รองหัวหน้าประชาธิปัตย์ ชี้การถอดยศ “อภิสิทธิ์” ยังไม่สิ้นสุด นำมาเป็นข้ออ้างฟันคุณสมบัติ ส.ส.ไม่ได้ มั่นใจ “สุกำพล” เล่นเกมการเมือง ชี้คนละกรณีกับ “เสถียร” ชูต้องสู้กันอีก 3 ยก ยันชื่อแนบท้ายญัตติซักฟอกไม่เปลี่ยน ไม่กล้วปัญหาโผล่ เชื่อโดนรัฐตีรวนแน่ พร้อมปรับกลยุทธ์สู้ เย้ย รบ.เหมือนผีกลัวใบหนาด
วันนี้ (13 พ.ย.) ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายถาวร เสนเนียม รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และทีมกฏหมายพรรค กล่าวถึงคำสั่งกระทรวงกลาโหมถอดยศร้อยตรีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ว่ากระบวนการถอดยศดังกล่าวโดย รมว.กลาโหมยังไม่ถึงที่สุด จึงไม่สามารถนำมาเป็นข้ออ้างเพื่อที่จะดำเนินการให้นายอภิสิทธิ์ขาดคุณสมบัติความเป็น ส.ส.ได้ เพราะ 1. พ.ร.บ.รับราชการทหาร ไม่สามารถนำไปบังคับใช้กับบุคคลที่ออกจากราชการทหารมาแล้ว 30 ปีได้ ประการที่ 2 การที่นายอภิสิทธิ์ ใช้อำนาจในการร้องศาลปกครอง และจะยื่นเรื่องให้คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) สอบการกระทำของ พล.อ.อ.สุกำพล สุวรรณทัต รมว.กลาโหม กับพวกที่มีการกระทำที่มิชอบ ดังนั้นการชี้ว่าคุณสมบัติของนายอภิสิทธิ์ขาดหรือไม่จึงยังไม่ยุติ และยังอยู่ในขั้นการต่อสู้ ซึ่งตนมั่นใจว่าสิ่งที่ พล.อ.อ.สุกำพล ดำเนินการนั้นเป็นเกมการเมือง ดังนั้นใครก็แล้วแต่ อาจเป็น ส.ว.ที่ยื่นเรื่องให้ คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตรวจสอบคุณสมบัติความเป็น ส.ส.ของนายอภิสิทธิ์ กกต.ต้องลงรายละเอียดของความมีอยู่จริงของอำนาจ พล.อ.อ.สุกำพลหรือไม่ และ 3. เมื่อองค์กรใดก็แล้วแต่ รับไปตรวจสอบคุณสมบัติ ก็ต้องไปยุติที่ศาลรัฐธรรมนูญ ดังนั้นกระบวนการต่อสู้ยังเหลืออีกหลายขั้นตอน
เมื่อถามว่าจะเคียบเคียงกับกรณีที่ พล.อ.เสถียร เพิ่มทองอินทร์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ร้องต่อศาลปกครองเพื่อระงับคำสั่งช่วยราชการ แต่ศาลปกครองไม่รับคำร้อง เพราะพ.ร.บ.จัดตั้งศาลปกครองและวิธีพิจารณาคดีปกครอง พ.ศ. 2542 ไม่มีอำนาจรับเรื่องเกี่ยวกับทหารได้หรือไม่ นายถาวรกล่าวว่า กรณี พล.อ.เสถียรในขณะนั้นรับราชการเป็นทหารประจำการ ซึ่งตาม พ.ร.บ.วินัยทหารเปิดโอกาสให้ร้องทุกข์ แต่ไม่เปิดโอกาสให้อุทธรณ์ ศาลปกครองจึงไม่รับคำร้อง แต่กรณีของนายอภิสิทธิ์ไม่ได้รับราชการทหารแล้ว ดังนั้นตนจึงมั่นใจว่านายอภิสิทธิ์ยังไม่ขาดคุณสมบัติ
“เรื่องนี้ต้องสู้กันอีก 3 ยก คือ ศาลปกครอง, กกต. และมาสิ้นสุดที่ศาลรัฐธรรมนูญ ยืนยันว่าชื่อแนบท้ายญัตติอภิปรายไม่ไว้วางใจจะไม่มีการเปลี่ยน และไม่กลัวที่จะมีปัญหาตามมาแน่ เพราะพรรคได้วิเคราะห์กันแล้ว และจะรวบรวมรายชื่อและยกร่างยื่นต่อ ป.ป.ช.ในสัปดาห์นี้ ยืนยันว่าเรื่องดังกล่าวจะไม่เป็นปัญหาในการอภิปรายไม่ไว้วางใจครั้งนี้ นอกจากจะมีแค่การตีรวน ส่วนการเตรียมรับมือโดยจะชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ และแก้เกมในกรณี น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่อยากเข้าชี้แจงในการถูกอภิปราย คาดว่าทางรัฐบาลจะนำเรื่องนี้ขึ้นมาตีรวนฝ่ายค้านครึ่งวันเป็นอย่างน้อย ซึ่งต้องช่วยกันชี้แจงและทำความเข้าใจ ซึ่งหากมีถ่ายทอดสดก็จะทำให้ประชาชนเห็นว่าฝ่ายไหนตีรวนฝ่ายไหนตรวจสอบ แต่ก็มีความเป็นห่วงในส่วนของ ส.ส.ที่หน้าด้าน รับใช้โดยที่เห็นแก่เงิน สำหรับกลยุทธในการอภิปรายจะเป็นการตัดสินใจตามสถานการณ์ ซึ่งต้องปรับกลยุทธ์ตลอดทั้ง 3 วัน เพราะเป็นการสู้กับคนที่เล่นเกมโดยที่ไม่คำนึงถึงระบบรัฐสภา ส่วนการตั้งวอร์รูมนั้นหากเป็นวอร์รูมที่ตั้งมาเพื่อกลั่นแกล้ง หรือถ่วงเวลาในการตรวจสอบประชาชนก็จะได้เห็น” นายถาวรกล่าว
เมื่อถามว่าพรรคประชาธิปัตย์ได้เตรียมวอร์รูมรับมือหรือไม่ นายถาวรกล่าวว่า ต้องมีคนช่วยคิด ซึ่งเป็นคณะทำงานตามปรกติ และคิดว่ามีคณะเดียวก็พอแล้ว
“การตั้งวอร์รูมของรัฐบาลเป็นเพราะการทุจริตการทำผิดกฎหมายก็จะเหมือนผี และเมื่อใบหนาดและขันน้ำมนต์เข้าใกล้ก็กลัว ซึ่งตอนนี้รัฐบาลก็เหมือนผีที่กลัวใบหนาด” นายถาวรกล่าว
