวเอง และเริ่มขยับร่างกายได้แล้ว อย่างไรก็ตามในส่วนของคดีนั้น ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ได้มีการประชุมกระจายชุดสายตรวจเพิ่มเติม ล่าสุดก็ได้หลักฐานเป็นภาพจากกล้องวงจรปิดและพยานที่เห็นเหตุการณ์ดังกล่าว โดยระบุว่าเห็นชาย 2 คน ขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อยามาฮ่า เข้ามาในที่เกิดเหตุอีกด้วย

ขณะที่น.ส.รัชดา ธนาดิเรก ส.ส.กทม.พรรคประชาธิปัตย์ โพตส์ในเฟซบุ๊คส่วนตัวว่า “ไปเยี่ยมคุณราเมศ....ทนายพรรคปชป.ที่ถูกสิ่งมีชีวิตใจมารทำร้ายเมื่อวันก่อนอย่างสาหัส วันนี้อาการดีขึ้นมาก ทักทายได้ ยกมือไหว้พอไหว แม้เจ็บหนักจิตใจและมารยาทดีเหมือนเคย...สู้สู้”

นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านฯ กล่าวว่า มีการสอบบุคคลที่เกี่ยวข้อง และคนใกล้ชิดก็เป็นห่วงว่าจะได้รับความเป็นธรรมมากน้อยแค่ไหน และมีข้อมูลที่พรรคได้มาอีกด้านหนึ่งด้วยจึงต้องจับตาดูการทำหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ว่าจะเป็นอย่างไร ซึ่งขณะนี้ก็ให้เจ้าหน้าที่ทำงานไปก่อน โดยในขณะนี้นายราเมศคงยังไม่สามารถให้ปากคำกับตำรวจได้ เพราะว่าเมื่อวานนี้ตนไปเยี่ยมก็พยายามจะพูดแต่ส่งเสียงได้เพียงเล็กน้อยและจำเป็นต้องพักผ่อนมีเวลาในการพักฟื้นด้วย ตนเห็นว่าตำรวจต้องเอาตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้

นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า คนที่ลงมือคือตำรวจนอกราชการที่ถูกไล่ออกจากราชการสองนาย ปัจจุบันทำงานคุมพื้นที่บางนา และเคยรับราชการอยู่พื้นที่จ.นนทบุรี ซึ่งนายราเมศไม่มีความบาดหมางส่วนตัวหรือมีพฤติกรรมที่จะมีเรื่องมีราวกับใคร เป็นคนตั้งใจทำงาน ไม่ใช่คนอารมณ์ร้อน ที่จะทำให้ใครโกรธแค้นได้ จึงเชื่อเป็นเรื่องการเมืองโดยนายราเมศถูกประกบตัวครั้งแรกกรณีให้ตรวจสอบ ผบ.ชน.เกณฑ์ตำรวจบุกประชาธิปัตย์ จนต้องระวังตัวเสมอ กระทั่งพลาดจอดรถไกลจากที่พักกระทั่งถูกทำร้ายในที่สุด

“ขอเรียกร้องไปยัง ผบ.ตร. ว่า คดีนี้การทำร้ายนักการเมืองตำรวจต้องเอาจริงเอาจังในการตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดี โดยติดตามเส้นทางการหลบหนีของคนร้ายได้ไม่ยากจากกล้องวงจรปิด จึงขอให้ ผบ.ตร.ให้ความเป็นธรรมกับนักการเมืองที่ทำหน้าที่ตรวจสอบ เพราะมีความกังวลว่า นายราเมศเป็นคู่กรณีกับ ผบ.ชน.ซึ่งเป็นหัวหน้าพนักงานสอบสวนสูงสุด จึงไม่อยากให้เกิดข้อครหาว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงพยานหลักฐาน เบี่ยงเบนประเด็น จึงควรหาแนวทางให้มีการดำเนินการอย่างตรงไปตรงให้คนที่สอบสวนไม่ใช่เป็นคนที่เป็นคู่กรณีเพื่อให้ได้รับความเป็นธรรม แต่ถ้าให้นครบาลสืบสวนก็ไม่แน่ใจว่าจะหาตัวผู้กระทำผิดได้หรือไม่ ทั้งนี้ครอบครัวของนายราเมศ อยากให้หน่วยงานอื่นของ สตช.เข้ามาดูแล โดยสุดสัปดาห์นี้จะร้องทุกข์ต่อกองปราบเพื่อให้ดูแลคดีนี้ และยังจับตาดูว่าความคืบหน้าที่ ผบ.ตร.ระบุเกี่ยวกับคดีนี้จะเป็นอย่างไร”

ที่ทำเนียบรัฐบาล ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้รับรายงานว่ามีพยานเห็นคนที่ซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์ลงไปทำร้ายแล้วรีบมานั่งซ้อนท้ายรถตามเดิม ซึ่งปกติคนที่ขับรถก็จะรีบขับรถหนีไป แต่ครั้งนี้กลับกลายเป็นว่าเมื่อคนซ้อนท้ายลงไปทำร้ายโดยใช้ของแข็งฟากจนสลบไปแล้วขึ้นมานั่งรถต่อ แล้วคนขับรถลงไปกระทืบซ้ำอีก ซึ่งเรื่องที่เกิดขึ้นนี้ทำตนงงเหมือนกัน และยังไม่รู้ว่าเหตุเกิดจากอะไร มันเป็นไปได้ทั้งนั้น ทั้งการเมือง ส่วนตัว หรือการค้าก็ได้ทั้งนั้น และขอปฏิเสธว่าตนไม่เคยพูดว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องการเมือง อย่างไรก็ตามขณะนี้ผู้เสียหายยังให้การไม่ได้

เมื่อถามถึงกรณีที่มีการพาดพิงถึง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ เนื่องจากครั้งหนึ่งนายราเมศเคยเดินทางไปร้องเรียนกับ ผบ.ตร.ให้ตรวจสอบหลังจากให้พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ประดับยศให้ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า เรื่องนั้นเป็นเรื่องเล็ก และนายราเมศก็ไม่ใช่คนตัดสิน นายราเมศไปร้องได้คนอื่นก็ร้องได้ เมื่อถามว่า ได้มีการสอบถาม พล.ต.ท.คำรณวิทย์เป็นการส่วนตัวในเรื่องนี้หรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า “ถาม แจ๊ดเขาคนนักเลง เขาตำรวจบู๊ลิ้ม ไม่คิดเล็กคิดน้อย”

อีกด้านนางอังคณา นีละไพจิตร กรรมการพิจารณาค่าตอบแทนผู้เสียหาย กรมคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพ กระทรวงยุติธรรม กล่าวว่า ผู้เสียหายหรือญาติจะต้องยื่นเรื่องเข้าให้กรรมการฯพิจารณา ซึ่งกรณีของนายราเมศ ถือว่าเข้าข่ายน่าจะได้รับความช่วยเหลือในด้านการรักษาพยาบาลเป็นเงินประมาณ 50,000 บาท และได้รับเงินเยียวยาอีกวันละ 172 บาท เพราะมีหลักฐานชัดเจนว่าถูกทำร้ายได้รับบาดเจ็บสาหัส จากความขัดแย้งทางการเมือง อีกทั้งยังเป็นบุคคลสาธารณะ ซึ่งในฐานะกรรมการฯอยากนำให้ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิฯเดินทางไปเยี่ยมอาการผู้ป่วย เช่นเดียวกับที่เคยให้ความสำคัญกับคดีของกลุ่มคนเสื้อแดง เพราะกรมคุ้มครองสิทธิฯเป็นหน่วยงานของรัฐที่จะต้องให้ความช่วยเหลือกับประชาชนทุกฝ่ายโดยไม่แบ่งสี

ขณะที่ พ.ต.อ.ณรัชต์ เศวตนันท์ อธิบดีกรมคุ้มครองสิทธิ กล่าวว่า มอบหมายให้เจ้าหน้าที่เข้าไปแจ้งสิทธิฯให้ผู้ป่วยจากคดีอาญาได้รับทราบว่าจะให้ความช่วยเหลืออย่างไรได้บ้าง แต่เบื้องต้นคาดว่าจะให้ความช่วยเหลือด้านค่ารักษาพยาบาล อย่างไรก็ตามตนไม่อยากเข้าไปเกี่ยวข้อง เกรงจะถูกกล่าวหาว่าเข้าไปยุ่งเยี่ยวกับทางการเมือง จึงจะอยากให้ความช่วยเหลือเงียบๆ ไม่อยากให้เป็นข่าว โดยวันที่ 22 ธค.นี้ เวลา 10.00 น.ตนจะเดินทางไปเยี่ยมนายราเมศ ด้วยตนเอง
กำลังโหลดความคิดเห็น