รมว.กลาโหม เผยคำสั่งปลด หน.ปชป.ออกราชการทหารมีผลแล้ว ทำเปรียบเทียบเป็นคนขี้ขโมย อ้างเอาคืนแต่ไม่เอาเรื่อง ท้าเป็นลูกผู้ชายจริงมาพิสูจน์ที่ไหนก็ได้ ออกทีวีก็ได้ เหน็บ ปชป.คว่ำประชามติเป็นพวกขี้เท่อ อ้างทำตามที่หาเสียง โวจะได้ประชาธิปไตยเต็มใบ ออกตัวป้องไม่ได้แก่พวกทักษิณ เหน็บซ้ำพวกตาแคบ เอารูปทักษิณแปะหน้าบ้านคงโดดหนี
วันนี้ (20 ธ.ค.) พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รัฐมนตรีว่าก่รกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงความคืบหน้าในการดำเนินคดีใช้เอกสารอันเป็นเท็จสมัครเข้ารับราชการทหาร และการถอดยศ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ว่า เราได้ค้นพบว่าเขาได้เอกสารไม่ถูกต้องในการสมัครเข้ารับราชการทหาร เมื่อพบว่ากระทรวงกลาโหม กองทัพสูญเสีย สิ่งที่เขาเอายศไปเราก็เรียกคืน แต่กระทรวงกลาโหมไม่เคยลงโทษอะไร เพียงแต่จะเอาสิ่งที่กองทัพ กระทรวงกลาโหมเสียหายกลับคืนมาเท่านั้นเอง ไม่ได้ทำอะไรเลย เป็นสิ่งที่ตนต่อสู้ด้วยความถูกต้อง
ทั้งนี้ เรื่องนี้หากเปรียบเทียบ คือ สิ่งของที่คุณเอาไปไม่ถูกต้อง ตนขอเอาคืนตนผิดหรือ อย่างไรก็ตาม ในเรื่องนี้ที่นายอภิสิทธิ์จะฟ้องร้องต่อศาลก็ฟ้องกันไป แต่วิธีการต่อสู้ของกระทรวงกลาโหม คือ ตอนนี้เราปลดเขาออกแล้ว ส่วนที่มีเอฟเฟกต์ (Effect) การเมือง เป็นเรื่องของทางการเมือง กระทรวงกลาโหมไม่เกี่ยว เป็นเรื่องของการเมือง เรื่องของสภา ก็ว่ากันไป ตนไม่ได้อยู่ในสภา ก็ทำเพียงเท่านี้ ส่วนจะทำอะไรต่อไปก็ดูจังหวะจะโคน
“เรื่องนี้เปรียบเสมือนผมถูกขโมยสร้อยไป เมื่อ 20 ปีผ่านไป พบว่าสร้อยผมอยู่ที่นี่ ผมไปเอาคืน แต่ไม่เอาเรื่องขโมย ผมผิดหรือ นี่คือเรื่องจริง สาเหตุคืออะไร อยู่ตรงนี้ ก็พิสูจน์ว่าท่านใช้เอกสารจริงหรือไม่ เอาเอกสารเท็จเข้ามารับราชการจริงหรือไม่ นี่คือสาเหตุหลัก ถ้าท่านทำถูกผมจะไปปลดได้ยังไง นี้เป็นการดำเนินการของราชการ อย่างกรณีที่มีบางคนใช้วุฒิปลอมเข้ามา กว่าจะรู้ก็ร้อยเอกแล้ว ถามว่าแล้วเราปลดได้ไม่ ก็ได้ เป็นสิ่งที่เราต้องทำให้ถูกต้อง” พล.อ.อ.สุกำพลระบุ
พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ตนต้องการความยุติธรรม แฟร์ๆ กระทรวงกลาโหม มีหลักฐานที่เขาไม่มีความบริสุทธิ์ก็แค่นั้นเอง นายอภิสิทธิ์เป็นลูกผู้ชายหรือไม่ขอให้มาพิสูจน์กัน ตนไม่ได้ลงโทษ ไม่ได้ขังเขาเลย และรู้ว่าหมดอายุความ แต่ตนจะเอาของที่คุณขโมยไปคืนผิดหรือ ใครไม่กล้าทำ ตนทำเอง
เมื่อถามว่าในเรื่องนี้ควรทำให้ประชาชนมีความเข้าใจหรือไม่ เพราะทางนายอภิสิทธิ์ ก็แย้งตลอดเวลา พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ประชาชนทราบดี คงไม่ไปโฆษณามากมาย ทุกอย่างบอกไปแล้วชัดเจน แค่อยากถามนายอภิสิทธิ์ ว่าเป็นลูกผู้ชายหรือเปล่า หรือความเป็นลูกผู้ชายเหลือน้อย ไปถามเขาบ้างสิ ส่วนที่นายอภิสิทธิ์ประกาศพร้อมจะพิสูจน์ พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ก็มา ที่ไหนก็ได้ ในทีวีก็ได้ ตอนที่นายอภิสิทธิ์ บอกว่าเอกสาร สด.9 ทางราชการออกให้เอง ใบที่ 2 แต่ไม่รู้ออกมาอย่างนี้ ตนถามว่าแล้วใครได้ประโยชน์จาก สด.ใบนี้ สัสดีได้ประโยชน์หรือเปล่า แต่ท่านเป็นผู้ได้ประโยชน์คนเดียว มันชัดเจน
“ตอนนี้เรื่องในส่วนกระทรวงกลาโหม ที่ดำเนินการต่อนายอภิสิทธิ์จบไปแล้ว ผมได้ปลดนายอภิสิทธิ์แล้ว คำสั่งปลดของผมมีผลอยู่ และได้เป็นผลแล้ว คือถอนคำสั่งการรับราชการทหาร แต่ยศยังไม่ได้ปลด คือถอนคำสั่งการบรรจุออกมาแล้ว ผลตามมาคือต้องถอดยศ แต่เมื่อนายอภิสิทธิ์ไปฟ้องร้องต่อศาล และมีคำสั่งชะลอไว้ก่อน เราก็ให้เกียรติศาล และดูจังหวะแล้วค่อยทำต่อ เรื่องนี้มีผลชัดเจนในส่วนของกระทรวงกลาโหม อย่างไรก็ตาม เรื่องการเมืองที่จะถอดถอนนายอภิสิทธิ์ ที่ถือว่าขาดคุณสมบัติการเป็น ส.ส. ก็เป็นเรื่องทางการเมืองว่ากันไป” พล.อ.อ.สุกำพลระบุ
พล.อ.อ.สุกำพลยังให้สัมภาษณ์ถึงการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ ว่า ในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) สัปดาห์ที่ผ่านมามีการหารือในเรื่องการทำประชามติ ซึ่งเราต้องให้ชาวบ้านเข้าใจก่อน และตามที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) บอกจะต้องให้มีผู้มาใช้สิทธ์อย่างน้อยครึ่งหนึ่งของผู้ที่มาออกเสียงคือประมาณ 25 ล้านคน ส่วนจะชนะหรือแพ้เป็นเรื่องของจำนวนที่มาออกเสียง ส่วนที่พรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) เรียกร้องให้ประชาชนคว่ำประชามตินั้น ตนคิดว่าในเรื่องประชามติเขาให้มามองว่าเห็นด้วยหรือไม่เห็นด้วย ไม่ได้บอกว่าไม่ควรมาลงและไม่อยากให้มา ซึ่งทำไม่ถูกหรอก
“หลายองค์กรให้ความเห็นแล้วว่าจะคว่ำประชามตินั้นไม่ถูกต้อง การพูดเอามันแบบนี้ไม่ถูกต้องหรอก เป็นถึงระดับนั้นแล้วพูดแบบนี้ขี้เท่อ พูดให้คว่ำประชามติแบบนี้ไม่น่าพูดหรอกมันไม่ถูกต้อง” พล.อ.อ.สุกำพลกล่าว
ระบุเมื่อถามถึงโอการสการแก้ไขรัฐธรรมนูญในวาระ 3 จะเกิดขึ้นหรือไม่ พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ในส่วนตัวมองว่า ต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะรัฐธรรมนูญเกิดขึ้นและไม่เรียบร้อยอย่างไรก็รู้กันอยู่ จะเพิกเฉยไม่แก้ได้อย่างไร อีกทั้งการแก้ไขรัฐธรรมนูญเป็นเงื่อนไขที่รัฐบาลใช้หาเสียงไว้ตั้งแต่ต้อนเลือกต้อง ซึ่งที่ผ่านมาพรรคร่วมรัฐบาลก็เห็นด้วยต่อการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ดังนั้น การดำเนินการเรามีแนวร่วมพอสมควรโดยมีเหตุมีผลอยู่ชัดเจน
“ผมเชื่อว่าหากแก้รัฐธรรมนูญไปแล้ว จะทำให้ทุกอย่างในประเทศไทยเป็นประชาธิปไตยที่เต็มใบมากขึ้น และดีขึ้นแน่นอน องค์กรต่างๆ ที่ไม่ได้เรื่องได้ราวไม่ได้มาจากประชาธิปไตยแท้ๆ จะได้หมดไป แบบนี้ถามว่าจะไม่ดีได้อย่างไร เมื่อเอาหนองออกต้องดีขึ้นไม่ต้องกลัว คนที่ไม่อยากให้แก้รัฐธรรมนูญต้องมีอะไรแน่นอน อาจไม่ชอบประชาธิปไตยที่เต็มใบ” พล.อ.อ.สุกำพลระบุ
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านระบุการแก้รัฐธรรมนูญเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี พล.อ.อ.สุกำพลกล่าวว่า ไม่มีใครแก้รัฐธรรมนูญเพื่อคนคนเดียว แต่เป็นเรื่องของผลประโยชน์ส่วนรวม มองว่าเพื่อคนคนเดียวแบบนี้ตาแคบ คนพวกนี้มองและผูกพันอยู่คนเดียว ตนว่าเอารูป พ.ต.ท.ทักษิณไปแปะหน้าบ้านก็คงกระโดดหนีหมด