โฆษก พท.ปัดพรรคตั้งองครักษ์ป้อง “ปู” โวผ่านซักฟอกฉลุย ยันคำสั่งถอดยศ “อภิสิทธิ์” ถูก กม. ชี้ยื่นศาล ปค.แค่ยื้อเวลา ลุยชงผู้ตรวจฯ-ป.ป.ช.ฟันคุณสมบัติต่อ ซัดไม่เหมาะถูกเสนอนั่งนายกฯ สะกิดแก๊งแดงต้านม็อบ “เสธ.อ้าย” ผุดไอเดียเปิดไฟหน้าขู่-โยง รบ.มาร์คเอื้อพวกพ้องทำสร้างสนามฟุตซอลช้า เหตุไม่ชำนาญ พร้อมยื่นหลักฐานฟัน กทม. อ้างทำประเทศเสียชื่อ
วันนี้ (11 พ.ย.) นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการอภิปรายไม่ไว้วางใจว่า นายกรัฐมนตรี และคณะรัฐมนตรีจะสามารถชี้แจงได้ไม่มีปัญหา โดยในวันที่ 12 พ.ย. พรรคจะหารือกับรัฐมนตรีที่ถูกยื่นอภิปรายไม่ไว้วางใจเพื่อเตรียมความพร้อมชี้แจง เพื่อให้ฝ่ายค้านตรวจสอบอย่างเต็มที่ ทั้งนี้ ยืนยันว่าไม่มีการตั้งองครักษ์พิทักษ์นายกฯ แน่นอน และใช้โอกาสนี้ชี้แจงผลการทำงานของรัฐบาลใน 1 ปีที่ผ่านมาต่อประชาชนในคราวเดียวกัน
ส่วนกรณีที่โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวหาว่าพรรคเพื่อไทยใช้ประเด็นการถอดยศนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ มาสกัดการอภิปรายนั้นไม่เป็นความจริง ยืนยันว่าการตรวจสอบดังกล่าวเป็นเรื่องของคณะกรรมการกระทรวงกลาโหม ไม่มีทหารยศนายพลและรัฐมนตรีเข้ามาเกี่ยวข้อง และคำสั่งปลดดังกล่าวชอบด้วยกฎหมาย ไม่มีเกมการเมือง ส่วนการยื่นร้องต่อศาลปกครองของนายอภิสิทธิ์นั้นเชื่อว่าเป็นการยื้อเวลา ทั้งนี้ นายพร้อมพงศ์เห็นว่านายอภิสิทธิ์ควรที่จะพิจารณาตัวเอง และเรียกร้องให้นำหนังสือแสดงการผ่อนผันเข้ารับการเกณฑ์ทหารมาเปิดเผย พร้อมถามไปยังนายอภิสิทธิ์ว่าไม่อายเด็ก ร.ด.หรืออย่างไร โดยตนขอเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์ทบทวนบทบาทของนายอภิสิทธิ์ และตรวจสอบพวกเดียวกันเองก่อนที่จะแนบชื่อนายอภิสิทธิ์เป็นนายกรัฐมนตรี ทั้งนี้ ตนจะรวบรวมเอกสารให้ผู้ตรวจการแผ่นดินตรวจสอบจริยธรรม และให้ ส.ส.ของพรรคเข้าชื่อเพื่อยื่นต่อศาลรัฐธรรมนูญตีความคุณสมบัติของนายอภิสิทธิ์ต่อไป อีกทั้งจะยื่นต่อ กกต.ตรวจสอบว่านายอภิสิทธิ์จะมีคุณสมบัติที่สามารถถูกเสนอชื่อให้เป็นนายกรัฐมนตรีได้หรือไม่
นอกจากนี้ โฆษกพรรคเพื่อไทยยังกล่าวถึงการชุมนุมของกลุ่มองค์การพิทักษ์สยาม ที่นำโดย พล.อ.บุญเลิศ แก้วประสิทธิ์ หรือ เสธ.อ้าย ที่จะมีการชุมนุมกันในวันที่ 24 พ.ย.นี้ ไม่เชื่อว่าจะเป็นการชุมนุม 1-2 วันเพราะมีเป้าหมายในการล้มล้างรัฐบาลและแช่แข็งประเทศ 5 ปี ไม่ใช่การชุมนุมตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ เข้าข่ายระบบเผด็จการไม่เอานักการเมืองมาปกครองประเทศ จึงเรียกร้องให้ประชาชนที่ไม่เห็นด้วยกับการชุมนุมออกมาแสดงความคิดเห็นต่อต้านในทุกช่องทาง และเปิดไฟหน้ารถทุกประเภทในวันชุมนุม ทั้งนี้ขอให้ผู้ที่จะเข้าร่วมชุมนุมคิดให้รอบคอบ และอย่าตกเป็นเครื่องมือทางการเมือง
นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวถึงการตรวจสอบสนามบางกอกฟุตซอลอารีนา หนอกจอก ของกรุงเทพมหานคร ว่าคณะทำงานพรรคเพื่อไทยพบว่ามีเงื่อนงำในหลายประเด็นรวมถึงมติคณะรัฐมนตรีในยุคของนายอภิสิทธิ์ที่น่าเชื่อได้ว่าเป็นการดำเนินงานที่ผิดวัตถุประสงค์ และอ้างว่ากรุงเทพมหานครเอื้อประโยชน์ให้พวกพ้องตัวเอง และให้บริษัทที่ไม่มีความชำนาญดำเนินการก่อสร้าง โดยคณะทำงานได้รวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อเข้ายื่นต่อสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดินในวันพรุ่งนี้ (12 พ.ย.) เพื่อเอาผิดผู้บริหาร กทม. และในวันพุธที่ 14 พ.ย.จะยื่นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. ตรวจสอบการดำเนินงานโดยมิชอบต่อไป เนื่องจากเห็นว่าเรื่องดังกล่าวทำให้ภาพลักษณ์ของประเทศเสียหายในสายตาโลก