รองนายกฯ เชื่อ “เสธ.อ้าย” คงไม่ก่อม็อบกระทบผู้อื่น โอ่รัฐไม่มีเรื่องทุจริต ชูชาติไปได้ดีมีคนมาขอลงทุนสูง ขออย่าบุกสภา ไม่กล้าประเมินถึงล้านหรือไม่ เย้ยฝ่ายค้านตรวจสอบไร้หลักฐาน หยันเห็นญัตติซักฟอกสุดอนาถ งงปูดโกงจำนำข้าวแต่ไม่ยื่นอภิปราย เผยมีทุนก๊วนรัฐประหารหนุนม็อบ ไม่ตอบ กห.ถอดยศ “มาร์ค”
วันนี้ (12 พ.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล เมื่อเวลา 08.40 น. ร.ต.อ.เฉลิม อยู่บำรุง รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามในวันที่ 24-25 พ.ย.ว่า การใช้สิทธิในระบอบประชาธิปไตยเป็นเรื่องที่ทำได้และก็ควรสนับสนุน เพราะประเทศไทยเป็นประเทศประชาธิปไตย แต่ถ้าการใช้สิทธิไปกระทบสิทธิของผู้อื่นซึ่งไม่เป็นไปตามระบอบประชาธิปไตยตนคิดว่าม็อบก็คงไม่ทำ เพราะพล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ ประธานองค์การพิทักษ์สยาม ก็เป็นอดีตนายทหารชั้นผู้ใหญ่ก็ต้องรักบ้านรักเมืองไม่น้อยกว่าคนอื่นเช่นเดียวกัน ขณะเดียวกัน บ้านเมืองเรากำลังเดินหน้าไปด้วยดี ต่างชาติเองก็เชื่อถือและเชื่อมั่นรัฐบาลโดยเฉพาะนายกรัฐมนตรี ไปดูที่คณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) ได้ คนมาขอลงทุนมากที่สุดตั้งแต่มีรัฐบาลมา และก็เห็นชัดว่าที่ฝ่ายค้านโหมโรงมาครึ่งปี อย่างโครงการรับจำนำข้าวที่ตนเป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบซึ่งก็มีผิดบ้างแต่ก็จับไป 39 คดี ส่วนเรื่องทุจริตไม่มี ขณะที่ฝ่ายค้านเองก็บอกว่าเข้าหลักประหารแน่แต่เอาเข้าจริงเป็นอย่างไร อย่างนี้ต้องไม่ไว้วางใจฝ่ายค้าน ด่ารัฐบาลมาฟรีครึ่งปี ด้านม็อบเองก็เห็นแล้ว แม้กระทั่งฝ่ายค้านที่เป็นฝ่ายตรวจสอบก็ไม่มีหลักฐานอะไรเลย
“ผมเชื่อว่าผู้ชุมนุมเคารพกติกา และผมจะบอกเจ้าหน้าที่ตำรวจอย่าใช้ความรุนแรงเด็ดขาด แต่ให้ใช้หลักสากล และผมแนะนำไปแล้วว่าให้เชิญตัวแทนคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตัวแทนคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ตัวแทนผู้ตรวจการแผ่นดิน ตัวแทนคณะกรรมการสิทธิมนุษยชน และตัวแทนสำนักงานอัยการสูงสุดมาร่วมสังเกตการณ์ในกรณีที่เจ้าหน้าที่ตำรวจดูแลการชุมนุม เพราะเราเปิดเผยเพื่อให้รู้ว่าเราดำเนินการอย่างไร” ร.ต.อ.เฉลิมกล่าว
ผู้สื่อข่าวถามว่าได้มีการประเมินหรือไม่ เพราะมีกระแสว่าการชุมนุมขององค์การพิทักษ์สยามอาจจะเลยไปถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ตนคิดว่าผู้ชุมนุมก็อยากฟังการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ถ้าไปทำอะไรต่อมิอะไรให้เข้าสภาไม่ได้ ฝ่ายค้านก็เสียเปรียบไม่ได้อภิปราย ซึ่งอย่าทำอย่างนั้นเลยไม่ดี มีอะไรก็มายื่นหนังสือกัน และเห็นหรือไม่ผู้มาร่วมชุมนุมเหตุการณ์ที่ผ่านมามีคดีความติดตัวกันเยอะแยะ โดยตนไม่เห็นด้วยและไม่นิยมความรุนแรง เมื่อถามว่า มีการเกณฑ์คนกันมาถึง 1 ล้านคน ประเมินว่าจะถึงหรือไม่ ร.ต.อ.เฉลิมกล่าวว่า ประเมินยาก ส่วนจะถึงหรือไม่นั้นขอไม่แสดงความคิดเห็นเพราะอาจผิดพลาด
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านยืนยันว่ามีหลักฐานหนักแน่นที่จะอภิปรายไม่ไว้วางใจ รองนายกฯ กล่าวว่า หลักฐานอะไร ตนอ่านญัตติแล้วอเนจอนาถ ใช้ความรู้สึกเขียน เช่น โคตรโกง โกงทั้งแผ่น โคตรแพง ซึ่งภาษาเอกสารจะไม่เขียนอย่างนี้กัน แต่จะเขียนแบบใช้ภาษาให้เรียบร้อย ส่วนการอภิปรายนั้นใช้คำพูดได้ เมื่อถามย้ำว่า ไม่กังวลถึงการอภิปรายในครั้งนี้ใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่มีทาง ตนประเมินตั้งแต่ต้นแล้วว่าสุดท้ายฝ่ายค้านไม่มีอะไร และก็ไม่มีจริงๆ อย่างเรื่องจำนำข้าวออกมากัดฟันว่าจะเอาตายแน่ เข้าคิลลิ่งโซนแน่ มีคุณหมอหลายคนมาออกมาพูด อยากถามว่าแล้วทำไมไม่ยื่น
เมื่อถามถึงกรณีที่ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง แกนนำกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย อนุญาตให้พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยมาร่วมชุมนุมกับกลุ่มขององค์การพิทักษ์สยามได้จะทำให้มีความหนักแน่นขึ้นหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ไม่มีความเห็น เพราะเป็นสิทธิ แต่ทั้งนี้ก็ไม่ได้ประมาทเพราะทำงานรอบคอบ และตนก็ประชุมอยู่เสมอ ทั้งนี้ เรื่องชุมนุมนั้นทำได้ แต่เราก็ต้องดูแลให้เรียบร้อย ไม่ได้มองม็อบเป็นศัตรู ซึ่งก็ต้องติดตามกันต่อไป และยืนยันว่าตนไม่นิยมความรุนแรง
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่มีทุนใหญ่หนุนม็อบของ พล.อ.บุญเลิศ รองนายกฯ กล่าวว่า ก้ำกึ่ง ซึ่งจากสายข่าวน่าจะเป็นกลุ่มทุนเล็กๆ บ้าง ใหญ่ๆ บ้าง โดยเป็นทรงเดียวกับ 19 ก.ย. 49 แต่ตอนนี้เขารู้แล้วว่าตนและเจ้าหน้าที่ทราบแล้ว
เมื่อถามว่า กรณีที่นายกฯ เรียกประชุมรัฐมนตรีที่มีรายชื่อถูกอภิปรายไม่ไว้วางใจเมื่อวันเสาร์ที่ 10 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้ฝากฝังอะไรหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า “ไม่มีหรอก ท่านเก่ง”
ทั้งนี้ รองนายกรัฐมนตรีปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์กรณีที่พรรคประชาธิปัตย์จะไปยื่นศาลปกครองหลังจากกระทรวงกลาโหมมีคำสั่งถอดยศร้อยตรีของนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ว่า ตนไม่มีความรู้ เพราะตนเป็นตำรวจ ไม่ทราบเรื่องทหาร